อย่ามโน, on 27 Mar 2014 - 12:12, said:
หมอนกหวีดเหรอ
อย่ามโนครับว่าหมอนกหวีด


- QueenBee likes this
โดย อู๋ ฮานามิ
on 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:09
DoctorK, on 03 Mar 2014 - 11:25, said:
แปลกมะ ที่เสื้อแดงที่ชอบออกมาต่อต้านรัฐประหาร
ตอนนี้กลับดูตื่นเต้น ลุ้นให้ รัฐประหารทุกลมหายใจ
ประชาธิปไตยลับหลังเป็นงี้นี่เอง
อีกอย่าง ไหนบอกว่ารักสงบ ต่อต้านความรุนแรง (ผ่านกิจกรรมจุดเทียนสันติภาพ)
ตอนนี้ดันลุ้นให้มีสงครามกลางเมือง พูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่แต่เรื่องแบบนี้
โดย ธีรเดชน้อย
on 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:57
โดย Zecret
on 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:45
โดย อิสระเสรีชน
on 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 18:43
ซัมยอง, on 03 Mar 2014 - 11:41, said:
อิสระเสรีชน, on 03 Mar 2014 - 11:34, said:
พูดไม่หมดรึป่าว วาสนา เนี้ยตลกแระเค๊าฟ้องเพราะหลักฐานเป็นรูปที่ถือป้ายกัน แล้วมันยังเอาไปแขวนบนสะพานลอยอีก
มั่วได้ใจจริง ส่วนชื่อกลุ่ม สปป ล้านนา จะใช่ไม่ใช่ก็อีกกรณีนึง จะเบี่ยงเบนทำกระเบื้องอัลไล ไม่เข้าใจ
ใครเอาไปแขวน คุณคิดว่าฝ่ายใหนหรือ มีศักยภาพ แล้วแดงมีหย่อมแค่นั้น จะไปแบ่งแยกดินแดนได้อย่างไร ทำไมประยุทธ ถึงเชื่อขนาด จะมีศักยภาพเหมือนคอมมิวนิสต์ในอดีต มันแปลกๆนะ
แต่ที่แน่ๆ เอารถถังออกจากทัพภาค1 มาแล้ว
สงสัยจะหยวนๆ ทั้ง2ฝ่าย แล้วให้ ฝ่ายแดงเป็นแพะ รับเคราะห์ไป ยอมเจ็บเล็กน้อย
5555555555555555 ตอนนี้บอกหย่อมเดียว ทุกทีเห็นบอกทั้งแผ่นดินนี่ โหยแถสีข้างถลอกแระ มวลมหาประชา 20ล้านคน ฮ่าๆ
อยากขำ
เค๊าออกมาทำไรรึ? รู้แล้วเหรอ? โถ อย่ารีบคาบสิรอเค๊าชัวส์ๆก่อนค่อยคาบมา
โดย ter162525
on 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 14:06
freeme, on 01 Mar 2014 - 07:02, said:
ที่ย้ายไปรวมกันที่สวนลุม ไม่มีอะไรลับลมคมในหรอกครับ
เพราะถ้าหลายเวทีแล้วคนมันโหรงเหรง ภาพที่ออกมามันไม่ดี
มวลชนที่รอลุ้นอยู่หน้าจอ ก็หดหู่ไปด้วย มันจะเกิดการเสียกำลังใจ ก็เลยต้องรวมเวที
ครับ คิดแล้วสบายใจก็ เอาเลยครับ
โดย หนูอ้อย
on 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:54
no name, on 01 Mar 2014 - 06:09, said:
ก็ได้แค่เดากันทั้งหมด ซึ่งผมก็คงเป็นคนหนึ่งที่ขอเดาด้วยคน
ผมว่ามันเป็นการเปลี่ยนเกมส์จากรุก มาเป็นรับ แบบมีชั้นเชิง เพราะถ้าสังเกตคำพูดของ สุเทพ เมื่อคืน มีเหตุผลหลายประการ โดยไล่เรียงกันดังนี้
