ยังพบ "น้ำค้างทุ่ง" ภาคกลางจำนวนมาก จากการจัดการน้ำล่าช้า
#1
Posted 14 February 2012 - 11:47
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ระบุว่า สาเหตุน้ำค้างทุ่งเกิดจากการบริหารจัดการน้ำล่าช้าประกอบกับปริมาณน้ำมากกว่าปี 2553 โดยคาดว่า ชาวบ้านจะใช้พื้นที่การเกษตรได้ตามปกติในเดือนมีนาคมนี้ ขณะที่กรุงเทพมหานครเริ่มลอกท่อระบายน้ำในวันนี้ ( 3ก.พ.) พบว่า มีขยะและทรายเป็นอุปสรรคขวางทางระบายน้ำ
เจ้าหน้าที่สำนักระบายน้ำกทม .และ ผู้ต้องขังชั้นดีจากรมราชทัณฑ์จำนวนกว่า 300 คน เร่งดำเนินการและทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ขุดลอกคูคลอง เพื่อเปิดทางน้ำไหลและเตรียมความพร้อมในการป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯเหนือ กรุงเทพฯตะวันออก กรุงเทพฯใต้ และ ฝั่งธนบุรี ที่บริเวณหมู่บ้านนัฐกานต์ เขตหนองแขม โดยการขุดลอกท่อระบายน้ำของ กทม.มีแผนล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในถนนและซอยต่าง ๆ ระยะทางกว่า 4,618 กิโลเมตร และ ขุดลอกคูคลองจำนวน 1,184 คลองระยะทาง 1,456 กิโลเมตร โดยใช้งบประมาณของ กทม.ว่าจ้างกรมราชทัณฑ์พร้อมใช้รถดูดเลน และ เจ้าหน้าที่ของสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะพื้นที่ถนน ซอยต่าง ๆ ที่เป็นจุดอ่อนน้ำท่วม และประสบปัญหาน้ำท่วมในปีที่แล้ว
จากการดำเนินการครั้งนี้พบว่า พื้นที่คลองยังมีสภาพตื้นเขิน และยังเศษขยะ รวมถึงเศษทราย ตกค้างในท่อเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคมนี้
ม.ร.ว.สุขุพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ เตรียมเครื่องสูบน้ำ และ เครื่องจักรกลต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมที่ใช้งาน และขณะนี้สามารถลอกท่อระบายน้ำไปแล้วกว่าร้อยละ 30 ขณะนี้ กทม.ได้แบ่งงานกันทำอย่างชัดเจน
จากการสำรวจพื้นที่น้ำท่วมค้างทุ่งบนภาพถ่ายดาวเทียมเรดาร์แสทวันที่ 2 กุมพาพันธ์ที่ผ่านมาของ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ พบว่า ปริมาณน้ำท่วมค้างทุ่งบริเวณลุ่มน้ำยม และ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังคงท่วมพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน 520,000 ไร่ตั้งแต่ภาคเหนือ ถึงภาคกลาง สาเหตุเกิดจากการบริหารจัดการน้ำล่าช้าประกอบกับปริมาณน้ำที่มากกว่าปี 2553 โดยจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมค้างทุ่งมากที่สุดถึง 230,000 ไร่ ที่อำเภอบางปลาม้า อำเภอสองพี่น้อง อำเภออู่ทอง อำเภอเมือง และอำเภอศรีประจันต์
ขณะที่จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดชลบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดนนทบุรี ยังคงมีน้ำท่วมค้างทุ่งเหลือน้อย โดยเฉลี่ยน้ำจะลดลงเองตามธรรมชาติ
ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาภูมิสารสนเทศ กล่าวว่า บริเวณพื้นที่น้ำค้างทุ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทำการเกษต ไม่ใช่หมู่บ้านหรือชมุชน ซึ่งมั่นใจว่าชาวบ้านจะสามารถกลับมาทำการเกษตได้รอีกครั้งภายในเดือนมีนาคมนี้
ที่มา:http://news.thaipbs.or.th/
เหตุที่นำข่าวนี้มาแปะ เพราะเมื่อเช้า ได้ดูข่าวช่อง Thaipbs มาครับ
ข่าวรายงานถึงสภาพน้ำท่วมทุ่งบริเวณขอบๆ สุพรรณบุรี
ซึ่งเมื่อปลายปีก่อน หลังจากสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่รวมถึงกรุงเทพหมดไป
ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวตลาดสามชุก ซึ่งระหว่างทาง (ผมจำไม่ได้ว่าแถบนั้นเรียกว่าอะไร)
พบน้ำค้างทุ่งจำนวนมาก จนมองดูเหมือนขับรถผ่านทะเล และมีเพียงถนนตัดผ่าน
ไร่นาอยู่ใต้น้ำหมดครับ มีเพียงบ้านเรือนที่โผล่พ้นน้ำมาให้เห็น
ตกใจครับ เพราะเวลานั้น รัฐบาลประกาศสถานการณ์น้ำหมดไปแล้ว
ศปภ เก็บของกันแล้ว
วันนี้ รัฐบาลจัดงานเลี้ยงใหญ่โต จ่ายค่าวงตนตรีเป็นสิบล้าน
เพื่อฉลองความสำเร็จในการจัดการน้ำ
แล้วชชาวบ้านที่ลอยคอรอน้ำลดมา 4-5 เดือนนี้ล่ะครับ
พวกเค้าควรได้มาร่วมฟังเพลงระรื่นหูนี้ด้วยหรือไม่
ไม่ทราบว่ารัฐบาลมีการตกสำรวจบริเวณนี้ไปหรืออย่างไร
แล้วทั่นบรรหารล่ะครับ ไปอยู่ไหน หรือแค่ว่าน้ำไม่เข้าในเมือง
น้ำไม่โดนที่นาซาอุ ก็พอแล้ว ชายขอบจังหวัดจะจมน้ำอีกซักปี ครึ่งปี ก็ช่างหัวมัน
อย่างนั้นหรือครับ
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
#2
Posted 14 February 2012 - 12:01
น้ำยังท่วมทุ่ง ปล่อยมาก่อนท่วม ไม่ปล่อย เข้าหน้าฝน น้ำก้อเต็มเขื่อน
พายุเข้า ก้อสวัสดีน้องน้ำไว้ล่วงหน้าเลย
อุอุ ยังๆๆ ยังไม่ขนของลงมาชั้นล่างเลย เตรียมพร้อมแล้วมาเลย
ฮาาาาาาา
#3
Posted 14 February 2012 - 12:09
#4
Posted 14 February 2012 - 12:52
#5
Posted 14 February 2012 - 13:04
ตรวจเซ็คให้ดีนะครับ ปกติถ้าโดนแดดโดนลม ไม่กี่เดือน
มันจะเปื่อยและใช้การไม่ได้
#6
Posted 14 February 2012 - 13:07
If you try hard enough, you can be whatever you want to be.
#7
Posted 14 February 2012 - 13:28
ปรากฏว่าทรายจากปีที่แล้วแข็งหมด (มีโคลนผสมเยอะครับ)
แถมกระสอบจะเปื่อยง่าย จนสามารถฉีกด้วยมือเปล่า
หากเพื่อนสมาชิกท่านใด เก็บประสอบทรายไว่้ใช้ปีนี้
แนะนำให้ซื้อกระสอบเปล่ามาสวมทับครับ ไม่งั้นจะใช้การอะไรไม่ได้
อย่าเสียงครับ เพราะหากโดนน้ำฝน จะเปื่อยยุ่ยกันเห็นๆ ครับ
ผมเลยตัวสินใจยกให้เพื่อนไปถมที่หมด
เพราะความที่มันแข็งไปแล้วด้วย จะนำมาใช้ ต้องทุบ
ซึ่งน่าจะหนักกว่าซื้อทรายใหม่
แต่ปีนี้ อาจจะซื้อแต่เนิ่นๆ ครับ
หลงประเด็นมาไกลแล้ว
สิ่งที่คิด ก็คือ วันนี้ ยังมีน้ำท่วมทุ่ง ที่ตกค้างจากปีก่อนอยู่อีกมากมาย
รวมถึงน้ำที่ปล่อยให้ท่วมแถบอยุธยาในเวลานี้ก็มีเพิ่มขึ้น
สงสัยครับ
รัฐบาลคิดอะไร ถึงได้เข้าใจว่า ปีที่แล้วประสบความสำเร็จ
จนต้องเลี้ยงขอบคุณกันใหญ่โต
ในขณะที่ชาวบ้านยังแช่น้ำกันอยู่
ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ
เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน
#8
Posted 14 February 2012 - 13:43
#9
Posted 14 February 2012 - 13:45
#10
Posted 14 February 2012 - 13:57
สงสัยครับ
รัฐบาลคิดอะไร ถึงได้เข้าใจว่า ปีที่แล้วประสบความสำเร็จ
จนต้องเลี้ยงขอบคุณกันใหญ่โต
ในขณะที่ชาวบ้านยังแช่น้ำกันอยู่
เพราะซื้อถุงยังชีพราคา 800 แล้วได้เงินเข้ากระเป๋าไม่ต่ำกว่า 400
พร้อมฮุบเรือที่เขาบริจาคเอาไปขายได้อีก รวมถึงเงินบริจาคต่างๆ
เอามาถลุงเข้ากระเป๋ากันเปรมปรีดิ์
#11
Posted 14 February 2012 - 14:21
มันสร้างบายพาสเรียบร้อยแล้ว ฮาาาาาาาาาา
#12
Posted 14 February 2012 - 14:47
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง