ปู ออสการ์

พวกเรานัดเจอกันเป็นประจำครับ
พยายามนัดเท่าที่จะเวลาอำนวย
คนมันเคยเรียนหนังสือมาด้วยกัน
ผ่านไปหลายปี มิตรภาพดีๆยังมีให้กันเสมอ

"ว" เป็นเพื่อนคนหนึ่งในวงนี้
เขาเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มเหนี่ยว
ประชาธิปไตยที่ "กินได้" ของทักษิณ ชินวัตร

ทุกครั้งมีกลุ่มมีการถกแถลงหลังมื้อค่ำตามวิสัยปัญญาชน
"ว" แสดงความชื่นชมและสรรเสริญต่อนโยบายต่างๆ ของทักษิณ ชินวัตร อย่างออกหน้าออกตา
พร้อมด้วยหลีกฐานสำคัญที่นำเสนอต่อเพื่อนๆ เสมอ คือ

"ใครๆก็รู้"

เพื่อนๆ ก็ไม่อยากจะต่อปากต่อคำอะไรให้มากนัก
ยังไงก็เพื่ิอนล่ะนะ ฟังๆ กันไปให้ครื้นเครงกันจะดีกว่า
ไม่ได้เจอกันทุกวันหน่อย

เสาร์นี้ "ว" มาในมาดที่แปลกตาออกไป
ไร้ซึ่งคำสรรเสริญเดิมๆ ที่เคยได้ยินอยู่ทุกครั้ง
แม้ว่าเพื่อนๆ จะพยายาม "ชงลูก" ให้ตบสักกี่หนก็ตาม
ไม่ว่าจะเรื่องข้าว ยาง สภา นิรโทษ ฯลฯ
ก็มีแต่เสียงตอบเบาๆ ไม่เต็มเสียง
เคล้ากับกริยายกแก้วดื่มน้ำสีอำพันคล้ายจะแก้ขวยไปนั้นว่า

"เรื่องนี้มันต้องใช้เวลาว่ะเพื่อน พวก มึ ง ไม่มีทางเข้าใจหรอก"

เป็นอย่างนี้ซ้ำไป ซ้ำมา อยู่ตลอดคืน...


หลังเลิกรา
หลายคนไปต่อกันอีกร้านตามประสากลับบ้านค่ำไม่ได้
ไม่มี "ว" ร่วมวงเพราะขอกลับก่อน
เพื่อนคนหนึ่งโยนระเบิดลงกลางวง

"ไอ้ ว มันเป็นเชรี้ยอะไรวะ วันนี้เสียงไม่ใสเลย
ถามอะไรก็อ้อมๆ แอ้มๆ ไม่เสียงคับร้านเหมือนทุกที"

"มันกำลังมีปัญหาน่ะ" เพื่อนคนหนึ่งตอบ

ทุกคนมองตามาที่เพื่อนคนนี้เหมือนจะตั้งคำถามว่า ปัญหาอะไร

"ความฝันและความเชื่อมั่นของมันกำลังจะพังทะลาย" มันตอบพร้อมยกแก้วขึ้นจิบ

ทุกคนเงียบ ต่างคนต่างยกแก้วขึ้นจิบตาม
สายตาทอดห่างไปยังวงดนตรีที่หน้าเวทีแทน

ของ มึ ง เพิ่งจะพังหรือ?
ผมคิดของผมคนเดียวในใจ

ของ ก ู เนี่ยะพังมานานแล้ว

นานตั้งแต่ทักษิณของมึงเข้ามาทำลายประเทศไทยนี่แหละ!

เราจะตอบแทนบุณคุณชาวโลก (โดยเฉพาะบางประเทศที่ให้ที่ซุกหัวพี่ชาย)

ด้วยการจัดการต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แบบบูรณาการทุกภาคส่วน (จากคุณ ปู ออสการ์ครับ)

เพื่อให้ประเทศซิดนี่ย์ ได้ซื้อยางพาราจากจังหวัดหาดใหญ่และจังหวัดซุนไกโกลก เมืองขน อม ในราคาถูก

เพื่อเพิ่มดุลย์การค้าให้เพียงพอต่องบประมาณห้าหมื่นสามแสนล้านบาท

และตอบแทนประเทศญี่ปุ่น ด้วยเรือดันน้ำ ซึ่งเคยใช้งานได้สำเร็จจากทะเลสิงห์บุรี

รวมถึงเราจะส่งคนเสื้อแดงไปช่วยปลูกหญ้าแพรกป้องกันน้ำให้ด้วยคร่า

 

Overcome นะคะ

ปิดงบทัวร์หรู “ยิ่งลักษณ์” 3 ประเทศ เกือบ 22 ล้าน !

การเดินทางไปต่างประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ 81 คน ระหว่างวันที่ 8-15 ก.ย.56 โดยมีกำหนดการไป 3 ประเทศ ประกอบด้วย การเยือนสมาพันธรัฐสวิส สาธารณรัฐอิตาลี และมอนเตเนโกร (ซึ่งเดิมไม่มีกำหนดไว้อย่างเป็นทางการ) ได้ใช้วิธีเดินทางด้วยการเช่าเครื่องการบินไทยแบบเหมาลำ มีค่าใช้จ่าย ดังนี้

เส้นทาง กรุงเทพฯ -เจนีวา- ซูริค- โรม-มิลาน (พักเครื่องรอ) – กรุงเทพฯ : 18,900,000 บาท
          มิลาน- มอนเตรเนโกร 2 ลำ ลำละ 1,450,000 บาท : 2,900,000 บาท
รวมค่าเครื่องบิน 21,800,000 บาท

การเดินทางไปต่างประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ นอกจากจะใช้วิธีเหมาเครื่องบินการบินไทยแล้ว เจ้าหน้าที่จะจัดให้พักโรงแรมระดับ 6 ดาวของทุกประเทศ รับประทานอาหารเลิศหรู ซึ่งไม่มีใครทราบว่าเสียเงินแผ่นดินไปกับการใช้ชีวิตในต่างประเทศเท่าไหร่ โดยมีหลายครั้งที่นางสาวยิ่งลักษณ์ นำงบกลางที่อยู่ในอำนาจของตัวเองมาใช้จ่ายสำหรับค่าที่พักอาศัย และ การเลี้ยงรับรอง ทั้ง ๆ ที่วัตถุประสงค์ของการมีงบกลางเพื่อให้ไว้สำรองในกรณีเหตุฉุกเฉินที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น กรณีภัยพิบัติ เป็นต้น

นอกจากนี้การเดินทางไปยังมอนเตเนโกรในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายนักโทษหนีคดีอยู่ในระหว่างการใช้ชีวิตในสถานที่ดังกล่าวพอดี ทำให้เกิดข้อครหาว่าเป็นการเดินทางไปเพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับพี่ชาย โดยใช้รัฐบาลไทยเป็นเครื่องมือ อย่างไรก็ตามนางสาวยิ่งลักษณ์อ้างว่า การเดินทางไปมอนเตเนโกรระหว่างวันที่ 13-14 ก.ย.นั้น เป็นไปเพื่อยกระดับความสัมพันธ์และเปิดตลาดการค้าและนักธุรกิจไทยเข้าพบหารือกับผู้แทนภาครัฐ และเอกชนของมอนเตเนโกร พร้อมกับเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการระหว่างไทยกับมอนเตเนโกรเป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน โดยครม.ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ได้เป็นประธานในที่ประชุมได้อนุมัตในเรื่องดังกล่าวในวันที่ 10 ก.ย.56 ก่อนที่นางสาวยิ่งลักษณ์จะเดินทางไปมอนเตเนโกรเพียง 3 วัน 

ในขณะที่การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่าเพียงแค่กว่า 5 ล้านเหรีญสหรัฐ หรือประมาณ กว่า 150 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการยกเว้นวีซ่าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการไทยและมอนเตเนโกรนั้น เป็นไปเพื่อให้ข้าราชการไทยเดินทางไปพบ นักโทษหนีคดีได้สะดวกมากขึ้นหรือไม่ แต่รัฐบาลปฏิเสธในเรื่องดังกล่าว โดยยืนยันว่าเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อเป็นพื้นฐานในการสร้างความสัมพันธ์มิติต่าง ๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของนักโทษชายทักษิณ

ก่อนหน้านี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ถูกโจมตีอย่างหนักจากกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศในช่วง 2 ปี ถึง 52 ครั้ง รวม 42 ประเทศ ถือเป็นผู้นำประเทศที่เดินทางไปต่างประเทศมากที่สุดเป็นอันดับสามรองจากนายบารัค โอบาม่า ประธานธิบดีสหรัฐ และ จอร์จ บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐเท่านั้น โดยใช้เงินแผ่นดินไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท
//////////////

 

ไม่ไหวจะเคลียร์...  

