KatsuraKotarou

ชุลมุนหน้าเมเจอร์- หลังสาวนกหวีดชูป้ายหนุน Coup -โดนกลุ่มตัานโห่ไล่ หวิดถูกทำร้าย ตร.กันตัวออกแล้ว #NNA pic.twitter.com/31UuSFJyg2

 

 

เธอแน่มว๊ากกกกกกกกกกกกกกก 5 5 5    

ต่อตระกูล ยมนาค

ประกาศ
สมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษา ในพระบรมราชูปถัมภ์
www.triamudom-alumni.com/ - Translate this page
ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมฯ จึงมีมติ.

ยกเลิก การจัดงานคืนสู่ เหย้าชาวเตรียมอุดม 77 ปี คืนเหย้าชาวต.อ.
ที่กำหนดจะชุมนุมในวันศุกร์ที่ 6 มิย 57 "
ใครมีเพื่อน เตรียม ช่วยกระจาย แชร์ข่าวด้วยครับ

 

อันนี้ เด็ดมาก

 

 

 

Michael Yon

 

 

ใครเกิดทันบ้าง????

ช่วงนี้เราก็ไม่ค่อยได้ไปค่ะ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ ได้แต่กราบขอบพระคุณพี่น้อง ตจว
ที่ต้องมานอนกลางถนน ตากแดด ตากฝน เราก็ได้แต่ช่วยโอนเงินบริจาคเท่าที่ทำได้
และเชียร์อยู่หน้าจอ แต่ไม่ว่ายังไง เราจะไม่ทิ้งกันค่ะ ^___^

ถ้ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ อย่ามาเลยครับ อย่าคิดมากเรื่องบนเวทีด้วยครับ เพราะนึกถึงเวลาเราพูดบนเวที คงไม่มีใครมาพูดเยิ่นเย้อว่า ถ้าไม่สบายอย่ามานะครับ ติดปัญหาเรื่องพ่อแม่ป่วย ก็อย่ามา คงไม่มีใครมาพูดแบบนี้หรอกครับ ความหมายของคนพูดบนเวที ก็หมายถึงคนที่ยังลังเลอยู่เรื่องจะมา ไม่มา หรือยังไม่เลือกข้างสักทีมากกว่า  

ช่วงนี้เราก็ไม่ค่อยได้ไปค่ะ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ ได้แต่กราบขอบพระคุณพี่น้อง ตจว
ที่ต้องมานอนกลางถนน ตากแดด ตากฝน เราก็ได้แต่ช่วยโอนเงินบริจาคเท่าที่ทำได้
และเชียร์อยู่หน้าจอ แต่ไม่ว่ายังไง เราจะไม่ทิ้งกันค่ะ ^___^

 

 

เมื่อกี้เปิดดูช่องบลู ขอติบนเวทีนิดนึงนะครับ คือการที่คุณเชิญชวนคนออกมาชุมนุมเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่การที่คุณด่าคนที่ดูอยู่แต่หน้าจอนี่ผมว่าไม่ถูกนะ บางคนเค้าก็มีเหตุผลที่ไม่สามารถมาได้ อาจติดในเรื่องสุขภาพ งาน หรือ บางคนอยู่ต่างจังหวัด ต่างประเทศ แต่คนพวกนี้เค้าก็มีความสำคัญนะครับ เช่น เค้าอาจส่งเงินมาช่วยการชุมนุม หรือช่วยเปลี่ยนมุมมองด้านการเมืองของคนรอบข้างได้หลายคนก็เป็นได้

ทางเวที ก็บอกว่าให้ช่วยเรื่องเงินก็ได้ ถ้ามาไม่ได้ ส่วนเรียกร้องให้มา ผมว่าเราต้องรับฟังครับ เพราะเวลาเช่นนี้ จำนวนคนสำคัญมาก ใครที่ไม่ได้มา แรงใจช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ ต้องแรงกาย ส่วนคนเจ็บ คนป่วย อยู่ต่างประเทศ แก่มากแล้ว คงไม่มีใครไปว่าหรอกครับ และทางเวทีก็คงไม่ได้เรียกร้องให้คนเหล่านี้ออกมาหรอกครับ 

