แกทำพินัยกรรมยกให้วัดจนวัดรับไม่ไหว ก็เลยเกิดปัญหาขึ้นมาทั้งปัญหาทาง
ศีลธรรม และปัญหาบ้านเมือง
ปัญหาทางศีลธรรม เราก็คงได้แต่จินตนาการไปตามเรื่องราวที่เราอ่านพบเจอเท่านั้น
เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เขามีเจตนาอย่างไร
เมื่อวัดที่รับพินัยกรรมบอกว่าที่มันเยอะเกินดูแลไม่ไหว พินัยกรรมก็ระบุตามข้อ 4 ว่า
ให้นำไปหาประโยชน์ กฎหมายที่ดินก็บอกว่า ถ้าวัดรับบริจาคเกิน 50 ไร่ ต้องให้ รมต
อนุมัติ ทำนองนั้น
ผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องตอนนั้น คือนายเสนาะ เทียนทอง เป็น รมช มท ได้สั่งไม่ให้โอนที่
ให้กับวัด แต่ให้ผู้จัดการมรดกคือมหามกุฎราชวิทยาลัย ดำเนินการแทน มหามกุฏ ฯ ก็มีการ
เปลี่ยนผู้จัดการมรดกให้มหามกุฏเป็นผู้จัดการมรดกอีก (ไม่เข้าใจเหมือนกัน คิดว่าคงเป็นตัว
บุคคล) แล้วจึงมีการขายที่ดังกล่าวให้บริษัทอัลไพน์ของนายเสนาะ ต่อมานายเสนาะก็ขายให้
ทักษิณ
ปปช เต้นผางว่า ขายได้ไง นี่มันที่ธรณีสงฆ์ แม้นายเสนาะจะไมให้โอนเป็นที่วัด แต่มันเป็นที่
ธรณีสงฆ์ตามพินัยกรรมของยายเนื่อมตั้แต่ยายเนื่อมเสียชีวิตแล้ว ว่าแล้วก็ฟ้องนายเสนาะ
ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แต่ไม่รู้ฟ้องอีท่าไหน ศาลบอกว่าไม่สามารถนำจำเลยมาศาลได้ภาย
ในการกำหนดอายุความ เลยยกฟ้อง
กรณีนี้นี้ กฎหมายบนดินรอดกันไปแล้ว ส่วนกฎหมายในนรก คงว่ากันไปตามกฎแห่งกรรมนั่นแหละ
555555
นายยงยุทธ ซวยรายต่อมา เพราะตอนรักษาการปลัด มท ดันไปยกเลิกคำสั่งกรมที่ดินที่ให้เพิกถอน
โฉนดที่ดินที่ออกให้บริษัทอัลไพน์ ซึ่ง ปปช บอกไปยกเลิกได้ไง เขาเพิกถอนตามความเห็นของกฤษฎีกา
ยุคนั้น แถมยังมีมติ ครม ให้หน่วยราชการปฏิบัติตามความเห็นของกฤษฎีกาอีก ถ้าคุณจะยกเลิกคุณต้อง
เสนอรัฐมนตรี ไม่ใช่มาออกคำสั่งยกลิกเอง แบบนี้คุณทำผิดวินัยร้ายแรงนะ 55555
สาธุชน ลำดับเรื่องคร่าว ๆ แล้วก็จินตาการกันเอาเองแล้วกันว่าใครจะต้องตกนรกบนดิน ใครจะตกนรกทาง
ศีลธรรม ต่อไป แต่ขอบอกก่อนนะว่า เสนาะ เทียนทอง แก แช่งไว้ว่าใครใส่ร้ายแกขอให้ตกนรก 55555
- พระฤๅษี likes this