Super@2

ถ้าบรรพบุรุษที่เคยสละเลือดเนื้อ ชีวิต เพื่อปกป้องแผ่นดินในอดีต

ถ้าทหารหาญ ที่ทำหน้าที่ตามแนวชายแดน เพื่อปกป้องอธิปไตย

 

มารับฟังความคิดอ่านเช่นนี้..

 

ท่านเหล่านั้น..คงเสียใจ..เสียดาย ที่พวกท่านสู้อุตส่าห์สละชีวิต

เลือดเนื้อ ลมหายใจ เพื่อปกป้องแผ่นดิน ให้คนเช่นนี้ได้อาศัย

ได้มีที่ทำกิน โดยไม่ต้องระเห็จเร่รอนเป็นคนไร้แผ่นดิน ไร้ชาติ

 

ก็บอกแล้ว...ว่าแค่..สัญญลักษณ์ที่เลือกใช้ ก็บ่งบอกแล้วว่า

 

แท้จริงแล้ว..ฝักใฝ่ในแนวทางใด...

ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่า "มีคนรักชาติ"

มีการสร้างวาทะกรรม "รักชาติแบบผิดๆ"

เพื่อปลุกปั่นคนในชาติ ให้เกิดค่านิยมว่า "รักชาติเป็นเรื่องผิด"

จริงๆแล้วรักชาติไม่ใช่เรื่องผิด

ไม่มีใครที่รักชาติแล้วอยากแบ่งแยกประเทศ

เพราะคนที่รักชาติจะไม่อยากแบ่งแยกประเทศ

ไม่มีใครที่รักชาติแล้วดูถูกคนจังหวัดอื่น

เพราะคนที่รักชาติจะไม่ดูถูกคนชาติเดียวกัน

ไม่มีใครที่รักชาติแล้วไปทำร้ายเข่นฆ่าคนอื่น

เพราะคนที่รักชาติจะไม่คิดร้ายต่อคนร่วมชาติ


ทุกวันนี้ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่"มีคนรักชาติ"

แต่ปัญหามันอยู่ที่ "มีคนต่อต้านชาติ"

เนวินเนี่ยดูดีกว่าไอ้เสี่ยอ่างเยอะเลย

 

 

ประเทศ-ชาติ คือ กลุ่มชน ที่มี เชื้อชาติ เดียวกัน พูดภาษา เดียวกัน มีจิตใจ เคารพนับถื่อ ใน ศาสนา คล้ายกัน

 

มี ขนบธรรมเนียม-ประเพณี-ประวัติศาสตร์ อย่างเดียวกัน มี ความผูกพันกัน ใน สูญรวมทางจิตใจ-จิตวิญญาณ เช่นเดียวกัน

 

เหตุที่ ตะนิ่นตาญี รัก แผ่นดิน นี้ เสียเป็นหนักหนา ก็ เพราะ ว่า...

 

แผ่นดินนี้ ให้ที่ถือกำเนิดมา ให้ความอบอุ่น ใน ยามร้อน-ยามหนาว ให้ข้าว-ให้อาหาร ยามที่หิวโหย ให้ ทุกสิ่ง-ทุกอย่าง จนถึงทุกวันนี้

 

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รักได้อย่างไร? แล้วอย่างนี้จะให้เนรคุณแผ่นดินนี้เหมือนอย่างคนบางคนได้อย่างไร?

 

ใครไม่รักก็ไปเป็นไร ขอเพียงอย่าทำร้ายแผ่นดินนี้จะได้ไหมครับ?

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

 

เวลา ๖.๔๘ นาฬิกา

*ตัดต่อนะจ๊ะ ขำๆ

ไหนลองเอาหมวกดาวแดงมาใส่ดูซิ

เชรี้ย!!! เอ๊ย!!! นี่มันสุรชัย แซ่ด่านนี่หว่า

การพยากรณ์ที่คลาดเคลื่อน (II)

 

   

 

 

หนังสือ ป๊อปปูลาร์แมคแคนิคส์ ทำนายการพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เมื่อปี 1949 ขณะที่เครื่องคำนวณชื่อ ENIAC ใช้หลอดสุญญากาศ 18,000 หลอด และหนัก 30 ตัน ว่า "คอมพิวเตอร์ในอนาคตอาจจะใช้หลอดสุญญากาศเพียง 1,000 หลอด และหนักเพียง 1.5 ตันเท่านั้น"

 

 

บริษัทแผ่นเสียงเดคคาปฏิเสธข้อเสนอของเดอะบีตเติลส์เมื่อปี 1962 ว่า "เราไม่ชอบเสียงกีตาร์ มันแตกกลุ่มชอบกล"

 

ลอร์ดเคลวิน นักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกซ์ชาวสก๊อต อดีตประธาน Royal Society กล่าวเมื่อปี 1897 ว่า "ไอ้วิทยุนี่มันไม่มีอนาคตเอาเสียเลย"

 

โจเซฟ พี เคนเนดี หัวหน้าครอบครัวเคนเนดี กล่าวเมื่อปี 1936 ว่า "ผมและลูก ๆ ไม่มีความทะเยอะทะยานทางการเมืองเลย" (โจเซฟ เคนเนดี เป็นพ่อของจอห์น เอฟ เคนเนดี และโรเบิร์ต เคนเนดี)

 

ดาร์ริล เอฟ ซานุค หัวหน้าของทเวนตี้เซ็นจูรี่ฟอกซ์ กล่าวถึงโทรทัศน์เมื่อปี 1946 ว่า "คงจะอยู่ในตลาดได้ไม่เกินหกเดือนมั๊ง ผู้คนคงจะเบื่อที่จะนั่งจ้องไอ้กล่องไม้อัดนี้ทุก ๆ คืน"

 

น.พ.เอียน แมคโดนัลด์ แพทย์ที่แอลเอ เขียนใน NEWSWEEK วันที่ 18 พฤศจิกายน 1963 ว่า "สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว ยาสูบนั้นมีผลที่ยังประโยชน์"

 

โธมัส เจ วัตสัน ประธานกรรมการบริษัท IBM ได้กล่าวไว้เมื่อปี 1943 ว่า "ผมคิดว่าตลาดโลกคงจะมีคอมพิวเตอร์อยู่ประมาณ 5 เครื่อง"

 

วินสตัน เชอร์ชิล สมาชิกรัฐสภาอังกฤษได้กล่าวเมื่อปี 1932 ว่า "อีก 50 ปี เราคงไม่โง่พอที่จะเลี้ยงไก่ทั้งตัวเพื่อเลือกกินปีกหรือหน้าอก เราจะเพาะเลี้ยงชิ้นส่วนต่าง ๆ นั้นแยกกันไว้ในที่ ๆ เหมาะสม"

 

อัมบรอส วอลลาร์ด พ่อค้าขายงานศิลปะชาวฝรั่งเศสกล่าวเมื่อปี 1907 เมื่อเห็นผลงานของปิกัสโซ่ว่า "เป็นผลงานของคนบ้าน่ะ"

 

มีคำกล่าวในหนังสือ Scientific American เมื่อวันที่ 2 มกราคม 1909 ว่า "รถยนต์นั้นได้ถึงจุดสูงสุดของการพัฒนาแล้ว เห็นได้ว่าในช่วงปีที่แล้ว ไม่มีอะไรที่ใหม่ขึ้นมาเลย"

 

อาเธอร์ อี ซัมเมอร์ฟิลด์ อธิบดีกรมไปรษณีย์สหรัฐ กล่าวเมื่อปี 1959 ว่า "ก่อนที่มนุษย์จะขึ้นไปถึงดวงจันทร์ คุณจะส่งเมล์จากนิวยอร์คไปแคลิฟอร์เนีย ไปที่อังกฤษ ไปที่อินเดีย ไปที่ออสเตรเลีย ภายในเวลาแค่ชั่วโมง เรามาถึงยุคส่งไปรษณีย์ด้วยจรวดกันแล้ว"

 

ซิมมอน แคเมอรอน ส.ว.จากรัฐเพนซิลวาเนีย กล่าวเมื่อปี 1861 ว่า "ผมเบื่อไอ้สิ่งที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์เต็มทน ในช่วง 2-3 ปีนี้เราใช้จ่ายเป็นล้สน ๆ เพื่อไอ้นี่  ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะหยุดกันเสียที"

 

ประธานาธิบดีรุทเธอร์ฟอร์ด บี เฮส์ แห่งสหรัฐ กล่าวเมื่อปี 1876 เมื่อเห็นโทรศัพท์ว่า "ฮื่อ ก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มหัศจรรย์ดีนะ แต่ว่าใครล่ะที่จะใช้มัน"

 

กษัตริย์ฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน ตรัสไว้เมื่อปี 1552 ว่า "ถ้าพระเจ้าอยากได้คลองปานามาสักคลองหนึ่ง ท่านคงประทานมาให้แล้วล่ะ"

 

นโปเลียน โบนาปาร์ต กล่าวไว้ที่วอเตอร์ลูเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 1815 ว่า "ฉันจะบอกอะไรให้ เวลลิงตันเป็นนายพลที่แย่มาก คนอังกฤษก็เป็นทหารที่แย่ เราคงจะจัดการได้ก่อนที่จะกินมื้อเที่ยง" (สมรภูมิที่วอเตอร์ลู นโปเลียนพ่ายแพ้อย่างยับเยินที่สุด)

 

และ

 

 

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวไว้เมื่อปี 1994 ที่เจ้าตัวเล่นการเมืองครั้งแรกว่า "ผมรวยแล้ว เชื่อผมเถอะ ผมไม่โกง"

 

    

ทำเรื่องเห้ๆไว้ แล้วยังมีหน้าไปรดน้ำท่าน เพื่อสร้างภาพอีก

ดีนะ ที่ยิ่งลักษณ์ไม่เจอปาฏิหาริย์พระเจ้ากาวิละยกเท้าถีบหน้า

 
 
อ.ลิขิต ถาม วัดปริมาณยังไงว่าพวกมึงเป็นส่วนใหญ่ในแผ่นดิน!!

ถ้า ดร.ลิขิต จริงใจกับคำว่า "moral authority" จริงอย่างปากว่า(ฟังว่ายอมเเม้อาจต้องผิดกฎบ้่างเล็กๆน้อยๆ)...ก็ยิ่งต้องช่วยสนับสนุนให้เกิดการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

หรือ ดร. ยังไม่เข้าใจ เเม้เเต่ หลักการที่ตัวเองยกขึ้นมา...

รู้ทั้งรู้ว่า จากพฤติกรรม ของรัฐบาลเดิม ที่ผิดคำมั่น หลอกลวงปชช ทำให้ปชชส่วนหนึ่ง เขาไม่เหลือความไว้วางใจให้กลับมาบริหาร
รู้ทั้งรู้ว่า ผลประโยชน์จาก ประชานิยมผิดๆ ยังคงเป็น ตัวช่วยให้ รัฐบาลเดิม ได้มีโอกาสกลับมาบริหารประเทศ...

เเต่ยังจะรีบกลับไปเลือกตั้ง เพื่อสุ่มเสี่ยง อย่างมากที่จะได้ ผลลัพท์เดิม คือกลุ่มอำนาจเก่า ชุบตัว กลับเข้ามาอย่างถูกต้อง ตามกฏหมาย

เหมือนที่ไอสไตนเคย กล่าวไว้ว่า "มีเเต่คนบ้าเท่านั้นเเหละ ที่เลือกใช้วิธิการเดิม เพื่อให้ได้ผลลัพท์ ที่เเตกต่าง" (จริงอยู่ว่า โดย chaos theory เเล้วมันไม่มีอะไรเดิมๆจริงหรอก)

เเละนี่มัน ก็เข้าข่ายเป็น "conspiracy theory" ที่กลุ่มธุรกิจการเมืองเดิม เเละกลุ่มผู้เรียกตนเองว่า เสียงข้างมาก ได้ร่วมกันทำ "orchestration" ให้คนผิดได้กลับมาเเบบถูกกฏหมาย โดยใช้สูตรยุบสภาชุบตัว เลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ได้ รัฐบาลกลุ่มอำนาจเดิม กลับเข้ามา ข่มเหง เสียงข้างน้อย โดยไม่สนถึง "Moral Authority" เเละหลักการ เสรีประชาธิปไตย ที่ว่า" Majority Rule Minority Rights" เลือกเอากลุ่มอำนาจเดิม ที่เคยใช้ 1คน=หลายเสียง (เสียบบัตรเเทนกัน) เข้าไป ใช้เผด็จการทางรัฐสภา ออก พรบที่ผิดรัฐธรรมนูญ จนเเม้เเต่ฐานเสียงตนเอง ก็ต้องนอนต่อในคุกต่อไป ทั้งที่ควรจะได้ออกมา ซ้ำเติมด้วยการ โกงจำนำข้าว จนประเทศชาติเสียหายอีกหลายเเสนล้าน ชาวนาต้องผูกคอตายไปอีกหลายราย

ยังมีหน้ามาพูดเรื่อง "Moral Authority" จากการเลือกตั้ง!!!!!..... "what a joke!!!!"

