Jump to content


KundeT

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 9 พฤศจิกายน 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2557 19:49
-----

#752473 ล็อคอิน เด็กปากดี คือ hentai ใช่หรือไม่ ............?

โดย eAT on 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:19

 

ในที่สุดก็ปิดท่าน จขกท ไม่ได้แล้วจริงๆ สินะ

 

นับถือครับ นับถือ

 

ว่าแต่รู้ได้อย่างไรครับ แล้วรู้นานรึยัง?  :D

 

ตายละวา เราเองก็นึกไม่ถึง

 

 

ผมเฉลยก็ได้ครับ

ทั้งบอร์ดนี้ เล่นกันไม่ถึง 5 คน

เล่นกันหลายล๊อคอิน หลอกคนเข้ามา

นี่เรื่องจริงนะครับ ไม่ได้ "อำ" เล่น  :angry:




#752452 ล็อคอิน เด็กปากดี คือ hentai ใช่หรือไม่ ............?

โดย -3- on 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:09

ในที่สุดก็ปิดท่าน จขกท ไม่ได้แล้วจริงๆ สินะ

 

นับถือครับ นับถือ

 

ว่าแต่รู้ได้อย่างไรครับ แล้วรู้นานรึยัง?  :D




#748899 มั่นใจคนไทยเกินล้านไม่เชื่อ-"ฆ่าชิงทรัพย์ประเภทไหน ลำบากเขียนเช็ค แต่เอาส...

โดย chaidan on 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 06:13

หาไม่เจอก็กลับ หรือว่าเดี๋ยวค่อยกลับมาหาวันหลัง พระสมเด็จระดับนี้มีแต่คนอยากได้ 

 

หรือมีคนได้ไปแล้วครับ ???

:rolleyes:




#748674 มั่นใจคนไทยเกินล้านไม่เชื่อ-"ฆ่าชิงทรัพย์ประเภทไหน ลำบากเขียนเช็ค แต่เอาส...

โดย idecon on 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:57


น่าแปลกใจ !!! ที่การปิดคดีฆาตกรรมชิงทรัพย์ที่นำไปสู่ความตายอันแสนหฤโหดของ “เอกยุทธ อัญชัญบุตร”นักธุรกิจระหว่างประเทศ อดีตเจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์ผู้โด่งดัง  กลับแปรสภาพเป็นความกังขาของประชาชนทั่วไปที่ติดตามข่าวนี้กันอย่างกระชั้นชิด

รูปคดีตั้งแต่ต้นจนจบเต็มไปด้วยเงื่อนงำ ปริศนา ข้อสงสัยและพิรุธ เพียบ ถ้าเปรียบคดีนี้เป็นหนัง  ก็เรียกว่า หนังเรื่องนี้ มือเขียนบท  ผู้กำกับ และนักแสดง “ห่วยแตก”  หนึ่งคดี แต่ต่างคนต่างพูด...เหลือแต่ศพที่พูดไม่ได้แล้ว...หมอพรทิพย์ก็โดนย้าย  อะไรๆดูเหมือนแนบเนียนแต่ไม่แยบยล

คดีร้อนเริ่มที่ เอกยุทธหายตัวไป!!! ตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดี (6 มิ.ย.56) ทนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ กับ ญาติพี่น้องของเอกยุทธกำลังเข้าแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง

เรื่องตั้งต้นด้วยเคลืยบแคลงว่า เขาอุ้มตัวเอง  หรือ โดนอุ้มกันแน่

เอกยุทธ อัญชันบุตร วัย 56 ปี มีกรณีวิจารณ์รัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ อย่างเผ็ดร้อน ตอนล่าสุดก็ประเคนเรื่อง นักการเมือง-ข้าราชการ –คนมีสี-นักธุรกิจไทยขนเงินไปฝากเกาะใหญ่ในต่างแดน และ น้ำทะเลหวานกับ “ผัวหมอ”ที่มัลดีฟ

ภายหลังเมื่อพบร่างของเขาแล้ว  ทั้งสองประเด็นนี้ที่ถูกวิเคราะห์ว่า นำไปสู่ความตายที่โยงการเมืองอย่างมีการวางแผนล่วงหน้าด้วย “นกต่อ”ในนามคนขับรถ

“ผมรู้ตัวตลอด คนเราถึงเวลา ก็ต้องไป แต่ก่อนไป ผมไม่ยอมไปแบบไม่สู้” เอกยุทธพูดอย่างนี้เสมอๆกับสื่อที่เฝ้าถามถึงความปลอดภัยหลังจากได้สมญานามว่า “จอมแฉ”

ด้วยความสุ่มเสี่ยงรายล้อมรอบตัว เอกยุทธจำเป็นต้องมีบอดี้การ์ดนับสิบคนรายล้อม จะไปไหนมาไหนแต่ละทีไม่เคยเงียบเชียบ  ดูออกจะเอิกเกริกเสียด้วยซ้ำไป  เวลาไปกิน-ไปเที่ยวยามราตรี เขาจะมีประกายของคนมั่งคั่ง แต่งกายดี หรูหราระยิบระยับ ใจคอกว้างขวาง พูดเร็ว หัวเราะเสียงดัง ชอบสูบซิการ์ ดื่มไวน์แดงราคาแพง และ ไม่กลัวที่จะมีเรื่องหากไม่เข้าหู ในกระเป๋าพกจึงมีปืน และในรถจึงมีอุปกรณ์ป้องกันภัยยามฉุกเฉิน น่าแปลกที่สิ่งเหล่านี้หายไปในวันที่เขาหายตัวและตายอย่างน่าเวทนา

เช้าวันอาทิตย์ (9 มิ.ย 56) ข่าวเอกยุทธหายตัวไปถูกสื่อรายงานอย่างครึกโครม  แต่แรกข่าวบอกเพียงว่า เขาไปกินเลี้ยงกับเพื่อนที่ร้านครัวกระแต ย่านประดิพัทธ์สะพานควาย  แต่ไม่กลับบ้าน

พิรุธและสัญญาณขอความช่วยเหลือของผู้ตาย เริ่มที่กล้องวงจรปิดถูกแกะเซิฟเวอร์ออกไป ประตูหลังบ้านปิดไม่สนิท พี่สาวเล่าว่า เอกยุทธ?รปลุกกลางดึก เพื่อถามหากุญแจสำรอง ทั้งไม่ไปตีกอล์ฟกับเพื่อนในเช้าวันศุกร์(7 มิ.ย.56)  แต่โทรมาขอให้ถือสมุดเช็คไปให้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ คนส่งเช็คไม่เห็นเอกยุทธ เจอแต่คนขับรถชื่อสันติภาพ “บอล” เพ็งด้วง  วัย 23 ปีมารับแทน และ กลับมาในอีกครึ่งชั่วโมงให้หลัง เมื่อนำเงินไปขึ้นให้ก็พบว่าเช็ค 3 ใบ 5 ล้านเขียนปี พ.ศ. ผิดไป 1 ใบจากปี 2556 เป็น 2553 เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรเช็คกับเอกยุทธเรียบร้อย ก็ปล่อยเงิน คนส่งเช็คนำเงินมาส่งที่สนามบินอีกรอบในช่วงบ่ายแก่ๆ แล้วเจอแต่คนขับรถเช่นเดิม จากนั้นก็ไม่มีใครพบเอกยุทธอีกเลย จนมีการแจ้งความเกิดขึ้น และนั่นเองคือจุดแรกของข่าวใหญ่เมื่เอกยุทธหายไปพร้อมพิรุธมากมาย หนึ่งในนั้นคือกล้องวงจรปิดถูกปลด และไอโฟน 5 ถูกขายที่เยาวราช

ความที่เอกยุทธเป็นคนมีประวัติโชกโชน  ชีวิตมีลวดลายสวิงสวายไม่เป็นสองรองใครในยุทธจักรนักเลง ทั้งยังต่อต้านรัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์และนักการเมืองชั่วออกนอกหน้า  ทำให้ผู้คนสนใจข่าวการหายตัวไปของเขากันอึงมี่ ดูเหมือนว่า หนังเรื่องนี้ยาวและลึกลับ  เป็นการหายและมาตายที่เต็มไปด้วยพิรุธและข้อสงสัย “ใครบงการ”

การจับกุมนายสันติภาพ สาวถึงพ่อที่เป็นทหาร และคนทั้งพัทลุงรู้จักครอบครัวนี้ดีว่า ดีกรีแค่ไหน   ยิ่งสันติภาพแถลงข่าวกลับไปมาวกวน  ทำให้สังคมยิ่งสงสัยตำรวจ ยิ่งหนึ่งในทีมสอบสวน พ.ต.อ.กันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. เดิมชื่อ ชิดชัย เลี่ยมสงวน เป็นหนึ่งในอดีตผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่าทนายสมชาย นีละไพจิตร รวมอยู่ด้วย คดีนี้ยิ่งน่าสงสัยขึ้นไปอีก

จากคนหายกลายเป็นคนตายในเพียงไม่กี่วัน และจากคนรถกลายเป็นคนร้ายก็ภายในไม่กี่ชั่วโมงของการสอบปากคำ  เพียง 4 วันให้หลัง “บิ๊กแจ๊ส” ก็เปิดแถลงข่าวสยบเสียงวิจารณ์ของโลกออนไลน์ที่ว่ากันไปเป็นตุเป็นตะต่อการหายตัวที่ไร้ร่องรอยแต่เต็มไปด้วยเสียงร่ำลือว่า คนไม่หายแต่ต้องตายเพราะ “โดนอุ้ม” จากเสธ คนดัง

“คำรณวิทย์” จูง “สันติภาพ เพ็งด้วง” ฝ่าดงตีนลูกน้องเอกยุทธมาแถลงข่าวอย่างทุลักทุเล   วันนั้น ผู้ต้องสงสัยได้เล่าว่า “นายเอกยุทธหอบเงิน 5 ล้านไปกับรถสีดำ 2 คันบ่ายหน้าไปพม่า ไม่รู้จะหวนกลับมาเมื่อไร”  เงื่อนงำที่คาดว่า จะคลี่คลายกลับกลายเป็นคดีปริศนา ยากหาใครเชื่อว่าชิงทรัพย์

คนขับรถถูกสงสัย แต่ตำรวจถูกสงสัยยิ่งกว่า ทำให้คดีร้อน ชิงทรัพย์ปิดไม่ลงตัว แต่มีคดีซ้อนอุ้ม-ฆ่าล้างแค้นประกบตามเป็นเงา  เสียงเล่าของผู้ต้องหาไม่มีน้ำหนัก แต่เสียงกลับชัดและนับวันกระหึ่ม “เสธ มีสีรับงานอุ้ม-ฆ่า”  

ดีที่ว่าวันนี้คนในโลกออนไลน์เรียกร้องให้สังคมไทยไม่ยอมรับกับเรื่องโสโครก แบบนี้แล้ว  แม้เอกยุทธจะเป็นคนมอมแมมสีเทา แต่ใครก็ไม่มีสิทธิอุ้มเขาไปฆ่า***มโหดเลือดเย็น กระบวนการทางกฏหมายต้องถูกนำมาใช้   ไม่ใช่วิธี อุ้ม-ฆ่าป่าเถื่อน

รองนายกรัฐมนตรีเฉลิมยังมีหน้าสามหาวมาขู่ ประชาชน--พวกนักเคลื่อนไหวว่า “อย่าตายละ ไม่งั้นพวกผมจะเดือดร้อน”  เป็นวาจาร้อนหู แสดงถึงการใช้อำนาจบาตรใหญ่คุกคาม ข่มขู่ ไม่เกรงใจ สังคมเริ่มพูดกันว่า นักการเมืองไม่มีสิทธิข่มเหงประชาชน  ไม่แม้แต่เพียงปลายก้อย

คนไม่เชื่อว่าเอกยุทธถูกฆาตกรรมจากคนขับรถเพื่อหวังชิงทรัพย์ 5 ล้าน แต่คนเชื่อไปแล้วว่า เขาถูกการเมืองฆ่าและเอาศพเปลือยประจานอย่างเลือดเย็น 

โชคดีที่วันนี้มีโลกออนไลน์ การฆ่าคนตายสักคนจึงไม่เลือนหายไปกับสายลมเหมือนคดีๆอื่นๆที่เคยผ่านมา หรือแม้แต่ที่ผ่านไปหยกๆอย่าง “สมชาย นีละไพจิตร”

คนไทยต้องไม่ยอมให้เกิดกรณีคนมีสี–อุ้ม-ฆ่า อีกต่อไปแล้วและคดีเอกยุทธต้องเป็น“ศพสุดท้าย” …ถ้าขืนยอมต่อไป...ลูกหลานเราจะอยู่เป็นสุขสงบไม่ได้เลย..เพราะถ้าใครไม่พอ ใจใครก็อุ้ม-ฆ่ากันง่ายๆ อย่างนี้หรือ  เรื่องนี้สำคัญกว่า แก้กฏหมาย”อุ้มพี่ชายโกงชาติ” กลับบ้านมาโกงต่อแน่นอน

ความคลางแคลงใจในคดีที่มีรูรั่วเหมือนตามด  เริ่มที่ทนายสุวัตรจับมือทนายนกเขาเข้าไปคุยกับคำรณวิทย์ ขณะที่ทนายสาว “ปุย” เร่ไปคุยกับ “สันติภาพ” ที่ยังไม่ถูกตั้งข้อหา  สองคนนี้เป็นคนพัทลุงเหมือนกันปิดห้องคุยกันยาว  และสุดท้าย สันติภาพเอ่ยปากกับทนายสาวว่า “พี่ๆช่วยผมด้วย”

สันติภาพ  เพ็งด้วง อายุแค่ 23 ปีเอง คือ พนักงานใหม่ที่เพิ่งรับมาจากการประกาศรับสมัครคนขับรถบนเว็บไซต์ไทยอินไซ เดอร์ มารู้ประวัติภายหลังว่า เขาติดการพนันเป็นหนี้นับล้าน ได้พนักงานในบริษัทเอกยุทธวัย 40 เศษเป็นแฟน ภายหลังผู้หญิงคนนี้ถูกไล่ออกเพราะจับได้ว่ายักยอกเงินไปเป็นล้าน  ต่อมาเอกยุทธไม่ค่อยเชื่อใจ ร่ำๆจะเปลี่ยน ก็พอดีมาเกิดเรื่องร้ายเสียก่อน

คาดได้ว่าอนาคตสันติภาพและเพื่อนร่วมแก๊งค์ก็จบแบบศพไม่สวยตาม ธรรมเนียมตอนจบของเรื่องอุ้ม-ฆ่า  เพราะคดีที่ทำท่าจะจบกลับพลิกฟื้น  เมื่อสันติภาพให้การวกวน  แต่ของคนตายที่หายก็สืบหามาหมดไม่ว่าจะแก้วแหวนเงินทองขาดอย่างเดียวคือ  โทรศัพท์ 4 เครื่อง  ซึ่ง 1 ใน 4 อยู่เยาวราช แต่ทุกเครื่องถูกสอบการใช้แล้วโดยทนายนกเขา...จุดนี้ละทำให้เรื่องไม่จบ..เพราะโทรศัพท์ 2 ใน 4 อยู่ในมือของ “สันติภาพ”  ทนายเห็นแล้วว่า เขาโทรคุยกับใครในระหว่างขนศพไปฝังที่พัทลุง

บนความกังขาบนความตายของเอกยุทธ มี“ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์”สรุปบัญญติ 12 ประการเอาตัวรอดจากการถูกอุ้ม เท่ากับตอกย้ำความจริงในเมืองไทยว่า อำนาจยืนอยู่เหนือกฏหมายและหลักการ  เราอยู่แบบนี้ไม่ได้แล้ว

แม้แต่วงการทูตนานาประเทศในเมืองไทยก็ไม่มีใครเชื่อว่า คนขับรถวัยละอ่อน ติดการพนัน ลายมือเท่าหม้อแกงโย้เย้สะกดผิด จะมีปัญญาวางแผนฆ่าเอกยุทธอย่างแยบยล

การตายของเอกยุทธนั้นบนหน้าฉากก็เรื่องหนึ่ง แต่หลังฉากก็ถูกสืบเสาะจนกลายเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่ง  เหมือนหนังคนละม้วน เหมือนชิงทรัพย์ก็เหมือน เหมือนล้างแค้นก็เหมือน เหมือนจะเนียนแต่ไม่เนียน แต่ที่เหมือนยิ่งกว่าคือ คดี ว.5  กับชิงทรัพย์ 5 ล้าน

เวลานี้สื่อกลุ่มหนึ่งแข็งขันท่องจำเหมือนนกแก้วว่า คดีเอกยุทธจบง่าย เรื่องส่วนตัว ผู้ต้องหาถูกจับครบ ข้อหาปล้นทรัพย์ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ไม่เกี่ยวการเมืองเขียนและพูดกันจนเชื่ออย่างเชื่องๆ

เรื่องอุ้ม-ฆ่ากลับมาอีกครั้งในวันที่นายกรัฐมนตรีหญิงยิ่งลักษณ์เที่ยวประกาศทุกเวทีโลกว่า “บูชาประชาธิปไตย “  ต่อต้านรัฐประหาร และร่ำร้องฟูมฟายหาความยุติธรรมให้ “พี่ชาย” ซ้ำซาก 

นายกรัฐมนตรีหญิงที่เข้าร่วมประชุมสื่อโลกและกล่าวต่อหน้าสื่อมวลชนนานาชาติว่า “เสรีภาพคือหัวใจสำคัญของสื่อมวลชนและเป็นประโยชน์กับทุกสังคมยิ่งยวด” 

แต่นายกรัฐมนตรีคนเดียวกันนี้นี่ละที่ไม่อินังขังขอบกับความตายของ“เอกยุทธ” คู่กรณีในคดี ว.5 ชั้น 7 โฟร์ซีซั่นจนน่าสงสัยว่า ทำไม คดีอุกฉกรรจ์กับคู่กรณีนายกรัฐมนตรีกลับไม่พูดไม่จา

ออกจะเห็นด้วยกับพี่โสภณ องค์การที่ว่า ความจริงไม่ตายและความลับไม่มีในโลก  สักวันน้ำลดตอผุดแน่นอน 

เอกยุทธยังมีฤทธิและเป็นพิษกับทักษิณ-น้องสาว อย่างมิพักต้องสงสัย แม้จากไปแต่ได้เกิดแรงกระเพื่อมชวนให้ใส่หน้ากากขาวออกมาต่อต้านนักการเมือง ชั่วทำลายชาติต่อต้านอุ้ม-ฆ่ากระหึ่มก้อง  และตอกย้ำว่า ไม่มีอะไรทำให้เรากลัวเท่ากับความกลัวที่จะไม่กล้าทำ

เหมือนที่มาร์ติน ลูเธอร์ คิง  จูเนียร์ บอกว่า  ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกว่าโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของช่วงเปลี่ยนผ่านสังคมในยุคนี้  ไม่ใช่เสียงเอ็ดตะโรโฉ่งฉ่างของคนชั่ว แต่เป็นความเงียบกริบอย่าน่าใจหายของคนดีต่างหาก.

แนวหน้า

-----------------------------------

ถ้าใครจำได้ ข่าวของคุณเอกยุทธเริ่มต้นที่ facebook จากเจ๊ปอง อัญชลี ที่ตั้งข้อสงสัยไว้ จนข่าวกระจายบนสังคมออนไลน์ มีนักสืบโคนันผู้กล้าหาญผุดขึ้นมาในโซเชียลมีเดียกันเป็นแถว แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ ลับสมอง ใช้ตรรกกะกันแบบไม่ขาดสาย

และวันนี้เจ๊ก็เอามาเขียนตอกย้ำอีกที เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่ โดยเฉพาะข้อมูลทางโทรศัพท์ของคนขับรถทรยศนาย ที่ทนายความเห็นแล้วแล้วเมมโมรี่ในความจำของตนเองว่า บ่าวฆ่านายคนนี้ ได้กดออกไปหาใครบ้าง ในขณะเดินทาง แล้วสิ่งที่เขาขอความช่วยเหลือไปยังทนายสาวคนจังหวัดเดียวกันนั้น เขาได้พร่างพูรบรรยายความในใจไปสู่คำพูดอะไรออกไปบ้าง หรือจะเงียบเป็นเป่าสาก

ติดตามทีมงานพี่สุวัตรให้ดีๆคงจะมีชีอตเด็ด ให้ได้ดูแน่นอน อย่ากระพริบตาเป็นอันขาดเชียว บทละครเพิ่งถูกเขียนขึ้นมา ใครจริง ใครเท็จ เดี๋ยวก็รู้ เมื่อนั้น จะรู้ว่า เอกยุทธพลั้งพลาดไปตาย หรือโดนใครสั่งใ้ห้ตาย

วันนี้เอกยุทธตายแล้ว แต่โลกใบนี้ยังคงต้องหมุนต่ออยู่ดี และเช่นเดียวกัน การต่อสู้กับระบอบทักษิณ ก็ยังจะต้องดำรงอยู่ต่อไป จนกว่าจะจบ ดังคำกล่าวของเอกยุทธที่ฝากไว้ อย่างไร ก็มีคนเช็คบิลต่ออย่างแน่นอน

หาความสงบสุขไม่ได้แล้ว เหลี่ยมเอ๋ย

ข้อมูลจาก
ทนายเบิ้ม
block ok nation

ลองพิจารณากันดูแล้วกัน


#748601 มั่นใจคนไทยเกินล้านไม่เชื่อ-"ฆ่าชิงทรัพย์ประเภทไหน ลำบากเขียนเช็ค แต่เอาส...

โดย voodoo on 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:19

โจรนะครับ จะให้ฉลาดกว่านายกได้ไง




#748833 -------:: :: อะไร อะไร ก็เอกยุทธ :: ::-------

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 02:12

 

(ถ้าเป็นคนดีอย่างท่านมหาตมะ คานธี หรือ ท่านปรีดี ก็ว่าไปอย่าง)

 

 

ผมเกิดมาไม่ทันยุคปรีดี  (ผมเชื่อว่าท่านก็ไม่ทันอะนะ)

จึงสรุปตามประวัติศาสตร์ที่มีบันทึกไว้

 

ผมเห็นว่าท่านปรีดีก็ ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ นะครับ

ท่านมีอุดมการณ์จริง แต่ก็เป็นคนสีเทา  แม้ไม่ดำจัด แต่ก็ไม่ขาวจัด

ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องขนาดที่พวกท่านยกย่องกันหรอกครับ

 

ในฐานะผู้สำเร็จราชการ ท่านเองก็หวังอำนาจเหมือนกัน ถึงได้เลือกราชนิกุลที่ท่านเชื่อว่า "ตนคุมได้"

เมื่อร.8 ทรงเจริญพระชนม์พรรษา เป็นคนหนุ่มที่มีพลังชีวิต มีกำลังความคิด ท่านปรีดีก็ส่ง "คนของตัวเอง" มาทำงาน ถวายรับใช้

แบบนี้มันส่งคนของตนมาประกบชัดๆ

 

คนที่ไต่เต้าขึ้นมาถึงขั้นเลือก "เด็กน้อย" เป็นกษัตริย์เพื่อควบคุมได้ง่าย และตั้งตนเป็นผู้สำเร็จราชการแทน

คุณคิดว่าอินโนเซ้นส์นักหรือครับ

ผมว่าไม่นะ

 

อีกอย่าง  ตลอดเวลาที่กลุ่ม 2475 เปลี่ยนแปลงการปกครองมา

บวกกับตลอดเวลาที่ท่านปรีดีอยู่ในอำาจ

ท่านเคยให้การศึกษาเรื่องระบอบประชาธิปไตยแก่ชาวบ้านทั่วสยามอย่างจริงจังหรือเปล่า?

ไม่เห็นจะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยนะครับ

นั่นก็พิสูจน์ความจริงใจระดับหนึ่งแล้วละ

อย่าบอกว่าท่านปรีดีตั้งมธ.นะครับ  นั่นมันสำหรับชนชั้นไหน?

ผมบอกว่า..เคยให้ความรู้แก่ชาวบ้านทั่วไปเรื่องประชาธิปไตยหรือเปล่า?  เปล่าเลยสักนิด

 

 

ผมไม่ว่านะครับที่พวกคุณจะเชิดชู่ยกย่องเป็นไอด้อลผู้บริสุทธิ์

แต่ผมไม่ซื้อมุกนี้ครับ




#746570 คดีเอกยุทธ-"สายล่อฟ้า" เล่าเบื้องลึกที่สื่อไม่ได้ลง ชวนอึ้งมากๆว่ามัน...

โดย isa on 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:38

 

เกือบจะรอดแล้ว ....... แต่ถึงฆาตจริงๆ  เอกยุทธิ์ ฉลาดมากๆ แต่คนอื่น ไม่ทันแก 

 

 

 

ขอให้ไปสู่สุขติ ครับ...........อนิจจา ไม่ว่าจะเป็นใคร ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้

 

ผมเคยเรียนถามพระสายวัดป่า ท่านให้ข้อคิดดีมากเลยครับ

ท่านบอกว่า วิบากกรรม หรือกรรมแต่กาลก่อน ไม่ได้มาในรูปแบบที่คนไทยคิดกัน

การที่เราไม่เกิดปัญญาที่จะคิดหาทางออกได้ ยังคงหลงผิดอยู่ในการทำความผิดนั้น เท่ากับเราต่อเวรต่อกรรมไปเรื่อยๆ ลงหลุมลึกเรื่อยๆ

น่นคือผลของกรรม ที่ทำให้เราหยุดไม่ได้ คิดไม่เป็น

(กรณีนี้ตรงกับทักษิณ ผมถึงเชื่อว่าทักษิณมีกรรมหนักมาก เพราะป่านนี้ยังลงหลุมลึกเรื่อยๆไม่หยุด ไม่เกิดปัญญา คิดไม่เป็น)

 

 

 

ปล. ผู้หลักผู้ใหญ่เคยสอนว่าคนที่หลับตายอย่างสงบ คือทำบุญมาดีนัก

ผมเชื่อแล้วครับว่าจริง

 

 

ตรงนี้ของคุณผึ้ง ตรงใจกับที่ผมคิดเหมือนกันครับ แต่ผมคิดไปอีกอย่าง...

 

ประเทศไทยคงอยู่ในช่วงบาปกรรมตามทันเหมือนกัน

ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราเป็นประเทศธรรมะ เป็นม้าอารีที่่ช่วยเหลือเพื่อนบ้านตลอด

เราก็เลยผ่านเรื่องราวร้ายๆหนักๆมาได้ตลอด แม้จะไม่ถึงกับดีเท่าไหร่

 

แต่ช่วงที่ผ่านๆมา เราหลงระเริงไปกับวัตถุจนจิตใจคนในสังคมจำนวนมากเสื่อมลงอย่างเหลือเชื่อ

เพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของคนในสังคม ดูถูกดูแคลนคนที่ต่ำกว่า

โดยเฉพาะพฤติกรรมที่คิดว่า "ลูกค้าต้องถูกเสมอ...หรือ...จ่ายเงินไปแล้ว ต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการ..."

เห็นเงินเป็นพระเจ้า ว่างั้น

(พวกแดงมักจะเหมาว่าพฤติกรรมพวกนี้เป็นของพวกเหลืองหรือสลิ่ม แต่ผมกลับพบว่า

คนชั้นกลางที่เป็นแบบนี้มักจะเป็นพวกกลางกลวง หรือไม่ก็แดงไปเลยมากกว่า

เพราะถ้าคุณไม่มีสำนึกรับผิดชอบสังคม คุณก็คงไม่ออกมาต่อสู้เพื่อสังคมหรอก )

คนชั้นกลางบางกลุ่มทำทุกอย่างเพื่อเงิน แม้จะขายตัว ขายศักดิ์ศรี น่าเศร้าที่คนพวกนี้ไม่ใช่คนยากจนไร้ทางเลือก

แต่เป็นนักศึกษา เป็นคนมีความรู้ที่มีอนาคตรออยู่ข้างหน้าด้วยซ้ำ

 

แม้แต่สถาบันๆในสังคมก็เสื่อมลง ไม่ว่าจะเป็นศาสนา การศึกษา สื่อมวลชน ฯลฯ เรียกว่าเราอยู่ในยุคเสื่อมอย่างแท้จริง

ครั้งหนึ่งเราปล่อยให้คนถูกฆ่าตัดตอนไปถึงสองพันกว่าคน ปล่อยให้คนถูกฆ่าในภาคใต้ไปเป็นพันๆคน

โดยมองผ่านตาแบบไม่รู้สึกรู้สา ...หลังจากนั้นเราก็โดนสึนามิไปเต็มๆ มันก็น่าจะเตือนอะไรได้สักอย่าง

 

เรามีคนที่ออกมาต่อสู้ขับไล่รัฐบาลเลวๆ แต่กลับถูกนักวิชาการ สื่อหัวก้าวหน้าใส่ไคล้ กลายเป็นสมุนเผด็จการ

คนที่ออกไปตาย แม้จะเป็นน้องผู้หญิงจิตใจบริสุทธิ์ แต่กลับถูกใส่ความว่าพกระเบิด ระเบิดใส่ตัวเองตายเอง

แล้วสังคมส่วนใหญ่ก็ดันเชื่อ ใช้คำมักง่ายแค่ "ปิดสนามบิน" ก็ปล้นความชอบธรรมหรือคำยกย่องที่ควรจะได้

จากการเสียสละออกไปเสี่ยงตายเพื่อสังคมได้โดยสิ้นเชิง 

 

คนในสังคมส่วนหนึ่งมืดบอด ปล่อยให้คนชั่วๆชักนำ พาทั้งตนเองทั้งประเทศตกต่ำลงไปทุกทีๆ

คนส่วนใหญ่เพิกเฉย มึนชา มองเห็นแต่ชีวิตสนุกสนานข้างหน้าตัวเอง ด่าทุกอย่างที่ขัดความสนุกของตน

ขณะที่คนกลุ่มเล็กๆที่มีปัญญา มองเห็นหายนะ พยายามจะร้องเตือน แต่ไม่มีคนรับฟัง...

ภาพมันคุ้นๆหรือเปล่า?   -_-




#746529 คดีเอกยุทธ-"สายล่อฟ้า" เล่าเบื้องลึกที่สื่อไม่ได้ลง ชวนอึ้งมากๆว่ามัน...

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 02:55

เกือบจะรอดแล้ว ....... แต่ถึงฆาตจริงๆ  เอกยุทธิ์ ฉลาดมากๆ แต่คนอื่น ไม่ทันแก 

 

 

 

ขอให้ไปสู่สุขติ ครับ...........อนิจจา ไม่ว่าจะเป็นใคร ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้

 

ผมเคยเรียนถามพระสายวัดป่า ท่านให้ข้อคิดดีมากเลยครับ

ท่านบอกว่า วิบากกรรม หรือกรรมแต่กาลก่อน ไม่ได้มาในรูปแบบที่คนไทยคิดกัน

การที่เราไม่เกิดปัญญาที่จะคิดหาทางออกได้ ยังคงหลงผิดอยู่ในการทำความผิดนั้น เท่ากับเราต่อเวรต่อกรรมไปเรื่อยๆ ลงหลุมลึกเรื่อยๆ

น่นคือผลของกรรม ที่ทำให้เราหยุดไม่ได้ คิดไม่เป็น

(กรณีนี้ตรงกับทักษิณ ผมถึงเชื่อว่าทักษิณมีกรรมหนักมาก เพราะป่านนี้ยังลงหลุมลึกเรื่อยๆไม่หยุด ไม่เกิดปัญญา คิดไม่เป็น)

 

อีกอย่างคือการที่เราทำสิ่งใดแล้วไม่มีคนเข้าใจ ไม่มีคนช่วยเหลือเลย  มืดมนมาก  นั่นก็ผลของกรรมวิบากเช่นกัน

(กรณีนี้ตรงกับคุณเอกยุทธ)

 

ผมตามข่าวคุณเอกยุทธ  ผมก็อดคิดไม่ได้ครับว่าเขาเสียชีวิตแบบทรมานสุดแล้ว

1. ไม่ได้ตายทันที  แต่รอ 2 วันกว่าจะตาย

2. ส่งสัญญาณหาใคร ไม่มีใครจับสัญญาณได้สักคน

3. ขนาดหนีออกมาจากรถได้ ก็กลับสิ้นโอกาสรอด

 

ผมมานั่งคิดว่าคนที่ประสบอุบัติเหตุสยอง แต่ตายคาที่ทันที  ยังไม่ทรมานเท่านี้เลยครับ

 

ปล. ผู้หลักผู้ใหญ่เคยสอนว่าคนที่หลับตายอย่างสงบ คือทำบุญมาดีนัก

ผมเชื่อแล้วครับว่าจริง




#746124 ฝนตก สี่วัน ท่่านด๊อกถามว่า ผู้ว่า กทม. ทำไรอยู่ 5555

โดย plunk on 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:52

ทำงานซิจ๊ะ ก็คน กรุงเทพส่วนใหญ่ เลือกผู้ว่าเข้ามาแล้ว


#745278 คำรณวิทย์ นายแน่มาก

โดย Tatiana on 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 02:45

ถ้าเรามามองเรื่องเหตุจูงใจให้ฆ่าเอกยุทธ คงจะมีดังนี้

 

1.ฆ่าชิงทรัพย์ มีความเป็นไปได้น้อยมากที่คนขับรถจะทำโดยไม่มีใครวางแผนให้

 

2.ฆ่าล้างแค้นหรือฆ่าปิดปาก ซึ่งมีได้หลายสาเหตุ

   2.1 คดีแชร์ชาร์เตอร์ เป็นไปได้ แต่ไม่น่าใช่ตอนนี้

   2.2 ว.5 โฟว์ซีซั่น เอกยุทธอาจเก็บความลับไว้ยังไม่เปิดเผย

   2.3 ความขัดแย้งกับ ผบช.น พล.ต.อ.คำรณวิทย์

   2.4 เอกยุทธประกาศตัวชัดแจ้งว่าอยู่ตรงข้ามทักษิณ ชินวัตร

 

ข้อ 2.2, 2.3 และ 2.4 มีความเกี่ยวโยงโดยตรงกับนักการเมืองพรรครัฐบาลและข้าราชการที่ประกาศตัวชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายรัฐบาล เหตุจูงใจทั้ง 3 ข้อนี้รวมกันน่าจะมีน้ำหนักมากกว่าอย่างอื่น ไม่น่าใช่เรื่องยากสำหรับมืออาชีพที่จะคลำทาง ที่สำคัญบรรดาผู้ที่มีเหตุจูงใจไม่สมควรยุ่งเกี่ยวกับคดี




#744497 รัฐถังแตก เริ่มไล่บี้เก็บภาษีโรงเรือน

โดย พิฆาตอสูร on 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:47

ไม่รู้ว่า ระหว่างสรรพากร กะ ตำหนวด

 

ใครเก็บส่วยเก่งกว่ากัน :D  :D :D  




#743464 "รัฐบาลใช้เงินภาษีประชาชนแล้วบอกว่าตัวเลขเป็น “ความลับ” นั้น ย่อมแสดงถึงค...

โดย wat on 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:38

 

วันที่รัฐมนตรีพาณิชย์ ประกาศว่า ตัวเลขขาดทุนโครงการจำนำข้าวแจ้งกับประชาชนไม่ได้ เพราะ “ยังไม่ปิดบัญชี”

 

เป็นวันเดียวกับที่นายกฯประกาศให้กระทรวง ทบวง กรม ทำการ “ประชาสัมพันธ์เชิงรุก” เพราะสาธารณชนไม่รู้ถึงผลงานมากมายของรัฐบาล และหลังจากที่นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินสายต่างประเทศด้วยคำปราศรัยตอกย้ำความสำคัญของระบอบ “ประชาธิปไตย” ที่ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศอย่างกว้างขวาง รัฐมนตรีพาณิชย์บุญทรง เตริยาภิรมย์ บอกว่า ข้อมูลที่ว่าโครงการจำนำข้าวขาดทุน 2.6 แสนล้านบาทไม่เป็นความจริง และผู้ออกข่าวเช่นนั้นมี “เป้าหมายทางการเมือง” ผู้คนจะเชื่อสนิทใจ หากรัฐมนตรีจะแสดงหลักฐานเพื่อรายงานประชาชนตัวเลขขาดทุนจริง ๆ เท่าไหร่ และจะต้องใช้เงินภาษีประชาชนอีกเท่าไหร่ในฤดูหน้า อีกทั้งบอกด้วยว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถขายข้าวที่แพงกว่าราคาตลาดได้ในตลาดต่างประเทศ

 

แต่ท่านรัฐมนตรี บอกว่า ยังบอกไม่ได้ เป็นความลับ เพราะการจำนำข้าวยังอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ จึงยังไม่มีการปิดบัญชี ทำไมยังไม่มีการปิดบัญชี? รัฐมนตรีตอบว่า เพราะการจะปิดบัญชีได้ต้องทราบผลการขายข้าวที่ได้จากการรับจำนำให้ชัดเจนก่อน ซึ่งคาดว่าจะใช้ต้องเวลาประมาณ 2-3 ปี... 2-3 ปี?

 

ท่านรัฐมนตรีบอกด้วยว่า กระทรวงฯ ยังระบายข้าวออกจากสต็อกไม่หมด ทำให้ยังปิดรอบบัญชีโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้ และราคาข้าวที่ระบายออกผ่านรัฐต่อรัฐ (g-to-g) แต่ละประเทศก็มีราคาขายที่แตกต่างกัน แปลว่าคนไทยจะต้องรออีกสองถึงสามปีจึงจะรู้ว่าโครงการนี้ขาดทุนเท่าไหร่กระนั้นหรือ? แปลว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถรายงานประชาชนว่า ณ วันนี้ตัวเลขขาดทุนเป็นเท่าไหร่กระนั้นหรือ? แปลว่าสิทธิการรับรู้ผลการทำงานของรัฐมนตรีและรัฐบาลของประชาชนอยู่ที่ว่ารัฐบาลพร้อมจะแถลงเมื่อไหร่กระนั้นหรือ?

 

... หากวิธีคิด และแนวทางปฏิบัติของรัฐมนตรีเป็นเช่นนี้ ก็จะผิดกับคำสั่งนายกฯให้กระทรวงทบวงกรมทำการ “ประชาสัมพันธ์เชิงรุก” อย่างรุนแรง เพราะนี่คือการประชาสัมพันธ์มุมกลับที่ไม่เพียงแต่เป็นการ “ตั้งรับ” เท่านั้น หากแต่ยังเป็นการ “ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม” พื้นฐานของคนทั่วไปอีกด้วย ยิ่งหากบอกว่า รัฐบาลต้องการจะสร้าง “ความเป็นประชาธิปไตย” ในประเทศไทยอย่างจริงจังด้วยแล้ว, ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่ากรณีการไม่ยอมตอบคำถามของชาวบ้านคือการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานแห่งระบอบประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง...

 

การที่คนไทยเรียกร้องต้องการข้อมูลทุกขั้นตอนของโครงการที่ต้องใช้เงินมโหฬารเช่นนั้นก็เพื่อจะได้เสนอความเห็นต่อรัฐบาลว่าควรจะเดินหน้า, ถอยหลัง, ยกเลิก, หรือปรับเปลี่ยนนโยบายหรือไม่อย่างไร...มิใช่เพียงเพื่อ “รับทราบ” หากแต่ต้องการใช้สิทธิเพื่อ “ถกแถลงเพื่อหาทางออก” ให้กับนโยบายที่ได้ก่อให้เกิดคำถามมากมายมายาวนาน แต่รัฐบาลยืนยันจะเดินหน้าโดยไม่ฟังเสียงทัดทานเลยแม้แต่น้อย ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นมิได้กระทบตัวนักการเมืองหรือข้าราชการที่เกี่ยวข้อง หากแต่จะส่งผลต่อคนไทยทั้งประเทศ และกระทบความน่าเชื่อถือของประเทศ ไม่ว่าข่าวเรื่องสำนักจัดลำดับความน่าเชื่อถือ Moody’s Investors Service ตั้งประเด็นนี้เพื่อวิเคราะห์อันดับ credit ratings ของไทยจะมีที่มาที่ไปอย่างไร

 

... แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นก็คือว่านายกรัฐมนตรี ดูเหมือนจะไม่มีข้อมูลล่าสุดที่ "ลุ่มลึก" เกี่ยวกับจำนวนเงินที่ใช้ไป และระดับการขาดทุนรุนแรงเพียงใด และกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงการคลัง ไม่ได้มีการประสานงานกันอย่างที่ควรจะเป็นในการดำเนินนโยบายที่มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญเช่นนี้ รัฐบาลใช้เงินภาษีประชาชนแล้วบอกว่าตัวเลขเป็น “ความลับ” นั้น ย่อมแสดงถึงความไร้ความรับผิดชอบอย่างยิ่ง...

 

... เพราะรัฐบาลมาแล้วก็ไป นักการเมืองร่ำรวย ได้คะแนนเสียง และสามารถฉกฉวยโอกาสจากนโยบายประชานิยม ที่หนังสือพิมพ์พาดหัวว่า “รัฐบาลเจ๊ง” นั้นผิดครับ ที่จะ “เจ๊ง” จริง ๆ หากไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายใช้เงินมโหฬารเพื่อโครงการเยี่ยงนี้คือประชาชนผู้เสียภาษีนั่นแหละ...

 

http://www.bangkokbi...0215/à¨ê§!.html




#123287 === กระทู้สลิปเงินเดือน

โดย MOD X on 31 มกราคม พ.ศ. 2555 - 16:25

ผมว่าพอสมควรกับการตอบโต้หลักฐานกันไปกันมาแล้วนะครับ ต่างฝ่ายต่างก็เอาหลักฐานมาแสดงกันเยอะพอสมควรแล้ว ผมคิดว่าควรจะปิดกระทู้นี้ได้แล้ว (รบกวนMOD พิจารณาด้วยครับ)

ต่อไปผมขออนุญาตไม่พูดถึงเรื่องหน้าที่การงานของผมอีก เรื่องทั้งหมดผมขอให้เราหยุดกันไว้ที่กระทู้นี้ ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีใครแพ้ ไม่มีใครชนะ ถือว่าเราชนะด้วยกันทั้งสองฝ่าย ชนะในเรื่องที่เราไม่ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้กันไปกันมา กระทู้นี้จะเป็นกระทู้ตัวอย่างให้สมาชิกรุ่นหลังได้นำไปเป็นแบบอย่างในการนำหลักฐานมาชี้แจงซึ่งกันและกัน สำหรับผม จบคือจบครับ และขอขอบคุณทุกๆท่านที่ให้แง่คิดดีๆกับผมมากมาย ขอบคุณครับ

อาจจะทำให้ ใจดี20 ต้องผิดหวัง แต่คงไม่ปิดดีกว่านะครับ จะได้เป็นแบบอย่างของคนรุ่นหลัง


#123053 === กระทู้สลิปเงินเดือน

โดย Shariff on 31 มกราคม พ.ศ. 2555 - 14:03

ลองดูจากรูปนะ ใจดี โดน Pock วางยา เข้าให้แล้ว..
Posted Image

Posted Image



ผมขอประนามการกระทำของ Pock

ข้อหาวางยาพิษใส่ jaidee20 ทำให้ถึงขั้นอาการโคม่า

สมาชิกท่านใดร่วมประนาม Pock กรุณากด Like



ป.ล.ใช้รูปของท่าน swtp99 เรียบร้อยละ มีวงจับผิดด้วย :D


#740825 ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย แถลงข่าวได้ชุ่ย และ โง่ มาก รอฟังบุญทรงต่อครับ

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 17:02

แถลงจำนำข้าว.jpg