 

ผมไม่ได้ติดใจเรื่องที่เรียกร้องให้คนออกมาครับ สนับสนุนด้วยซ้ำ แต่ผมติดใจตรงที่การใช้คำพูดของเจ๊รังสิมานี่ล่ะครับ บางคนที่ sensitive เค้าอาจจะไม่ชอบใจก็ได้ แม้จะเป็นบุคลิกของเจ๊แกก็เถอะ แต่อยากให้ระวังคำพูดมากกว่านี้ครับ

 

ผมฟังเจ๊แกพูดแล้ว ผมว่ามันเป็นความจริงนะ ผมเจอมากับตัวจริงๆ และอยากจะด่าเหมือนเจ๊เค้านี่แหละ เอาแต่ด่ารัฐบาล ด่านังปู แต่พอผมชวนออกมา มันบอกว่า มันกลัวอันตราย ผมยังเคยโพสต์เลยนะว่า ถ้าเพื่อนผมมันไม่ออกมา แล้วมาด่ารัฐบาลหรืออีปูให้ผมได้ยิน ผมจะด่ามันกลับไป หรือไม่ผมจะไม่พูดเรื่องการเมืองกับมันอีกเลย เรื่อง sensitive ของคนไม่ยอมออกมา ถึงไม่เรียกร้องให้ออกมาก็ไม่ออกอยู่แล้ว จะเรียกร้องให้ออกมา ก็ไม่ออกอยู่ดี 

 

 

เมื่อกี้เปิดดูช่องบลู ขอติบนเวทีนิดนึงนะครับ คือการที่คุณเชิญชวนคนออกมาชุมนุมเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่การที่คุณด่าคนที่ดูอยู่แต่หน้าจอนี่ผมว่าไม่ถูกนะ บางคนเค้าก็มีเหตุผลที่ไม่สามารถมาได้ อาจติดในเรื่องสุขภาพ งาน หรือ บางคนอยู่ต่างจังหวัด ต่างประเทศ แต่คนพวกนี้เค้าก็มีความสำคัญนะครับ เช่น เค้าอาจส่งเงินมาช่วยการชุมนุม หรือช่วยเปลี่ยนมุมมองด้านการเมืองของคนรอบข้างได้หลายคนก็เป็นได้

 

อันนี้เห็นด้วยค่ะ ใครด่าปรับปรุงตัวด่วน

 

 

สงสัยจะตอนที่รังสิมาพูดนี่แหละ 

 

แต่ผมไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะขนาดผมยังเชียร์หน้าจอทีวีบ้าง คอมพีซีบ้าง 
นานๆ ที ถึงจะได้ไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ 

 

 

ไม่ติดใจเหมือนกันค่ะ แต่เกรงว่าบางคนอาจจะน้อยใจ

เมื่อกี้เปิดดูช่องบลู ขอติบนเวทีนิดนึงนะครับ คือการที่คุณเชิญชวนคนออกมาชุมนุมเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่การที่คุณด่าคนที่ดูอยู่แต่หน้าจอนี่ผมว่าไม่ถูกนะ บางคนเค้าก็มีเหตุผลที่ไม่สามารถมาได้ อาจติดในเรื่องสุขภาพ งาน หรือ บางคนอยู่ต่างจังหวัด ต่างประเทศ แต่คนพวกนี้เค้าก็มีความสำคัญนะครับ เช่น เค้าอาจส่งเงินมาช่วยการชุมนุม หรือช่วยเปลี่ยนมุมมองด้านการเมืองของคนรอบข้างได้หลายคนก็เป็นได้

