เพลงเพื่อชีวิต และ ประชาธิปไตย
#1
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:14
1. อยากถามว่า ผู้ที่เค้าว่ากันว่า หนีเข้าป่าไปช่วง 14 ตุลา แล้วเข้าไปเป็นสมาชิก พรรคคอมมิวนิสต์ ยกตัวอย่างเช่น นายผี เนี่ย ถือเป็นนักแต่งเพลง/กวี สายคอมมิวนิสต์ หรือเปล่า
2.แล้วอย่างพวก เหวง ธิดา (ครับ ตั้งใจไม่มีสรรพนามนำหน้าจะเรียก ไอ้ อี ก็เกรงใจ) ต่างกันหรือไม่อย่างไร
เข้าไปค้นประวัติ ใน Wiki ก็ ยังไม่ค่อยเข้าใจว่า 14ตุลา 6ตุลา หนีเข้าป่าไป แล้วไปเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ได้อย่างไร ในเมื่อ ตอนแรก เค้าก็เห็นบอกว่า ออกมาต่อต้านรัฐบาลแล้วโดนไล่ปราบ หรือ อะไรทำนองนี้ ทำให้หนีเข้าป่าไป แล้วไปจับพลัดจับผลูเป็นคอมมิวนิสต์ได้อย่างไร
สงสัยเพราะเคยคุยกับบางคนเค้าว่าๆ คนที่หนีเข้าป่าน่ะ มีแต่พวกนักศักษา แล้วพอไปเนี่ยก็ได้รับการสนับสนุนจากพวกคอมมิวนิสต์ เลยเปลี่ยน บ้างก็ว่า เข้าป่าไปเพราะเค้าหาว่าเป็นอยู่แล้วมั่ง โดนปรักปรำมั่ง เห็น เหวงกับ ธิดา ก็ท่าทางไม่ใช่คนหัวอ่อน เปลี่ยนอุดมการณ์อะไรง่ายๆแน่ แสดงว่า น่าจะเป็น คอมมิวนิสต์ ก่อนเข้าป่าด้วยซ้ำ แล้วออกมาไหงมาประชาธิปไตยอะไรแบบนี้ (คอมมิวนิสต์ห่อหนังประชาธิปไตยหรือเปล่าครับ?)
ในบอร์ดเรา มีใครใหมครับร่วมเหตุการณ์ใหมครับ ... คาดว่าไม่น่าจะถึงเห็นหนุ่มๆสาวๆกันทั้งนั้นเลย แหะๆ แต่คาดว่า ผมคงขอความรู้ได้แน่ๆ รบกวนชี้แนะด้วยครับ
#2
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:19
หรือสหายพันตา
กลับเป็นเสื้อเหลือง เอ๊ะยังไง
#3
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:29
น้าหงา คาราวาน
หรือสหายพันตา
กลับเป็นเสื้อเหลือง เอ๊ะยังไง
นั่นน่ะสิครับ ก็เลย งง อยู่แบบนี้อ่ะครับ ว่า เอ ตกลง พวก เค้าเหล่านั้น เป็น คอมมิวนิสต์จริง หรือ อะไรยังไง ทำไมมาประชาธิปไตยอะไรกันตอนนี้ ...
หรือว่า เมื่อก่อนก็ไม่ได้เป็น คอมมิวนิสต์ แต่ถูกใส่ร้าย เอะ มันยังไงกันแน่ งงไปหมดครับ
ที่แน่ๆ ผมอาจจะต้องทำความเข้าใจลัทธิคอมมิวนิสต์ใหม่ ว่าเป็นมายังไงเกี่ยวข้องอะไรกับประเทศไทย แล้วถึงมาดูว่า คนพวกนี้ ที่เคยเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ ทำไมมาเป็น นปช ได้ อย่าง เหวง ธิดา
หรือ การเป็น ไม่เป็น คอมมิวนิสต์และนักประชาธิปไตย มันสลับความคิดกันได้ง่ายๆแบบนี้เลยหรือ หรือ ว่า เหวง ธิดา พยายาม ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นมาใหม่ (เห็น พวก ไม่เอา112 ใส่หมวกเขียวติดดาวแดงเลยคิดแบบนั้น)
Edited by mOOgrOb'pm', 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:37.
#4
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:32
แล้วแกไม่เคยโปรฯสังคมนิยมมาร์กซิสต์เลยด้วยซ้ำ อย่างมากก็แค่เขียนเพลงเล่าถึงวิถีชาวบ้าน หรือไม่ก็ความลำบากของคนยากไร้ ก็เท่านั้น
จิตร กับ อัศนีย์ เอง ก็ไม่เคยมีงานเขียนที่พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์(ในยุครัตนโกสินทร์)เลยด้วยซ้ำ นอกจากวิจารณ์รัฐบาลทหาร หรือไม่ก็วิจารณ์ระบบขุนนางสมัยอยุธยา
แต่พวกควายแดง หรือนักวิชาเกรียนอีแอบ(เช่นไอ้หงอกหรือไอ้ใจรัน) ชอบเอาเขามาโปรฯเสมือนว่า มีแนวคิดไม่เอาสถาบันฯเหมือนกับพวกตัว
#5
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:35
นายหงาเข้าป่าสมัย 6 ตุลาครับ ห่างกันเกือบ 20 ปี
พวกที่เข้าป่ารุ่นหลังนี่ แบ่งเป็นสองพวก
พวกนึงเรียกว่าจัดตั้ง คือเป็นพวกที่เข้าเป็น กำลังจะเป็นหรือไกล้ชิดกับพรรคคอมมิวนิสต์
กับอีกพวก เป็นพวกที่ตื่นกลัว เห็นเพื่อนหนีก็หนีบ้าง
ตัวเลขคนที่เข้าป่ารุ่นหลัง ประเมินกันว่าอาจจะมากถึง 3 พันคน
คนพวกนี้ มีส่วนหนึ่ง เข้าป่าไปตั้งแต่ 2518 ก่อนเกิดเหตุสังหารหมู่ที่ธรรมศาสตร์
แสดงว่า ช่องทางที่คนเมืองจะหนีเข้าป่า ได้ถูกวางไว้แล้วเป็นเวลานาน
แสดงว่า พรรคคอมมิวนิสต์เข้ามาเคลื่อนไหวในเมืองอย่างแข็งขันตั้งแต่หลัง 14 ตุลา 2516
แสดงว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ ที่ทหารอ้าง มีมูลเหมือนกัน
และ แสดงอีกว่า มันไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างบริสุทธิ์ใจ
แต่ใช้เป็นข้ออ้างที่จะโค่นล้มรัฐบาลหรือช่วงชิงอำนาจรัฐ นั่นคือ ที่จริงแล้ว มันเป็นสงคราม
ถามว่า ประเทศใหนที่ปฎิวัติคอมมิวนิสต์แล้วไม่ฆ่าล้างโคตรฝ่ายตรงข้ามบ้าง
ถามว่า เมื่อเป็นสงครามแล้ว มีความปราณีด้วยหรือ
ถามว่าแกนนำอย่างพวกตึกชินหรือหงอกหรือธงชัย เอาเพื่อนนักศึกษาเป็นโล่ห์มนุษย์
เลวมากหรือเลวน้อยกว่ากระทิงแดงที่เข้ามาฆ่าโล่ห์มนุษย์ของเขา
ถามอีกว่า โล่ห์มนุษย์เหล่านี้ รู้ตัว ยินยอมพร้อมใจที่จะตายให้พวกคอมมิวนิสต์ใหม
ถามว่า ที่ทำมานี่ ต่างอะไรกับโล่ห์มนุษย์ราชประสงค์
ตอบว่า ที่ราชประสงค์มี M79 ครับ
#6
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:37
น้าหงา คาราวาน
หรือสหายพันตา
กลับเป็นเสื้อเหลือง เอ๊ะยังไง
นั่นน่ะสิครับ ก็เลย งง อยู่แบบนี้อ่ะครับ
อดีตสมาชิก พคท.เก่า ในปัจจุบัน บางส่วนก็ไปอยู่เสื้อเหลือง(หมายถึงพวกต่อต้านทักกี้ช่วงปี 49-52 นะ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะพวกสาวกแป๊ะ) บางส่วนก็ไปอยู่เสื้อแดงครับ
ประพันธ์ คูณมี, คำนูญ สิทธิสมาน ฯลฯ ก็เคยเป็น พคท.เก่าครับ
อดีต พคท.เก่าหลายคน ที่รักสถาบันฯ แต่เกลียดนักการเมืองฝ่ายขวาก็มีถมไปครับ
(ลองถามอดีต"นายชด"ดูสิครับ)
#7
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:38
เข้าใจผิดนะครับ จิตรนี่ล้มเจ้าตัวพ่อเลย
แล้วหงาก็เคยศรัทธาสหายจิตรอย่างแก่กล้า
แต่หงาชอบเงินและสตรี
ก็เลยเปลี่ยนจากคอมมิวนิสต์มาเป็นศิลปิน
#8
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:42
น้าหงา คาราวาน
หรือสหายพันตา
กลับเป็นเสื้อเหลือง เอ๊ะยังไง
นั่นน่ะสิครับ ก็เลย งง อยู่แบบนี้อ่ะครับ
อดีตสมาชิก พคท.เก่า ในปัจจุบัน บางส่วนก็ไปอยู่เสื้อเหลือง(หมายถึงพวกต่อต้านทักกี้ช่วงปี 49-52 นะ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะพวกสาวกแป๊ะ) บางส่วนก็ไปอยู่เสื้อแดงครับ
ประพันธ์ คูณมี, คำนูญ สิทธิสมาน ฯลฯ ก็เคยเป็น พคท.เก่าครับ
อดีต พคท.เก่าหลายคน ที่รักสถาบันฯ แต่เกลียดนักการเมืองฝ่ายขวาก็มีถมไปครับ
(ลองถามอดีต"นายชด"ดูสิครับ)
ในวงเล็บที่จริงไม่ต้องบอกก็ได้ครับ
เพราะที่นี่ต่างรู้ดีว่าสาวกแป๊ะเหลือแค่ phat21 อยู่คนเดียว
ว่าแต่หายไปหลายวันแล้ว ยังไม่โผล่มาเลย
#9
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:43
#10
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:47
ถ้าเป็นไปได้ แบบนี้ แสดงว่า เหตุการณ์เก่าๆ ถ้าพวกเขา สามารถจุดติด อาจนำไปสู่เงื่อนไขในการปราบปราม ดังเช่น สมัยที่แล้วๆมา ใช่ใหมครับ
#11
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:53
จิตร กับ อัศนีย์ เอง ก็ไม่เคยมีงานเขียนที่พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์(ในยุครัตนโกสินทร์)เลย ด้วยซ้ำ นอกจากวิจารณ์รัฐบาลทหาร หรือไม่ก็วิจารณ์ระบบขุนนางสมัยอยุธยา
เข้าใจผิดนะครับ จิตรนี่ล้มเจ้าตัวพ่อเลย
แล้วหงาก็เคยศรัทธาสหายจิตรอย่างแก่กล้า
แต่หงาชอบเงินและสตรี
ก็เลยเปลี่ยนจากคอมมิวนิสต์มาเป็นศิลปิน
เคยมีบทความที่แกเขียนถึงในหลวงองค์ปัจจุบัน หรือสถาบันกษัตริย์ยุครัตนโกสินทร์(แบบดิสเครดิต) ด้วยหรือครับ?
เรื่องอะไรบ้าง ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ.. (อยากรู้จริงๆนะครับ)
ตอนที่แกเคยเขียนวิจารณ์เรื่อง ให้ชาวจุฬาฯเห็นแก่ภาษีราษฎร(ในยุคที่เคยมีการโปรฯสถาบัน ว่าเป็นผู้สร้างมหาลัย) ก่อนจะถูกจับโยน
ผมว่าตอนนั้นยังไม่มีใครเก่งพอที่จะเอาตรรกะอีกด้านมาง้างแกมากกว่า มีแต่ใช้กำลังบังคับกัน
บางที(แค่บางทีนะ)...ถ้าเขาเจอแนวคิดใหม่ๆหรือประสบการณ์จริงที่ต่างออกไป เขาอาจจะเปลี่ยนแปลงก็ได้(แบบ อ.เสกสรรค์)
แต่บังเอิญตายก่อน...ที่จะตกผลึก
อันนี้กระทู้ในบอร์ดเก่าที่ผมเคยเอามาถามมุมมองจากสมาชิกท่านอื่นๆครับ
http://forum.seritha...php?f=2&t=16911
#12
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:53
ผมเชื่อว่าเป็นการปลุกผีคอมมิวนิสต์ตั้งแต่เลือกสีแดงมาใช้แล้วครับ
ใครๆก็รู้ สีแดงหมายถึงสัญลักษณ์ของกลุ่มไหน
#13
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:11
เข้าใจว่าคำถามของ naichod คงโฟกัสที่กลุ่มนักเรียนนักศึกษานะครับ ดังนั้นผมขอตอบโดยมุ่งไปที่กลุ่มนี้
โดยผมขอใช้คำว่า "โดยทั่วไป" หรือ "โดยส่วนใหญ่" ของพวกเขา หมายถึงว่ามันมีข้อยกเว้นสำหรับบางคน ที่อาจจะแค้นฝังหุ่นกับเหตุการณ์เดือนตุลาบ้าง คนที่เชื่อลัทธิมาร์กซอย่างถอนตัวไม่ขึ้นบ้าง ซึ่งไม่กี่คนที่ว่านี้ยังคงฝันอยากแก้แค้นสถาบัน หรือมีความเห็นเชิงทฤษฎีว่าการไม่มีสถาบันนั้นดีกว่า...
โดยทั่วไปของผู้ที่เข้าป่านั้น เข้าไปในลักษณะหนีตาย ทั้งที่น่าจะตายจริงๆเลยหนี หรือที่ตื่นตูมไปบ้าง เพราะอำนาจรัฐและกระแสสังคมขณะนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ พวกขวาจัดอย่างคุณสมัครปลุกปั่นให้เกิดการเข่นฆ่าล่าสังหารอย่างต่อเนื่อง เป็นใครก็ต้องหนีเข้าป่า เพราะ พคท. ก็กวักมีเรียกไหวๆอยากได้พลพรรคอยู่แล้ว
คนที่เข้าป่านี้อยู่ในกระแสคิดแบบ "ซ้าย" มากบ้างน้อยบ้างในแต่ละคน นี่ว่ากันในทางทฤษฎีนะครับ ซึ่งเมื่อเข้าป่าแล้วก็ต้องลงมือปฏิบัติด้วย นานไประยะหนึ่งส่วนใหญ่จึงรู้สึกว่า "ไม่ใช่" ความรู้สึกว่าไม่ใช่นี้มีทั้งที่รู้สึกต่อ พคท. และที่รู้สึกต่อ ทฤษฎีมาร์กซ คนเหล่านี้แหละที่ต่อมาค่อยๆทยอยออกจากป่าตั้งแต่ก่อน 66/23 แล้ว
คนเหล่านี้เมื่อระยะเวลาผ่านไปถึงช่วงหนึ่งความคิดค่อยคลี่คลาย ทัศคติเชิงลบต่อสถาบันค่อยๆหดไป บางคนยังเหลือสภาพลบนิดหน่อย บางคนข้ามไปรู้สึกเป็นบวก แต่ส่วนใหญ่จะรู้สึกกลางๆ คือยังวิพากษ์สถาบันอยู่แต่ก็โดยความเป็นจริง ไม่ใช่โดยชิงชัง และโดยรวมก็เห็นร่วมกันว่าสถาบันเป็น "องค์ประกอบจำเป็น" ของสังคมไทย หรือยัง function อยู่ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ และโดยรวมเช่นกันที่คนเหล่านี้พัฒนาการความคิดทางสังคมการเมืองข้ามพ้นมาร์กซิส
เมื่อหมดสภาพคุกคามก็ออกจากป่าคืนมาเมือง ทั้งหมดที่ผมกล่าวนี้คุณ naichod ย่อมทราบดีอยู่แล้ว แต่ผมตอบเผื่อคนอื่นด้วย ถ้าถามความรู้สึกผมก็รู้สึกดีกับคนเหล่านี้ ให้คุณค่าค่อนข้างมาก ในชีวิตประจำวันทุกวันนี้คนแวดล้อมใกล้ตัวผมก็เป็นคนเหล่านี้เป็นส่วนมากครับ
#14
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:24
โฉมหน้าศักดินาไทย
หลังจากออกจากคุก ก็คิดว่าปากกาปฎิวัติไม่ได้ เลยจับปืน
คนเป็นคอมมิวนิสต์ด้วยความเชื่อถือศรัทธา
ไม่มีที่รักกษัตริย์หรอกครับ
ผมเองก็ไม่ได้รักกษัตริย์ที่ความเป็นกษัตริย์
แต่รักที่เป็นยิ่งกว่ากษัตริย์
คือเป็นศูนย์รวมจิตใจคนทั้งชาติ
ที่ในหลวงทำมาตลอดตั้งแต่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน
ไม่ใช่หน้าที่ของกษัตริย์เลย
โดยเฉพาะกษัตริย์อย่างที่จิตรและคอมมิวนิสต์โจมตี
แต่ทรงเป็นผู้นำจิตวิญญานของชาติ ชี้ทางสว่างให้พสกนิกร
และเสียสละมากกว่าที่ทรงได้จากประชาชน
คุณไปดูบทบาทของกษัตริย์จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียตนาม พม่า.....
แม้แต่อังกฤษ หรือยุโรป
กษัตริย์ไทย ทำในสิ่งที่ต่างจากเจ้าพวกนั้น
ประวัติศาสตร์เป็นเครื่องยืนยันครับ
#15
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:27
แสดงว่า ตอนนี้ ที่เปิดๆตัวกันมา ก็มีพวก ไม่เอาเจ้า ล้มเจ้า แล้วก็ คอมมิวนิสต์(ยังถือว่าเป็นอยู่หรือเปล่าในกรณี เหวง ธิดา?) รวมอยู่ในพวกเสื้อแดงสินะครับ
ผมคิดว่าหลายๆคนน่าจะ"เคย"หมดไฟไปแล้วด้วยซ้ำ...แต่พอได้กระแสปลุกระดมจากแก๊งค์ไอ้เหลี่ยม ก็เลยกลับมาระริกระรี้(เหมือนกระหรี่ได้ผัวฝรั่ง)
ไม่ว่าจะเป็น ไอ่พิชิต(ลิควิด) ไอ่วรเจตน์(ไม่แน่ใจว่าไอ่นี่เคยเข้าป่ารึเปล่า?) และพรรคพวกอีก 6 ตัว ฯลฯ
**จริงๆผมก็ไม่ใช่คนยุคนั้นหรอกครับ แต่เคยติดตามงานเขียนของพวกนี้ในช่วงปี 46-49 แล้วก็หลังจากนั้นจนถึงปัจจุบัน > บางคนเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยก็มี จากที่เคยวิจารณ์การเมืองแบบแฟร์ๆ กลายเป็นพวกเอียงกระเท่เร่ จากกระแสต้านรัฐประหาร
(เมื่อก่อนปี 50 ผมว่าไอ่ธงชัยวินิจฯ...มันเขียนวิจารณ์การเมืองได้'แฟร์'กว่าเดี๋ยวนี้นะ ในมุมมองผม)
#16
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:28
อันนี้คอมเมนต์นึงจากบอร์ดเก่า ของคุณ"อิทรายุทธ" ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับบทวิเคราะห์ของเขาครับ
เข้าใจว่าคำถามของ naichod คงโฟกัสที่กลุ่มนักเรียนนักศึกษานะครับ ดังนั้นผมขอตอบโดยมุ่งไปที่กลุ่มนี้
โดยผมขอใช้คำว่า "โดยทั่วไป" หรือ "โดยส่วนใหญ่" ของพวกเขา หมายถึงว่ามันมีข้อยกเว้นสำหรับบางคน ที่อาจจะแค้นฝังหุ่นกับเหตุการณ์เดือนตุลาบ้าง คนที่เชื่อลัทธิมาร์กซอย่างถอนตัวไม่ขึ้นบ้าง ซึ่งไม่กี่คนที่ว่านี้ยังคงฝันอยากแก้แค้นสถาบัน หรือมีความเห็นเชิงทฤษฎีว่าการไม่มีสถาบันนั้นดีกว่า...
โดยทั่วไปของผู้ที่เข้าป่านั้น เข้าไปในลักษณะหนีตาย ทั้งที่น่าจะตายจริงๆเลยหนี หรือที่ตื่นตูมไปบ้าง เพราะอำนาจรัฐและกระแสสังคมขณะนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ พวกขวาจัดอย่างคุณสมัครปลุกปั่นให้เกิดการเข่นฆ่าล่าสังหารอย่างต่อเนื่อง เป็นใครก็ต้องหนีเข้าป่า เพราะ พคท. ก็กวักมีเรียกไหวๆอยากได้พลพรรคอยู่แล้ว
คนที่เข้าป่านี้อยู่ในกระแสคิดแบบ "ซ้าย" มากบ้างน้อยบ้างในแต่ละคน นี่ว่ากันในทางทฤษฎีนะครับ ซึ่งเมื่อเข้าป่าแล้วก็ต้องลงมือปฏิบัติด้วย นานไประยะหนึ่งส่วนใหญ่จึงรู้สึกว่า "ไม่ใช่" ความรู้สึกว่าไม่ใช่นี้มีทั้งที่รู้สึกต่อ พคท. และที่รู้สึกต่อ ทฤษฎีมาร์กซ คนเหล่านี้แหละที่ต่อมาค่อยๆทยอยออกจากป่าตั้งแต่ก่อน 66/23 แล้ว
คนเหล่านี้เมื่อระยะเวลาผ่านไปถึงช่วงหนึ่งความคิดค่อยคลี่คลาย ทัศคติเชิงลบต่อสถาบันค่อยๆหดไป บางคนยังเหลือสภาพลบนิดหน่อย บางคนข้ามไปรู้สึกเป็นบวก แต่ส่วนใหญ่จะรู้สึกกลางๆ คือยังวิพากษ์สถาบันอยู่แต่ก็โดยความเป็นจริง ไม่ใช่โดยชิงชัง และโดยรวมก็เห็นร่วมกันว่าสถาบันเป็น "องค์ประกอบจำเป็น" ของสังคมไทย หรือยัง function อยู่ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ และโดยรวมเช่นกันที่คนเหล่านี้พัฒนาการความคิดทางสังคมการเมืองข้ามพ้นมาร์กซิส
เมื่อหมดสภาพคุกคามก็ออกจากป่าคืนมาเมือง ทั้งหมดที่ผมกล่าวนี้คุณ naichod ย่อมทราบดีอยู่แล้ว แต่ผมตอบเผื่อคนอื่นด้วย ถ้าถามความรู้สึกผมก็รู้สึกดีกับคนเหล่านี้ ให้คุณค่าค่อนข้างมาก ในชีวิตประจำวันทุกวันนี้คนแวดล้อมใกล้ตัวผมก็เป็นคนเหล่านี้เป็นส่วนมากครับ
ถ้าแบบนี้ จะไปกล่าวหาว่า ทั้งสองคน เหวง ธิดา เป็น คอมฯอยู่ ก็ยังไม่ได้ 100% แต่วิธีการ ชักชวนเข้ากลุ่ม โดยการเอาความแตกต่างทางด้านสังคมมาเป็นเครื่องมือซึ่งเป็นวิธีที่เคยนำมาใช้นั้น ได้ถูกนำมาใช้อีก และ ยังเห็นลุงคนนึงอ้วนๆใส่หมวกเขียวดาวแดง(สุรชัย)เนี่ย แสดงว่า พวกนี้ นอกจากแม้วแล้ว ยังมี คอมฯ หนุนด้วยสิครับ
แบบนี้ ถึงแม้ปรองดองไปแล้ว ก็ยังคงมีเชื้อคอมฯ เชื้อล้มเจ้าฝังรากอยู่เหมือนเดิม ... แล้วแบบนี้ จะปรองดองทำไมกันล่ะครับเนี่ย เฮ้อ ชักจะซับซ้อน
Edited by mOOgrOb'pm', 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:29.
#17
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:32
จิตรเขียนบทความต่อต้านกษัตริย์อย่างสุดโต่ง ขื่อ
โฉมหน้าศักดินาไทย
หลังจากออกจากคุก ก็คิดว่าปากกาปฎิวัติไม่ได้ เลยจับปืน
คนเป็นคอมมิวนิสต์ด้วยความเชื่อถือศรัทธา
ไม่มีที่รักกษัตริย์หรอกครับ
ผมเองก็ไม่ได้รักกษัตริย์ที่ความเป็นกษัตริย์
แต่รักที่เป็นยิ่งกว่ากษัตริย์
คือเป็นศูนย์รวมจิตใจคนทั้งชาติ
ที่ในหลวงทำมาตลอดตั้งแต่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน
ไม่ใช่หน้าที่ของกษัตริย์เลย
เท่าที่ทราบ > หนังสือเล่มนั้น ไม่ได้กล่าวถึงในหลวงองค์ปัจจุบันนี่ครับ?!?
(ผมเคยอ่านแต่บทความที่เขาคัดลอกมาบางส่วน ไม่ใช่ต้นฉบับทั้งดุ้น)
แต่เคยมีสมาชิกในนี้บางท่าน(ที่เกิดทันยุคนั้น) กล่าวว่าเคยอ่านมาแล้ว ยืนยันว่าไม่มีบทความพาดพิงถึงในหลวงองค์ปัจจุบัน
*ผมไม่ได้คิดว่า จิตรเป็นพวก"รักเจ้า"หรอกครับ ...แต่การจะบอกว่าเขาเป็นพวก"ล้ม" ผมต้องการข้อมูลมากขึ้นเพื่อวิเคราะห์ข้อเท็จจริง
Edited by Huligan, 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:34.
#18
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:36
จิตรเขียนบทความต่อต้านกษัตริย์อย่างสุดโต่ง ขื่อ
โฉมหน้าศักดินาไทย
หลังจากออกจากคุก ก็คิดว่าปากกาปฎิวัติไม่ได้ เลยจับปืน
คนเป็นคอมมิวนิสต์ด้วยความเชื่อถือศรัทธา
ไม่มีที่รักกษัตริย์หรอกครับ
ผมเองก็ไม่ได้รักกษัตริย์ที่ความเป็นกษัตริย์
แต่รักที่เป็นยิ่งกว่ากษัตริย์
คือเป็นศูนย์รวมจิตใจคนทั้งชาติ
ที่ในหลวงทำมาตลอดตั้งแต่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน
ไม่ใช่หน้าที่ของกษัตริย์เลย
โดยเฉพาะกษัตริย์อย่างที่จิตรและคอมมิวนิสต์โจมตี
แต่ทรงเป็นผู้นำจิตวิญญานของชาติ ชี้ทางสว่างให้พสกนิกร
และเสียสละมากกว่าที่ทรงได้จากประชาชน
คุณไปดูบทบาทของกษัตริย์จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียตนาม พม่า.....
แม้แต่อังกฤษ หรือยุโรป
กษัตริย์ไทย ทำในสิ่งที่ต่างจากเจ้าพวกนั้น
ประวัติศาสตร์เป็นเครื่องยืนยันครับ
ผมเองก็ไม่ได้รักกษัตริย์ที่ความเป็นกษัตริย์
แต่รักที่เป็นยิ่งกว่ากษัตริย์
คือเป็นศูนย์รวมจิตใจคนทั้งชาติ
ที่ในหลวงทำมาตลอดตั้งแต่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน
ไม่ใช่หน้าที่ของกษัตริย์เลย
อ่านแล้วซึ้งใจจัง น้ำตาุคลอเลยทีเดียว
#19
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 17:37
เขาเรียกตีชิ่งครับ
ด่าระบอบกษัตริย์ในประเทศที่ใช้ระบอบกษัตริย์
มันก็คือล้มเจ้า เพราะเขาไม่ได้ติเพื่อก่อ
แต่เขาเลือกมาแต่จุดที่เขาจะย่ำได้ แล้วก็ย่ำให้หนำใจ
เพื่อไม่ให้มีอีกต่อไป
อุดมการณ์คอมมิวนิสต์คือล้มล้างชนชั้น
สังคมที่ไม่มีชนชั้น
มีกษัตริย์ได้ด้วยหรือ
#20
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 18:12
ผมก็ไม่ได้เห็นว่าจะสมบูรณ์แบบ อย่าง ร.5 หรือ ร.9 (ที่ได้รับการยอมรับจากราษฎรมากมาย) ทุกองค์หรอกครับ
อ่านจากวรรณกรรมในยุคนั้น เช่น ขุนช้างขุนแผน ดูก็พอจะทราบลางๆ...พระพันวษา(ชื่อกษัตริย์ในนิยายนั้น) ทั้งโง่และบ้าอำนาจครับ
แสดงว่ายุคนั้นก็คงมีการใช้อำนาจกดขี่แบบนั้นอยู่บ้างเช่นกัน ไม่งั้นวรรณกรรมแบบนั้นคงไม่ออกมา
*ส่วนเรื่องที่ จิตร วิจารณ์อย่างเดียว ไม่มีข้อท้วงติงเพื่อปรับปรุง อันนี้เห็นจะจริงครับ เท่าที่พอจำได้*
#21
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 18:19
จิตรเขียนบทความต่อต้านกษัตริย์อย่างสุดโต่ง ขื่อ
โฉมหน้าศักดินาไทย
หลังจากออกจากคุก ก็คิดว่าปากกาปฎิวัติไม่ได้ เลยจับปืน
คนเป็นคอมมิวนิสต์ด้วยความเชื่อถือศรัทธา
ไม่มีที่รักกษัตริย์หรอกครับ
ผมเองก็ไม่ได้รักกษัตริย์ที่ความเป็นกษัตริย์
แต่รักที่เป็นยิ่งกว่ากษัตริย์
คือเป็นศูนย์รวมจิตใจคนทั้งชาติ
ที่ในหลวงทำมาตลอดตั้งแต่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน
ไม่ใช่หน้าที่ของกษัตริย์เลย
โดยเฉพาะกษัตริย์อย่างที่จิตรและคอมมิวนิสต์โจมตี
แต่ทรงเป็นผู้นำจิตวิญญานของชาติ ชี้ทางสว่างให้พสกนิกร
และเสียสละมากกว่าที่ทรงได้จากประชาชน
คุณไปดูบทบาทของกษัตริย์จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียตนาม พม่า.....
แม้แต่อังกฤษ หรือยุโรป
กษัตริย์ไทย ทำในสิ่งที่ต่างจากเจ้าพวกนั้น
ประวัติศาสตร์เป็นเครื่องยืนยันครับ
พวกคอม ในไทย กับคณะราษฏร์ มีความเหมือนหรือต่างกันยังไงคะ
#22
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 18:27
ผมยังมองร่องรอยของมารกส์ในคณะราษฎรไม่เห็นครับ
ปรีดีไม่ได้ก้าวหน้าไปถึงการยกเลิกชนชั้น
ผมอ่านงานของเขาแล้ว รู้สึกว่าเขายังใช้วัฒนธรรมเจ้าขุนมูลนายอยู่
วางตนเองเป็นผู้ให้ ประชาชนเป็นผู้รับ
ปกป้องตัวเองมากกว่าอุดมการณ์คณะราษฎร
หรืออันที่จริงคณะราษฎรเองนั่นแหละ ไม่มีอุดมการณ์
นักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ ก็ไม่ต่างอะไรกับชุมโจร
ตัวอย่างชัดๆ ก็พรรคเผาไทยนี่แหละ การเมืองแบบไม่มีอุดมการณ์
เมื่อนายปรีดี สร้างคณะราษฎรที่ไม่มีอุดมการณ์
คณะนี้จึงไม่ใช่คอมมิวนิสต์ครับ
#23
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 18:32
จะเห็นได้ว่า คนเดียวที่มีสิ่งนี้ คือหมาน้อยชื่อไจ
นอกจากนั้น อย่างพวกตึกชิน พวกหงอก-ธงชัย หรือนิติราด
ล้วนไม่มีอุดมการณ์ เป็นพวกเทตโนแครต คือขายวิชาที่ตัวเองถนัด
แต่วิชานั้น ทำให้เกิดผลเสีย ...ไม่สนใจ
เทียบแล้ว นายชวนยังมีมากกว่า
คำว่า ผมเชื่อมั่นระบอบรัฐสภา
แสดงตัวตนชัดเจนกว่าคำว่าเพื่อประชาธิปไตย
#24
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 18:54
แต่เป็นเหมือน คอมฯกลายพันธุ์ ชนิดหนึ่ง
Edited by mOOgrOb'pm', 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 18:56.
#25
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 18:54
พวกคอม ในไทย กับคณะราษฏร์ มีความเหมือนหรือต่างกันยังไงคะ
ผมยังมองร่องรอยของมารกส์ในคณะราษฎรไม่เห็นครับ
ปรีดีไม่ได้ก้าวหน้าไปถึงการยกเลิกชนชั้น
ผมอ่านงานของเขาแล้ว รู้สึกว่าเขายังใช้วัฒนธรรมเจ้าขุนมูลนายอยู่
วางตนเองเป็นผู้ให้ ประชาชนเป็นผู้รับ
ปกป้องตัวเองมากกว่าอุดมการณ์คณะราษฎร
หรืออันที่จริงคณะราษฎรเองนั่นแหละ ไม่มีอุดมการณ์
นักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ ก็ไม่ต่างอะไรกับชุมโจร
ตัวอย่างชัดๆ ก็พรรคเผาไทยนี่แหละ การเมืองแบบไม่มีอุดมการณ์
เมื่อนายปรีดี สร้างคณะราษฎรที่ไม่มีอุดมการณ์
คณะนี้จึงไม่ใช่คอมมิวนิสต์ครับ
ก็คิดๆอยู่ว่านอกจากจะอ้างว่าต้องเป็นปชตแล้ว
ยังไม่เห็นอะไรที่เป็นปชตในเมืองไทยจนวันนี้เลยนอกจาก รูปแบบ ระเบียบวิธี
แต่วัฒนธรรมต่างๆ ความนึกคิด ต่างๆของคนไทยก็ยังเป็นพวกพ้อง เจ้าขุนมูลนายอยู่ไม่เปลี่ยน
ไม่ว่าจะเป็นกลไกในการควบคุมตรวบสอบนักการเมืองแบบสื่อ ก็ยังถูกทำลายไป
ปชต ตรงไหน
ถ้าดีจริงต้องเป็นยันต์กันผี ให้พวกไม่เป็นปชต หวาดกลัวได้บ้าง
คอมเอง ก็เกินไปสำหรับเรา
สังคมนิยมน่าจะเป็นคำตอบที่สุด
ทำไมไม่มีใครคิดแบบนี้บ้าง
#26
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:05
แสดงว่า เรากำลังต่อสู้กับ การรวมตัวใหม่ของพวกคอมฯ ก้อคงไม่น่าจะผิดไปเท่าไหร่สิครับ
แต่เป็นเหมือน คอมฯกลายพันธุ์ ชนิดหนึ่ง
กลายพันธุ์เพราะสามารถสมสู่กับนายทุนได้
(คอมแท้ดั้งเดิมไม่นิยมเจ้า >> แต่ก็ไม่สมสู่กับนายทุนเช่นกัน)
#27
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:13
ไกล้สุดก็คือเป็นรัฐสวัสดิการ อย่างแถบสแกนดิเนเวีย
ซึ่งแปลกใหมครับ มีกษัตริย์ทั้งนั้น และกษัตริย์กับประชาชนก็ไกล้ชิดกัน
สิ่งที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาสังคมไม่ให้ไปไกลถึงสังคมนิยม
คือสรุปง่ายๆ ว่า รัฐเป็นเจ้าของกิจการหลักๆ ทั้งหมด
ก็คือ ระบบภาษี
#28
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:14
พวกคอม ในไทย กับคณะราษฏร์ มีความเหมือนหรือต่างกันยังไงคะ
ผมยังมองร่องรอยของมารกส์ในคณะราษฎรไม่เห็นครับ
ปรีดีไม่ได้ก้าวหน้าไปถึงการยกเลิกชนชั้น
ผมอ่านงานของเขาแล้ว รู้สึกว่าเขายังใช้วัฒนธรรมเจ้าขุนมูลนายอยู่
วางตนเองเป็นผู้ให้ ประชาชนเป็นผู้รับ
ปกป้องตัวเองมากกว่าอุดมการณ์คณะราษฎร
หรืออันที่จริงคณะราษฎรเองนั่นแหละ ไม่มีอุดมการณ์
นักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ ก็ไม่ต่างอะไรกับชุมโจร
ตัวอย่างชัดๆ ก็พรรคเผาไทยนี่แหละ การเมืองแบบไม่มีอุดมการณ์
เมื่อนายปรีดี สร้างคณะราษฎรที่ไม่มีอุดมการณ์
คณะนี้จึงไม่ใช่คอมมิวนิสต์ครับ
ลืมประเด็นที่จะถามไปเลย
คือว่าจะถามคุณแอมว่า
สองกลุ่มที่ว่า
เค้าหวังดีต่อประชาชนชาวไทยตรงไหนคะ
หรือว่าแค่อ้าง
คืออ่านมาว่าการปกครองที่ดีสำหรับประชาชนนั้น ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นหลัก
ตอนนี้ หรือตอนนั้น
ประชาชนชาวไทยเหมาะสม กับประชาธิปไตยหรือคอมที่ตรงไหน
ไม่ได้ตั้งแง่กับปชต นะคะ แต่ปชตแบบทุกวันนี้มันเอื้อให้เกิดการปกครองโดยกลุ่มคน เพื่อกลุ่มคน และของกลุ่มคน
มันยังไม่ใช่ปชต อยู่ดี
#29
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:15
จนถึงวันนี้ ยังไม่มีประเทศใหนก้าวไปสู่สังคมนิยมได้
ไกล้สุดก็คือเป็นรัฐสวัสดิการ อย่างแถบสแกนดิเนเวีย
ซึ่งแปลกใหมครับ มีกษัตริย์ทั้งนั้น และกษัตริย์กับประชาชนก็ไกล้ชิดกัน
สิ่งที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาสังคมไม่ให้ไปไกลถึงสังคมนิยม
คือสรุปง่ายๆ ว่า รัฐเป็นเจ้าของกิจการหลักๆ ทั้งหมด
ก็คือ ระบบภาษี
พอพูดถึงตรงนี้
เลยทำให้รู้สึกว่าไม่มีความรู้เอาเสียเลย
รบกวนคุณแอมอธิบายต่อ
#30
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:22
สิ่งที่แก๊งค์ควายแดงทำอาจจะดูใกล้เคียงในแง่รูปแบบ(ดิสเครดิตเพื่อโค่นล้มชนชั้นสูงเดิม)
แต่ในแง่ปรัชญาแล้วไม่น่าจะได้ผล เพราะมันก็มีอำนาจใหม่มาครอบงำต่ออยู่ดี ตราบใดที่ประชาชนยังมีนิสัยชอบพึ่งพาผู้มีอำนาจอยู่ แล้วผู้มีอำนาจก็ทำได้แค่"ยื่นปลา"มาเพื่อรักษาฐานเสียงสนับสนุนอำนาจตัวเองไว้
แต่โครงการในพระราชดำริ แม้ไม่ได้ใกล้เคียงในแง่รูปแบบ แต่มันทำให้เข้าใกล้ปรัชญาคอมมิวนิสต์ได้ระดับหนึ่ง คือ การยื่นเบ็ด เพื่อให้ชนชั้นกลาง+ล่าง พึ่งตัวเองได้ ไม่ต้องง้อผู้มีอำนาจ ตำแหน่ง ฐานะและชนชั้นก็เข้าไปคุกคามได้ยาก(เพราะไม่มีใครไปเป็นเบี้ยให้เขา) มีอิสระในการตัดสินใจมากขึ้น >> ชนชั้นไม่ได้หายไป แต่การกดขี่ทางชนชั้นลดลงแน่นอน
#31
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:27
เสื้อแดงยิ่งบอกว่ากระทู้ผมเหงา....ฮา
#32
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 19:28
ผมเป็นแฟนคลับ แคนไท , ริดกุน , เช neverdie , eAT , Moon , tonythebest [/color][color=#0000FF;], -3- , Limmy , amplepoor , ติ๊บไตบูชาเงิน . เด็กปากดี , โจโฉ นายกตลอดกาล , อารยา, ตะนิ่นตาญี , ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่
พอดีผมลืม password เก่า และ e-mail ที่ใช้สมัครครับก็เลยจำเป็นต้องสมัครใหม่
#33
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 20:25
ส่วนไอ้พวก 6 ตุลานี่ เป็นผลพวงของพวกฝักใฝ่ลัทธิ ซึ่งบางคนก็มาจาก 14 ตุลา แต่ 14 ตุลานี่
ไม่มีการหนีเข้าป่านะครับ เพราะ 14 ตุลา คนหนี คือจอมพลถนอม จอมพลประภาส
ไอ้เหตุ 6 ตุลา มันก็เพราะพวกฝักใฝ่ลัทธิคอมนั่นแหละครับแต่ไม่ใช่คอมตัวเอ้อะไร 6 ตุลา เป็นการ
ชุมนุมของนักศึกษาล้วน ๆ แต่นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้ฝักใฝ่คอมหรอกครับ ไอ้ตัวการบางตัวก็มานัง
ลอยหน้าปลุกผีคอมอยู่ปัจจุบันนี้แหละครับ มันไม่เคยสำนึกบาปที่ปลุกระดมนักศึกษาจนเกิดการเจ็บตาย
อย่างน่าสมเพช 6 ตุลา มันเหมือนเป็นการปลุกระดมคนมายั่วยุให้เขาฆ่าของพวกฝักใฝ่ลัทธิ กับพวกขวาจัดซึ่งมีรัฐ
หนุนหลัง ผมคิดว่าไอ้พวกคอม 6 ตุลา คงคิดหวังผลเหมือน 14 ตุลา ที่เมื่อถูกฆ่า แล้วประชาชนจะออกมา
มาช่วย แต่มันผิดคาดเลยต้องหนีกระเจิงเข้าป่าไป แต่ส่วนใหญ่เป็นการเข้าป่าเพราะตกใจกลัว ไอ้ที่หลบอยู่บ้านก็มี
เยอะเพราะมันไม่ได้มีการตามล่าอะไรนอกจากหวาดระแวงไปเองแล้วก็พาลหนีเข้าป่าไป มันควรจะจบไปแล้วครับ
ถ้าไอ้พวกคอมหลงยุคมันไม่เกิดอาการอยากเป็นนายทุนขึ้นมาบ้าง ปัญหาที่เราเห็นอยู่มันก็คงไม่เกิดขึ้น
#34
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 20:44
#35
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 20:47
#36
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 20:50
อย่าไปงงเลยครับ เพราะมันเป็นคอมคนละยุค จิตร ภูมิศักดิ์ นั้นเป็นสมัยคอมกำลังแผ่อิทธิพลสูง
ส่วนไอ้พวก 6 ตุลานี่ เป็นผลพวงของพวกฝักใฝ่ลัทธิ ซึ่งบางคนก็มาจาก 14 ตุลา แต่ 14 ตุลานี่
ไม่มีการหนีเข้าป่านะครับ เพราะ 14 ตุลา คนหนี คือจอมพลถนอม จอมพลประภาส
ไอ้เหตุ 6 ตุลา มันก็เพราะพวกฝักใฝ่ลัทธิคอมนั่นแหละครับแต่ไม่ใช่คอมตัวเอ้อะไร 6 ตุลา เป็นการ
ชุมนุมของนักศึกษาล้วน ๆ แต่นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้ฝักใฝ่คอมหรอกครับ ไอ้ตัวการบางตัวก็มานัง
ลอยหน้าปลุกผีคอมอยู่ปัจจุบันนี้แหละครับ มันไม่เคยสำนึกบาปที่ปลุกระดมนักศึกษาจนเกิดการเจ็บตาย
อย่างน่าสมเพช 6 ตุลา มันเหมือนเป็นการปลุกระดมคนมายั่วยุให้เขาฆ่าของพวกฝักใฝ่ลัทธิ กับพวกขวาจัดซึ่งมีรัฐ
หนุนหลัง ผมคิดว่าไอ้พวกคอม 6 ตุลา คงคิดหวังผลเหมือน 14 ตุลา ที่เมื่อถูกฆ่า แล้วประชาชนจะออกมา
มาช่วย แต่มันผิดคาดเลยต้องหนีกระเจิงเข้าป่าไป แต่ส่วนใหญ่เป็นการเข้าป่าเพราะตกใจกลัว ไอ้ที่หลบอยู่บ้านก็มี
เยอะเพราะมันไม่ได้มีการตามล่าอะไรนอกจากหวาดระแวงไปเองแล้วก็พาลหนีเข้าป่าไป มันควรจะจบไปแล้วครับ
ถ้าไอ้พวกคอมหลงยุคมันไม่เกิดอาการอยากเป็นนายทุนขึ้นมาบ้าง ปัญหาที่เราเห็นอยู่มันก็คงไม่เกิดขึ้น
เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ก็ลองนึกถึงไอ้หงอกเจียม หนึ่งในแกนนำเวลานั้น
ซึ่งลองดูจริงๆ แล้ว ปัจจุบันมองแบบไม่อคติหรือโดนล้างสมอง มันก็คือ ไอ้***ดีๆ นี่เอง
ผมเป็นแฟนคลับ แคนไท , ริดกุน , เช neverdie , eAT , Moon , tonythebest [/color][color=#0000FF;], -3- , Limmy , amplepoor , ติ๊บไตบูชาเงิน . เด็กปากดี , โจโฉ นายกตลอดกาล , อารยา, ตะนิ่นตาญี , ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่
พอดีผมลืม password เก่า และ e-mail ที่ใช้สมัครครับก็เลยจำเป็นต้องสมัครใหม่
#37
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:07
ตอนนี้ประเทศที่ยังดำรงความเป็นคอมฯอย่างมั่นคงแลเหนียวแน่น
เกาหลีเหนือ ลาว เนปาล
เนปาลนี่ไม่น่าเชื่อนะครับ
เกิดขึ้นจากที่หมดกระแสไปแล้ว
แสดงว่าคงมีอะไรพิลึกๆอยู่นะ
ถ้าคอมฯแน่จริงคงไม่ล่มสลาย
เติ้ง เสี่ยว ผิงเองยังถอยมาหลายก้าวเลย
#38
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:22
มันก็ทำเป็นดราม่าหลอกควายไปงั้นแหละ เท่าเทียมแบบสั่วๆ
แท้จริงพวกมันน่าจะประกาศออกมาเลย ว่า กุอยากใหญ่ กุอยากรวย กุอยากมีอำนาจ เท่านั้นเอง
ไอพวกที่หลงชื่นชมก็ไม่ได้มีอะไรมากเหมือนกัน ก็แค่ตัวเคยได้ หวังว่าจะได้ หรือไม่ก็กำลังได้ ผลประโยชน์จากที่ไอพวกข้างบนกล่อมเอาไว้
พูดตรงๆก็คือ เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน ซะจนไม่ได้คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ประเทศชาติเป็นอย่างไรไม่สน ขอของกุไว้ก่อน แค่นี้เอง
มีที่ไหนในโลก ที่คนในชาติด่าทหารของตัวเอง ที่ทำหน้าที่ปกป้องชายแดนจากการรุกล้ำของเพื่อนบ้าน มีก็แต่ควายพวกนี้แหละ
โง่ + เห็นแก่ตัว ซะจนไม่น่าเรียกว่าคน
#39
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:45
#40
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 22:59
ถ้าศึกษาประวัติจริงๆ > ลุงหงาแกไม่ใช่พวกหัวรุนแรงแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วแกไม่เคยโปรฯสังคมนิยมมาร์กซิสต์เลยด้วยซ้ำ อย่างมากก็แค่เขียนเพลงเล่าถึงวิถีชาวบ้าน หรือไม่ก็ความลำบากของคนยากไร้ ก็เท่านั้น จิตร กับ อัศนีย์ เอง ก็ไม่เคยมีงานเขียนที่พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์(ในยุครัตนโกสินทร์)เลยด้วยซ้ำ นอกจากวิจารณ์รัฐบาลทหาร หรือไม่ก็วิจารณ์ระบบขุนนางสมัยอยุธยา แต่พวกควายแดง หรือนักวิชาเกรียนอีแอบ(เช่นไอ้หงอกหรือไอ้ใจรัน) ชอบเอาเขามาโปรฯเสมือนว่า มีแนวคิดไม่เอาสถาบันฯเหมือนกับพวกตัว
ผมว่าหนังสือ "โฉมหน้าศักดินาไทย" เนี่ย เล่นที่ระบอบกษัตริย์เต็มๆเลยครับ วิจารณ์การเก็บภาษีสมัย ร.๕ ด้วย
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#41
ตอบ 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 23:11
แสดงว่า เรากำลังต่อสู้กับ การรวมตัวใหม่ของพวกคอมฯ ก้อคงไม่น่าจะผิดไปเท่าไหร่สิครับ
แต่เป็นเหมือน คอมฯกลายพันธุ์ ชนิดหนึ่ง
ไม่ใช้ต่อสู้กับคอมมินิสต์นะครับ ผมเสนอว่าพวกเรากำลังต่อสู้กับ ทุนสามานย์ มากกว่า "เงิน"ครับ
'ทุนสามานย์-ซ้ายหลงยุค'ล้วนแต่ลวงทั้งนั้น
http://www.komchadlu...วงทั้งนั้น.html
Edited by ดราม่า, 14 มกราคม พ.ศ. 2555 - 23:12.
#42
ตอบ 15 มกราคม พ.ศ. 2555 - 10:46
หมอเหวงที่ประกอบอาชีพหมอจริงๆก็เป็นหมอพยาธิ แต่ผมมักเรียกว่าหมอตรวจพยาธิ หมายถึงตัวตืด คือแกเปิดรัชดาคลินิกตรวจโรคให้คนงานไปทำงานต่างประเทศ ความรู้ที่ได้มาจากการหนีเข้าป่าของแกไม่ได้อะไรมากกว่าคนอื่นหรอกแต่แกไปเรียนต่อแพทย์แผนจีนโบราณที่ประเทศจีน คือไหลต่อไปเลย แกก็ได้วิชาฝังเข็มมา หากไม่ทำงานการเมืองกับเปิดคลินิกตรวจโรคให้คนงานไปต่างประเทศ แกอาจจะไปเป็นหมอผีหมอเสน่ห์ฝังเข็มหรือปลุกผีลูกกรอกกุมารทองเหมือนเณรแอก็เป็นได้ บริบททางการเมืองและสังคมก็ก็ปฏิบัติคล้ายๆกับหมอตุลย์นี่แหละ คือเอาการเมืองนำหน้าอาชีพหลัก แต่แกอาจจะมีเวลาให้การเมืองมากหน่อยเพราะรับผิดชอบเพียงรับรองผลตรวจโรคเฉยๆ ส่วนที่เหลือแล๊บพยาธิเขารับรองมาก่อนแล้ว เวทีการเมืองแกจึงกว้างกว่า ส่วนเรื่องวิถีทางการเมือง แกไม่มีมวลชนเหมือนหมอตุลย์ แกมักยืมมักอาศัยเวทีคนอื่นไปเรื่อย มีวาระประชุมอะไรแกก็ไปลงชื่อแนบไปด้วย อย่างที่เราเห็น ถ้าแกไม่เสือกหน้าตัวเองเข้ามาเจรจากับรัฐบาลอภิสิทธิ์ ฉายา เหวงๆ ก็คงไม่เกิด เอาง่ายๆ ถ้าให้เวลา 6 ชั่วโมงระดมคนระหว่างหมอเหวงกับไอ้เจ๋ง ดอกจิก ผมว่าหมอเหวงหาได้ไม่เกินสองคน สองคนที่ว่านั่นก็ไม่ได้มาจากที่ไหนหรอก นอกจากพนักงานส่งผลตรวจโรคที่คลินิกของแกนั่นแหละ
ฮ่าฮ่าฮ่า เพิ่งรู้ เหวงนี่ จริงๆเป็นหมอพยาธิ รับรองแรงงานไปนอก มิน่า ว่างเชียว
ปล. กด like ไม่ได้ หมดเกลี้ยงแล้ว ขอบคุณที่นำมาแชร์ครับ
#43
ตอบ 15 มกราคม พ.ศ. 2555 - 10:56
ผมชอบฟังเพลงน้าหงานะครับจิตร กับ อัศนีย์ เอง ก็ไม่เคยมีงานเขียนที่พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์(ในยุครัตนโกสินทร์)เลย ด้วยซ้ำ นอกจากวิจารณ์รัฐบาลทหาร หรือไม่ก็วิจารณ์ระบบขุนนางสมัยอยุธยา
เข้าใจผิดนะครับ จิตรนี่ล้มเจ้าตัวพ่อเลย
แล้วหงาก็เคยศรัทธาสหายจิตรอย่างแก่กล้า
แต่หงาชอบเงินและสตรี
ก็เลยเปลี่ยนจากคอมมิวนิสต์มาเป็นศิลปิน
แต่นี่คือความจริง
ส่วนเรื่องเงินยังไม่แน่ใจ
#44
ตอบ 15 มกราคม พ.ศ. 2555 - 11:03
แต่โรคชอบเงินของน้าแก ยังไม่หนักขนาดไม่ลืมหูลืมตา
เพียงแต่รสนิยมที่ชอบพกน้องๆ เอ๊าะๆ นี่
เปลืองเงินอยู่พอสมควร
#45
ตอบ 15 มกราคม พ.ศ. 2555 - 14:04
คอมเก่า ซ้ายเก่า ขวาเก่าอะไร ในปัจจุบันมันไม่มีหรอก
มันก็ทำเป็นดราม่าหลอกควายไปงั้นแหละ เท่าเทียมแบบสั่วๆ
แท้จริงพวกมันน่าจะประกาศออกมาเลย ว่า กุอยากใหญ่ กุอยากรวย กุอยากมีอำนาจ เท่านั้นเอง
ไอพวกที่หลงชื่นชมก็ไม่ได้มีอะไรมากเหมือนกัน ก็แค่ตัวเคยได้ หวังว่าจะได้ หรือไม่ก็กำลังได้ ผลประโยชน์จากที่ไอพวกข้างบนกล่อมเอาไว้
พูดตรงๆก็คือ เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน ซะจนไม่ได้คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ประเทศชาติเป็นอย่างไรไม่สน ขอของกุไว้ก่อน แค่นี้เอง
มีที่ไหนในโลก ที่คนในชาติด่าทหารของตัวเอง ที่ทำหน้าที่ปกป้องชายแดนจากการรุกล้ำของเพื่อนบ้าน มีก็แต่ควายพวกนี้แหละ
โง่ + เห็นแก่ตัว ซะจนไม่น่าเรียกว่าคน
จริงค่ะ
เพราะดูดูแล้วมีแต่อ้างหลักการมาแค่นั้น
เนื้อหาใช้ไม่ได้เลย
#46
ตอบ 15 มกราคม พ.ศ. 2555 - 14:10
เท่าที่นึกออก
ตอนนี้ประเทศที่ยังดำรงความเป็นคอมฯอย่างมั่นคงแลเหนียวแน่น
เกาหลีเหนือ ลาว เนปาล
เนปาลนี่ไม่น่าเชื่อนะครับ
เกิดขึ้นจากที่หมดกระแสไปแล้ว
แสดงว่าคงมีอะไรพิลึกๆอยู่นะ
ถ้าคอมฯแน่จริงคงไม่ล่มสลาย
เติ้ง เสี่ยว ผิงเองยังถอยมาหลายก้าวเลย
ลาวยังดีที่ไม่ปฏิเสธศาสนา มีวัด มีประเพณีของชาวพุทธ
ส่วนเกาหลีเหนือ เท่าที่ผมดูในสารคดี ไม่เห็นมีศาสนสถานอะไรเลย
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#47
ตอบ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 - 14:27
เพียงแต่ต่างกรรมต่างวาระ ต่างทัศนคติ
ทำให้คำว่าทรราชย์ ของแต่ละคนจึงมีความต่าง
เฉกเช่นเดียวกับสมาชิกใน สรท ต่างก็อยู่ตรงข้าม ทรราชย์ ทั้งนั้น
#48
ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555 - 20:25
จริงอยู่ที่ สถาบันฯเป็นสัญลักษณ์ที่ขัดแย้งกับอุดมการณ์คอมฯ
แต่พอมาดูฝั่งเสื้อแดง(ที่ไอ้แม้วคุมอยู่) เคยมีอดีตขวาเก่ามารับใช้อยู่เต็มไปหมด ทั้งป๋าหมัก ไอ้สล้าง พัลลภ เสธแดง ฯลฯ
แต่พวกนี้ก็สามารถสมสู่กับขวาเก่า ที่เคยมีส่วนในการไล่ล่าพวกตัวเองอย่างแท้จริง!
(ในขณะที่สถาบันฯเป็นสิ่งขัดแย้งกับอุดมการณ์คอมฯแค่ในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น)
ไอ้มิ้ง ไอ้เลี้ยบ ไอ่สุธรรมฯ สามารถเลียก้นป๋าหมักได้อย่างไม่เคอะเขิน
ถ้าสมมติว่า ผมเคยเป็น พคท.มาก่อน แล้วยังคงเหลืออุดมการณ์อยู่
ผมอาจจะไม่สะดวกที่จะเชิดชูสถาบันฯก็จริง(ถ้ายังมีอุดมการณ์) แต่ผมคงไม่มีวันยอมที่จะไปผสมพันธุ์กับพวกที่เคยปลุกระดมไล่ล่าตัวเองมาก่อนแน่นอน!