Jump to content


Photo
- - - - -

พระพุทธศาสนา คือ อะไร?


  • Please log in to reply
48 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:28

*
POPULAR

S4481042187jT.jpg

 

 

เรียน เพื่อนเพื่อน ตรงตรง ไม่ อิดเอื้อน-บิดพริ้ว ตั้งใจมาหลายวันแล้ว ว่า จะ ตั้งกระทู้ขึ้นมา

 

ถามหาความรู้จาก เหล่าเพื่อนเพื่อน ทุกคน แต่ ตะนิ่นตาญี ไม่รู้จะขึ้นต้น กระทู้ นี้ อย่างไร ดี

 

สติปัญญา ดูเหมือน จะตีบ-จะตัน ไปเสียทุกทาง ด้วย เหตุแห่งความสงสัย...

 

พุทธศาสนา คืออะไร?

 

เหตุแห่งความสงสัย นี้ เกิดขึ้นเพราะ เมื่อ หลายวัน ที่ ผ่านมา ตะนิ่นตาญี ไป ทำบุญกระดูก คุณปู่-คุณย่า ที่ วัดสระเกศ

 

ทำให้ได้เห็น งานบวช ที่ ดูแล้ว ก็ ชื่นใจดี มี การแห่ พ่อนาค, มี การ กล่าวคำอุทิศตน เข้า สู่ พุทธศาสนา, มีการโปรยทาน ฯลฯ

 

ดูแล้ว ก็ ครบถ้วนสมบูรณ์ดีทุกประการ...ขยับไปอีกนิดนึงได้ยิน แว่วแว่ว เสียง ขานนาค ถาม อันตรายิกธรรม ก็ ให้ ชื่นใจ แทน ญาติ-พี่น้อง ของ พ่อนาค เสียจริง

 

นั่งดูได้สักพัก ก็ ฉุกใจคิด พุทธศาสนา คืออะไร? ตัวเราเองเข้าใจ พุทธศาสนา มากน้อยเพียงใด หรือ เพียงแค่ หลับตา ท่อง

 

"นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ..." แล้ว ก็ หลับไป ไม่ได้ สำนึก-สำเหนียก ใน สิ่งประเสริฐ ที่ไม่ถูกผูกยึด ไว้ กับ กาลเวลา

 

ละเลยไปเสียสิ้นว่า พระพุทธเจ้า ท่านได้ทรง ส่งต่อ-มอบให้ ใน มรดก อันยิ่งใหญ่ แก่ มวลมนุษยชาติ...มรดกธรรม อัน เป็น อกาลิโก ธรรมะ อันหากาลเวลา มิได้...

 

 

S4481038Ohf8C.jpg

 

 

S44810372YjIA.jpg

 

 

S4481036glU1h.jpg

 

 

ประเทศไทย เรา ใน เวลา นี้ กำลัง จะ มี การปฏิรูป ทุก ภาคส่วน ส่วนตัวแล้ว คิดว่า ศาสนา นั้น ก็ จำต้อง ปฏิรูป เช่นกัน

 

ถามว่า ทำไม จึงต้อง ปฏิรูปศาสนา? ตรงนี้ตอบได้ไม่ต้องคิด ก็ ในเมื่อ ศาสนาพุทธ มี อายุยืนนาน มาถึง ๒๕๕๗ ปี เข้าไปแล้ว

 

จึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่จะต้องมีการแตกแยก เพราะเหตุที่ เราขาด องค์ศาสดา ผู้ซึงทรง เป็น ผู้ชี้ขาด ว่า สิ่งใดถูก-สิ่งใดผิด แล้ว

 

ทุกคนก็จะยึด เอา มิติ-เอา ความเชื่อ ของ ตน เป็นที่ตั้ง เถียงกันจนตาย ก็ ไม่ได้ ข้อสรุป มี เมีย ได้หรือไม่?

 

จะ ปล่อยนะ หรือ ยึด เอา ไว้ ไม่ยอมปล่อย ก็ เถียง กันไป ไม่จบ-ไม่สิ้น...แถมมี การแสดง อิทธิฤทธิ์-อิทธิเดช ปล่อย แสงเฮ้ากวง ออกจากตัวก็ยังมี

 

แล้วเกี่ยวอะไร กับ คำถาม พระพุทธศาสนา คือ อะไร? เกี่ยวครับ เพราะ คำถาม นี้ เป็นการกำหนด identification หรือ การแยกแยะให้ชัดเจน ใน พระพุทธศาสนา

 

อีกทั้งเพื่อเป็นการเข้าใจให้ต้องตรงกัน ซึ่ง พุทธศาสนา มิเช่นนั้นแล้ว มันก็จะกลายเป็น นี่ พุทธ ของ กู-นู่น พุทธ ของ เอ็ง...หา conclusion ไม่เจอะ-ไม่เจอ   :lol: 

 

ดังนั้น ตะนิ่นตาญี จึงใคร่ขอความกรุณา จาก เพื่อนเพื่อน ทุกคน บอก ตะนิ่นตาญี ให้ ชื่นใจหน่อยเถอะว่า...

 

พระพุทธศาสนา ตามความเข้าใจ ของ เพื่อนเพื่อน แล้ว คืออะไร?

 

ดูกร สัตบุรุษ-สัตสตรี ทั้งปวง หลายพันปีก่อนหน้านี้ เล่าจื้อ ปราชญ์ ผู้ยิ่งใหญ่ ได้ รจเลข เต๋า เต็ก เก็ง ไว้ว่า

 

"คัมภีร์เต๋า เป็น เพียง กระดาษ หา ใช่ สัจจะ อันแท้จริงไม่ เมื่อเราเข้าสู้ เต๋า แล้ว ก็จงละเลย เต๋ากระดาษ นี้เสีย..."

 

ตะนิ่นตาญี ใคร่ ขออนุญาต เพื่อเพื่อน ลอกเลียนแบบ จอมปราชญ์ ผู้ยิ่งใหญ่ ท่านนี้ ร้องขอ ต่อ เพื่อนเพือ่น

 

เล่าจื้อ ขอให้ ละเลย เต๋ากระดาษ...ตะนิ่นตาญี ใคร่ขอร้อง เพื่อนเพื่อน ไม่เอา พุทธ Google จะได้ไหมครับ?

 

ขอเพียงแค่ บอกว่า พระพุทธศาสนา จาก ความคิด-ความเชื่อ และ ศรัทธา ของ เพื่อนเพื่อน คืออะไร? เขียนจากใจ ไม่ใช่ จาก Google นะ ครับ เพื่อนเพื่อน ครับ  :unsure: 

 

ตะนิ่นตาญี

 

พฤหัสบดีที่ ๒๙ พฤกษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

 

เวลา ๒๐.๒๘ นาฬิกา

 


"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#2 @Live

@Live

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 69 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:31

พระพุทธศาสนา คือการคลำช้างทั้งตัวแล้วบอกว่านี่คือช้างครับ ไม่ใช่คลำหางแล้วบอกช้าง คลำขาแล้วบอกช้าง คลำหูแล้วบอกช้าง เป๋็นต้น


Edited by @Live, 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:31.


#3 chaidan

chaidan

    กา... กา... กา...

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,999 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:40

ปฏิจจสมุปบาท

จำเขามาครับ :)


Edited by chaidan, 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:40.

ใครที่บอกว่า "กาขาว" เป็นฝรั่ง....ผมว่าไม่ใช่......

#4 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:49

พระพุทธศาสนา คือการคลำช้างทั้งตัวแล้วบอกว่านี่คือช้างครับ ไม่ใช่คลำหางแล้วบอกช้าง คลำขาแล้วบอกช้าง คลำหูแล้วบอกช้าง เป๋็นต้น

 

แหะ-แหะ-แหะ ลึกซึ้ง เหลือเกินครับ คุณ @Live ครับ  :o 

 

ไม่แน่ใจว่าจะเข้าใจถูกต้องสิ่งที่ คุณ @Live ต้องการที่จะสื่อหรือไม่ 

 

หากเข้าใจไม่ผิดคิดว่า ต้องการสื่อถึง บริบท ของ พุทธศาสนา อันได้แก่

 

พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์, อุบาสก-อุบาสิกา ทั้ง รูปธรรม-นามธรรม ใช่ไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี

 

 

ปฏิจจสมุปบาท

จำเขามาครับ :)

 

คุณ chaidan กำลัง พูดถึง ทุกข-เวทนา-สังขาร ตะนิ่นตาญี เข้าใจ ถูกไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี


"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#5 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:50

*
POPULAR

ถ้าให้เราตอบนะ

สั้นๆ

คือ ธรรมชาติ

 

เดี๋ยว พวกที่อ้างอิงคัมภีร์ก็ไม่เห็นด้วยอีก

(ค ห ส ต)

:)


ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#6 chaidan

chaidan

    กา... กา... กา...

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,999 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:51

 

 

คุณ chaidan กำลัง พูดถึง ทุกข-เวทนา-สังขาร ตะนิ่นตาญี เข้าใจ ถูกไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี

 

 

 

ฟังเทศน์หลวงพ่อเลยครับ 

:)


ใครที่บอกว่า "กาขาว" เป็นฝรั่ง....ผมว่าไม่ใช่......

#7 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:52

 

 

 

คุณ chaidan กำลัง พูดถึง ทุกข-เวทนา-สังขาร ตะนิ่นตาญี เข้าใจ ถูกไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี

 

 

 

 

ฟังเทศน์หลวงพ่อเลยครับ 

:)

 

พระอาจารย์คึกฤทธิ์ วัดนาป่าพง

:)


ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#8 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:53

 

ถ้าให้เราตอบนะ

สั้นๆ

คือ ธรรมชาติ

 

เดี๋ยว พวกที่อ้างอิงคัมภีร์ก็ไม่เห็นด้วยอีก

(ค ห ส ต)

:)

 

 

 

ขอบพระคุณ หลวงพี่ฯ มากครับ...สิ่งที่ หลวงพี่ฯ กำลัง สั่งสอน หาก เข้าใจ ไม่ผิด น่าจะหมายความถึง

 

การ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย อัน เป็น สาเหตุ แห่ง ทุกข์  และ การหลุดพ้นจาก ธรรมชาติ แห่ง ทุกข์ นี้ 

 

ตะนิ่นตาญี เข้าใจถูกไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี


"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#9 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:00

 

 

ถ้าให้เราตอบนะ

สั้นๆ

คือ ธรรมชาติ

 

เดี๋ยว พวกที่อ้างอิงคัมภีร์ก็ไม่เห็นด้วยอีก

(ค ห ส ต)

:)

 

 

 

ขอบพระคุณ หลวงพี่ฯ มากครับ...สิ่งที่ หลวงพี่ฯ กำลัง สั่งสอน หาก เข้าใจ ไม่ผิด น่าจะหมายความถึง

 

การ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย อัน เป็น สาเหตุ แห่ง ทุกข์  และ การหลุดพ้นจาก ธรรมชาติ แห่ง ทุกข์ นี้ 

 

ตะนิ่นตาญี เข้าใจถูกไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี

 

ตามนั้น

ไม่มีสิ่งใดหลุดพ้นธรรมชาติไปได้ 

สมัยพุทธกาล ไม่มีคำว่าพระพุทธศาสนา หรือศาสนา มีแต่ ลัทธิ, คำสอน, เวช

พระพุทธองค์เวลาทรงตรัส, หรืออธิบายคำสอนจะใช้คำว่า "ในธรรมวินัยนี้"

คำที่ใช้มากที่สุด

ภิกษุ ท (ย่อมาจากคำว่าทั้งหลาย)....ภิกษุ ในธรรมวินัยนี้.....

:)


Edited by กีรเต้, 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:01.

ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#10 JSN

JSN

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,004 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:06

ถ้าให้เราตอบนะ

สั้นๆ

คือ ธรรมชาติ

 

เดี๋ยว พวกที่อ้างอิงคัมภีร์ก็ไม่เห็นด้วยอีก

(ค ห ส ต)

:)

 
 
ขอบพระคุณ หลวงพี่ฯ มากครับ...สิ่งที่ หลวงพี่ฯ กำลัง สั่งสอน หาก เข้าใจ ไม่ผิด น่าจะหมายความถึง
 
การ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย อัน เป็น สาเหตุ แห่ง ทุกข์  และ การหลุดพ้นจาก ธรรมชาติ แห่ง ทุกข์ นี้ 
 
ตะนิ่นตาญี เข้าใจถูกไหมครับ?
 
