พักนี้เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ที่โดนมรสุมรุมเร้า ทั้งแผ่นดินไหว พายุถล่ม ลูกเห็บตก ฝนตกแบบบ้าคลั่ง ลมพัดกระโชกรุนแรง ไฟไหม้เผาบ่อขยะ อาคารเก่าแก่วอดวาย เรียกว่าครบ มาหมด ทั้ง ดิน น้ำ ลม และไฟ
ลองเจาะให้ลึก พบว่า ทุกพื้นที่ ที่โดนล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ที่มี สส. เพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาล และยิ่งน่าตกใจเมื่อโพกัสไปให้ลึกกว่านั้น พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่ ณัฐวุฒิ และแกนนำเสื้อแดง เดินทางไปปราศรัย ด้วยกันทั้งนั้น
ล่าสุด กำลังกินข้าวเย็นอยู่ในกรุงเทพแท้ เหมือนหน้ามึดไปชั่วขณะ เงยหน้าดูม่าน สั่นไหว ให้ตกใจว่า นี่มันแผ่นดินไหวนี่หว่า
สักครึ่งชั่วโมง มี sms ส่งมาบอกว่าเกิดแผ่นดินรุนแรงที่เชียงราย ก็ได้แต่เห็นใจคนเชียงรายว่า นี่ขนาดอยู่กรุงเทพ ยังขนาดนี้แล้วคนเชียงรายจะขนาดไหน
มันเลยทำให้นึกถึงคำสาปแช่งของ ณัฐวุฒิ ที่ปากกล้าไปท้าทาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พระสยามเทวาธิราช พระแม่ธรณี พระแม่คงคา และอื่นๆ เรียกว่าวันนั้น ณัฐวุฒิ เชิญมารับฟังคำสาปแช่งนั้นหมด
วันนั้นฟังแล้วยังตกใจ ทำไมณัฐวุฒิ ถึงกล้าได้ขนาดนี้ แถมเอาชีวิตคนเสื้อแดงไปร่วมกับคำสาปแช่งนั้น
เพราะในวันนั้น ณัฐวุฒิ กล่าวในทำนองว่า ถ้าผม หรือ พวกผม (ตรงนี้ต้องเน้น เพราะใช้คำว่า พวกผม) ไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนรู้เห็น (ตรงนี้ก็ต้องเน้นอีกว่าแค่รู้เห็นก็โดนแล้ว) หรืออะไรก็ตาม (อันนี้ยิ่งไปกันใหญ่) ในการเผาเซ็นทรัลเวิร์ด ขอให้ ผม และ พวกผม ประสบความพินาศ ฉิบหาย วิบัติ ............
คำสาปแช่งที่ณัฐวุฒิใช้คำว่า พวกผม มันทำให้นึกเป็นอื่นไปไม่ได้ เพราะณัฐวุฒิคงไม่ได้หมายถึงแกนนำคนเสื้อแดง แต่หมายถึงคนเสื้อแดงทั้งหมด ซึ่ง เพราะประโยคที่พูดเริ่มต้นใช้คำว่า ถ้าผม หรือ พวกผม ... เผา... หรือมีส่วนรู้เห็น ซึ่งนั้นก็หมายถึง ถ้าวันนั้นคนเสื้อแดงคนใด (ที่เป็นพวก) มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ขอให้ พวกผม (คนเสื้อแดง) ........ นั้นเอง
นั้นย่อมแสดงว่า ณัฐวุฒิ ได้เอาคนเสื้อแดงเข้ามาเกี่ยวข้องกับคำสาปแช่งนี้โดยเลี่ยงเป็นอื่นไม่ได้
พอคิดอย่างงั่นมันทำให้ผมยิ่งใจหายเข้าไปใหญ่ว่า ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิดจริง หลังจากนี้คนเสื้อแดงจะทำอย่างไรต่อไป
