รบ.เผยสถานการณ์อุทกภัยได้สร้างความเสียหายให้กับภาคอุตสาหกรรม ประเภทนิคมทั้งในและนอกไปแล้วกว่า 9.8 พันโรงงาน มูลค่าการลงทุน 8 แสนล้าน มีผู้ใช้แรงงานได้รับกระทบกระทบเฉียด 7 แสนคน คาด จีดีพีทั้งปีลด 1.9 เปอร์เซ็นต์ ด้าน บขส.ปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถภาคเหนือเลี่ยงน้ำท่วม
วันนี้ (25 ต.ค.) นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ภาพรวมความเสียหายภาคอุตสาหกรรมจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้น ว่า ได้ส่งผลกระทบต่อโรงงานทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรมประมาณ 9,859 โรงงาน มูลค่าการลงทุนกว่า 8 แสนล้านบาท ครอบคลุมเขตอุทกภัยร้ายแรงจำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง อุทัยธานี นนทบุรี และ ปทุมธานี ทำให้มีผู้ใช้แรงงานได้รับผลกระทบกว่า 6.6 แสนคน รวมถึงได้สร้างความเสียหายให้แก่เครื่องจักร วัตถุดิบ และสินค้าคงคลังอีกเป็นจำนวนมาก
นายชลิตรัตน์ กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะใน 7 นิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ได้แก่ นิคมสหรัตนนคร นิคมไฮเทค นิคมบางปะอิน นิคมโรจนะ นิคมแฟคตอรี่แลนด์ นิคมนวนคร และนิคมบางกระดี มีจำนวนโรงงานได้รับความเสียหาย 838 โรง จำนวนคนงาน 3.82 แสนคน มูลค่าความเสียหายโดยตรงกว่า 237,410 ล้านบาท โดยในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ประกอบการได้มีการทำประกันภัย แต่ยังไม่สามารถระบุประเภทความคุ้มครองได้รวม 396 ราย วงเงินประกันรวม 257,589 ล้านบาท และใน จ.ปทุมธานี จำนวน 249 ราย วงเงินรวม 199,185 ล้านบาท
สำหรับผลกระทบทางอ้อมต่อมูลค่าการผลิตของปี 2554 นายชลิตรัตน์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการประเมินคาดว่า มูลค่าการผลิตจะลดลงในไตรมาสที่ 4 คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.28 แสนล้านบาท ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรมในปี 2554 ลดลง 1.9 เปอร์เซ็นต์ จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ว่า ตลอดทั้งปีจะขยายตัว 2 - 3 เปอร์เซนต์ เหลือ 0.1-1.1 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการฟื้นฟูความเสียหายว่าสามารถทำได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ ซึ่งหากฟื้นฟูได้ช้าอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเนื่องอีกมาก
http://www.manager.c...D=9540000136096