ต่างชาติเชื่อมั่นไทย แห่ขอลงทุนเพิ่ม 2 เดือนพุ่ง 133%
#1
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 16:40
บีโอไอโชว์ตัวเลขขอลงทุนช่วง 2 เดือน พุ่ง 133% หลังต่างชาติเชื่อมั่น และเห็นศักยภาพของไทยอยู่ในระดับสูง โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการที่มีอยู่เดิมและขยายการลงทุนเพิ่ม
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงสถานการณ์การลงทุนในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ.) ว่า นักลงทุนให้ความสนใจและยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 2 เดือน มีนักลงทุนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน 277 โครงการ เงินลงทุน 154,200 ล้านบาท โครงการมีจำนวนเพิ่มขึ้น 14.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 242 โครงการ ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 133% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่า 66,100 ล้านบาท
กิจการที่นักลงทุนสนใจยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด เป็นกิจการเคมี กระดาษ และพลาสติก มี 54 โครงการ เงินลงทุน 64,000 ล้านบาท รองมาเป็นกิจการบริการและสาธารณูปโภค 52 โครงการ เงินลงทุน 32,000 ล้านบาท กิจการอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า 57 โครงการ เงินลงทุน 25,600 ล้านบาท กิจการผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง 57 โครงการ เงินลงทุน 15,000 ล้านบาท กิจการเกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร 37 โครงการ เงินลงทุน 11,400 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ ความสนใจยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในไทยมีทิศทางขยายตัวตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะในเดือน ก.พ.เพียงเดือนเดียว มีการลงทุนกระจายครอบคลุมทุกกลุ่มกิจการ และมีกิจการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทถึง 16 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 50,000 ล้านบาท เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พลังงานทดแทน ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น ซึ่งความสนใจของนักลงทุนดังกล่าว ย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของไทยและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการลงทุนในประเทศไทยที่ยังอยู่ในระดับสูง
นางอรรชกา กล่าวต่อว่า ทิศทางการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) เติบโตสอดคล้องกับการลงทุนในภาพรวมที่เพิ่มขึ้น โดยมีนักลงทุนต่างชาติยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 2 เดือนแรก จำนวน 188 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 82,202 ล้านบาท โครงการเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีจำนวน 144 โครงการ ขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่าอยู่ที่ 42,868 ล้านบาท กิจการที่นักลงทุนต่างชาติสนใจยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงสุด เป็นกิจการอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า จำนวน 47 โครงการ เงินลงทุน 25,508 ล้านบาท รองมาเป็นกิจการเคมี กระดาษ และพลาสติก 36 โครงการ เงินลงทุน 18,695 ล้านบาท กิจการผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง 53 โครงการ เงินลงทุน 14,275 ล้านบาท กิจการบริการและสาธารณูปโภค 28 โครงการ เงินลงทุน 13,804 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับการขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วง 2 เดือนแรก ของนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ลงทุนในประเทศไทยอยู่แล้ว และได้ขยายการลงทุนเพิ่ม รวมจำนวน 114 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 55,478 ล้านบาท ขณะที่มีโครงการลงทุนของบริษัทใหม่ที่ยังไม่เคยเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จำนวน 74 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 26,724 ล้านบาท สำหรับนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด มีจำนวน 101 โครงการ เงินลงทุน 38,253 ล้านบาท รองมาเป็นโครงการลงทุนจากสหรัฐอเมริกา 10 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 8,162 ล้านบาท อันดับสาม โครงการลงทุนจากประเทศเนเธอแลนด์ 5 โครงการ เงินลงทุน 6,653 ล้านบาท อันดับสี่จากประเทศสิงคโปร์ 14 โครงการ เงินลงทุน 3,228 ล้านบาท และอันดับห้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 4 โครงการ เงินลงทุน 2,555 ล้านบาท
http://www.thairath....tent/eco/245679
#2
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 16:44
#3
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 16:49
BOI มีหน้าที่อะไรอ่านนะครับ "สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) : Borad of Investment (BOI) คือ หน่วยงานที่ช่วยในการส่งเสริมการลงทุน โดยให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากร เช่น การยกเว้น/ลดหย่อนภาษีเงินได้นิตบุคคล การยกเว้น/ลดหย่อนอากรขาเข้าเครื่องจักร และวัตถุดิบ/วัสดุจำเป็น และสิทธิประโยขน์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษีอากรเช่น การบริการอำนวยความสะดวกในการนำช่างฝีมือ และผู้ชำนาญการชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในกิจการที่ได้รับการส่งเสริม รวมทั้งการให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินแก่นักลงทุนในการดำเนินการตามโครงการ"
เหมือนสมัยที่บริษัท ไทยคม ก็ BOI .... ไม่พูดต่อไปหาข้อมูลเพิ่มเอา ที่ลงทุนเพิ่มนะ เครื่องจักรมันแดกน้ำไปครับ ก็เลยต้องซื้อใหม่ จำเป็นต้องขอให้ BOI ช่วยลดหย่อนภาษี อำนายความสะดวกครับ
ปุ๊กลุ๊กครับ อ่านข่าว อ่านให้แตกหน่อยครับ อย่าสักแต่เห็นตัวเลขแล้วเอามาโพสครับ
#4
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 17:04
สงสัยปีนี้น้ำท่วมอีกแน่ๆ จะได้มีผลงานปีถัดไปด้วย
#5
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 17:09
ขอบใจโปกที่เอามาประจาน
#6
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 17:11
Edited by nnnn43, 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 18:26.
#7
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 17:30
แบ่งตามประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุนตามตารางที่ 2
ประเภท
จำนวนโครงการ
เงินลงทุน (ล้านบาท)
1.26 กิจการผลิตแอลกอฮอล์หรือเชื้อเพลิงจากผลผลิตทางการเกษตร63
48,140.19
4.24 กิจการผลิตเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ประหยัดพลังงานหรืออุปกรณ์ซึ่งใช้พลังงานทดแทน
11
2,016.42
4.25 กิจการผลิตเซลล์เชื้อเพลิง ( Fuel Cell)
1
326
4.26 กิจการผลิตเครื่องยนต์ เครื่องจักร และอุปกรณ์สำหรับรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ( Natural Gas Vehicle-NGV)2
1,027.30
4.27 กิจการประกอบรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ( Natural Gas Vehicle – NGV)
-
-
5.5.24 กิจการการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์5
6,080.00
7.1.1 กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าหรือไอน้ำ110
122,592.22
7.28 กิจการบริการด้านจัดการพลังงาน6
1,888.98
7.29 กิจการสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานพาหนะ-
-
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#8
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 17:48
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#9
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 18:05
#10
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 18:08
#11
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 18:50
.. เห็นได้ชัด ประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำให้ได้มา ซึ่งผู้นำที่เก่ง และ ฉลาด ..
ที่นำความอยู่ดี กินดี มาให้ประชาชนได้ แล้วคุณยังจะอ้างประชาธิปไตยเสียงส่วนใหญ่ทำไม
#12
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 18:53
ส่งผลยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์สูงกว่า 5 พันราย
พุ่งสูงสุดในรอบ 100 ปี
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดยอดการจดทะเบียนธุรกิจ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า มีจำนวนธุรกิจใหม่จดทะเบียนถึง 5,747 ราย สูงที่สุดในรอบ 100 ปี ตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลกิจการพาณิชย์ หรือเพิ่มขึ้นถึง 12 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นทุนจดทะเบียน 29,760 ล้านบาท โดยธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุดคือ ธุรกิจบริการและนันทนาการ รองมาคือ ก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ ตามลำดับ
โดยสาเหตุที่ยอดจดทะเบียนพุ่งสูงต่อเนื่อง มาจากการที่ภาคธุรกิจมีความมั่นใจในแผนป้องกันน้ำท่วมของภาครัฐมากขึ้น ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ก็มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวน 10,834 ราย เพิ่มขึ้น 3 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกกิจการในเดือนกุมภาพันธ์ มีจำนวน 770 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 113 % คิดเป็นทุนจดทะเบียน 3,623 ล้านบาท โดยธุรกิจที่จดทะเบียนยกเลิกสูงสุด ประกอบด้วย ธุรกิจก่อสร้าง บริการนันทนาการและอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้การจดทะเบียนยกเลิกธุรกิจในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวน 1,864 ราย หรือเพิ่มขึ้น 94 เปอร์เซ็นต์ โดยปัจจุบันมีธุรกิจจดทะเบียนในไทยทั่วประเทศจำนวน 502,669 ราย
Edited by PaPaRoacHo, 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 18:54.
#13
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 19:01
#14
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 19:11
Edited by วิว ไนซ์, 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 19:18.
หญ้าไม่แพง แดงไม่ซึ้ง
#15
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 19:19
สูตรสำเร็จ แปะแล้วรีบอวยนางยก ไม่ได้รู้ห่า น อะไรเลย
#16
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 19:24
เมื่อวานหุ้นไทยขึ้นทำสถิติใหม่จุดที่ปิดและมูลค่าการซื้อขายและขนาดตลาดพลักทรัพย์ สูงสุดตั้งแต่เปิดตลาดมาในรอบ30ปี เพราะเชื่อมั่นนา่ยกปู
เอ่อ เราเล่นหุ้นเหมือนกัน แน่ใจหรือคะว่าใช่เพราะเหตุนี้ มิใช่เพราะปัจจัยความกังวลเรื่องกรีซลดลงหรือ?
#17
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 19:35
เมื่อวานหุ้นไทยขึ้นทำสถิติใหม่จุดที่ปิดและมูลค่าการซื้อขายและขนาดตลาดพลักทรัพย์ สูงสุดตั้งแต่เปิดตลาดมาในรอบ30ปี เพราะเชื่อมั่นนา่ยกปู
ดัชนีหุ้นไทยสดใส ตามตลาดหุ้นต่างประเทศบวก รับข่าวดีจากตลาดนอก หลังเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรปส่อฟื้นตัว
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (14 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยดัชนีทะยานขึ้นได้แรงทันที ที่เปิดตลาดและยืนในแดนบวกได้อย่างคึกคักตลอดการซื้อขาย ตามแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน และธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังรับปัจจัยบวกจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมุมมองต่อเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐออกมาดีอย่างต่อเนื่อง เพราะตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐออกมาดีเช่นกัน ประกอบกับผลการทดสอบความเข้มแข็งของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐ 19 แห่ง ภายใต้สมมติฐานที่กำหนดให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย คือ อัตราการว่างงานสูงถึง 13% ตลาดหุ้นตกต่ำ 50% และราคาบ้านลดลงอีก 20% ผลปรากฏว่าธนาคารพาณิชย์ 15 แห่ง ผ่านเกณฑ์ไปได้อย่างฉลุย สำหรับสถานการณ์ในยุโรปก็ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งคาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่จะออกมาก็น่าจะดีขึ้น ส่งผลให้หุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,164.23 จุด เพิ่มขึ้น 10.67 จุด หรือ 0.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 17,270.24 ล้านบาท.
http://www.dailynews...businesss/17204
อย่าจินตนาการน้ำแตก
Edited by nnnn43, 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 19:45.
#18
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 19:59
หุ้นขึ้น บอก เป็นปัจจัยภายนอกจากต่างประเทศ
หุ้นตก บอก ต่างชาติไม่เชื่อมั่นในตัวนายกถอดนการลงทุน
2555 ปู ยิ่งลักษณ์
หุ้นขึ้น บอก นายกปู ชาบูชาบูต่างชาติมั่นใจ
หุ้นตก บอกว่า ปัจจัยจากต่างประเทศ
ไอ่เนี้ยเค้าเรียก Step เทพ !! เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น ตรรกะเข้าข้างพวกตนเอง แบบเนี้ยจะเป็นนักประชาธิปไตยได้อย่างไร