แต่ผมไม่ตำหนิเค้านะครับกลับรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณพวกเค้าที่อยู่ในที่ชุมนุม ครับ
ผมรู้ว่าพวกเค้าเสียสละมาก และลำบากกว่า มากๆๆ
ทำให้ผมจะพยายามทำหน้าที่กองหลังให้ดีที่สุดครับ

เมื่อกี้เปิดดูช่องบลู ขอติบนเวทีนิดนึงนะครับ คือการที่คุณเชิญชวนคนออกมาชุมนุมเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่การที่คุณด่าคนที่ดูอยู่แต่หน้าจอนี่ผมว่าไม่ถูกนะ บางคนเค้าก็มีเหตุผลที่ไม่สามารถมาได้ อาจติดในเรื่องสุขภาพ งาน หรือ บางคนอยู่ต่างจังหวัด ต่างประเทศ แต่คนพวกนี้เค้าก็มีความสำคัญนะครับ เช่น เค้าอาจส่งเงินมาช่วยการชุมนุม หรือช่วยเปลี่ยนมุมมองด้านการเมืองของคนรอบข้างได้หลายคนก็เป็นได้

 

เราก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ไปร่วม

Let by Gone Be by Gone

มันเป็นเท็คนิคในการเรียกมวลชน ถ้าขุ่นมัวเฉพาะเรื่องนี้ งานใหญ่ไม่สำเร็จ

นะ

 

 

 

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ
 
แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)
 
นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ
 
เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ
 
 
คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่
 
ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม
 
ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย
 
 
รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ
 
ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ
 
ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น
 
เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้
 
 
และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย
 
ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ
 
หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์
 
 
อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย
 
แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก
 
โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง
 
เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ
 
แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน
 
 
แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่
 
เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

ขอโทษครับ
ผมว่าผมมีความเห็นแย้งนิดหน่อยครับ

ผมไม่เถียงเลยว่าหมอ เก่ง หมอดี

ผมสามารถบอกได้เลยว่า ก่อนยุค ทักสิน กับหลังยุคทักสิน
หมอเป็นอย่างไร

แน่นอนครับ ผมสามารถพูดได้เต็มปาก ว่า ญาติๆ คุณที่เป็นหมอ หลังจากยุคทักสินเป็นยังไง

แต่ ก่อนยุคทักสิน เป็นยังไง คุณพอจะรู้ไหมครับ?

ผมสามารถพูดได้เลยว่า หมอ ยุคปัจจุบัน ทำงานยาก! สำหรับยุดปัจจุบันหลังทักสิน
ผมก็ไม่ได้จะดูถูกหมอหรอกครับ (ซึ่งผมดูถูกไม่ได้แน่ๆ)
แต่ นิสัยคนไทยบูชาหมอ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก (หมอก็ทำอะไรเองไม่ได้หรอกคับ เพียงแต่อาชีพเขา ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคนเท่านั้นเอง ผมเองก็เคยลองภูมิ กับหมอมาแล้ว จะบอกว่าแพ้ก็แต่ ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น นอ
นั้นหมอก็ คน... คนหนึ่ง)

ที่ผมพล่ามมา ไม่มีอะไรรหรอกครับ นอกจาก
"ความคิดหมอ เพียงแค่ไม่กี่คน อย่าเอามาอ้างเลยว่าเป็นนมติของหมอๆ ทั้งประเทศ"

 

 

 จริงหรือครับ...