1. คืนถนนให้คนกรุงเทพฯ อันนี้ผมว่า สุเทพ ก็คงกลัวกระแสตีกลับว่า คนชุมนุมน้อยแล้วทำไมยังปิดแยกหลายแห่ง ทำไมไม่รวมเวทีเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งก็เชื่อว่า คนกรุงเทพที่สนับสนุน กปปส.อยู่ ก็รู้สึกเช่นนั้น ซึ่งถ้าหากให้สถานการณ์เป็นแบบนี้นานๆ คนกรุงเทพ ที่เคยออกมาสนับสนุนในทุกๆ ด้านเริ่มเปลี่ยนท่าที
2. ปิดถนนไม่ทำให้รัฐบาลออกแน่ ซึ่งคำพูดที่ สุเทพ พูดมาประโยคหนึ่งว่า อีปลวกพูดถึงการปิดถนนในกรุงเทพว่า "ช่างมัน" คำพูดนี้เองที่ต้องมาคิดกันว่า เมื่อปิดถนนหลายสายแบบนี้ ไม่ได้กระทบกับรัฐบาล ขืนทำไปก็คงไม่มีประโยชน์ แต่กลับกันผลเสียตกที่ กปปส.แน่นอน ทั้งเรื่องงบประมาณ และกำลังคนที่ลดน้อยลง
3. ผลกระทบเรื่องการค้าขายในย่านที่ปิดถนน เป็นประโยคสุดท้ายที่สุเทพ พูด และดูเหมือนจะพูดเรื่องนี้นานที่สุด โดยมีการขอโทษขอโพยว่า ถ้าสร้างความเดือดร้อนให้ก็อยากให้ถือว่าช่วยชาติแล้วกัน
ผมฟังก็มีเหตุผลหลัก 3 ข้อนี้ ส่วนเรื่องความปลอดภัย ผมว่าคงไม่น่าเกี่ยว เพราะถ้าดูแล้วการดูแลทำได้ง่ายกว่าที่สวนลุม แต่ที่ต้องเลือกคือมันน่าจะเป็นพื้นที่ปิด (แต่มีความเสี่ยงด้านตึกสูงเท่านั้น)
สำหรับผมก็มีความเห็นส่วนตัวอีกข้อ คือ เรื่องเงินที่ใช้จ่ายในแต่วัน ผมว่าไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ใช่น้อยก็คงเป็นเหตุสำคัญอีกประการหนึ่ง
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัยว่า ทั้งหมดมันเป็นเหตุผลประกอบกัน ด้วยกลยุทธที่ต้องลึกลับซับซ้อนอยู่บ้าง เพราะอย่าลืม สุเทพ ไม่ได้เดินแบบคนธรรมดาคนหนึ่ง เขาเดินตามยุทธศาสตร์ และยุทธวิธี ซึ่งมีคนระดับหัวกะทิที่ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะมาให้การสนับสนุน มันจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ สลับไปมา ที่ทำให้ดูเหมือนว่า แผนการไม่มีอะไรสลับซับซ้อน แต่แท้จริงแล้วทุกย่างก้าวมีความหมาย อย่างน้อยคนธรรมดาอย่างเราอาจไม่เข้าใจ แต่เชื่อว่าคนที่เข้าใจคือรัฐบาล ที่คงต้องปรับเปลี่ยนแผนการไปตลอดเวลาเช่นกัน
อย่างเช่น เมื่อสองวันก่อน สุเทพ ออกมาประกาศจะเจรจากับอีปลวก มีใครคิดไหมว่าทำไมเปลี่ยนท่าที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยืนยันชัดว่าไม่เจรจาทั้งสิ้น แล้วต่อด้วยการยุบเวที ดังนั้นถ้าเอาสิ่งเหล่านี้มาวิเคราะห์จะเห็นได้ว่า เหตุผลการยุบเวที มันก็เป็นอย่างที่ สุเทพ พูดทุกประการ เพียงแต่มันมีเหตุผลหลักสำคัญที่ต้องเดินแบบนี้ เพราะต้องการบีบรัฐบาลให้จนตรอกเร็วขึ้นหรือไม่
เขียนมาตรงนี้ในความเห็นส่วนตัวก็คิดว่า คงเป็นแผนตัดข้ออ้างของรัฐบาลทุกข้อ ในการให้รัฐบาลมีความชอบธรรมในการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น หลังจากที่หมดสภาพตามกฎหมาย
