


นิติราษฎร์ลั่นเดินหน้าเคลื่อนไหวในหลักวิชาการ
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่หน้าประติมากรรมธรรมศาสตร์ กับขบวนการเสรีไทย มหาลัยวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีกลุ่มโดมรวมใจ และกลุ่มผู้สนับสนุนนิติราษฎร์ จำนวนหนึ่ง รวมตัวกันเพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ในช่วงเช้า ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาให้การรักษาความปลอดภัย หรือสังเกตการณ์ มีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จากองค์การทหารผ่านศึก 1 นาย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจาก บริษัทเอกชน 3 นาย ดูแลพื้นที่เพียงเท่านั้น
นายปิยบุตร แสงกนกกุล และนายปูนเทพ ศิรินุพงศ์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ เป็นตัวแทนรับมอบแทน ภายหลังนายวรเจตน์ ถูกทำร้ายร่างกาย ที่ลานจอดรถคณะนิติศาสตร์เมื่อวานนี้ (29 ก.พ.) ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้อ่านแถลงการณ์ประณามผู้ที่กระทำ และผู้ที่บงการ ตลอดจนผู้ที่สนับสนุนความรุนแรงต่อนักวิชาการ พร้อมกับระบุว่าเป็นภัยคุกคามต่อเสรีภาพ และพัฒนาการทางวิชาการ รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาล ผู้ที่กำกับกฎหมายอย่านิ่งดูดาย ให้เร่งจับผู้กระทำความผิดมาลงโทษ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างการใช้ความรุนแรงในอนาคต โดยกลุ่มผู้ชุมนุมจะขอร่วมยืนหยัดต่อสู้กับนายวรเจตน์ และกลุ่มนิติราษฎร์ต่อไปในอนาคต
นายปิยบุตรกล่าวว่า กลุ่มนิติราษฎร์ ยังคงยืนยันในการเคลื่อนไหวเพื่อแสดงความคิดเห็นในเชิงวิชาการต่อไป และเห็นว่าท่าทีที่ผ่านมาทั้งหมด เป็นไปในเชิงวิชาการ โดยอยู่ใต้กรอบของกฎหมาย รวมถึงกรอบของรัฐธรรมนูญทุกอย่าง จึงคิดว่าตราบใดที่สมาชิกกลุ่มนิติราษฎร์ยังคงมีกำลังอยู่ ก็คงจะเคลื่อนไหวในเชิงวิชาการลักษณะนี้กันต่อไป
“ยอมรับว่ามีความกังวลบ้างในฐานะมนุษย์ปุถุชน ซึ่งหลังจากนี้ก็คงต้องระมัดระวังตัวในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น แต่คงไม่ถึงกับต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ขอว่าในระยะนี้ขอให้ตำรวจได้รักษาความปลอดภัยให้กับคณาจารย์กลุ่มนิติ ราษฎร์บ้าง แต่ในระยะยาวก็คงไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ” นายปิยบุตรกล่าว
ส่วนอาการบาดเจ็บของนายวรเจตน์นั้น นายปิยบุตรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายวรเจตน์เองไม่ค่อยสบายอยู่แล้ว เนื่องจากพักผ่อนน้อย และแผลที่ได้รับบาดเจ็บนั้น น่าจะบวมมากขึ้นในวันนี้ ประกอบกับนายวรเจตน์ไม่มีคาบสอนในวันนี้ จึงขอพักผ่อนก่อน และมอบให้ตนเป็นผู้รับมอบดอกไม้แทน ส่วนในวันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.) นายวรเจตน์จะมาสอนตามปกติหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ
เมื่อถามว่ารู้จักกับนายสุพจน์ ศิลารัตน์ และนายสุพัฒน์ ศิลารัตน์ ที่เป็นผู้ทำร้ายนายวรเจตน์หรือไม่นั้น นายปิยบุตรกล่าวว่าไม่ทราบ และคงปล่อยให้เรื่องของการจับกุมผู้ต้องหา เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีต่อไป
นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยถูกข่มขู่ด้วยการส่งจดหมาย และโทรศัพท์มาต่อว่าที่บ้าน รวมถึงมีคนแปลกหน้าเข้ามาถามถึงห้องทำงานของตน และของอาจารย์กลุ่มนิติราษฎร์ที่สำนักงานคณะนิติศาสตร์ แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น ทั้งนี้ ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้มีการหารือกันแล้วว่าจะเพิ่มมาตรการรักษาความ ปลอดภัยมากขึ้น แต่คงไม่ใช่เฉพาะกลุ่มนิติราษฎร์เพียงอย่างเดียว เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว
“ผมคิดว่าหลังจากนี้สังคมไทย ซึ่งเป็นสังคมประชาธิปไตย ต้องอาศัยความอดทนอดกลั้น ในการรับฟังความคิดเห็นทางวิชาการมากขึ้น เพราะหากยังเป็นไปในแบบนี้ เกรงว่าจะเกิดการใช้อารมณ์ จนนำไปสู่การปะทะกันด้วยกำลังในที่สุด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคนที่รับฟังกลุ่มนิติราษฎร์เป็นคนที่มีความอดทน อดกลั้นเพียงพอ และไม่น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในอนาคต” นายปิยบุตรกล่าว
นายจรัล ดิษฐาอภิไชย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้มามอบดอกกุหลาบให้กับนายปิยะบุตร และนายปูนเทพด้วย โดยนายจรัล ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก ท้าทายนักวิชาการกลางวันแสกๆภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและชีวิต รวมถึงคุกคามเสรีภาพทางวิชาการ
ทั้งนี้ตนวิเคราะห์ว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้ทำจากความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง แต่น่าจะเป็นไปตามแผนของอีกฝ่ายที่ต้องการทำให้เกิดสถานการณ์ที่รุนแรง เพื่อให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่รณรงค์ให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีความรุนแรง และตนเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เป็นการทำเองตามที่บางฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเป็นการหวังสร้างกระแส อย่างไรก็ตาม อยากให้ใช้สติปัญญาในการแสดงออกทางการเมือง ถ้าเชื่อว่าความคิดของตัวเองถูกต้อง ก็ต้องมีการโต้แย้งถกเถียงกัน เช่น การตั้งเวทีแสดงความคิดเห็นกันในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยนายสมยศ เชื้อไทย นายกสมาคมฯ ได้ออกแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีใจความว่า ทางสมาคมฯขอประณามการทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ โดยเฉพาะการใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นผู้ไม่หวังดีต่อประเทศ แต่จงใจมุ่งให้เกิดความแตกแยกและให้สังคมเกิดความโกลาหลวุ่นวายที่ยากต่อการ ประนีประนอมหรือปรองดองสามัคคีระหว่างคนในสังคม เราจึงขอเรียกร้องให้เดินตามแนวทางของผู้ที่มีใจเป็นประชาธิปไตยที่ว่า “เราจะต่อสู้เพื่อให้โอกาสเขาได้พูดหรือแสดงความเห็น แม้สิ่งที่เขาจะพูดหรือแสดงความเห็นจะเป็นสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย”
http://www.posttoday...หวในหลักวิชาการ