 

ถ้าดูในโรงพยาบาลที่ผมอยู่ เป็นโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งใน กทม  อาจารย์หมอมากกว่า 90% สนับสนุน กปปส ครับ

 

 

โรงพยาบาลที่ผมเรียนและทำงานอยู่ ก็เป็นอัตราส่วนแบบนี้ละครับ 

อาจารย์บางท่านขณะกำลังสอนอยู่ ก็พูดขึ้นมาลอยๆ อยากไปม๊อบตอนนี้ซะงั้น

ผมเลยคิดในใจอยู่เลยว่า สอนผมให้จบก่อนแล้วค่อยไปดีไหมครับอาจารย์

ปล. อยู่ใน กทม. นะ

 

 

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ
 
แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)
 
นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ
 
เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ
 
 
คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่
 
ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม
 
ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย
 
 
รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ
 
ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ
 
ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น
 
เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้
 
 
และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย
 
ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ
 
หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์
 
 
อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย
 
แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก
 
โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง
 
เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ
 
แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน
 
 
แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่
 
เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

ขอโทษครับ
ผมว่าผมมีความเห็นแย้งนิดหน่อยครับ

ผมไม่เถียงเลยว่าหมอ เก่ง หมอดี

ผมสามารถบอกได้เลยว่า ก่อนยุค ทักสิน กับหลังยุคทักสิน
หมอเป็นอย่างไร

แน่นอนครับ ผมสามารถพูดได้เต็มปาก ว่า ญาติๆ คุณที่เป็นหมอ หลังจากยุคทักสินเป็นยังไง

แต่ ก่อนยุคทักสิน เป็นยังไง คุณพอจะรู้ไหมครับ?

ผมสามารถพูดได้เลยว่า หมอ ยุคปัจจุบัน ทำงานยาก! สำหรับยุดปัจจุบันหลังทักสิน
ผมก็ไม่ได้จะดูถูกหมอหรอกครับ (ซึ่งผมดูถูกไม่ได้แน่ๆ)
แต่ นิสัยคนไทยบูชาหมอ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก (หมอก็ทำอะไรเองไม่ได้หรอกคับ เพียงแต่อาชีพเขา ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคนเท่านั้นเอง ผมเองก็เคยลองภูมิ กับหมอมาแล้ว จะบอกว่าแพ้ก็แต่ ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น นอ
นั้นหมอก็ คน... คนหนึ่ง)

ที่ผมพล่ามมา ไม่มีอะไรรหรอกครับ นอกจาก
"ความคิดหมอ เพียงแค่ไม่กี่คน อย่าเอามาอ้างเลยว่าเป็นนมติของหมอๆ ทั้งประเทศ"

 

 

 จริงหรือครับ...

 

 

จริงสิครับ   

จดหมายเปิดผนึกจากใจ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ถึงคนไทยทั้งประเทศ
โดย Abhisit Vejjajiva เมื่อ 16 ธันวาคม 2012 เวลา 16:40 น.

ก่อนอื่นผมต้องกราบขอบพระคุณประชาชนจำนวนมากที่แสดงความห่วงใยต่อตัวผมและคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เกี่ยวกับความพยายามของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ใช้อำนาจบิดเบือน ยัดเยียดข้อกล่าวหาให้กับผมและคุณสุเทพว่าเป็น”ฆาตกร” ขอให้ทุกท่านสบายใจว่าเราทั้งสองไม่หวั่นไหวและจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความจริงว่า สิ่งที่รัฐบาลผมได้ดำเนินการทั้งหมดในช่วงที่มีการชุมนุมที่ผิดกฎหมายและมีกองกำลังติดอาวุธแฝงอยู่นั้น ไม่ได้มีคำสั่งใดเป็นใบอนุญาตให้ฆ่าประชาชน ตรงกันข้าม เราบริหารสถานการณ์ด้วยความอดทนอดกลั้นยึดประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้งและพยายามสุดความสามารถที่จะมิให้เกิดความสูญเสีย

หากศาลจะตัดสินให้ประหารชีวิตผมและคุณสุเทพจากคดีนี้ เราก็พร้อมที่จะน้อมรับ เพราะเราเป็นนักการเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชน ได้รับการบ่มเพาะจากพรรคประชาธิปัตย์ให้ยอมตายเพื่อรักษาระบบ โดยไม่มีวันยอมทำลายระบบเพื่อรักษาตัวเอง อันเป็นวิสัยของคนเห็นแก่ตัวที่เข้ามาแสวงประโยชน์จากการเมือง ไม่ใช่ของนักการเมืองมืออาชีพที่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อพี่น้องประชาชน