 

เด็กชาย ทินพัฒน์ อยากให้หยุดเลือกตั้งไปยี่สิบปี

อยากให้ปชป ลาออกมานำมวลชน โดยไม่มีกลุ่มอื่นเข้าร่วม

อยากให้นักการเมืองหายไปจากเมืองไทย

อยากให้มาร์คกราบขอโทษพันธมิตร

พันธมิตรทำอะไรก็ไม่ผิด

สนธิ ลิ้มทองกุล ถูกเสมอทุกๆเรื่อง ฯลฯ

บ้านเมืองจะเป็นเช่นไรกันหนอ ถ้าเป็นไปตามอุดมคติ ความช่างคิด ช่างฝันของเด็กคนนี้

ปล. ผมพูดถึงเด็กชายทินพัฒน์นะครับ เข้าใจว่าไม่มีสมาชิกท่านไหนใช้ยูสนี้ คงไม่ได้พาดพิงใคร 555

ต่อฯ อย่าให้ความถ่อยลดน้อยถอยลง
เสียฟอร์มชาวเสรีไทยและบรรทัดฐาน
ที่สร้างไว้นะขอรับ

 

ก็คุณตอบแบบถ่อยๆไว้ก่อนแล้วจะให้เค้าตอบแบบผู้ดีกับคุณหรือไงครับ...

 

ยาง 19 บาท สมัยชวนยังอยู่กันได้

 

ถ้าคิดแบบนี้ ทำไมไม่ใช้มาตรฐานเดียวกับข้าว ทำไมไม่ซื้อราคาเดียวกับตอนสมัยชวนล่ะครับ

 

โบท๊อกหมดอายุแร้วป้า ... เที่ยวหนักไปหน่อย ลืมไปเติม    

เห็นรูปรถละอดขำไม่ได้  เอิ่มมม จะเอาจริงเหรอ ตำรวจอ่ะ  สงสารพวกปฏิบัติการเค้านะ ....ผมลองคิดแบบง่ายๆให้นะ

 

จากภาพรถดังกล่าว ถ้าผมเป็นโจร .... ผมจะเลือกพื้นที่สูงข่ม ทางด้านขวา  ยิงด้วยหนังสติ้ก หรือ BB Gun ก็พอ (เดี๋ยวจะบอกว่าเอาลูกจริงไว้ทำอะไร) ..... ให้คนขี่เสียหลัก....รถแบบนี้ น้ำหนักเกราะสร้างปัญหาแน่ๆ  เสียหลักปุ้ป ถึงไม่คว่ำ็ตอบโต้ไม่ได้ เพราะรถมันควบคุมไม่ได้แน่นอน  เดี๋ยวมันก็พุ่งเข้าข้างทาง.......หรือถ้าใส่หมวกกันน้อค ก็ล่อลูกจริงเลย ยิงจากพื้นที่สูงข่ม ทางขวาด้านคนขี่  จอดแน่ๆ เพราะไม่มีกำบัง

 

 

 คิดในกรณีเลวร้ายที่สุด มอร์ไซด์คว่ำ ....... เกราะพวกนี้แหละ คือตัวที่ทำให้พลปืนหนีไม่ได้และหมดทางต่อสู้ เพราะพื้นที่กลับตัวขึ้นมายิงต่อสู้ไม่มี ...ดิ้นแค่กๆในถังเกราะนั่นแหละ

 

ถ้าผมเป็นโจรผมมีทางเลือกดังนี้ครับ 

 

1. เดินมาอย่างใจเย็น ราดน้ำมัน เผาสด .....โชว์ความโหด

2. เดินมาอย่างใจเย็น ยิงหัว แล้วปาดไข่อัดคลิปโชว์ความโหด....

3. เดินมาอย่างใจเย็น เอามีดปาดไข่....แล้วเผา  (ไม่ต้องเสียลูกปืนแม้แต่นัดเดียว)  โชว์ความโหด

 

ไอ้รถนี่มันโลงศพเคลื่อนที่หรือเป้าซ้อมยิงชัดๆ  ถึงผมจะไม่ค่อยกินเส้นกับตำรวจ แต่เห็นมันสมองคนคิดไอ้รถพวกนี้มาเพื่อแด่กส์งบอย่างเดียวแล้วอดสงสารไม่ได้ครับ  นี่มันทุเรศพอๆกะ GT200 เลยนะ 

 

ไอ้ข้อ 1 2 3 ข้างบนน่ะ มันเกิดมาแล้วทั้งนั้น  อย่าโลกสวยว่าไอ้รถมอร์ไซด์นั่นจะป้องกันอะไรได้เลย  ถ้าผมเป็นโจร ผมไม่เสียเวลาขุดถนนฝังระเบิดหรอกครับ

 

ผมอยากให้ตำรวจมองดูรถเกราะแท้ๆมากกว่านะ ถ้าจัดซื้อกันอย่างโปร่งใส มันไม่แพงหรอก  ชัยเสรี หรือ ไทยรุ่ง ก็ได้ เค้ามีรถต้นแบบให้ทดสอบแล้ว ผมเพิ่งลองไปนั่งมา  ดูดีและมั่นใจกว่าเอามอร์ไซด์โลงศพล่อเป้านี่เยอะเลย  สงสารกำลังพลที่ทำงานกันบ้างครับ

 

รถหรูๆ และมีข้อความแบบนี้ ยิ่งทำให้คนขับหล่อขึ้น ครับ 
 
 
 
ปล.ผมชอบเสียงรถ ยี่ห้อนี้มาก ครับ เคยได้ยินในอุโมง ดังก้อง หนักแน่น จริงๆ
 
 
     

สตาร์ทด้วยเสียงด้วยครับ

 

 

นึกถึงตัวเองเลย พอเมียตะโกนว่า เอารถมา ตอบไปว่า จ้าาาาาา แล้วเดินไปสตาร์รถ

ผมว่าไอ่ที่น้อย คงไม่ใช่การส่งยางออกนอก ... แต่ผมว่า
ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี มีปัญญาที่น้อยนิด เสียมากกว่า 

ไม่ก็ ฯพณฯ ที่อยู่ในพรรคการเมืองที่
มีเหล่าคนปัญญาน้อยนิด ที่จะสติท่านนายกว่า 

"ปัญญาเท่าหางอึ่ง"

คาดว่า.....สถิตินี้......คงยากที่จะมีใคร.....มาลบได้......

 

 

อีปู......มันโง่ซะ......สะเทือนไป 3 โลกธาตุ.....  

 

 

 

 

 

ตอนรัฐบาลที่แล้วกู้นิดหน่อย ควายดิ้นแทบตาย

 

ตอนนี้กู้ชาตินี้ใช้หนี้ยันชาติหน้า มีแต่ส่งเสียงเชียร์..... เอาอีกๆ กู้อีกๆ กู้เยอะๆ

คิดเอง เออเอง ผมพูดแบบนี้ ได้ไหมครับ

 

อภิสิทธิ โครงการไทยเข้มแข็ง เท่าที่ ดีเอสไอ เล่นงานอยู่

 

ผมเห็น มีเพียง โรงพัก 396 แห่ง

 

ซึ่งที่จริง พล.ต.อ. ประทีป ตันประเสริฐ เค้าเป็นต้นคิดให้รวมสัญญา

 

แต่ ดีเอสไอ ไม่เอาผิด กันเป็นพยาน ซะอย่างนั้น

 

เลือก เอาผิด เฉพาะ คนปลายทาง อย่าง สุเทพ และ อภิสิทธิ์

 

 

ผมถามว่า เจ้าของความเห็นนี้ เคยไปดูตัวเลข สถิติ อะไร กับเขาบ้างไหม

 

ไปหาดู เอาซะบ้าง ของ ธปท. มีให้ ดูย้อนหลัง เยอะแยะ

 

จะได้ดูว่า ปชป เขาบริหารแย่ หรือ บริหารดีกว่า ยิ่งลักษณ์

 

ไปเปิด หู เปิด ตา ให้ตัวเองหน่อย

 

 

แล้วผมถามหน่อย ว่านักท่องเที่ยว ต่างประเทศ

 

ถ้าเขาเดินทาง มาจากต่างประเทศ จะไป ภูเก็ต หรือ เชียงใหม่ นี่ เขาบินจาก ต้นทาง ได้เลย

 

หรือ ต้องแวะ เข้า กรุงเทพฯ ก่อน แล้วค่อยต่อเครื่องบิน จากกรุงเทพฯไป

 

 

สมมุติ นักท่องเที่ยว จาก มาเลเซีย จำเป็นต้องมา กรุงเทพฯ ก่อนไหม หรือ ไป ภูเก็ต ได้เลย

 

มันไม่จำเป็น ใช่ไหม

 

รถไฟความเร็วสูง น่ะ นักท่องเที่ยว จากต่างชาติ เขาจะนั่ง ก็แบบ ลองนั่งดู

 

แต่ถ้า มานั่งประจำ น่ะน้อย เพราะเขา สะดวก เครื่องบิน มากกว่า มันตรง มาจากประเทศ เขาเลยได้

 

 

ไอ้พวกที่นั่งกัน น่ะ ก็ประเภท กลัวเครื่องบินไง แต่คนจน หมดสิทธินะ

 

เพราะแพงกว่า รถทัวร์เยอะ ไม่ต้องไปเทียบ กับ รถไฟชั้น 3 เลย

 

 

แล้วอันที่จริง เคยเห็น ประเทศไหน ในโลกบ้างล่ะ ที่กู้หนี้ให้ประเทศ อีก 2.2 ล้านล้าน

 

ทั้งที่ ตัวเองมีหนี้ สาธารณะ ตั้ง 5.04 ล้านล้าน แล้วอะ

 

 

เค้ามีแต่ เอา เงินจากงบประมาณ ที่พอจัดสรรได้ มาทำ

 

ใคร ๆ ก็อยาก ได้ทั้งนั้นแหละ ความเจริญ แต่มันต้องไม่ทำให้เรา

 

เข้าไปอยู่กับความเสี่ยง

 

 

กู้มาขนาดนี้ แล้วถามหน่อย เหอะ ว่า ถ้าเกิดเรามีปัญหา ต้องใช้เงิน

 

ในโครงการที่สำคัญ และจำเป็นจริง ๆ

 

สมมุตินะ แผ่นดินไหว จนเขื่อนแตก ต้องสร้างใหม่

 

เรามีเงินที่จะกู้ได้อีกไหม มันเต็ม เพดานไปแล้ว

 

คุณเล่น ไม่เผื่อเหลือ เผื่อขาด แบบนี้

 

 

แล้ว รัฐบาลเล่นกู้ ขนาดนี้ ถามหน่อยว่า เงินหมุนเวียน ภายในประเทศ

 

ที่จะให้ เอกชน กู้ไปทำธุรกิจ มันจะมีเหลือ มากน้อย แค่ไหน

 

 

คุณคิดว่า การก่อสร้างมันจะราบรื่น ตลอดเวลาหรือเปล่า

 

จะไม่ต้องหยุด เป็นช่วง ๆ เพราะ ภัยธรรมชาติ เลยใช่ไหม

 

 

มีใคร เค้าเอาเงินหมดกระเป๋า มาเทให้กับสิ่งที่ รอได้ และไม่มีอะไร มารองรับความเสี่ยง

 

หากใจร้อนทำ กันบ้าง

 

ผมโพสรูปแรด จะโดนด้วยไหมครับ

ข้อหากระทบความมั่นคงต่อนายก

เฮียหนกบอกว่า

ขณะนี้ ตะกวด ได้ควบคุมตัวผู้ก่อความไม่สงบ ได้แล้วบางส่วน ได้หนีออกนอกประเทศไปแล้ว