http://www.komchadlu...อกยุทธอ้าง.html 'ปู'ปัดไปโฟร์ซีซั่นตาม'เอกยุทธ'อ้าง "ยิ่งลักษณ์" แจงไม่ได้ไปประชุมที่รร.โฟร์ซีซั่นตามที่ "เอกยุทธ" กล่าวหา บอกเป็นนายกฯมีสิทธิไปเจอกับใครก็ได้ ยันเป็นผู้หญิงไม่ทำเรื่องเสียหาย ด้าน "เฉลิม"แถลงโชว์ภาพซีซีทีวีโต้ท้าแจ้งความ แต่รับ "ปู" ไปโรงแรมนี้จริง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 ก.พ. น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกล่าวหาของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ และเป็นเจ้าของเว็ปไซด์ไทยอินไซเดอร์ว่า ไม่มีอะไร รายละเอียด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงไปแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติไม่มีอะไรจริง ๆ
เมื่อถามว่าตกลงเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีไปประชุมอะไรที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นหรือไม่ น.ส.
ยิ่งลักษณ์ กล่าววา ไม่ได้ไปประชุมแต่ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็สามารถเจอกับใครก็ได้ ที่สำคัญไปในสถานที่ที่เปิดเผยและไม่ได้เสียหายด้วย เมื่อถามว่าแต่สิ่งที่นายเอกยุทธออกมาพูดทำให้เสียหายจะดำเนินการอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าว่า "ดิฉันก็จะอดทนคะ เชื่อว่าผู้ที่ฟังอยู่ก็คงจะพิจารณาเอง เราเองเราเป็นผู้หญิง ก็ยืนยันว่าไม่ทำอะไรเสียหายหรอกค่ะ"
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 ก.พ. น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกล่าวหาของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ และเป็นเจ้าของเว็ปไซด์ไทยอินไซเดอร์ว่า ไม่มีอะไร รายละเอียด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงไปแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติไม่มีอะไรจริง ๆ
เมื่อถามว่าตกลงเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีไปประชุมอะไรที่โรงแรมโฟร์ซีซันหรือไม่ น.ส.
ยิ่งลักษณ์ กล่าววา ไม่ได้ไปประชุมแต่ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็สามารถเจอกับใครก็ได้ ที่สำคัญไปในสถานที่ที่เปิดเผยและไม่ได้เสียหายด้วย เมื่อถามว่าแต่สิ่งที่นายเอกยุทธออกมาพูดทำให้เสียหายจะดำเนินการอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าว่า "ดิฉันก็จะอดทนคะ เชื่อว่าผู้ที่ฟังอยู่ก็คงจะพิจารณาเอง เราเองเราเป็นผู้หญิง ก็ยืนยันว่าไม่ทำอะไรเสียหายหรอกค่ะ"
"เฉลิม"แถลงโชว์ภาพซีซีทีวีโต้ท้าแจ้งความ แต่รับ "ปู" โรงแรมนี้ไปจริง ด้านร.ต.อ.เฉลิม กล่าวโต้นายเอกยุทธโดยนำภาพซีซีทีวีของโรงแรมที่บันทึกภาพมุมต่างๆมาประกอบด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มอบหมายให้ตนตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีนี้ ตนไปทำการบ้านนี้เมื่อเย็นวันที่ 9 ก.พ. โดยได้เรียกตำรวจและฝ่ายเกี่ยวข้องมาสอบถามและได้ข้อเท็จจริงพอสมควร คดีนี้แม้นายเอกยุทธไม่ได้ร้องทุกข์ดำเนินคดีแต่ตำรวจมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะเป็นคดีอาญาแผ่นดินที่ยอมความกันไม่ได้ ตนขอสรุปเหตุการณ์ว่านายเอกยุทธเข้าไปโรงเเรมนี้ช่วงเวลา 14.00 น.เศษ ของวันที่ 8 ก.พ.และนั่งในล็อบบี้โรงแรม จากนั้นไปนั่งที่ร้านปาริชาต ซึ่งมีบุคคลระดับสูงในสังคมมานั่งที่นี่กันมาก และตนก็เคยไปนั่งที่นี่บ่อย รวมทั้งเคยพบนายเอกยุทธที่นี่ด้วย
รองนายกฯ กล่าวว่า ช่วงที่นายเอกยุทธนั่งโต๊ะประจำในร้านนี้คือเวลา 15.33 น .ตามที่ซีซีทีวีบันทึกไว้ด้านซอยมหาดเล็กหลวง 1 โดยคนร้ายเข้ามาทางประตูของโรงแรมนี้ เวลา 15.40 น. ซีซีทีวีบันทึกภาพคนร้ายกับชายที่สวมชุดซาฟารีที่เดินผ่านล็อบบี้โรงแรม ชายสวมที่ซาฟารีพาคนร้ายไปดูตัวนายเอกยุทธ จากนั้นสองคนนี้แยกกันโดยคนร้ายเดินไปในร้านนี้ก่อนและชายสวมชุดซาฟารีเดินตามหลังมา สรุปว่าคนร้ายไม่รู้จักนายเอกยุทธแต่มีชายสวมชุดซาฟารีชี้เป้า ต่อมานายเอกยุทธถูกทำร้ายเวลา 16.20 น. เพราะซีซีทีวีด้านประตูซอยมหาเล็กหลวง1 บันทึกภาพคนร้ายที่วิ่งออกไปทางนี้และบอดี้การ์ดของนายเอกยุทธวิ่งไล่ตาม พยานในเหตุการณ์เล่าว่าบอดี้การ์ดนายเอกยุทธ 3 คนคล้ายจะดึงวัตถุบางอย่างจากเอวขึ้นมา โดยไม่ทราบว่าเป็นอะไรแต่จากความเป็นตำรวจของตนคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธ
“สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น นายเอกยุทธพยายามพาดพิงให้นายกฯเสียหาย นายกฯไปโรงแรมนี้ ในเวลา 14.00 น.จากนั้น 15.30 น. นายกฯก็กลับจากโรงแรมนี้ และมีรปภ.ที่เป็นตำรวจหญิงกว่าร้อยละ90 และตำรวจชายที่สวมชุดสูทดำชื่อหนุ่ย ซึ่งเคยดูแลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาก่อน วิธีการรปภ.นั้น ต้องมีส่วนล่วงหน้า ส่วนหน้าลิฟท์ ส่วนในลิฟท์ ส่วนออกจากลิฟท์ เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากนายกฯกลับแล้ว หากจะเข้าใจว่าเป็นการลงมือของรปภ.ของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีรปภ.และขณะนี้ก็อยู่กรุงปักกิ่งประเทศจีน หากจะเข้าใจว่าเป็นฝีมือรปภ.ของน.ส.
ยิ่งลักษณ์ เมื่อนายกฯกลับ รปภ.ก็ต้องกลับด้วย นายเอกยุทธพูดเองว่าคนที่ลงมือทำร้ายนั้นใส่กางเกงยีนส์ตรงนี้มันขัดกัน
แต่เรื่องนี้จะไม่ตัดประเด็นว่าหากนายเอกยุทธไปแจ้งความ เพราะน่าจะจำรูปพรรณสันฐานของคนร้ายได้ ตำรวจจะสืบสวนสอบสวนได้ง่าย และจะได้สเก็ตภาพเพราะนายเอกยุทธบาดเจ็บที่คิ้วขวา ใครที่ทำผิดจับหมด แต่กล่าวหาแบบลอยๆว่ารัฐบาลนี้ไม่ชอบนายเอกยุทธนั้น ไม่มีหรอก นายเอกยุทธไม่มีอะไรที่รัฐบาลจะไม่ชอบและไม่มีราคาเพียงพอที่รัฐบาลต้องไปทำร้าย เพราะรัฐบาลนี้ชนะเลือกตั้ง นายเอกยุทธอาจอยู่ในสำนึกเก่าๆและจินตนาการไปเอง ผมเคยปราศรัยว่าขอบคุณนายเอกยุทธที่โจมตีพรรคเพื่อไทยและพ.ต.ท.ทักษิณหนักจึงได้รับเลือกตั้งถล่มทลาย คนเรานี้ไม่รู้อะไรนั้นได้ แต่ไม่รู้จักตัวเองนั้นมันลำบาก” รองนายกฯ กล่าวและว่า
"ชั้นเจ็ดของโรงแรมนี้เป็นห้องประชุมเล็กนายกฯขึ้นไปที่นี่และมีรปภ.ตามมา โดยห้องประชุมก็มีเจ้าหน้าที่โรงแรมดูแล"
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า จึงขอเรียกร้องนายเอกยุทธว่าอย่าทำเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง เพราะมันไม่ใช่เลย ฉะนั้นอย่าพูดจาสองแง่สองง่าม และในวันนั้นธนาคารไทยพาณิชย์มาจัดประชุมที่ชั้นล่างของโรงแรมนี้ หากรัฐบาลจะคิดร้ายกับนายเอกยุทธยืนยันว่าไม่มีเหตุผลเลย นายเอกยุทธไม่มีบทบาททางการเมืองและไม่มีศักยภาพใดๆที่จะมาทำให้รัฐบาลประสบปัญหา นายเอกยุทธชอบมานั่งที่ร้านอาหารในโรงแรมนี้ประจำ และเคยทักทายกันที่นี่ เพราะตนมานั่งรับประทานอาหาร ดื่มไวน์ และสูบซิการ์ ที่ร้านอาหารแห่งนี้เดือนละหนึ่งครั้ง พูดแบบนี้เดี๋ยวจะมีคนกระแนะกระแหนตนว่าตนรู้ทุกเรื่อง หากตนไม่รู้แล้วจะให้ใครรู้เล่า เรื่องนี้มีเท่านี้
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ภาพคนร้ายมันเบลอแต่สรุปได้ว่ามีคนกระทำผิดคือทำร้ายนายเอกยุทธในช่วงเวลานั้น ขณะที่นายกฯออกจากโรงแรมไปแล้ว รปภ.ของนายกฯไม่นุ่งกางเกงยีนส์แน่ ตนวิเคราะห์ว่า หากจะเป็นเรื่องการเมือง ถือว่าเหตุผลน้อยไปและไม่มีน้ำหนัก เพราะนายเอกยุทธไม่ได้ก่อความรำคาญให้รัฐบาล และรัฐบาลมองว่านายเอกยุทธไม่มีศักยภาพ ในทางการเมืองหากจะชกต่อยกัน จะต้องนั่งโต๊ะเดียวกันแล้วเถียงกันว่าชอบพรรคนี้ ไม่ชอบพรรคนั้น ส่วนเรื่องเขม่นและหมั่นไส้นั้น อาจเป็นไปได้เพราะบางคนเวลาไปที่ใดแล้วมาดเยอะ และอาจก่อให้เกิดความไม่พอใจจากคนอื่นๆ รวมทั้งอาจจีบผู้หญิงคนเดียวกัน แต่ก็น่าแปลกใจว่าคนร้ายหนึ่งคนแต่บอดี้การ์ด 3 คนของนายเอกยุทธกลับจับคนร้ายไม่ได้ ตามสภาพวิญญาณบอดี้การ์ดแล้วคนที่มาทำร้ายเจ้านายนั้น ชักออกมาแล้วต้องไม่เหน็บ และบางครั้งอาจเป็นการสร้างสถานการณ์ แต่ตนไม่ได้ตัดประเด็นอื่นๆออกไป ซึ่งนายกฯสั่งการให้ดำเนินการเด็ดขาดกับคนผิด ไม่มีรูปหน้าปะจมูก และตนจะเรียกผกก.สน.ลุมพินีมาสอบถามด้วย โดยหวังผลจับคนร้าย ไม่หวังผลการเมือง ตนอายุเยอะแล้วต้องไปนั่งทั้งคืนเพื่อสอบถามคนนั้นคนนี้
“นายเอกยุทธต้องไปร้องทุกข์กับตำรวจเพื่อออกภาพสเก็ต อย่าพูดให้สังคมฟังสับสนว่าการที่นายกฯมีภารกิจส่วนตัวหมายความว่าไม่ต้องการให้นักข่าวติดตาม โดยรปภ.ส่วนตัวนายกฯนั้นมี 20 คน รวมทั้งผู้หญิง 4 คน และรถติดตาม 4 คัน” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า บุคคลในร้านปาริชาตมีเยอะหรือไม่ ได้สอบถามว่าเห็นเหตุการณ์นี้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้ซักไซ้เรื่องนี้แต่คนในร้านนี้มีเยอะ นายเอกยุทธไปโรงแรมและโต๊ะประจำในร้านนี้ ซึ่งสิ่งที่นายเอกยุทธอ้างว่าโดนทำร้ายร่างกายเพราะไปเห็นว่านายกฯมาที่นี่ แต่คนนับร้อยก็เห็นและรู้จักนายกฯ เมื่อถามว่าคนร้ายในภาพมีส่วนคล้ายทีมรปภ.ของนายกฯคนใดบ้าง รองนายกฯ กล่าวว่า ภาพไม่ชัด แต่ไม่มีหรอกเพราะทำไปแล้วจะได้อะไร ส่วนที่นายเอกยุทธอ้างว่าคนร้ายอาจเป็นอดีตรปภ.พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ก็ขอให้ไปแจ้งความ แต่พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่โกรธข้ามหลายปี มันผ่านมา 4-5 ปีแล้ว
ส่วนกรณีที่นายเอกยุทธอ้างว่าจะแฉเรื่องนี้ตามสื่อออนไลน์นั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ”อย่าช้า รีบทำ จะไปแฉอะไร เพราะแค่บอกว่าโดนทำร้ายแต่ลังเลว่าจะไปแจ้งความดีหรือไม่ มันผิดปกติแล้ว ผมรู้จักนายเอกยุทธ หากพูดไปนายเอกยุทธจะรักหรือเกลียดผมหรือไม่นั้น ผมต้องทำหน้าที่ให้ถูกต้องที่สุดเพราะไม่มีประเด็นการเมือง มีการชกต่อยนายเอกยุทธจนขอบตาเจ็บ รัฐบาลได้อะไร ไม่มี บางครั้งคนเราไปเที่ยวที่ใดกร่างมากคนจะเกลียด แต่นายเอกยุทธจะกร่างหรือไม่ ผมไม่รู้แต่เคยเจอสองครั้งก็เห็นนายเอกยุทธนั่งสูบซิการ์แบบนี้ ไม่มีเหตุผลที่รปภ.นายกฯจะไปทำ ยิ่งไร้สาระที่บอกว่าไปเห็นนายกฯมาที่นี่ ล็อบบี้นี้โรงแรมคนมาเป็นร้อย” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่านายเอกยุทธอ้างว่า เหตุที่โดนทำร้ายเพราะเห็นผู้ชายคนหนึ่งมากับนายกฯจนรปภ.นายกฯมาทำร้าย รองนายกฯ กล่าวว่า “ใครจะไปรู้ว่านายเอกยุทธรู้” เมื่อถามว่าส่วนที่มีการนำเรื่องนี้ขึ้นเฟซบุ๊คส่วนตัวของนายเอกยุทธนั้น เรื่องนี้จะทำให้นายกฯเสียหายหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ขึ้นได้ หากผิดพลาดก็โดนฟ้อง หากนายกฯเสียหาย นายกฯก็ฟ้อง เมื่อถามว่าสอบถามนายกฯหรือไม่ว่าไปกับใคร และขอดูซีซีทีวีในห้องประชุมด้วยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า รปภ.และกองร้อยน้ำหวาน ชั้น 7 โรงแรมนี้เป็นห้องประชุมแต่ตนไม่ได้ถามนายกฯว่าไปประชุมกับใคร และเรื่องในห้องประชุมนั้นมีใครบ้างไม่ใช่หน้าที่ตน เพราะหน้าที่ตนคือไปหาคนร้ายที่ชกนายเอกยุทธ สื่อควรเทียบเคียงว่า นายกฯไปที่นี่ และมีผู้ชายคนหนึ่งคือหนุ่ย(รปภ.นายกฯ) รวมทั้งกองร้อยน้ำหวาน และคนติดตามนายกฯที่รับใช้มานาน ทั้งนี้ตนสอบถามกับหนุ่ยแล้ว ทราบว่านายกฯไปพบบุคคลอื่นแบบส่วนตัว รปภ.ก็ไปทั้งคณะ หากไม่พาดพิงหนุ่ยแล้วพาดพิงใคร ไร้สาระ เปิดประเด็นไม่เข้าท่า หากถามว่าต่อไปนายเอกยุทธมาพาดพิงเรื่องส่วนตัวนายกฯหากผิดกฎหมายจะโดนแจ้งจับ นายเอกยุทธไม่มีอะไรลึกซึ้งหรอก หากมีหลักฐานนั้น ปัทโธ่! นาทีแรกที่ทำลายรัฐบาลได้ ตนท้าให้เปิดเลย อย่าพูดให้เสียหายเพราะไม่ใช่เรื่องจริง หากใครเห็นนายกฯไปที่นี่แล้วโดนชก มันต้องโดนชกกันร้อยคน ทำไมต้องเฉพาะนายเอกยุทธเท่านั้นที่โดนชก
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ามีการสร้างสถานการณ์ขึ้นเพื่ออะไร รองนายกฯ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้บอก แต่ตนวิเคราะห์ สมมติว่านายกฯไปกับคณะก็เห็นกันทั้งโรงแรม ไม่ใช่เพียงแค่นายเอกยุทธที่เห็นคนเดียว แต่ตนไม่รู้ว่าการประชุมที่ชั้น 7 กับประชุมใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ที่ชั้นล่างเกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่ตนพูดไม่ได้เพราะไม่ทราบ ส่วนจะให้กระจ่างในเรื่องนี้นั้น อยู่ที่ว่านายกฯจะพูดหรือไม่ เพราะตนไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่พนักงานโรงแรมเล่าให้ตนฟังว่ามีคน มีรปภ.ของนายกฯเยอะตามจุดต่างๆ รวมทั้งรปภ.และซีซีทีวี เมื่อถามว่าคุยกับนายกฯหรือไม่ว่านายกฯพบกับนายเอกยุทธหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้คุย นายกฯสั่งเพียงว่านายเอกยุทธโดนทำร้าย ตนต้องหามาตรการจับคนร้ายให้ได้ ตนเป็นหน้าที่เท่านี้ และนายกฯเป็นเจ้านายของตน ตนจะไปสอบถามว่าไปประชุมอะไรนั้น มันไม่ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของตน
“หากนายเอกยุทธมีความลับใดขอให้แฉออกมา มีใครห้ามเล่า เรื่องนี้ไม่เป็นเรื่องจริงๆ” รองนายกฯ กล่าวและว่า เชิญให้สังคมตรวจสอบเรื่องนี้ ฝากบอกนายเอกยุทธว่าสิ่งใดที่เป็นประโยชน์กับสังคมเปิดเผยเลยไม่ต้องเกรงใจ อย่ากลับไปทำตัวเหมือนช่วง 19 ก.ย.2549 ส่วนจะทำแบบใดคงรู้แก่ใจดี บ้านเมืองวันนี้สงบเรียบร้อย นายกฯแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ผมดูแลยาเสพติด จนประชาชนพอใจ แต่นายเอกยุทธอย่ามาทำแบบนี้ หากไม่ไปแจ้งความ สังคมจะมองว่านายเอกยุทธกำลังทำอะไร เพราะผมโดนต่อยนั้นจะไปสน.ก่อน นายเอกยุทธอย่าสละสิทธินี้ เพราะแจ้งความนั้นจะได้รู้รูปพรรณสันฐาน และส่งตัวไปให้แพทย์ตรวจสอบอาการบาดเจ็บเพื่อเตรียมลงโทษทางอาญากับคนร้าย" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เพื่อไทยย้อน“เอกยุทธ”เคยทำใครเจ็บช้ำ-เดือดร้อน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นการกล่าวอ้างที่เร็วเกินไป น่าจะมีนัยยะซ่อนเร้นหรือไม่ ทั้งนี้ น่าจะให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่นายเอกยุทธจะออกมาแถลงข่าว เพราะเหมือนนายเอกยุทธน่าจะมีการตั้งธงไว้ก่อน โดยพยายามโยงให้ถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์และพ.ต.ท.ทักษิณในลักษณะที่ไร้เลื่อนลอย อย่างไรก็ตามพฤติกรรมที่ผ่านมาของนายเอกยุทธนั้นได้ไปทำให้ใครเขาเจ็บช้ำน้ำใจหรือเดือดร้อนมาก่อนหรือไม่ ต้องพิจารณาในส่วนนี้ด้วย ไม่ใช่พยายามที่จะโยนบาปหรือออกมาพูดในลักษณะที่คล้ายกับการชี้นำว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ส่วนกรณีที่นายเอกยุทธขู่ว่าจะออกมาแฉอีกนั้น ที่ผ่านมานายเอกยุทธก็เป็นฝ่ายตรงข้ามและพยายามกล่าวหามาตั้งแต่สมัยพ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ เมื่อครั้งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใหม่ ๆ นั้น นายเอกยุทธก็เคยออกมาพูดถึงเรื่องผู้หญิงที่เป็นคนเหนือจะเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งตนมองว่าน่าจะมีวาระซ่อนเร้น อยากถามว่านายเอกยุทธเป็นลูกผู้ชายหรือไม่ ดังนั้นอยากให้คนไทยให้ความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรีและพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือของนายเอกยุทธด้วย
ตนอยากตั้งคำถามกลับไปยังนายเอกยุทธด้วยว่าการที่จะไม่แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น น่าจะมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ใจใช่หรือไม่ น่าจะต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อดิสเครดิตนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ตนขอท้านายเอกยุทธว่า ขอให้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะรัฐบาลพรรคเพื่อไทยนั้นจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช่ออกมาสร้างข่าวรายวันหรือทำในลักษณะที่น่าจะไม่ได้หวังผลทางคดี แต่อาจจะหวังผลทางการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
--------------------------------
บอกเป็นนายกฯมีสิทธิไปเจอกับใครก็ได้ ยันเป็นผู้หญิงไม่ทำเรื่องเสียหาย แสดงว่าไม่ได้ทำอะไร แค่นอนหงายเฉยๆ สินะ เป็นคนอื่นที่ทำ