"นารีเนื้อหอม" เมื่อนักธุรกิจและนักลงทุนประมาณ 90 คนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของโลกเข้าพบนายกยิ่งลักษณ์
#1
Posted 13 March 2012 - 19:57
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(12 มี.ค.) เวลา 10.00 น. คณะนักธุรกิจสภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีทั้งนักธุรกิจและนักลงทุนรายใหญ่ของสหรัฐฯประมาณ 90 คน อาทิ โคคา-โคลา, ไมโครซอฟท์, จีอี, ฟอร์ด, เอทีแอนด์ที, ซิตี้แบงก์, ฮิวเลตต์ แพคการ์ด, ดาว เคมิคอล, เชฟรอน, เดลล์ จะเข้าพบนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการค้าการลงทุน ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนี้ในเวลา 11.30 น.นายLiqun Jin ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลบรรษัทเพื่อการลงทุน แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China Investment Corporation) กองทุนความมั่งคั่งทีี่จีนได้นำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐไปลงทุนในที่ต่างๆจะเข้าพบนายกฯ เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือด้านการลงทุน
นายนิรุตติ์ คุณวัฒน์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังคณะนักธุรกิจสภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐอเมริกาเข้า พบว่า เป็นการเข้าพบเพื่อหารือกับนโยบายต่างๆของภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องกับด้านการค้าการลงทุน โดยการหารือครั้งนี้มีนักธุรกิจเข้าร่วมประมาณ 90 คนจาก 30 บริษัท ซึ่งนายกฯได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจงให้นักธุรกิจสหรัฐรับทราบถึงนโยบายการแก้ไข ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล รวมทั้งเรื่องการประกันภัย พร้อมกับมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจัดการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อรับฟัง และแก้ไขอุปสรรคด้านการค้าการลงทุนในแต่ละด้าน
สำหรับนักธุรกิจสหรัฐที่เข้าพบวันนี้ อาทิ โคคา-โคลา, ไมโครซอฟท์, จีอี, ฟอร์ด, เอทีแอนด์ที, ซิตี้แบงก์, ฮิวเลตต์ แพคการ์ด, ดาว เคมิคอล, เชฟรอน, เดลล์
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจไอที แสดงความสนใจในนโยบายการส่งเสริมการใช้แทบเล็ตแก่เด็กนักเรียนและพร้อมที่จะ ช่วยเหลือในด้านซอฟแวร์เพราะสหรัฐฯมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็มีความสนใจ เพราะส่วนที่เป็นซอฟแวร์ที่สามารถมารวมกับส่วนฮาร์ดแวร์ได้ โดยเฉพาะการแปลงตัวหนังสือในระบบดิจิตอล
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น การผลิตยาเวชภัณฑ์ต่างๆ และบริการสาธารณสุข ได้เสนอให้มีการตั้งคณะทำงานเข้ามาทำงานร่วมกับทางกระทรวงอย่างใกล้ชิด เพื่อทราบทิศทางของการผลิต โดยต้องมีการหารือในรายละเอียดกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง
นอกจากนี้ ได้เสนอให้รัฐบาลทบทวนโครงสร้างภาษีรถยนต์ ซึ่งกรมสรรพสามิตรเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว และมีแนวทางที่มีลักษณะส่งเสริมให้เกิดการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ โดยทางสหรัฐฯ ขอให้มีคณะทำงานเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เนื่องจาก เกรงว่าโครงสร้างภาษีดังกล่าวจะไปส่งเสริมรถยนต์บางประเภทในขณะเดียวกัน รถยนต์บางประเภทจะได้รับการส่งเสริมน้อยลง