ข้อแรก เมื่อการชุมนุมไม่มีปิดถนน แต่ไปชุมนุมในสวน รัฐบาลจะอ้างว่า หมดสภาพจากการชุมนุมไม่ได้ เพราะ สุเทพ ถอยหมดแล้ว ดังนั้นถ้ารัฐบาลหมดสภาพ ก็เป็นเหตผลอื่นที่ทุกประเทศต้องทำเหมือนกัน ต่างจากการได้มาจากการปฎิวัติ ไม่ว่าจากฝ่ายไหน
ข้อสอง รัฐบาลหมดสิทธิที่จะพูดให้ต่างชาติเข้ามาจุนจ้านในไทย เพราะ สุเทพประกาศยอมเจรจากับอีปลวก โดยไม่มีเงื่อนไขแต่ต้องทำต่อหน้าประชาชนเท่านั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ทั้งยังยกเลิกการชุมนุมตามถนน มันจึงกลายเป็นการชุมนุมธรรมดาๆ เท่านั้น
ข้อสาม เมื่อไม่มีการปิดถนน ความสงบสุขจะกลับคืนสู่ประเทศอีกครั้ง รัฐบาลจะอ้างว่ามีประชาชนที่เดือดร้อนมายิงคนร่วมชุมนุมไม่ได้ หลังจากนี้หากมีความรุนแรงนั้นหมายถึง รัฐบาล ซึ่งก็จะฟ้องคนทั่วโลกได้
ดังนั้น วันนี้คนที่ต้องรับบทหนักคือ รัฐบาล ที่ต้องปรับแผนใหม่หมด เพราะแผนทุกอย่างที่วางไว้ ล้มระเนระนาดไปแล้ว ด้วยไม่คิดว่าสุเทพจะประกาศเลิกชุมนุมบนถนนได้ง่ายขนาดนี้ แผนที่วางไว้ทั้งหมดต้องเลิกต้องมาคิดแผนใหม่หมด ซึ่งก็ไม่ง่าย เพราะทักษิณได้หว่านเงินเตรียมการเรื่องนี้ไปแล้วไม่ใช่น้อย
วันนี้ผมจึงว่า คนที่หนักใจที่สุด คือ รัฐบาล เพราะวันนี้ไม่ว่าจะทำอะไร จะคิดอะไร ข่าวหลุดออกมาแบบนาทีต่อนาที วางแผนหนึ่งยังไม่ทันเสร็จดี ก็ต้องเปลี่ยนเป็นอีกแผนหนึ่ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมว่ารัฐบาลคงเปลี่ยนมาหลายแผน เอาเงินไปละลายแบบไม่ได้ประโยชน์ไม่ใช่น้อย ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า หลังจากนี้ ทฤษฎีมะม่วงหล่น จะทำอะไรได้บ้าง แต่ขอบอก ในธรรมชาติเมื่อมะม่วงสุก หล่นมาจากต้น มันคงใช้เวลาที่มะม่วงจะเน่าอยู่ใต้ต้น แต่ในยามนี้มันไม่ปกติเสียแล้ว เมื่อมีคนรออยู่ใต้ต้น เอาแค่มะม่วงหลุดจากขั้วเมื่อไร ก็มีคนคว้ามาเหยียบให้เละไปกับเท้าแบบไม่ให้เหลือซากเลยทีเดียว มันจึงไม่แปลกว่า ทำไมตอนนี้คนที่มองสถานการณ์ออกแล้วอยู่ข้างรัฐบาล เริ่มหายหัวไปเรื่อยๆ ซึ่งอีกไม่นานคงจะเหลือเพียงแค่คนที่มีคดีติดตัวเท่านั้นที่อยู่ข้างรัฐบาล ก็อยากให้ติดตามดูว่า ตอนนี้ยังเหลือกลุ่มผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ที่ดูเหมือนอยู่ข้างเดียวกับรัฐบาล เพราะคิดว่าถ้า สุเทพ ทำสำเร็จ จะตกงานกันเป็นแถวนั้น ก็คงต้องมาชั่งน้ำหนักกันแล้วว่า จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงแล้วทำงานจนเกษียณ หรือว่าจะยอมโดนข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ ในไม่ช้านี้
ขอเพิ่มเติมเล็กน้อยคือ การเจรจาในทางลับ จะมี-ไม่มีไม่รู้ แต่ลุงกำนันใช้เจรจาแบบเปิดเผยบ่อยๆ เพราะความเปิดเผยจะได้คะแนนตรงความโปร่งใส
เช่นการเจรจาที่สำนักปลัดวันไปบุกขอร้องทหารไม่ให้ให้ยินยอมให้นางดอกไม้ใช้พื้นที่ ทหารก็คุยด้วยแบบนอบน้อมออกทีวีทำเห็นได้ชัดว่าลุงแกมีบารมีในหมู่ทหารไม่น้อย
ส่วนการหักมุมแผนแบบกระทันหันทำให้ศัตรูหัวทิ่มได้เหมือนกัน เข้าทำนองชั้นโยนลูกบอลให้แกถือบ้างแล้วนะ
คิดสิคิด ว่าพวกแกจะเล่นตาต่อไปอย่างไร
ซึ่งหากประเมินลุงกำนันแกต่ำแบบเสื้อแดงขี้ข้า ก็เตรียมตัวหัวขาดอย่างเร็ว
แต่หากกลัวฤทธิ์ลุงกำนันเข้าไว้บ้าง ก็อาจยืดวันหัวขาดให้ไกลออกไปได้บ้าง
โดย no name
on 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:09
ก็ได้แค่เดากันทั้งหมด ซึ่งผมก็คงเป็นคนหนึ่งที่ขอเดาด้วยคน
ผมว่ามันเป็นการเปลี่ยนเกมส์จากรุก มาเป็นรับ แบบมีชั้นเชิง เพราะถ้าสังเกตคำพูดของ สุเทพ เมื่อคืน มีเหตุผลหลายประการ โดยไล่เรียงกันดังนี้
1. คืนถนนให้คนกรุงเทพฯ อันนี้ผมว่า สุเทพ ก็คงกลัวกระแสตีกลับว่า คนชุมนุมน้อยแล้วทำไมยังปิดแยกหลายแห่ง ทำไมไม่รวมเวทีเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งก็เชื่อว่า คนกรุงเทพที่สนับสนุน กปปส.อยู่ ก็รู้สึกเช่นนั้น ซึ่งถ้าหากให้สถานการณ์เป็นแบบนี้นานๆ คนกรุงเทพ ที่เคยออกมาสนับสนุนในทุกๆ ด้านเริ่มเปลี่ยนท่าที
2. ปิดถนนไม่ทำให้รัฐบาลออกแน่ ซึ่งคำพูดที่ สุเทพ พูดมาประโยคหนึ่งว่า อีปลวกพูดถึงการปิดถนนในกรุงเทพว่า "ช่างมัน" คำพูดนี้เองที่ต้องมาคิดกันว่า เมื่อปิดถนนหลายสายแบบนี้ ไม่ได้กระทบกับรัฐบาล ขืนทำไปก็คงไม่มีประโยชน์ แต่กลับกันผลเสียตกที่ กปปส.แน่นอน ทั้งเรื่องงบประมาณ และกำลังคนที่ลดน้อยลง
3. ผลกระทบเรื่องการค้าขายในย่านที่ปิดถนน เป็นประโยคสุดท้ายที่สุเทพ พูด และดูเหมือนจะพูดเรื่องนี้นานที่สุด โดยมีการขอโทษขอโพยว่า ถ้าสร้างความเดือดร้อนให้ก็อยากให้ถือว่าช่วยชาติแล้วกัน
ผมฟังก็มีเหตุผลหลัก 3 ข้อนี้ ส่วนเรื่องความปลอดภัย ผมว่าคงไม่น่าเกี่ยว เพราะถ้าดูแล้วการดูแลทำได้ง่ายกว่าที่สวนลุม แต่ที่ต้องเลือกคือมันน่าจะเป็นพื้นที่ปิด (แต่มีความเสี่ยงด้านตึกสูงเท่านั้น)
สำหรับผมก็มีความเห็นส่วนตัวอีกข้อ คือ เรื่องเงินที่ใช้จ่ายในแต่วัน ผมว่าไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ใช่น้อยก็คงเป็นเหตุสำคัญอีกประการหนึ่ง
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัยว่า ทั้งหมดมันเป็นเหตุผลประกอบกัน ด้วยกลยุทธที่ต้องลึกลับซับซ้อนอยู่บ้าง เพราะอย่าลืม สุเทพ ไม่ได้เดินแบบคนธรรมดาคนหนึ่ง เขาเดินตามยุทธศาสตร์ และยุทธวิธี ซึ่งมีคนระดับหัวกะทิที่ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะมาให้การสนับสนุน มันจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ สลับไปมา ที่ทำให้ดูเหมือนว่า แผนการไม่มีอะไรสลับซับซ้อน แต่แท้จริงแล้วทุกย่างก้าวมีความหมาย อย่างน้อยคนธรรมดาอย่างเราอาจไม่เข้าใจ แต่เชื่อว่าคนที่เข้าใจคือรัฐบาล ที่คงต้องปรับเปลี่ยนแผนการไปตลอดเวลาเช่นกัน
อย่างเช่น เมื่อสองวันก่อน สุเทพ ออกมาประกาศจะเจรจากับอีปลวก มีใครคิดไหมว่าทำไมเปลี่ยนท่าที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยืนยันชัดว่าไม่เจรจาทั้งสิ้น แล้วต่อด้วยการยุบเวที ดังนั้นถ้าเอาสิ่งเหล่านี้มาวิเคราะห์จะเห็นได้ว่า เหตุผลการยุบเวที มันก็เป็นอย่างที่ สุเทพ พูดทุกประการ เพียงแต่มันมีเหตุผลหลักสำคัญที่ต้องเดินแบบนี้ เพราะต้องการบีบรัฐบาลให้จนตรอกเร็วขึ้นหรือไม่
เขียนมาตรงนี้ในความเห็นส่วนตัวก็คิดว่า คงเป็นแผนตัดข้ออ้างของรัฐบาลทุกข้อ ในการให้รัฐบาลมีความชอบธรรมในการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น หลังจากที่หมดสภาพตามกฎหมาย
ข้อแรก เมื่อการชุมนุมไม่มีปิดถนน แต่ไปชุมนุมในสวน รัฐบาลจะอ้างว่า หมดสภาพจากการชุมนุมไม่ได้ เพราะ สุเทพ ถอยหมดแล้ว ดังนั้นถ้ารัฐบาลหมดสภาพ ก็เป็นเหตผลอื่นที่ทุกประเทศต้องทำเหมือนกัน ต่างจากการได้มาจากการปฎิวัติ ไม่ว่าจากฝ่ายไหน
ข้อสอง รัฐบาลหมดสิทธิที่จะพูดให้ต่างชาติเข้ามาจุนจ้านในไทย เพราะ สุเทพประกาศยอมเจรจากับอีปลวก โดยไม่มีเงื่อนไขแต่ต้องทำต่อหน้าประชาชนเท่านั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ทั้งยังยกเลิกการชุมนุมตามถนน มันจึงกลายเป็นการชุมนุมธรรมดาๆ เท่านั้น
ข้อสาม เมื่อไม่มีการปิดถนน ความสงบสุขจะกลับคืนสู่ประเทศอีกครั้ง รัฐบาลจะอ้างว่ามีประชาชนที่เดือดร้อนมายิงคนร่วมชุมนุมไม่ได้ หลังจากนี้หากมีความรุนแรงนั้นหมายถึง รัฐบาล ซึ่งก็จะฟ้องคนทั่วโลกได้
ดังนั้น วันนี้คนที่ต้องรับบทหนักคือ รัฐบาล ที่ต้องปรับแผนใหม่หมด เพราะแผนทุกอย่างที่วางไว้ ล้มระเนระนาดไปแล้ว ด้วยไม่คิดว่า สุเทพ จะประกาศเลิกชุมนุมบนถนนได้ง่ายขนาดนี้ แผนที่วางไว้ทั้งหมดต้องเลิกต้องมาคิดแผนใหม่หมด ซึ่งก็ไม่ง่าย เพราะทักษิณได้ว่านเงินเตรียมการเรื่องนี้ไปแล้วไม่ใช่น้อย
วันนี้ผมจึงว่า คนที่หนักใจที่สุด คือ รัฐบาล เพราะวันนี้ไม่ว่าจะทำอะไร จะคิดอะไร ข่าวหลุดออกมาแบบนาทีต่อนาที วางแผนหนึ่งยังไม่ทันเสร็จดี ก็ต้องเปลี่ยนเป็นอีกแผนหนึ่ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมว่ารัฐบาลคงเปลี่ยนมาหลายแผน เอาเงินไปละลายแบบไม่ได้ประโยชน์ไม่ใช่น้อย ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า หลังจากนี้ ทฤษฎีมะม่วงหล่น จะทำอะไรได้บ้าง แต่ขอบอก ในธรรมชาติเมื่อมะม่วงสุก หล่นมาจากต้น มันคงใช้เวลาที่มะม่วงจะเน่าอยู่ใต้ต้น แต่ในยามนี้มันไม่ปกติเสียแล้ว เมื่อมีคนรออยู่ใต้ต้น เอาแค่มะม่วงหลุดจากขั่วเมื่อไร ก็มีคนคว้ามาเหยียบให้เละไปกับเท้าแบบไม่ให้เหลือซากเลยทีเดียว มันจึงไม่แปลกว่า ทำไมตอนนี้คนที่มองสถานการณ์ออกแล้วอยู่ข้างรัฐบาล เริ่มหายหัวไปเรื่อยๆ ซึ่งอีกไม่นานคงจะเหลือเพียงแค่คนที่มีคดีติดตัวเท่านั้นที่อยู่ข้างรัฐบาล ก็อยากให้ติดตามดูว่า ตอนนี้ยังเหลือกลุ่มผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ที่ดูเหมือนอยู่ข้างเดียวกับรัฐบาล เพราะคิดว่าถ้า สุเทพ ทำสำเร็จ จะตกงานกันเป็นแถวนั้น ก็คงต้องมาช่างน้ำหนักกันแล้วว่า จะยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงแล้วทำงานจนเกษียณ หรือว่าจะยอมโดนข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ ในไม่ช้านี้
โดย เช never die
on 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 07:36
ตอม คูโบต้า, on 01 Mar 2014 - 00:20, said:
สบายดี บักเช อย่าคิดมากบักเชเอ้ย 3 จว ชายแดนใต้มันน่าห่วงมากกว่า ขนาดถิ่นแมงสาบชัดๆ
โดย Tad
on 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 06:01
เปลี่ยนชื่อเถอะ หาที่มันดูดีหน่อย อีสานล้านนา ฟังคล้ายๆร้านลาบส้มตำ อีกอย่างเดี๋ยวก็แตกคอกัน เอาสองอันเลยดีมั้ย อีสานก็อีสาน ล้านนาก็ล้านนาไปเลย จะได้ไม่ไปเสียเวลาแบ่งอีกทีหลัง
โดย oneclick999
on 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 00:22
สปป.ล้านนามันก็ได้แค่ฝันนะครับ แม่ทัพภาค 3 ดูซะก่อนว่าใคร ถ้าทหารไม่เอาด้วยมันก็ได้แต่กบถน้ำลายอ่ะ
ส่วนตัวผมเชื่อว่า ทักษิณมันไม่กล้าสั่งแยกหรอก เพราะมันกลัวโดนอายัดทรัพย์สินของมันทั้งหมด ในฝั่งของเราในฐานะกบถ
สปป.ล้านนาไม่มีบ่อน้ำมัน ทางออกทะเลก็ไม่มี เพราะปลูกก็ลำบาก ไม่พอให้มันโกงหรอก
ถ้ามันกล้าแยกก็สั่งตัดไฟไม่ต้องส่งขึ้นเหนือ ให้พวกมันแห้งตายอยู่อย่างนั้นแหล่ะ คิดว่าทำได้นะ
โดย charlie24
on 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 00:13
ผมคิดเองเล่นๆ
คงแค่อยากขู่ว่าจะเกิดสงครามกลางเมืองนะ กลัวๆกันบ้าง
แล้วรีบกลัวกันเร็วๆหน่อย หมดเงินหมดความคิดแล้ว
โดย คนบูรพา
on 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 22:05
ยุคนี้ช่างประหลาดนัก.........
เก่งจริงๆเลย.....ไอ้พวก เวร ตะไล....ควายแดง.....
เก่งแต่ฆ่าคนไทยด้วยกันเอง............
แต่พอที่ เขมร......มันกร่าง......บุกรุกพื้นที่ทับซ้อน......พวก แ-ม่ง กับเงียบกริบ.....ไม่ว่าอะไร.....
แถมยัง เ-สือก.......แห่กันไปร้องเพลงสรรเสริญ.....ฮวยเซ็ง.....กันอีกตะหาก......
"ช่างสมเป็น.......ควาย แดง......ทำอะไร.....ไร้สมองโดยแท้" .............
ถุยยยยยยยยยย...........ชีวิต........ไม่น่ามีพวกมัน........เกิดมาร่วมชาติด้วยเลยจริงๆ..........
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net