9 พ.ค.57 สภาทนายความออกแถลงการณ์ กรณีศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยโดยมติเอกฉันท์
ให้รักษาการนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี
ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 182 ในขณะที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)
ได้ให้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี
และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่ง
แถลงการณ์ของสภาทนายความระบุว่า ข้อเท็จจริง กฎหมายระบุไว้อย่างชัดเจน ว่า
ตำแหน่งดัง กล่าว ไม่มีศักดิ์และสิทธิ์ ปฎิบัติหน้าที่เทียบเท่านายกรัฐมนตรี
หรือนายกรัฐมนตรีรักษาการ รวมถึงอดีตรัฐมนตรีหลายคนที่เคยควบสองตำแหน่ง
ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วนั้น ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ต่อไปเช่นกัน
โดยหลังจากพ้นตำแหน่งแล้ว ต้องเรียกกลับคืนรถประจำตำแหน่งและทรัพย์สินของทางราชการ
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยของรักษาการรัฐมนตรีนั้นๆ พร้อมกับให้ข้าราชการประจำ
ที่ไปช่วยงานรักษาการรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง กลับสู่งานในหน้าที่เดิมทั้งหมด
และต้องงดจ่ายเงินเดือนและผลประโยชน์ให้กับรักษาการรัฐมนตรีทั้งหมด
จากเงิน ภาษีอากรของประเทศโดยทันที และหากยังมีข้าราชการไม่ยึดถือปฏิบัติ
โดยยังคงจะรับใช้รักษาการรัฐมนตรีที่ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งไปแล้วนั้น
ควรที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ในทุกส่วนราชการงด
การจ่ายเงินและประโยชน์ใดๆ รวมถึงการเพิกถอนหรือเรียกคืนทรัพย์สินของรัฐ
ที่อยู่ในความครอบครองของ รัฐมนตรีนั้นกลับคืนทันทีเช่นกัน
ขณะที่ วุฒิสภา สามารถที่จะเสนอชื่อของนายกรัฐมนตรีต่อองค์พระประมุข
และรับสนองพระบรมราช โองการให้นายกรัฐมนตรีตามที่วุฒิสภาได้เสนอ
จัดตั้งคณะรัฐบาลและดำเนินการตามกรอบของรัฐธรรมนูญต่อไปได้
อ่านแถลงการณ์ได้ที่
http://www.naewna.com/politic/102712