http://www.manager.c...D=9570000046999
พิษการเมืองฉุดดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตฯ มี.ค.ดิ่งสุดในรอบ 57 เดือน
ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค. 57 อยู่ที่ 84.7 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเดือน ก.พ. และเป็นค่าดัชนีฯ ที่ต่ำสุดในรอบ 57 เดือน เหตุปัจจัยการเมืองทำให้ภาคธุรกิจขาดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการบริโภคในประเทศที่ชะลอตัวฉุดยอดขายวูบ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยเดือนมีนาคม 57 จากการสำรวจความเห็นของผู้ประกอบการจำนวน 1,107 ราย ครอบคลุม 42 กลุ่มอุตสาหกรรม พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตฯ มี.ค.อยู่ที่ระดับ 84.7 ปรับตัวลดลงจากระดับ 85.7 ในเดือน ก.พ. และยังเป็นค่าดัชนีฯ ที่ต่ำสุดในรอบ 57 เดือนนับตั้งแต่ ก.ค. 52 ซึ่งค่าดัชนีฯ ลดลงมาจากองค์ประกอบสำคัญคือคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขาย การผลิต และผลประกอบการของเอกชนไม่ดีนัก ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยการเมืองทำให้การบริโภคในประเทศชะลอตัว
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 99.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 98.4 ในเดือน ก.พ. เนื่องจากมองว่ายอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ยอดผลิต ต้นทุนและผลประกอบการจะดีขึ้นเนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวทำให้ความกังวลต่อปัจจัยดังกล่าวลดลงเช่นเดียวกับราคาน้ำมัน ขณะที่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการในอีก 3 เดือนข้างหน้าที่กังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ ปัจจัยการเมืองและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท
สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐ ได้แก่ ต้องการเร่งให้แก้ไขปัญหาการเมืองโดยเร็ว โดยใช้สันติวิธี ขณะเดียวกันต้องการให้รัฐหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ มีการเร่งเจรจาการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าสำคัญเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน ช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ในการลดต้นทุน เป็นต้น
*********************************************************************
http://www.manager.c...D=9570000047042
ไร้รถคันแรก-แรงซื้อดิ่งฉุดยอดขายรถยนต์ มี.ค.ลดลง 46.7%
โครงการรถคันแรกหมดฤทธิ์ แถมแรงซื้อคนไทยวูบจากปัญหาการเมืองฉุดยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน มี.ค.ลดลง 46.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายองอาจ พงศ์กิจวรสิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน มี.ค. 57 มีจำนวนทั้งสิ้น 83,983 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 46.7% ขณะที่ยอดขายในประเทศไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค. 57) มียอดขาย 224,171 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 45.8% ซึ่งสาเหตุมาจากหมดโครงการรถยนต์คันแรกและกำลังซื้อของประชาชนที่ลดต่ำลงจากปัจจัยการเมืองในประเทศ
สำหรับการผลิตรถยนต์ไตรมาสแรกปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 517,492 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 28.28% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อการจำหน่ายในประเทศ 229,697 คัน หรือคิดเป็น 44.39% ของการผลิตทั้งหมด ขณะที่การผลิตเพื่อการส่งออกไตรมาสแรก 287,795 คันคิดเป็น 55.61% ของยอดการผลิตทั้งหมด โดยคาดว่าการผลิตรถยนต์ในไตรมาสที่ 2 จะมีจำนวน 499,900 คัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลง 3.4%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการผลิตและจำหน่ายรถยนต์จะลดลงแต่ยังคงเป้าหมายการผลิตทั้งปีที่ระดับ 2.45 ล้านคัน เนื่องจากจะขอดูทิศทางการจำหน่ายและการส่งออกโดยรวมในช่วงไตรมาส 2 หรือครึ่งปีแรกก่อนเพราะปกติยอดการจำหน่ายรถยนต์จะดีในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ในส่วนของยอดจำหน่ายในประเทศที่เดิมวางเป้าหมายไว้ 1.2 ล้านคันนั้นยอมรับว่าคงจะต่ำกว่าเป้าที่วางไว้
“รถยนต์ขณะนี้ยอมรับว่าคงจะต้องมองไปที่การส่งออกที่เพิ่มขึ้น และเดือน มี.ค.ถือว่าการส่งออกรถยนต์ได้ถึง 113,313 ล้านคันเป็นอีกเดือนหนึ่งที่ยอดส่งออกเกินหนึ่งแสนคันและสูงสุดในรอบหกเดือน” นายองอาจกล่าว
************************************************************************************
ผมสงสัยมากว่าดับหัวกะทิของวงการค้า ทำไมถึงกล้าฟันธงว่าเป็นเพราะปัจจัยการเมืองทำให้คนไทย "หยุดซื้อของ"???
ขณะที่แบงก์ชาติออกมาพูดเสมอว่าเพราะหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงมากทำให้คนไทยชะลอการจับจ่าย
ทำไมวงการค้าถึงไม่วิเคราะห์ว่าเพราะค่าครองชีพมันพุ่งสูงลิ่ว แต่เงินในกระเป๋าเท่าเดิม ทำให้คนซื้อของได้ไม่เต็มที่ เงินฝืดเคือง?
เอะอะโทษการเมืองอย่างเดียวเลย
ผมไม่เชื่อครับว่าเพราะปัญหาการเมืองทำให้คนไทยหยุดกิน หยุดเที่ยว หยุดซื้อของ
ผมว่ามันไม่เกี่ยวกันเลยง่ะ!
เพื่อนๆว่ายังไงครับ
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 28 เมษายน พ.ศ. 2557 - 15:14.