ตะนิ่นตาญี

ตามนั้น

ไม่มีสิ่งใดหลุดพ้นธรรมชาติไปได้ 

สมัยพุทธกาล ไม่มีคำว่าพระพุทธศาสนา หรือศาสนา มีแต่ ลัทธิ, คำสอน, เวช

พระพุทธองค์เวลาทรงตรัส, หรืออธิบายคำสอนจะใช้คำว่า "ในธรรมวินัยนี้"

คำที่ใช้มากที่สุด

ภิกษุ ท (ย่อมาจากคำว่าทั้งหลาย)....ภิกษุ ในธรรมวินัยนี้.....

:)

ชอบที่บอกว่าธรรมชาติครับ

#11 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:07

 

 

 

ถ้าให้เราตอบนะ

สั้นๆ

คือ ธรรมชาติ

 

เดี๋ยว พวกที่อ้างอิงคัมภีร์ก็ไม่เห็นด้วยอีก

(ค ห ส ต)

:)

 

 

 

ขอบพระคุณ หลวงพี่ฯ มากครับ...สิ่งที่ หลวงพี่ฯ กำลัง สั่งสอน หาก เข้าใจ ไม่ผิด น่าจะหมายความถึง

 

การ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย อัน เป็น สาเหตุ แห่ง ทุกข์  และ การหลุดพ้นจาก ธรรมชาติ แห่ง ทุกข์ นี้ 

 

ตะนิ่นตาญี เข้าใจถูกไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี

 

ตามนั้น

ไม่มีสิ่งใดหลุดพ้นธรรมชาติไปได้ 

สมัยพุทธกาล ไม่มีคำว่าพระพุทธศาสนา หรือศาสนา มีแต่ ลัทธิ, คำสอน, เวช

พระพุทธองค์เวลาทรงตรัส, หรืออธิบายคำสอนจะใช้คำว่า "ในธรรมวินัยนี้"

คำที่ใช้มากที่สุด

ภิกษุ ท (ย่อมาจากคำว่าทั้งหลาย)....ภิกษุ ในธรรมวินัยนี้.....

:)

 

 

 

กราบ ขอบพระคุณ หลวงพี่ฯ มากครับ สำหรับ คำสั่งสอน...

 

ตะนิ่นตาญี ไม่กล้าบอกว่า เข้าใจ ได้ ทะลุปรุโปร่ง ดีแล้ว

 

หากแต่จะถือไว้เป็นแนวทาง ใน การพิจารณา อีกครั้งหนึ่ง 

 

สำหรับคืนนี้คงต้องกราบนมัสการหลวงพี่ฯ และ เพื่อนเพื่อน เข้านอนแล้วครับ

 

พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า แต่ จะไม่ทิ้งกระทู้นี้ เพราะ ตั้งใจ จะ ขยายความ ตามที่ตัวเองคิดไปเรื่อยเรื่อย

 

จนกว่าจะได้บทสรุปที่เป็นที่ยินดี กราบขอบพระคุณ หลวงพี่ฯ และ เพื่อนเพื่อน ทุกคน อีกครั้งหนึ่ง ขอบพระคุณมากครับ

 

ตะนิ่นตาญี


"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#12 ลมสุริยะ

ลมสุริยะ

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 26 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:20

สามัญลักษณะของสรรพสิ่งทุกอย่างในโลก ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ไม่ถาวร

ทุกสิ่งไม่เที่ยง คงอยู่ในสภาพเดิมมิได้ และไม่มีตัวตน

สิ่งต่างๆ เป็นไปด้วยเหตุปัจจัย

เหล่านี้คือ ธรรมชาติ ของสรรพสิ่งบนโลก

พระพุทธเจ้าไม่ได้คิดขึ้นแล้วเผยแพร่แนวคิด แต่เป็นสิ่งที่มีมาแต่เดิม เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว พระพุทธองค์แค่ค้นพบ แล้วนำมาสอนให้รู้ และให้ผู้รับรู้ได้กระทำให้แจ้งด้วยตัวของตัวเอง
ประชาธิปไตยหาใช่แค่เลือกตั้ง
เพราะถ้ายังซื้อสิทธิ์และขายเสียง
เข้ามาโกงก่อกรรมทำลำเอียง
คงไม่เลี่ยงจะพูดว่าเผด็จการ

#13 Tomhan Han

Tomhan Han

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 4 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:20

การปฏิบัติตนให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
รู้ด้วยสติ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน
ตื่นจาก รัก โลภ โกรธ หลง
เบิกบานเมื่อหลุดพ้น

คือความเห็นส่วนตัว และภารกิจที่พยายามทำความเข้าใจอยู่

#14 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:23

 

 

 

 

คุณ chaidan กำลัง พูดถึง ทุกข-เวทนา-สังขาร ตะนิ่นตาญี เข้าใจ ถูกไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี

 

 

 

 

ฟังเทศน์หลวงพ่อเลยครับ 

:)

 

พระอาจารย์คึกฤทธิ์ วัดนาป่าพง

:)

 

 

^_^  พระอาจารย์ผู้ชี้ทางสว่างให้กระพ๊มเลยขอรับ... ดังพระสูตรหนึ่งที่ว่า... "ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ภาษิตของพระองค์ไพเราะนัก พระองค์ประกาศธรรมโดยอเนกปริยายอย่างนี้ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปไปในที่มืด ด้วยตั้งใจว่า คนมีตาดีจักได้เห็นรูป ดังนี้… ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์เป็นสรณะ ขอพระองค์ทรงจำข้าพเจ้าว่า เป็นผู้ถึงสรณะ ตลอดชีวิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป" ขอรับ...


Edited by wat, 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 05:30.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#15 แสนคำนึง นลินกุลเศฐ

แสนคำนึง นลินกุลเศฐ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 271 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:23

ถ้าว่าตามศัพท์  " พระพุทธศาสนา "   ก็แปลว่า  " คำสอนของพระพุทธเจ้า " 

 

ถ้าว่าตามความเนื้อหาทั้งหมดของพระพุทธศาสนาก็คือ  " วิถีชีวิตที่เข้าถึงประโยชน์สูงสุดของชีวิต "

 

( The Way Of Life )  ตามความเข้าใจด้วยสติปัญญาอันน้อยของผมนะครับ...



#16 แสนคำนึง นลินกุลเศฐ

แสนคำนึง นลินกุลเศฐ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 271 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:26

หรือ " วิถีแห่งการเข้าถึงประโยชน์สูงสุดของชีวิต "  ก็ได้ครับ...



#17 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:27

อย่าว่าผมนะ ผมคิดว่าศาสนามันคือกุศโลบายในการปกครองของคนยุคโบราณ

ถามว่า ผมไปวัดใหม .. ไป
ถามว่า ผมใหว้พระใหม .. ใหว้
ถามว่าผมทำบุญใหม .. ทำ

เพราะสิ่งเดียวที่ผมเคารพนับถือในศาสนาคือการสอนให้คนเป็นคนดี


Posted Image

#18 mee-sua-man

mee-sua-man

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,218 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:29

จงตื่นอยู่เสมอ...



#19 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:32

 

พระพุทธศาสนา คือการคลำช้างทั้งตัวแล้วบอกว่านี่คือช้างครับ ไม่ใช่คลำหางแล้วบอกช้าง คลำขาแล้วบอกช้าง คลำหูแล้วบอกช้าง เป๋็นต้น

 

แหะ-แหะ-แหะ ลึกซึ้ง เหลือเกินครับ คุณ @Live ครับ  :o 

 

ไม่แน่ใจว่าจะเข้าใจถูกต้องสิ่งที่ คุณ @Live ต้องการที่จะสื่อหรือไม่ 

 

หากเข้าใจไม่ผิดคิดว่า ต้องการสื่อถึง บริบท ของ พุทธศาสนา อันได้แก่

 

พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์, อุบาสก-อุบาสิกา ทั้ง รูปธรรม-นามธรรม ใช่ไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี

 

 

ปฏิจจสมุปบาท

จำเขามาครับ :)

 

คุณ chaidan กำลัง พูดถึง ทุกข-เวทนา-สังขาร ตะนิ่นตาญี เข้าใจ ถูกไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี

 

 

^_^  ขออนุญาตรวบตอบทีเดียวขอรับ... พุทธะแปลว่ารู้แจ้งขอรับ พระศาสดาตรัสไว้ว่าพระองค์คือพุทธะ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่นแล้วจากอวิชชาทั้งปวง พุทธศาสนาจึงเป็นศาสตร์ของการรู้แจ้งของโลกนี้และโลกอื่นๆ... ตามคำตรัสสอนชี้ทางของพระศาสดาขอรับ...

 

... เพราะพระศาสดาได้อุบัติขึ้นมาเพื่อตรัสรู้ใน "อริยสัจ" นั่นคือความจริงสี่ประการ ซึ่งในความจริงสี่ประการนั้นมีเหตุเกิดขึ้นและดับไปของทุกข์ตามเหตุปัจจัยอันเป็นหัวใจของอริยสัจคือ "ปฏิจจสมุปบาท" และ "กฎอิทัปปัจยตา" อันเป็นกระบวนการอธิบายถึงสมุทัย และนิโรธ (เกิดและดับ) มาจากเหตุปัจจัยใด... ซึ่งเป็นสิ่งที่พระศาสดาตรัสรู้และรู้ได้ถึงหนทางที่พระองค์ดำเนินปฏิปทามาจนตรัสรู้ได้ก็คือ "มรรค" นั่นเองขอรับ...

 

:)  นี่คือพุทธในความยึดมั่นของกระพ๊มวันนี้ขอรับ...


Edited by wat, 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 05:31.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#20 หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

หงส์เฒ่าเสาร์ธรรม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,408 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:38

ผมไม่ใช่คนที่มี ปัญญามากพอ ที่จะอธิบายได้ว่า พระพุทธศาสนา คืออะไร

  แต่ผมเข้าใจใน วิถีชาวพุทธ ...

 

วิถีชาวพุทธ คือธรรมชาติของการดำรงอยู่ของมนุษย์ ที่ไม่เบียดเบียนเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง และรวมไปถึงธรรมชาติรอบๆตัว

 เป็นวิถีชีวิตเพื่อการยกระดับจิตใจ ให้เข้าถึงธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ด้วยความเชื่อแต่กำเนิดที่ยกย่องคุณงามความดี การสร้างบุญ สร้างกุศล จะนำพาไปสู่ความเจริญของชีวิต

 

สำหรับผู้ที่ยังวนเวียนในบ่วงกรรม ไม่มีเวลาศึกษาธรรม  การได้ทำบุญ ตักบาตร สักการะพระสงฆ์ ที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ก็ย่อมได้บุญเช่นกัน

   และยิ่งมีโอกาสได้บวชในพระพุทธศาสนา ก็จะยิ่งได้บุญมากขึ้น... วิถีชีวิตของ ชาวบ้านที่ยังต้องทำมาหากิน ก็จะวนเวียนอยู่กับกิจกรรม ที่เชื่อว่า จะได้บุญ

 

สำหรับผู้ที่ หลุดพ้นจากบ่วง ทั้งหลายบ้างแล้วนั้น หรือได้มีเวลาศึกษาพุทธธรรมมากขึ้น ทั้งผู้ที่ได้บวช และผู้ที่ไม่ได้บวช ทั้งหญิงและชาย ก็จะมุ่งยกระดับจิต ให้สูงขึ้น เพื่อหลุดพ้น จากบ่วงกรรมที่ละเอียดขึ้น...

มีวิธีหลากหลายในการฝึกจิต เช่นการฝึกสมาธิ วิปัสสนา กรรมฐาน ฯลฯ เมื่อระดับจิตที่สูงถึงจุดที่เข้าใจธรรมชาติของแต่ละเรื่องได้อย่างถ่องแท้แล้วนั้น การดำรงชีวิต กับเรื่องนั้นๆ จึงเป็นไปตามธรรมชาติ ของตัวมันเอง คนๆนั้น จะได้ประโยชน์ หรือความสุขจากเรื่องนั้นๆ อย่างเป็นธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ยากแก่การอธิบายสำหรับคนที่ยังไม่บรรลุ แต่รับรู้ได้ว่า คนๆนั้นเป็นผู้ที่มีบุญสูงกว่า... และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่กำลังฝึกวิปัสสนา ให้มีระดับของจิตสูงยิ่งๆขึ้นไป ... อาจจะถึงนิพพาน จริงๆก็ได้... (ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ยังไม่เคยสัมผ้ส และไม่เคยได้มีโอกาสสนทนากับคนที่เคยบอกว่าถึงนิพพานแล้ว)

 

   บางครั้ง สิ่งที่เราได้ทำไปโดยไม่รู้ตัว แต่มันทำให้เรารู้สึกดีขึ้น โล่ง สบายใจ ไร้กังวลใดๆ.. ก็ตรงกับสิ่งที่ควรปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยที่ยังไม่เคยได้ศึกษามาก่อนเลย

ผมเชื่อว่า วิถีพุทธ มีมาก่อนพุทธกาล กำเนิดมาพร้อมกับมนุษย์ทุกคน โดยที่มนุษย์ไม่รู้ตัว แต่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ และเรียกว่า พระพุทธศาสนา..


จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ... ศีลธรรม เป็นกรอบรักษาจินตนาการให้ดำรงอยู่ด้วยความดีงาม... -_- 


#21 Tomhan Han

Tomhan Han

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 4 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:42

พุทธศาสนาสอนให้มองเข้าข้างใน คือระวังสติของตน อย่าส่งใจออกนอก ทั้งนี้ก็เพื่อลดทุกข์หรือปัญหาที่มีอยู่แล้วทั้งในกาย ในจิต และมีทั่วไปในโลก
พุทธศาสนาสอนให้มองตน ระวังจิตของตน
การจะสัมผัสได้ ก็ลองนั่งจับลมหายใจเข้าออก และตามดูจิตของเราว่าวิ่งแส่ส่ายไปไหนบ้าง นั่นก็พอจะรู้ได้ว่ามั่นยุ่งและวุ่นวาย
จะพอลดความยุ่งและวุ่นวายได้ ก็กลับไปฟังคำสอนของพระอาจารย์ข้างบน

นี่ก็พยายามทำอยู่เหมือนกัน

#22 ลมสุริยะ

ลมสุริยะ

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 26 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:44

พระพุทธองค์สอนว่า

การเกิด เป็นทุกข์
ความแก่ เป็นทุกข์
ความตาย เป็นทุกข์
ความโศกเศร้า เป็นทุกข์
พบกับสิ่งที่ไม่ชอบ เป็นทุกข์
พลัดพรากจากสิ่งที่ชอบ เป็นทุกข์
อยากสิ่งไหน ไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์

ทั้งนี้ เพราะคนเรามีตัณหา คือ อยากมี อยากเป็น อยากพ้น
คนเรามีความยึดมั่นถือมั่นในตัวในตน ยังมีโลภ โกรธ หลง จึงไม่พ้นทุกข์เสียที

พ้นทุกข์ที่แท้จริงซึ่งพระพุทธองค์สอนไว้ คือ นิพพาน

ทำอย่างไรเล่าจึงจะไปให้ถึงพระนิพพานได้
พระพุทธองค์ได้ให้แนวทาง 8 ข้อ คือ อริยมรรค ให้ไปถึงจุดนั้น ใน 8 ข้อนี้ สรุปคือ ศีล สมาธิ ปัญญา

ละซึ่งสิ่งที่ควรละ คือต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง
ทำในสิ่งที่ควรทำ คือทำให้เกิดปัญญา รู้แจ้งพระไตรลักษณ์ รู้แจ้งในอริยสัจ ไปให้ถึงจุดนั้น

ลมสุริยะ เรียบเรียง
ประชาธิปไตยหาใช่แค่เลือกตั้ง
เพราะถ้ายังซื้อสิทธิ์และขายเสียง
เข้ามาโกงก่อกรรมทำลำเอียง
คงไม่เลี่ยงจะพูดว่าเผด็จการ

#23 คนสับปรับ

คนสับปรับ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,410 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:51

   พุทธศาสน์ พุทธศาสนา คือตำรา สิ่งสืบทอดกันมาของผู้รู้ ผู้ตื่น

ไสยศาสน์ คือ ความรู้ อันหลับไหล มืดบอด

ธรรมะ คือ ธรรมชาติ

     อยากฝากเรื่องสังฆทานซะหน่อย ไหนๆก้อเข้าเรื่องแล้ว

เมื่อเราถวายสังฆทาน แล้วกล่าว"อิมานิ มะยังฯลฯ" คนส่วนใหญ่จะถวายแก่พระเป็นรูปๆไป

พระที่รับไป ส่วนใหญ่ก้อรับมาเก็บไว้ผู้เดียว หารู้ไม่ว่า คำอุทิศนั้น

เขาให้แด่พระสงฆ์ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงแก่ผู้ใด พระสงฆ์สามารถใช้สอยสิ่งนั้นได้

ถ้าเก็บไว้เพียงผู้เดียว เท่ากับเบียดบังของสงฆ์ 

ถ้าจะให้แก่พระรูปใด เจาะจงเฉพาะรูป  เรียกว่า  ปาฎิบุคลิกทาน ไม่ต้องมีพิธีไรมากมาย

   หลวงพี่ทั้งหลาย อย่าเอาของสงฆ์มาเก็บไว้ให้รกกุฏิเลย เอามาตั้งแจกเขาบ้างนะ 

 

ปล.  อาวุโส กับ ภัณเต ใครแก่กว่ากัน? :)


Edited by คนสับปรับ, 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:06.


#24 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:06

ปล.  อาวุโส กับ ภัณเต ใครแก่กว่ากัน? :)

 

^_^  ถ้าตามพุทธวจน ภัณเตคือคำใช้เรียกภิกขุที่บวชก่อน หรือเหล่าฆราวาสใช้เรียกภิกขุขอรับ... อาวุโสคือคำใช้เรียกภิกขุผู้อ่อนพรรษากว่าขอรับ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#25 กระต่ายหมายจันทร์

กระต่ายหมายจันทร์

    รู้ดินรู้ฟ้า หรือจะสู้รู้คน

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,394 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:38

พุทธศาสน์ พุทธศาสนา คือตำรา สิ่งสืบทอดกันมาของผู้รู้ ผู้ตื่น
ไสยศาสน์ คือตำรา ความรู้ อันหลับไหล มืดบอด
ธรรมะ คือ ธรรมชาติ
     อยากฝากเรื่องสังฆทานซะหน่อย ไหนๆก้อเข้าเรื่องแล้ว
เมื่อเราถวายสังฆทาน แล้วกล่าว"อิมานิ มะยังฯลฯ" คนส่วนใหญ่จะถวายแก่พระเป็นรูปๆไป
พระที่รับไป ส่วนใหญ่ก้อรับมาเก็บไว้ผู้เดียว หารู้ไม่ว่า คำอุทิศนั้น
เขาให้แด่พระสงฆ์ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงแก่ผู้ใด พระสงฆ์สามารถใช้สอยสิ่งนั้นได้
ถ้าเก็บไว้เพียงผู้เดียว เท่ากับเบียดบังของสงฆ์ 
ถ้าจะให้แก่พระรูปใด เจาะจงเฉพาะรูป  เรียกว่า  ปาฎิบุคลิกทาน ไม่ต้องมีพิธีไรมากมาย
   หลวงพี่ทั้งหลาย อย่าเอาของสงฆ์มาเก็บไว้ให้รกกุฏิเลย เอามาตั้งแจกเขาบ้างนะ 
 
ปล.  อาวุโส กับ ภัณเต ใครแก่กว่ากัน? :)

พูดถึงการถวายสังฆทานแล้ว  ทำให้นึกถึงอดีตเมื่อ ๖-๗ ปีก่อน
ตอนนั้นบวชโครงการในหลวง ๘๐ พรรษา เฉลิมพระเกียรติพอดี
จำพรรษาอญู่วัดที่ใหญ่พอควร วัดนี้มีลาภสักการะมากพอสมควร
เนื่องจากอยู่ในเขตเมืองที่เจริญ วันหนึ่งหลังจากที่ได้ฉันเพลก่อน
เรียนภาคบ่าย ตอนกลับกุฏิเห็นโยมผู้ชายผู้หญิงสามีภรรยาคู่หนึ่ง
ตรงมาหาผม ผมจึงได้ถามว่ามาทำไม เขาทั้งสองก็ตอบว่า ตั้งใจ
จะมาถวายสังฆทาน เจอท่านก็ดีแล้ว ขอนิมนต์ท่านเลย ตอนนั้น
ไม่ได้คิดอะไรจึงบอกให้ไปรอที่ศาลาวิหารสักห้านาที เดี๋ยวจะตามไป
พอไปถึงก็รับสังฆทาน  ให้โยมกรวดน้ำจากนั้นก็ให้พรตามพิธีการ
แต่พอเสร็จพิธี สังเกตได้ว่าสองคนนี้หน้าตาอมทุกข์มากๆ จึงได้
เลียบๆเคียงๆถามว่า บ้านอยู่ไหน สองคนนั้นก็ตอบว่าอยู่ อ.สอยดาว
จากนั้นก็ถามต่อว่าทำอาชีพอะไร เขาก็ตอบว่าทำสวนยางพาราและ
กรีดยางเองประมาณ๓๐ ไร่ ผมก็เลยหยอดไปว่าคงพอมีตังส์นะ
สองคนก็ตอบว่าก็ไม่เดือดร้อน ไม่มีหนี้สินอะไร ทีนี้ก็เลยยิงคำถาม
ไปอีกว่า แล้วโยมมาถวายสังฆทานทำไม ฝ่ายผู้หญิงทำท่าจะร้องไห้
ผู้ชายตอบว่า ตอนนี้ลูกผมป่วยหนักอยุู่ห้องไอซียู มีคนแนะนำให้มา
ถวายสังฆทานครับ ถึงตอนนี้ผมก็เลยเอากระดาษเอสี่มาให้คนละแผ่น
แล้วบอกให้ฝ่ายสามีไปหยิบหนังสือมนต์พิธีมา บอกให้ทั้งคู่เปิดไปที่
หน้า ๗๗ แล้วบอกให้คนทั้งสองจดบทสวดโพชฌงค์ เมื่อจดเสร็จ
ก็ได้กำชับว่าให้เอาบทสวดนี้ไปสวดให้ลูกของคุณฟังเถิด ทั้งสองคน
ได้ฟังดังนั้น ก็แย้งขึ้นมาว่า ผมจะสวดได้ไงไม่ได้บวชเป็นพระซะหน่อย
มันจะขลังเหรอ ผมก็เลยบอกไปว่า โยมจำไว้อย่างหนึ่งนะ พ่อแม่ถือเป็น
พระอรหันต์ของลูก ฉะนั้นสิ่งที่พ่อแม่ทำให้ลูกย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์เสมอ
สองคนนั้นก็ลากลับไป ยอมรับเลยว่าไม่รู้คิดผิดหรือคิดถูกที่ทำแบบนี้
ตอนนั้นรู้แต่เพียงว่าคนที่มาถวายสังฆทานส่วนใหญ่มีทุกข์มาให้พระแก้
แทบทั้งสิ้น  สำคัญแต่เพียงว่าคนเป็นพระจะแก้ถูกหรือแก้ผิดเท่านั้น
สำหรับตัวผมแล้วเมื่อมีคนมาถวายสังฆทานทุกครั้ง ผมจะไปมอบให้เป็น
ของกลางสำหรับสงฆ์ทุกครั้ง ส่วนปัจจัยก็เอาไว้ใช้บ้างตามอัตภาพ อ้อ
หลังจากที่คนคู่นั้นกลับไปแล้วประมาณ ๒ สัปดาห์ ก็ได้กลับมาหาอีก
มาคราวนี้ ไม่ได้มาถวายสังฆทาน แต่มีสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับข่าวดีว่า
ลูกของแกพ้นขีดอันตรายแล้ว  เฮ้อ  โล่งอก.............


Edited by กระต่ายหมายจันทร์, 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:39.

อย่าให้ความชั่วร้ายครอบงำเรา  จนไม่รู้จักผิดชอบดีชั่ว


#26 MIRO

MIRO

    Praise the Sun

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,883 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:56

คือ เรื่องธรรมดา..

 

 

ไปฟังพระท่านเทศน์ทีไร มีญาติโยมถามพระท่าน

ท่านจะตอบก่อนเลยว่า "ธรรมด๊าาาา.."

 

 

 


The most valuable things in life are not measured in monetary terms.

The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,

but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.


