ในการประชุมครม.สัญจร ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบและอนุมัติโครงการต่างๆ มากมาย รวมวงเงินทั้ง 3 ครั้ง ประกอบด้วย ที่จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 15 ม.ค. จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 22 ก.พ. และล่าสุดที่จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 มี.ค. กว่า 3 แสนล้าน
เริ่มที่การประชุมครม.สัญจรครั้งแรก ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 55 มีการอนุมัติงบประมาณและ รับทราบโครงการสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมมีมติรับทราบกรอบแผนงานลงทุนโครงการพัฒนาจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ 8 จังหวัด จำนวน 128 โครงการ วงเงินรวม 387,389.44 ล้านบาท โดยแยกเป็นแผนงานหลัก 5 แผนด้าน ประกอบไปด้วย
1.แผนงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและการเกษตร รวมวงเงิน 19,065.53 ล้านบาท
2.แผนงานด้านโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม ขนส่ง โลจิสติกส์ วงเงิน 354,431.76 ล้านบาท
3.แผนงานด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน บริการ การท่องเที่ยว วงเงิน 10,556.90 ล้านบาท
4.แผนงานด้านบริการทางสังคม วงเงิน 3,238.52 ล้านบาท และ
5.แผนงานด้านโครงการอื่นๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ วงเงิน 96.73 ล้านบาท
สำหรับแผนงานลงทุนโครงการ จำนวน 387,389.44 ล้านบาท แบ่งออกเป็น โครงการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 28 โครงการ วงเงิน 341,728 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการในจังหวัดเชียงใหม่รวม 41 โครงการ วงเงิน 31,378.77 ล้านบาท เช่น โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนเงินงบประมาณทั้งสิ้น 200 ล้านบาท, โครงการจัดระบบสาธารณูปโภคลงใต้ดินเพื่อพัฒนานครเชียงใหม่ จำนวนเงินงบประมาณทั้งสิ้น 180 ล้านบาท, โครงการพัฒนาโครงข่ายในเขตผังเมืองรวมเชียงใหม่ จำนวนเงินงบประมาณทั้งสิ้น 742 ล้านบาท, โครงการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1,908.154 ล้านบาท
โครงการจัดตั้งศูนย์บริการสุขภาพและบริการสาธารณสุข จำนวนเงินงบประมาณทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท, โครงการอุทยานเทคโนโลยีและความสร้างสรรค์ภาคเหนือ จำนวนเงินงบประมาณทั้งสิ้น 3,800 ล้านบาท, โครงการแก้มลิง เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอแม่แตง และอำเภอพร้าว จำนวนเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท, โครงการโรงกำจัดขยะ จำนวนเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างโรงงานยาสูบแห่งใหม่ จำนวนเงินงบประมาณทั้งสิ้น 16,000 ล้านบาท
-จ.ลำพูน 11 โครงการ วงเงินรวม 1,687.80 ล้านบาท
-จ.ลำปาง 6 โครงการ วงเงิน 1,671.26 ล้านบาท
-จ.แม่ฮ่องสอน 5 โครงการ วงเงิน 510.72 ล้านบาท
-จ.เชียงราย 10 โครงการ วงเงิน 528.08 ล้านบาท
-จ.พะเยา 9 โครงการ วงเงิน 31,713 ล้านบาท
-จ.แพร่ 7 โครงการ วงเงิน 197.38 ล้านบาท และ
-จ.น่าน 11 โครงการ วงเงิน 5,974.43 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ที่เด่นๆ คือ โครงการรถไฟความเร็วสูง เชียงราย-เชียงใหม่ การสนับสนุนเที่ยวบินตรงมายังท่าอากาศยานจังหวัดเชียงใหม่ และการขุดเจาะอุโมงค์ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่แม่ฮ่องสอน ขณะเดียวกัน ครม.สัญจร ยังอนุมัติงบ 3.8 แสนล้านสร้างรถไฟความเร็วสูงแล้ว ซึ่งเป็นสายระหว่างกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ อีกทั้ง เตรียมพัฒนาระบบขนส่งและกั้นน้ำอีกด้วย
ต่อด้วยจ.อุดรธานี เมื่อวันที่22ก.พ. ในการประชุมครม.สัญจร ครั้งที่ 2 ณ อาคารศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์ (อาคาร 17 ) ชั้น 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยมีข้อเสนอแผนงาน/โครงการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอน บน 1 กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 และกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง รวม 12 จังหวัด ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบกรอบแผนงาน/โครงการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 และกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง รวม 12 จังหวัด จำนวน 190 โครงการ วงเงินรวม 187,072 ล้านบาท ประกอบด้วย จ.อุดรธานี 3 โครงการ วงเงินรวม 108 ล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการพัฒนาห้วยหลวงเพื่อป้องกันน้ำท่วมและภัยแล้งเร่งด่วน 2) โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกบ้านเชียง และ 3) โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งซ้ำซาก (โครงข่ายป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย เขตเทศบาลนครอุดรธานี เฉพาะการจัดหาติดตั้งเครื่องสูบน้ำ-เครื่องฉีดล้างท่อระบายน้ำเคลื่อนที่)
จ.หนองบัวลำภู 3 โครงการ วงเงินรวม 107 ล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำพะเนียงเพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัย และภัยแล้ง ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู (พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรผสมผสานศูนย์ปฏิบัติธรรมหนองน้ำเพชรมงคล) 2) โครงการขุดสระน้ำ/ขุดบ่อบาดาล เพื่อการเกษตรในไร่นา 3) โครงการพัฒนาศักยภาพการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ (การส่งเสริมการเลี้ยงไก่พื้นเมือง ไก่ไข่ และไก่สามสายพันธ์ วงเงิน 20 ล้านบาท และการเลี้ยงไก่ไข่เสริมไอโอดีน เพื่อพัฒนา I Q และแก้ปัญหาโรคเอ๋อในเด็ก วงเงิน 20 ล้านบาท)
จ.หนองคาย 1 โครงการ วงเงินรวม 100 ล้านบาท คือ โครงการพัฒนาศักยภาพด้านการแพทย์และสาธารณสุขสู่ความเป็นศูนย์กลางด้าน บริการสุขภาพ (ก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ)
จ.เลย 1 โครงการ วงเงินรวม 98 ล้านบาท คือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงหมายเลข 2115 ตอน แยกทางหลวงหมายเลข 201 (สามแยก) - สามแยกไปท่าลี่ ระหว่าง กม. 0+000 - กม.38+392 (บ้านปากภู บ้านตูบโกบ อำเภอเมือง - บ้านโคกใหญ่ บ้านท่าลี่ อำเภอท่าลี่ )
จ.บึงกาฬ วงเงินรวม 126 ล้านบาท คือ โครงการยกระดับมาตรฐานโรงพยาบาลขนาดใหญ่และขนาดกลาง (การก่อสร้างอาคารบำบัดรักษา 4 ชั้น และค่าปรับพื้นที่ก่อสร้าง)
จ.มุกดาหาร 2 โครงการ วงเงินรวม 99.25 ล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์แก่งกะเบาและถนนเพื่อการท่องเที่ยวสายแก่งกะ เบา-บ้านบางทราย 2) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว
จ.สกลนคร 1 โครงการ วงเงินรวม 110 ล้านบาท คือ โครงการพัฒนาหนองหาร (กรมโยธาธิการและผังเมือง วงเงิน 60 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท วงเงิน 50 ล้านบาท)
จ.นครพนม 2 โครงการ วงเงินรวม 100 ล้านบาท ได้แก่ 1) โรงพยาบาลศูนย์สุขภาพแห่งอนุภูมิภาคอินโดจีน (ครุภัณฑ์ทางการแพทย์) 2) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงรองรับการใช้ประโยชน์สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) เชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งตามแนวชายแดนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน (กรมทางหลวงชนบท วงเงิน 47 ล้านบาท และกรมทางหลวง 23 ล้านบาท)
จ.ขอนแก่น 3 โครงการ วงเงินรวม 100 ล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการพัฒนาโครงข่ายระบบชลประทานเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในเขต พื้นที่ลุ่มน้ำชี (ปรับปรุงระบบเก็บกักบึงละเลิงหวายพร้อมอาคารประกอบ อำเภอพล) 2) โครงการพัฒนาโครงข่ายระบบชลประทานเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในเขต พื้นที่ลุ่มน้ำพอง (การปรับปรุงระบบเก็บกักหนองลาดควาย อำเภออุบลรัตน์) 3) โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครขอนแก่นและพื้นที่โดยรอบ (การก่อสร้างระบบผันน้ำ (Flood Way) จากพื้นที่เขตเมืองลงสู่ลำน้ำชี เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะเข้าสู่เขตเมือง เฉพาะการก่อสร้างพนังกั้นน้ำลำห้วยพระคือ)
จ.มหาสารคาม 3 โครงการ วงเงินรวม 100 ล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการพัฒนาบึงกุยเพื่อป้องกันภัยจากน้ำและส่งเสริมการท่องเที่ยว 2) โครงการพัฒนาแหล่งน้ำสาธารณะฝายป่าโคกไม้งามเพื่อการเกษตร ตำบลบัวค้อ อำเภอเมือง 3) โครงการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำชีระยะเร่งด่วน
จ.ร้อยเอ็ด 2 โครงการ วงเงินรวม 105 ล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการพัฒนาโครงข่ายการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง นอกเขตพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้และนอกเขตลุ่มน้ำชี (พัฒนาห้วยแอ่ง) 2) โครงการปรับปรุงและพัฒนาบึงพลาญชัย
จ.กาฬสินธุ์ วงเงินรวม 111.50 ล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการก่อสร้างบ้านพักค่ายเยาวชน เพื่อการเรียนรู้ด้านธรณีวิทยา และซากดึกดำบรรพ์ พิพิธภัณฑ์สิรินธร อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ (บ้านพักค่ายเยาวชนและพื้นที่กิจกรรม) 2) โครงการก่อสร้างศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผ้าไทย ผ้าไหมแพรวาบ้านโพน หมู่ที่ 2 ตำบลโพน
2. เห็นชอบโครงการที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันที จำนวน 27 โครงการ วงเงินรวม 1,595.75 ล้านบาท โดยให้หน่วยงานเจ้าของโครงการ เร่งจัดทำรายละเอียดคำขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2555 จัดส่งให้สำนักงบประมาณภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อสำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ต่อไป
นอกจากนี้ ครม.เห็นควรเพิ่มเติมกรอบวงเงินอีก 55 ล้านบาท เพื่อศึกษาการจัดทำโครงการในจังหวัดอุดรธานี 2 โครงการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เสนอ คือ 1) โครงการการจัดตั้งมหาวิทยาลัยอุดรธานี กรอบวงเงิน 30 ล้านบาท 2) โครงการศูนย์พัฒนากีฬาจังหวัดอุดรธานี กรอบวงเงิน 25 ล้านบาท รวมกรอบวงเงินจากเดิม 1,595.75 เพิ่มอีก 55 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 1,650.75 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากผลการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ครั้งที่ 2/2555 ยัง มีโครงการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ (ข้อเสนอกกร.) ที่เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ-หนองคาย ตามที่รฟท. ได้จัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาระบบรางและรถไฟความเร็วสูงของกระทรวงคมนาคมไว้ เมื่อปี 2553 วงเงินประมาณ 700,000 ล้านบาท โดยในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำหนดการก่อสร้างเส้นทางบางซื่อ-หนองคาย ระยะทาง 615 กิโลเมตร วงเงิน 149,000 ล้านบาท เชื่อมโยงภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และจีนภาคตะวันออก รวมทั้งเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี 2558
คลิกอ่านรายละเอียด การอนุมิตโครงการ ในการประชุมครม.สัญจรที่จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 มี.ค. เปิดดูกันจะๆ มติครม.สัญจร ภูเก็ต(จอมโปรเจ็กต์) เห็นชอบโครงการลงทุนอื้อซ่า ไม่ดูก็ไม่รู้
**เนื่องจากมีแผนงานที่เสนอเข้ามาเป็นจำนวนมาก อาจมีความซ้ำซ้อนกับโครงการที่รัฐบาลพิจารณาดำเนินการอยู่ ที่ประชุม ครม.จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณากลั่นกรอง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หากเป็นโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของทางจังหวัดจะให้คณะกรรมการนโยบาย การบริหารจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) รับไปพิจารณา ส่วนโครงการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำมอบให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการ วางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) และโครงการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนเพื่ออนาคตในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จะให้ส่งเรื่องผ่านคณะกรรมกายุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) พิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ได้รัฐบาลน.ส.ยิงลักษณ์ ได้มีการประชุมครม.สัญจร หรือประชุครม.นอกสถานที่มาแล้ว 3 ครั้ง และในเดือนถัดไปจะมีกระประชุมอีกครั้งในภาคตะวันออก แต่ยังไม่ชัดว่าจะเป็นจังหวัดใด ซึ่งจะต้องติดตามว่า ครม.จะมีการอนุมัติงบประมาณอีกเท่าไหร่
ที่สำคัญก็คือว่า รัฐบาลจะทำได้หรือไม่ตามที่อนุมัติ มากกว่านั้นรัฐบาลจะสามารถบริหารงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
http://www.matichon....atid=&subcatid=
เป็นโครงการซื้อเสียงและว่าจ้างล่วงหน้าหรือเปล่าครับ
