บทความของอาจารย์เสรี...
คิดเหนือกระแส: ออกมาสู้ด้วยเหตุด้วยผล…อย่าออกมาด้วยอารมณ์
4 พฤษภาคม 2014
รศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา
การต่อสู้ของมวลมหาประชาชนครั้งนี้อาจจะถูกกล่าวหาจากแกนนำ นปช.บ้าง แกนนำพรรคเพื่อไทยบ้าง นักวิชาการที่ขายวิญญาณเป็นขี้ข้ารับใช้ทักษิณบ้างว่า พวกที่ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลเป็นพวกที่ใช้อารมณ์ ซึ่งพวกเขาจะอ้างหลากหลายอารมณ์มากล่าวหา ซึ่งอาจจะถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่เชื่อว่าคนที่ออกมานั้น ไม่ได้ออกมาด้วยอารมณ์แต่เพียงอย่างเดียว แต่มีเหตุผลที่มาจากข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ ที่ทำให้ตัดสินใจได้ว่าจะปล่อยให้ประเทศเดินหน้าเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
ข้อกล่าวหาว่าผู้ชุมนุมออกมาขับไล่รัฐบาลนั้นมีหลากหลาย เช่น “คนพวกนี้ขี้แพ้ชวนตี แพ้แล้วไม่ยอมแพ้” หรือบางคนก็บอกว่า “พวกนี้ก้าวไม่ข้ามทักษิณ มีความเกลียดแค้นชิงชังทักษิณ ไม่รู้จักการให้อภัย” บางคนบอกว่า “คนพวกนี้เป็นคนขี้อิจฉา ไม่ว่าจะเป็นการอิจฉาทักษิณที่รวยกว่า อิจฉายิ่งลักษณ์ที่มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี” หรือผู้ชุมนุมบางคนก็จะถูกกล่าวหาว่า “เป็นพวกแมลงสาป เป็นสาวกของประชาธิปัตย์ที่หลงรักประชาธิปัตย์แบบไม่ลืมหูลืมตา” บางคนก็จะบอกว่า “เป็นพวกคนโง่ที่ปล่อยให้กำนันสุเทพจูงจมูก” คำกล่าวหาเหล่านี้ คำว่า “อิจฉา” คงไม่ใช่ “การเป็นสาวกประชาธิปัตย์” ก็ไม่ใช่อีกเหมือนกัน “ยอมให้กำนันสุเทพจูงจมูก” ยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย คนที่เขาออกมากันนั้น เขาเป็นกลุ่มคนที่สนใจบ้านเมือง ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด บางคนติดตามมาตลอด และมาสนใจเป็นพิเศษเมื่อเกิดปรากฏการณ์พันธมิตรฯ จนพวกเขารู้แจ้งเห็นจริงว่าทักษิณและสมุนบริวารนั้นชั่วร้ายแค่ไหน หากจะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องบ้างก็คงเป็นเรื่อง “เกลียดทักษิณและขี้ข้า” และอาจจะเป็นส่วนของอารมณ์ที่รุนแรงด้วย แต่เป็นความเกลียดชังที่มีเหตุผล ส่วนที่บอกว่า “ก้าวไม่ข้ามทักษิณ” นั้น น่าจะบอกว่าทักษิณไม่เคยเลิกที่จะ “ทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลอง” ทำลายโอกาสประเทศไทยมาเป็นทศวรรษแล้ว
สำหรับหลายท่านที่ยังรู้สึกลังเล และเกรงว่าจะถูกกล่าวหาว่าท่านเป็นคนที่ออกมาสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองด้วยการใช้อารมณ์ ขอให้ท่านลองพิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ ดังต่อไปนี้ แล้วท่านก็จะสามารถบอกกับตัวเองและบอกกับใครๆ ได้ว่า ท่านไม่ได้ออกมาไล่รัฐบาลทรราชนี้ด้วยอารมณ์แต่อย่างใด แต่ท่านมีเหตุผลอันชอบธรรมในการที่จะลุกขึ้นมาขับไล่รัฐบาลที่ชั่วช้าสารเลวและไร้ความสามารถในการจะบริหารประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าด้วยหลักธรรมาภิบาลและหลักนิติธรรม
การออกมาต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่อง “การเมือง” เพราะไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมืองต่อสู้กัน แต่เป็นเรื่อง “บ้านเมือง” เพราะเป็นเรื่องของประชาชนที่มีหัวใจรักชาติรักแผ่นดิน รักความถูกต้อง รักความยุติธรรม ยึดมั่นในหลักนิติธรรม ออกมาต่อสู้ขับไล่รัฐบาลทรราชที่ทำผิดกฎหมาย ทำขัดรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจเผด็จการในการกอบโกยโกงกิน เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม ไม่ยอมรับการตรวจสอบ