ขณะที่รัฐบาลไทย ได้ชี้แจงว่าต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะหากดำเนินการในทันทีจะทำให้บริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ได้รับผลกระทบเพราะไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนได้เพียงพอ ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงจึงต้องมีความพร้อมในทุกฝ่าย
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
#2
Posted 13 March 2012 - 19:59
ผมว่าผมอ่านนี้หนที่ 3 แล้ว ระวังเบิกไม่ได้นะ
#3
Posted 13 March 2012 - 20:00
#4
Posted 13 March 2012 - 20:00
55555555555
#5
Posted 13 March 2012 - 20:02
#6
Posted 13 March 2012 - 20:03
และยิ่งนายก ประเทศนั้น มีวิสัยทัศน์ โง่ๆ ที่อาจส่งผลกับธุีรกิจคุณ ผมว่า คุณยิ่งต้องแทบจะเข้าไปพบเขาอย่างไว เลยทีเดียว
ผลประโยชน์ลงตัว อยู่ร่วมกันได้ เนื้อหอมที่ว่า คงหมายถึง กลิ่นหอมๆของเงิน
#7
Posted 13 March 2012 - 20:03
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#8
Posted 13 March 2012 - 20:04
#9
Posted 13 March 2012 - 20:06
#10
Posted 13 March 2012 - 20:10
อ้างคำพูดของ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
US-Asean Business Council ที่สหรัฐไปคุยกับกลุ่มรัฐบาลอาเซียน ซึ่งจะวนไปเรื่อยๆ โดยก่อนหน้าจะมาไทย ก็ได้ไป กัมพูชา ลาว และเวียดนาม
โอ้ว โน้ว!!!
ม่ายจริง !!! สภาธุรกิจนี้ต้องเห็นความสำคัญของแม่ปูผู้เลิศเลอเพียงคนเดียวเท่านั้น
ต้องเจาะจงมาเยือนไทยเพียงแห่งเดียว
เพื่อฟังวิสัยทัศน์ การบริหารจัดการอันเลอเลิศของเทพธิดาปู
ทำไมต้องวนไปทุกประเทศในอาเซียน.... คนกลางที่สุดในสามโลกรับม่ายด้ายยยยย
#11
Posted 13 March 2012 - 20:16
พวกปริญญาเอกโหงวเฮ้งศาสตร์ปูโหวงเฮ้งดีมาก หน้าผาก ตา จมูกปาก คาง เสมอกันหมด 3ส่วน
เจ๊โบถอกไปเหลาหน้ามา ใครๆ ก็รู้
5555555555
#12
Posted 13 March 2012 - 20:29
ไม่ว่าจะเรื่องน้ำท่วม หรือเรื่องบี้ลิขสิทธิ์คอมพิวเตอร์
รวมทั้งแทบเล็ตที่ซื้อจากจีน ว่าทำไมไม่ซื้อจากเมกาล่ะมั้ง
ทีหลังลงข่าวให้ลงครบหน่อย รู้อยู่แล้วว่าแถวนี้เขาไม่เชื่อง่ายๆเหมือนพวก จขกท หรอก
ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
#13
Posted 13 March 2012 - 20:31
http://www.mcot.net/...age/340971.htmlทำเนียบรัฐบาล 12 มี.ค.-สภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐได้นำนักธุรกิจสหรัฐจาก 50 บริษัทชั้นนำ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับการค้า การลงทุน รวมถึงเพื่อให้เกิดความมั่นใจในแผนรับมืออุทกภัย
สภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐได้นำนักธุรกิจสหรัฐกว่า 90 คน จาก 50 บริษัทชั้นนำ เช่น HP โคคา-โคล่า ฟอร์ด มอร์เตอร์ จีอี แคปปิตอล กูเกิล ฯลฯ เข้าพบนายกรัฐมนตรี หารือเกี่ยวกับการค้า การลงทุน และเพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อแผนรับมืออุทกภัย ซึ่งภายหลังการเข้าพบ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ภาคธุรกิจต่างมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มเติม ซึ่งจากนี้ไปภาคเอกชน และตัวแทนของรัฐในแต่ละภาคส่วนจะต้องไปหารือในรายละเอียดเพื่อทำการลงทุนร่วมกัน
