Jump to content


Photo
- - - - -

อ่านกันยัง สาเหตุน้ำท่วมรุนแรง ตอนที่ 2


This topic has been archived. This means that you cannot reply to this topic.
32 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 โคนัน

โคนัน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,836 posts

ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 17:58

!!! นี่คือสาเหตุของวิกฤติน้ำท่วมรุนแรง ตอนที่ 2 !!! คุณเคยรู้ไหมว่าน้ำที่ปล่อยจาก เขื่อนภูมิพล มันมหาศาล!! แค่ไหน ดูข้อมูลนี้แล้วจะอึ้ง!!

มันมหาศาลจริงๆครับ

ก่อนอื่นนะครับ ใครที่ยังไม่ได้อ่าน สาเหตุของน้ำท่วม ตอนแรก ผมขอให้กลับไปอ่านก่อนเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น ในตอนที่ 2 นะครับ เพราะผมคงไม่พูดซ้ำตอนแรกอีก ลองเข้าไปอ่านก่อนที่

สาเหตุของ วิกฤติน้ำท่วมรุนแรง ตอนแรก คลิก


จากนั้น มาถึงตอนที่สอง นี้นะครับ ขอเกริ่นนำก่อนนะครับ ผมว่าหลายๆคน คงเคยคิดเหมือนผม อยากรู้เหมือนกันว่า น้ำที่เค้าปล่อยจากเขื่อน ภูมิพล ออกมา ที่ได้ยินตามข่าวต่างๆ 60 ลบ.ม. , 100 ลบ.ม. , 60 ล้าน ลบ.ม. , 100 ล้าน ลบ.ม. มันคืออะไร มันคือเท่าไหร่กันแน่ งงกันไหมครับ โดยเฉพาะตาม เวปข่าวต่างๆ นี่แหละตัวดี เขียนผิดกันเป็นว่าเล่น

Posted Image

หน่วย ลบ.ม คือ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งถ้า ล้านลูกบาศก์เมตร ต้องเขียนว่า ล้าน ลบ.ม. แต่ข่าวต่างๆชอบเขียนกันแค่ เช่น 100 ลบ.ม. ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดกันมาก และ อยากรู้ไหมครับ ไอ่ 100 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ที่เขื่อนภูมิพล ปล่อยออกมาเปรี้ยงเดียวนี่ มันมากน้อยแค่ไหน ทำไมเล่นคำเล่นตัวเลขกันเหลือเกิน ชาวบ้านตาดำๆ จะเข้าใจไหมนี่ ลองมาดูกันครับ ขอนำข้อมูลมาเสนอก่อนนะครับ

ปริมาณน้ำไหลออก(ระบายอออก)เขื่อนภูมิพล ในปี 2009-2011

Posted Image

ตัวแปรสำคัญที่เราจะใช้วิเคราะห์ ปริมาณการระบายน้ำจากเขื่อน ภูมิพลครับ ผมเขียนใส่ตารางให้ดูกันเป็นตัวเลขง่ายๆ ตามวันที่สำคัญด้านล่างครับ อีกครั้ง หน่วยเป็น ล้าน ลบ.ม.

วัน เดือน ปี

ปริมาณระบายน้ำ หน่วย ล้าน ลบ.ม.

29/09/2011 22.02 30/09/2011 42.13 01/10/2011 42.87 02/10/2011 43.12 03/10/2011 53.64 04/10/2011 61.31 5 - 11 ตุลาคม 2011 ประมาณ 100 12/10/2011 84.43 13/10/2011 59.68 14/10/2011 60.28 15/10/2011 50.93 16/10/2011 50.97

ช่วงที่เขื่อน ภูมิพล ปล่อยมาสูงสุดคือ วันที่ 5 - 11 ตุลาคมครับ ปล่อยมา 100 ล้าน ลบ.ม. เป็นเวลา 7 วัน หรือ 1 สัปดาห์ ดูแค่นี้ยังเฉยๆใช่ไหมครับ ใจเย็นๆ เพราะยังไม่รู้ว่า ไอ 100 นี่มันมากแค่ไหน แม่เจ้า ไม่อยากจะเชื่อครับ มาลุยต่อ

Posted Image

อันนี้แผนภาพ แบบคร่าวๆ ที่ผมทำขึ้นมาประกอบการวิเคราะห์ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า น้ำจากเขื่อน ภูมิพล วิ่งผ่านแม่น้ำ และ จังหวัดอะไรบ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่จาก เขื่อน ไปยังจังหวัดต่างๆ ถ้าอยากดูแผนภาพแบบเต็มเข้าไปดูที่ เวปนี้นะครับ จะเห็นชัดเจนขึ้น

http://www.thaiwater...t/chaopraya.php

ลองเข้าไปดู แล้วเลือกวันที่เอง จะเห็นว่าน้ำจากเขื่อนวิ่งผ่าน จุดวัดระดับน้ำต่างๆ ปริมาณน้ำไหลเป็นเท่าไหร่ กี่ ลบ.ม.ต่อวินาที ลองเข้าไปกดดูได้ครับ เลือกวันที่เอาครับ


เอาล่ะ ผมว่าข้อมูลเราครบแล้วล่ะครับ มาวิเคราะห์กันครับ เริ่มจาก ปริมาณน้ำระบายออกจากเขื่อนภูมิพล ที่พูดกันเหลือเกินว่า 100 ล้าน ลบ.ม. มันมหาศาลแค่ไหน อ่านแล้วอย่าตกใจนะครับ

ก่อนจะดูว่ามากน้อยแค่ไหน ลองมาดูว่า ปริมาณน้ำที่ไหลในแม่น้ำอยู่ทุกวัน นี่มันมากน้อยแค่ไหนก่อน ผมจะยกมา 2 จุด คือ แม่น้ำแม่ปิง และ แม่น้ำเจ้าพระยา ช่วง จังหวัด นครสวรรค์ จะมีสถานีตรวจวัดปริมาณน้ำอยู่ มาดูครับ

1. แม่น้ำแม่ปิง จะมีน้ำไหลผ่านเต็มความจุได้ ประมาณ 1700 ลบ.ม. ต่อวินาที คือ ใน 1 วินาที น้ำจะไหลผ่านแม่น้ำปิง 1700 ลบ.ม. กรณีเต็มความจุลำน้ำ

2. แม่น้ำเจ้าพระยา จะมีน้ำไหลผ่านเต็มความจุได้ ประมาณ 3500 ลบ.ม. ต่อวินาที

อย่าเพิ่ง งงนะครับ ไหนจะ 100 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ไหนจะ 1700 , 3500 ลบ.ม. ต่อวินาที ผมกำลังจะแปลงหน่วยให้เป็นหน่วยเดียวกัน ดูข้อต่อไปครับ

3. น้ำถูกระบายจากเขื่อน ภูมิพล มาในปริมาณ มากสุดคือ 100 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน

1 วัน มี 24 ชม. !! 1 ชม. มี 60 นาที !! 1 นาที มี 60 วินาที

1 วันมี 24 * 60 * 60 = 86400 วินาทีครับ คิดตามกันไปนะครับ

100 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน = กี่ ลบ.ม. ต่อวินาที จะทำให้เป็นหน่วยเดียวกัน เอา 86400 ไปหาร

100,000,000 / 86400 = 1157.4 ลบ.ม. ต่อวินาที เห็นภาพรึยังครับ สรุป น้ำที่ปล่อยระบายจากเขื่อน ภูมิพล 100 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน = 1157.4 ลบ.ม. ต่อวินาที

4. นำปริมาณน้ำ มาเทียบกัน ทำใจดีๆนะครับ

ลำน้ำแม่ปิง ช่วงก่อนจังหวัด นครสวรรค์ จุเต็มลำน้ำที่ 1700 ลบ.ม. ต่อวินาที แต่เขื่อนภูมิพล ปล่อยน้ำมาอยู่ที่ 1157.4 ลบ.ม. ต่อวินาที แม่เจ้า พระพุทธเจ้า มันเหมือนกับคุณเอา แม่น้ำน้องแม่ปิง อีกสายนึง มาวิ่งขนานเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา คิดภาพสิครับ แม่น้ำแม่ปิงจุ 1700 เขื่อน ปล่อย 1157 โอ้วววววว นี่มันอะไร ถ้าผมไม่ได้คิดเป็นตัวเลขออกมา ก็ยังไม่ตกใจขนาดนี้ แต่รัฐบาลกับ กรมชลประทาน ทำเหมือน ปล่อยน้ำจำนวนน้อยๆ ไม่ได้มีความหมายอะไร

น้ำจำนวนมหาศาลมหึมาขนาดนี้ คุณทำเหมือนไม่มีความหมายอะไร

5. ลำน้ำเจ้าพระยา ช่วงจังหวัด นครสวรรค์ ดูในแผนภาพ ตรงจุดวัดน้ำค่าย จิรประวัติ ช่วงนั้น แม่น้ำเจ้าพระยา น้ำไหลเต็มความจุที่ 3500 ลบ.ม. ต่อวินาที แต่น้ำปล่อยจากเขื่อน ภูมิพลมา 1157.4 ลบ.ม. ต่อวินาที แม่เจ้าอีกครั้ง มันคือปริมาณ 1 ใน 3 ของน้ำที่ไหลเต็มความจุของแม่น้ำเจ้าพระยา น้อยไหมครับ เท่ากับว่า ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 1 ใน 3 ของระดับน้ำที่วิ่งอยู่

6. ที่น่าสลดใจยิ่งนักคือ เค้าปล่อยน้ำจำนวนนี้ เป็นเวลา 7 วัน ช่วง วันที่ 5 - 11 ตุลาคม ผมขอยืนไว้อาลัยให้กับ ผู้สูญเสียทุกท่านครับ

7. น้ำจำนวนที่เพิ่มเข้ามานี้ มันไม่ได้ไหลอยู่ในแม่น้ำทั้งหมดนะครับ เพราะช่วงที่เริ่มปล่อยน้ำออกมา น้ำก็เกินความจุของแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ยังไม่ท่วมเพราะ มีคันกั้นน้ำของแต่ละจังหวัดอยู่ จังหวัดไหนคันกั้นน้ำดีก็ ไม่ท่วมหรือท่วมน้อย

น้ำที่วิ่งเข้ามาเมื่อเกินความจุของลำน้ำ ก็จะไหลออกทุ่ง ออกนา เข้าเมือง ชนคันกั้นน้ำ เพิ่มความเร็วความแรงของน้ำที่แรงมากอยู่แล้ว ที่เกินความจุของลำน้ำอยู่แล้ว ให้มากขึ้นอีกเยอะ


อย่าเพิ่งเหนื่อยนะครับ เพราะยังไม่จบ เหลืออีกส่วนหนึ่งให้วิเคราะห์กัน คือช่วงเวลาที่น้ำจากเขื่อนภูมิพล วิ่งไปถึงจังหวัดต่างๆ และช่วงเวลาที่จังหวัดต่างๆน้ำท่วม ดูว่ามันมีนัยสำคัญอย่างไร

  • ดูที่ตารางน้ำระบายออกจากเขื่อน จะเห็นว่า เขื่อนเริ่มปล่อยน้ำแรงขึ้น วันที่ 30 และจากนั้นก็มากขึ้นๆ เรื่อยๆจนเต็มที่ วันที่ 5 - 11 ตุลาคม


    ดูแผนผังที่ทำให้จะเห็นว่า น้ำจากเขื่อน ภูมิพล วิ่งไปอยุธยาใช้เวลา 6 วันโดยประมาณ

    น้ำเริ่มปล่อยแรงขึ้น วันที่ 30 กันยายน จากนั้น วันที่ 6 ตุลาคม นิคมอุตสาหกรรม สหรัตนนคร น้ำท่วม เรื่อยมา วันที่ 7 เป็นต้นไป นิคมโรจนะ นิคมไฮเทค นิคมบางปะอิน และ แฟคทอรี่แลน ในอยุธยา นิคมทั้งหมด ท่วมไล่เรียงจากนั้นมา ระยะห่างจากวันที่ เริ่มปล่อยน้ำแรง 30 ถึง วันที่ 6 คือ หกวันโดยประมาณ มีนัยสำคัญไหมครับ
  • จากแผนผัง น้ำจากเขื่อน ภูมิพล วิ่งไปนครสวรรค์ ใช้เวลาประมาณ 3 วัน



    น้ำระบายจากเขื่อน ภูมิพล แรงสุด 100 ล้าน ลบ.ม. เมื่อวันที่ 5 - 11 ตุลาคม น้ำเข้าพังคันกั้นน้ำใหญ่ (ไม่ใช่คันกั้นน้ำที่เรือรับจ้างพังนะครับคนละอัน) วันที่ 10 ตุลาคม ที่จังหวัดนครสวรรค์ น้ำท่วม จากวันที่ 5 ปล่อยน้ำ จนถึงวันที่ 10 น้ำท่วมนครสวรรค์ มีนัยสำคัญไหมครับ
  • จากแผนผัง น้ำจากเขื่อน ภูมิพล วิ่งไป ปทุมธานี ใช้เวลาประมาณ 7 วัน



    น้ำระบายจากเขื่อน ภูมิพล แรงสุด เมื่อวันที่ 5 - 11 ตุลาคม น้ำเข้าท่วม นวนคร ปทุมธานี เมื่อ 17 ตุลาคม มีนัยสำคัญไหมครับ

ปล. วันเวลาที่น้ำเข้าท่วม นั้นมาจากหลายปัจจัย เพราะน้ำที่ปล่อยออกมาอย่างที่บอก ส่วนใหญ่ลง ทุ่งลงนา เข้าจังหวัดต่างๆไปมากแล้ว น้ำที่เข้าอยุธยา ก็ชะลอน้ำเข้ากรุงเทพฯ น้ำที่เข้านครสวรรค์ ก็ชะลอน้ำที่เข้าอยุธยา ปทุม และกรุงเทพฯ อีก ดังนั้น น้ำก้อนมหึมานี้กำลังไหลเข้ากรุงเทพฯ ครับ แม้ว่า เค้าจะเริ่มลดการระบายน้ำจากเขื่อน ภูมิพล แต่ก็เพิ่งลดลงตั้งแต่วันที่ 12 ดังนั้นน้ำมวลใหญ่จริงๆ จะเข้ากรุงเทพฯ ก็ช่วงนี้แหละครับ 17 - 22 อย่างไรก็ระวังไว้ด้วยครับ คนกรุงเทพฯ

ดังที่ผมเคยได้ให้ความเห็นไว้ใน สาเหตุของน้ำท่วม ตอนแรก ว่า ทำไม ไม่ปล่อยน้ำ จากเขื่อน ตั้งแต่ เดือน ก.ค. เช่น ปล่อย เป็น 30 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ตั้งแต่ ก.ค. ถ้าทำอย่างนั้น ต่อให้ผมไม่ได้เป็น นายกฯ ไม่ได้เป็น รมว. ไม่ได้เป็น อธิบดีกรมชลประทาน แต่ผมมั่นใจเหลือเกินว่า น้ำจะไม่ท่วมหนักขนาดนี้ จะไม่ท่วม ทุกนิคมฯ ขนาดนี้

และอย่าออกมาแก้ตัวว่า เพราะป้องกันน้ำแล้ง และคิดว่าปีนี้ฝนจะน้อย คุณทำไมไม่ทำงานร่วมกับ กรมอุตุนิยมวิทยา ถามข้อมูลได้นี่ครับ ทั้งที่ตั้งแต่ ช่วงต้นปี ก็เห็นแล้วว่า ปริมาณน้ำฝนมากกว่าปีก่อนๆ น่าจะเดาได้ว่า ปีนี้ฝนจะเป็นอย่างไร แต่ทำไมต้องเก็บน้ำไว้จนเต็มความจุขนาดนั้น รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ปลอดประสพ รมว.เกษตร ธีระ อธิบดีกรมชลประท่าน ผมขอคำตอบด้วยครับ


ปล. ผมสรุปให้นะครับ เผื่อคนที่ยังไม่เข้าใจ สรุปง่ายๆว่า
น้ำที่ระบายออกจาก เขื่อน ภูมิพล เพราะน้ำเต็มความจุของเขื่อน ระบายออกช่วง 5 - 11 ตุลาคม เป็นจำนวน 100 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน นั้น ปริมาณน้ำที่ระบายออก นั้นมีจำนวนมหาศาล พอๆกับ มีแม่น้ำแม่ปิง อีกสายหนึ่ง เพิ่มเข้ามาวิ่งเข้าบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา เหมือนมีแม่น้ำเพิ่มขึ้นอีกสายหนึ่งเลยครับ
ดังนั้น คุณคิดว่า ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นมา พอๆกับแม่น้ำแม่ปิงอีกสายหนึ่งนั้น มันน้อยไหมครับ ผมจึงคิดว่าการบริหารน้ำมีปัญหาอย่างแน่นอน


http://www.oknation....1/10/18/entry-1 เครดิต

#2 ปกติทำแต่งาน

ปกติทำแต่งาน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 624 posts

ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 18:10

คำสั่งจากแดนไกล ข้าวธรรมดา 15000 ข้าวมะลิ 20000 เก็บน้ำไว้ให้มากที่สุด ให้ทำได้อีกรอบ นโยบายออกไปแล้ว.....ครับๆๆๆๆ ผมจะดูแลเอง

คนคำนวณ หรือ จะสู้ ฟ้าลิขิิต.....

โลภมาก ลาภหาย .....

สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงๆๆๆๆ........

*คุณ*มันขี้ครอก..... บารมีไม่ถึงหรอก..... ฉลาดแต่โกง

น่าสงสารชาวนา....... ชาวเมือง.... ชาวนิคม......ชาวไทย.......

แต่สมน้ำหน้าควายแดง!!!!!

ทำพลาดแล้วยังมาปล่อยข่าวว่าอำมาตย์วางแผนปล่อยน้ำ ให้ทหารใช้น้ำยึดอำนาจ....คิดไปได้....แต่ก็ยังเสรือกมีควายแดงเชื่่ออีก

*คุณ*นะแหละสั่งกักน้ำ.....
ผิดคือผิด แม้ว่าหลายคนจะทำสิ่งนั้นถูกคือถูก แม้ว่าจะไม่มีใครทำสิ่งนั้นศจ. สังเวียน อินทรวิชัย

#3 Shart

Shart

    Secret Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,093 posts

ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 18:12

ของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช
มันก็รู้ๆกันอยู่แล้ว เบื่อควายบริหารประเทศ

สัมภาษณ์พิเศษ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช : น้ำท่วม...บริหารจัดการไม่เป็น


ไม่ใช่ภัยพิบัติลงโทษแต่...บริหารน้ำผิดพลาด รุนแรงจนรัฐบาลต้องประกาศเป็น "วาระแห่งชาติ" ระดมความร่วมมือจากทุกสรรพกำลังมาร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ของประเทศ
Posted Image
(ภาพจาก บลอก porzaakub )
ที่จนถึงเวลานี้ 26 จังหวัด กำลังจมน้ำ ประชาชนกว่า 2.2 ล้านครัวเรือนกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก นอกจากบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรที่เสียหายไปแล้วกว่า 9.6 ล้านไร่ มวลน้ำก้อนมหึมายังรุกคืบสร้างความเสียหายต่อเนื่องฝ่าปราการป้องกันเบื้อง ต้นรุกล้ำไปยังนิคมอุตสาหกรรม จนมูลค่าความเสียหายพุ่งสูงหลายแสนล้านบาท ยังไม่รวมยอดผู้เสียชีวิตที่สูงถึง 281 ราย

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในฐานะผู้คร่ำหวอดในแวดวงอุตุนิยมวิทยา มายาวนาน ฟันธงว่าวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ไม่ใช่เป็นผลพวงจาก "ภัยพิบัติ" แต่เป็นเรื่องการบริหารจัดการน้ำไม่เป็น!!!

"คือไม่สามารถจะบริหารน้ำได้ ไม่มีการติดตามข้อมูลตั้งแต่ต้นฤดูฝนว่าจะตกเยอะไหม ควรเก็บน้ำในเขื่อนไว้เท่าไหร่ ปรากฏว่าทุกคนเก็บน้ำไว้ในเขื่อนใหญ่หมด ทั้งกรมชลประทาน การไฟฟ้าฯ ซึ่งกลัวว่าจะไม่มีน้ำใช้ในหน้าแล้งซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ผิด

...ถ้าฝนตกต่อเนื่องทั้งกลางฤดู ปลายฤดู ยังตกอยู่ ปริมาณช่องว่างน้ำในเขื่อนจะไม่สามารถเก็บน้ำฝนกลางฤดูได้ ตอนนี้เขื่อนใหญ่เต็มหมดแล้วปัญหาคือ เมื่อเขื่อนใหญ่เต็มหมดแล้ว ก็ปล่อยน้ำในเขื่อนออกมาพร้อมกัน ปริมาณน้ำที่ปล่อยมามากกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกใส่เขื่อน"

ดร.สมิทธ อธิบายว่า การปล่อยน้ำจากเขื่อนใหญ่ทั้ง เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ทำให้น้ำมารวมตัวในภาคกลางตอนบนไล่มาตอนล่าง ขณะที่ภาคกลางก็มีน้ำฝนที่ตกมาอยู่ท้ายเขื่อนอยู่ในที่ลุ่มอยู่แล้ว
ดังนั้น น้ำในขณะนี้จึงมหาศาลมาก หลายคนบอกน้ำปล่อยมานิดเดียวแต่เพราะน้ำมีอยู่แล้วในที่ลุ่ม ในนา เมื่อปล่อยมาพร้อมกันปริมาณน้ำจึงมาก ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมพร้อมกัน ตั้งแต่ จ.นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา

"เป็นวิกฤตบริหารน้ำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่มีการวางแผนไว้ก่อน อันที่จริงเราควรเก็บน้ำไว้ครึ่งหนึ่ง และถ้ามีฝนกลางฤดูที่แล้วก็สามารถเก็บน้ำไว้อีกได้"

ทั้งนี้ ที่ผ่านมานักวิชาการหลายคนบอกว่าน้ำไม่เคยสูงเช่นนี้ บางคนบอกน้ำเยอะแต่ไม่เคยท่วม ทุกคนต่างคนต่างมีข้อมูลของตัวเอง แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเถียงกันเรื่องข้อมูล เพราะข้อมูลที่แท้จริงกรมอุตุนิยมวิทยามีอยู่แล้ว เรามีสถานีวัดปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน กว่า 200 แห่งที่วัดปริมาณฝนได้

สำหรับแนวทางการแก้ไขในเวลานี้ ดร.สมิทธเห็นว่า จำเป็นที่จะต้องหยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนเพราะช่วงนี้ไม่มีปริมาณน้ำฝนที่จะตก เข้าเขื่อนแล้วทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนนี้ 3 เขื่อนใหญ่ก็จะไม่มีน้ำเข้าแล้ว ดังนั้นถ้าเรายังปล่อยน้ำมหาศาลซ้ำเติมระบบน้ำท่วมที่อยู่ในภาคกลาง น้ำจะท่วมหมด

"ความเสียหายเป็นแสนล้านบาท ประเทศไทยมีหน่วยงานที่ดูแลปัญหาเกี่ยวกับน้ำภายใต้สังกัดกระทรวงต่างๆ กว่า 20 หน่วยงาน แต่เราไม่มีดาตาเบส ต่างฝ่ายต่างทำไม่เอาข้อมูลมาแชร์กัน จึงทำให้ขาดผลวิเคราะห์ในการตัดสินใจ

...การบริหารน้ำถ้าไม่มีการประสานงานกันทั้งกรมอุตุฯ กรมชลฯ การไฟฟ้าฯ ว่าควรจะเก็บหรือปล่อยน้ำแค่ไหนมันก็ไม่มีฐานข้อมูลที่นำมาคำนวณปริมาณน้ำ ว่าควรจะปล่อยหรือพร่องน้ำในระดับใดจึงจะทำให้พื้นที่ไม่เดือดร้อน"

นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าการไม่มีเอกภาพในการทำงาน การที่นักวิชาการทะเลาะกันเอง ไม่มีความรู้อย่างแท้จริงนำไปเสนอรัฐบาล จึงทำให้ระบบรวนทั้งหมด สุดท้ายก็นำไปสู่ปัญหาอุทกภัยทั้งๆ ที่น้ำมวลใหญ่ที่ปล่อยออกมาจากเขื่อนใหญ่ๆนั้นบริหารจัดการได้

"ฝนปีนี้อาจจะมากกว่าปีที่แล้ว แต่การบริหารน้ำที่เราเก็บไว้มากไป แล้วปล่อยมาทีเดียว ไม่ปล่อยให้น้ำไหลไปตามธรรมชาติ หากปล่อยมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นฤดูตามธรรมชาติ กลางฤดูพอฝนตกก็เก็บบ้างปล่อยบ้าง
ปลายฤดูก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยทีเดียวเยอะๆ น้ำก็จะไม่ท่วม ถ้าเราไม่ปล่อยน้ำก้อนใหญ่จากเขื่อน 3 แห่ง รับรองว่าน้ำไม่ท่วม กทม.ปริมณฑล พระนครศรีอยุธยา และอีกหลายจังหวัดอย่างที่เห็นกันอยู่"

มาตรการบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าเวลานี้ ดร.สมิทธ มองว่า อันดับแรกเขื่อนใหญ่ควรหยุดปล่อยน้ำและหาทางระบายน้ำที่อยู่ในแม่น้ำใหญ่ๆ ทั้งแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกงให้ลงทะเลเร็วที่สุด
ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณปากแม่น้ำทั้งสามสาย เพราะช่วงนี้น้ำทะเลหนุนสูง น้ำเหนือไหลมาสมทบจะทำให้น้ำนิ่ง ไหลช้าลง ก็ต้องเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลก็จะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วม กทม.ได้

"แต่เพราะหลายเขื่อนยังปล่อยมาหลาย100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่แม่น้ำต่างๆระบายต่อวันได้ไม่ถึง 50 ล้านลูกบาศก์เมตรทุกเขื่อนพร้อมใจกันปล่อย มันก็มารวมกันที่ภาคกลาง เหมือนเราเทน้ำลงมาพร้อมกัน น้ำที่เต็มแก้วเมื่อเติมไปอีกมันก็ล้น

...เรื่องนี้ไม่ใช่ภัยพิบัติลงโทษ แต่เป็นเพราะการบริหารน้ำที่ผิดพลาด หากเราบริหารไม่ดีท่วมแน่ ถ้าไม่รู้จักเก็บน้ำในเขื่อนไว้ให้เหมาะสม นอกจากนี้การบริหารในเขื่อนเล็กๆแต่ละเขื่อนไม่สามารถระบายออกทะเลได้รวด เร็วพอ มันก็เอ่อในที่ลุ่มภาคกลาง"

ประเมินมาตรการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ออกมาถูกทางหรือไม่นั้น ดร.สมิทธ มองว่าจริงๆ รัฐบาลควรตั้งศูนย์เฉพาะกิจแต่แรกเพราะการบริหารภัยพิบัติใหญ่ๆ ต้องตั้งศูนย์เฉพาะ ต้องมีผู้บริหารใหญ่และผู้ควบคุมศูนย์คนเดียว จะเป็น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอกหรือนายกรัฐมนตรี ก็ได้
แต่ต้องตัดสินใจคนเดียว ทว่าตั้งช้าไปหน่อย แม้ตอนนี้จะเริ่มมีการตัดสินใจเดินหน้าแก้ไขหลายเรื่องแล้วแต่มาเริ่มตอน วิกฤตน้ำใกล้ท่วม กทม.ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอยู่มาก ทำให้ผลกระทบเยอะ

ส่วนความตื่นตระหนกของชาวบ้านที่ไม่มั่นใจสถานการณ์ และแก้ปัญหาด้วยการสร้างพนังกั้นน้ำหน้าบ้านตนเองจนวัตถุดิบขาดตลาดนั้น ดร.สมิทธ เห็นว่าอาจไม่ถูกต้องตามวิธีการ เพราะเป็นการสร้างที่ไม่มีหลักวิชาการการเอาดินวาง เอากระสอบทรายมาวาง มันสู้แรงดันน้ำไม่ได้

ทั้งนี้ น้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร หนักถึง 1 ตันถ้าสร้างเขื่อนสูง 2 เมตร แสดงว่ามีแรงดันน้ำถึง 2 ตัน ดังนั้นหากเขื่อนสร้างไม่แข็งแรงน้ำจะซึม กระสอบทรายไม่หนักพอก็ทลาย น้ำก็จะไหลอย่างรวดเร็วและแรงจนเอาไม่อยู่

ดร.สมิทธ อธิบายถึงแนวคิดที่ในอดีตเคยเสนอให้ตั้ง "กระทรวงน้ำ" ขึ้นมารับผิดชอบดูแลเรื่องนี้โดยตรง ว่าเป็นเพียงข้อเสนอของนักการเมืองที่จะทำให้มีตำแหน่งทางการเมืองเพิ่มขึ้น ทั้งรัฐมนตรี ที่ปรึกษาและข้าราชการการเมือง เป็นการสร้างตำแหน่งเปล่าๆ

"ผมว่าทำอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบันก็เหมาะสมแล้ว คือการตั้งศูนย์เฉพาะแล้วรวมเอานักวิชาการผู้มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำมารวม กัน แต่ว่าการบริหารต้องการคนที่รู้เรื่องมาคุยกัน อย่าให้มานั่งเถียงกัน และการตัดสินใจก็ให้นายกฯ เป็นผู้ชี้ขาด"

เขื่อนใหญ่ต้องหยุดปล่อยน้ำ

ยังต้องลุ้นระทึกกับมวลน้ำก้อนใหญ่ ที่คาดว่าจะถึง กทม.ในวันสองวันนี้ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ยังอดเป็นห่วงฝีมือ กทม. กับการผันน้ำ กทม. หากเกิดน้ำทะลักเข้าพื้นที่เข้ามาจริงๆ

"ผมไม่เชื่อฝีมือ กทม. เพราะไม่เคยศึกษาหรือไปดูเขื่อน เช่น เขื่อน จ.ปทุมธานี ที่เพิ่งแตกไป กทม.ก็ไม่ดูแลบอกว่าท้องถิ่นสร้างขึ้นเอง ทั้งที่จริงแล้ว กทม.ควรมีหน้าที่ไปดูแลพื้นที่ด้วย เพราะน้ำที่จะแตกจากปทุมฯ จะเข้า กทม.กทม.อยู่ติดจังหวัดต้นน้ำ ถ้าเถียงกันอย่างนี้ กทม.จมแน่"

ทั้งนี้ ไม่แน่ใจว่าเขื่อนรอบๆ กทม.จะมีความแข็งแรงพอหรือไม่ เพราะเขื่อนกั้นน้ำของ กทม.มีทั้งเขื่อนดินและเขื่อนคอนกรีต กระสอบทรายโดยเฉพาะในพื้นที่รอบนอก ทาง อบต. และอบจ. จะเป็นคนดูแล โดยใช้ผู้รับเหมาก่อสร้าง ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ อาจทำให้มีปัญหาเรื่องความแข็งแรง

"อันนี้ถือเป็นจุดอ่อนจะทำให้เกิดวิกฤตน้ำในกทม.ได้ ขณะนี้น้ำล็อตใหญ่ที่มาจากเขื่อนภูมิพลสิริกิติ์ ป่าสักชลสิทธิ์ กำลังผ่านเข้ามาใน 3-4 จังหวัดที่ท่วมอยู่แล้ว กทม.จึงต้องระวังเพราะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุน ตอนนี้ดูแล้ว กทม.คงรอดยาก"

ดร.สมิทธ ประเมินว่า วิธีการแก้ไขให้ได้ผลเร็วคือ ต้องหยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนใหญ่ จากนั้นตั้งเครื่องสูบน้ำที่ปลายแม่น้ำที่จะลงสู่ทะเลให้มากที่สุดเพื่อสูบ น้ำออกปากอ่าว นี่คือวิธีเดียวที่จะระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"การเอาเรือไปดันน้ำจะดันได้เฉพาะผิวน้ำเท่านั้น ไม่สามารถดันน้ำที่อยู่ลึกไปข้างล่างได้พระราชดำรัสของในหลวงเรื่องการสร้าง คลองลัดโพธิ์ การที่เป็นคลองแคบจะทำให้การดันน้ำไหลออกจากคลองได้เร็ว
แต่ถ้าเอาเรือหลายลำไปผูกแล้วดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่กว้าง เป็นการเสียน้ำมันเปล่า เพราะดันได้แค่ผิวน้ำเท่านั้นเรื่องนี้ต้องคิดต้องรู้ลักษณะของน้ำ ดังนั้นที่ถูกต้องคือการตั้งระบบสูบน้ำที่ปลายคลองหรือปลายแม่น้ำออกสู่ทะเล เลย"

สำหรับแนวคิดที่ กทม.ลงทุนทำอุโมงค์ยักษ์มีการระบายน้ำจากที่ลุ่มของกทม. เช่น รามคำแหงหนองจอก แทนที่จะระบายออกอ่าวไทย แต่กลับเอามาออกที่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไม่ช่วยอะไรเลยเพราะจะทำให้เจ้าพระยาล้นตลิ่งอีก หมุนเวียน
ถ้าจะลงทุนให้มากหน่อย วางท่อให้ยาวแล้วไปลงที่อ่าวไทยจะดีกว่า และทำให้ กทม.ปลอดภัยจากน้ำท่วมด้วย ไม่รู้ทำไมถึงคิดกันแค่นี้ เห็นว่าผู้ว่าฯกทม.จะทำอีกหลายอุโมงค์แต่ไม่รู้จะไปออกที่ไหน

ดร.สมิทธ ประเมินถึงสถานการณ์พายุบันยันที่วิเคราะห์แล้วเชื่อว่าไม่เข้าไทย แต่การที่นักวิชาการไม่มีความรู้แล้วไปให้ข้อมูลกับ ศปภ.และนายกฯ ว่าพายุจะสร้างผลกระทบต่อประเทศทำให้เกิดความตื่นกลัวกันหมด คนไม่รู้มาพูดทำให้ตกใจและประเมินพลาด

"พายุลูกนี้จะเข้าที่อ่าวตังเกี๋ย ประเทศจีนจากนั้นก็จะไปเวียดนามเข้ามาทางเหนือบ้านเราก็จะทำให้มีฝนตกนิด หน่อยที่เชียงใหม่ เชียงรายจากนั้นจะทำให้อากาศหนาวเย็นลง ผมอยากขอให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องอุตุนิยมวิทยา หรืออุทกวิทยา หยุดให้ข้อมูล เพราะจะให้เกิดความตระหนก แตกตื่นกันไปหมด"

ดร.สมิทธ วิเคราะห์ต่อไปว่า หลังจากนี้ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน จะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วหากมีพายุเข้ามาจะไม่ส่งผลให้มีฝนตก หรือถ้าตกก็จะไม่มาก สิ่งที่กรมอุตุฯ และรัฐบาลต้องระวังต่อไป คือ ร่องลมมรสุมที่จะเลื่อนจากภาคกลางตอนล่างไปยังตอนใต้ ผ่านสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา
ซึ่งปีที่แล้วช่วงเดือนเดียวกันก็มีพายุดีเปรสชันก่อตัวทางทะเลจีนตอนล่าง พัดเข้าสู่อ่าวไทย คลื่นลมที่พัดมาจะทำให้เกิดคลื่นพายุหมุนซัดชายฝั่ง(สตอร์ม เซิร์จ) สูง 4-5 เมตร และจะส่งผลกระทบให้ภาคใต้ เช่น ปัตตานี ยะลา

ดังนั้น ข้อมูลในการเตือนภัยพิบัติของกรมอุตุฯ จะต้องแม่น และหากสภาวะลมแรงจะทำให้สตอร์ม เซิร์จ สูงถึง 5-6 เมตร ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแนวฝั่งและรัฐบาลต้องเตือน ให้เขาอพยพไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย

#4 orogaros

orogaros

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,204 posts

ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 18:18

สรุปได้ดีมากๆ ครับ

แต่ผมสงสัยอย่างนึงตั้งแต่แรกนะครับ อันนี้ขอถามผู้รู้หลายๆ คน คือเรื่องกำแพงกั้นน้ำ ทำไมรู้ว่ามีน้ำมากและมันจะต้องแตก

ทำไมไม่ทำช่องน้ำไหลผ่านหลายๆ ช่อง ไม่ต้องใหญ่มากนักให้น้ำทยอยไหลเข้าสู่เขตเศรษฐกิจ และหาทางระบายจากเศรษฐกิจโดยเร็ว

แต่สิ่งที่ผมเห็นคือการกั้นไม่ให้เข้าไปเลยในหลายๆ จุดตั้งแต่เริ่ม วานผู้รู้ช่วยบอกผมที หรือว่าที่กั้นไว้เพราะมีทางอื่นที่ทำให้น้ำไหลผ่าน

หรือผมเข้าใจอะไรผิดตรงไหนครับ

#5 hinotori

hinotori

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,899 posts

ตอบ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 19:40

สรุปได้ดีมากๆ ครับ

แต่ผมสงสัยอย่างนึงตั้งแต่แรกนะครับ อันนี้ขอถามผู้รู้หลายๆ คน คือเรื่องกำแพงกั้นน้ำ ทำไมรู้ว่ามีน้ำมากและมันจะต้องแตก

ทำไมไม่ทำช่องน้ำไหลผ่านหลายๆ ช่อง ไม่ต้องใหญ่มากนักให้น้ำทยอยไหลเข้าสู่เขตเศรษฐกิจ และหาทางระบายจากเศรษฐกิจโดยเร็ว

แต่สิ่งที่ผมเห็นคือการกั้นไม่ให้เข้าไปเลยในหลายๆ จุดตั้งแต่เริ่ม วานผู้รู้ช่วยบอกผมที หรือว่าที่กั้นไว้เพราะมีทางอื่นที่ทำให้น้ำไหลผ่าน

หรือผมเข้าใจอะไรผิดตรงไหนครับ


ตามจริงควรจะเป็นเช่นนั้นครับ แต่การปล่อยน้ำมาพร้อมๆกัน จำนวนมวลน้ำมหาศาล

ถ้าขืนปล่อยให้เข้าคลองระบายน้ำพร้อมกัน สุดท้ายก็จะท่วมทุกคลอง ประกอบกับการบริหารผิดพลาดแต่ต้น

แทนที่จะควบคุมทางไหลของน้ำ กลับเป็นการต้านน้ำเอาไว้ ซึ่งไม่อาจต้านทานได้ พอพนังแตก ก็เหมือนกับฝายกั้นน้ำ

ที่จะทำให้น้ำไหลบ่าลงมาแรงยิ่งขึ้น

สรุป จะกั้น จะคุม ยังไงมันก็ท่วม

ผิดพลาดตั้งแต่สั่งปล่อยน้ำแล้วครับ

#6 ThaILandLover

ThaILandLover

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 235 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 12:24

ขุดรอคนแถ

#7 Shart

Shart

    Secret Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,093 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 12:28

Posted Image
Posted Image

ดูหลักฐานราชการ
อัตราสูงสุดของปี 54 เก็กเก็บไว้วันที่เท่าไหร่
ลองเทียบกับปี 52 ดู คือประมาณ 8-18 สิงหาคมของเขื่อนภูมิพล (รับตำแหน่งและจัดตั้งเสร็จวันที่ 10สิงหาคม)
และวันที่ 19-29 สิงหาคมของเขื่อนสิริกิติ์
แถมสองเขื่อนวันใกล้เคียงกันมากๆ

ใครกักน้ำรู้ๆกันอยู่
ที่เหลือรอตรวจสอบว่าใครสั่ง แต่รู้ตอนนี้มันโบ้ยกรมชล ให้รับคนเดียวแล้ว

Credit กรมชล http://water.rid.go....d/res_table.htm

ขุดๆขึ้นมาแล้วก็เก็บข้อมูลให้ครบ

#8 ThaILandLover

ThaILandLover

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 235 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 12:31

เห็นในห้อง Shout แถกแถว่า น้ำท่วมเพราะรัฐบาลที่แล้วไม่ระบายน้ำ ปูเพิ่งมาเป็นรัฐบาลได้ 2 เดือนจึงระบายน้ำไม่ทัน เลยขุดขึ้นมา

มามา มายันกันด้วยข้อมูลด้านบน ตรงไหนเป็นเพราะรัฐบาลที่แล้ว มาแย้งกัน

#9 overtherainbow

overtherainbow

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,295 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 12:45

มีกระทู้นึงเล่าละเอียดมากว่าช่วงน้ำท่วมเมื่อไหร่
แล้วปูทำอะไรบ้าง
วันต่อวัน
เดี๋ยวไปหามาวางให้ค่ะ

#10 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 12:52

มีกระทู้นึงเล่าละเอียดมากว่าช่วงน้ำท่วมเมื่อไหร่
แล้วปูทำอะไรบ้าง
วันต่อวัน
เดี๋ยวไปหามาวางให้ค่ะ

กำลังรอคอยคุณสายรุ้งด้วยใจจดจ่อ



ขอบคุณคุณ Shart มากครับสำหรับภาพ......................ชัดจนไม่รู้จะชัดอย่างไร จะใส่ร้ายกันได้อีกมั้ย
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#11 คืนหมาหอน

คืนหมาหอน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 458 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 13:01

มันเหมือนคนเป็นความดันนั่นแหละ......เมื่อใดที่ความดันขึ้นจนถึงขีดสุดที่จะรับไหว

เส้นเลือด (เขื่อน หรือแม่น้ำ ลำคลองที่กั้นผนังกระสอบทราย) จะแตก

เพื่อปลดปล่อยเร่งดัน จึงต้องเร่งระบาย กระจายไปในพื้นที่ต่างๆ....ก่อนที่จะสาย
"คนดีนั้นก็เหมือนคนบ้า หากไม่มีปัญญา"

#12 ThaILandLover

ThaILandLover

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 235 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 13:03

Posted Image
จากกราฟแสดงปริมาณกักเก็บน้ำในเขื่อนภูมิพล จะเห็นว่า เดือนกรกฏาคม ซึ่งผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว อภิสิทธิ์เป็นนายกรักษาการ
ระดับน้ำในเขื่อน เพิ่งจะเริ่มแตะ จุดสูงสุดของระดับน้ำในปี 2009 เท่านั้นเอง ถัดมาในเดือนสิงหาคมยิ่งลักษณ์เข้ามาเป็นนายก ถามว่าทำไมไม่รีบ
ระบายน้ำออก กักเก็บน้ำไว้ทำไมจนมันเต้ม จะเห็นว่าน้ำขึ้นถึงจุดสูงสุดของเขือนประมาณ 6 ต.ค. แล้วจึงเร่งระบายออก ก่อนหน้านั้น 2 เดือน
คือสิงหา และกันยา ทำไมไม่รีบรักษาระดับน้ำกักเก็บน้ำต่อไปทำไม

ถ้าจะด่ารัฐบาลที่แล้วทำไมไม่ระบายน้ำก็ช่วยดูด้วยว่าระดับน้ำตั้งแต่ มกราคม จนถึง มิถุนายน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลย ทำไมเค้าต้องรีบระบายน้ำ
ระดับน้ำเพิ่งจะเริ่มมาน่าเป็นห่วงช่วง กลางเดือนกรกฎา - ตุลา ซึ่ง ระยะเวลานี้ รัฐบาลอภิสิทธิ์ เป็นนายกรักษาการณ์ไม่มีอำนาจเต็มและเหลือเวลาไม่ถึง 1 เดือน
แต่ยิ่งลักษณ์เป็นนายกมีอำนาจเต็ม 2 เดือนใครควรจะรับผิดชอบมากกว่ากัน แล้วช่วงเวลา 2 เดือนที่ควรรีบมาจัดการปัญหาน้ำในเขื่อน คือ สิงหา - กันยา
ยิ่งลักษณ์อยู่ไหน ทำอะไร ไปแจกหม้อ ไปกราบตีนฮุนเซ็นอยู่ใช่หรือไม่

#13 kaidum

kaidum

    ขาดขา

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,125 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 13:08

มีกระทู้นึงเล่าละเอียดมากว่าช่วงน้ำท่วมเมื่อไหร่
แล้วปูทำอะไรบ้าง
วันต่อวัน
เดี๋ยวไปหามาวางให้ค่ะ

บังเอิญผมก็อปไว้ครับลองทัศนา ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเครดิตของพวกเราใน สรท


ก่อนวันที่ 9 สค น้ำท่วมมาเป็นระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ ปูบอกว่าเป็นนายกเมื่อไหร่สิ่งแรกที่รีบทำคือช่วยคนน้ำท่วม
9 สค ปูรับพระบรมราชโองการ.....
10 สค ปูนำ ครม เข้าถวายสัตย์....
14 สค ปูไปตรวจสอบน้ำท่วม สุโขทัย แพร่ น่าน....
16 สค เสนอ ครม เรื่องแก้น้ำท่วม....
17 สค เตือนภัยระดับน้ำ น่าน คาดการณ์ว่า เจ้าพระยาจะล้นท่วมภาคกลาง ครม มอบหมาย ยงยุทธ รายงาน นายก 24 ชม....
18 สค ฝนตกหนัก ภาคเหนือ ดินถล่ม น้ำท่วมขยายวงกว้าง....
19 สค อ่างทองไกล้วิกฤติ อยุธยาไหลบ่าท่วม 2 ฝั่ง อุตุเตือนฝนตกหนัก ภาคเหนือ อีสาน....
20 สค ปูเป็น ปธ ประชุม ศอส ตั้งวอร์รูม มีศุนย์ช่วยเหลือแบบวันสตอปเซอร์วิส....
21 สค ตั้งบางระกำโมเดล แบ่งงาน 2p 2r ฝนตกหนักหลายพื้นที่ภาคเหนืออ่างทอง ชัยนาท อยุธยา ปราจีน เชียงใหม่ เชียงราย สุโขทัย เพชรบูรณ์ น่าน วิกฤตแล้ว....
22 สค พนังพัง ลำปางท่วมหนัก อุตรดิตถ์นาล่มหมื่นไร่ มาร์คไปอยุธยา....
23 สค เขื่อนสิริกิต เร่งระบายน้ำ พิจิตร อุตรดิตถ์ อยุธยา อ่างทอง วิกฤตหนัก....
24 สค แถลงนโยบายรัฐบาล....
27 สค กรมชลเตือน น้ำเหนือ 5 วันถึงอยุธยา จะทำให้น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 50 ซม เชียงรายฝนตกหนักมาก....
29 สค เพื่อไทยจัดทีมคุ้ยทุจริต ปชป ปูไปบางระกำ พิษณุโลก....
30 สค ศอส เตือน 19 จังหวัดเหนือ ตอ ใต้ มีฝนตกหนัก ปูตรวจอุดรโมเดล ใช้เป็นต้นแบบแก้น้ำท่วมได้ทุกที่....
31 สค รัฐบาลประกาศเพิ่มชดเชยน้ำท่วม 600 เป็น 2200 แกนนำ นปชได้ตำแหน่งทางการเมืองครบทุกคน.....
2 กย อยุธยา อ่างทอง ท่วมหนัก เขื่อนเจ้าพระยาปบล่อยน้ำ 2785 ลบม/วนท....3 กย น้ำเหนือก้อนใหญ่ถึงนครสวรรค์ อุตุคาด 5-6 กย ฝนตกหนัก....
4 กย น้ำท่วมโบราณสถานป้อมเพชร เจ้าพระยาสูงขึ้น 35 ซม ปูประชุม 37 หน่วยงาน แก้ปัญหาบูรณาการ....
5 กย ปูเป็น ปธ ประชุมผู้ว่า 9 จว น้ำท่วมให้เร่งแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการณ์ กับ37หน่วยงาน....
6 กย อ่างทองอ่างเก็บน้ำพัง....
7 กย อยุธยาพื้นที่เกษตรเสียหาย 2หมื่นไร่ ฝนตกหนัก....
8 กย ปูตรวจเขื่อนเจ้าพระยา ตรวจน้ำท่วม อ่างทอง อยุธยา....
9 กย อุตุคาด 9-12 กย ฝนตกหนัก เขื่อนภูมิพลอั้นรับน้ำเหนือ....
10 กย ในหลวงทรงห่วงใย ให้เกษตรกรเร่งเก็บเกี่ยวพืชผล เพื่อใช้พื้นที่รองรับน้ำเป็นแก้มลิงชั่วคราว....
11 กย น้ำไกล้ล้นกำแพงวัดไชย โบราณสถานอยุธยา....
12 กย ฝนถล่มหนักน้ำท่วมเหนือ กลาง อีสาน ใต้ ปูสำรวจความเสียหายอุตรดิตถ์....
13 กย ฝนถล่ม หอพักพัง 4 ศพ เขื่อนน้ำเต็มพิกัด เตือน 35 จว เสี่ยงดินถล่ม ปูไปอินโด....
14 กย เทศบาลอ่างทองท่วม สิงห์บุรี สุพรรณท่วม น้ำท่วมทั่วประเทศเข้าขั้นวิกฤติ น้ำจะถึง กทม 20 กย มวลน้ำก้อนใหญ่ถึงนครสวรรค์ รัฐบาลจัดงานช่วยน้ำท่วม....
16 กย ปูเยือนเขมร อ่างทองพนังพัง ศูนย์ราชการจม เขื่อนใหญ่เต็มพิกัด....
17 กย สถานการณ์น้ำท่วมลุกลามทั้งประเทศ น้ำเหนือนือทะลัก 5 เขื่อนวิกฤติ น้ำท่วมกลางเมืองพิษณุโลก นนทบุรี 295 หมู่บ้าน "สสเพื่อไทย นปช เตรียมไปเขมรพบทักษิณ....
18 กย ลุ่มเจ้าพระยาท่วมสาหัส....
19 กย ปูตรวจน้ำท่วมนนทบุรี....
24 กย จตุพร ณัฐวุฒ นปช ไปเตะบอลกับเขมร....
25 กย ชัยนาทพังคันดิน ไม่ยอมจมน้ำ จว เดียว....
26 กย ปูตรวจน้ำท่วม ลพบุรี....
27 กย ปูเข้าเฝ้า เขื่อนป่าสักล้น ลพบุรีท่วมหนัก....
28 กย ชาวองครักษืรื้อคันกั้น น้ำเข้ารังสิต....
30 กย เชียงใหม่จมวินาศ 5พันล้าน....
2 ตค ภาคกลางน้ำท่วมสูง 2 ฝั่ง กทม จมแล้ว พายุถล่มเหนือ อีสาน....
3 ตค ปูสั่งซ่อมประตูบางโฉมศรี....
4 ตค สถานการณ์น้ำท่วม ลามทั่วประเทศ อุตุ เตือน 6-9 ตค พายุนาลแก....
5 ตค อยุธยาน้ำท่วมเข้าเมือง....
6 ตค น้ำท่วมนิคมสหรัตน นคร ตั้งศปภ....
7 ตค น้ำท่วมสายเหนือ ปูตรวจอยุธยา สหรัตนนคร อีก 3 นิคมส่อจม....

9 ตค อยุธยาจม ท่วมนิคมโรจนะ ปทุม นนท วิกฤติ....
11 ตค นครสวรรค์จมน้ำทั้งเมือง....
12 ตค มาร์คพบปูที่ ศปภ....
14 ตค ประตูน้ำปทุมแตก ศปภ แถลงข่าวสับสน น้ำท่วมนิคมไฮเทค....
15 ตค น้ำท่วมปทุมวิกฤต...
16 ตค น้ำท่วมนิคมบางปะอิน ปูเริ่มผลักดันน้ำลงทะเล............
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลheadlineของนสพไทยรัฐ ซึ่งสนับสนุนเพื่อไทยมาตลอด จึงน่าจะหมดข้อครหาเรื่องการบิดเบือนใส่ร้าย สรุปได้อย่างชัดเจนว่าความเสียหายจากอุทกภัยครั้งนี้ที่มากมหาศาลขนาดนี้ เพราะ"ความประมาทอย่างร้ายแรง" ทั้งที่สัญญานบอกเหตุทางธรรมชาติถึงความรุนแรงที่เกิดจากปริมาณน้ำมหาศาล ปรากฏในข้อมูลข่าวสารทั่วไปมาแล้วไม่ต่ำกว่าเดือนครึ่งก่อนถึงวันวิกฤติ ความไม่ประเมินการรับมือและแก้ไขปัญหาในขั้นวิกฤตร้ายแรง (worst case) ปล่อยเวลา(ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในการแก้ปัญหาแบบนี้)ให้ผ่านไป ไม่มีแผนปฏิบัติการ เป้าหมาย และกำหนดแล้วเสร็จที่ชัดเจนตรวจสอบได้เป็นระยะในแต่ละจุดสำคัญ เราจึงได้เห็นการแก้ปัญหาไล่ตามสถานการณ์ เร่งรัดให้แล้วเสร็จลวกๆ แต่ไร้ประสิทธิภาพ จึงไม่น่าแปลกใจที่การเร่งทำพนังกั้นน้ำแบบหางจุกก้น(เนื่องจากไม่มีคำเตือนระดับและเวลาของวิกฤติที่ชัดเจนจากภาครัฐ)ของแต่ละหน่วยงานที่ทำเมื่อจวนตัว จึงพังพินาศอย่างไม่จำเป็นต้องร้องไห้ออกทีวี แล้วยังมีหน้าบอกว่าทำดีที่สุดแล้ว การสักแต่ว่าประชุม ตั้งศูนย์ ตั้งชื่อระบบโน่นนี่นั่นให้ดูเท่ห์ๆ นั่ง ฮ ดูสภาพทั้งที่ดูไม่ออกหรอกว่าอะไรคืออะไร โดยไม่เข้าใจหัวใจของการแก้ปัญหาแบบนี้คือ"ต้องไม่ประมาทกับความรุนแรงของธรรมชาติ ต้องคิดในทางร้ายแรงไว้ก่อนว่าถ้าเกิดขึ้น"จะป้องกันอย่างไร" ไม่ใช่"จะแก้อย่างไร" เราจึงเห็นแต่มาตรการช่วยเหลือ ไม่มีมาตรการป้องกัน ตลอดเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ที่น่าห่วงคือวิกฤติน้ำท่วมคราวนี้มีเวลาให้แก้ไขนานเป็นเดือน ยังเเกิดความเสียหายยับเยินขนาดนี้ ถ้าเป็นภัยธรรมชาติที่ฉุกเฉินจริงๆ จะยับเยินขนาดไหน แม้กระทั่งถ้าเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำลังลากคนทั้งประเทศเข้าไป ถึงวันนั้นประเทศไทยจะเหลืออะไร นอกจากการขายประเทศถูกๆให้กับทุนสามานย์จากทั่วโลก
ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร

#14 ทรงธรรม

ทรงธรรม

    ต่อให้ต้องเรียนจนแก่ ก็จะเรียนต่อไป คนเราพัฒนาได้ทุกคน

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,157 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 13:15

ขอบคุณทุกท่านสำหรับกระทู้นี้ ผมได้ save ไว้ละครับ เอาไว้ฉะกับพวกเสื้อแดงที่เข้าข้างรัฐบาลจนไม่ลืมหูลืมตา ถ้าฟังผู้รู้ท่านว่าเรื่องน้ำสักหน่อย ถ้าหัดถามสักหน่อย ประเทศคงไม่วิกฤตขนาดนี้ ตอนนี้ยังมานั่งหาความกับผู้ว่ากทม.ที่เป็นผู้รับบาปจากพวกรัฐบาลอีก เศร้า

ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ

 

PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract

 

FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query  FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY


#15 Headbanger

Headbanger

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 41 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 13:36

เสื้อแดงใช้ข้อมูลเดียวกันนี้แล้วช่วยกันป่าวประกาศว่าเป็นความผิดอภิสิทธิ์ที่ไม่ยอมปล่อยน้ำ เขาบอกกันว่าพอยิ่งลักษณ์เข้ามาก็ปล่อยน้ำเยอะทันที

ปริมาณการปล่อยน้ำออกที่บอกว่าทันทีนั้น ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับช่วงที่ปล่อยเต็มที่ตอนต้นเดือนตุลาเมื่อทุกอย่างเข้าสู่ขั้นวิกฤติ

จนถึงบัดนี้ก็ยังพยายามที่จะปัด***ให้พ้นตัว ไม่ยอมคิดเลยว่าไอ้สองเดือนที่มัวแต่ทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง งี่เง่าปัญญาอ่อนนั้นควรจะเอาเวลามาทุ่มให้กับปัญหาเรื่องน้ำจะดีกว่า

ทุกวันนี้หาแพะกันเต็มที่ และดูเหมือนจะพยายามพุ่งใส่ผู้ว่ากทม. เป็นพิเศษ ดูได้จากการที่สุดารัตน์โผล่ออกมาแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเสนอหน้าออกมาซักนิด

#16 ThaILandLover

ThaILandLover

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 235 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 13:42

เสื้อแดงใช้ข้อมูลเดียวกันนี้แล้วช่วยกันป่าวประกาศว่าเป็นความผิดอภิสิทธิ์ที่ไม่ยอมปล่อยน้ำ เขาบอกกันว่าพอยิ่งลักษณ์เข้ามาก็ปล่อยน้ำเยอะทันที

ปริมาณการปล่อยน้ำออกที่บอกว่าทันทีนั้น ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับช่วงที่ปล่อยเต็มที่ตอนต้นเดือนตุลาเมื่อทุกอย่างเข้าสู่ขั้นวิกฤติ

จนถึงบัดนี้ก็ยังพยายามที่จะปัด***ให้พ้นตัว ไม่ยอมคิดเลยว่าไอ้สองเดือนที่มัวแต่ทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง งี่เง่าปัญญาอ่อนนั้นควรจะเอาเวลามาทุ่มให้กับปัญหาเรื่องน้ำจะดีกว่า

ทุกวันนี้หาแพะกันเต็มที่ และดูเหมือนจะพยายามพุ่งใส่ผู้ว่ากทม. เป็นพิเศษ ดูได้จากการที่สุดารัตน์โผล่ออกมาแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเสนอหน้าออกมาซักนิด


ผมถึงเรียกให้ไอ้คนที่เห่าแบบนี้ในห้อง Shout เข้ามาแย้งกันในกระทู้นี้ไงครับ เพราะตัวเลข กับ วัน เดือน ปี มันบ่งบอกอยู่ว่า น้ำมาตอนไหน กักเก็บจนเต็มตอนไหน ปล่อยออกตอนไหน
มันชัดเจนครับ อยู่ที่ว่าจะกล้าเข้ามาหรือเปล่า

#17 อานุง อัน รามา

อานุง อัน รามา

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 777 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 13:49

ทำไมวันที่ประมาณ 1ตค ในกราฟ ต้องปล่อยน้ำออกมาทีเดียวมากขนาดนั้นอ่ะครับ ให้มันค่อยๆล้นออก spillway ไม่ได้เหรอ จริงๆ เขื่อนมันรับได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
ราชาแห่งไหน ที่มีในนิทาน ที่เด็กเด็กเคยอ่าน อยู่สุขสันต์สวยงามราชาแห่งนี้ ท่านทรงงานและงาน หลายสิบปีพ้นผ่าน ยังทรงสร้างทำเศรษฐกิจพอเพียงhttp://www.sufficiencyeconomy.org/

#18 iba

iba

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 281 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 14:01

แล้ววันไหนไปแจกหม้อ คร้า
เดี๋ยวต้องไปหา กระทู้คุณเด็กดีก่อนว่าครม ประชุมครั้งแรกวันไหน เรื่อง อะไร จะได้ไปทะเลาะกับคนที่บ้านต่อ

#19 อานุง อัน รามา

อานุง อัน รามา

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 777 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 14:14

แล้ววันไหนไปแจกหม้อ คร้า
เดี๋ยวต้องไปหา กระทู้คุณเด็กดีก่อนว่าครม ประชุมครั้งแรกวันไหน เรื่อง อะไร จะได้ไปทะเลาะกับคนที่บ้านต่อ


อย่าทะเลาะกันนะครับ คุยกันดีๆ
ราชาแห่งไหน ที่มีในนิทาน ที่เด็กเด็กเคยอ่าน อยู่สุขสันต์สวยงามราชาแห่งนี้ ท่านทรงงานและงาน หลายสิบปีพ้นผ่าน ยังทรงสร้างทำเศรษฐกิจพอเพียงhttp://www.sufficiencyeconomy.org/

#20 Rino

Rino

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 165 posts

ตอบ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 14:26

ผมว่ารัฐบาลใหนมันก็เหมือนกัน
เพราะอธิบดีกรมชลมันก็คนเดียวกัน
ทั้ง นายอภิสิทธิ์ และ นายกยิ่งลักษณ์

รอยต่อรัฐบาลก็รักษาการคนเดียวกัน
แล้วจะไม่รู้ได้ไงว่า น้ำเยอะ

เขื่อนภูมิพลและ เขื่อนสิริกิต

กรมชลสั่ง -> การไฟฟ้าฝ่ายผลิดปล่อย

2 หน่วยนี้ ต้องโดนสอบอย่างแรกเมื่อสถาณะการบรรเทาลง


แล้วลองชมข่าวนี้ดูครับ

Posted Image


และกลับไปดู

http://forum.seritha...php?f=2&t=44147

หรือไม่ก็หาใน google ประมาณว่า "' ทักษิณ สั่งเพื่อไทย ห้ามแตะประตูน้ำบรรหาร กั้น สุพรรณบุรีรอดน้ำท่วม หวั่นกระทบรัฐบาล "



และข่าวลือ เก่าที่ว่า
" ถ้าระบายน้ำลงท่าจีนผ่านสุพรรณแล้วอยุธยาและนครสวรรค์ก็จะไม่สาหัส แต่ที่พวกเขาไม่ทำเพราะมีที่นาของทักษิณและนายยอัล ฟา แยต บิดา
นายโด ดี้ อัลฟาแยต เข้ามาซื้อเมื่อหลายปีก่อนและปลูกข้าวหอมมะลิ "


ไม่ได้อยากจับนู้นจับนี้ มาโยง แต่รวมๆแล้วก็อดคิดไม่ได้

ถึงที่นาจะน้อย ถ้าคนคิดว่า เอาเงินมาซื้อเลยก็ได้ ก็อาจจะใช่ งั้นต้องแสดงว่า เขาต้องมีธุรกิจอะไร ที่ทำให้ สุพรรณอีกหรือไม่?
ถึงไม่อยากให้น้ำท่วมลงไป สมมุติเอาแบบง่ายๆ ที่นา 1 ไร่ อาจจะได้ ประมาณ 800-1000 กิโล
ข้ามหอมชั้นดี ตอนนี้ขายนอกประมาณ 1100 usd ไร่นึงประมาณ 33000 บาท 1000 ไร่ 33,000,000 10000ไร่ 330,000,000
แล้วถ้าขายในอังกฤษ หละ เงินปอนประมาณ 45 บาทต่อ 1 ปอน แล้วข้าวหอมในอังกฤษ จะขายโลเท่าไร ?

ผมก็ทิ้งความสงสัยไว้ว่า ถ้ามีปลูกข้าวของนาย อัลฟาแยต จริง
มันต้องกี่ไร่ถึงคุ้ม หรือ อาจจะมีธุรกิจอื่นด้วยจริงๆ
ถ้าคิดแบบแพงๆเลยนะ ขายในอังกฤษ แบบยังไม่รวมภาษี
เงินปอน 10000 ไร่ก็ 450,000,000
มันคุ้มกับประเทศเป็นแบบนี้จริงๆรึ

หรือว่า เขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ?

#21 korkang

korkang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,879 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 09:47

กระทู้ดีๆอัพไว้หน่อย :)

#22 usa

usa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,669 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 10:13

แล้ววันไหนไปแจกหม้อ คร้า
เดี๋ยวต้องไปหา กระทู้คุณเด็กดีก่อนว่าครม ประชุมครั้งแรกวันไหน เรื่อง อะไร จะได้ไปทะเลาะกับคนที่บ้านต่อ


ที่บ้านก็ขาดแคลนหม้อ ก็อยากได้หม้อจากนางยกเหมือนกัน :rolleyes:

#23 blanksak

blanksak

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 101 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 10:30

ขอแปะแชร์หน่อยนะครับ ของโต้แย้งของอีกฝ่าย ผมว่าจะพิมพ์โต้แย้งไปแต่ก็ไม่ค่อยได้เก็บลิงค์ข่าวเก่าๆไว้ สมาชิกท่านใดมีข้อมูลโต้แย้งช่วยโพสกันหน่อยนะครับ

[Myth Buster] ซีรีย์ตบเกรียนข้อมูลเท็จ ตอนที่ 1: เกริ่นนำ และทักษิณปลูกข้าวที่สุพรรณ



โดย Faris PHar Yothasamuth เมื่อ 20 ตุลาคม 2011 เวลา 1:27 น.





“กินวิตามินซีกับกุ้งแล้วจะตาย”




นี่เป็นข้อความที่ถูกส่งผ่านกันทางฟอร์เวิร์ดเมล์จนโด่งดังในโลกไซเบอร์อยู่ช่วงหนึ่ง ฟอร์เวิร์ดเมล์พวกนี้มักจะบรรจุเรื่องราวลวงโลกที่ถูกกุถูกจับแพะชนแกะขึ้นมาอย่างน่าตลก แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่หลงเชื่อเมล์ลวงโลก และส่งต่อจนความเท็จแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง จนในที่สุดความรับรู้ของคนเล่นเน็ตจะรู้กันกลายๆว่า ฟอร์เวิร์ดเมล์=เชื่อถือไม่ได้




มาปัจจุบันนี้เฟสบุ๊คเข้ามาแทนที่อีเมล์ได้อย่างเกือบเบ็ดเสร็จ ทำให้เมล์ลวงโลกเหล่านั้นดูจะมีให้เห็นน้อยลงไปด้วย เพราะจุดหมายหลักของพวกสร้างเมล์โกหกก็คือต้องการ “ตก” เมล์เอาไปขาย ยิ่งส่งกันเยอะก็ยิ่งเป็นเหยื่อมากขึ้น อย่างไรก็ตามแม้แต่ในเฟสบุ๊คเองก็ไม่อาจพ้นวังวนของความเท็จไปได้ เพราะเฟสบุ๊คเองก็มีระบบ “แชร์” ที่ไมต่างอะไรกับการฟอร์เวิร์ดของอีเมล์ ถ้าข้อมูลเท็จถูกนำเสนอขึ้นที่หนึ่ง เครือข่ายของคนก็จะกระจายความเท็จนั้นต่อกันเป็นทอดๆผ่านการแชร์นั่นเอง (ถึงตรงนี้อยากให้อ่านบทความอีกอันของผมที่พูดถึงเรื่องนี้ไว้แล้ว ดูhttp://www.facebook....150399816187090 )




รูปแบบการสร้างเรื่องสร้างข้อมูลเท็จที่พบเห็นมากที่สุดในเฟสบุ๊คก็คือ ข้อมูลเท็จเพื่อการโจมตีทางการเมือง โดยเฉพาะในช่วงมหาอุทกภัยปี 2554 นี้เอง เราจะพบการโจมตีจากฝั่งผู้เกลียดชังรัฐบาล (เพื่อหลีกเลี่ยงคำแสลงอย่างคำว่า “สลิ่ม” จึงขอย่อว่า-ผกร.) มากเสียจนถ้าเฟสบุ๊คเป็นเขื่อน การโจมตีก็คงล้นเสียยิ่งกว่าเขื่อนภูมิพลตอนนี้เสียอีก




ข้อที่น่าห่วงก็คือ ถ้าการโจมตีนั้นเป็นการใช้เหตุใช้ผล และตั้งอยู่บนข้อมูลที่เป็นความจริงก็ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือผกร.ส่วนหนึ่งเลือกที่จะ “เต้าข่าว” “กุเรื่อง” “นั่งเทียน” “ป้ายสี” นั่นคือสร้างเรื่องราวที่ไม่เป็นความจริงแล้วก็เอามาพูดราวกับเป็นเรื่องจริงที่ได้เห็นได้ยินมากับหูกับตา พฤติกรรมเหล่านี้เองที่เหมือนกับฟอร์เวิร์ดเมล์ราวกับแกะ ยกตัวอย่างกรณีกินกุ้งกับวิตามินซีเนี่ย มันมาจากไหนกัน ยกเมฆขึ้นทั้งเพ ไม่ต่างอะไรจากโพสต์โจมตีในเฟสบุ๊คตอนนี้เลย




และไอ้โพสต์เหล่านี้แหละที่เห็นบ่อยมากๆ เดี๋ยวๆก็แชร์กันมาอีกแล้ว คำว่าวิจารณญาณเก็บเข้าลิ้นชักไปก่อนได้เลย ผกร.ขอแจมด่ารัฐบาลนังปูก่อน เฮ้อ เหนื่อยใจกันมั้ยครับ ผมก็เหนื่อยกับความเท็จที่ท่วมท้นโลกออนไลน์อยู่เหมือนกัน เลยขอนำเอาเรื่องลวงโลกเหล่านี้มา “ตบเกรียน” กันเน้นๆ ด้วยกับข้อมูลที่เป็นจริงกันดีกว่าครับ




ผมจะยกข้อความที่มาจากโพสต์ลวงโลกมา แล้วโต้แย้งเป็นช่วงๆ โดยข้อความที่ยกมาจะขีดเส้นใต้ ส่วนข้อความของผมเองจะเป็นตัวอักษรธรรมดาครับ




ลวงโลกที่ ๑ น้ำไม่ท่วมสุพรรณ เพราะทักษิณไปปลูกข้าวไว้


http://www.facebook....2&type=1&ref=nf


Posted Image




สอบมาเรียบร้อยแล้วครับ สุพรรณไม่ใช่ที่บรรหารครับ แต่เป็นที่ทักษิณกับนายอัล ฟา แยต บิดานายโด ดี้ อัลฟาแยต เข้ามาซื้อเมื่อหลายปีก่อนและปลูกข้าวหอมมะลิ. ถ้าปล่อยท่วม ข้าวที่กะว่าจะมีขายคนเดียว นั้นจะจมหมด




อันนี้อ่านแล้วขำกลิ้ง คิดได้ยังไงวะ นายอัลฟายิต เศรษฐีชาวอียิปต์ผู้ร่ำรวยติดอันดับโลก อดีตเจ้าของห้างแฮร์รอด (ดูประวัติได้ที่ http://en.wikipedia....ohamed_Al-Fayed ) นึกสนุกอยากจะทำนาขึ้นมาว่ะ สงสัยธุรกิจโรงแรมและศูนย์การค้าที่ทำอยู่มันจะหวาดเสียวสนุกสนานไม่พอ เลยอยากจะมาทำนา ที่เสี่ยงกับทั้งฝนแล้ง น้ำท่วม โรคระบาด แมลงศัตรูพืช ฯลฯ ฮ่าๆๆๆ คิดได้ยังง้ายยยย สงสัยจะอยากมาจำนำข้าวตันละ 15000 แหงๆ ต้องทำให้ได้กี่ตันกี่ไร่ล่ะถึงจะคุ้ม




เถียงมาได้ว่าไม่ใช่นะครับ ทีวีทุกช่อง สรยุทธ ก็ไม่กล้าไปทำข่าวสุพรรณ นายจอม เพชรประดับ ก็ไม่กล้าพูด ข่าวทุกช่อง ไม่มีใครกล้าแสดงความจริงต่อประชาชน ถ้าระบายน้ำผ่านสุพรรณลงท่าจีน ออกอ่าวไทยอีกสาย. จะท่วมไม่นาน แค่น้ำผ่านไม่กี่วัน ส่งต่อไปมากๆครับ อยุธยา นครสวรรค์ก็จะไม่สาหัส เพราะกลัวข้าวที่ทักษิณกับนายทุนต่างชาติที่ปลูกไว้ใน จ.สุพรรณบุรี เสียหาย นั่นเอง เอวัง




กูก็เถียงอยู่นี่ไง เหอๆ จะบอกว่าสรยุทธกลัวทักษิณรึไง ปัญญาอ่อนรึเปล่า สื่อเนี่ยแหละตัวอยากได้ข่าวพรรค์นี้เลย ถ้ามีอย่างที่ว่าจริงโดนคุ้ยแหลกเละไปแล้ว แล้วไอ้ที่พูดมาทั้งหมดนี่ก็ไร้หลักฐานโดยสิ้นเชิง ถ้าทักษิณมาซื้อที่นามาซื้อในชื่อใคร ทำไมความเคลื่อนไหวด้านที่ดินขนาดใหญ่จะไม่มีใครรู้ ผกร.นักปั้นน้ำคนนี้ได้ข้อมูลมาจากไหน ผมลองไปค้นข้อมูลจากทั้งเว็บไทยและเว็บนอกก็ไม่เห็นมีอะไรที่พูดถึงกรณีนายอัลฟายิตจะมาทำนาในไทยเลย แหม อัลฟายิตเค้าก็คนดังคนนึง พวกสื่อนอกยังไม่รู้ แต่ผกร.ผู้เก่งฉกาจของเรารู้อยู่คนเดียวว่ะ เอ้า ชาบูๆๆ






เห็นหรือยังว่านายใหญ่ห่วงไไร่รากหญ้าแพรกแดงหรือห่วงผลประโยชน์ตัวเอง!!!! เอ้า ดื่มๆให้กับความโง่ของพวกควายแดงทั้งหลายที่มันรับแทนตระกูลอับปรีย์เราเต็มๆ!!!!!




เห็นหรือยังว่าข้อมูลโกหกพกลมของพวกผกร.จอมยกเมฆมันมั่วนิ่มและปัญญาอ่อนแค่ไหน ใครที่เชื่ออะไรแบบนี้ก็ลองพิจารณากันดูครับ






ลวงโลกที่ ๒ นายกปูกับเรือดันน้ำ


http://www.facebook....2&type=1&ref=nf




Posted Image




สร้างภาพ ว่า..ทำงาน


เสียงลือ เสียงเล่าข้ามจาก เมืองไทยไป นิวซีแลนด์ ได้ความว่า..


เจ้ากรมอุทกศาสตร์...กองทัพเรือ..ถูกสัมภาษโดยช่อง 5 นายก เขาเห็น ท่านตอบปัญหาดีมาก...(ก็คนเขาทำงาน กว่าจะได้ข้อมูลต้องลงเรือไปวันระดับน้ำ ในแม่น้ำในเขื่อน ทุกที่)




แค่นี้ก็โชว์ควายแล้ว กรมอุทกศาสตร์เค้ามีหน้าที่อะไรลองเข้าไปอ่านดู http://www.navy.mi.th


เกี่ยวอะไรกับน้ำในเขื่อนไหม แหมเขียนยังกะไปอยู่ในเหตุการณ์ แต่ข้อมูลง่ายๆ ก็มั่วแล้ว เฮ้อ ผกร.นี่น้า




หล่อน ก็เรียกเข้าไปพบ แล้วบอกให้รัฐบาลเป็นคนปล่อย ขบวนเรือดันน้ำ โดยเกณฑ์เรือจากกรมเจ้าท่าอะไรมาอีกเยอะแยะ จนดู วุ่นวาย หล่อนจะลงปล่อยเรือ 7 โมงเช้าเพื่อให้คนเข้าใจว่ารัฐบาลเก่ง เจ้ากรมก็บอกว่า ตอนเช้าน้ำกำลังขึ้นจะผันไปใหน จะผันไปให้ท่วมอีกเหรอ....ถ้าจะผัน จะดันน้ำเขาก็ผันตอนน้ำลงเต็มที่คือ 10 โมง...นังปูกระโดดลงเรือปั๊บถามหานักข่าว...นักข่าวอยุ่ใหน ... ถ่ายรูป วนเรือ 2 รอบ หล่อนก็กลับ...ไอ้ปลอดก็แจกเงินเรือพวกเสื้อแดง..แล้วก็กลับกัน...ความจริงการดันน้ำเขาทำมาตั้งนานแล้ว...โครงการพระราชดำริของในหลวงท่าน...ทำให้สอดคล้องกับน้ำในเขื่อน...




ความจริงไอ้โพสต์ลวงโลกนี้เป็นอันที่ผมอ่านแล้วค่อนข้างหนักใจนะ ไม่ใช่หนักใจเพราะว่ามีข้อมูลที่โต้แย้งยาก แต่หนักใจเพราะ...อ่านไม่รู้เรื่อง เขียนอะไรของมันวะ ไม่เป็นเรื่องเป็นราว ภาษายังกับเด็กมัธยมต้น ผกร.นักแชร์ทั้งหลายถ้ามีสติซักหน่อยเห็นภาษาแบบนี้ก็น่าจะฉุกคิดได้แล้วนะ ว่าสิ่งที่จะได้อ่านมันน่าเชื่อถือจริงหรือ? เฮ้อ กลุ้มใจ เอาละขอโต้ทีละประเด็นดีกว่า


๑.ผันไปให้ท่วมคืออะไรวะ เค้าดันน้ำลงทะเล แล้วที่บอกว่า “ผันไปให้ท่วมอีกเหรอ” เนี่ยมันคืออะไร กูงง


๒.ในประกาศของกรมอุทกศาสตร์ http://www.navy.mi.th/hydro/intro.pdf


ระบุว่าการใช้เรือดันน้ำสามารถทำได้ตลอดเวลา เพราะในช่วงเวลานั้นน้ำจะไหลลงทะเลตลอดเวลา อืม แล้วไอ้น้ำขึ้น 7 โมง น้ำลง 10 โมงที่ว่าในโพสต์นี้คืออะไร? จับแพะชนแกะอีกแล้วนั่นเอง


๓.ดันน้ำเค้าดันออกทะเล ไม่ได้เกี่ยวกับน้ำในเขื่อนเล้ย เค้าดันน้ำกันที่ปากแม่น้ำ แต่เขื่อนอยู่ตาก อยู่อุตรดิตถ์โน่น เกี่ยวอะไรก๊านนน กลุ้มใจกะสติปัญญาของผกร.นักเต้าข่าวพวกนี้จริงๆ




อีกเรื่อง...การปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพล...ในหลวงท่านรับสั่งให้ปล่อยน้ำตั้งแต่ปลายเดือนสิงหา...ท่านตรัสว่าปริมาณน้ำฝนเยอะ...ให้ทะยอยปล่อยลงมาวันละเล็กละน้อย....ปลอดประสพกร่างใส่...ไม่ต้องไปฟังในหลวงให้ฟังเขาไม่ปล่อย ฝนตกมากก็ไม่ปล่อย...ผอ.เขื่อนบอกว่าไม่ไหวแล้วนะต้องปล่อย..แค่นั้นแหละไอ้ปลอดก็สั่งปล่อย....มาปะทะกับนครสวรรค์...ประเทศไทยก็เป็นอย่างที่เห็น


สอดคล้องกับ ดร.สมิทธ ที่บอกว่า น้ำท่วมคราวนี้ ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ แต่เป็นเพราะรัฐบาลบริหารและจัดการน้ำ ไม่เป็น




เรื่องการปล่อยน้ำห่าเหวอะไรนี่รอชมใน Myth Buster ตอนที่ 2 ครับ ไม่นานเกินรอ




เอ๊า.เชิญ แชร์ เชิญ เม้นท์ ต่อๆไป ให้พวกเสื้อแดงที่จมน้ำได้รู้ด้วยจ้า




เอ้า เชิญแชร์ ให้พวกเสื้อเหลืองเสื้อหลากสี และพวกผกร.นักแชร์ที่จมอยู่กับความเท็จได้รู้ด้วยจ้า อิอิ







[Myth Buster] ซีรีย์ตบเกรียนข้อมูลเท็จ ตอนที่ 2: น้ำท่วมใหญ่เพราะปลอดประสพกั๊กน้ำ และรัฐบาลห่วย?


โดย Faris PHar Yothasamuth เมื่อ 20 ตุลาคม 2011 เวลา 22:44 น.





ถือเป็นตอนที่ ๒ ของซีรีย์นะครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนแรกซึ่งมีเกริ่นนำด้วยแนะนำไปอ่านก่อนนะจ๊ะ ที่http://www.facebook....150410818297090 จะได้เข้าใจพื้นฐานบางส่วนก่อน ส่วนตอนนี้ก็จะเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้วนะ เชิญติดตามได้ครับ




(ในการเขียนครั้งนี้ผมจะยกโพสต์ลวงโลกมาแย้ง โดยใช้ตัวอักษรขีดเส้นใต้เหมือนเดิมนะครับ และจะใช้คำย่อ “ผกร.-ผู้เกลียดชังรัฐบาล” เหมือนเดิมครับ ^ ^)




ลวงโลกที่ ๓ น้ำท่วมเพราะปลอดประสพไม่ยอมให้เขื่อนระบายน้ำ


http://www.facebook....9&type=1&ref=nf




ใครมีข้อมูล หรือหลักฐานเก่าๆช่วยๆนำมาเสนอกันนะครับ


อันนี้ได้จาก Forward Mail ครับ...




ฮ่าๆๆ เริ่มมาก็จบข่าวเลย เอามาจากฟอร์เวิร์ดเมล์นั่นเอง แชร์เสร็จแล้วก็อย่าลืมแดกวิตามินซีกับกุ้งแล้วไปตายซะด้วยนะ...XD




.....รู้มั้ยว่าทำไมน้ำถึงท่วมเป็นวงกว้างขนาดนี้....... สาเหตู.....การจัดการบริหารน้ำผิดพลาด


ใครผิดพลาด.....นายปลอดประสพภัย ทำไมถึงเป็นนายคนนี้ เพราะตอนน้ำท่วมช่วงแรกๆ


นายคนนี้เป็นคนสั่งให้เขื่อน ทุกเขื่อนกักน้ำให้ไว้ให้มากที่สุด แทนที่จะปล่อยให้ระบายน้ำออกจาก


เขื่อนตามหลักการที่เคยทำมา เพื่อที่จะทำให้ระดับน้ำที่ท่วมในช่วงนั้นลดลง ...........


โดยไม่สนใจคำคัดค้านจาก ผอ.เขื่อนต่างๆ โดยเฉพาะเขื่อภูมิพล ที่พยายามโต้ เถี่ยงคัดค้านมาโดย


ตลอด จนนายคนนี้ไม่สามารถโต้เถี่ยงจึงกล่าวออกมาว่า


นี่คือคำสั่ง ผมสั่ง...คุณต้องทำ


แล้วเป็นไง....น้ำเหนือที่ยังไม่หมดช่วงมรสุมตะวันออกลงมาที่เขื่อนต่างๆเป็น จำนวนมาก


จะค่อยๆระบายก็ไม่ได้ ต้องกัก...นี่เป็นคำสั่ง จนส่งผลดังปัจุบันที่ เป็นอยู่.....


แล้วเราจะประนามใคร......... ช่วยกระจายเรื่องหน่อยเถอะครับ ชาวไทยจะได้ตาสว่าง




โต้แย้งที่เรื่องง่ายๆ ก่อนเลยครับ เขื่อนภูมิพลมีการบริหารจัดการร่วมกันระหว่าง 2 องค์กร คือกรมชลประทานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตครับ และคนควบคุมการปล่อยน้ำจากเขื่อนคือกรรมการชุดที่มีอธิบดีกรมชลประทานเป็นประธานโดยตำแหน่งครับ สรุปความได้ว่า เขื่อนจะปล่อยน้ำมั้ยคนเคาะเรื่องคือกรมชลครับ (กฟผ.จะดูแลเฉพาะปริมาณน้ำที่จะปล่อยเพื่อปั่นไฟฟ้า) อืม แล้วกรมชลอยู่ในสังกัดกระทรวงอะไรเอ่ย อ๋อ กระทรวงเกษตรฯครับ เอ๊ะ แล้วปลอดประสพนี่มันเป็นรมต.กระทรวงอะไรวะ... อ้าว ชิบหาย เป็นรมต.กระทรวงวิทย์ว่ะ แล้วที่บอกว่า “ผมสั่ง... คุณต้องทำ” นี่เฮียปลอดแกเอาอำนาจอะไรไปสั่งอ่ะ อันนี้ผม Bust ง่ายๆเลยนะ ว่าผกร.ที่กุเรื่องนี้ขึ้นมา ***ไม่รู้จักรมต.กระทรวงเกษตรหรอก แต่เห็นปลอดประสพเด่นช่วงนี้ก็เลยเอาปลอดเนี่ยแหละเป็นแพะ โถ่ สติปัญญาตื้นสิ้นดี




การที่น้ำท่วมจะประณามใครผมตอบไม่ได้ แต่การที่ความเท็จท่วมโลกออนไลน์ตอนนี้ต้องประณามผกร.จอมเต้าข่าวกระเด้าลมทั้งหลายเนี่ยแหละ




ลวงโลกที่ ๔ น้ำท่วมใหญ่เพราะรัฐบาลนังปูโง่ ห่วยแตก บริหารไม่เป็น


(ลิงก์ที่มาอันเดียวกับข้างบนครับ)




น้ำท่วมครั้งนี้ เกิดจากความผิดพลาดการบริหารน้ำทั้งหมด คนที่ต้องรับผิดชอบ ปู ปลอดประศพ


เตี้ยสุพรรณ รมต.เกษตร กรมชล! ฯ ความจริงที่ควรรู้




๑.ปริมาณน้ำไม่ได้มากกว่าปี ๔๙ และ ๓๘


๒. เพียงแต่น้ำมาเร็วกว่าปกติประมาณ ๔๕ วัน


๓. ทำให้มีการกักน้ำไว้ไม่ให้ไปท่วมนาที่ยังเก็บเกี่ยวไม่เสร็จ




เรื่องปริมาณน้ำนี่เป็นจุดสำคัญ ถ้าคุณหาข้อมูลสักหน่อยหรือเปิดหูเปิดตาสักหน่อยจะทราบว่าปีนี้ปริมาณน้ำฝนมากกว่าทุกๆปี แต่ผกร.จอมยกเมฆทั้งหลายเค้าไม่สนใจหรอก กูมั่วไปเรื่อยแหละ เลยต้องยกข้อมูลดิบมาแชร์กัน ข้างล่างนี่คือกราฟปริมาณน้ำฝนเปรียบเทียบปีที่เกิดอุทกภัยครั้งสำคัญคือปีนี้ ปี๔๙ และปี๓๘


(ข้อมูลจากhttp://www.tmd.go.th...ศฤดูฝน 2554.pdf)


Posted Image




เห็นกราฟแล้วขออนุญาตอุทานนะครับว่า “น้ำน้อยบ้าน***สิครับ” จากกราฟจะเห็นว่าปีนี้น้ำฝนมีปริมาณสูงมาก จะเห็นได้ว่าในเดือนมี.ค.และเม.ย. ฝนในภาคกลางสูงทำลายสถิติทุกปีไม่ว่าปี ๓๘ หรือ ๔๙ ยังงี้ฝนไม่ได้เร็วแค่ ๔๕ วันอย่างที่ผกร.จอมมั่วบอกแล้วล่ะครับ แต่มาก่อนสามสี่เดือนเลย และในเดือนหลังๆ แม้ว่าฝนจะไม่ได้ทำสถิติสูงสุดกว่าในอดีตทุกเดือน แต่ก็ถือว่ามีปริมาณฝนที่มากทั้งในภาคกลางและภาคเหนือ (โดยเฉพาะในภาคเหนือในสังเกตตรงนี้ให้ดีๆ เพราะปริมาณฝนในกราฟแท่งม่วงที่สูงโด่งในเดือน พ.ค.-ก.ค. นี้แหละที่จะมีผลกับปริมาณน้ำในเขื่อนที่จะกล่าวถึงต่อไป) นี่ยังไม่ได้นับเดือนกันยายนนะที่มีพายุไห่ถางและเนสาดเข้าป้วนเ***ยนแถวๆภูมิภาคนี้นะครับ แต่ข้อมูลเท่านี้ก็น่าจะเป็นการเอาส้นเท้าถีบยอดอก ผกร.จอมโกหกได้แล้วล่ะ ที่ว่าน้ำน้อยนั้น “น้อยที่บ้านพ่อคุณหรือ?”




๔. บรรหารไม่ยอมให้ผันน้ำไปท่าจีนตั้งแต่แรก ทำให้เกิดการแตก ของบาง โฉมศรี


ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติหนัก


๕. อ้ายเหลี่ยมรู้ดีดังนั้นตอนที่อ้ายพายัพ มันออกมาโวย อ้ายเตี้ยสุพัน มันจึงรีบออกมาห้ามเพราะ


ม่ายงั้น จะความแตก เพราะงานนี้ชิหายเกินกว่าจะคาดคิด




อ่านตรงนี้แล้วอยากบอกกับผกร.จอมโมเมว่า ประตูบางโฉมศรีเค้ากั้นเจ้าพระยาจ้ะ ไม่ได้เกี่ยวกับท่าจีนเลยมึง ข้อมูลง่ายๆ ถ้าไม่มั่วมากนักคนเค้าก็อาจจะจับโกหกคุณได้ยากขึ้นก็นะ ฮ่าๆ ส่วนเรื่องบรรหารผมหาข้อมูลปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีนไม่ได้ แต่เราก็ทราบกันดีว่าสุพรรณเองก็ท่วมไม่ใช่ไม่ท่วม




๖. อ้ายปลอดประศพสั่งไม่ปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพล ตั้งแต่แรกเพราะต้องการให้ ตอนล่าง


เก็บเกี่ยวเสร็จ พอน้ำเหนือมามาก จนท่วมตัวเมืองเชียงใหม่จึงต้องปล่อย น้ำลงเขื่อนจนน้ำในเขื่อน


เกิดวิกฤติ ต้องปล่อยน้ำจำนวนมาก ติดต่อกัน


๗. หลายพื้นที่มีการกักกันน้ำ โดยเน้นไม่ให้พื้นที่ฐานเสียง ที่ยังเก็บเกี่ยวไม่เสร็จถูกน้ำท่วม


ยิ่งเป็นการซ้ำเติม ให้น้ำมีมวลมากก้อนใหญ่และรุนแรง หลายพื้นที่ไม่เคยท่วมหรือท่วมหนัก


จึงโดนกันทั่ว




ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญที่สลิ่..เอ้ย ผกร.ทั้งหลายเอามาโจมตี ว่ารัฐบาลบริหารน้ำผิดพลาด บลาๆๆๆๆๆ แต่เป็นการด่าโดยไม่ได้ไปเปิดดูข้อมูลเล้ย ว่าความเป็นจริงคืออะไร เอาล่ะเรามาดูปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลกันดีกว่า


Posted Image




จากกราฟเราจะเห็นได้ว่าเส้นสีแดงเริ่มทำมุมชันขึ้นประมาณเดือนพ.ค. เรื่อยยาวไปจนถึงปัจจุบันที่ระดับสูงสุดแล้ว ถ้าเห็นแบบนี้มองอย่างเป็นกลางคุณจะบอกว่า “ไอ้ปลอดมันกั๊กน้ำ” มั้ย ในเมื่อปริมาณเก็บกักนั้นเพิ่มขึ้นอย่างเป็นแนวโน้มมาตั้งแต่ช่วงเข้าหน้าฝน และอย่าให้ผมต้องพูดเลยว่าช่วงนั้นใครเป็นรัฐบาล-แต่เอาเถอะเพื่อความปรองดองเราจะไม่โทษกัน




ทีนี้เรามาดูที่เขื่อนสิริกิตกันบ้างเพือความชัดเจน


Posted Image






สาธุชนที่รัก ท่านเห็นการกระชากตัวตั้งชันของกราฟในช่วงเดือนมิ.ย.ไหมครับ อุ๊ย เดือนมิ.ย.นังปูกับไอ้ปลอดได้เป็นรัฐบาลรึยังน้า......แล้วตอนนั้นใครเป็นรัฐบาลน้า....... เห็นเท่านี้ก็พอจะแจก_วยให้กับผกร.ทั้งหลายแหล่ที่ด่าตามน้ำไม่ดูข้อมูลได้แล้วล่ะ




อย่างไรก็ดีมันยังมีผกร.บางตัวที่พอจะมีภูมิปัญญาอยู่บ้างได้ทำภาพนี้ขึ้นมาครับ




Posted Image




แหม มีเอากราฟมาประกอบด้วย ดูดีค่อดๆ แต่ขอโทษที อันนี้มันเป็นกราฟสถิติน้ำกักเก็บของเขื่อน ซึ่งน้ำในเขื่อนมีการไหลเข้าและระบายออกตลอดเวลา ผกร.นักจับแพะชนแกะคนนี้เอากราฟมาใช้อย่างผิดๆ ถ้าจะถามเรื่องการปล่อยน้ำจริงๆต้องดูที่กราฟปริมาณน้ำไหลเข้า เทียบกับปริมาณน้ำระบายออกครับ ดังนี้เลย




Posted Image




จะเห็นว่าเมื่อรัฐบาลเพื่อไทยเข้ารับตำแหน่ง (ดูกราฟช่วงปลายก.ค.-ต้นส.ค. ) ไม่ใช่ว่าไม่มีการระบายน้ำเลย แต่มีอยู่บ้าง และที่สำคัญคือมีเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากช่วงก่อนหน้าด้วยซ้ำ ตรงจุดนี้ผมอยากจะชี้ให้เห็นข้อสังเกตข้อนึงครับ ถ้าดูกราฟน้ำไหลเข้าด้านบนนะครับ จะเห็นว่าช่วงพ.ค.-ก.ค. เส้นกราฟจะยกตัวขึ้นเป็นภูเขาย่อมๆ หลายลูก แสดงว่าช่วงนั้นมีน้ำเข้ามากเป็นช่วงๆ สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ว่าช่วงมิ.ย.มีพายุไหหม่าเข้าที่อินโดจีน นั่นทำให้น้ำฝนพุ่งสูงขึ้นมาก แต่ๆๆๆๆๆ แต่เดี๋ยวครับพี่น้อง ช่วงเวลาเดียวกันนี้ในกราฟขวามือ เราจะเห็นว่าปริมาณน้ำระบายออกในเดือนมิ.ย.กลับวิ่งต่ำเตี้ยติดติดเกือบเป็นศูนย์ ทำไมครับ ทำไมๆๆๆ อยากให้ผกร.ผู้ชาญฉลาดทั้งหลายไปถามทั่นมาร์คที่เป็นนายกรักษาการช่วงนั้นทีครับ ทำไมคะพี่มาร์คขา หรือถ้าพี่มาร์คยุ่งอยู่จะไปถามพี่กรณ์ในเฟสของแกดูก็ได้นะ เห็นแกเคยตั้งคำถามหาคนรับผิดชอบอยู่นี่ ทำไม ทำม้ายยยยย




(จริงๆแล้วผมพอจะมีสมมติฐานเกี่ยวกับการระบายน้ำนี้อยู่ครับ แต่จะขอพูดถึงในตอนหน้านะ)




จากข้อมูลน้ำในเขื่อนทั้งหมดนี้และข้อมูลเรื่องฝนบอกอะไรเราครับ ง่ายๆเลย ก็ปีนี้น้ำฝนมามากและมาเร็วกว่าทุกปี ทำให้ศักยภาพการรองรับน้ำทั้งหลายทั้งปวงในประเทศคามยามนี้ ไม่ว่าจะเป็น เขื่อน อ่างเก็บน้ำ แม่น้ำ ลำคลอง หนองบึง ฯลฯ ไม่สามารถที่จะรองรับได้อีกต่อไป จนเกิดเป็นมหาภัยพิบัติอุทกภัยที่เราเห็นๆกันอยู่นี่เองแต่อนิจจา เหล่าปัญญาชนผกร.ทั้งหลายคงกรอกกระสอบทรายเก่ง แต่หาข้อมูลไม่เก่ง และฉุกคิดอะไรไม่ค่อยเก่ง เลยได้แต่ด่าน้ำหูน้ำตาไหล ว่ารัฐบาลอีปูโง่ๆๆๆๆๆ ควายๆๆๆๆๆๆ น้ำท่วมเพราะ*คุณ*งงงงง... อืม จะรับซ่นตรีนซักอันไว้อุดปากมั้ยครับ เดี๋ยวน้ำลายทั่นไหลท่วมบ้านนะครับ




๘.มีการบริหารผิดพลาดที่อยุธยาทำให้ ตัวเมือง เกาะเมือง และนิคมวายวอด ฝีมือหลักของอ้าย


ปลอดประศพ




อันนี้ก็พูดลอยๆ แต่อย่าหวังว่าผกร.ลวงโลกเหล่านี้จะอธิบายอะไรได้อ่ะนะ ข้อมูลทั้งหมดก็บอกอยู่ว่าทำไมน้ำท่วมปีนี้จึงหนัก และอยุธยาเราก็รู้กันว่าเป็นจุดบรรจบของสามแม่น้ำ โทษใครไม่ได้นอกจากโทษธรรมชาติจริงๆ




๙.ใบเสร็จทั้งหมดดูได้จาก ปริมาณน้ำของแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำสายอื่นๆ ที่มีการเก็บข้อมูล


๑๐. ผู้ได้รับความเสียหายควรฟ้องศาลปกครอง เรียกให้รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องรับผิดชอบค่าเสียหาย


เพราะเป็นการปฏิบัติงานผิดพลาดร้ายแรง รวมถึงม.๑๕๗


๑๑.ย้ำอีกครั้งว่าอย่าอ้างภัยธรรมชาติ เป็นฝีมือห่วย๑๐๐%


สรุปต้องลากคอ บรรหาร ธีระ ปู ปลอดประศพ อธิบดีกรมชล มารับโทษ โดยใช้หลักฐานจากข้อมูล


น้ำทั้งหมด ซึงถ้าฟ้องศาลปกครอง ให้ศาลออกหมายเรียก เอกสารพวกนี้มาดูได้ ประเทศชิหาย


ขนาดนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ




อืม ดูใบเสร็จมาแล้วก็สรุปได้ว่า ภัยครั้งนี้เป็นเหตุอันเหนือการจัดการ เพราะคุณไม่สามารถห้ามฝนได้


รัฐบาลอาจจะห่วยจริงในบางเรื่อง ก็ต้องว่ากันไปด้วยข้อมูลและเหตุผล แต่กับอ้ายอีผกร.จอมลวงโลกเหล่านี้นั้น “ตอแหล ๑๐๐%” ครับ ถ้าการตอแหลเป็นอาชญากรรมและเราจับผกร.จอมนั่งเทียนพวกนี้ก็ฟ้องศาลก็คงโดนโทษประหารกันทุกตัวแน่เทียวครับ




ซีรีย์นี้ยังไม่จบนะจ๊ะ จากข้อมูลที่ไปหามาทำให้ผมเห็นอะไรพอสมควร เดี๋ยวตอนหน้าจะมาว่าด้วยเรื่องว่าทำไมน้ำจึงท่วมหนักในปีนี้ และทำไมเขื่อนใหญ่ๆจึงไม่ยอมปล่อยน้ำตั้งแต่แรกๆ รอติดตามได้




ปล.อยากแชร์ก็แชร์ ไม่ต้องขอ รักในหลวงห่วงลูกหลานร่วมกันต้านข้อมูลเท็จนะฮ้าว์ฟฟฟฟฟ




ปล.2 ถ้าผกร.นักแชร์ทั้งหลายอยากเปิดโลก แนะนำให้เข้าไปหาข้อมูลตามเว็บเหล่านี้ครับ


http://www.thaiwater.net


http://www.tmd.go.th


http://www.oae.go.th


http://www.egat.co.th


http://www.navy.mi.th


หรือไม่ก็กูเกิ้ลเอาได้ ก่อนกดปุ่ม "Share" ลองกดปุ่ม “Search” ซะก่อนบ้างนะจ๊ะ



http://www.facebook.com/note.php?note_id=10150410818297090
http://www.facebook....150411910762090




#24 blanksak

blanksak

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 101 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 11:38

ลวงโลกที่ ๑ น้ำไม่ท่วมสุพรรณ เพราะทักษิณไปปลูกข้าวไว้ : อันนี้ขอละไว้ก่อนเพราะยังไม่เชื่อว่าทักกี้ปลูกข้าวไว้

ลวงโลกที่ ๒ นายกปูกับเรือดันน้ำ : อันนี้เราพอเห็นผลลัพท์แล้วว่าเรือดันน้ำยังแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ คิดเปรียบเทียบแบบบ้านๆ
ให้เพื่อนยืนห่างจากคุณ 20 ม. แล้วใช้พัดพัดไปทางคุณ แล้วถามตัวเองว่ารู้สึกถึงกระแสลมที่เพื่อนพัดมาไหม ถึงแม้จะใช้คน 20-100 คนผลก็แทบไม่ต่างจากเดิม

ลวงโลกที่ ๓ น้ำท่วมเพราะปลอดประสพไม่ยอมให้เขื่อนระบายน้ำ : ข่าวนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานใดชี้ว่าปลอดทำจริงๆ

รัฐบาลไม่ได้ประมาณ แก้ไขสถานการณ์ผิดพลาด : แต่ถ้าดูจากกราฟที่เขาแนบมาซึ่งเขาชี้แจงว่าน้ำมันมามากผิดปกติจากทุกปีตั้งแต่ มี.ค. มันก็แย้งในตัวเองอยู่แล้วว่าสภาพการณ์น้ำฝนในปีนี้มันต่างจากปีก่อน รบ.ซึ่งเข้ามาทำงานในเดือน ส.ค. ก็ได้บอกว่าจะจัดการปัญหาน้ำท่วมก่อนอันดับแรก แต่ก็ยังบานปลายมาจนทุกวันนี้ เพราะละเลยมัวแต่เดินเรื่องเด้ง ผบ.ตร. ทัวว์เขมรกราบฮุนเซน เตะบอล นายกบินไปเยี่ยมต่างปท. สส.ออกมาอยากแก้โผทหาร ปัญหาเอาตัวรอดจากนโยบายที่หาเสียง มีมาตรการป้องกันนิคมฯ ที่ไม่ดีพอทำนิคมเสียหายไปหายแห่ง จากการให้ข่าวที่ผิดพลาดหลายครั้ง ประชาชน อาสาสมัคร ทหาร มีกระบวนการคิดทักษะการป้องกันน้ำท่วมเบื้องต้นได้ดีกว่าออกมาช่วยกันให้ข้อมูลที่ใช้ประโยชน์เฉพาะหน้าได้ กีดกันไม่รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เพราะตำหนิรัฐบาลมาตรการของ รบ. หลายที่อย่างไม่เป็นผล ไม่ว่าจะทำคันกั้นนิคมฯ เรือดันน้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยา 1,100 ลำช่วยผันน้ำ 30% ผลิตน้ำประปาสู้น้ำท่วม ลดน้ำ 10% มท.2 ไร้ความเข้าใจปัญหาไปโชว์โง่จวก อธ.กรมชลฯ ทำแผไม้ไผ่ ปล่อยให้มี สส.นำคนไปพังผนังกั้นน้ำ..... (เหมือนจะมีอีกแต่ยังนึกไม่ออก)


#25 เพื่อนร่วมชาติ

เพื่อนร่วมชาติ

    พรานล่าปูไปรยา

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,788 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 12:02

ใครว่างฝากไปแปะไอ้เพจอวดฉลาดนั่นทีครับ

ปูลวงโลก 1: จะให้ปลูกหญ้าแพกชะลอน้ำ
ความจริง: ช่วยชะลอน้ำและยึดหน้าหน้าดินคือหญ้าแฝก ไม่ใช่หญ้าแพรก

ปูลวงโลก 2: ยืนชี้นิ้วเหมือนเป็นผู้บัญชาการปล่อยเรือดันน้ำที่นนทบุรี บอกช่วยระบายน้ำ
ความจริง: เรือดันน้ำที่ได้ผล เขาต้องทำในลำน้ำแคบ หรือปากแม่น้ำ ไม่ใช่ไปสร้างภาพที่ช่วงกลางแม่น้ำ

ปูลวงโลก 3: นวนครแตกเพราะน้ำทะเลหนุน
ความจริง: น้ำเหนือโว้ย

ปลอดลวงโลก: เสาร์ที่ 8 ตุลาบอก ไม่เห็นด้วยที่จะอพยพคนที่อยุธยา ดูมากับตาแล้ว ไม่รุนแรงขนาดนั้น
ความจริง: อาทิตย์ที่ 9 ตุลา ปลอดบอกเอง ""มีการประเมินสถานการณ์น้ำหลากผิดพลาด แต่หลังจากนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือ การสั่งอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย"

วิมลวงโลก: พายุบันยันจะคล้ายนาร์กิส พัดผ่านจากตะวันตกเฉียงใต้ จังหวัดภาคตะวันตกจะได้รับผลกระทบ
ความจริง: บันยันมาจากทางฟิลิปปินส์โว้ย พัดมาจากตะวันออก ถ้าเข้าไทยต้องเตือนอีสาน ไม่ใช่ภาคตะวันตก

ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง


#26 ID007

ID007

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,055 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 12:33

ใช้ พรบ สาธารณภัย ม 31 เพื่อยึดอำนาจการตัดสินใจผู้ว่า หลังจากเห็นแนวป้องกันน้ำกทม ยันน้ำได้ในระดับหนึ่ง
แต่มีปัญหาจากจุดเชื่อมต่อที่รัฐบาลดูแล
นางอิจฉา กลัวโดนแย่งซีนถ้ากทม น้ำไม่ท่วม กรุเจ๊งแน่ หลักฐานความอ่อนด้อย จะปรากฎชัด
อย่ากระนั้นเลย จัดการให้น้ำท่วมกรุงเทพ ดีกว่า ด้วยนโยบายสวยหรูให้น้ำผ่่านกรุงเทพ

หลอกควายได้ แต่ไม่ใช่คนกรุง

ถ้าคนกรุงเทพมีคันกั้นน้ำสามารถป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมเข้ามาได้ ทำไมต้องให้น้ำผ่านกรุเงทพ ด้วย ไอ้พวกเฮงซวยมาตอบหน่อย

หรือหนึ่งเพราะคนกรุงเทพเลือกประชาธิปัตย์กันเยอะ ถ้าคราวนี้น้ำไม่ท่วมเพราะฝีมือกทม ที่ดูแล นางคุณนายกระแดะนักวิ่่ราวผลงาน มันคงสมัครผู้ว่ากทม ตกกระป๋อง
สอง ซื้อใจควายแดง รอบนอกกรุงเทพ เห็นมั๊ย รัฐบาลเพื่อควาย ไม่ยอมป้องกันกทม โดยการกั้นน้ำเข้ากทม แล้วทำให้ควายต้องอยู่ในน้ำท่วมสูง
ถ้าน้ำท่วมเหมือนกัน ควายจะชื่นชม ควายจะเห็นว่าเท่าเทียม ควายจะไม่รู้ว่า ฝูงหัวหน้าควายทำงานไม่เป็น

#27 Superb_Mob

Superb_Mob

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,205 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 14:45

อิงตามข้อมูลน้ำในเขื่อนภูมิพลนั้น เป็นแค่มวลน้ำจำนวนหนึ่งเท่านั้น ยังมีในเขื่อนอื่นๆ อีก และที่ไม่เข้าเขื่อนอีกเท่าไหร่ จำกันได้มั้ยปีนี้น้ำท่วมตั้งแต่เดือน 5 แล้ว(ฝนตกตั้งแต่เดือน 3 มาถึงปัจจุบันนี้) ถ้าใช้ตรรกะในบอร์ดนี้คิด ก็จะได้ประมาณว่าเหตุผลที่เสี่ยมาร์คกั๊กน้ำไว้ผิดวิสัยปกติที่ผ่านๆ มา น่าจะเป็นเพราะกลัวเสียคะแนนนิยมหรือเปล่า จำได้มั้ยปีที่แล้วเสี่ยเค้าเสียรังวัดกับเรื่องน้ำท่วมไปขนาดไหน ไม่เชื่อถามเฮียสรย้วยได้เลย :D ปีนี้เลยสั่งเขื่อนเก็บน้ำไว้ก่อน ให้ท่วมให้น้อยที่สุดเข้าไว้ก่อน ไว้แก้ปัญหาเรื่องนี้หลังเลือกตั้งแล้วกัน แล้วพอผลเลือกตั้งออกมา(นาทีนี้เสี่ยมาร์คคงโล่งใจอย่างหาสิ่งใดเปรียบได้ไม่ :lol: ) งานก็ไปเข้าเจ๊เต็มๆ ผมว่านะใครหน้าไหนมาเป็นรัฐบาลในตอนนั้นก็ไม่กล้าสั่งเขื่อนปล่อยน้ำออกมาเต็มๆ เพื่อซ้ำเติมน้ำที่ท่วมอยู่แล้วหรอกครับ ต่อให้เป็นรัฐบาลเทวดาของแมลงสาบก็ไม่กล้า ส่วนเรื่องที่ว่าเจ๊ปล่อยน้ำช้าเพื่อหวังผลเรื่องนโยบายจำนำข้าว ผมว่าฟังไม่ขึ้นนะ เพราะเสี่ยมาร์คเก็บน้ำไว้ให้ขนาดนั้นก่อนเข้าหน้าฝนเต็มตัว รัฐบาลคงไม่ปัญญาอ่อนเกินเยียวยาขนาดนั้นหรอก เค้าคงไม่กลัวเขื่อนใหญ่แตกมั้ง ดูซิตอนนี้น้ำท่วมเรือหายไปหมด แต่วันนี้เขื่อนใหญ่เก็บน้ำไว้เต็มความจุ 100% แล้ว :o :( คิดดูดีๆ นะครับเป็นเสี่ยมาร์คจะทำไรได้ดีกว่านี้เหรอ สติมาปัญญาเกิดครับ มีอยู่สิ่งเดียวที่ผมยอมรับว่าพรรคแมลงสาบเหนือกว่าเพื่อแม้วชัดเจนก็คือ การพ่นน้ำลาย หรือดีแต่พูดนี้แหละ ที่ฟังกี่ครั้งก็เหมือน pro แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาคล้ายๆ กับอีกฝั่งที่พูดผิดพูดถูกตลอด :P :D :lol:
ผมไม่ได้ชอบทักษิณ และเคยแต่เลือก ปชป มาโดยตลอด ปัจจุบันนี้ถ้าจะให้เลือก ก็ขอเลือกพรรคที่คิดว่าทำประโยชน์ให้ชาติได้มากกว่า และเล่นตามกติกาประชาธิปไตยครับ การเมืองภาคประชาชนเป็นสิ่งที่ดี แต่ระวังจะเป็นเหยื่อ แล้วซ้ำเติมประเทศชาติซะเอง

#28 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 14:51

คิดแบบนั้นแหละม๊อบ...ที่ผมเรียกว่ากระบือ..

#29 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 15:23

ระหว่างปล่อยให้เขื่อนแตกกับระบายน้ำออกจากเขื่อน เลือกเอาอันไหน ???

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#30 โคนัน

โคนัน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,836 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 16:21

Posted Image



จะเห็นว่าเมื่อรัฐบาลเพื่อไทยเข้ารับตำแหน่ง (ดูกราฟช่วงปลายก.ค.-ต้นส.ค. ) ไม่ใช่ว่าไม่มีการระบายน้ำเลย แต่มีอยู่บ้าง และที่สำคัญคือมีเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากช่วงก่อนหน้าด้วยซ้ำ ตรงจุดนี้ผมอยากจะชี้ให้เห็นข้อสังเกตข้อนึงครับ ถ้าดูกราฟน้ำไหลเข้าด้านบนนะครับ จะเห็นว่าช่วงพ.ค.-ก.ค. เส้นกราฟจะยกตัวขึ้นเป็นภูเขาย่อมๆ หลายลูก แสดงว่าช่วงนั้นมีน้ำเข้ามากเป็นช่วงๆ สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ว่าช่วงมิ.ย.มีพายุไหหม่าเข้าที่อินโดจีน นั่นทำให้น้ำฝนพุ่งสูงขึ้นมาก แต่ๆๆๆๆๆ แต่เดี๋ยวครับพี่น้อง ช่วงเวลาเดียวกันนี้ในกราฟขวามือ เราจะเห็นว่าปริมาณน้ำระบายออกในเดือนมิ.ย.กลับวิ่งต่ำเตี้ยติดติดเกือบเป็นศูนย์ ทำไมครับ ทำไมๆๆๆ อยากให้ผกร.ผู้ชาญฉลาดทั้งหลายไปถามทั่นมาร์คที่เป็นนายกรักษาการช่วงนั้นทีครับ ทำไมคะพี่มาร์คขา หรือถ้าพี่มาร์คยุ่งอยู่จะไปถามพี่กรณ์ในเฟสของแกดูก็ได้นะ เห็นแกเคยตั้งคำถามหาคนรับผิดชอบอยู่นี่ ทำไม ทำม้ายยยยย


อำนาจปูแหลเริ่มเมื่อไรครับ เริ่มปลาย กค เหรอครับ ถ้าจำไม่ผิด ก็ต้น กค นั้นแหละครับ หลังจากชนะขาดลอย ก็ประกาศทำทันทีจะยุบกองทุนน้ำมัน ติดตามดูภารกิจของรัฐบาล หลังชนะขาดได้ที่นี้ http://webboard.serithai.net/topic/309-%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89/ ลองย้อนไปดูสักนิดนึงนะครับ

แล้วจากกราฟ ต่อให้นับปลาย กค หรือต้น สค ก็ตามเถอะ ดูกราฟเป็นเปล่าว่ะ หรือสักแต่โพสต์ ดูซิ ว่าอัตราการระบาบน้ำออก ปลาย กค หรือ สค นั้นมีเท่าไร น้อยมาก ทั้งๆที่ปริมาณน้ำเข้ามีเยอะ

Posted Image


จำได้ไหม วันเดียวกันในขณะที่ ปชป เตะบอลเพื่อระดมทุนหาน้ำท่วม แต่รัฐบาลไปเตะบอลกับไอ้เขมร ช่วงเวลานั้นปูแหลทำอะไรครับ ยังคิดไม่ออกใช่ไหมน้ำท่วม

แล้วลองไปเทียบดูช่วงรัฐบาลมาร์ค ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนไม่ได้แตกต่าง (ดูรูปด้านล่างเทียบปีก่อนๆ) ไม่ได้อยู่ในระดับผิดปกติแต่อย่างใดในช่วงของฤดูการ การจะไม่ระบายน้ำออก ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะยังสามารถรองรับน้ำได้ เพื่อใช้ในหน้าแล้ง

แต่

ทั้งที่มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนผิดปกติช่วงต้นสิงหาคม แต่รัฐบาลปูทำอะไรอยู่ ปล่อยปะละเลย แถมยังไม่ได้ทยอยปล่อยน้ำออกมา มีบ้างช่วงด้วยในช่องเล็กอันแรกที่ปล่อยน้ำออกจากเขื่อนน้อยมาก

อย่าสักแต่ copy มา แล้วโพสต์มั่วๆ มันก็หลอกได้แต่ฝายแดงด้วยกันเท่านั้น

Posted Image

ทำรูปให้ใหม่ อธิบายน่าจะเห็นภาพ



#31 Gop

Gop

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,450 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 19:35

ข้อสังเกตของคุณโคนัน ชัดมากครับ เดือน สิงหาคม น้ำเข้าเขื่อนมากเป็นพิเศษ แต่กลับไม่มีการเร่งระบายน้ำ
ช่วงเดือนกันยายนก็เหมือนกัน มีการลดการปล่อยน้ำลงด้วย ผมจำได้ว่า เคยดูข่าวสรยุทธช่วงกันยายนนี่แหละ
ได้ข่าวว่าเขื่อนภูมิพลจะลดการระบายน้ำเหลือแค่ ๑๐ ล้านลบ.ม ต่อวัน เพื่อช่วยบรรเทรปัญหาน้ำท่วมในภาคกลาง
และภาคเหนือตอนล่าง แล้วผลก็เป็นอย่างที่เห็น คือน้ำมากเกินกว่าจะรับไหวอีกต่อไป ทำให้ต้องปล่อยออกมา
ในปริมาณมาก แถมมีฝนตกซ้ำลงมาเพิ่มอีก ผมว่าจากกราฟนี้มันฟ้องครับ ว่ารัฐบาลตัดสินใจผิด อย่าโทษใครเลย

อย่างไรก็ตาม ผมว่าข้อกล่าวหาเรื่องปลอดไม่ยอมให้ปล่อยน้ำ หรือ เรื่องข้าวที่ทักษิณปลูกไว้นั้น ผมว่าเลื่อนลอย
เกินไป เราไม่ควรเอามาเป็นประเด็นจริงจังกับมัน แต่เรื่องสุพรรณผมสงสัยเหมือนกัน เพราะตอนเดือนกันยา ดู
ประพัทธ โพธสุธน บอกเองว่าให้เก็บเกี่ยวเกี่ยวเสร็จก่อนแล้วจะปล่อยน้ำเพิ่ม ผมยังสงสัยว่ามันรู้ตัวหรือเปล่าว่า
มันพูดอะไรออกมา

หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.

 


#32 โคนัน

โคนัน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,836 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 22:28



เรื่องปริมาณน้ำนี่เป็นจุดสำคัญ ถ้าคุณหาข้อมูลสักหน่อยหรือเปิดหูเปิดตาสักหน่อยจะทราบว่าปีนี้ปริมาณน้ำฝนมากกว่าทุกๆปี แต่ผกร.จอมยกเมฆทั้งหลายเค้าไม่สนใจหรอก กูมั่วไปเรื่อยแหละ เลยต้องยกข้อมูลดิบมาแชร์กัน ข้างล่างนี่คือกราฟปริมาณน้ำฝนเปรียบเทียบปีที่เกิดอุทกภัยครั้งสำคัญคือปีนี้ ปี๔๙ และปี๓๘

(ข้อมูลจากhttp://www.tmd.go.th...8%99%202554.pdf)

Posted Image



เห็นกราฟแล้วขออนุญาตอุทานนะครับว่า “น้ำน้อยบ้าน***สิครับ” จากกราฟจะเห็นว่าปีนี้น้ำฝนมีปริมาณสูงมาก จะเห็นได้ว่าในเดือนมี.ค.และเม.ย. ฝนในภาคกลางสูงทำลายสถิติทุกปีไม่ว่าปี ๓๘ หรือ ๔๙ ยังงี้ฝนไม่ได้เร็วแค่ ๔๕ วันอย่างที่ผกร.จอมมั่วบอกแล้วล่ะครับ แต่มาก่อนสามสี่เดือนเลย และในเดือนหลังๆ แม้ว่าฝนจะไม่ได้ทำสถิติสูงสุดกว่าในอดีตทุกเดือน แต่ก็ถือว่ามีปริมาณฝนที่มากทั้งในภาคกลางและภาคเหนือ (โดยเฉพาะในภาคเหนือในสังเกตตรงนี้ให้ดีๆ เพราะปริมาณฝนในกราฟแท่งม่วงที่สูงโด่งในเดือน พ.ค.-ก.ค. นี้แหละที่จะมีผลกับปริมาณน้ำในเขื่อนที่จะกล่าวถึงต่อไป) นี่ยังไม่ได้นับเดือนกันยายนนะที่มีพายุไห่ถางและเนสาดเข้าป้วนเ***ยนแถวๆภูมิภาคนี้นะครับ แต่ข้อมูลเท่านี้ก็น่าจะเป็นการเอาส้นเท้าถีบยอดอก ผกร.จอมโกหกได้แล้วล่ะ ที่ว่าน้ำน้อยนั้น “น้อยที่บ้านพ่อคุณหรือ?”


ตรงนี้ก็มั่วได้ใจ ไม่รู้ฝายแดงตกลงมันดูกราฟเป็นเปล่า ดูปริมาณน้ำเป็นเปล่า น้ำปีนี้มากกว่าปีก่อนไม่เท่าไรครับ ปริมาณน้ำมากกว่าปีก่อนๆ ไม่เท่าไรครับ และถึงจะมากกว่า ปริมาณที่มาก มันไม่เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายได้ขนาดนี้ครับ ลองมาดูตัวเลข อ้างอิงจากนี้นะครับ http://www.oknation....1/10/14/entry-1



ยิ่งเดือนที่มีปัญหาครับ ช่วงเดือนมิถุนา ถึง กันยายน ลองมาดูเฉพาะ ปริมาณน้ำฝน ภาคกลาง และภาคเหนือครับ



ปริมาณน้ำฝน เฉพาะ ภาคเหนือ + ภาคกลาง (เพื่อเทียบจากที่ยกกราฟมาอ้าง)

ปี 2009 = 1536.8 มม
ปี 2010 = 1815.3 มม
ปี 2011 = 1907 มม


ดูจากตัวเลขแล้วเป็นไงครับ เพิ่มขึ้นมากจริงๆ ปริมาณน้ำฝนปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนๆ แต่ถ้าว่าปริมาณที่เพิ่มขึ้น แค่หลัก 100 มันเพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในขณะนี้หรือเปล่าฝายแดงทั้งหลาย

และยิ่งดูจากกราฟแผนภูมิแท่งแล้ว แทบจะไม่มีความผิดปกติของปริมาณน้ำฝนเลย ในช่วงเวลาดังกว่างบ้างเดือนมาก บ้างเดือนน้อย ฉะนั้นอย่ามาอ้างเป็นตุเป็นตะ ว่าน้ำท่วมขนาดนี้เพราะปริมาณน้ำฝนปีนี้มากกว่าทุกปี และอย่าเชียร์รัฐบาลจนลืมตัว






#33 nokisara

nokisara

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 669 posts

ตอบ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 22:51

เรื่องจริง ที่สุพรรณน้ำไม่ท่วม

วันนี้ได้มีโอกาส เดินทางไปชัยนาท จากกรุงเทพเข้านครปฐม ผ่านสุพรรณบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท เป็นเรื่องจริงอย่างที่พูดกัน สุพรรณน้ำไม่ท่วมค่ะ แต่ตอนนี้น้ำมาก เริ่มมีเอ่อขังตามทุ่นบ้าง แต่เป็นน้ำนิ่งๆ แบบล้นขึ้นมา ไม่เหมือนอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท น้ำยังน่ากลัวมาก ให้ประเมินที่กทม. เป็นแค่น้ำก้อนแรกสัก 10-15% ยังไหลลงมาเรื่อยๆ ยังคิดว่า ถ้าทำแบบที่บางคนบอกว่าให้น้ำผ่านกรุงเทพ ลงทะเล ภายใน 1-2 เดือนจะเอาอยู่ไหม เพราะนี่ก้อนแรกก็ใช้เวลาเป็นเดือน กว่ามาถึงกรุงเทพ แล้วก้อนน่ากลัวๆ ที่นครสวรรค์ ชัยนาท จะมาถึงเมื่อไหร่

แล้วน้ำยังเข้ามาฝั่ง ตะวันออกอีกเยอะ ฝั่งธนดูปริมาณน้ำยังคิดว่า น่าจะน้อยกว่าฝั่งตะวันออกที่น้ำยังไหลเข้าอยุธยาอย่างสม่ำเสมอ ยังแรงอยู่

แล้วก็กทม.กับรัฐบาลต้องคุยกันจริงๆ เอาน้ำผ่านกรุงเทพก็ใช่ แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เปิด ปิด เพื่อระบายออก

น้ำที่เห็นแค่ไม่เกิน 20% แน่ๆ เรายังต้องสู้ ไม่น่าใช่ 7-10 วันแบบที่รัฐบาลคาดการณ์ด้วย