ประเทศไทยกำลังอยู่ภายใต้ระบอบทักษิณที่เป็นระบอบทุนนิยมสามานย์ โดยที่ทักษิณซึ่งเป็นนายทุน ร่ำรวยมหาศาล ใช้เงินซื้อนักการเมืองให้เป็นพวก สยบยอมที่จะทำตามคำสั่งของทักษิณเยี่ยงทาส ทำให้เกิดเผด็จการในรัฐสภา ทำลายความเป็นประชาธิปไตย ซื้อนักวิชาการให้ช่วยชี้นำสังคมให้ยอมรับรัฐบาลทักษิณ และบางคนก็ทำหน้าที่เป็นเนติบริกรที่คอยตีความกฎหมายเข้าข้างทักษิณ ซื้อข้าราชการทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ให้ทำหน้าที่เป็นทาสพายเรือให้โจรนั่ง ช่วยให้ทักษิณโกงกินประเทศชาติได้ นอกจากนั้นยังซื้อสื่อให้ทำหน้าที่อย่างไร้จรรยาบรรณ บิดเบือนข้อมูลให้เป็นประโยชน์กับทักษิณและให้ร้ายฝ่ายตรงกันข้าม
ระบอบทักษิณคือระบอบทุนนิยมสามานย์ที่ใช้เงินซื้อภาคส่วนต่างๆ มาเป็นพวก ทำให้สังคมไทยเป็นสังคมทาส คนที่สยบยอมเป็นทาสของทักษิณเท่านั้นที่จะอยู่เมืองไทยได้อย่างมีความสุข นักการเมืองต้องเป็นพวกของเขาจึงจะได้ตำแหน่ง นักวิชาการ ข้าราชการ จะต้องเป็นพวกของเขาจึงจะเจริญก้าวหน้า สื่อมวลชนต้องเป็นทาสรับใช้เขาจึงจะอยู่ได้ ส่วนคนที่คิดต่างจะอยู่ลำบาก โดนกลั่นแกล้งรังแก ข่มขู่คุกคาม จนหลายคนกลัว ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากตอแย เกรงว่าจะเดือดร้อน กลายเป็น “ไทยเฉย” ปล่อยให้ระบอบทักษิณทำร้ายประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยเป็นสังคมทาส ทำลายคุณค่าความเป็นเสรีชนของคนไทย
นายทุนที่ใช้เงินมหาศาลในการซื้อหลายภาคส่วนในประเทศไทยเพื่อยึดครองอำนาจแบบเบ็ดเสร็จไร้การตรวจสอบ ทำงานแบบเผด็จการเช่นนี้ ย่อมจะต้องถอนทุนคืน ด้วยการเข้ามาโกง มากอบโกย ใช้การคอร์รัปชันเชิงนโยบาย เปิดโอกาสให้ตนเองได้ครอบครองสมบัติของชาติ เอาคนของตนเองเข้าคุมนโยบายในรัฐวิสาหกิจเพื่อเปิดช่องทางให้มีโอกาสได้กอบโกยรายได้ที่ควรจะเป็นของชาติไปอย่างมหาศาล ทำตัวเหมือนเหลือบกัดกินงบประมาณและสมบัติของชาติ
แม้ทักษิณจะไม่อยู่ในประเทศ แต่อิทธิพลของทักษิณที่ได้มาเพราะทุนนิยมสามานย์นั้น ยังคงแผ่ไพศาลอยู่ในประเทศไทย โดยมีข้าทาสบริวารทั้งหลายนั้นทำตัวเป็นขี้ข้าทำตามคำสั่ง สนองความต้องการของทักษิณ ทั้งเรื่องการออกกฎหมาย การกำหนดนโยบาย และการตั้งโครงการต่างๆ ขึ้นมา เพื่อโอกาสในการโกงกิน และการสร้างคะแนนนิยมในกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสและขาดแคลน ใช้วาทกรรมต่างๆ ครอบงำผู้คนผ่านสื่อที่พวกเขาผูกขาด ไม่เปิดโอกาสให้คนคิดต่างได้พูด ทำให้คนไทยจำนวนหนึ่งกลายเป็นคนละโมบโลภมาก คิดถึงแต่ประโยชน์ของตนเอง ไม่คิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ กลายเป็นคนไร้จิตสาธารณะที่อาจจะกลายเป็นปัจจัยในการทำลายชาติได้
เหตุผลทั้งหมดนี้เป็นความจริงเชิงประจักษ์ที่เราสามารถนำมาใช้เป็นเหตุผลที่จะสร้างจิตอาสาและพลังใจในการที่จะออกมาร่วมกันต่อสู้ขับไล่คณะบุคคลที่กำลังอ้างตัวเป็นรัฐบาล ทั้งๆ ที่หมดความชอบธรรมทั้งทางการเมืองและทางกฎหมายไปตั้งนานแล้ว ถ้าหากใครไม่ออกมา บรรดาขี้ข้าของรัฐบาลทรราชจะตีขลุมว่าคนพวกนั้นเป็นพวกรัฐบาล เป็นคนที่ยอมรับรัฐบาล เห็นด้วยกับรัฐบาล ไม่เห็นด้วยกับมวลมหาประชาชนที่ออกมาขับไล่รัฐบาล เลือกเอาว่าท่านจะเลือกอยู่ข้างใด เวลานี้ไม่มีคำว่า “เป็นกลาง” อีกต่อไปแล้ว.
โดนทุกบรรทัด ? …
ไม่แน่ใจว่า เพื่อนๆเห็นด้วย
หรือมีส่วนไหน ที่ไม่เป็นจริงบ้าง?...
เชิญร่วมให้ คคห.กันครับ...
Edited by Suraphan07, 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:37.