ขณะที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ได้เดินสายหารือกับรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงไทย และมีกำหนดการหารือเป็นรายกระทรวง เพื่อเจาะลึกในรายละเอียดแต่ละด้าน ทั้งนี้ ไม่มีใครสอบถามเพิ่มเติมเรื่องแนวทางป้องกันอุทกภัยผ่านโครงการต่าง ๆ เพราะตระหนักดีว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลกำลังเร่งเดินหน้าอย่างเต็มที่
ส่วนปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีพลังงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป หรือตัดสินใจเกี่ยวกับการยกเลิกกองทุนน้ำมัน
ส่วนการหารือกับประธานคณะกรรมการกำกับดูแลบรรษัทเพื่อการลงทุนของจีน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า จีนชื่นชมต่อความสามารถในการจัดการปัญหาและฟื้นฟูประเทศภายหลังน้ำท่วม และสนใจที่จะลงทุนกับไทย ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและสินค้าเกษตร.-สำนักข่าวไทย
อ่านหลายๆๆสำนัก ได้เดินสายหารือกับรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เนื้อหอมกันหมดทั่วโลกเลย
#14
Posted 13 March 2012 - 20:52
โดยการหารือครั้งนี้มีนักธุรกิจเข้าร่วมประมาณ 90 คน จาก 30 บริษัท ซึ่งนายกได้ใช้โอกาส
นี้ชี้แจงให้นักธุรกิจสหรัฐทราบถึงนโยบายการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล รวมทั้งเรื่องการ
ประกันภัย พร้อมกับมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจัดประชุมกลุ่มย่อยและแก้ไขปัญหาอุปสรรค
ด้านการค้าการลงทุนในแต่ละด้าน"
Pooklook มั่นใจหรือว่าเข้าพบเพราะเนื้อหอม
PaPaRoacHo มั่นใจหรือว่าเข้าพบเพราะโหงวเฮ้งดี
#15
Posted 13 March 2012 - 20:57
ใครๆก็รู้
ต่อต้านนังเพศแม่เสื้อแดงมือเปื้อนเลือดแถมเปื้อนน้ำกาม
#16
Posted 13 March 2012 - 21:11
ปูโหวงเฮ้งดีมาก หน้าผาก ตา จมูกปาก คาง เสมอกันหมด 3ส่วน
หน้าตาเหมือนเด็กดิ้ง
คืนๆคงได้ทิปเยอะ
#17
Posted 13 March 2012 - 21:17
ปูโหวงเฮ้งดีมาก หน้าผาก ตา จมูกปาก คาง เสมอกันหมด 3ส่วน
หน้าตาเหมือนเด็กดิ้ง
คืนๆคงได้ทิปเยอะ
ลองให้มันลบเครื่องสำอางค์ที่หน้าออกดิ
คงหลอน จนนอนม่ายหลับ
ว่าถนนหนาแล้วนะ อีนังนี่มันโปะซะยิ่งกว่าถนนคอนกรีตอีก
คุณต้องลงมือ จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง "คานธี"
กฏของเสียงข้างมาก จะใช้กับเรื่องของมโนธรรมไม่ได้ "คานธี"
#18
Posted 13 March 2012 - 21:26
เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล
#19
Posted 13 March 2012 - 21:43
#20
Posted 13 March 2012 - 23:04
ว่ากันว่ากลิ่นหอมเหมือนปลาเค็มจริงรึเปล่าคะ
ใครๆก็รู้
ลานมัน .... ตังหาก
....เพราะฉะนั้น...รีบไปซะ ก่อนที่พวกมรึงจะไม่กลับมาเหยียบอีก
#21
Posted 14 March 2012 - 01:08
ปูโหวงเฮ้งดีมาก หน้าผาก ตา จมูกปาก คาง เสมอกันหมด 3ส่วน
โห...อวยกันแบบหน้าด้านๆ เลยเหรอเนี่ย
ไม่เป็นไรเนาะ
ไงๆ พวกเราเหล่าสาวกควายแดง
ก็ ชาบู ชาบู อยู่แล้ว
(หลังจากนั้นเราก็จะไปแดรกหญ้าต่อไป)
#23
Posted 14 March 2012 - 03:22
มีแต่พวกคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ คงจะมาหาช่องขายของเท่านั้นละ
อาจเห็นข่าวแจกแทบเล็ทเด็กกับแจกไอโฟนสส. เลยคิดว่าน่าจะขายคอมฯ ง่ายมั้งครับกับรัฐบาลแดร่กด่วนแบบนี้
#24
Posted 14 March 2012 - 07:04
ปูโหวงเฮ้งดีมาก หน้าผาก ตา จมูกปาก คาง เสมอกันหมด 3ส่วน
จินตนาการ....จนน้ำแตกเลยซิ...ดันเข้าไป...
#25
Posted 14 March 2012 - 08:03
หากคุณไปทำมาค้าขาย กับประเทศ สารขัน ถ้า นายกประเทศนั้น เปิดโอกาสให้คุณเข้าพบ คุณจะไปไหม ....
และยิ่งนายก ประเทศนั้น มีวิสัยทัศน์ โง่ๆ ที่อาจส่งผลกับธุีรกิจคุณ ผมว่า คุณยิ่งต้องแทบจะเข้าไปพบเขาอย่างไว เลยทีเดียว
ผลประโยชน์ลงตัว อยู่ร่วมกันได้ เนื้อหอมที่ว่า คงหมายถึง กลิ่นหอมๆของเงิน
หลังน้ำท่วมประเทศไทยปี2554...
นายกฯนกแก้วลดแลกแจกแถมหมด...
นัดพบที่โรงแรมไหนไม่ขัดข้อง.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#26
Posted 14 March 2012 - 08:17
#27
Posted 14 March 2012 - 09:06
#28
Posted 14 March 2012 - 09:10
หน้าตาโคตรประหลาดเลย...ปูโหวงเฮ้งดีมาก หน้าผาก ตา จมูกปาก คาง เสมอกันหมด 3ส่วน
ยามกูจนมรึ-งย่ำยี ยามกูมีมรึ-งอิจฉา
#29
Posted 14 March 2012 - 09:13
ไม่ใช่กลิ่นปลาหมึกรึ
ว่ากันว่ากลิ่นหอมเหมือนปลาเค็มจริงรึเปล่าคะ
ใครๆก็รู้
ลานมัน .... ตังหาก
จะให้ชัวร์คงต้องให้อนุสรณ์มายืนยัน
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#30
Posted 14 March 2012 - 09:23
#31
Posted 14 March 2012 - 09:35
ใครจะไม่อยากได้
#32
Posted 14 March 2012 - 10:01
ใครว่าเสมอกัน ดุตาซ้ายกับตาขวาหล่อนซิ อยู่กันคนละระดับ ตาซ้ายอยู่สูงกว่าตาขวา บ่งบอกว่าเป็นคนชอบเรื่องเพ้อฝัน และXXXปูโหวงเฮ้งดีมาก หน้าผาก ตา จมูกปาก คาง เสมอกันหมด 3ส่วน
#33
Posted 14 March 2012 - 10:11
ส่วนคนที่เข้าพบนางยก คงเพราะอยากคุยเรื่องความมั่นใจว่ามาลงทุนแล้ว
นางจะไม่ทำให้เขาเจ๊งเหมือนตอนน้ำท่วมปีก่อน
Edited by tu249cm, 14 March 2012 - 10:12.
“People shouldn't be afraid of their government. Governments should be afraid of their people.”
#34
Posted 14 March 2012 - 10:19
#35
Posted 14 March 2012 - 10:20
ปูโหวงเฮ้งดีมาก หน้าผาก ตา จมูกปาก คาง เสมอกันหมด 3ส่วน
เอาอะไรมาพูด โหวงเฮ้งดูเป็นหรือเปล่า มั่วไปเรื่อย นะคุณ...
