ขณะนี้กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ข้าขอประกาศว่าข้าจะล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย
เมืองจอมทัพพระนเรศวร · pookem.com
- p-one and ซีมั่น โลช่า like this
โดย อิไซกูนิ on 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:58
ขณะนี้กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ข้าขอประกาศว่าข้าจะล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย
เมืองจอมทัพพระนเรศวร · pookem.com
โดย อิไซกูนิ on 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:38
โดย อิไซกูนิ on 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:31
โดย อิไซกูนิ on 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:27
ผู้ กองปูเค็ม ตท.26 จปร.37 ตะโกนอย่างดุดัน ด่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ รุ่นพี่ จปร8 หน้ากลาโหม ...ร.อ.ทรงกลด ถือพระแก้วมรกต บุกกห.พบ พล.อ.ยุทธศักดิ์ สห.กัน เลยตะโกนพล.อ.ยุทธศักดิ์ ขายชาติ ข้างห้อง รมชกห.
โดย อิไซกูนิ on 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 15:45
"จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ" รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เชื่อมี "อีแอบ" จ้องดิสเครดิต ทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาล โอ่ หากให้โอกาสรัฐบาลเพื่อไทย 8 ปี ใช้หนี้ประเทศได้แน่...
วันที่ 5 ก.ค. 56 ที่กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายคณิต ณ นคร ประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ระบุ พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท อาจเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ว่า ยืนยันว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เว้นแต่จะมีคนตีความให้ขัดรัฐธรรมนูญ โดยเวลามีข่าวชมรัฐบาลก็เงียบ แต่เวลามีข่าวติงรัฐบาล ก็เป็นข่าวใหญ่ แสดงให้เห็นว่ามีอีแอบอยู่ข้างหลัง ที่คอยโปรโมททำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ทัดเทียมกับ ประเทศอื่น เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทย มีจุดอ่อนด้านโลจิสติกส์ ดังนั้น รัฐบาลจึงพยายามใช้เงินดังกล่าวลงทุนเพื่อให้ระบบการขนส่งมีการพัฒนาขึ้น จากรถสิบล้อมาเป็นระบบรางและระบบเรือเพื่อลดต้นทุน
นอกจากนี้ ในปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หากไม่เร่งดำเนินการก็จะเสร็จไม่ทันตามที่กำหนด เมื่อถามถึงกรณีที่มีการออกมาระบุว่า รัฐบาลจะใช้เวลาในการใช้หนี้จากการกู้เงินครั้งนี้ นานกว่า 30 ปี รมว.มหาดไทย ตอบว่า จะคิดแบบนั้นไม่ได้ แต่ควรมองว่าเมื่อลงทุนแล้ว ได้ผลเร็ว สร้างความสามารถในการแข่งขัน และทำให้ประเทศอื่นเข้ามาลงทุน เชื่อว่าหากให้โอกาสรัฐบาล 8 ปี ก็จะสามารถใช้หนี้ได้.
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
5 กรกฎาคม 2556, 15:15 น.http://www.thairath....tent/pol/355415
โดย อิไซกูนิ on 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:58
#####################
ฝนตกทุกวัน คอผมก็บวมตุ่ยรุมไข้ทุกวัน ได้แต่นั่งดูฝนหยาดเม็ดย้อยร่องชายคาทีละเม็ด..ทีละเม็ด ร้อยเป็นสายส่องประกายใสวาวเหมือนเทเพชรล้อแสงไฟ นกกระจอกหลังฝนบินผลุบเข้า-ผลุบออกจากรูกระบอกคานหลังคา มันยึดเป็นบ้านของมัน ก่อร่างสร้างรังเป็นครอบครัวใหญ่มานานแล้ว
ผมนั่งดูแต่ละวันก็มีความสุข ยิ่งอาทิตย์นี้เปิด DVD วรรณกรรมเปียโนแห่งกรุงสยาม ที่ท่าน ศ.ดร.ณัชชา เจริญพันธุ์ พรมนิ้วพลิ้วคีย์ด้วยบทเพลงไทยเดิมฟังเคล้าฝน พอถึงเพลงนกขมิ้น ความอ้างว้างในเวิ้งว้างของท้องฟ้า แต่ว่าไร้ที่จรของเจ้าขมิ้น น้ำตาผมก็แทบริน...ไม่รู้ตัว!
ครับ...ฟังดนตรีไทยด้วยเครื่องดนตรีไทยอยู่ในสายเลือด พอมาฟังที่ ศ.ดร.ณัชชาเดี่ยวด้วยเปียโน...ก็ใจจะขาด
เพลงตับลาวเจริญศรี กับพญาโศก คุณสุมิตรา สุจริตกุล เรียบเรียง ส่วนเพลงโสมส่องแสง, เขมรไทรโยค, ลาวแพน, สารถี, นกขมิ้น, พญาโศก และฟ้อนเงี้ยว พันเอกสุชาติ พิทักษากร เรียบเรียง
ศาสตราจารย์ ดร.ณัชชา เจริญพันธุ์ ท่านประจำภาควิชาดุริยางคศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นครั้งแรกที่ฟังเดี่ยวเปียโนด้วยไทยเดิมแล้วหลุดลอยไปสู่อีกมิติ
ไทยเดิมสะท้อนรากให้รู้ว่าสังคมไทยละเมียดละไม เป็นสังคมน้ำใจ ใสเย็น ไม่เห็นแก่ตัว ไม่มัวเมาด้วยหยาบกระด้าง ดำรงเส้นทางในธรรมชาติ
ส่วนสถานที่อลังการในการบันทึกภาพ-เสียงเป็น DVD คือพระราชวังพญาไท พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็น "พระตำหนักพญาไท" และต่อมา "พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่ ๖ ทรงสถาปนาเป็น "พระราชวังพญาไท"
พูดถึงสถานที่อันเป็นมรดกแผ่นดิน จากล้นเกล้าฯ ทั้ง ๒ พระองค์แล้ว อดนึกถึงความร้าวลึกจาก "ใจรู้สึก" ระหว่างอก "คนจุฬาฯ" กับ "คนอุเทนถวาย" ไม่ได้ ซึ่งต่างอาศัยผืนดินจากพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ ทั้ง ๒ พระองค์ ตั้งสำนักร่ำเรียนเขียนอ่านต่อเนื่องกันมาช้านาน
ผมก็ฟังต่อเนื่องมาหลายปี จุฬาฯ จะเอา "ที่ดิน" ผืนที่ "อุเทนถวาย" ตั้งเป็นสถาบันศึกษาเคียงจุฬาฯ คืน ส่วนจะเอาคืนไปเพื่อการใด เท่าที่ฟังอ้างว่า จะนำไปขยายเป็นสถานทางการศึกษาของสถาบันจุฬาฯ แต่จริงๆ แล้วจะเอาไปทำอะไร
ก็...รู้ๆ กันอยู่ ในสังคมวัตถุกลืนชาติ!?
จุฬาฯ ไล่อุเทนถวาย เอาที่ขยายส่วนการศึกษาของจุฬาฯ
หรือ...
จุฬาฯ ไล่อุเทนถวาย เอาที่ไปขยายทำเป็นศูนย์การค้า เป็นดอนโดฯ หรูขาย?
จากพฤติกรรมแวดล้อมว่าด้วย "การไล่ที่" ของจุฬาฯ ดังประจักษ์อยู่ มีไม่กี่คนที่เชื่อว่า ไล่อุเทนถวายออกไปแล้ว จุฬาฯ จะไม่เอาเนื้อที่ตรงนี้ไปเซ็งลี้เหมือนอย่างที่เห็นคาตาอยู่
กรณีจุฬาฯ ไล่อุเทนถวาย พูดทางวัตถุ เห็นจุฬาฯ คร่ำเคร่งค้นหาเอกสารประวัติศาสตร์มายันให้ได้ว่า เป็นที่ดินพระราชทานแก่จุฬาฯ อุเทนถวายก็อ้างว่า เป็นแผ่นดินพระราชทานมา เพื่อการศึกษาของชาติ และอยู่มานานช้าแล้ว
ก็รับรู้เชิงประจักษ์ทั้งทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ "จุฬาฯ-อุเทนถวาย-ช่างกลปทุมวัน" เป็นสัญลักษณ์คู่การเติบโตของกรุงเทพฯ
รักกัน-ตีกันเป็นตำนานคู่ตำบล ตั้งแต่ย่านนั้นเป็นทุ่ง-เป็นท่า-เป็นรกชัฏ จนวันนี้ กลายเป็นแผ่นดินมหาสมบัติกลางกรุงตารางวาละเป็นแสน-เป็นล้าน
จากพระราชปณิธานในการพระราชทานที่ดิน "การศึกษาสร้างคน เพื่อให้คนที่บ่มเพาะด้วยวิทยาการไปสร้างชาติ"
อุเทนถวาย เหมือนกับช่างกลปทุมวัน ให้การศึกษาอาชีวะ จบปุ๊บ นำไปทำมาหากินได้ปั๊บ ด้วยศาสตร์วิชาการแห่งองค์วิษณุเทพ เรียกกันว่า เป็นการศึกษาสอนคนให้ติดดิน เป็นทรัพยากรบุคคลเพื่อการก่อร่างสร้างอนาคตประเทศ
ส่วนจุฬาฯ เป็นสถาบันวิทยาการต่อยอดเอาปริญญา มีหลายเสียงพูดกันว่า จบปริญญาแล้วตีนไม่ติดดิน บางคณะ เรียนจบแล้ว จะไปทำกิน ต้องไปเข้าคอร์สอาชีพเฉพาะเสริม จากสถาบันนี้ นอกจากหยิ่งปริญญาแล้ว ยังหลง "ศักดินาที่ดิน"
เติมกลิ่น "นิสิตผู้ดี" ให้ตัวเอง!?
แต่วันนี้ เท่าที่เป็นอยู่ ทัศนะผู้บริหารทรัพย์สินจุฬาฯ คล้ายมองว่า "การศึกษาเป็นเรื่องรอง เงินทองเป็นเรื่องหลัก"
ที่ดินของจุฬาฯ ในละแวกนั้นมีเป็นร้อย-เป็นพันไร่ และกำลังไล่ที่อยู่มากมาย ไล่ไป..ป้ายก็ขึ้นไป..คอนโดฯ ทันสมัยไฮโซบ้าง ศูนย์การค้า-คอมเพล็กซ์บ้าง โรงแรมบ้าง ส่วนสถานศึกษา ต้องค่อยๆ มองหาจึงเห็น!
ที่พูดทั้งหมดนี้ ผมไม่พูดในด้าน "สิทธิตามกฎหมาย" ว่าจุฬาฯ เจ้าของ หรืออุเทนถวายเจ้าของ หรือตามประวัติศาสตร์ที่คณาจารย์จุฬาฯ ทุ่มเท-ไปค้นคว้ากันมา..ผืนดินอุเทนถวายตั้งอยู่ เป็นของจุฬาฯ และถึงเวลาที่ต้องย้ายออกไป เพราะเจ้าของต้องการใช้ที่ดินแล้ว
แต่ผมพูดในด้านจิตวิญญูชน ผู้สืบสานพระราชปณิธานในการพระราชทานที่ดินผืนนี้ ด้วยพระราชประสงค์ "เพื่อใช้ตั้งสถาบันศึกษาบ่มเพาะบุตร-หลานอันเป็นเยาวชนชาติเป็นการสืบไป" ด้วยทรงเล็งเห็นว่า การศึกษาเท่านั้นจะช่วยรักษาประเทศสยามให้รอด
ขอถามว่า "ในละแวกนั้นซึ่งเป็นของจุฬาฯ ทั้งหมด ใช้ที่ดินทั้งหมดไปเพื่อขยับขยายมหาวิทยาลัยจนไม่เหลือที่ดินว่างให้ขยับขยายอีกแล้ว จนต้องไล่ที่ให้อุเทนถวายย้ายออกไปเช่นนั้นหรือ?"
ผู้บริหารทรัพย์สินจุฬาฯ เคยเปิดหูฟังเสียงชาวบ้านย่านปทุมวันบ้างไหม เขาพูดถึงจุฬาฯ ที่กำลังไล่ที่ ไล่รื้ออาคาร รื้อตลาด รื้อตึกแถวบ้างไหม ว่าเขาพูดด้วยทัศนคติอย่างไรต่อพฤติกรรมจุฬาฯ?
ไล่ที่เพื่อขยายสถาบันศึกษาจริงๆ จะไม่มีใครว่า แต่ที่ทำอยู่ สร้างความคลางแคลงกันว่า จุฬาฯ จะสร้างสรรค์การศึกษา หรือพัฒนาถอยหลังเป็น "การค้านำหน้า-การศึกษาตามหลัง"?
จุฬาฯ กับรถไฟ ทุกวันนี้เหมือน "ฝาแฝด" อัปลักษณ์!
รถไฟ มีที่ดินมากมาย แต่...สมมุติ ๑๐๐ ไร่ เวนคืนจากชาวบ้านเขามาแท้ๆ ใช้เพื่อการรถไฟซัก ๑๐ ไร่ ส่วนอีก ๙๐ ไร่ เอาไปทำมาค้าขาย หากิน-หารายได้ อันมิใช่เจตนารมณ์ของการเกิดมีกิจการรถไฟ คนรวย แต่รถไฟเจ๊ง
จุฬาฯ ก็ทำนองนั้น ที่ดินมากมาย สยามสแควร์ มาบุญครอง สนามกีฬาฯ บรรทัดทอง และอีกมากมายกินเนื้อที่ไปหลายบล็อกถนน ถามว่าใช้ไปกับจุฬาฯ จริงๆ กี่สิบไร่ ส่วนนอกนั้น เป็นกิจการให้เช่าแสวงหากำไร
"นิสิตจุฬาฯ เรียนฟรี" เงินก็ยังเหลือ!
ก็แล้วอุเทนถวาย ก็คล้ายสถาบันพี่น้องอยู่ร่วมกันมานาน เขาใช้พื้นที่แค่ ๒๐ กว่าไร่ และมิใช่การใช้เพื่อประโยชน์ใครคนใด-คนหนึ่ง แต่เป็นการตั้งสถาบันบ่มเพาะ "คนให้เป็นคน" ด้วยการศึกษา และอยู่มาช้านานจนเป็นตำนาน
แล้วทำไม..ไฉนเล่า จะเจียดพื้นที่แค่นี้ให้อุเทนถวายธำรงสถาบันไว้ไม่ได้เชียวหรือ หรือตีค่าเขาเป็นสถาบันต่ำต้อยดังห่านป่า จึงถูกพญาหงส์จิกตี ขับไสไล่ส่งไปจากพงศ์ผู้ดีมักมาก
ท่านมหาตมะ คานธี บอกว่า ทรัพยากรในโลกนี้ มีเพียงพอกับมนุษย์ทุกคน ตราบที่มนุษย์ทุกคนไม่บริโภคด้วยความโลภ แต่ถ้าบริโภคด้วยความโลภ ทรัพยากรนั้นจะไม่เพียงพอเลย
ในโลกการศึกษา ย่อมปริวรรตด้วยวิญญูชน และวิญญูชนแท้จริงนั้น ย่อมเข้าใจ กฎหมายไม่สามารถสร้างคน คนตะหากที่สร้างกฎหมาย และกฎหมายที่ดีย่อมมาจากคนมีมโนธรรมสำนึกที่ดี
ฉะนั้น การสร้างชาติ ต้องสร้างคนด้วยการ "ให้การศึกษา" และการให้การศึกษานั้น ต้องไม่ตราสังปัญญาไว้ด้วยตัวอัตตาและเงินตรา
จุฬาฯ น่ะ ถ้าต้องการช่วยชาติ ไม่ต้องไปไล่อุเทนถวาย ย้ายตัวเอง ขยายเป็นวิทยาเขตไปตั้งที่ ๓ จังหวัดใต้ ยะลา-นราธิวาส-ปัตตานี ก็สมควรยิ่ง
รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ เป็นต้น เรียนอยู่ทำไมในกรุง ไปเรียนตำรา อีกทั้งฝึกในพื้นที่จริงอยู่ในถิ่นชนบทไกลๆ จะได้ประโยชน์ทั้งการขยายตัวและการพัฒนาไปพร้อมกัน
ลำพังจุฬาฯ น่ะ สร้างชาติไม่ได้หรอก ต้องอาศัยทั้งอุเทนถวาย ช่างกลปทุมวัน อีกทั้งโรงเรียนวัด โรงเรียนราษฎร์ โรงเรียนบ้านนอกทั้งหลายด้วย เรื่องเช่นนี้ อย่าใช้กฎหมายเป็นตัวยึด ต้องใช้จิตสำนึกเป็นตัวขยาย ถ้าไม่เช่นนั้น
ประเทศไทยก็ "ยากรักษา"!
http://www.thaipost.net/news/170613/75135
โดย อิไซกูนิ on 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:53
โดย อิไซกูนิ on 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:38
ลาออกจากส.ส.มาสมัครส.ส.
ถ้าแพ้แล้วขอกลับไปเป็นส.ส.เหมือนเดิมเหมือนที่จูดี้ทำได้มั้ยอ่ะ
โดย อิไซกูนิ on 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:38
คนที่ต้องรับ ผิด-ชอบ ต่อการพ่ายแพ้ ของ แซม ยุรนันท์ ก็คือ
คนที่สั่งให้ แซม ลาออกจากการเป็น ส.ส. เพื่อไปสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.
ซึ่ง คนคนนั้น ก็ คือ คุณทักษิณ ชินวัตร คุณ ต้องรับผิดชอบครับ คุณทักษิณฯ ครับ
ตะนิ่นตาญี
วันอาทิตย์ที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
เวลา ๑๘.๒๙ นาฬิกา
โดย อิไซกูนิ on 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:38
>>> รองฯเหลิม..ขี้ข้า ผู้รอบรู้....เอ..!!!
"....แล้ว..ไอ้ปื๊ด...แปลงร่าง เป็นอะไรล่ะ
.....เหลิม..รู้ไม๊..???
เป็นตะกวด ติดตามใครบางคน
โดย อิไซกูนิ on 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 16:02
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net