อย่างงี้แล้วคนเสื้อแดงจะทำอย่างไรต่อไป ในเมื่อเป็นพวกของณัฐวุฒิ มันจึงพอมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้คนที่คิดว่ามันไม่ยุติธรรมที่เอาชีวิตพวกเขาไปเกี่ยวข้องกับคำสาปแช่งนี้ จะมีวิธีแก้ได้อย่างไร เท่าที่ผมศึกษามันก็พอมี ว่าแต่จะเลือกทางไหนก็เอาให้เหมาะกันแล้วกัน
ทางแรกง่ายที่สุดคือ การเลิกเป็นคนเสื้อแดง ก็คือเลิกเป็นพวกเดียวกับณัฐวุฒิ ไม่ขอเกี่ยวข้องกับพวกเสื้อแดงอีก เมื่อไม่ใช่พวกก็ถือว่าคำสาปไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกันอีก ซึ่งผมว่ามันคงลำบากที่จะให้คนเหล่านี้ถอดเสื้อแดงออก เพราะพวกเขายังได้ประโยชน์กันอยู่
เมื่อเป็นแบบนี้มันก็มีทางที่สองคือไม่ยอมให้แกนนำเสื้อแดงใช้พื้นที่ในจังหวัด ในชุมนุม ทำการปราศรัย ชุมนุม หรือการใดก็ตาม ซึ่งผมว่ามันก็ยากอีก
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็คงเหลือทางสุดท้ายคือ ต้องให้ ณัฐวุฒิ แก้คำสาปนั้นด้วยตัวเอง วิธีมันก็ไม่ยุ่งยากนัก ว่าแต่ณัฐวุฒิจะยอมทำหรือไม่
ในทางโบราณเขาบอกว่า ถ้าจะแก้คำสาปนั้น คนที่พูดต้องกลับไปยืนที่จุดเดิม แล้วทำทุกอย่างให้เป็นเหมือนเดิม กล่าวคือ สาปแช่งเวลาไหน ก็ต้องใช้เวลานั้น วันนั้น พูดที่ไหนต้องกลับไปวันนั้น ที่นั้น (พูดบนเวทีก็ต้องตั้งเวที) พูดออกสื่อไหน ก็ต้องเรียกสื่อนั้นมารับฟัง สถานีไหนทำข่าวก็ต้องเชิญมา แล้วที่สำคัญ วันนั้นมีใครมาฟังบ้างก็ต้องเชิญมาทั้งหมด (ใครที่ฟังวันนั้นถ้ามาก็แก้คำสาปได้ ถ้าไม่มาก็แก้ไม่ได้)
แล้วที่สำคัญ คำสาปแช่งทั้งหมด จะตกไปอยู่ที่คนพูดแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งนั้นก็หมายถึง ตัวณัฐวุฒิ และครอบครัว จะต้องรับผลของคำสาปแช่งนั้นไว้ชั่วกับชั่วกัล คือตายกี่ชาติก็ต้องเกิดมารับผลคำสาปนี้ไปจนกว่าจะหมดเวร
ซึ่งก็คงต้องวัดใจณัฐวุฒิกันแล้วว่าจะถอนคำสาปนี้ออกไปหรือจะรอดูคำสาปแช่งนั้นไปจนกว่ากรรมนั้นจะวกกับมาที่ตัวเองและครอบครัว
นี่ดีนะที่ผมไม่ใช่คนเสื้อแดง ไม่อย่างงั้นผมคงลาออกไม่ร่วมสังฆกรรมกับแกนนำที่มีปากไว้พูดเอามัน แต่ผลดันกลับมาทำลายพวกเดียวกัน
ทั้งหมดเป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ไม่ต้องเชื่อเพราะมันเป็นเชื่อของผมคนเดียว ที่คิดยังไงก็เขียนอย่างงั่น ใครไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อนะครับ เพราะถ้าเป็นผมใครมาพูดแบบนี้ก็คงไม่เชื่อง่ายๆ ผมจะรอให้มันเกิดกับตัวเองก่อน แล้วค่อยแก้ไข ก็เหมือนกับ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่นน้ำตา เอาแบบผมก็ได้ครับ
Edited by no name, 5 May 2014 - 23:41.