หลินปิงมีส่วนสำคัญที่ทำให้สวนสัตว์เชียงใหม่มีกำไรจากการที่ขาดทุนมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่ในปี 2552 ที่หลินปิงเกิด มันก็สามารถทำกำไรให้กับองค์การสวนสัตว์ฯ โดยรวมที่มีอยู่ 5 แห่งให้ได้กำไรมากถึง 50 ล้านบาท โดยกำไรมาจากรายได้สวนสัตว์เชียงใหม่ถึง 122 ล้านบาท!
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาเพียงแต่ 7 เดือนแรกหลังจากที่หลินปิงเกิด มันสร้างรายได้ให้กับสวนสัตว์กว่า 86 ล้านบาท มีคนเข้าเที่ยวที่สวนสัตว์เชียงใหม่กว่า 7 แสนคน!
เหล่านี้เป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างดีว่า หลินปิงนั้นไม่ได้มีความสำคัญแต่เพียงในเชิงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ยังสร้างกำไรอย่างดีอีกด้วย โดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แพนด้าหลินปิงยังคงเป็นที่ชื่นชอบของคนไทย แม้กระแสจะลดน้อยลงจากช่วงที่หลินปิงพึ่งเกิดใหม่ๆ แต่ก็ถือว่ายังคงสร้างกำไรให้กับสวนสัตว์เชียงใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
http://www.manager.c...D=9560000114244
ประเด็นคือ ถ้าต้องจ่ายค่าหมีอยู่ทุกปีแล้ว ทำไมต้องจ่ายค่าซากุระเพิ่มด้วยล่ะคะ? ถ้าต้นไม้ท้องถิ่นมันถูกกว่า
งบหลวง มันก็คือภาษีประชาชนทุกคน เงินเรา เงินคุณ เงินคนอื่นๆ อีก เป็นข้าราชการที่ดีก็ต้องรู้จักประหยัดสิคะ
ดูหมีพอเข้าใจ แล้วซากุระ มันสร้างรายได้ยังไงวะครับ?
ลองหาความรู้ดูครับ
อย่ามางี่เง่าน่า ไหนๆ โพสมาแล้วก็รู้จักเขียนต่อให้มันดูมีรอยหยักในสมองหน่อย
จะอ้างว่า คนจะมาดู มาเที่ยวชมซากุระหลังดูหมีเสร็จ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวล่ะสิ?
ซากุระมันไม่ได้ออกดอกทั้งปีนะเฟ้ย
ต้นไม้น่ะ มันปลูกแล้วก็ดูแล
แล้วจะบอกให้ว่า ทางหลวง และ องค์กรปกครองบ้านเรา เป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง คือ ปลูกแล้วไม่ดูแล กับ ปลูกเพื่อขุดปลูกใหม่
ที่จะทำ มี 2 อย่าง คือ
1. ตัดๆ แต่งๆ กิ่งมันนิดหน่อย
2. ปลูกแล้วขุดทิ้ง ปลูกใหม่ ปลูกแม่มอยู่อย่างนั้น มันกะลังจะบานจะมีดอก แม่มก็ขุดทิ้ง ปลูกใหม่ เพื่อ "แดกงบ"
ไอ้ซากุระเนี่ย ปลูกได้ไม่นาน เดี๋ยวมีแห่งตายหมด ต่อให้ไม่แห้งตายหมด มันก็จะหางบซื้อ ขุดต้นเก่าทิ้ง ปลูกใหม่อยู่ดี
ปลูกต้นอะไรมันก็ทำแบบนี้หมด ดังนั้น ปลูกต้นที่มันราคาถูกๆ ไปเหอะ ยังไงไม่เกิน ปีสองปี แม่มขุดทิ้งอยู่แล้ว
โครงการประเดี๋ยวประด๋าวพรรค์เนี้ยะ โคตรขยันทำเลย
ว่างๆ ขับรถไปเที่ยว ดูต้นไม้ตามทางซะบ้าง