#27 หลวงประดิษฐ ดูมันทำ

หลวงประดิษฐ ดูมันทำ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 836 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:04

คือ "แนวคิด" ครับ ที่กลั่นออกมาเป็น "ผลลัพธ์" และผลลัพธ์ตรงนี้ จะนำไปสู่สังคม ที่จะเป็น "ข้อเสนอ"

ให้ประชาชนในสังคมเลือกว่า จะรับ หรือ ไม่รับ ในข้อเสนอนั้น


คนที่อยากเลือกตั้ง ก็ไม่ต่างอะไรกับ คนที่ต้องการมี เพศสัมพันธ์ ????? ต่อให้เค้ารู้ว่าเมื่อเลือกไปก็เกิดปัญหา

ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับกับการที่มีเพศสัมพันธ์ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า กำลัง อึ๊-บ ปี๊ กับคนที่เป็นเอดส์
 


#28 แม้ว ม.7

แม้ว ม.7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,237 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:04

ทางแห่งการดับทุกข์

ทุกข์แปลว่าทนอยู่สภาพเดิมยาก

คนเราทุกข์เพราะอยากให้ทุกสิ่งที่ใจตัวเองชอบคงอยู่กับตัวเอง ในทางตรงข้าม อยากให้สิ่งที่ไม่ชอบหมดไป

คนส่วนมากไม่รู้ว่าอะไรคือทุกข์ เพราะทุกข์มีทั้งหยาบและละเอียด

บางคนซับซ้อนกว่านั้นคือ จิตหลอกจิต

พระพุทธศาสนาสอนวิธีดับทุกข์ถาวรตลอดไป

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ” 

http://astv.mobi/AlgEYM7

แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"


#29 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:11

ความจริงอันประเสริฐ


บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#30 hinotori

hinotori

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,899 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:20

สำหรับผม

 

พุทธศาสนา คือ เหตุและผล ครับ

 

ทุกอย่างล้วนมีคำตอบเสมอ ว่า ทำอะไรแล้ว ได้อะไรไป ซึ่งเน้นไปที่ การหาสาเหตุของทุกข์ เพื่อดับทุกข์นั้น

 

และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแห่งทุกข์ขึ้นมาอีกครับ



#31 OSR

OSR

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,365 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:27

 

พระพุทธศาสนา คือการคลำช้างทั้งตัวแล้วบอกว่านี่คือช้างครับ ไม่ใช่คลำหางแล้วบอกช้าง คลำขาแล้วบอกช้าง คลำหูแล้วบอกช้าง เป๋็นต้น

ชอบความเห็นของคุณ @Live ครับ ด้วยความจริงใจ  

ผมชอบ พุทธศาสนา เพราะ พุทธเป็นวิทยาศาสตร์ ครับ

 

การค้นพบ ทฤษฏีควอนตัม ทำให้ พุทธศาสนา กับ วิทยาศาตร์ ใกล้ชิดกัน อย่างเหลือเชื่อ

ยิ่งนับวัน ยิ่งได้รับการตอบรับ จากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก จนแทบจะหมดข้อสงสัยกันแล้ว

จากผลการทดลอง ควอนตัม ยืนยันว่าจักรวาลไม่มี ทวิภาวะ ตรงกับ ที่พุทธศาสนาบอกเราว่า

ที่โน่น ที่นี่ ที่นั่น ไม่ได้มีอยู่จริง เวลา เป็นตัวการ ทำให้เกิด ทวิภาวะ ทวิภาวะ ทำให้เกิด มายา

มายา ทำให้เกิด ความหลง ความหลง ทำให้เกิด อวิชชา >>> วงจรปฎิจสมุทบาท

นักวิทยาศาตร์ งงมาก เหมือนโดนผีหลอก กับสภาพทวิภาวะ ที่มันสลับไปมาระหว่าง คลื่นกับอนุภาค

สรุป ควอนตัม ไม่เข้าใจเรื่อง ทวิภาวะ เลยได้ประโยชน์แค่เอาไปต่อยอด สร้างสิ่งประดิษฐุ์ต่างๆ

ส่วน พุทธศาสนา ไม่งงครับ ทุกอย่างอธิบายได้ อย่างแจ่มแจ้งทะลุปรุโปร่ง เจาจงฟันธงได้เลย

ว่า นาม-รูป นั่นแหละคือ ทวิภาวะ นั่นเอง ใครเข้าใจเรือง นาม-รูป ก็จะเข้าใจควอนตัวได้ไม่ยาก

เมื่อมีนามเป็น ผู้สังเกตุ สิ่งที่ถูกสังเกตุ ก็คือ รูป  ผู้สังเกตุคือ คลื่น สิ่งที่ถูกสังเกตุคือ อนุภาค

ถูก-ผิด ยังไง ผมมิบังอาจรับรองตัวเอง แค่แสดงความเห็นอย่างซื่อๆ ไม่ได้จำขี้ปากใครมา

ถ้า จขกท. เห็นว่า ความเห็นผมเป็น มิจฉาทิฐิ ก็ตักเตือนกันได้นะครับ ยินดีรับฟังครับ  :) 

 


Edited by OSR, 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:56.

หายจน ทั้งแผ่นดิน ด้วยการต่อต้าน นกม.ชั่ว และเอา ปตท กลับคืนมาเป็นของคนไทย


#32 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:36

ยอมรับว่าเป็นคนหยาบ ครับ ขออ่านอย่างเดียว  :)


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#33 แม้ว ม.7

แม้ว ม.7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,237 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:49

ยอมรับว่าเป็นคนหยาบ ครับ ขออ่านอย่างเดียว  :)


ทางด้านปริมาณกิเลส ผมกับท่านเราเท่ากัน

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ” 

http://astv.mobi/AlgEYM7

แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"


#34 kairyuramon

kairyuramon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 336 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:52

พระพุทธศาสนาคืออะไร สำหรับผมพระพุทธศาสนาคือศาสนาที่สอนถึงความจริงของธรรมชาติ

 

พุทธะแปละว่า รู้ ตื่น และเบิกบาน คนที่ศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของศาสนานี้ก็ควรจะมีลักษณะของความ รู้ ตื่น และเบิกบานด้วย

 

 

โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยสนใจนะว่าศาสนานี้คืออะไร แต่ผมคิดว่าศาสนานี้สอนอะไร และเราได้อะไรจากศาสนานี้บ้าง

 

ถ้าเรานับถือศาสนาพุทธ พอมีคนถามว่า คุณได้ประโยชน์อะไรจากศาสนานี้บ้าง ผมมองว่านี่แหละเป็นคำถามที่สำคัญ

 

เพราะถ้าบอกว่านับถือพุทธ แต่ว่าตั้งแต่เกิดจนตายยังไม่ได้ประโยชน์จากศาสนานี้อย่างจริงจังเลย ผมว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ไม่ได้นับถือศาสนา

 

เพราะศาสนี้ไม่สามารถให้ประโยชน์อะไรแก่ผู้ที่นับถือได้เลย

 

 

ถ้าถามผมว่า ผมได้ประโยชน์อะไรจากศาสนานี้บ้าง ผมก็จะบอกเลยว่าได้มามากมาย แต่สิ่งที่ผมซาบซึ้งที่สุดคือการบรรเทาทุกข์และสร้างปัญญา

 

มันเป็นสิ่งธรรมดาที่คนเราจะนึกถึงหมอเมื่อยามป่วย ผมก็นึกถึงธรรมะเมื่อผมทุกข์เหมือนกัน ถ้าปกติดีอยู่ผมก็มักจะหลงระเริงไปตามโลกทั่วไป

 

แต่ทุกครั้งที่ผมทุกข์ ผมก็จะกลับมามองธรรมะตลอด และสิ่งนี้ก็ให้คำตอบกับผมได้ สามารถบรรเทาทุกข์ได้ และบอกหนทางว่า ถ้าไม่อยากทุกข์ควรจะทำอะไร

 

สำหรับในแง่ปัญญาตัวผมอาจจะเห็นได้ไม่ชัดนัก แต่ว่าผมเห็นในคนที่บวชในศาสนานี้ครับ พระที่ผมเคารพมากคือหลวงปู่พุทธะอิสระ

 

ในทางโลกท่านจบไม่ถึงป.สี่ แต่ว่าปัญญาของท่านนั้นมีมากมาย ท่านรู้แทบทุกเรื่อง แก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง

 

และยิ่งเห็นชัดมากในการออกมาเป็นแกนนำทางการเมืองครั้งนี้ มันทำให้ผมคิดว่า เออ ถ้าเราศึกษาและปฏิบัติธรรมะของศาสนานี้

 

ซักวันหนึ่งเราก็อาจจะมีปัญญาได้แบบท่านบ้าง

 

 

เท่าที่ผมศึกษาและปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบันนี้ ผมเห็นสิ่งที่สำคัญคือสติครับ ความรู้ตัวนี่เป็นธรรมะที่ดูธรรมดา แต่ก็สำคัญมาก

 

ผมยังไม่รู้เลยว่าแค่ธรรมะข้อนี้ ถ้าผมใช้เวลาทั้งชีวิต ผมจะเรียนธรรมะข้อนี้ได้จบไหม แค่การมีสติตลอดเวลา มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว

 

การปฏิบัติธรรมที่ดีผมคิดว่ามันควรจะทำได้ตลอดเวลาครับ ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น ทำงาน เดิน วิ่ง นั่ง เราสามารถทำได้ตลอด

 

ผมคิดว่าคนที่เข้าถึงธรรมะจริง ๆ นั่งก็เป็นธรรมะ นอนก็เป็นธรรมะ ยืนก็เป็นธรรมะ นอนก็เป็นธรรมะ เขาไม่จำเป็นต้องท่องจำอะไร

 

เพราะทุกการกระทำของเขาแฝงไปด้วยธรรมะแล้ว

 

 

สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมด ผมก็ถ่ายทอดได้แต่ตัวอักษร สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าผมรู้อะไรครับ แต่ผมว่าสิ่งสำคัญคือ ตัวคุณเองรู้อะไร

 

ถ้าคิดว่าศาสนานี้ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ผมแนะนำว่าให้ลองศึกษาและปฏิบัติดูครับ ถ้าเปรียบธรรมะเป็นน้ำ อย่าเก็บไว้แต่ในขวดครับ

 

ลองหยิบเอามาดื่มบ้าง เมื่อลองดื่มดูแล้ว คุณจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า ธรรมะมันรสชาติอย่างไร คุณควรจะดื่มมันต่อ หรือว่าโยนมันทิ้งไป

 

มีแต่ตัวคุณเองเท่านั้นที่สัมผัสมันได้ครับ ขอให้ท่านมีความเจริญในธรรมครับ

 

 

ปล. เขียนออกนอกลู่นอกทางไปเยอะครับ ขออภัยที่ตอบหลุดประเด็นไปไกล


Edited by kairyuramon, 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:54.


#35 ชาวสวน

ชาวสวน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,095 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:54

สำหรับผม เรียกว่านิยามแล้วกัน คือ ความจริงตามธรรมชาติ พิสูจน์ได้แบบวิทยาศาสตร์   เป็นที่สุดของมนุษย์ ในทุกด้าน 

ครอบคลุมหลายศาสตร์ ประชาธิปไตย รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ หรือแม้แต่แพทย์ 

ใครๆก็เข้าถึงได้ ตั้งแต่ศีล๕ ยัน ธรรมชั้นสูง ปฏิบัติได้ง่าย แม้แค่ตั้งสติ หลักธรรมเพื่อยืดถือก็ครอบคลุม

ที่สำคัญ ทรัพย์สิน เงินทอง ไม่สำคัญเลย



---จากความรู้สึกของคนใกล้วัด แต่ห่างเหินมาซักพักใหญ่ ผิด ถูกประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้---

 



#36 bonnerr

bonnerr

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,158 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 00:15

www.watnapp.com



#37 น.นกฮูก

น.นกฮูก

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 10 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 00:43

เป็นคำถามที่ดีจริง ๆ 

 

พุทธศาสนา คือ ศาสนาของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

 

ถัาจะบอกว่า ศาสนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศาสนโคดมองค์ปัจจุบัน นี้ก็เหมือนกันทุก ๆ พระพุทธเจ้า 

ก็แสดงว่า พุทธศาสนา คือ มีเกิดมาก่อนนี้แล้ว และเป็นศาสนาที่สอนไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ลึกซึ้งกว่า เพราะว่า ไม่เพียงให้ศรัทธา แต่ให้ปฏิบัติเพื่อการวิมุติ หลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ ... 

 

จึงย้อนไปที่ พุทธศาสนา คือ ศาสนาของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เพราะว่ามีปัญญาเป็นจุดหมาย ถึงแปลว่า ผู้รู้ มีสมาธิที่ครองสติ สัมปชัญญะ ที่หมายความถึง ความตื่น ไม่หลับ ไม่หลงหลับต่อกิเลส อีกต่อไป และเบิกบานเมื่อหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งปวงแล้ว

 

นั่นแหลาะคือ พุทธศาสนา

ไว้แค่นี้นะ วันหน้าอาจจะได้คุยต่อ

 

ด้วยชื่นชอบคำถาม

 

น.นกฮูก



#38 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 00:53

ถ้าเอาตามประสบการณ์ชีวิตของผม

 

ขอตอบว่า 

“คือแนวคิดเชิงปรัชญา ที่สอนให้เห็นความจริงโดยการเปรียบเทียบ”

 

ซึ่งแน่นอนที่การตีความปรัชญา

ไม่อาจถูกตีความได้อย่างถูกต้องเสมอไป

ตามแต่ระดับสติปัญญา การวิเคราะห์ หรือแม้แต่ประสบการณ์

แต่ปรัชญาเชิงเปรียบเทียบ จะสามารถทำให้ประจักษ์ด้วยเหตุผล

ได้ชัดเจนไปกว่าการชี้นำตามเนื้อผ้า

หากเราสามารถตีความปรัชญาแห่งความจริงได้ถูกต้อง

 

เมื่อข้อสรุปออกมา

ความหมายทั้งหมดของพุทธศาสนาในความเห็นผม

หมายความถึง “ความจริง”

มี “ผล” เพราะมี “เหตุ”

มี “เหตุ” จึงมี “ผล” ตามมาครับ


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#39 dek-harte

dek-harte

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 162 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 03:39

พุทธศาสนา คือ ศาสนาหนึ่งที่มีเป้าหมายสูงสุด คือนิพพาน มีผู้เป็นศาสดาคือ พระพุทธเจ้า มีผู้สืบทอดคือพุทธบริษัท 4

พุทธศาสนา มีครบทั้ง เป้าหมายสูงสุด คำสอนเกี่ยวกับสิ่งนั้น และ วิธีปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดนั้น

พุทธศาสนา มีหลายระดับคำสอน ตั้งแต่พื้นฐานสำหรับชาวบ้าน จนถึงขั้นสูงสำหรับอธิบายธรรมอันละเอียด

 

พุทธศาสนาในประเทศไทย มีอิทธิพลของประเพณีและพิธีกรรมของศาสนาพราหมณ์ปนอยู่อย่างลึกซึ้ง

เป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนเองที่จะแยกแยะ ความปนนั้นและไม่นำเป้าหมายสูงสุดของทั้งสองมารวมกัน

พุทธศาสนาก็เหมือนศาสนาอื่นโดยทั่วไป ที่มีองค์ประกอบอื่นเพื่อการดำรงอยู่ของศาสนานั้นๆ อันไม่ใช่แก่น ไม่ใช่ส่วนแท้ ไม่ใช่ส่วนจริง

แต่การมีอยู่ก็เพื่อ การดำรงอยู่ของศาสนา เป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนเอง ที่จะแยกแยะ ว่าอันนี้เป็นเปลือก อันนี้เป็นแก่น

สิ่งนี้เพื่อประเพณี สิ่งนี้เพื่อความรวมกัน สิ่งนี้เพื่อดึงดูดบุคคลให้เข้ามาร่วมในศาสนา ฯลฯ

 

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มีวิธีการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นธรรมขั้นสูงสุด ที่เห็นได้จับต้องได้จริงในเวลาปัจจุบัน โดยไม่ต้องรอชีวิตหน้า

หลักธรรมสำคัญที่อธิบายโลก คือสามัญลักษณะ 3  อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

หลักธรรรมสำคัญที่อธิบายการเกิดทุกข์และการดับทุกข์คือ อริยสัจ 4 (ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ) ซึ่งคือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

หลักธรรมที่อธิบายความเป็นไปของชีวิต คือ ปฎิจจสมุปบาท (หลักแห่งการเกิดโดย เนื่องกัน มีผลแก่กันและกัน)

หลักธรรมที่ใช้ในการปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น ขั้นพื้นฐาน คืออินทรีย์ 5 พละ 5 ขั้นสูงคือโพชฌงค์ 7

หลักธรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวันคือ สติ (ซึ่งเป็นหนึ่งในอินทรีย์ 5 พละ 5)

 

พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่มีคำสอนแยกย่อย มากมายหลายแขนง บ้างอธิบายธรรม บ้างอธิบายโลก บ้างอธิบายสิ่งที่เหนือธรรมเหนือโลก

เป็นศาสนาที่มี ความลึก ความกว้าง ความละเอียดยิบย่อยมากมาย

หัวใจสำคัญของพุทธศาสนิกชนที่ต้องขวนขวายทำความเข้าใจ มีทั้ง 3 ด้านคือ ปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ

 

จากที่ทั้งศึกษาเองจากตำรา ทั้งปฏิบัติเอง งูๆปลาๆ พบว่า

หลักการปฏิบัติของพุทธศาสนานั้น ง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ละเอียดอ่อน ตรง เข้มงวด ไม่ผ่อนปรน ไม่ต่อรอง

เปรียบเทียบคล้ายการการถักลูกไม้ที่ละเอียด ซับซ้อน หลักการมีแค่ แทง ตะวัด รัด เกี่ยว แต่สามารถทอเป็นลูกไม้ที่มีความวิจิตรบรรจงอย่างยิ่งได้

ไม่ต่อรอง ไม่ผ่อนปรน ถ้ามัดผิด เกี่ยวผิดลูกไม้นั้นก็เกิดตำหนิ เกิดปม เกิดข้อพลาด ซึ่งโดยรวมแล้วอาจมองไม่เห็น แต่มันก็ยังมีอยู่

 

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของคนจริง พูดจริง ทำจริง ตั้งใจจริง ไม่ยอมอ่อนข้อ ไม่ยอมต่อรอง

เพื่อความจริงแท้ของชีวิตเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อธรรมลวงๆ ความสุขหลอกๆ

 

การศึกษาพุทธศาสนาแต่ทางคัมภีร์โดยไม่ปฏิบัติเลย ถือว่าผิดพลาดมาก เสียโอกาสมาก

การปฏิบัติเพียงเปลือกๆเล็กน้อยๆ แล้วไม่ใส่ใจนำมาใช้ในชีวิตประจำวันถือว่าประมาทมาก เสียโอกาสมาก

การปฏิบัติแล้วได้ผลแล้ว ไม่เข้าใจในผลของการปฏิบัติ ไม่นำผลนั้นไปใช้เพื่อศึกษาและปฏิบัติในขั้นสูงขึ้นไป ยิ่งเรียกว่าน่าเสียดายที่สุด

 

 

ไม่ต้องพูดถึงคนที่แค่เห็นเปลือกของพุทธศาสนา หรือเห็นแค่เหลือบไรของพุทธศาสนาแล้วก็เสื่อมศรัทธา หมดศรัทธา

โดยที่ยังไม่ได้ก้าวเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเลย (เรื่องนี้เป็นกับน้าชายตัวเองเลยครับ)

เขาเหล่านั้น ต้องขอเรียกว่าประมาทที่สุด น่าเสียดายที่สุดครับ

 

ขอบคุณครับ

 

* หมายเหตุ

ตัวผมเองก็ยังพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ทำสิ่งน่าเสียดายเหล่านั้น และไม่ได้หมายความว่าได้บรรลุแล้วซึ่งธรรมวิเศษใดๆนะครับ

ยังคงขวนขวายยังหาทางดับทุกข์ต่อไป โดยใช้พุทธศาสนานำทางครับ :)



#40 Tomhan Han

Tomhan Han

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 4 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 04:43

พระพุทธศาสนาคืออะไร สำหรับผมพระพุทธศาสนาคือศาสนาที่สอนถึงความจริงของธรรมชาติ
 
พุทธะแปละว่า รู้ ตื่น และเบิกบาน คนที่ศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของศาสนานี้ก็ควรจะมีลักษณะของความ รู้ ตื่น และเบิกบานด้วย
 
 
โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยสนใจนะว่าศาสนานี้คืออะไร แต่ผมคิดว่าศาสนานี้สอนอะไร และเราได้อะไรจากศาสนานี้บ้าง
 
ถ้าเรานับถือศาสนาพุทธ พอมีคนถามว่า คุณได้ประโยชน์อะไรจากศาสนานี้บ้าง ผมมองว่านี่แหละเป็นคำถามที่สำคัญ
 
เพราะถ้าบอกว่านับถือพุทธ แต่ว่าตั้งแต่เกิดจนตายยังไม่ได้ประโยชน์จากศาสนานี้อย่างจริงจังเลย ผมว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ไม่ได้นับถือศาสนา
 
เพราะศาสนี้ไม่สามารถให้ประโยชน์อะไรแก่ผู้ที่นับถือได้เลย
 
 
ถ้าถามผมว่า ผมได้ประโยชน์อะไรจากศาสนานี้บ้าง ผมก็จะบอกเลยว่าได้มามากมาย แต่สิ่งที่ผมซาบซึ้งที่สุดคือการบรรเทาทุกข์และสร้างปัญญา
 
มันเป็นสิ่งธรรมดาที่คนเราจะนึกถึงหมอเมื่อยามป่วย ผมก็นึกถึงธรรมะเมื่อผมทุกข์เหมือนกัน ถ้าปกติดีอยู่ผมก็มักจะหลงระเริงไปตามโลกทั่วไป
 
แต่ทุกครั้งที่ผมทุกข์ ผมก็จะกลับมามองธรรมะตลอด และสิ่งนี้ก็ให้คำตอบกับผมได้ สามารถบรรเทาทุกข์ได้ และบอกหนทางว่า ถ้าไม่อยากทุกข์ควรจะทำอะไร
 
สำหรับในแง่ปัญญาตัวผมอาจจะเห็นได้ไม่ชัดนัก แต่ว่าผมเห็นในคนที่บวชในศาสนานี้ครับ พระที่ผมเคารพมากคือหลวงปู่พุทธะอิสระ
 
ในทางโลกท่านจบไม่ถึงป.สี่ แต่ว่าปัญญาของท่านนั้นมีมากมาย ท่านรู้แทบทุกเรื่อง แก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง
 
และยิ่งเห็นชัดมากในการออกมาเป็นแกนนำทางการเมืองครั้งนี้ มันทำให้ผมคิดว่า เออ ถ้าเราศึกษาและปฏิบัติธรรมะของศาสนานี้
 
ซักวันหนึ่งเราก็อาจจะมีปัญญาได้แบบท่านบ้าง
 
 
เท่าที่ผมศึกษาและปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบันนี้ ผมเห็นสิ่งที่สำคัญคือสติครับ ความรู้ตัวนี่เป็นธรรมะที่ดูธรรมดา แต่ก็สำคัญมาก
 
ผมยังไม่รู้เลยว่าแค่ธรรมะข้อนี้ ถ้าผมใช้เวลาทั้งชีวิต ผมจะเรียนธรรมะข้อนี้ได้จบไหม แค่การมีสติตลอดเวลา มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว
 
การปฏิบัติธรรมที่ดีผมคิดว่ามันควรจะทำได้ตลอดเวลาครับ ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น ทำงาน เดิน วิ่ง นั่ง เราสามารถทำได้ตลอด
 
ผมคิดว่าคนที่เข้าถึงธรรมะจริง ๆ นั่งก็เป็นธรรมะ นอนก็เป็นธรรมะ ยืนก็เป็นธรรมะ นอนก็เป็นธรรมะ เขาไม่จำเป็นต้องท่องจำอะไร
 
เพราะทุกการกระทำของเขาแฝงไปด้วยธรรมะแล้ว
 
 
สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมด ผมก็ถ่ายทอดได้แต่ตัวอักษร สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าผมรู้อะไรครับ แต่ผมว่าสิ่งสำคัญคือ ตัวคุณเองรู้อะไร
 
ถ้าคิดว่าศาสนานี้ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ผมแนะนำว่าให้ลองศึกษาและปฏิบัติดูครับ ถ้าเปรียบธรรมะเป็นน้ำ อย่าเก็บไว้แต่ในขวดครับ
 
