Jump to content


susu

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 31 มีนาคม 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2557 10:21
-----

#1129926 คําพูดของสุเทพเรื่องแก้ตัวให้ประยุทธ์พูดไป ยิ่งหมดความน่าเชื่อถือ

โดย Ender on 8 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:27

ในเมื่อ งานนี้ สุเทพ นำ  ไม่ใช่ แป๊ะ 

ในเมื่อ งานนี้ สุเทพ เสียตัง  ไม่ใช่ แป๊ะ 

ในเมื่อ งานนี้ สุเทพ เสี่ยง  ไม่ใช่ แป๊ะ 

 

จะยุติธรรมกว่าไหม ที่ สุเทพ ควรเป็นคน ตัดสินใจ 

คนอื่น ที่ไม่มีความเสียง ควรจะ หุบปาก นั่งขายน้ำด่าง ต่อไปดีกว่าไหม 




#1107269 เป็นไปได้ไหมครับ..ทักษิณเสียค่าโง่ให้ "แกนนำ นปช." ??

โดย RiDKuN_user on 16 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:40

คิดดูว่าถ้าสมมติคุณมีเงิน 50 ล้าน คุณจะอยู่ได้อีกกี่ปีโดยไม่ต้องทำห่านอะไรเลย

คำนวณง่ายๆ ถ้าใช้เดือนละแสน อยู่ได้ประมาณ 40 ปีนะครับ 

สบายๆ โดยไม่ต้องติดต่อพูดคุยกับประชาธิปไตยอีกเลย  -_-




#1107298 รวบรวม ผลงานพรรคประชาธิปัตย์

โดย HiddenMan on 16 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:03

 

 

ผลงานดีๆ แกเยอะแยะนะครับ - แจกเงิน 2000 ให้คนมีเงินเดือน แต่ไม่แจกคนชนบท เพราะคนชนบทไม่มี เงินเดือนรับรองว่าได้เท่าไร- จ้างต่างชาติ เกือบ 100 ล้าน คิดโปรเจค ไข่ชั่งกิโล ในตำนาน ที่เอาไว้เขียนลงวิชาสังคม ให้เด็กๆ เรียนได้ เพราะคนไทย ไม่มีปัญญาคิดโปรเจคแบบนี้ได้ - ช่วยคุมกำเนิดประชากรไทย ตอน ปี 53 ด้วยการสละชีพ นปชไปเกือบ 100 ศพ- นอกจากจะมีรุ่นพี่สร้าง Stonehenge ฉบับ Hopewell แล้ว ตอนนี้ก็มี Stonehenge ฉบับ โรงพัก 396 แห่ง รวมทั้งสื้น 397 แห่ง สำหรับ Stonehenge ในไทย เอาไว้ให้ต่างชาติมาดู- เป็นสภาที่ใช้เวลาประชุมผ่านโครงการ ด้วยเม็ดเงินมหาศาล นับลง กินเนสบุ๊คได้เลยว่า เป็นสภาที่ผ่านร่างงบประมาณต่อนาที อาจจะสูงที่สุดในโลก- เป็นยุคที่มีการแจกคุรุภัณฑ์ ให้กับ โรงเรียนอาชีวะ แต่น่าเสียดาย โรงเรียนเหล่านั้นกลับไม่ยอมใช้คุรุภัณฑ์ ที่ส่งไปให้ใช้ ตอนนี้เลย ตั้งเป็น อนุสรณ์ ไว้ให้ ต่างชาติ มาดูเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเช่นเดียวกันผมไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ ปชป เลยนึก ประโยชน์ เค้าออกเท่านี้จริงๆครับ

ขอที่มาประกอบด้วยนะครับ

ยังต้องการที่มาอีกหรือครับ ทุกวันนี้เรื่องพวกนี้มันประจักต่อผู้คนกันไปแล้ว

เอาง่ายๆ เรื่องสองพัน ผมได้ แต่คนทางบ้าน (บ้านนอก) ไม่ได้

 

 

 

:D ให้คนมีเงินเดือน หรือให้คนที่มีประกันสังคม...




#585543 .......... สิ่งที่หายไป....???? อยู่ไหน ...??

โดย พระฤๅษี on 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 13:27

......หลายสิบปี ที่ตามหา.บางปีก็พบ ครั้ง-สอง บางปีก็ไม่พบ

ยิ่งระยะ ๑๐ ปี หลังนี่  เกือบไม่ได้พบ  ครั้งนี้ จะพูดถึง

..กาพย์...ร้อยกรอง ชนิดนี้ มีอยู่ไม่มากนัก  เช่น  ...........

..กาพย์ยานี ๑๑..กาพย์ฉบัง ๑๖..กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘..

บางคนฉงนว่า..อ้าว.. แล้ว..กาพย์ห่อโคลง..กาพย์เห่เรือ.?

.......ก็ต้องอธิบายว่า..กาพย์ห่อโคลง= ก็แต่ง กาพย์ยานี-

๑๑  สลับกับ โคลงสุภาพ.ส่วน..กาพย์เห่เรือ..ก็ ขึ้น โคลง-

สุภาพ.แล้วต่อด้วยกาพย์ยานี ๑๑. เริ่มแต่ ..ช้าแลว่าเห่..

มูละเห่..สวะเห่...  ก็ไม่จำต้องกล่าวถึง  เพราะเรียกว่า .......

..กาพย์เฉพาะกิจ..มีประวัติมาตั้งแต่ อยุธยา  ที่ดังและรู้จัก

กันก็มายุคปลาย  อยุธยา  ร้อยกรองของ ..เจ้าฟ้ากุ้ง....

( เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ )  ย่อ ๆ  ......

.......กาพย์ยานี ๑๑..  ยังเห็นแต่งกันต่อเนื่อง..คงจะไม่หาย

ไปแน่. ส่วน.. กาพย์ฉบัง ๑๖..( มีอยู่ในบทพากย์โขน ) แต่

คนแต่ง  ดูจะน้อยลง  ทั้งที่กาพย์ชนิดนี้  แต่งง่าย สัมผัสก็-

น้อย ( ๑ บทมีแค่ ๓ วรรค. วรรคแรก ๖ คำ.วรรค๒-๔คำ ----

และวรรค๓-๖คำ )  สัมผัสก็แห่งเดียว...ปลายวรรค๑สัมผัส-

ปลายวรรค๒. แค่นี้  แต่กาพย์  ชนิดนี้ ก็กำลังจะหาย.........

ทั้งๆที่แต่งง่ายมาก  แต่ก็น่าเสียดาย  ปีที่แล้ว แนะนำไว้ได้

๓ คน  ในเฟซฯ  .อีกชนิดหนึ่งคือ( กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘)

เงียบมาหลายปีแล้ว. ไม่ค่อยเจอ (วรรคละ ๔ คำ มี ๗ วรรค)

หลายปีแล้ว  ไม่ได้เห็น  ไม่ได้อ่าน..น่าจะถึงกาลสูญหาย....

.......ตอนนี้..ขอลงไว้ให้ผู้สนใจ  ดูเป็นตัวอย่าง  .........

..(เป็นบท..ร้อยกรอง ใน หนังสือเรื่อง..กาพย์พระชัยสุริยา)

..ของท่าน.สุนทรภู่..( ซึ่ง ครั้งหนึ่ง เคยใช้เป็นแบบเรียน )

......( วันนั้น จันทร.....มีดา-รากร.....เป็นบ-ริวาร.

...... เห็นสิ้น ดินฟ้า....ในป่า ท่าธาร....มาลี คลี่บาน.

......ใบก้าน อรชร....) ฯลฯ  ๗ วรรค ๒๘ คำ........

 

>>>>> วันนี้ ขอทวงถาม กาพย์ที่หายไปแค่นี้...ต่อไปก็จะ

......พูดถึง..ร้อยกรองชนิดต่างๆ เช่น โคลง..ที่หายไป....

.....กลอน.ที่หายไป....ร่าย...ลิลิต ...ลิลิตก็เป็นการแต่ง-

.....ร้อยกรอง..สลับกัน.เล่าเรื่องใดเรื่องหนึ่ง  ที่มีปรากฏใน

.....ปัจจุบันนี้ เหลืออยู่แค่..ลิลิตพระลอ.ลิลิตญวนพ่าย.ล่าสุด

....รัชกาลที่๖ท่าน.พระราชนิพนธ์  ..ลิลิต นารายณ์สิบปาง..

 

>>>>> ส่วน..คำฉันท์   ที่หายไป  ไม่แน่ว่าจะเขียนหรือไม่

.....เพราะแค่  กลอนสุภาพ...กาพย์ยานี ๑๑  ยังเขียนกันมั่ว-

.....มาก..( คำฉันท์แต่ละชนิด ) บังคับคำ ตายตัว ๑๑ ก็ต้อง-

.....๑๑ เกินไม่ได้  ขาดไม่ได้ แถม( ครุ-ลหุ ) ต้องวางให้ตรง

.....ยังเห็นมีแต่งกันอยู่ ๒-๓  ชนิด  ทั้งที่ คำฉันท์ มีหลายสิบ

.....ชนิด...จะเอาไว้กล่าวตอนท้ายสุด....ขอแค่นี้ก่อน...

 

>>>>>>> ร้อยกรอง..ที่หายไป.....ตอนที่ ๑ <<<<<<<<

 

..........๑/๒/๕๖.........

...




#1107387 รวบรวม ผลงานพรรคประชาธิปัตย์

โดย ดูโอลิมปิก5ปีดีจุงเบย on 16 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:12

 

ผลงานดีๆ แกเยอะแยะนะครับ 

- แจกเงิน 2000 ให้คนมีเงินเดือน แต่ไม่แจกคนชนบท เพราะคนชนบทไม่มี เงินเดือนรับรองว่าได้เท่าไร
- ช่วยคุมกำเนิดประชากรไทย ตอน ปี 53 ด้วยการสละชีพ นปชไปเกือบ 100 ศพ
- นอกจากจะมีรุ่นพี่สร้าง Stonehenge ฉบับ Hopewell แล้ว ตอนนี้ก็มี Stonehenge ฉบับ โรงพัก 396 แห่ง รวมทั้งสื้น 397 แห่ง สำหรับ Stonehenge ในไทย เอาไว้ให้ต่างชาติมาดู
 

 

 

ถามจริง ตอนนายปฏิสนธินี่ ที่บ้านตั้งใจรึป่าวง่ะ

ถ้าตั้งใจ ทำไมไม่ลงทุนเวลาและหัวใจเลี้ยงนายมาให้เป็นคนดีมีสติ รู้จักหัดค้นข้อมูลก่อนป้ายสีใครมั่งวะ

 

นี่ไม่ได้ด่านะ  ถามจริงๆเลย

 

 

ปล. มาแท่ดๆแถๆอยู่แถวนี้ แล้วกระทู้ที่นายตั้งใส่ร้ายเอกนัฏ ไปตอบมั่งยังวะไอ้มังกือ

 

โอปปาติกะคืออะไร

พุทธศาสนา ทรรศนะและวิจารณ์
ศาตราจารย์พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก / ราชบัณฑิต


มี คำที่คุ้นหูคุ้นตาชาวไทยอยู่คำหนึ่งคือ โอปปาติกะ พอเอ่ยถึงคำนี้คนทั่วไปจะเข้าใจทันทีว่า หมายถึงสัตว์ประเภทหนึ่งที่ผุดเกิดขึ้นมาตามแรงบุญแรงกรรม เกิดมาแล้วโตเต็มตัวในทันที

บางทีเราเรียกกันว่า "สัมภเวสี"

แต่โอปปาติกะกับสัมภเวสี น่าจะไม่เหมือนกัน ไม่เหมือนกันอย่างไรเอาไว้พูดถึงทีหลัง ในที่นี้ขอพูดถึงโอปปาติกะก่อน

ใน คัมภีร์ชั้นต้น (หมายถึงพระไตรปิฎก) มีคำเรียกสิ่งที่ว่านี้อยู่สองคำคือ อุปปาติกะ กับ โอปปาติกะ ทั้งสองคำนี้มาจากรากศัพท์เดียวกันคือ อุ+ป+ปตฺ+ณิก (ปัจจัย) ประกอบกันตามกรรมวิธีไวยากรณ์ หรือ Grammar ของภาษาบาลีแล้วสำเร็จรูปเป็น อุปปาติกะ หรือโอปปาติกะ แปลตามตัวอักษรว่า "ผู้ผุดขึ้น" หมายความว่า ผุดเกิดเติบโตขึ้นมาทันทีดังกล่าวข้างต้น

ใน มหาสีหนาทสูตร มัชฌิมนิกาย พระไตรปิฎก (ฉบับภาษาไทย พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2521) เล่ม 12 ข้อ 169 หน้า 117 พระพุทธเจ้าตรัสว่า

"ดูกร สารีบุตร กำเนิด 4 ประการเป็นไฉน คือ อัณฑชะกำเนิด ชลาพุชะกำเนิด สังเสทชะกำเนิด โอปปาติกะกำเนิด ดูกรสารีบุตร อัณฑชะกำเนิดเป็นไฉน สัตว์ทั้งหลายเหล่าใดชำแรกเปลือกแห่งฟองเกิด นี้เรียกว่า อัณฑชะกำเนิด ดูกร สารีบุตร ชลาพุชะกำเนิดเป็นไฉน สัตว์ทั้งหลายเหล่าใดชำแรกไส้เกิด นี้เราเรียกว่า ชลาพุชะกำเนิด สังเสทชะกำเนิดเป็นไฉน สัตว์ทั้งหลายเหล่าใดย่อมเกิดในปลาเน่า ในซากศพเน่า ในขนมบูด หรือในน้ำครำ ในของสกปรกนี้เราเรียกว่า สังเสทชะกำเนิด ดูกร สารีบุตร โอปปาติกะเป็นไฉน เทวดา *** มนุษย์บางจำพวก และเปรตบางจำพวก นี้เรียกว่า โอปปาติกะ"

สำนวนแปลไทยของท่านค่อนข้างเข้าใจยาก ขอถอดความให้ฟังง่ายคือ กำเนิดมี 4 ประเภทคือ (1) ชลาพุชะ เกิดในครรภ์ (2) อัณฑชะ เกิดในไข่ (3) สังเสทชะ เกิดในที่สกปรกเน่าเหม็น และ (4) โอปปาติกะ พวกที่ผุดเกิดขึ้นมาทันที ซึ่งมีด้วยกัน 4 จำพวกคือ เทวดาพวกหนึ่ง สัตว์นรกพวกหนึ่ง มนุษย์บางจำพวกอีกพวกหนึ่ง เปรตบางจำพวกอีกพวกหนึ่ง

สามจำพวกแรกไม่มีปัญหา แต่ประเภทสุดท้ายคือมนุษย์นี่สิ พระคัมภีร์ยืนยันว่าบางพวกเป็นโอปปาติกะ แง่นี้ยังไม่มีใครพูดถึงกัน ว่าได้แก่มนุษย์ชนิดไหน

มีหลักฐานอยู่สองแห่ง น่าจะให้คำตอบได้คือ ปาสาทิกสูตร เล่ม 11 ข้อ 116 หน้า 122 กล่าวว่า

"ดูกรอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นพระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีอันจะตรัสรู้ในภายหน้า เพราะละสังโยชน์ 3 สิ้นไป ข้อนี้เป็นผลประการที่ 1 เป็นอานิสงส์ประการที่ 1 ดูกรอาวุโส ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นสกทาคามี มาสู่โลกนี้คราวเดียวเท่านั้น แล้วจะทำที่สุดแห่งทุกข์เพราะสังโยชน์ 3 สิ้นไป และเพราะความราคะ โทสะ โมหะ เบาบาง ข้อนี้เป็นผลประการที่ 2 เป็นอานิสงส์ประการที่ 2 ดูกรอาวุโส ข้ออื่นยังมีอีกภิกษุเป็นอุปปาติกะ (เป็นอนาคามี) ผู้จะปรินิพพานในภพนั้น เป็นผู้ไม่ต้องกลับมาจากโลกนั้นเป็นธรรมดา เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำทั้ง 5 สิ้นไป ข้อนี้เป็นผลประการที่ 3 เป็นอานิสงส์ประการที่ 3..."

ข้อความข้างบนนี้ พูดถึงคน 4 ระดับคือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี โอปปาติกะ และพระอรหันต์ (ซึ่งไม่ได้ยกมาด้วยเพราะจะเปลืองหน้ากระดาษไป)

โอปปาติกะ ในที่นี้ก็คือพระอนาคามี

หลักฐานที่สองคือ อัฏฐกนาครสูตร เล่มที่ 13 ข้อ 2 หน้า 17-18 กล่าวว่า

"เธอตั้งอยู่ในธรรมคือสมถะวิปัสสนานั้น ย่อมถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ถ้าไม่ถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย เพราะความยินดีเพลิดเพลินในธรรมคือสมถะวิปัสสนานั้น เพราะความสิ้นไปแห่งโอรัมภาคิยสังโยชน์ 5 เธอย่อมเป็นโอปปาติกะ จะปรินิพพานในที่นั้น มีอันไม่กลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา"

แม้จะ ไม่ระบุคำว่า "อนาคามี" ตรงๆ แต่จากข้อความแวดล้อม ก็บ่งชัดแจ้งอยู่แล้วว่า ผู้ที่ฝึกสมถะและวิปัสสนา ได้ฌานที่ 3 และที่ 4 ย่อมได้บรรลุพระอรหันต์สิ้นอาสวกิเลสได้ในที่สุด แต่ถ้าไม่สามารถหมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ได้ เพราะไปติดอยู่ในความสุขในฌาน เพลิดเพลินในสมถะวิปัสสนา ก็จะได้เป็นโอปปาติกะ เพราะมาถึงขั้นนี้แล้ว ย่อมละสังโยชน์เบื้องต่ำ 5 อย่างได้

และคนที่ละสังโยชน์เบื้องต่ำได้ 5 ชนิด ก็คือ พระอนาคามี

ครับ! มนุษย์ที่เป็นโอปปาติกะ คือ พระอริยบุคคลระดับอนาคามีดังหลักฐานที่อ้างมาข้างต้น

ปัจจุบันนี้ มีนักโอปปาติกะนิยมบางท่าน มุ่งความสนใจไปเฉพาะโอปปาติกะที่เป็นเทวดา หรือสัตว์นรก โดยลืมนึกถึงโอปปาติกะมนุษย์ บางท่านเอาเทวดามาขู่ว่า ใครไม่เชื่อว่าผีสางเทวดามีจริง หรือไม่กระตือรือร้นที่จะเห็นความสำคัญของเทวดาเป็นมิจฉาทิฐิ อะไรไปโน่นแน่ะ

จริงอยู่ พระพุทธเจ้าตรัสมิจฉาทิฐิ (ความเห็นผิด) 10 อย่างไว้ในอปัณณกสูตร พระไตรปิฎกเล่ม 13 การไม่เชื่อว่ามีโอปปาติกะเป็นหนึ่งใน 10 อย่างนั้น แต่โอปปาติกะชนิดไหนที่พระพุทธองค์น่าจะประสงค์ในที่นี้

เทวดา หรือมนุษย์?

น่าจะเป็นมนุษย์มากกว่า

โอปปาติกะมนุษย์นี่แหละ ที่ควรสนใจที่สุด เพราะถ้าเชื่อว่ามนุษย์ที่เป็นโอปปาติกะมีอยู่จริงก็เท่ากับยืนยันความเป็น สวากขาตธรรม (พระธรรมตรัสดีแล้ว) สันทิฏฐิกธรรม (พระธรรมพึงรู้เห็นเอง) และเอหิปัสสิกธรรม (พระธรรมที่สามารถพิสูจน์ได้) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

การ "ผุดเกิด" ที่แท้จริง น่าจะเป็นการผุดขึ้นแห่งกระแสจิตก้าวพ้นกิเลสที่ผูกมัดไว้กับกองทุกข์ (สังโยชน์) 5 ชนิด คือ ความเห็นว่ามีตัวตน, ความลังเลสงสัย, ความถือขลังศักดิ์สิทธิ์ในศีลพรต, ความติดใจในกามคุณและความกระทบกระทั่งในใจ

คนที่ระดับจิตใจถึงขั้นนี้ ไม่มีทางตกต่ำ มีแต่จะพัฒนาขึ้นจนดับกิเลสได้สนิท ไม่กลับมาเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏอีกต่อไป

โอปปาติกะประเภทนี้ต่างหากที่ควรสนใจ และถ้าใครไม่เชื่อว่าในพุทธศาสนามีโอปปาติกะชนิดนี้ จึงควรถูกประฌามว่าเป็นมิจฉาทิฐิแท้จริง

เพราะเท่ากับคัดค้านคำสอนของพระพุทธองค์




#1107016 รวบรวม ผลงานพรรคประชาธิปัตย์

โดย YuiKung on 16 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 14:46

เรื่องผลงานก็พูดยากนะครับ เพราะ เป็นงานโครงการต้องดำเนินการอย่างต่อเนือง ทั้งที่เป็นรูปธรรมแล้ว และก็มีโครงการถูกถอดออกจากรัฐบาลใหม่ซึ่งเมื่อไม่ดำเนินการต่อโครงการจึงไม่เป็นรูปธรรมขึ้น
นโยบายกับผลงานพรรค ปชป
http://www.democrat....sultsandpolicy/
เข้าเว็ปพรรค ปชป สะดวกดีครับ

http://www.democrat....s-activity/WoM/


#1102389 รวบรวม ผลงานพรรคประชาธิปัตย์

โดย Sand on 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 18:27

ถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนจะริเริ่ม1ตำบล1ผลิตภัณฑ์ในสมัยคุณชวน
โดยนำต้นแบบมาจากญี่ปุ่น. แต่มาเริ่มออกผลงานในสมัยทักษิณ
และมาเปลี่ยนมาใช้คำย่อว่าotop. เพื่อใช้ในการโปรโมท
ด้วยใช่ไหมครับ


#1100318 “จิตตนาถ” สมเพชสุเทพ ชี้อย่าไร้สาระ อยากชนะต้องปฏิรูปตัวเองก่อน เสียดายปชช.ตา...

โดย Ricebeanoil on 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 00:50

ฝากถึงจิตตนาถ

กูว่าบอกพ่อเมิงออกมาจัดม๊อบเองเลยดีกว่า อย่าปากดีเอาแต่เห่าอยู่ข้างเวที




#1047523 "ปานเทพ" ชี้ศึกต่อไปต้องล้มเลือกตั้ง ส.ว.

โดย วิท on 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 08:05

เชิญปานเทพ กับแป๊ะ ไปปิดหน่วยเลือกตั้งเองเถอะ.


#1030205 (กระทู้พลีชีพ) อยากทราบเหตุผลว่า เหตุใดมีแต่คนเชื่อว่า ถ้าเราจับอาวุธสู้แล้วแ...

โดย Bookmarks on 26 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:56

จะทำ ก็ลอบทำครับ อย่าใช้อาวุธในที่ชุมนุม 




#1000888 ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ... เพชร โอสถานุเคราะห์…

โดย Bookmarks on 11 มกราคม พ.ศ. 2557 - 12:09

1491742_397402373729105_1522164776_n.jpg




#990140 ประชาชนรวมเงินซื้อ ปตท. กลับมาดีหรือไม่ ?

โดย idecon on 4 มกราคม พ.ศ. 2557 - 18:32

ไม่ต้องยึดครับ
ตั้งบริษัทใหม่
นำเข้าน้ำมันเสรี เปิดปั๊มเสรี
ขายแข่งกะมันเลย
ขอสิทธิพิเศษให้ด้วย


#989827 ถึงเวลาแล้ว ครับสุเทพ

โดย ม่านน้ำ on 4 มกราคม พ.ศ. 2557 - 13:03

ไปเกณฑ์ทหารหรือยัง.png




#989131 โครงการสร้างโรงพัก 396 แห่งมีการทุจริตหรือไม่ ?

โดย Bookmarks on 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 21:15

ใช้สติปัญญาหาข่าวอ่านบ้างนะ ปัญญาจะไม่โง่

 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวระดับสูงสำนักงานอัยการสูงสุดระบุว่า   สำหรับสำนวนคดีฉ้อโกงที่  บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นต์ แอนด์ คอนตรัคชั่น จำกัด ,นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ประธานบริษัท พีซีซีฯ , นายวิศณุ วิเศษสิงห์ กรรมการผู้จัดการบริษัท พีซีซีฯ และนายจตุรงค์ อุดมสิทธิกุล กรรมการบริษัท พีซีซีฯ ผู้ต้องหาที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงเงินค่าก่อสร้างผู้รับเหมาช่วง ในโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน396 แห่งทั่วประเทศ จำนวนกว่า 90 ล้านบาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 นั้น
 
          โดยอัยการฝ่ายคดีพิเศษได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากพิจารณาสำนวนแล้วว่า ผู้รับเหมาช่วงได้เข้าร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ ว่า ไม่ได้รับเงินค่าจ้างและเงินค่าดำเนินการต่างๆจากบริษัทพีซีซี  ซึ่งทางอัยการพิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า ไม่ได้เป็นการหลอกลวง แต่เป็นการผิดสัญญาทางแพ่ง เนื่องจากบริษัทพีซีซีไม่จ่ายเงินให้ผู้รับเหมาช่วงตามงวดสัญญา ทำให้ผู้รับเหมาช่วงไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างสถานีตำรวจให้เสร็จสิ้นได้ และบริษัทพีซีซีก็เคยเป็นผู้รับเหมาและมีประวัติการทำงานก่อสร้างโครงการใหญ่มาก่อน เห็นว่า บริษัทพีซีซีไม่มีเจตนาฉ้อโกงและไม่มีมูลทางคดีอาญาจึงสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว  
 
          ส่วนคดีฮั้วประมูล ที่บริษัท พีซีซี ฯ , นายพิบูลย์ อุดมสิทธิกุล ประธานบริษัท พีซีซีฯ และ นายวิศณุ วิเศษสิงห์ กรรมการผู้จัดการบริษัท พีซีซีฯ ผู้ต้องหาที่ 1-3  ข้อหา โดยทุจริตร่วมกันเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐโดยรู้ว่า ราคานั้นต่ำมากเกินกว่าปกติ (ต่ำกว่าราคากลางถึง 540 ล้านบาท) จนเห็นได้ชัดว่าไม่เป็นไปตามลักษณะสินค้าหรือบริการ หรือเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่หน่วยงานของรัฐสูงกว่าความเป็นจริงตามสิทธิที่จะได้รับ โดยมีวัตถุประสงค์เป็นการกีดกันการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมและการกระทำเช่นว่าเป็นเหตุให้ไม่สามารถปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญาได้ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 8 นั้น 
 
          โดยอัยการฝ่ายคดีพิเศษก็มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่าการประมูลโดยวิธีอีอ็อกชั่นของ สตช. เป็นการประมูลอย่างถูกต้องและมีการแข่งขันราคากันหลายครั้ง ส่วนที่ดีเอสไอระบุว่า บริษัทพีซีซีเสนอราคาต่ำกว่าความเป็นจริงมากเกินกว่าปกตินั้น ก็ไม่ปรากฏว่าการเสนอราคาต่ำมากจนเกินไปและต่ำกว่าเกณฑ์ของกระทรวงการคลังแต่อย่างใด 
 

 

 




#989127 โครงการสร้างโรงพัก 396 แห่งมีการทุจริตหรือไม่ ?

โดย จีรนุช on 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 21:13

เห็นด้วย ตั้งกระทู้ในเสรีไทยได้  เเต่ทำไมใช้กูเกิลไม่เป็นสะงั้น