ความรับผิดชอบทางการเมืองต่อเหตุการณ์ปี ๒๕๕๒ - ๒๕๕๓ เป็นหน้าที่ของพวกผม เราจะไม่มีการปลุกมวลชนเพื่อมาปกป้องตัวเอง แต่จะเป็นแบบอย่างให้คนไทยได้เห็นว่านักการเมืองไม่ได้เลวทั้งหมด และผมกับคุณสุเทพขอเป็นตัวอย่างในการยกระดับมาตรฐานการเมืองไทยให้เห็นชัดเจนจากกรณีนี้

พี่น้องจึงไม่ต้องเป็นห่วงผมหรือคุณสุเทพ ผมเชื่อว่าหากเราสองคนจะมีอันเป็นไป แต่อุดมการณ์ของพรรคจะได้รับการสานต่อจากคนรุ่นใหม่ เสมือนกับคำที่ว่าตายหนึ่งเกิดแสน และพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีวันตาย เพราะเราไม่เคยทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน

แต่สิ่งสำคัญที่ผมต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้เป็นพลังขับเคลื่อนประเทศนี้ไปข้างหน้าอย่างสันติวิธี คือการช่วยกันหยุดความล้มเหลวทางการเมือง ซึ่งลำพังผมและพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถที่จะดำเนินการให้ประสบความสำเร็จได้

การยุติความล้มเหลวทางการเมืองโดยประชาชน เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะช่วยให้ประเทศของเราก้าวข้ามอุปสรรคที่ขวางทางบ้านเมืองมานานหลายปีไม่ให้เดินไปข้างหน้า นั่นคือความต้องการอยู่เหนือกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ด้วยการร่วมกันล้มประชามติที่นายกฯผู้เป็นน้องสาวกำลังจะทำเพื่อรื้อรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หวังลบมาตรา ๓๐๙ เพื่อล้มคดีทั้งหลายของพี่ชายนักโทษ

หากพี่น้องทำสำเร็จก็จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทย เปรียบเสมือนการปฏิวัติโดยประชาชนตามระบบที่ไม่เสี่ยงต่อการเสียเลือดเนื้อ เพื่อยืนยันว่าประชาชนและกฎหมายยิ่งใหญ่กว่าอำนาจเงินและอำนาจรัฐ

ผมและพรรคประชาธิปัตย์จะยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องประชาชนเพื่อนำบ้านเมืองไปข้างหน้า หลังจากที่เราติดหล่มผลประโยชน์ของคนๆ เดียว จนบ้านเมืองเสียหายมานานหลายปี

มาร่วมกันคว่ำประชามติแก้รัฐธรรมนูญเพื่อนักโทษ ก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ นำพาประเทศเดินไปข้างหน้า ผมและพรรคประชาธิปัตย์พร้อมร่วมสุขทุกข์กับพี่น้อง เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสอย่างราบรื่น ไร้ความรุนแรง เพื่ออนาคตที่มั่นคงของประเทศของเราสืบไป

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

กฎการใช้เว็บบอร์ดเสรีไทย มีไว้เสมือนแสงไฟนำทางให้น้องใหม่ที่เข้าวงการ รู้ไว้เป็นแนวทาง มีดังต่อไปนี้

1. การเอ่ยชื่อบุคคลทางการเมือง หากมีคำว่า "ท่าน" หรือ "คุณ" นำหน้ามีโอกาส 90% ที่ผู้เอ่ยจะเป็นฝ่ายเดียวกับ ท่านหรือคุณ นั้น