ลองหยิบเอามาดื่มบ้าง เมื่อลองดื่มดูแล้ว คุณจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า ธรรมะมันรสชาติอย่างไร คุณควรจะดื่มมันต่อ หรือว่าโยนมันทิ้งไป
 
มีแต่ตัวคุณเองเท่านั้นที่สัมผัสมันได้ครับ ขอให้ท่านมีความเจริญในธรรมครับ
 
 
ปล. เขียนออกนอกลู่นอกทางไปเยอะครับ ขออภัยที่ตอบหลุดประเด็นไปไกล



#41 Tomhan Han

Tomhan Han

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 4 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 05:09

ดู ก่อนภิกษุทั้งหลาย กายคตาสติ อันภิกษุเสพแล้วโดยมากเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นยานแล้ว ทำให้เป็นพื้นที่ตั้งแล้วให้ดำรงอยู่เนืองๆ แล้ว อบรมแล้วปรารภสม่ำเสมอดีแล้ว 
พึงหวังอานิสงส์ ๑๐ ประการนี้ คือ
(๑) อดกลั้นต่อความไม่ยินดีและความยินดีได้ ไม่ถูกความไม่ยินดีครอบงำ ย่อมครอบงำความไม่ยินดีที่เกิดขึ้นแล้วอยู่ด้วย ฯ
(๒) อดกลั้นต่อภัยและความหวาดกลัวได้ ไม่ถูกภัยและความหวาดกลัวครอบงำ ย่อมครอบงำภัยและความหวาดกลัว ที่เกิดขึ้นแล้วอยู่ด้วย ฯ
(๓) อดทน คือเป็นผู้มีปรกติอดกลั้นต่อความหนาว ความร้อนความหิว ความกระหายต่อสัมผัสแห่งเหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลาน ต่อทำนองคำพูดที่กล่าวร้าย ใส่ร้ายต่อเวทนาประจำ
สรีระที่เกิดขึ้นแล้ว อันเป็นทุกข์กล้า เจ็บแสบไม่ใช่ความสำราญ ไม่เป็นที่ชอบใจพอจะสังหารชีวิตได้ ฯ
(๔) เป็นผู้ได้ฌาน ๔ อันเกิดมีในมหัคคตจิต เครื่องอยู่สบายในปัจจุบันตามความปรารถนา ไม่ยาก ไม่ลำบาก 
(๕) ย่อมแสดงฤทธิ์ได้เป็นอเนกประการ คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ปรากฏตัวหรือหายตัวไปนอกฝา นอกกำแพง นอก ภูเขาได้ไม่ติดขัด เหมือนไปในที่ว่างก็ได้ ทำ
การผุดขึ้นและดำลงในแผ่นดิน เหมือนในน้ำก็ได้ เดินบนน้ำไม่แตกเหมือนเดินบนแผ่นดินก็ได้ เหาะไปในอากาศ โดยบัลลังก์เหมือนนกก็ได้ ลูบคลำพระจันทร์และพระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธิ์ มีอานุภาพมากปาน
ฉะนี้ ด้วยฝ่ามือก็ได้ ใช้อำนาจทางกายไปจนถึงพรหมโลกก็ได้ ฯ
(๖) ย่อมฟังเสียงทั้งสอง คือ เสียงทิพย์และเสียงมนุษย์ ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ได้ด้วยทิพยโสตธาตุ อันบริสุทธิ์ ล่วงโสตของมนุษย์ ฯ
(๗) ย่อมกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่น และบุคคลอื่นได้ ด้วยใจ คือจิตมีราคะก็รู้ว่าจิตมีราคะ หรือจิตปราศจากราคะก็รู้ว่าจิตปราศจากราคะ จิตมีโทสะก็รู้ว่าจิตมีโทสะ หรือจิตปราศจากโทสะก็รู้ว่าจิต
ปราศจากโทสะ จิตมีโมหะก็รู้ว่าจิตมีโมหะ หรือจิตปราศจากโมหะก็รู้ว่าจิตปราศจากโมหะ จิตหดหู่ก็รู้ว่าจิตหดหู่จิตฟุ้งซ่านก็รู้ว่าจิตฟุ้งซ่านจิตเป็นมหัคคตะก็ รู้ว่าเป็นมหัคคตะหรือจิตไม่เป็น มหัคคตะก็รู้ว่าจิต
ไม่เป็นมหัคคตะ จิตยังมีจิตอื่นยิ่งกว่าก็รู้ว่าจิตยังมีจิตอื่นยิ่งกว่าหรือจิตไม่มีจิต อื่นยิ่งกว่าก็รู้ว่าจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า จิตตั้งมั่นก็รู้ว่าจิตตั้งมั่นหรือ จิตไม่ตั้งมั่นก็รู้ว่าจิตไม่ตั้งมั่น จิตหลุดพ้นแล้วก็รู้ว่าจิตหลุดพ้น
แล้ว หรือจิตยังไม่หลุดพ้นก็รู้ว่าจิตยังไม่หลุดพ้น ฯ
(๘) ย่อมระลึกถึงขันธ์ ที่อยู่อาศัยในชาติก่อนได้เป็นอเนกประการ คือ ระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง สามชาติบ้าง สี่ชาติบ้าง ห้าชาติบ้าง สิบชาติ บ้าง ยี่สิบชาติบ้างสามสิบชาติบ้าง สี่สิบชาติบ้าง ห้าสิบชาติบ้าง ร้อยชาติบ้าง พันชาติบ้าง แสนชาติบ้างหลายสังวัฏกัปบ้าง หลายวิวัฏกัปบ้าง หลายสังวัฏ วิวัฏกัปบ้าง ว่าในชาติโน้น เรามีชื่ออย่างนี้ มีโคตรอย่างนี้ มีผิวพรรณอย่างนี้ มีอาหารอย่างนี้ เสวยสุขและทุกข์อย่างนี้ มีกำหนดอายุเท่านี้ เรานั้นเคลื่อนจากชาตินั้นแล้ว บังเกิดในชาติโน้น แม้ในชาตินั้น เราก็มีชื่ออย่างนี้มีโคตรอย่างนี้มีผิวพรรณอย่างนี้ มีอาหารอย่างนี้ เสวยสุขและทุกข์อย่างนี้ มีกำหนดอายุเท่านี้เรานั้นเคลื่อนจากชาตินั้นแล้ว จึงเข้าถึงในชาตินี้ ย่อมระลึกขันธ์ที่อยู่อาศัยในชาติก่อนได้เป็นอเนกประการ พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศ เช่นนี้ ฯ
(๙) ย่อมมองเห็นหมู่สัตว์กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีตมีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ฯลฯ ย่อมมองเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติกำลังอุปบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดีมีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมทราบชัดหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม เช่นนี้ ฯ
(๑๐) ย่อมเข้าถึงเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ทำให้แจ้งเพราะรู้ยิ่งด้วยตนเอง ในปัจจุบันอยู่ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายคตาสติอันภิกษุเสพแล้วโดยมากเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นยานแล้ว ทำให้เป็นพื้นที่ตั้งแล้ว ให้ดำรงอยู่เนืองๆ แล้วอบรมแล้ว ปรารภสม่ำเสมอดีแล้ว พึงหวัง
อานิสงส์ ๑๐ ประการได้ ดังนี้แล ฯ

 

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๔
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
หน้าที่ ๑๖๙/๔๑๓หัวข้อที่ ๓๑๕ - ๓๑๗
ดู ก่อนภิกษุทั้งหลาย กายคตาสติ อันภิกษุเสพแล้วโดยมากเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นยานแล้ว ทำให้เป็นพื้นที่ตั้งแล้วให้ดำรงอยู่เนืองๆ แล้ว อบรมแล้วปรารภสม่ำเสมอดีแล้ว 
พึงหวังอานิสงส์ ๑๐ ประการนี้ คือ
(๑) อดกลั้นต่อความไม่ยินดีและความยินดีได้ ไม่ถูกความไม่ยินดีครอบงำ ย่อมครอบงำความไม่ยินดีที่เกิดขึ้นแล้วอยู่ด้วย ฯ
(๒) อดกลั้นต่อภัยและความหวาดกลัวได้ ไม่ถูกภัยและความหวาดกลัวครอบงำ ย่อมครอบงำภัยและความหวาดกลัว ที่เกิดขึ้นแล้วอยู่ด้วย ฯ
(๓) อดทน คือเป็นผู้มีปรกติอดกลั้นต่อความหนาว ความร้อนความหิว ความกระหายต่อสัมผัสแห่งเหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลาน ต่อทำนองคำพูดที่กล่าวร้าย ใส่ร้ายต่อเวทนาประจำ
สรีระที่เกิดขึ้นแล้ว อันเป็นทุกข์กล้า เจ็บแสบไม่ใช่ความสำราญ ไม่เป็นที่ชอบใจพอจะสังหารชีวิตได้ ฯ
(๔) เป็นผู้ได้ฌาน ๔ อันเกิดมีในมหัคคตจิต เครื่องอยู่สบายในปัจจุบันตามความปรารถนา ไม่ยาก ไม่ลำบาก 
(๕) ย่อมแสดงฤทธิ์ได้เป็นอเนกประการ คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ปรากฏตัวหรือหายตัวไปนอกฝา นอกกำแพง นอก ภูเขาได้ไม่ติดขัด เหมือนไปในที่ว่างก็ได้ ทำ
การผุดขึ้นและดำลงในแผ่นดิน เหมือนในน้ำก็ได้ เดินบนน้ำไม่แตกเหมือนเดินบนแผ่นดินก็ได้ เหาะไปในอากาศ โดยบัลลังก์เหมือนนกก็ได้ ลูบคลำพระจันทร์และพระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธิ์ มีอานุภาพมากปาน
ฉะนี้ ด้วยฝ่ามือก็ได้ ใช้อำนาจทางกายไปจนถึงพรหมโลกก็ได้ ฯ
(๖) ย่อมฟังเสียงทั้งสอง คือ เสียงทิพย์และเสียงมนุษย์ ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ได้ด้วยทิพยโสตธาตุ อันบริสุทธิ์ ล่วงโสตของมนุษย์ ฯ
(๗) ย่อมกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่น และบุคคลอื่นได้ ด้วยใจ คือจิตมีราคะก็รู้ว่าจิตมีราคะ หรือจิตปราศจากราคะก็รู้ว่าจิตปราศจากราคะ จิตมีโทสะก็รู้ว่าจิตมีโทสะ หรือจิตปราศจากโทสะก็รู้ว่าจิต
ปราศจากโทสะ จิตมีโมหะก็รู้ว่าจิตมีโมหะ หรือจิตปราศจากโมหะก็รู้ว่าจิตปราศจากโมหะ จิตหดหู่ก็รู้ว่าจิตหดหู่จิตฟุ้งซ่านก็รู้ว่าจิตฟุ้งซ่านจิตเป็นมหัคคตะก็ รู้ว่าเป็นมหัคคตะหรือจิตไม่เป็น มหัคคตะก็รู้ว่าจิต
ไม่เป็นมหัคคตะ จิตยังมีจิตอื่นยิ่งกว่าก็รู้ว่าจิตยังมีจิตอื่นยิ่งกว่าหรือจิตไม่มีจิต อื่นยิ่งกว่าก็รู้ว่าจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า จิตตั้งมั่นก็รู้ว่าจิตตั้งมั่นหรือ จิตไม่ตั้งมั่นก็รู้ว่าจิตไม่ตั้งมั่น จิตหลุดพ้นแล้วก็รู้ว่าจิตหลุดพ้น
แล้ว หรือจิตยังไม่หลุดพ้นก็รู้ว่าจิตยังไม่หลุดพ้น ฯ
(๘) ย่อมระลึกถึงขันธ์ ที่อยู่อาศัยในชาติก่อนได้เป็นอเนกประการ คือ ระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง สามชาติบ้าง สี่ชาติบ้าง ห้าชาติบ้าง สิบชาติ บ้าง ยี่สิบชาติบ้างสามสิบชาติบ้าง สี่สิบชาติบ้าง ห้าสิบชาติบ้าง ร้อยชาติบ้าง พันชาติบ้าง แสนชาติบ้างหลายสังวัฏกัปบ้าง หลายวิวัฏกัปบ้าง หลายสังวัฏ วิวัฏกัปบ้าง ว่าในชาติโน้น เรามีชื่ออย่างนี้ มีโคตรอย่างนี้ มีผิวพรรณอย่างนี้ มีอาหารอย่างนี้ เสวยสุขและทุกข์อย่างนี้ มีกำหนดอายุเท่านี้ เรานั้นเคลื่อนจากชาตินั้นแล้ว บังเกิดในชาติโน้น แม้ในชาตินั้น เราก็มีชื่ออย่างนี้มีโคตรอย่างนี้มีผิวพรรณอย่างนี้ มีอาหารอย่างนี้ เสวยสุขและทุกข์อย่างนี้ มีกำหนดอายุเท่านี้เรานั้นเคลื่อนจากชาตินั้นแล้ว จึงเข้าถึงในชาตินี้ ย่อมระลึกขันธ์ที่อยู่อาศัยในชาติก่อนได้เป็นอเนกประการ พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศ เช่นนี้ ฯ
(๙) ย่อมมองเห็นหมู่สัตว์กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีตมีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ฯลฯ ย่อมมองเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติกำลังอุปบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดีมีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมทราบชัดหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม เช่นนี้ ฯ
(๑๐) ย่อมเข้าถึงเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ทำให้แจ้งเพราะรู้ยิ่งด้วยตนเอง ในปัจจุบันอยู่ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายคตาสติอันภิกษุเสพแล้วโดยมากเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นยานแล้ว ทำให้เป็นพื้นที่ตั้งแล้ว ให้ดำรงอยู่เนืองๆ แล้วอบรมแล้ว ปรารภสม่ำเสมอดีแล้ว พึงหวัง
อานิสงส์ ๑๐ ประการได้ ดังนี้แล ฯ