ไปหาอ่านดูมา รู้สึกอ.ปูNGOนี่ มีสง่า ราคี มากกว่านะ .........
http://www.manager.c...D=9530000128200
http://www.manager.c...D=9530000128767
Edited by นักเรียนตลอดชีพ, 14 March 2012 - 10:30.
.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..
ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม
#36
Posted 14 March 2012 - 10:23
#37
Posted 14 March 2012 - 10:59
#38
Posted 14 March 2012 - 17:54
เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"
#39
Posted 14 March 2012 - 18:48
#40
Posted 14 March 2012 - 19:33
จากข่าว http://daily.bangkok...om/detail/49275
อ้างคำพูดของ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
US-Asean Business Council ที่สหรัฐไปคุยกับกลุ่มรัฐบาลอาเซียน ซึ่งจะวนไปเรื่อยๆ โดยก่อนหน้าจะมาไทย ก็ได้ไป กัมพูชา ลาว และเวียดนาม
โอ้ว โน้ว!!!
ม่ายจริง !!! สภาธุรกิจนี้ต้องเห็นความสำคัญของแม่ปูผู้เลิศเลอเพียงคนเดียวเท่านั้น
ต้องเจาะจงมาเยือนไทยเพียงแห่งเดียว
เพื่อฟังวิสัยทัศน์ การบริหารจัดการอันเลอเลิศของเทพธิดาปู
ทำไมต้องวนไปทุกประเทศในอาเซียน.... คนกลางที่สุดในสามโลกรับม่ายด้ายยยยย
เบื่อจริงพวกอำมาตย์รู้ทันตลอด
คิดว่าจะเลิกตอบกระทู้ล่อเป้าและไร้สาระของบางคนแล้วค่ะ จะได้ตกๆไป
#41
Posted 14 March 2012 - 19:33
เลียตีนอีปู ไอ้โปกน่าจะทำมาแล้วโปกลุกรู้ได้ไงว่าอีเหี่ยวมันเนื้อหอม เอ๊ะ....หรือว่าเคยไปแอบดมมาแล้ว
#42
Posted 14 March 2012 - 19:40
#43
Posted 14 March 2012 - 19:43
#44
Posted 14 March 2012 - 20:07
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนญี่ปุ่น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว วันนี้ (12 มี.ค.) จะมีนักลงทุนและนักธุรกิจรายใหญ่กว่า 90 คน เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเรื่องการค้าการลงทุน ดังนี้
เมื่อเวลา 10.00 น. คณะนักธุรกิจสภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทชั้นนำของสหรัฐประมาณ 90 คน เช่น โคคา-โคลา, ไมโครซอฟท์, จีอี, ฟอร์ด, เอทีแอนด์ที, ซิตี้แบงก์, ฮิวเลตต์ แพคการ์ด, ดาว เคมิคอล, เชฟรอน, เดลล์ จะเข้าพบนายกฯ เพื่อหารือการค้าการลงทุน ณ ตึกสันติไมตรี หลังใน ทำเนียบรัฐบาล
จากนั้น ในเวลา 11.30 น. นายลี่คุน จิน (Liqun Jin) ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลบรรษัทเพื่อการลงทุน แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China Investment Corporation) หรือ CIC จะเข้าพบนายกฯ เพื่อหารือความร่วมมือด้านการลงทุน ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ คณะนักธุรกิจสภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ที่จะเข้าพบนายกฯครั้งนี้ คาดว่า จะเป็นการเข้ามาสอบถามความชัดเจนแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ที่ได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่เคยเดินทางเข้าพบนายกฯในช่วงเกิดปัญหาอุทกภัยเมื่อเดือนต.ค. 2554 ที่ผ่านมา
เตรียมชี้แจงแผนป้องกันท่วม
การเข้าพบครั้งนี้ ทางทีมงานนายกฯ เตรียมให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชี้แจงมาตรการและแผนการป้องกันปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ที่จะดำเนินการในวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนประกันภัยอุทกภัยวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกับนักลงทุน
ส่วน CIC ของจีนที่จะเข้าพบนั้น เป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของจีน ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อนำทุนสำรองระหว่างประเทศไปลงทุนในที่ต่างๆ ที่มีความมั่นคง โดยปัจจุบันกองทุนนี้มีมูลค่าการลงทุนรวม 400,000 ล้านบาท ซึ่งการเข้าพบครั้งนี้คงเป็นการหารือกันในกรอบกว้างๆ เพื่อดู CIC มีท่าที หรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งอย่างไร และ CIC มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างไร
โดยเฉพาะการสานต่อความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างไทย-จีน จำนวน 2 ฉบับ ที่นายกฯได้ลงนามร่วมกับนายสี จิ้นผิง รองประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา ประกอบด้วย
1.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาอย่างยั่งยืนไทย-จีน แบ่งเป็น 4 ด้าน คือ ความร่วมมือในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เส้นทาง กรุงเทพ-เชียงใหม่ และระบบรางอื่นๆ การพัฒนาระบบบริหารการจัดการน้ำอย่างครบวงจร การวิจัยพัฒนาพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน พลังงานทดแทน และการพัฒนาด้านการศึกษา และพัฒนาด้านทรัพยากรบุคคลในประเทศ ไทย
และ 2.ความตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงิน ตราแบบทวิภาคี ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยกับธนาคารกลางจีน เป็นสัญญาที่แลกเปลี่ยนเงินสกุลหยวน และเงินบาท ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกลางของประเทศจีน เพื่อช่วยส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันและการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ มีอายุเวลา 3 ปี และมีวงเงินในการจัดทำ 7 หมื่นล้านหยวน หรือ 3.2 แสนล้านบาท
เดลล์ เผยเน้นความร่วมมือการค้า
นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และผู้จัดการทั่วไป ภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า การเข้าพบ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของผู้บริหารเดลล์ จะเน้นความร่วมมือกันระหว่างไทย กับสหรัฐ ทางด้านการลงทุน สานสัมพันธ์ พร้อมรับฟังนโยบายแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น เป็น US-Asean Business Council ที่สหรัฐไปคุยกับรัฐบาลกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งจะวนไปเรื่อยๆ โดยก่อนหน้าจะมาไทย ก็ได้ไป กัมพูชา ลาว และเวียดนาม
Edited by Nye Po, 14 March 2012 - 20:08.
#45
Posted 14 March 2012 - 21:22
#46
Posted 14 March 2012 - 22:16
pooklook เข้าใจเปรียบเทียบได้ดีจริง ๆ เหมาะสมมาก ขอปรบมือให้
มีนางในวรรณคดีคนหนึ่งที่มีกลิ่นกายหอมเย้ายวนใจ pooklook คงไม่เคยรู้ละสิ
จะบอกให้เอาบุญ
"นางกากี" ยังไงล่ะ
รื่นรื่นชื่นจิตพี่จำได้...... เหมือนเมื่อไปร่วมภิรมย์ประสมศรี
ในสถานพิมานฉิมพลี……… กลิ่นยังซาบทรวงพี่ทั้งวรกาย
นิจจาเอ๋ยจากเชยมาเจ็ดวัน……กลิ่นสุคันธรสรื่นก็เหือดหาย
ฤๅว่าใครแนบน้องประคองกาย ..กลิ่นสายสวาทซาบอุรามาฯ
นางมีสามีหลายคน พูดให้ฟังง่าย ๆ ก็เข้าประเภท เจ๊กลากไป ไทยลากมานั่นแหละ
Edited by คนชายแดน, 14 March 2012 - 22:24.
