เดาว่าคุณโจโฉคงหมายถึงผมกับกระทู้คุณโสภณ
ผม quote สมาชิก สรท ที่ผมไปเตือนเขาว่าไม่ควรทำมาให้ดูนะครับ
คุณโสภณเขาเข้ามาโพสแนะนำประวัติและนโยบายของเขา
สมาชิกท่านนี้มาถึงก็โพสด่าเขาว่าทีนี้ผมถามคุณโจโฉว่าอันนี้มันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายเขาตรงไหนครับ?ยังไงเอ็งก็ไม่ได้เป็น เพราะหน้าตาเอ็งตลกมาก
ถามจริงๆ
อันนี้ไม่ใช่การวิพากษ์วิจารณ์นโยบายครับ แต่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์บุคลิกภาพของคนๆนั้น
และคงไม่แปลกอะไรมาก เพราะมีคนวิพากษ์วิจารณ์ คุณชายสุขุมพันธ์ว่า "หม่อมเอ๋อ"
และ วิพากษ์วิจารณ์ คุณพงศพัศ ว่า "หน้าฉีดโบท๊อกซ์" หรือ "เสาไฟฟ้า"
ถ้าคุณคิดกว้างๆมันก็คือเรื่องเล็กๆน้อยๆ ในการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งนโยบาย บุคลิกภาพ
เรื่องครอบครัว คนที่ก้าวเข้ามาในแวดวงนี้ ก็ต้องเตรียมใจรับให้ได้อยู่แล้ว
จะให้ผมยกตัวอย่างอีกก็มีให้เห็นเยอะครับ ไม่ว่าจะฝั่งไหน สีไหน ค่ายอะไร ก็ล้วน
แต่มีเรื่องให้วิพากษ์วิจารณ์จนได้ ในเมื่อก้าวเข้ามาตรงนี้ที่สำคัญที่สุดคือ "ใจ" ครับ
ว่าจะอดทน รับได้ กับการวิพากษ์วิจารณ์ทุกรูปแบบได้หรือไม่
ถ้ารับไม่ได้ ถอยออกมาอยู่บ้านเลี้ยงหลาน เหมือนผมดีกว่า
สบายใจกว่ากันเยอะ ถ้ารับได้ก็เดินต่อไปบนวิถีทางนี้ ก็เท่านั้นเอง
หวังว่าคงจะเห็นภาพและเข้าใจในสิ่งที่ผมขยายความนะครับ
โจโฉ นายกตลอดกาล
ผมนึกถึงตอนนักข่าวไปทำเสวนาเรื่องเด็กอายุต่ำกว่า18เที่ยวRCA (Royal City Avenue)
มีนักสังคมสงเคราะห์ชื่อดัง นักกฏหมายอาวุโส และผู้ประกอบการร่วมให้ความเห็น ระหว่างที่นักกฏหมายอาวุโสกำลังให้ความเห็น ผู้ประกอบการคนหนึ่งที่เป็นหญิงสาววัยยี่สิบปลายๆที่ไม่เห็นด้วยกับการตรวจอายุผู้มาใช้บริการ พูดแทรกขึ้นมาอย่างมั่นใจแต่ไร้กิริยาว่า "ดิฉันคิดว่าทุกคนในที่นี้กำลังหลงประเด็น ทำไมมาเพ่งเล็งผู้ประกอบการทำไมไม่มองผู้ปกครองหรือโรงเรียน"
คนที่เธอขัดคอเหนือกว่าเธอทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ และในที่นั้นมีเธอคนเดียวที่หลงประเด็น เพราะประเด็นการเสวนาคือความรับผิดชอบทางจริยธรรมของผู้ประกอบการสถานเริงรมย์
ผมว่าเรามีคนอย่างหญิงสาวคนนั้นในเสรีไทยมากขึ้นทุกที ผมเห็นสมาชิกอาวุโสสอนสั่งทั้งโดยตรงและโดยอ้อมด้วยความเมตตาหลายต่อหลายครั้ง แต่น้อยคนที่รู้ตัว จนทำให้ความเมตตาของหลายท่านหมดลง
สำหรับผม ความเมตตาธรรมน้มีอยกว่าสมาชิกหลายท่านในที่นี้มาก เมื่อเจอพวก smart ass ผมจะบอกตัวเองว่า "มาอีกแล้วพวกลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน" แล้วออกไปดูกระทู้อื่น