Jump to content


Shoot 'Em Up

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 22 ตุลาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2557 07:05
-----

#937598 ขออนุญาติมองข้ามช็อต ทหารจะทำอย่างไร ถ้าคนเสื้อแดงถอดเสื้อแล้วลงใต้ดิน

โดย นารายณ์สังหาร on 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 00:58

เอาจริงๆป่ะครับ  ฝัง กลบ!!  คิดว่าเสื้อแดงจะเก่งเกมส์ใต้ดินกว่าทหารรึ??   คิดใหม่ครับ คิดใหม่ ....

 

ผมเองก็กำลังนั่งรออะไรบางอย่างอยู่ตอนนี้ 




#937445 ทุกท่านกรุณาเกาะให้แน่น เรากำลังเข้าสู่จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบ ของระบอบทักษิณ

โดย RiDKuN_user on 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 23:55

"บกพร่องโดยสุจริต" วาทกรรมสั้นๆ ง่ายๆ ในการปกปิดทรัพย์สินของตนเองเมื่อปี 2544 ของ ทักษิณ ชินวัตร

 

ณ ตอนนั้น คงไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ว่าคำพูดธรรมดาๆเช่นนี้ จะสามารถสั่นคลอนสังคมไทย

ในการยึดมั่นกับความซื่อสัตย์สุจริตว่าเป็นสิ่งดีงามได้มากเพียงนี้

 

จาก "บกพร่องโดยสุจริต" จนกลายเป็น "โกงแต่ทำงาน" 

และกลายเป็น "เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง"

 

นี่ยังไม่นับรวมวาทกรรมบิดเบือนความผิดรายทาง

อย่าง "ทำกับข้าวถูกปลด" หรือ "เมียเซ็นผัวติดคุก"

 

ทุกอย่างที่เป็นความผิดบาป เสื้อแดงพร้อมจะสร้างวาทกรรม กลับผิดเป็นถูกได้เสมอ

หากมันจะสนับสนุนระบอบทักษิณของพวกเขาได้

 

ทักษิณ ได้เปลี่ยนประเทศไทย

จากประชาธิปไตย คือการปกครองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน

 

กลายเป็น ประชาธิปไตย คือการปกครองของเสียงส่วนใหญ่

โดยเงินภาษีคนทั้งประเทศ เพื่อทักษิณคนเดียว

 

ทุกท่านที่ร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณมาตั้งแต่ต้น คงจะรับทราบได้กับตัวเองแล้วว่า

คนคนนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จะไม่สนใจเลยว่าวิธีการนั้นจะดีหรือชั่วช้าอย่างไร

 

นับมาตั้งแต่ ควบรวมพรรคความหวังใหม่ ยุบสภาหาความชอบธรรมให้ตัวเอง

หนีคำตัดสินของศาลฎีกา สนับสนุนเสื้อแดงก่อการจลาจล 

นำกองโจรชุดดำเข้ามาในเมืองหลวง โจมตีเจ้าหน้าที่และประชาชน

เผาบ้านเผาเมือง ทั้งในกรุงเทพและศาลากลางในต่างจังหวัด

ยังไม่รวมคดีทุจริต ออกนโยบายเอื้อประโยชน์ตัวเอง ทั้งภาษีสรรพสามิต

หนีภาษี ออกกฎหมายเอื้อขายหุ้นชิน และอีกต่างๆ นานา

 

และสุดท้าย พยายามออกกฎหมาย ยกเลิกความผิดของตนเองและพวกทั้งหมดที่ได้ทำมา!

 

ความอดทนของคนย่อมมีขีดจำกัด คำว่าเสียงส่วนใหญ่จะมีความหมายอะไร

ถ้ามันไม่สามารถอำนวยความรู้สึกแห่งความยุติธรรมและความดีงามให้กับประชาชนได้

 

คุณจะบอกว่า มีเสียงส่วนใหญ่ แล้วจะตบหน้าตบหัวประชาชนยังไงก็ได้งั้นหรือ

มีเสียงส่วนใหญ่ ก็สามารถปฏิเสธอำนาจศาล ไม่ยอมรับคำตัดสินได้หรือ

แบบนั้นไม่ใช่ประชาธิปไตยดอก

 

นี่คือระบอบทักษิณ ที่ทักษิณสร้างขึ้นมา ด้วยเงินจำนวนมหาศาลของเขา

ระบอบที่ไม่สนใจดีชั่ว ระบอบที่ยึดติดกับอำนาจแต่เพียงอย่างเดียว

 

และ มันกำลังจะจบลง ในไม่ช้า

 

ระบอบทักษิณ ที่ดูยิ่งใหญ่ แต่แท้จริงไม่ต่างอะไรกับฟองสบู่

เมื่อขยายถึงจุดหนึ่งแล้วก็จะต้องแตกออกอย่างเลี่ยงไม่ได้

เพราะเนื้อในของระบอบทักษิณ ไม่มีพื้นฐานหรือเนื้อหาสาระอะไร

 

ฟองสบู่โป่งพอง ที่ไม่มีความดี ไม่มีความเจริญ ความศิวิไลซ์ ไม่มีเหตุมีผล

ฟองสบู่กลวงที่มีแต่การใช้เสียงส่วนใหญ่แทนที่การใช้ตรรกะอย่างมีอารยะ 

ใช้วิธีกดผู้เห็นต่างด้วยการบอกว่าตัวเองมีพวกมาก

ทำตัวเป็นอันธพาลเพื่อให้ผู้อื่นเกรงกลัว

 

ร่างพรบ. นิรโทษกรรมสุดซอย ยกเลิกความผิดตัวเอง

เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย ก่อนที่ฟองสบู่นี้จะแตกออกดังเป็นเสียงนกหวีดไปทั่วประเทศ

 

เป็นจุดเริ่มต้นแห่งจุดจบ ของระบอบทักษิณ

 

ทุกท่านครับ เป็นการยากที่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะไม่มีความวุ่นวาย

โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นิยมแนวทางใช้อาวุธจัดการฝ่ายตรงข้าม

 

ถึงแม้สุเทพจะบอกว่าพรุ่งนี้จบ แต่ในความเป็นจริงแทบเป็นไปไม่ได้ 

 

ดังนั้น ท่ามกลางความสับสน อย่าลืมว่า เรายึดถือสิ่งใด 

เราไม่ได้มาฆ่ามาทำร้ายใคร หน้าที่ของเรา คือปลดปล่อยคนไทยและประเทศไทย

จากความเป็นทาสของทักษิณและตระกูลชินวัตร 

 

ที่ผ่านมา ทักษิณ อาจจะเลือกได้ว่า จะเล่นเกมอะไร

แต่วันนี้ ทางเลือกของทักษิณ มีแค่ว่า จะเลือกจบแบบไหน

 

จะจบแบบผู้สำนึกผิด หรือจะจบแบบทรราชที่โลกต้องจารึก ทักษิณต้องเลือกเอง

 

ขอให้ทุกท่านโชคดี และโปรดรักษาตัวด้วยครับ




#931586 ระเบิดหัวใจ.."สุเทพ"

โดย lnwxmanza on 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 13:27

1463612_633560073346638_1190527041_n.jpg

 

 

เมื่อก่อนผมรู้สึกเฉยๆกับแกน่ะ ถึงแม้จะเป็นคนใต้เหมือนกัน ไม่ได้อะไรมากมาย แต่พอได้ลองไปสัมผัสกันจริงๆ จึงได้รู้ว่า ใจแกใหญ่จริงๆ 

ไม่รู้คนอื่นว่าไงแต่ตอนนี้แกได้ใจผมไป และคนอื่นคงจะคิดเหมือนผม ถ้าคนอื่นบอกว่าแกทำเพื่อตัวเอง คงจะเป็นการทำเพื่อตัวเองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

แล้วทำไมต้องออกมาทำแบบนี้ล่ะ เมื่อตัวเองอยู่บนหอคอยงาช้างแล้วแท้ๆ จะออกมากินข้าวไข่เจียวข้างถนนทำไม จะออกมาเสียงหอบเสียงแห้ง

จะออกมาอดหลับอดนอน เดินไกลเป็นสิบๆ กิโลทำไม ผมว่าจริงๆ>>>>>>>>>>>>>>>>>> แล้วแกรักชาติน่ะ




#931591 ระเบิดหัวใจ.."สุเทพ"

โดย Bookmarks on 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 13:30

ผมนับถือหัวใจ ลุงกำนันก็ตรงนี้แหละ เราจะทิ้งลุงกำนันไปได้ไง ถ้าแ้พ้ก็จะไม่โทษใครเลย จะโทษตัวเอง ที่ไม่ยอมสู้ให้ถึงที่สุด ลุงแกไม่เหนื่อย เราจะเหนื่อยก่อนแกได้ยังไง 




#913984 ณ ศาลรัฐธรรมนูญ วันพุธที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๖

โดย TFEX on 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 14:29

คนเยอะงี้เดี๋ยวผมหาเสียงซะเลย

 

สวัสดีครับ ผมธันวา เขตสวนหลวง-ประเวศครับ

 

ก๊ากกๆๆ.. 

 

 

ไปล่ะครับ เฝ้าจอรอลุ้นอยู่หลายชั่วโมงแระ ^^




#913950 ณ ศาลรัฐธรรมนูญ วันพุธที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๖

โดย เพื่อไทยทำได้ทุกอย่าง on 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 14:21

ทำไมถึงไม่มีการพูดถึงว่า   เมื่อทูลเกล้าแล้วถือเป็นพระราชอำนาจที่จะวินิจฉัย

ศาล  รธน  มีสิทธิ์อะไรไปก้าวล่วง

 

น้องดอนยอต้องตามไปตบอิปูค่ะ เค้ายื่นศาลกันตั้งแต่ผ่านวาระสองแต่อิปูมันแรดไปทูลเกล้าเอง ถ้ารักในหลวงต้องตบอิปูค่ะ เชื่อพี่ขิงนะคะ




#898148 เรียนภาษาอังกฤษจากการเมือง

โดย RiDKuN_user on 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 22:36

ยุบสภา - dissolve, dissolution of parliament

ลาออก - resign

ทรราช - tyrant

ตลบตะแลง - filp-flop

ผู้นำลวงโลก - demagogue

อิโง่ - yingluck




#897017 ผมไม่ขัดข้องครับ คุณสมัคร......!

โดย ปุถุชน on 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 10:18

522014_361302320679842_1170743369_n.jpg
screengrab

 

 

คุณสมัครสอบถามความเห็นคนไทยในเฟซบุ๊ค....

ผมเห็นว่าสมาชิกเสรีไทยดอทเนท น่าจะรับรู้ด้วย และแสดงความคิดเห็น....

 

ผมขอแสดงความคิดเห็นก่อน....

ผมไม่ขัดข้องครับ คุณสมัคร......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




#895994 เกาะติดการไต่สวนปมแก้รธน.ที่มาส.ว. ทวีเกียรติ ตุลาการศาลฯคนใหม่ แค่่เย็บหมัดแ...

โดย คนกรุงธน on 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 17:20

http://www.matichon....2&subcatid=0200

ดร. ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ
มาช้าดีกว่าไม่มาเลย....ผมเคยกล่าวไว้ในบทความเรื่อง “หลักนิติรัฐกับคนเนรคุณ” มาแล้วว่า อาจารย์วรเจตน์เปรียบเสมือน “กาลิเลโอ” หลงยุค คือแสดงความเห็นที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์แต่ก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับพวกของเขาให้เป็น “some body” ได้ในสังคม... ดีสุดขั้ว ชั่วสุดโต่ง... ดังพอกัน ใครอยู่ฝั่งไหน ตัดสินกันด้วยเส้นด้ายเท่านั้น
 

แถลงการณ์ของคณะนิติราษฎร์ออกมาในขณะที่คนทั้งหลายกำลังเริ่มจะปรองดอง กันแล้ว กลับถูกจุดประเด็นให้เห็นคลาดเคลื่อนหลงประเด็นและกลับเกิดแตกแยกกันขึ้นมา อีก กล่าวคือ

 

1. จากคำขึ้นต้นของแถลงการณ์ ฯ กล่าวว่า “รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทำลายนิติรัฐ ประชาธิปไตย และยังเป็นต้นเหตุของปัญหาความขัดแย้งต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้.....”
 

   ผมว่า ก่อน 19 กันยา กลุ่มนิติราษฎร์ ไปอยู่ที่ไหนกัน ถึงไม่รู้ว่า ความขัดแย้งมีมาก่อน 19 กันยายน 2549 และก่อน 14 ตุลาคม 2516 ด้วยซ้ำ และประเด็นที่ขัดแย้งทั้งหลายมีประเด็นเดียวเท่านั้น คือ คนในรัฐบาลที่ทุจริต หรือสงสัยว่าทุจริต หรือแม้พิสูจน์แล้วว่าทุจริต แต่ยังมีอำนาจลอยนวล ลอยหน้าอยู่ได้ โดยไม่มีใครสามารถนำพวกเหล่านั้นเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ คือไปไม่ถึงศาล โดยเหตุที่ ถูกแทรกแซงในทุกๆ ทาง
   ฝ่ายบริหาร ตำรวจ อัยการ กกต.ถูกแทรกแซงตั้งแต่กระบวนการแต่งตั้ง ฝ่ายนิติบัญญัติทั้งหลายก็พึ่งไม่ได้ ลามปามไปถึงตุลาการเกือบทุกชั้นศาล ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลยุติธรรม  “ถุงขนม” ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ว่อนไปหมด คณะวรเจตน์ ไม่รับรู้ ไม่รับเห็นเลยหรือไร ?

 

2.  ข้อเสนอของกลุ่มดังกล่าว ที่ว่า
 “๑. ประกาศให้รัฐประหาร  19 กันยายน 2549.....
  ๒. ประกาศให้รัฐธรรมนูญ ....... เสียเปล่า ......
  ๓. ประกาศให้คำวินิจฉัยของตุลาการ รัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของศาล .... และคำพิพากษาของศาลฎีกา .... เสียเปล่า...  และไม่เคยมีผลในทางกฎหมาย
  ๔. ประกาศให้เรื่องที่อยู่ในกระบวนการพิจารณา ..... เป็นอันยุติลง
  ๕. ประกาศความเสียเปล่าของบรรดาคำวินิจฉัยและคำพิพากษา....
  ๖. ....ให้นำข้อเสนอดังกล่าวข้างต้นไปจัดทำเป็นร่างรัฐธรรมนูญ ....”

 

ผมก็ผ่านก็เห็นการปฏิวัติมาหลายครั้ง ผมยังไม่เคยเห็นคณะปฏิวัติชุดไหนประกาศล้มล้างคำพิพากษาของศาล อย่าว่าแต่ศาลฎีกาเลย ศาลชั้นต้นก็ไม่เคย อย่างน้อยคณะปฏิวัติทุกคณะก็ยังคงเคารพคำพิพากษาของศาล

 

กลุ่มนิติราษฎร์ บังอาจเสียยิ่งกว่าคณะปฏิวัติเสียอีก !!

 

นอกจากนี้ ยังไม่รู้ว่าโดยกระบวนการทางกฎหมายที่ผู้ลงชื่อข้างท้าย(ซึ่งยังหนุ่มยังสาว กันทั้งนั้น)ได้เรียนมา และสอนอยู่น่ะ จะทำผ่านทางไหน ช่วยบอกนักศึกษาที่เป็นลูกศิษย์ลูกหาหรือกองเชียร์ของท่านที เดี๋ยวเขาจะสงสัยว่า พวกท่านเหล่านั้นจบมาจากไหนและนำหลักกฎหมายอะไรมาสอน รู้จริงหรือไม่ หรือจะเอาความคิดผิด ๆ ถูก ๆ ของพวกท่านมาครอบงำ เขา ?

 

3.ประเด็นต่อมา เรื่องปอ.มาตรา 112  กลุ่มนี้ก็กล่าวว่า “..มาตรา 112 มีปัญหาทั้งในแง่ตัวบทกฎหมาย การบังคับใช้  .... บุคคลที่เกี่ยวข้อง ไม่ควรปฏิเสธว่า ... มาตรา 112 ไม่มีปัญหา ....  ทั้งที่ไม่มีการศึกษาและอภิปรายในวงกว้างอย่างจริงจัง” นั้น

 

ผมว่า มีก็แต่ 5 – 6  คนที่ลงชื่อข้างท้ายนี่แหละที่ไม่ได้ศึกษา ปอ.มาตรา 112 อย่างจริงจัง  คนอื่นเขารู้ดีกันแล้วทั้งนั้น ก็พวกท่านจะมีความรู้เรื่องได้อย่างไรเล่า เวลาพวกท่านจัดอภิปรายเรื่อง มาตรา 112 ไม่เคยเชิญเอานักกฎหมายอาญาที่เขารู้จริง (เช่นผมเองเป็นต้น !!)มาบรรยายให้ความรู้แก่พวกท่านกันเลย ทั้ง ๆ ที่อยู่คณะเดียวกัน (แต่ไม่ใช่คณะนิติราษฎร์)

 

อีกประการหนึ่ง กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมก็ตั้งมากมาย เช่นหญิงข่มขืนชาย มีโทษที่หนักหนาสาหัส น่าจะแก้ไขมากกว่าตั้งเยอะ กลับไม่สนใจ!!

 

ในทางจิตวิทยาของอาชญากร นั้น คนที่ต้องการยกเลิกกฎหมายใด แสดงว่าเขาอยากทำผิดกฎหมายนั้น เช่น คนที่ต้องการยกเลิกกฎหมายฆ่าคน แสดงว่า เขาอยากฆ่าคนโดยไม่มีกฎหมายห้าม

คนที่อยากได้ทรัพย์บุคคลอื่น ก็คงต้องการให้ยกเลิกกฎหมายลักทรัพย์

ผมเองยังอยากให้ยกเลิกกฎหมาย “ข่มขืนกระทำชำเรา” เลย !!! 

(***555+มีอารมณขันดี)

 

อย่างไรก็ตาม กฎหมายถึงจะมีโทษแรงแค่ไหน

ผู้ที่ไม่คิดจะทำผิดกฎหมาย ย่อมไม่เดือดร้อน

พวกท่านทั้ง 7 เดือดร้อนมากใช่ไหม ?

(***อุ๊ย เจ็บจี๊ดๆๆๆๆ)

 

มาตรา 112  เป็นเรื่องของการใช้ถ้อยคำ แสดงว่าคนที่ขอให้ยกเลิก อยากใช้คำหยาบ จาบจ้วง จริง ๆ ผมแนะให้ว่า ถ้าคันปากอยากด่านักใคร แต่กลัวผิดกฎหมาย ก็ให้ด่าคนที่อยู่ในบ้านของกลุ่มนิติราษฎร์นั่นแหละ ด่าเข้าไปเถอะ กฎหมายไม่เอาโทษ เพราะคนที่อยู่นอกบ้านของคุณไม่มีใครเขานับถือคนในบ้านของพวกคุณ 

หากด่าตัวเองได้ยิ่งดีใหญ่ ไม่ผิดกฎหมาย

และจะให้ผมช่วยด่าหรือช่วยคิดหาคำด่าให้ก็ยินดี

 

4.  กลุ่มนิติราษฎร์ แนะให้เริ่มดำเนินคดีกับบุคคลที่ศาลฎีกาตัดสินถึงที่สุดไปแล้วใหม่ ตามกระบวนการกฎหมายตามปกตินั้น

 

ขัดชัดแจ้งกับหลัก double jeopardy ถ้าไม่รู้ว่าหลักนี้ว่าอย่างไร ก็ไม่คู่ควรที่จะสอนนักศึกษากฎหมายในธรรมศาสตร์

อย่างไรก็ตามบุคคลที่มีชื่อท้ายแถลงการณ์ดังกล่าว น่าจะรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ก่อนปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 

“กระบวนการทางกฎหมายตามปกติ” สามารถจัดการกับผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดนั้น ๆ ได้หรือไม่ เพราะมีการแทรกแซง “กระบวนการทางกฎหมายตามปกติ” จนกระบวนการเหล่านั้นทำงานไม่ได้

 

ขนาดปฏิวัติก็แล้ว ศาลฎีกาตัดสินถึงที่สุดก็แล้ว ยังดำเนินการอะไรไม่ได้เลย (ต้องอ่าน คำสัมภาษณ์ของอาจารย์ไชยันต์ ไชยพร คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ)  ท่าน “กาลิเลโอ” ช่วยออกแถลงการณ์ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายตามปกติให้ด้วยเถิด ก่อนที่เขาเหล่านั้นจะสร้าง “กรรมใหม่” ให้กับประเทศชาติซ้ำขึ้นอีก

 

5.  กลุ่มบุคคลทั้ง 7  ที่ลงชื่อท้ายแถลงการณ์ ขอให้ทุกอย่างโมฆะ ทุกคนกลับสู่ฐานะเดิม โดยที่ตนไม่รู้เลยหรือว่า แทบทุกคนเขากลับสู่ฐานะเดิมกันเกือบหมดแล้ว
  

รัฐบาล “พรรคไทยรักไทย เดิม” ก็ได้ เป็นเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล
  

สภาสูง สภาล่าง ก็ได้ คนของเขาส่วนใหญ่เข้าไป
  
พรรคประชาธิปัตย์  ก็กลับ เป็นฝ่ายค้าน เหมือนเดิม
  

อีกไม่กี่เดือน บ้านเลขที่ 111 ก็กลับมาแล้ว โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม
 

แถมยังมีตัวช่วย “ระดับไพร่” ที่กลายเป็น “อำมาตย์” เพิ่มเป็นอันมาก ไม่มีใครเขาอยากย้อนหลังกลับไปหรอก ก็ในเมื่อคนอื่นเขาเกือบจะคืนสู่ฐานะเดิมกันเกือบหมดแล้ว
 

เหลือคนสำคัญจริง ๆ อีกคนเดียวเท่านั้น ที่ยังต้องรออีก 6 ปี (จึงจะขาดอายุความ) การออกแถลงการณ์คืนฐานะเดิม จึงคิดเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากเพื่อคนคนนั้นเพียงคนเดียว

 

อนึ่ง การจะคืน Passport ให้แก่ท่านอดีตนายก ทักษิณ ก็เช่นกัน ไม่ต้องใช้ความคิดระดับ รมต.ต่างประเทศ หรอก แค่ passport ธรรมดา ๆ เนี่ย กระทรวงการต่างประเทศจะออกให้คนไทย ใครก็ตามที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ได้หรือไม่ ถ้าออกให้ได้ก็ไม่มีอะไรห้ามไม่ให้ออก passport ให้ท่านอดีตนายกหรอกไม่ว่าจะเป็นสีแดงหรือสีใดก็ตาม

 

6.  การอ้าง “ประชามติ” หรือ “ประชาชน” ผู้มีอำนาจสูงสุดว่า จะทำอะไรก็ได้ แสดงถึงความคิดที่ขัดต่อหลัก Rule of Law อย่างชัดแจ้ง(อีกแล้วครัท่าน) เรียกว่า “สะดุดขาตัวเอง” หลักนิติรัฐ ต้อง Rule by Law ไม่ใช่ Rule by Numbers ดังนั้น ต่อให้มีประชามติสัก 10 ล้านคนที่ไม่ชอบด้วย Rule of Law แล้ว ก็ลบล้างคำพิพากษาที่ถึงที่สุดแล้วของผู้พิพากษาเพียง 2-3 ท่านไม่ได้ (ต้องอ่านบทความของอาจารย์กิตติศักดิ์ ปกติ) ความเห็นของท่านเจ็ดเซียนจึงกลับแสดงว่า

 

แท้จริงหลักที่ท่านเคารพคือให้ “กฎหมู่อยู่หนือกฎหมาย” นั่นเอง(ช่างสอดประสานกับเหตุการณืที่ผ่านมาเสียจริง จนทำให้พวกท่านอยากย้อนเวลากลับไป ... ใช่ไหมล่ะ )

 

ทำนองเดียวกันกับ การขออภัยโทษ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 259 กฎหมายวางเงื่อนไขให้คนกลุ่มเดียวเป็นผู้ร้องขอ ถ้าไม่ใช่คนกลุ่มนี้ ต่อให้มี 10 ล้านเสียง ก็ไม่เข้าเงื่อนไข อภัยให้ไม่ได้
ขนาด เจ้าตัว หรือ พ่อ แม่ ลูก เมีย เขายังไม่ขอ แล้ว 2 -3 ล้าน คน เป็นใคร  ทำไมถึงไปขอแทนเขา(น่าจะปรับตนให้เข้ากับกฎหมาย ไม่ใช่ใช้จำนวน 2-3 ล้านคนมาปล้นหลักกฎหมาย)

 

7.  บทความของ ปิยบุตร  แสงกนกกุล ผมอ่านแล้วเหมือนกับคนที่เรียนไม่ได้เรียนอะไรจริงจังแต่อ้างว่าอาจารย์ที่ ปรึกษาไม่ได้เรื่อง ฉันเก่งกว่า แน่กว่า รู้ดีกว่า ปิยบุตรอ้างเรื่องของรัฐบาล Pétain ที่ Vichy ในบทความนั้นเขาสารภาพออกมาเองว่า “รัฐสภาได้ตรารัฐบัญญัติ มอบอำนาจทุกประการให้แก่รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐ ภายใต้อำนาจของนายพล Pétain…”

 

ขณะที่ ท่าน “กาลิเลโอ” ของผม ก็รู้ดีว่า ท่าน Hitler ก็ได้อำนาจมาตามระบบการเลือกตั้งที่ชอบด้วยกฎหมาย ผ่านรัฐสภาที่เลือกตั้งโดยประชาชน ซึ่งก็ได้มอบอำนาจเด็ดขาดให้กับเขา ถูกต้องครงตามหลัก “นิติรัฐ” (ตามตัวอักษร) ที่ท่านทั้งสองบูชาอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น

 

ปิยบุตร กับ “กาลิเลโอ” ของผม คงยกตัวอย่างนี้โดยลืมไปกระมังว่า ทั้ง Pétain และ Hitler ล้วนได้อำนาจมา

“โดยชอบด้วยกฎหมาย” ทุกประการ แต่กลับทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งผู้ร่วมลงนามอีก 5 คน ที่แฝงกายในธรรมศาสตร์ (ที่ใช้ว่า “แฝงกาย” เพราะไม่ค่อยได้เห็นหลายคนมาทำงานให้คณะสักเท่าไหร่) ประกาศสนับสนุนอย่างหัวปักหัวปำในขณะนี้ หากฉุกคิดเสียหน่อยก็จะพบว่ารัฐบาลเลือกตั้งโดยชอบของไทยก่อนเกิดรัฐประหาร 19 กันยา มีข่าวการ “ฆ่าตัดตอน” (ซึ่งพอหมดรัฐบาลชุดนั้น การ “การฆ่าตัดตอน”ก็หมดลง)

 

ขณะที่ นายพล George Washington ได้อำนาจมาจากการปฏิวัติ ล้มอำนาจการปกครองของอังกฤษ สร้างชาติบ้านเมืองของตนจนรุ่งเรือง สาระสำคัญของประชาธิปไตยจึงมิใช่อยู่ที่รัฐประหารหรือการเลือกตั้งตามกฎหมาย มิใช่หรือ ?

 

ผู้ที่ยกเรื่องของ Hitler และ Pétain มานี้จึงอาจเปรียบได้ว่า คนหนึ่งเรียนจบแต่ทางโลก แต่ไม่เจนจบทางธรรมะและวัฒนธรรม ส่วนอีกคนหนึ่งนั้น ทางโลกยังไม่(เจน)จบ แต่เข้าใจว่า ตนบรรลุธรรมแล้ว

 

ปัญหาคับข้องใจจึงตกแก่เรา ชาวคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่เราก็ต้องเมตตาให้ที่คนเหล่านี้แอบแฝงอยู่ ... ด้วยเห็นว่าถ้าไม่มีเรา เขาก็จะไม่มีที่ยืน

 

สรุป

การที่กลุ่มผู้ออกแถลงการณ์ทั้ง  7  กล่าวว่า ผลพวงของการปฏิวัติ 19 กันยา เปรียบเสมือนผลไม้จากต้นไม้ที่เป็นพิษ (Fruit of the Poisonous Tree) นั้น ก็น่าคิดเหมือนกันว่า อยู่ ๆ “ต้นไม้พิษ” เกิดขึ้นมาได้อย่างไร และผลไม้ที่เกิดจากต้นไม้พิษจะเติบโตเป็นต้นไม้ที่ดีไม่ได้เลยเชียวหรือ

 

ในทางกลับกัน ... ผู้ที่ลงชื่อท้ายแถลงการณ์ก็คงได้เกิด ได้กิน ได้อยู่ ได้เรียน ผ่านทั้ง รัฐบาลเลือกตั้ง และรัฐบาลปฏิวัติ รัฐประหาร ได้ทุนหลวง ทุนรัฐบาล เอาเวลาราชการไปใช้ ให้เพื่อนร่วมคณะแบกรับภาระงานไว้ มีโอกาสมากกว่าคนไทยอีกหลายสิบล้านที่ก็ร่วมแบกภาระให้ท่านเหมือนกัน โดยหวังจะให้ท่านทำชาติให้น่าชื่นใจ แต่สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้บางทีอาจมีส่วนทำให้ท่านเหล่านั้น กลับกลายเป็นต้นไม้พิษ(Poisonous Tree) พร้อมที่จะผลิตผลไม้ที่มีพิษ จนแพร่หลายต่อไปในภายภาคหน้าก็ได้...

 

แต่คงไม่น่า!!!..(.หรือก็ไม่แน่.....หรอกนะ)

 

กาลิโอ...แล้วพบกันใหม่ แต่ผมจะไม่ใช่คนเริ่มต้นแน่

 

ท่านคมคายและเหนือชั้นจริงๆ นิติราดเป็นเด็กอมมือไปเลย




#895362 วรวรรณ ธาราภูมิ ตั้งคำถามถึงรัฐสภาไทย กรณี แก้ม.190

โดย Francis Drake on 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:08

ผ่องศรี ธาราภูมิ about an hour ago

ถ้าใครติดตามการแก้ไข รธน. มาตรา190 เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต่างจากการพิจารณากฏหมายทั่วไป ในการพิจารณาเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา วาระที่1 ฝ่ายค้านอภิปรายคัดค้านเต็มที่ ย้อนกลับไปดูได้ อยู่ในั้นกรรมาธิการร่วมก็ค้านสู้เต็มที่ขามวันข้ามคืน เมื่อกลับมาประขุมร่วมรัฐสภาผู้สงวนคำแปรญัตติเป็นร้อย สู้เต็มที่แม้ถูกปิดปาก พอถึงวาระ3 เป็นการลงมติขานชื่อทีละคนไม่มีการอภิปราย ผลก็ออกมาตามมติที่ปรากฏ ตามขั้นตอนคือรวบรวมหลักฐานที่กระบวนการพิจารณารวบรัด ไม่ถูกต้องตัดสิทธิผู้สงวนความเห็น และผู้สงวนคำแปรญัตติไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญซึ่งขั้นตอนนี้ ตาม รธน.ให้ทำได้หลังจากผ่านวาระ 3 ก่อนทูลเกล้า ยื่นก่อนไม่ได้ และ สส.ฝ่ายค้านร่วมกันเข้าขื่อยื่นต้อศาล รธน.ตามขั้นตอนแล้ว เรื่องนี้ย้อนไปดูการอภิปรายและข้อมูลของ สส.สรรเสริญ สมะลาภาได้ เหตุที่ยังไม่ได้พูดเรืองนี้ เพราะวันนี้วุฒิสภานัดพิเศษเรื่องร่างกฏหมายนิรโทษกรรม ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนทีละเรื่องจะได้ไม่สับสน เรื่อง 190 ค้านเต็มที่อยู่แล้ว โดยเฉพาะตัวเองได้เคยชี้ให้เห็นผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะเรื่องเขตแดน พื้นที่ทับซ้อน การเจรจาการค้าน่าห่วงเกษตรกรและผู้บริโภคด้วย เรื่องนี้มันยาวรายละเอียดเยอะต้องย้อนกลับไปดูค่ะ ยืนยันค้านเต็มที่แต่ตอนนี้เรื่องอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ สิ่งที่ต้องทำคือให้กำลังใจ ศาบรัฐธรรมนูญให้กล้่าหาญ ตรงไปตรงมาไม่หวั่นไหว วันนี้ศาล รธน.ก็นัดฝ่ายค้านไปขี้แจงกรณีร้องคัดค้านการแก้ไข รธน.มาตรา 68 ที่กระบวนการรวบรัดไม่ถูกขั้นตอนเหมือนกันค่ะ

 

 

======================================================




#893496 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย a.mtvv on 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 14:03

1459759_552309781516530_2139686955_n.jpg

 

สวยไม่แพ้ใคร ไม่ต้องถือป้ายก็ได้ ผมยอม :wub:




#893456 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย a.mtvv on 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 13:43

ภาพนี้แรงส์ แต่ได้ใจ

 

โอ๊ย เจอแต่ป้ายโดนๆ (จริงๆ นะ)

 

541781_552298574850984_970120280_n.jpg




#893338 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย a.mtvv on 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:55

เครดิต/Aui Kab

 

1014051_552274344853407_767477124_n.jpg




#893280 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย a.mtvv on 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:36

เวทีราชดำเนิน 12.33 น. ไปที่ #Asoke หนุ่ม สาว นักธุรกิจ ล้นทะลัก !!! เป่านกหวีด ต้านกม.คนโกง#ต้านนิรโทษกรรม

 

1463105_381413391992701_1461020891_n.jpg




#892273 เกมนี้ ถ้าคุณเป็นพรรคเพื่อแม้ว จะแก้ยังไง

โดย sigree on 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 23:21

หึหึ......ทีมเค้าประชุมกันแล้ว..........

ในพรรค.....มีคนมากมาย........

เป็นแพะ......ไปบ้างซักฝูง...........

ก็ไม่เสียหายอะไร..................

ครั้งหนึ่งผมได้อ่านเรื่องเรื่องหนึ่ง

มีชายคนหนึ่งขับรถสปอตไปรับหญิงสาวที่เขาจะขอเธอแต่งงาน  เธอรอที่ป้ายรถเมลล์กับ หมอคนหนึ่งที่กำลังมีเคสผ่าตัดด่วนที่ รพ  กับคนไข้อีก 1 คนที่เจ็บหนักและต้องไป รพ ทันทีไม่งั้นจะเสียชีวิตได้

 

รถสปอตที่ขับไปมีเพียง 2 ที่นั่ง  เขาควรทำไงดี................

 

ผมว่าหลายคนคงเคยอ่านเรื่องนี้  คำเฉลคือ เขามอบรถให้หมอพาคนไข้ไป รพ

แล้วเขาก็นั่งกับสาวคนรักที่ป้ายรถเมลล์ กุมมือและคุยกับเธอ.........

 

ผมเล่าเรื่องและเฉลยให้เพื่อนกลุ่มหนึ่งฟัง  มีคนหนึ่ง  เพียงคนเดียวไม่เห็นด้วยกับคำตอบโดยพูดว่า

 

ก็พูดได้สิ  พวกนายไม่ใช่เจ่าของรถ  ถ้าเป็นเจ้าของรถไม่มีทางไว้ใจมอบรถให้ใครหรือก  แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นหมอที่จ่ายหรือรับผิดชอบรถได้ก็ตาม

 

คำพูดของเพื่อนผมคนนี้ทำให้ผมคิดถึงทักษิณ  เขาคือเจ้าของรถสปอตที่ไม่ยอมทิ้งรถนั้นเอง

 

แม้มีคำตอบที่ดีที่สุด  และเขาก็รู้ว่าดีที่สุด

 

แต่เขาไม่ต้องการทิ้งรถ............