 

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๔
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
หน้าที่ ๑๖๙/๔๑๓หัวข้อที่ ๓๑๕ - ๓๑๗


http://touch.exteen..../20121213/entry

พระพุทธศาสนาคืออะไร สำหรับผมพระพุทธศาสนาคือศาสนาที่สอนถึงความจริงของธรรมชาติ
 
พุทธะแปละว่า รู้ ตื่น และเบิกบาน คนที่ศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของศาสนานี้ก็ควรจะมีลักษณะของความ รู้ ตื่น และเบิกบานด้วย
 
 
โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยสนใจนะว่าศาสนานี้คืออะไร แต่ผมคิดว่าศาสนานี้สอนอะไร และเราได้อะไรจากศาสนานี้บ้าง
 
ถ้าเรานับถือศาสนาพุทธ พอมีคนถามว่า คุณได้ประโยชน์อะไรจากศาสนานี้บ้าง ผมมองว่านี่แหละเป็นคำถามที่สำคัญ
 
เพราะถ้าบอกว่านับถือพุทธ แต่ว่าตั้งแต่เกิดจนตายยังไม่ได้ประโยชน์จากศาสนานี้อย่างจริงจังเลย ผมว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ไม่ได้นับถือศาสนา
 
เพราะศาสนี้ไม่สามารถให้ประโยชน์อะไรแก่ผู้ที่นับถือได้เลย
 
 
ถ้าถามผมว่า ผมได้ประโยชน์อะไรจากศาสนานี้บ้าง ผมก็จะบอกเลยว่าได้มามากมาย แต่สิ่งที่ผมซาบซึ้งที่สุดคือการบรรเทาทุกข์และสร้างปัญญา
 
มันเป็นสิ่งธรรมดาที่คนเราจะนึกถึงหมอเมื่อยามป่วย ผมก็นึกถึงธรรมะเมื่อผมทุกข์เหมือนกัน ถ้าปกติดีอยู่ผมก็มักจะหลงระเริงไปตามโลกทั่วไป
 
แต่ทุกครั้งที่ผมทุกข์ ผมก็จะกลับมามองธรรมะตลอด และสิ่งนี้ก็ให้คำตอบกับผมได้ สามารถบรรเทาทุกข์ได้ และบอกหนทางว่า ถ้าไม่อยากทุกข์ควรจะทำอะไร
 
สำหรับในแง่ปัญญาตัวผมอาจจะเห็นได้ไม่ชัดนัก แต่ว่าผมเห็นในคนที่บวชในศาสนานี้ครับ พระที่ผมเคารพมากคือหลวงปู่พุทธะอิสระ
 
ในทางโลกท่านจบไม่ถึงป.สี่ แต่ว่าปัญญาของท่านนั้นมีมากมาย ท่านรู้แทบทุกเรื่อง แก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง
 
และยิ่งเห็นชัดมากในการออกมาเป็นแกนนำทางการเมืองครั้งนี้ มันทำให้ผมคิดว่า เออ ถ้าเราศึกษาและปฏิบัติธรรมะของศาสนานี้
 
ซักวันหนึ่งเราก็อาจจะมีปัญญาได้แบบท่านบ้าง
 
 
เท่าที่ผมศึกษาและปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบันนี้ ผมเห็นสิ่งที่สำคัญคือสติครับ ความรู้ตัวนี่เป็นธรรมะที่ดูธรรมดา แต่ก็สำคัญมาก
 
ผมยังไม่รู้เลยว่าแค่ธรรมะข้อนี้ ถ้าผมใช้เวลาทั้งชีวิต ผมจะเรียนธรรมะข้อนี้ได้จบไหม แค่การมีสติตลอดเวลา มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว
 
การปฏิบัติธรรมที่ดีผมคิดว่ามันควรจะทำได้ตลอดเวลาครับ ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น ทำงาน เดิน วิ่ง นั่ง เราสามารถทำได้ตลอด
 
ผมคิดว่าคนที่เข้าถึงธรรมะจริง ๆ นั่งก็เป็นธรรมะ นอนก็เป็นธรรมะ ยืนก็เป็นธรรมะ นอนก็เป็นธรรมะ เขาไม่จำเป็นต้องท่องจำอะไร
 
เพราะทุกการกระทำของเขาแฝงไปด้วยธรรมะแล้ว
 
 
สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมด ผมก็ถ่ายทอดได้แต่ตัวอักษร สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าผมรู้อะไรครับ แต่ผมว่าสิ่งสำคัญคือ ตัวคุณเองรู้อะไร
 
ถ้าคิดว่าศาสนานี้ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ผมแนะนำว่าให้ลองศึกษาและปฏิบัติดูครับ ถ้าเปรียบธรรมะเป็นน้ำ อย่าเก็บไว้แต่ในขวดครับ
 
ลองหยิบเอามาดื่มบ้าง เมื่อลองดื่มดูแล้ว คุณจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า ธรรมะมันรสชาติอย่างไร คุณควรจะดื่มมันต่อ หรือว่าโยนมันทิ้งไป
 
มีแต่ตัวคุณเองเท่านั้นที่สัมผัสมันได้ครับ ขอให้ท่านมีความเจริญในธรรมครับ
 
 
ปล. เขียนออกนอกลู่นอกทางไปเยอะครับ ขออภัยที่ตอบหลุดประเด็นไปไกล



#42 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 05:51

 

พุทธศาสน์ พุทธศาสนา คือตำรา สิ่งสืบทอดกันมาของผู้รู้ ผู้ตื่น
ไสยศาสน์ คือตำรา ความรู้ อันหลับไหล มืดบอด
ธรรมะ คือ ธรรมชาติ
     อยากฝากเรื่องสังฆทานซะหน่อย ไหนๆก้อเข้าเรื่องแล้ว
เมื่อเราถวายสังฆทาน แล้วกล่าว"อิมานิ มะยังฯลฯ" คนส่วนใหญ่จะถวายแก่พระเป็นรูปๆไป
พระที่รับไป ส่วนใหญ่ก้อรับมาเก็บไว้ผู้เดียว หารู้ไม่ว่า คำอุทิศนั้น
เขาให้แด่พระสงฆ์ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงแก่ผู้ใด พระสงฆ์สามารถใช้สอยสิ่งนั้นได้
ถ้าเก็บไว้เพียงผู้เดียว เท่ากับเบียดบังของสงฆ์ 
ถ้าจะให้แก่พระรูปใด เจาะจงเฉพาะรูป  เรียกว่า  ปาฎิบุคลิกทาน ไม่ต้องมีพิธีไรมากมาย
   หลวงพี่ทั้งหลาย อย่าเอาของสงฆ์มาเก็บไว้ให้รกกุฏิเลย เอามาตั้งแจกเขาบ้างนะ 
 
ปล.  อาวุโส กับ ภัณเต ใครแก่กว่ากัน? :)

พูดถึงการถวายสังฆทานแล้ว  ทำให้นึกถึงอดีตเมื่อ ๖-๗ ปีก่อน
ตอนนั้นบวชโครงการในหลวง ๘๐ พรรษา เฉลิมพระเกียรติพอดี
จำพรรษาอญู่วัดที่ใหญ่พอควร วัดนี้มีลาภสักการะมากพอสมควร
เนื่องจากอยู่ในเขตเมืองที่เจริญ วันหนึ่งหลังจากที่ได้ฉันเพลก่อน
เรียนภาคบ่าย ตอนกลับกุฏิเห็นโยมผู้ชายผู้หญิงสามีภรรยาคู่หนึ่ง
ตรงมาหาผม ผมจึงได้ถามว่ามาทำไม เขาทั้งสองก็ตอบว่า ตั้งใจ
จะมาถวายสังฆทาน เจอท่านก็ดีแล้ว ขอนิมนต์ท่านเลย ตอนนั้น
ไม่ได้คิดอะไรจึงบอกให้ไปรอที่ศาลาวิหารสักห้านาที เดี๋ยวจะตามไป
พอไปถึงก็รับสังฆทาน  ให้โยมกรวดน้ำจากนั้นก็ให้พรตามพิธีการ
แต่พอเสร็จพิธี สังเกตได้ว่าสองคนนี้หน้าตาอมทุกข์มากๆ จึงได้
เลียบๆเคียงๆถามว่า บ้านอยู่ไหน สองคนนั้นก็ตอบว่าอยู่ อ.สอยดาว
จากนั้นก็ถามต่อว่าทำอาชีพอะไร เขาก็ตอบว่าทำสวนยางพาราและ
กรีดยางเองประมาณ๓๐ ไร่ ผมก็เลยหยอดไปว่าคงพอมีตังส์นะ
สองคนก็ตอบว่าก็ไม่เดือดร้อน ไม่มีหนี้สินอะไร ทีนี้ก็เลยยิงคำถาม
ไปอีกว่า แล้วโยมมาถวายสังฆทานทำไม ฝ่ายผู้หญิงทำท่าจะร้องไห้
ผู้ชายตอบว่า ตอนนี้ลูกผมป่วยหนักอยุู่ห้องไอซียู มีคนแนะนำให้มา
ถวายสังฆทานครับ ถึงตอนนี้ผมก็เลยเอากระดาษเอสี่มาให้คนละแผ่น
แล้วบอกให้ฝ่ายสามีไปหยิบหนังสือมนต์พิธีมา บอกให้ทั้งคู่เปิดไปที่
หน้า ๗๗ แล้วบอกให้คนทั้งสองจดบทสวดโพชฌงค์ เมื่อจดเสร็จ
ก็ได้กำชับว่าให้เอาบทสวดนี้ไปสวดให้ลูกของคุณฟังเถิด ทั้งสองคน
ได้ฟังดังนั้น ก็แย้งขึ้นมาว่า ผมจะสวดได้ไงไม่ได้บวชเป็นพระซะหน่อย
มันจะขลังเหรอ ผมก็เลยบอกไปว่า โยมจำไว้อย่างหนึ่งนะ พ่อแม่ถือเป็น
พระอรหันต์ของลูก ฉะนั้นสิ่งที่พ่อแม่ทำให้ลูกย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์เสมอ
สองคนนั้นก็ลากลับไป ยอมรับเลยว่าไม่รู้คิดผิดหรือคิดถูกที่ทำแบบนี้
ตอนนั้นรู้แต่เพียงว่าคนที่มาถวายสังฆทานส่วนใหญ่มีทุกข์มาให้พระแก้
แทบทั้งสิ้น  สำคัญแต่เพียงว่าคนเป็นพระจะแก้ถูกหรือแก้ผิดเท่านั้น
สำหรับตัวผมแล้วเมื่อมีคนมาถวายสังฆทานทุกครั้ง ผมจะไปมอบให้เป็น
ของกลางสำหรับสงฆ์ทุกครั้ง ส่วนปัจจัยก็เอาไว้ใช้บ้างตามอัตภาพ อ้อ
หลังจากที่คนคู่นั้นกลับไปแล้วประมาณ ๒ สัปดาห์ ก็ได้กลับมาหาอีก
มาคราวนี้ ไม่ได้มาถวายสังฆทาน แต่มีสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับข่าวดีว่า
ลูกของแกพ้นขีดอันตรายแล้ว  เฮ้อ  โล่งอก.............

 

 

^_^  ถ้าตามพุทธวจน... นะขอรับ

 

สังฆทานมีอานิสงค์มากยิ่งกว่าให้ทานต่อพระศาสดาโดยตรง ทั้งนี้ทานนั้น... ต้องถึงแก่ผู้สมควรได้รับทานนั้นๆขอรับ... พระศาสดาตรัสถึงทานว่าผู้ห้ามผู้อื่นให้ทานนั้นไม่ใช่มิตร แม้เพียงคิดเทเศษน้ำล้างหม้อลงทางน้ำโสโครกเพราะหวังให้สัตว์ในนั้นได้กิน... นั่นยังเป็นทางมาแห่งบุญ... ไฉนเลยจะกระทำกับมนุษย์ด้วยกัน... แต่การทำทานมีผลทั้งผู้ให้และผู้รับ เปรียบเหมือนหากเราทำทานกับโจรทุศีล นั่นย่อมเป็นการบำรุงโจรให้เติบใหญ่ แข็งแรง... คนดี มีศีลก็ต้องนั่งนิ่งก้มหน้าคอตก ซบเซาในท่ามกลางหมู่โจรทุศีลนั้น... หรือหลีกหนีจากที่นั้นๆไป (ในยุคนี้ หลายๆตัวอย่างทั้งทางการเมืองและศาสนาน่าจะเห็นชัดในกรณีนี้ที่สุดนะขอรับ...) 

 

... ทานที่มีผลใหญ่ และอานิสงค์ใหญ่คือ... ละความตระหนี่...

... ทานอันเป็นมหาทานชั้นเลิศคือ... ศีล 5...

... กุศลอันสูงสุดยิ่งกว่าทำทานแก่พระศาสดา, สังฆทาน, สร้างที่พักอาศัยให้ภิกขุคือ... อานาปานสติเพียงครั้งเดียว...

... การกระทำเมตตาจิตเพียงชั่วสูดดมของหอม ยังมีอานิสงค์มากกว่าสร้างที่พักอาศัยให้ภิกขุ...

... การแผ่เมตตาจิตที่ได้ผลคือ... ทำจิตให้ปราศจากนิวรณ์ 5...

... สมบัติที่แท้จริงของสัตว์ทั้งหลายที่ติดตัวไปตลอดสังสารวัฏคือ... กุศล และอกุศล...

... กรรมดำมีผลดำ (นรก, กำเนิดเดรัจฉาน) กรรมขาวมีผลขาว (สุคติ, โลก, สวรรค์) กรรมไม่ดำไม่ขาว มีผลไม่ดำไม่ขาว (นิพพาน)...

 

... การกรวดน้ำ... ไม่มีในพุทธบัญญัติขอรับ...

 

:)


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#43 my_extra

my_extra

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 19 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 07:30

ยูเอ็น (UN) ประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก...แต่คนไทยผู้ที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นเจ้าของกลับเฉย ๆ ...แต่ไปตื่นเต้นกับวันคริสมัส วาเลนไทน์ ฮาโลวีน..ช่างแปลกดีแท้



#44 A DESIGN FOR LIFE

A DESIGN FOR LIFE

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 273 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:32

สำหรับผม พุทธศาสนาสอนให้เราละความยึดมั่นถือมั่น ซึ่งทำให้ละความทุกข์ไปได้มากหลาย อืนๆเช่นวัดวาพิธีกรรมล้วนเป็นเครื่องมือช่วยให้เราละความยึดถือครับ

#45 kritz

kritz

    เกรียนบอร์ด

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,388 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:35

 

ถ้าให้เราตอบนะ

สั้นๆ

คือ ธรรมชาติ

 

เดี๋ยว พวกที่อ้างอิงคัมภีร์ก็ไม่เห็นด้วยอีก

(ค ห ส ต)

:)

 

หลวงพี่ตอบได้ตรงกับที่กระผมได้เรียนรู้มาจริงๆ ขอรับ ...สาธุ



#46 ma_ya

ma_ya

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 178 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:30

พระพุทธองค์สอนว่า

การเกิด เป็นทุกข์
ความแก่ เป็นทุกข์
ความตาย เป็นทุกข์
ความโศกเศร้า เป็นทุกข์
พบกับสิ่งที่ไม่ชอบ เป็นทุกข์
พลัดพรากจากสิ่งที่ชอบ เป็นทุกข์
อยากสิ่งไหน ไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์

ทั้งนี้ เพราะคนเรามีตัณหา คือ อยากมี อยากเป็น อยากพ้น
คนเรามีความยึดมั่นถือมั่นในตัวในตน ยังมีโลภ โกรธ หลง จึงไม่พ้นทุกข์เสียที

พ้นทุกข์ที่แท้จริงซึ่งพระพุทธองค์สอนไว้ คือ นิพพาน

ทำอย่างไรเล่าจึงจะไปให้ถึงพระนิพพานได้
พระพุทธองค์ได้ให้แนวทาง 8 ข้อ คือ อริยมรรค ให้ไปถึงจุดนั้น ใน 8 ข้อนี้ สรุปคือ ศีล สมาธิ ปัญญา

ละซึ่งสิ่งที่ควรละ คือต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง
ทำในสิ่งที่ควรทำ คือทำให้เกิดปัญญา รู้แจ้งพระไตรลักษณ์ รู้แจ้งในอริยสัจ ไปให้ถึงจุดนั้น

ลมสุริยะ เรียบเรียง

ความเห็นของผมเหมือนท่านลมสุริยะเลยครับ แต่ขออธิบายเพื่มเติมเกี่ยวกับที่มาของความคิดเห็นว่าพุทธศาสนาคืออะไร

จากที่พระพุทธองค์ทรงประสูติมาในวรรณะสูงส่งอีกทั้งยังเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่ท่านก็ยังมีทุกข์

ซึ่งเกิดมาจาก การเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ถึงแม้จะมีแต่กรรมดีที่สะสมมาตั้งแต่ชาติบางก่อนก็ตาม

ยิ่งพอได้เห็น การเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ของคนอื่นและมองว่าเป็นทุกข์น่าสงสาร

แล้วทุกข์เกิดจากอะไรจึงค้นหาวิธีการดับทุกของคนทั้งหลายเพื่อให้พ้นทุกข์

นับว่าเป็นสิ่งประเสริฐที่สุดที่ทำให้ผู้คนทั้งโลกโดยการเสียสละความสุขส่วนตัว      (นมัสการพระพุทธ)

 

 

เมื่อพระพุทธองค์ทรงรู้ว่าอะไรคือสาเหตุและจะดับทุกข์ได้อย่างไร(ตรัสรู้)

ก็ได้สั่งสอนบอกต่อถึงวิธีการนั้นเพื่อให้ไปสู่นิพพาน ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย

ให้กับคนอื่นให้พ้นทุกข์โดยที่เราเรียกว่าพระธรรม

และข้อปฏิบัติตนต่างๆหรือพระวินัย                                                                    (นมัสการพระธรรม)

 

 

พระสงฆ์คือผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนหรือพระธรรมเพื่อต้องการให้ตนเองพ้นทุกข์

และเผยแพร่วีธีการพ้นทุกข์ของพระพุธองค์ให้ทุกคนบนโลกได้ปฏิบัติ                    (นมัสการพระสงฆ์)


1187400.jpg


#47 ทรงธรรม

ทรงธรรม

    ต่อให้ต้องเรียนจนแก่ ก็จะเรียนต่อไป คนเราพัฒนาได้ทุกคน

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,157 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:41

ไม่ได้ มาตอบคำถาม พี่ตะนิ่น นะ

 

แต่มาโอดครวญ

 

 

คือ ช่วงนี้ ผมยอมรับเลย ว่า

 

เป็นช่วงที่ กิเลส รุมเร้าผมมาก ๆ เลย

 

ก็ไม่ปิดบังแล้วกัน ผมกำลัง ระงับตัณหา

 

ของตัวเอง ผมบอกไม่อายเลย

 

 

ว่าผมกำลังอยากตัดขาด จากมันมาก ๆ

 

มันทำให้ผม รู้สึกตัวเองตกต่ำ

 

ที่เช้า ๆ ต้องมาเปิดอ่าน เรื่อง..... อย่างว่า

 

เพื่อสนองตัณหา ให้ตัวเอง

 

 

หรือไม่ ก็ดูรูป วิตถาร

 

นั่นแหละ ผมพยายาม ที่จะไม่ทำมัน นะ

 

แต่ผมก็อ่อนแอ เกินไปมั้ง

 

 

จริง ๆ ผมว่า ถ้าผมตัดมันได้ ไม่หมด นะ

 

มันจะชักนำ ผมไปสู่ กิเลส อื่น ๆ อีกมาก

 

ผมพยายามจะตัดมัน จนผมเครียด เลย

 

 

ผมหงุดหงิด ตัวเอง ที่อ่อนแอ เกินไป

 

ผมเลย ไปอารมณ์เสีย ใส่ คนที่ไปรษณีย์

 

เพียงเพราะ คิวมันรวน นิดหน่อย

 

 

นี่ไง ถ้าคนเรา ใจไม่เข้มแข็ง

 

ก็ทำร้ายตัวเอง แบบนี้

 

ผมพยายาม อย่างมาก ที่จะทำใจให้สงบ นะ

 

 

แต่พอ เวลาไม่คิดอะไร นาน ๆ เข้า

 

ความรู้สึก เบื่อ เข้ามาแทนที่

 

พอถึงจุดที่ เป็นอยู่นี้ นานสักหน่อย

 

ผมก็จะ ควานหา กิเลส อีกแล้ว

 

 

ผมเกลียดตัวเอง จนไม่อยาก

 

เกิดเป็นคน อีกเลย ผมอยาก

 

ออกไปจากชีวิต ที่เป็นอยู่

 

ถ้าผมไม่ต้องเกิดมา เป็นสิ่งมีชีวิต

 

อีกก็คงจะดี ผมคิดแบบนี้ มาตลอดเลย

 

 

หลวงพี่ กีรเต้ หรือ พี่ตะนิ่น

 

ช่วยผมที พาผมหลุดจาก กองกิเลส

 

นี้หน่อยได้ไหม ผมอยากเป็น คนที่สมบูรณ์

 

ผมไม่อยาก เวียนว่ายตายเกิด อีกแล้ว

 

ผมรู้สึก อยากไปอยู่ที่ ๆ ห่างไกล

 

ที่ ๆ ไม่มีอะไร จะมาชักนำ ผมไปในทางที่ตกต่ำ

 

 

มันจะเป็นไปได้ไหม อะครับ


  • OSR likes this

ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ

 

PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract

 

FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query  FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY


#48 จีรนุช

จีรนุช

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,934 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:43

พระพุทธเจ้าตายได้ไม่กี่วัน  สาวกยังทะเลาะกันจนต้องชำระพระธรรมกันไหม่  พระธรรมลึกซึ้งเกินที่มนุษย์กิเลศหนาจะเข้าถึงง่ายๆ  :lol: 


รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ

เอียนวะ   เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง


#49 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:49

 

 

หลวงพี่ กีรเต้ หรือ พี่ตะนิ่น

 

ช่วยผมที พาผมหลุดจาก กองกิเลส

 

นี้หน่อยได้ไหม ผมอยากเป็น คนที่สมบูรณ์

 

ผมไม่อยาก เวียนว่ายตายเกิด อีกแล้ว

 

ผมรู้สึก อยากไปอยู่ที่ ๆ ห่างไกล

 

ที่ ๆ ไม่มีอะไร จะมาชักนำ ผมไปในทางที่ตกต่ำ

 

 

มันจะเป็นไปได้ไหม อะครับ

 

เคยอ่านมาว่า ทุกๆครั้งที่เราเจอปัญหา ให้เดินออกจากจุดนั้นออกมาสักพัก ผ่อนคลายอารมณ์ แล้วค่อยกลับเข้าสู่จุดหรือที่เราอยู่เดิมครับ :)


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 





ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน