กรดซัลฟูริกในนิคมลาดกระบัง100 กว่าตัน ??
#1
Posted 29 October 2011 - 08:24
ลาดกระบัง100 กว่าตันและรัฐบาลก็ไม่แจ้งรายละเอียด แจ้งเตือน
หรือมีมาตรการรองรับถ้าน้ำท่วมถล่มนิคมลาดกระบังได้
ถ้าจุดนี้มีปัญหาจะเกิดอะไรขึ้น ขอความรู้หน่อยค่ะ
-- รัฐบาลต้องปิดบังไว้ ป้องกันประชาชนแตกตื่น
-- ต้องแจ้งเตือนประชาชน
-- รัฐบาลต้องมีมาตรการป้องกันรองรับมั้ย
#2
Posted 29 October 2011 - 08:36
#3
Posted 29 October 2011 - 08:45
แต่ทางที่ดีที่สุดคือทั้งภาครัฐและเอกชนควรหาทางป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลขึ้น ความรับผิดตามกฎหมายหลังเกิดเหตุมันเป็นปลายเหตุแล้วครับ
#4
Posted 29 October 2011 - 08:51
ปลาตายกันระนาว
#5
Posted 29 October 2011 - 09:12
นอกจากมาตรการที่รัฐบาลต้องรองรับแล้ว ผู้ครอบครองวัตถุอันตรายก็ต้องดูแลรักษาไว้อย่างดีด้วยครับเพื่อไม่ให้ก่อให้เกิดอันตราย พ.ร.บ. วัตถุอันตรายกำหนดความรับผิดของผู้ครอบครองวัตถุอันตรายไว้เป็นความรับผิดอย่างเคร่งครัด ยิ่งถ้าผู้ครอบครองรู้ว่าน้ำกำลังมาก็ยิ่งต้องหาทางป้องกันหรือเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัย ไม่อย่างนั้นก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายครับ
แต่ทางที่ดีที่สุดคือทั้งภาครัฐและเอกชนควรหาทางป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลขึ้น ความรับผิดตามกฎหมายหลังเกิดเหตุมันเป็นปลายเหตุแล้วครับ
โรงงานน่าจะ มีมาตรการของเขาอยู่แล้ว แต่รัฐบาลก็ต้องมีหน่อยงานตรวจสอบให้ดีในช่วงนี้
เพราะตอนนี้ที่มีตัวอย่างอยู่แล้วคือ
ความเสียหายอันเกิดมาจากฝนกรดได้แพร่ขยายไปทั่ว
อเมริกาเหนือ ยุโรป ญี่ปุ่น จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แสดงว่าการปนเปื้อนไม่สามารถ ป้องกันได้ 100%
#6
Posted 29 October 2011 - 09:45
วัฎจักร กำมะถัน
If you try hard enough, you can be whatever you want to be.
#7
Posted 29 October 2011 - 09:49
#8
Posted 29 October 2011 - 09:53
มันคือกรดในแบตเตอรี่ใช่มั้ยครับ
ใช่ครับ ตัว batt จะก่อ H2S
If you try hard enough, you can be whatever you want to be.
#9
Posted 29 October 2011 - 09:55
มันคือกรดในแบตเตอรี่ใช่มั้ยครับ
ใช่ครับ ตัว batt จะก่อ H2S
ขอบคุณ คุณ kop16 มากค่ะ จขกท ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย
#10
Posted 29 October 2011 - 09:56
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#11
Posted 29 October 2011 - 10:00
ไม่รู้ ผมเกลียดวิชาเคมี
เหมือนกันแหละ ฮิฮิ
#12
Posted 29 October 2011 - 10:38
ที่แรกเค้าลือว่ามี100ล้านตัน ผมเห็นตัวแรกผมก็ไม่เชื่อแล้ว ใครจะสต็อกของมากมายจนาดนั้น
#13
Posted 29 October 2011 - 10:42
หากข่าวนี้เป็นข่าวจริงต้องขอบอกว่า นายก ชั่่วมาก ที่ไม่เตือนภัยให้ประชาชนทราบ เพื่อเตรียมตัวรับมือแต่เนิ่นเนิ่น เพราะคิดว่า รบ มันคงไม่มีแผนการป้องกันภัยอะไรนอกจากนโยบายในอากาศ
#14
Posted 29 October 2011 - 11:08
ได้ยินมาว่า ปตท สั่งพนักงานหยุดงานและให้ย้ายออกจากกรุงเทพ ไปตั้งแต่ต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีสารพิษหลายชนิดในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
หากข่าวนี้เป็นข่าวจริงต้องขอบอกว่า นายก ชั่่วมาก ที่ไม่เตือนภัยให้ประชาชนทราบ เพื่อเตรียมตัวรับมือแต่เนิ่นเนิ่น เพราะคิดว่า รบ มันคงไม่มีแผนการป้องกันภัยอะไรนอกจากนโยบายในอากาศ
แล้วจะให้เตรียมตัวรับมือยังไงอะ น่าจะมีหน่อยงานแนะนำ
จะเกิด ไม่เกิด หรือเกิดมาก เกิดน้อย การรู้วิธีรับมือแต่เนิ่นๆ ก็ไม่เสียหายอะไร
#15
Posted 29 October 2011 - 12:02
เรื่องนี้เพื่อนที่ทำงาน ปตท เป็นคนเล่าให้ฟังเอง ไม่ได้ผ่านปากที่ 3
ตอนนั้นยังคิดว่า ปตท แค่ป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงเตือนภัยให้พนักงานทราบ แล้วให้อพยพ แถมยังสั่งให้สำรองเงินสดให้อยู่ได้มากกว่า 3 เดือน
ดูจากการประกาศอพยพของ นายก ที่ค่อยแพลม แพลม ออกมา แถมวันนี้มีรถจัดบริการคนออกต่างจังหวัดฟรีอีก ชักเข้าเค้าแหะ
อยากหยุดมั่งอ่ะ
#16
Posted 29 October 2011 - 12:07
"ดีใดไม่มีโทษ ดีนั้นชื่อว่าดีเลิศ" - หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
"คนเราสามารถเปลี่ยนต้นไม้ประหลาด ให้เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนคนผิดให้เป็นพระเจ้า เปลี่ยนสีขาวให้เป็นสีดำ เพียงเพราะความเชื่อของตัวเองเพียงเท่านั้น"
#17
Posted 29 October 2011 - 12:08
ยังคิดอยู่เลยว่า ถึงแม้ปล่อยน้ำเสียลงทะเลไปแล้ว สุดท้ายมันก็กลับมาหาคนบนบกในรูปของอาหารทะเล
#18
Posted 29 October 2011 - 12:09
^^
เรื่องนี้เพื่อนที่ทำงาน ปตท เป็นคนเล่าให้ฟังเอง ไม่ได้ผ่านปากที่ 3
ตอนนั้นยังคิดว่า ปตท แค่ป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงเตือนภัยให้พนักงานทราบ แล้วให้อพยพ แถมยังสั่งให้สำรองเงินสดให้อยู่ได้มากกว่า 3 เดือน
ดูจากการประกาศอพยพของ นายก ที่ค่อยแพลม แพลม ออกมา แถมวันนี้มีรถจัดบริการคนออกต่างจังหวัดฟรีอีก ชักเข้าเค้าแหะ
อยากหยุดมั่งอ่ะ
หวาดเสียวนะเนี่ย ยิ่งรัฐบาลนี้ถนัดเรื่องปิดบังข้อมูลซะด้วย
ต้องย้อนกลับมาคิด ที่ทำไม ปตท ถึงให้สำรองถึง 3 เดือน
#19
Posted 29 October 2011 - 13:05
ท่านคิดว่า จะมีเพียงนิคมแถวลาดกระบัง เพียงแห่งเดียวเหรอครับ นิคม ที่ อยุธยา กับปทุม ที่ท่วมไป มีหมดและครับสารพิษ แต่บอกตรงๆๆ นะ ผมมั่นใจระบบการรักษา ความปลอดภัยของบริษัทพวกนี้มากกว่า คำพูดของรัฐบาลอีกนะ
จากใจ คนที่เคยอาศัยใน นวนคร
#20
Posted 29 October 2011 - 13:27
เท่าที่ทราบเข้าใจว่าเป็นชนิดของแข็งเป็นไปได้ว่าคือโซดาไฟที่ใช้ล้างหรือกัดในท่อระบายน้ำหรือชักโครก
ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่น่าจะระเบิดครับ และเมื่อไหลลงทะเลไปเจอเกลือก็จะทำให้เจือจางแล้วเป็นกรดลดลงจนเป็นกลาง
แต่ระหว่างทางก่อนลงทะเลนี่สิน่าห่วง
#21
Posted 29 October 2011 - 14:15
ถ้าเป็นจริงน้ำก็คงมีปัญหาแน่ เพราะเท่าที่จำได้กรดตัวนี้กัดกร่อนได้แม้กระทั่งเหล็ก เคยเรียนมา(ถ้าจำไม่ผิดนะ)อาจารย์เคยบอกว่า อย่าเทน้ำลงในกรด เพราะจะทำให้เกิดการระเบิดได้ แต่ให้เทกรดลงในน้ำเท่านั้น
ไม่ใช่การระเบิดครับ แต่ถ้าน้ำไปเทลงกรด กรด มันจะกระเด้นมาโดนผิวหนังได้ ลองนึกภาพเวลาปาหินลงน้ำก็ได้ ว่าน้ำมันจะเด้นขึ้น มาแบบนั้นละครับ ที่ถ้ากรดอยู่ข้างล่างน้ำเท ตัวกรดเองนั้นล่ะที่จะกระเด้นมาโดยเรา เขาจึงให้เทกรดลงน้ำ และสารเคมี ที่ลาดกระบังรุ้สึกทางโรงงานออกมาชี้แจงแล้วว่า ตัวนี้ไม่ได้ทำให้เป็นกรดอย่างที่ลือกัน แต่ปลาตายนะผมว่าชั้ว
#22
Posted 29 October 2011 - 14:23
หมายความว่าไง งะ
ถ้าเป็นจริงน้ำก็คงมีปัญหาแน่ เพราะเท่าที่จำได้กรดตัวนี้กัดกร่อนได้แม้กระทั่งเหล็ก เคยเรียนมา(ถ้าจำไม่ผิดนะ)อาจารย์เคยบอกว่า อย่าเทน้ำลงในกรด เพราะจะทำให้เกิดการระเบิดได้ แต่ให้เทกรดลงในน้ำเท่านั้น
ไม่ใช่การระเบิดครับ แต่ถ้าน้ำไปเทลงกรด กรด มันจะกระเด้นมาโดนผิวหนังได้ ลองนึกภาพเวลาปาหินลงน้ำก็ได้ ว่าน้ำมันจะเด้นขึ้น มาแบบนั้นละครับ ที่ถ้ากรดอยู่ข้างล่างน้ำเท ตัวกรดเองนั้นล่ะที่จะกระเด้นมาโดยเรา เขาจึงให้เทกรดลงน้ำ และสารเคมี ที่ลาดกระบังรุ้สึกทางโรงงานออกมาชี้แจงแล้วว่า ตัวนี้ไม่ได้ทำให้เป็นกรดอย่างที่ลือกัน แต่ปลาตายนะผมว่าชั้ว
#23
Posted 29 October 2011 - 14:32
หมายความว่าไง งะ
ถ้าเป็นจริงน้ำก็คงมีปัญหาแน่ เพราะเท่าที่จำได้กรดตัวนี้กัดกร่อนได้แม้กระทั่งเหล็ก เคยเรียนมา(ถ้าจำไม่ผิดนะ)อาจารย์เคยบอกว่า อย่าเทน้ำลงในกรด เพราะจะทำให้เกิดการระเบิดได้ แต่ให้เทกรดลงในน้ำเท่านั้น
ไม่ใช่การระเบิดครับ แต่ถ้าน้ำไปเทลงกรด กรด มันจะกระเด้นมาโดนผิวหนังได้ ลองนึกภาพเวลาปาหินลงน้ำก็ได้ ว่าน้ำมันจะเด้นขึ้น มาแบบนั้นละครับ ที่ถ้ากรดอยู่ข้างล่างน้ำเท ตัวกรดเองนั้นล่ะที่จะกระเด้นมาโดยเรา เขาจึงให้เทกรดลงน้ำ และสารเคมี ที่ลาดกระบังรุ้สึกทางโรงงานออกมาชี้แจงแล้วว่า ตัวนี้ไม่ได้ทำให้เป็นกรดอย่างที่ลือกัน แต่ปลาตายนะผมว่าชั้ว
เนื่องจากโมเลกุลของกรดจะเป็นอิออนบวกแลอิออนลบโดยปกติมันมันจะดูดโดยพลังประจุ แต่เมื่อเทน้ำไปแทรกระหว่างโมเลกุลมันเกิดการแตกตัวซึ่งจะคายความร้อนออกมาซึ่งน้ำเป็นตัวดูดความร้อนแต่มีปริมาณน้อยจึงดูดความร้อนได้ไม่หมด ตัวความร้อนที่เหลือตัวนี้แหละที่ทำให้เกิดการกระเด็น
ฉะนั้นถ้าเราเอากรดเทลงน้ำปริมาณน้ำจะมากสามารถดูดความร้อนได้ดี จึงไม่เกิดการกระเด็น
If you try hard enough, you can be whatever you want to be.
#24
Posted 29 October 2011 - 16:19
ไม่ใช่โซดาไฟ (โซดาไฟ หรือ คอสติกโซดา (Caustic soda) หรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ (sodium hydroxide) สูตรทางเคมีคือ NaOH ชาวบ้านรู้จักกันในชื่อสารเคมีผงมัน )โซดาไฟเป็นด่างแก่
กรดกำมะถันเป็นกรด
#25
Posted 29 October 2011 - 16:45
ก่อนนี้ 5 วัน
24/10/11
http://bit.ly/pJQDLW
คพ.ยืนยันไม่มีกรดซัลฟูริกในนิคมลาดกระบัง
นายวรศาสตร์ อภัยพงษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ รักษาการอธิบดีเปิดเผยว่า จากกรณีข่าวลือในเครื่อข่ายสังคมออนไลน์ว่ามีกรดซัลฟูริกที่ยังไม่ได้ถูกเก็บไว้ในที่ปลอดภัยที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังจำนวน 100 ล้านตัน ได้ตรวจสอบไปยังการนิคมอุตสาหกรรมแล้ว พบว่าเป็นโรงงานผลิตถุงมือยางที่ต้องใช้กรดซัลฟูริกเป็นส่วนประกอบเพียงเล็กน้อย โดยมีอยู่ประมาณ 2 – 5 ลิตร และสารโซเดียมไดออกไซด์ โปแตสเซียมไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่สารพิษอันตราย ทั้งนี้การนิคมอุตสาหกรรมได้แจ้งให้โรงงานอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังขนย้ายสารเคมีอันตรายออกนอกพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. เป็นต้นมา อย่างไรก็ตามสารที่จะก่อให้เกิดการระเบิดได้ต้องมีปฎิกิริยาออกซิเจน ต้องอยู่ในห้องเย็น ถ้าไม่มีห้องเย็นก็ต้องมีกระแสไฟฟ้าจึงจะระเบิดได้ ดังนั้นจึงไมมีใครที่จะปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น
คพ.ยัง 6 นิคมไม่พบสารพิษ
ด้านนายสุเมธา วิเชียรเพชร ผอ.ศูนย์ปฎิบัติการฉุกเฉินสารเคมี คพ. กล่าวว่า ศูนย์ปฎิบิการฯ เฝ้าระวังและตรวจสอบอยู่ในทุกนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่ง ในพื้นที่ จ. พระนครศรีอยุธยา โดยได้ออกตรวจทุกอาทิตย์ แต่ไม่พบสารพิษที่เป็นอันตรายอะไร คุณภาพน้ำก็ปกติ ค่าความเป็นกรด-ด่างอยู่ที่ 6-8 ส่วนค่าอ็อกซิเจนละลายน้ำอยู่ที่ 4-6 มก./ล. ถ้าหากค่าออกซิเจนต่ำว่า 2 มก./ ล. จึงจะถือว่าน้ำเริ่มเสีย และไม่พบสารพิษอันตรายใดๆ อย่างไรก็ตามแม้จะพบสารอินทรีย์ระเหยง่าย (วีโอซี) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค แต่ทาง คพ. ก็ได้บำบัดโดยใช้จุลินทรีย์ที่กินสารประเภทนี้โดยเฉพาะ และจากการตรวจวัดคุณภาพน้ำเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมาพบว่าสารวีโอซีดังกล่าวลดลงแล้ว แต่ คพ. ก็จะยังเฝ้าระวังต่อไป และในสัปดาห์นี้ทาง คพ. จะเข้าตรวจสอบพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร และนิคมอุตสาหกรรมบางกระดี จ.ปทุมธานีด้วย