รัฐบาลนี้เข้ามาทำงานได้เดือนเศษๆ ก็ริเริ่มกระบวนการเข้าควบคุมสื่อมวลชน อย่างชัดแจ้ง
ในรูปแบบการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550
กระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้เสนอการแก้ไขเพิ่มเติม และโดยที่ไม่เป็นข่าวเป็นคราวอะไร คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา
เนื้อหาสาระของการแก้ไขที่ยังไม่รู้ที่มาที่ไปนั้นสำหรับคนทำ สื่อมายาวนาน อ่านปุ๊บก็รู้ปั๊บว่านี่คือการจงใจของผู้มีอำนาจทางการเมืองที่จะลิดรอน เสรีภาพของสื่อ
ความเลวร้ายของสาระที่แก้ไขนั้นเลวร้ายไม่แตกต่างไปจากกฎหมายที่เกี่ยว กับสื่อของยุคเผด็จการในรูปแบบของ พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.2484 ที่ยกเลิกไปด้วยผลการตราใช้บังคับ พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550
ร่าง กฎหมายฉบับนี้ได้แปรรูปอำนาจเจ้าพนักงานการงานพิมพ์ จากกรมศิลปากร มาเป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และให้อำนาจ ผบ.ตร. ในลักษณะ “ครอบจักรวาล” ที่ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากว่าจะเป็นการเปิดทางให้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงและลิดรอนสิทธิเสรีภาพของสื่อทั้งสิ้น
ใน สังคมประชาธิปไตยนั้น เสรีภาพการแสดงออกของสื่อก็คือเสรีภาพของประชาชน ดังนั้น ความพยายามใดๆ ของนักการเมืองที่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่ “คุ้มครอง” มาเป็นการ “ควบคุม” เสรีภาพของการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีของประชาชน ก็คือการเข้ายึดกุมอำนาจที่จะกำหนดว่าประชาชน ที่แสดงความเห็นอันไม่สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลนั้น จะถูกควบคุม ลิดรอน และกำจัดอย่างปฏิเสธไม่ได้
บทแก้ไขเพิ่มเติมที่ตอกย้ำความเสื่อม ทรุดของมาตรฐานเสรีภาพของสื่ออีกประเด็นหนึ่งคือการย้อนยุคกลับไปในระบอบ เผด็จการที่จะต้องมีใบอนุญาตการพิมพ์
และที่เลวร้ายไปกว่า พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ.2484 ก็คือการที่ต้องมีการต่อใบอนุญาตหรือหนังสือสำคัญแสดงการจดแจ้งการพิมพ์ทุก 5 ปี
ที่ น่าห่วงกังวลอย่างยิ่งสำหรับสังคมที่กำลังต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็น ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงก็คือ การที่สาระสำคัญของร่างแก้ไขนี้ยังให้อำนาจ ผบ.ตร. (และน่าจะเป็นประเด็นขัดแย้งสำคัญ) ที่จะออกคำสั่งห้ามพิมพ์ เผยแพร่ ส่งเข้าหรือนำเข้าเพื่อเผยแพร่ในราชอาณาจักร ซึ่งสิ่งพิมพ์หรือหนังสือพิมพ์ที่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี (ถ้อยคำครอบจักรวาลของเผด็จการมาตลอด)
นั่นย่อมแปลว่า ผบ.ตร. จะต้องเซ็นเซอร์หนังสือพิมพ์ก่อนตีพิมพ์ จึงจะวินิจฉัยได้ว่าสมควรใช้อำนาจออกคำสั่งห้ามเผยแพร่ หรือปิดหนังสือพิมพ์หรือไม่
ประเด็นเรื่องสถาบันกษัตริย์นั้น ย่อมเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วว่า เป็นเพียงเรื่องบังหน้าของผู้ที่ต้องการจะกลั่นแกล้งและคุกคามเสรีภาพของผู้ อื่นที่ไม่เห็นพ้องกับตนเท่านั้น
เพราะความผิดฐานหมิ่นสถาบันนั้นมีกำหนดเอาไว้ในประมวลกฎหมายอาญาอยู่แล้วอย่างครบถ้วน
การอ้างถึงประเด็น “ความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี” นั้น สามารถตีความได้กว้างขวาง และรัฐบาลเผด็จการในอดีตได้ใช้เป็นเครื่องมือข่มขู่คุกคามหรือถึงขั้นปิด หนังสือพิมพ์ที่เป็นฝ่ายตรงกันข้ามหรือที่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา
เผด็จการย่อมอ้าง “ความมั่นคงแห่งรัฐ” ทั้งๆ ที่หมายถึง “ความมั่นคงของรัฐบาล” เพื่อรักษาอำนาจและจัดการกับผู้ที่มีความเห็นต่างเสมอมา
หากร่าง กฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมนี้ผ่านสภาออกมาใช้ได้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็จะเป็นผู้มีอิทธิพลต่อผู้ประกอบวิชาชีพสิ่งพิมพ์ อย่างยิ่ง...และยิ่งกว่า “เจ้าพนักงานการพิมพ์” ตามกฎหมายเดิมที่รัฐมนตรีมหาดไทยแต่งตั้งให้อธิบดีกรมตำรวจ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาลเป็นเจ้าพนักงานการพิมพ์ในกรุงเทพฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดในต่างจังหวัด
ความผิดที่ระบุไว้ในร่างใหม่ นั้น โทษทางอาญาสำหรับผู้ฝ่าฝืนคำสั่งของ ผบ.ตร. กรณีสั่งห้ามพิมพ์ เผยแพร่สิ่งพิมพ์ที่กระทบต่อสถาบัน ความมั่นคงของชาตินั้น คือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ธาตุแท้ของนักการเมืองนั้นแม้จะป่าวประกาศหาเสียงว่าต่อสู้เพื่อ “ประชาธิปไตย” ของประชาชน แต่เมื่อได้อำนาจมาแล้วก็เริ่มปฏิบัติการที่จะกุมอำนาจทุกอย่าง รวมถึงการกำหนดว่าประชาชนจะแสดงความเห็นได้เฉพาะที่สอดคล้องกับที่ผู้มี อำนาจต้องการเท่านั้น
จากหลักการของสังคมศิวิไลซ์ที่จะ “คุ้มครอง” มาเป็น “ควบคุม” เพราะต้องการ “คุกคาม” อย่างปฏิเสธไม่ได้
คน ทำสื่อที่ปกป้องเสรีภาพของประชาชนอย่างมุ่งมั่นมาตลอด และได้ต่อสู้กับเผด็จการที่ลิดรอนเสรีภาพของการแสดงความเห็นของคนไทย อย่างเป็นเอกภาพตลอดประวัติศาสตร์ของประเทศมา...
เชื่อเถอะว่าสังคมไทยจะลุกขึ้นต่อสู้กับกลุ่มผู้บ้าอำนาจอย่างเต็มภาคภูมิอีกวาระหนึ่ง
http://www.bangkokbi...3%A9%C3%87.html
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คนเสื้อแดงครับ อธิบายทีว่านี่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน ใช่ประชาธิปไตยที่แสวงหากันงั้นหรือ?
