เสียเจ้า
#1
ตอบ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 23:26
เสียเจ้า
๑. เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า ซบหน้าติดดินกินทราย ๚
๒. จะเจ็บจำไปถึงปรโลก ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ ๚
๓. ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์ ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้ ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ ๚
๔. แม้แต่ธุลีมิอาลัย ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน
ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา ๚
๕. ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย ๚
อังคาร กัลยาณพงศ์
- สงสารสาวจันทร์, David_GinoLa and nokkrapood like this
#2
ตอบ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 09:56
เมื่อน้ำค้างหยดหล่นบนดอกไม้
ลมรำเพยระเหยหายเมื่อใกล้สาง
กับชีวิตวันนี้ที่บอบบาง
เหมือนน้ำค้างระเหยหายด้วยสายลม
~¤ สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์ ¤~
#3
ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 21:40
ใครอยู่เบื้องหลังการอุ้มฆ่าเอกยุทธ์ อัญชัญบุตร
#4
ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 22:37
- Tutchapong Laobubpa likes this
#5
ตอบ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 16:29
ยิ่ง อันที่ 5 ไปด้วยแล้ว
๕. ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย ๚
หรือว่า เจ้า 1-2 คน ละเจ้า กับ 3-5
ถ้าใช่ทำไมไมใช่คำอื่นแทน
#6
ตอบ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 16:54
#7
ตอบ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 11:10
ผมว่าแบบนี้สะท้อนว่า ลืมยาก พยายามลืมชัดๆขอเปิดห้องนี้ด้วยกวีบทที่ผมชอบมากบทนี้นะครับ
เสียเจ้า
๑. เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า ซบหน้าติดดินกินทราย ๚
๒. จะเจ็บจำไปถึงปรโลก ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ ๚
๓. ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์ ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้ ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ ๚
๔. แม้แต่ธุลีมิอาลัย ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน
ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา ๚
๕. ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย ๚
อังคาร กัลยาณพงศ์
#8
ตอบ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:05
ผมว่ามันขัดแย้งกันเองนะ บางตอนก็อยากจะหนีขอเปิดห้องนี้ด้วยกวีบทที่ผมชอบมากบทนี้นะครับ
เสียเจ้า
๑. เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า ซบหน้าติดดินกินทราย ๚
๒. จะเจ็บจำไปถึงปรโลก ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ ๚
๓. ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์ ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้ ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ ๚
๔. แม้แต่ธุลีมิอาลัย ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน
ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา ๚
๕. ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย ๚
อังคาร กัลยาณพงศ์
บางทีก็อยากแก้แค้น ต่อมาก็อยากจะลืมอีก ผมว่า
อาการหนักครับ ฟุ้งซ่านมาก
วรรณกรรมร่วมสมัยเนี่ยแปลกดีนะครับ งงดี
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#9
ตอบ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 10:14
ลืมยาก แถมยังกลายเป็นว่าเราผิด ทั้งๆ ที่เรานั้นยินดีที่จะให้เขาเดินจากไปด้วยดี
แต่อีกใจก็อยากลืม อยากให้เขาทำร้ายเราจนยอมรับเสียทีว่า แท้จริง กูนั้นแหละที่ถูกทิ้ง
#10
ตอบ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 17:36
ขอนำเสนออีกบท ของท่านอังคารฯ
เผื่อท่านอื่นๆ ด้วยครับ
อนิจจาน่าเสียดาย
ฉันทำชีวิตหายไปครึ่งหนึ่ง
ส่วนที่สูญนั้นลึกซึ้ง
มีน้ำผึ้งบุหงาลดามาลย์
ครึ่งหนึ่งหลงเหลือในอกนี้
สั่นชีวีเสียสะเทือนสะท้าน
ซ้ำโซ่ตรวนพันธนาการ
ทรมานปานทาสจะขาดใจ
อีกครึ่งหนึ่งอยู่ที่น้องแก้ว
ขึ้งโกรธพี่แล้วจะทำไฉน
ถึงใกล้ก็อย่างห่างไกล
ไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน
เสียแรงชายบริสุทธิ์ซึ่อ
ควรหรือนางมล้างค่าใฝ่ฝัน
ทิ้งให้เทวษหาจาบัลย์
ที่ไหนนั่นมิ่งขวัญกลับมา
หมายทะนุถนอมน้องไว้กะอก
กลับตกในมือของเขาอื่น
แสนเจ็บแสนปวดปูนปืน
พิษมาเสียบเสียววิญญาณ
ใจนางอย่างน้ำค้างกลางดึก
ดั่งผลึกเพชรใสไหวสะท้าน
ครู่เดียวก็แตกดับกับดินดาน
ไร้แก่นสารจะหวังมิยั่งยืน
บุราณว่าพรากจากนารี
ลับลี้จากสามวันเป็นอื่น
เสียเจ้าโศกเศร้าทุกวันคืน
สุดจะฝืนสู้ทุกข์ขุกเข็ญใจ
แค้นหญิงชิงชังไปทั้งโลก
จะทุกข์โศกกับนารีหรือไฉน
เสียแรงเป็นบุรุษอาชาไนย
มาหลงใหลหล่มล้มจมดิน
จักอัปยศแก่วิญญาณ
อัประมาณอดสูรู้สิ้น
จึ่งตัดใจหลั่งน้ำไหลริน
ลงดินขาดกันจนวันตาย
ประพันธ์โดย อังคาร กัลยาณพงศ์
เหมือนอันนี้จะอยู่ใน "ปณิธานกวี" ครับ ถ้าผิดขออภัย
- สงสารสาวจันทร์ likes this
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน