ยุทธวิธีส่งไม้ต่อให้คนอื่น คือถ้ากำนันเหนื่อยแล้วก็ไปพัก(อาจจะในคุก)บ้าง ให้คนอื่นทำต่อ
ผมเห็นด้วยนะว่าถ้ายังไม่สำเร็จ ผมว่าอย่าเพิ่งเลิก อาจจะลดขนาดผู้ชุมนุมก็ได้ แต่ยังต้องทำต่อดื้อไปเรื่อยๆ รอปปช.ฟันพวกที่เหลือ
รอคดีอาญาจำนำข้าว
"พุทธะอิสระ" เตือน "สุเทพ" อย่าใจร้อนเร่งเผด็จศึก ปิดเกมเรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TVวันที่ 19 พฤษภาคม 2557 19:20 น.หลวงปู่พุทธะอิสระ เปิดเผยแนวทางการต่อสู้ภายหลังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.จะมอบตัวหากภารกิจไม่สำเร็จว่า เวทีแจ้งวัฒนะจะไม่ยุติการเคลื่อนไหว และอาตมาจะไม่เข้ามอบตัวตามที่นายสุเทพประกาศ เพราะอาตมามีหมายจับเพียง 2 คดี คือคดีขัดขวางการเลือกตั้งและกบฏซึ่งได้ร้องคัดค้านหมายจับไปแล้วทั้ง 2 คดี ดังนั้นจะเลือกแนวทางต่อสู้ยืดเยื้อ เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องเร่งเผด็จศึกหรือปิดเกมให้ได้ภายใน 1-2 วัน หลังจากชุมนุมมาแล้วนานกว่าครึ่งปีมองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องรีบร้อน ขณะนี้อยู่ในจุดที่ไม่มีอะไรจะเสียควรจะชุมนุมยืดเยื้อไปเรื่อยๆ หากเป็นไปได้ก็ให้ชุมนุมข้ามปี ผู้ชุมนุมควรเลือกวิธีรอไปเรื่อยๆ เพราะถึงอย่างไรรัฐบาลก็จัดเลือกตั้งไม่ได้ เมื่อรัฐบาลบริหารประเทศไม่ได้ คนทั้งประเทศต้องหันมาตั้งคำถามกับรัฐบาลว่ามีอำนาจและความสามารถในการ บริหารประเทศได้จริงหรือไม่ดังนั้นขอฝากถึงนายสุเทพว่าอย่าใจร้อน ควรใช้ระบบกฎหมายเล่นงานรัฐบาลไปเรื่อยๆค่อยๆ เก็บคะแนน เช่นเดียวกับการที่เวทีแจ้งวัฒนะได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อคัดค้านการขออนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส. ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลได้รับคำฟ้องไว้พิจารณา อีกทั้งเชื่อว่าคนที่จ่ายเงินสนับสนุนให้กับคนเสื้อแดงคงจ่ายให้ไปตลอดไม่ได้"อาตมาเสนอแนวทางใช้หนามยอกเอาหนามบ่ง เวลานี้ควรคิดนอกกรอบอย่าคิดแต่เผด็จศึกเมื่อรัฐบาลอยากจะอยู่รักษาอำนาจก็ให้อยู่ไป ประชาชนจะเป็นฝ่ายสร้างแรงกดดันกลับเข้าหาฝ่ายรัฐบาลเองว่าจะทู่ซี้อยู่ไป ทำไม กปปส.ไม่ได้มีหน้าที่บริหารประเทศ ไม่ใช่ผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ระหว่างนี้จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องรีบร้อน เพราะการเข้ามอบตัวอาจทำให้คนเกือบครึ่งประเทศเสียใจหรือเสียดายการต่อสู้ ที่ผ่านมา" หลวงปู่ฯ กล่าวหลวงปู่ฯ กล่าวอีกว่า หากทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าการเลือกตั้งเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาประเทศได้ อาตมาจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปรับวิธีการเลือกตั้ง ให้สลับเจ้าหน้าที่ กกต.ประจำจังหวัด คนที่เคยทำหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือให้สลับลงไปทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งในภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยแทบจะเป็นคนนามสกุลเดียวกับผู้สมัครโดยเวทีแจ้งวัฒนะพร้อมนำเสนอแนวทางการคัดกรองผู้สมัครด้วยสภาศีลธรรม คุณธรรม