![Photo](http://static.serithai.net/webboard/uploads/profile/photo-thumb-5447.jpg?_r=0)
ยังไม่ทันไร รัฐบาลใหม่ ก็จะล่ามโซ่และคุกคามสื่อแล้ว
Started by zereza, 25 October 11 06:36
8 replies to this topic
#1
Posted 25 October 2011 - 06:36
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง""อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"
#2
Posted 25 October 2011 - 06:47
เสื้อแดงแถวบ้านตอบเรื่องประชาธิปไตยได้แค่แบบนกแก้วนกขุนทอง
มาวันนี้จะมาตอบประชาธิปไตยแบบพรบ.เพิ่มเติม บวก เพรียวพันธุ์....55
สงสารกระดูกนักนังสือพิมพ์ประชาธิปไตยยุคอิศรา อมันตกุลและอุทธรณ์ พลกุล
ที่เสื้อแดงน่าเอาเป็นต้นแบบ แต่พวกนั้นคงละเลยเพราะชาบูเผด็จการเหลี่ยมจนสุดใจแล้ว
มาวันนี้จะมาตอบประชาธิปไตยแบบพรบ.เพิ่มเติม บวก เพรียวพันธุ์....55
สงสารกระดูกนักนังสือพิมพ์ประชาธิปไตยยุคอิศรา อมันตกุลและอุทธรณ์ พลกุล
ที่เสื้อแดงน่าเอาเป็นต้นแบบ แต่พวกนั้นคงละเลยเพราะชาบูเผด็จการเหลี่ยมจนสุดใจแล้ว
AMAZING coup d'etat , THAILAND ONLY ..
#3
Posted 25 October 2011 - 06:54
มันถึงได้กลัวทหารปฏิวัติไง
ยึด กรอมน ได้เบ็ดเสร็จเมื่อไหร่งานข่าวทหารบรรลัย(ตอนนี้ก็แย่พออยู่แล้ว) จะกลายเป็นรัฐตำรวจโดยสมบูรแล้ว
ยึด กรอมน ได้เบ็ดเสร็จเมื่อไหร่งานข่าวทหารบรรลัย(ตอนนี้ก็แย่พออยู่แล้ว) จะกลายเป็นรัฐตำรวจโดยสมบูรแล้ว
ลัทธิล่าอาณานิคมhttp://www.mediafire...p1ymxk7ye62ztaghttp://landdestroyer.../label/Thailandhttp://www.activistp...ileak-dump.htmlhttp://landdestroyer...l/thai language
#4
Posted 25 October 2011 - 06:59
ท่าจะมาไว ไปไวนะครับ ตั่วเฮียพวกนี้
![:lol:](http://webboard.serithai.net/public/style_emoticons/default/laugh.png)
บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่นที่จะทำพังแล้วร้องไห้ขออันใหม่
#5
Posted 25 October 2011 - 07:00
ไม่เป็นไร บีบสื่อสิ่งพิมพ์ได้ก็บีบไป บีบสื่อออนไลน์ไม่ไหวหรอก ต่อจากนี้แบรนด์ของสื่อคือตัวนักข่าว ไม่ใช่สำนักพิมพ์อีกต่อไป
ทำแบบนี้เท่ากับบีบให้เค้าขุดคุ้ยพวกคุณลึกลงไปอีก รัฐบาลนี้มันสายตาสั้นจริงๆ อะไรที่มันเป็นหายนะจะมองไม่เห็น
ทำแบบนี้เท่ากับบีบให้เค้าขุดคุ้ยพวกคุณลึกลงไปอีก รัฐบาลนี้มันสายตาสั้นจริงๆ อะไรที่มันเป็นหายนะจะมองไม่เห็น
![:huh:](http://webboard.serithai.net/public/style_emoticons/default/huh.png)
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง""อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"
#6
Posted 25 October 2011 - 20:26
ดันให้ผู้รักประชาธิไตยมาตอบครับ
![:)](http://webboard.serithai.net/public/style_emoticons/default/smile.png)
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง""อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"
#7
Posted 25 October 2011 - 20:32
ท่าจะมาไว ไปไวนะครับ ตั่วเฮียพวกนี้
สมควรแก่การกระทำของพวกมัน
#8
Posted 25 October 2011 - 22:14
อาจจะหลังน้ำลดครับ หรืออาจจะน้ำพอลด เรียนเชิญพี่ทหารตามดวกครับ แต่ถ้าหลังจากนั้น น่าจะเป็นชาวบ้าน
ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร
#9
Posted 25 October 2011 - 22:23
ไหนปุกลุก ไหนหนูจิน ออกมาตอบหน่อยเร็วๆ หรือว่าพวกมิงจะบอกว่ามันคือ แดงเทียม