#47
Posted 14 March 2012 - 22:27
----------------\\
ดีเนอะ
#48
Posted 15 March 2012 - 00:34
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(12 มี.ค.) เวลา 10.00 น. คณะนักธุรกิจสภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีทั้งนักธุรกิจและนักลงทุนรายใหญ่ของสหรัฐฯประมาณ 90 คน อาทิ โคคา-โคลา, ไมโครซอฟท์, จีอี, ฟอร์ด, เอทีแอนด์ที, ซิตี้แบงก์, ฮิวเลตต์ แพคการ์ด, ดาว เคมิคอล, เชฟรอน, เดลล์ จะเข้าพบนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการค้าการลงทุน ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนี้ในเวลา 11.30 น.นายLiqun Jin ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลบรรษัทเพื่อการลงทุน แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China Investment Corporation) กองทุนความมั่งคั่งทีี่จีนได้นำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐไปลงทุนในที่ต่างๆจะเข้าพบนายกฯ เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือด้านการลงทุน
นายนิรุตติ์ คุณวัฒน์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังคณะนักธุรกิจสภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐอเมริกาเข้า พบว่า เป็นการเข้าพบเพื่อหารือกับนโยบายต่างๆของภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องกับด้านการค้าการลงทุน โดยการหารือครั้งนี้มีนักธุรกิจเข้าร่วมประมาณ 90 คนจาก 30 บริษัท ซึ่งนายกฯได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจงให้นักธุรกิจสหรัฐรับทราบถึงนโยบายการแก้ไข ปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล รวมทั้งเรื่องการประกันภัย พร้อมกับมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจัดการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อรับฟัง และแก้ไขอุปสรรคด้านการค้าการลงทุนในแต่ละด้าน
สำหรับนักธุรกิจสหรัฐที่เข้าพบวันนี้ อาทิ โคคา-โคลา, ไมโครซอฟท์, จีอี, ฟอร์ด, เอทีแอนด์ที, ซิตี้แบงก์, ฮิวเลตต์ แพคการ์ด, ดาว เคมิคอล, เชฟรอน, เดลล์
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจไอที แสดงความสนใจในนโยบายการส่งเสริมการใช้แทบเล็ตแก่เด็กนักเรียนและพร้อมที่จะ ช่วยเหลือในด้านซอฟแวร์เพราะสหรัฐฯมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็มีความสนใจ เพราะส่วนที่เป็นซอฟแวร์ที่สามารถมารวมกับส่วนฮาร์ดแวร์ได้ โดยเฉพาะการแปลงตัวหนังสือในระบบดิจิตอล
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น การผลิตยาเวชภัณฑ์ต่างๆ และบริการสาธารณสุข ได้เสนอให้มีการตั้งคณะทำงานเข้ามาทำงานร่วมกับทางกระทรวงอย่างใกล้ชิด เพื่อทราบทิศทางของการผลิต โดยต้องมีการหารือในรายละเอียดกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง
นอกจากนี้ ได้เสนอให้รัฐบาลทบทวนโครงสร้างภาษีรถยนต์ ซึ่งกรมสรรพสามิตรเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว และมีแนวทางที่มีลักษณะส่งเสริมให้เกิดการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ โดยทางสหรัฐฯ ขอให้มีคณะทำงานเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เนื่องจาก เกรงว่าโครงสร้างภาษีดังกล่าวจะไปส่งเสริมรถยนต์บางประเภทในขณะเดียวกัน รถยนต์บางประเภทจะได้รับการส่งเสริมน้อยลง
ขณะที่รัฐบาลไทย ได้ชี้แจงว่าต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะหากดำเนินการในทันทีจะทำให้บริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ได้รับผลกระทบเพราะไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนได้เพียงพอ ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงจึงต้องมีความพร้อมในทุกฝ่าย
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เก่งๆมากๆ ค่อยเหมือนเป็นอมาตย์หน่อย ไอ้พวกโง่ๆไำพร่ๆรกหญ้าๆหยั่งพวกเราก็ได้แต่หวังให้ผู้นำเราฉลาดแกมรวย พวกเราแค่ขอให้ท่านรวยแล้วเปิดบ่อน หวย ให้พวกเราได้เล่นเท่านั้นเอง