2. หากเอ่ยชื่อเป็นชื่อเล่น หรือฉายาของบุคคลทางการเมือง มีโอกาส 90% ที่ผู้เอ่ยจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามของบุคคลนั้น

3. การตั้งกระทู้ถามหาชื่อของสมาชิกเว็บบอร์ดคนใด คนหนึ่ง มีโอกาส 90% ที่ตั้งเพื่อจะหาเรื่องด่าบุคคลนั้น

4. หากมีคำว่า รัฐบาล ในหัวกระทู้ มีโอกาส 90% จะเป็นการด่ารัฐบาล

5. หากมีคำว่า ปู ในหัวกระทู้ มีโอกาส 90% จะเป็นภาพขำๆ หรืออิเดียทของผู้หญิงคนหนึ่งที่โดนชักใยจากมนุษย์แมงแม้ว

6. กระทู้ใดมีข้อความ เขาเล่าว่า, รู้กันเฉพาะไม่กี่คน , ข่าวลับ, ข่าววงใน, ข่าวไม่เปิดเผย, ข่าวจากคนนั้นคนนี้ ข้อความนั้นเชื่อถือไม่ได้

7. หากหัวกระทู้มีข้อความคล้ายประโยคบอกเล่า =
ฝ่ายตรงข้ามแม้ว มักจะนำเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องกับหัวกระทู้
ฝ่ายควายแดง มักจะไม่มีข้อมูลอะไรมากกว่าหัวข้อกระทู้นั้น

8.หากคุณเป็นควายแดงในบอร์ด ปุ่มคีย์บอร์ด Ctrl, C, V อาจเสียบ่อยๆ

9. หากคุณเป็นควายแดงรักจะเล่นบอร์ด ต้องมีเมลหลายๆ อัน เพื่อใช้สมัครใหม่

10. หากคุณเป็นลูกน้องแป๊ะลิ้ม หมั่นเข้าเว็บหมาไม่เจอบ่อยๆ เพื่อก๊อปข่าวอะไรก็ได้ มาตั้งกระทู้

11. หากคุณเป็นลูกน้องแป๊ะลิ้ม คำว่า วีระ ราตรี เหมือนทองคำแท่ง แค่รู้ว่ามีอยู่ก็พอ แต่ไม่ต้องเอามาพูด รอท่านอภิสิทธิเป็นนายกค่อยเอามาพูด

12. ห้ามผวนคำว่า astv จอดับ

13. วิธีแถหนี เวลาเถียงแพ้ที่มักใช้บ่อยๆ =
13.1 หาข้อความอะไรก็ได้ของฝ่ายตรงข้ามที่พิมพ์ผิด แล้วติติงไป เพื่อแสดงภูมิธรรมอันสูงส่ง ทำแล้วมันดูดีมากๆ แม้จะเถียงแพ้ก็ตาม
13.2 ควรมีรูปของการ์ดฝ่ายตรงข้ามคุณติดเครื่องไว้ เน้นเฉพาะที่ถืออาวุธ หรือทำลายข้าวของ เมื่อไม่รู้จะเถียงอะไรก็เอามาโฟส
13.3 ถ้ามีรูปคนตายของฝ่ายคุณ ควรนำมาใช้ประกอบในข้อ 13.2 แบบนี้จะทำให้คนที่เถียงกับคุณมึนงง แล้วลืมไปว่ากำลังเถียงอะไรกันอยู่

14. มีโอกาส 90%ที่คนอ่านถึงข้อนี้แล้วจะสงสัยว่า ทำไมต้อง มีโอกาส 90% ไม่ 100% ไปเลย

15. เนื่องจากควายแดงอ่านหนังสือน้อย ดังนั้นจะอ่านไม่ถึงบรรทัดนี้ "ควายแดงโดนแม้วหลอกมาตายมาเจ็บโครตโง่เลย สมน้ำหน้า ตายไปเยอะๆ อยู่ไปก็รกประเทศ "


งิงิ