Such a hypocrite...

คนแบบนี้ไปที่ไหน ก็พาลแต่จะทำให้ที่ๆ นั้นวุ่นวาย เรียกหาแต่เสรีภาพของตน แต่ไม่สนผลกระทบต่อผู้อื่น 

รอบนี้ระดมพม่าหรือเขมรล่ะ

แค่อยากได้พื้นที่สื่อ 

อ่านความเห็นที่เอามาให้อ่านแล้วน่าเป็นห่วงครับ 

อ้างตัวเองเป็นลิเบอรัล...แต่ละเมิดเสรีภาพผู้อื่น
อ้างตัวเอง atheism แต่ดันไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอเทวนิยมไม่ใช่ อศาสนา irreligion
แค่นี้ยังไม่รู้เขาเรียกว่า"ริเบอร่าน"ว่ะ

เนื่องในศุภวาระดิถี วันขึ้นปีใหม่ ของ ไทย บุญกุศลใดที่ ตะนิ่นตาญี และ ภรรยา ได้กระทำ

ขอโปรดจงดลบันดาล ให้ เพื่อนเพื่อนทุกคน จงประสพ แต่ความสุข ความสำราญ ตลอดไปด้วยเทอญ

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗

เวลา ๗.๒๓ นาฬิกา

ถามเสื้อแดงครับ

 

 

ค่าครองชีพแถวบ้านม ึงไม่ขึ้นกันเหรอครับ??

ถึงไม่ยอมรับกันสักทีว่า อีปูนี่มันโง่จริงๆและเป็นเพราะวิจารณญาณของพวกมึงเองน่ะแหละที่ไม่รู้คิดได้ไงเลือกคนโง่บัดซบแบบนี้เข้ามานั่งสาระแนแม่ยิ้มในสภา  
 

กูจะขูดผนังห้องกินแทนนม อยู่แล้วครับไอ้ห่ารากกกกกก 

 

     

สมัยอภิสิทธิ ค่าแรง 250 อยู่ได้หรือ แว้วๆๆ สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น้ำ

 
เทียบง่ายๆ สมัยอภิสิทธิ ก๋วยเตี๋ยวชามละ 20-25  สมัยยิ่งลักษณ์ 35-40
 
HONOR มีบ้างนะครับ หมาต๋า

ของกินประเทศเพื่อนบ้านแพงกว่าไทยอีก หัดเอาใจไส่เกษตรกร บ้างน่ะ ไอ้หน้าเลือด

คุณหมาต๋าคะ เหตุผลที่ค่าอาหารของประเทศเพื่อนบ้านแพงก็เพราะสินค้าส่วนใหญ่นำเข้าจากบ้านเราแม้กระทั่งน้ำดื่ม
ถ้าเคยไปเที่ยวลาวและพม่าก็น่าจะทราบดี ซึ่งคนพื้นที่เค้าไม่ค่อยแดกตามร้านกันหรอกค่ะ
อย่างคนลาวเป็นเด็กเสิร์ฟเงินเดือนพันกว่าบาท เป็นหมอเงินเดือนสี่พัน
ใครแดกนอกบ้านจะอยู่ได้เหรอคะ ข้าวจานละห้าสิบเนี่ย
ส่วนเหตุผลก็เพราะมีรัฐบาลแดกกระหน่ำไม่ต่างจากเราเท่าไหร่
อยากจะเป็นอย่างนั้นมั้ยล่ะคะ

ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำเนี่ย ถ้าไม่ได้จบ econ มา
ก็มักจะโชว์โง่เหมือนควายแดงเบสิกทุกตัวนี่แหละค่ะ
การจะขึ้นค่าแรงพรวดพราดโดยไม่ดูห่านอะไร
ผลที่ตามมาคืออะไรทราบมั้ยคะ ก็ค่าครองชีพที่พุ่งฉิบหายวายป่วงนี่ไงคะ
อยู่ๆ จะให้เอาเงินที่ไหนมาแจกควาย เจ้าของกิจการก็ต้องเพิ่มเอาในส่วนสินค้า
มันกระทบกันเป็นลูกโซ่ แล้วสุดท้ายเป็นยังไง
ควายตกงานไงคะ