mongdoodee

บังอาจใช้เสรีภาพทางความคิดบนหน้าเฟซบุ๊ค
แบบนี้ต้องเจอพลังแห่งประชาธิปไตย!(แบบแดงๆ)

รวดเร็ว ปาน กามนิต หนุ่ม

ขอชื่นชม ในน้ำใจอันแสนงาม ของดาราเหล่านี้

และขอขอบคุณเหล่าทหารหาญ ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ทุกท่าน

อีกทั้งขอขอบคุณ เหล่าคุณครู และข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัด อย่างกล้าหาญ

ทรงพระเจริญ

มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นพระองค์ท่าน

และยิ่งได้เห็นพระองค์ท่าน ทรงพระเกษมสำราญ ก็ยิ่งปลาบปลื้มใจ เป็นทวีคูณ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ขอแสดงความยินดี กับผู้โชคดีที่ได้รางวัล

ขอบตา ทำไม รู้สึกร้อน ๆ นะ

แต่ละมุก แต่ละแก๊ก จี้จุด แทงใจ เต็ม ๆ เลย

ชัดเจนครับไม่ได้ยิงหัวกันเองแต่บักเขียว ฆ่าเสื้อแดง ตามคำสั่งของแมงสาป แล้วตรงนั้นก็ไม่มีทหารตายด้วย แต่เสื้อแดงตาย

ชัดเจนๆ

ชัดเจนเลย "ไม่มีอาวุธในกลุ่มคนเสื้อแดง"
ชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ เป็นคำโกหก ของหมู่คนเสื้อแดง

eNGO in England ตอนที่ 3

" 3 times "

โอ๊ย สำลักข้าวเลย

เราชินกับการบริจาคเลือด (ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี)

แต่ผมอยากถามว่าการรับซื้อเลือดเป็นสิ่งเลวยังไง ถ้าทำอย่างถูกหลักการแพทย์ บันทึกประวัติถูกต้อง ไม่ให้มีการขายเลือดจนผู้ขายเป็นอันตราย

เลือดไม่เหมือนตับ ไต ลูกตา

ทำไมเราต้องเอามาตรฐานเดียวกันมาใช้กับสิ่งที่ไม่เหมือนกัน

ยกตัวอย่าง มีเคสเกิดขึ้นใน รพ แห่งหนึ่ง 3 ุุเคส ทั้ง 3 เคส ต้องการเลือดกรุ๊ป O เหมือนกัน (สมมุติว่า ต้องการเลือดแต่ละเคส พอ ๆ กัน)
เคสที่ 1 คนไข้เสียเลือดมาก อาจเสียชีวิตได้ในอีก 30-60 นาที แต่คนไข้ฐานะปานกลาง
เคสที่ 2 คนไข้เสียเลือดพอประมาณ อาจสูญเสียความสามารถบางประการ หากไม่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เลือด คนไข้มีฐานะดีพอประมาณ
เคสที่ 3 คนไข้เสียต้องผ่าตัด เคศธรรมดา ๆ แต่มีกำหนดการต้องไปเจรจาการค้า มูลูค่านับหมื่นล้าน หลังผ่าตัด (เลื่อนกำหนดการไม่ได้ อาจสูญเสีย ดีีลนี้)
คนไข้มีฐานะดีมาก ๆ (แบบรำ่รวยมหาศาล)

รพ. มีเลือดไม่เพียงพอ ต้องการเลือดเพิ่ม มีคนมาแจ้งความจำนงให้เลือด จำนวน 10 กว่า คน (สมมุติว่า พอสำหรับ เคส กว่า ๆ ไม่ถึง 2 เคส)
ถ้า เลือดซื้อ-ขายได้ ลองคิดดูว่า จะเกิดอะไรขึ้น

พระพุทธองค์ ตรัสว่า "อย่าเชื่อเพราะสิ่งนั้น ควรเชื่อ อย่าเชื่อเพราะคนที่บอก เป็นคนน่าเชื่อ อย่าเชื่อเพราะได้ยินได้ฟังมา ฯลฯ
แต่ให้เชื่อ เมือได้พิจารณาไตร่ตรอง พิสููจน์ ด้วยตนเอง ว่าเป็นจริงดังนั้นแล้ว จึงเชื่อ"

หาก "การซื้อ-ขาย เลืือด และ อวัยวะมนุษย์" ไม่ผิดกฎหมาย โลกนี้ คงได้วุ่นวายกันใหญ่

ไม่เชื่อว่า สภากาชาด จะทำดัง หัวข้อกระทู้

แง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ














































คุณ HiddenMan แย่งตอบ

เมื่อหลายปีก่อน

ญาติของพี่เลี้ยงที่บ้านหนูต้องผ่าตัดไส้ติ่ง

เขายากจนมากเลยค่ะ

ถ้าไม่มีนโยบาย30บาท รักษาทุกโรค

เขาคงต้องตายก่อนเวลาอันควร เพราะไม่มีค่ารักษา

นโยบาย30 บาท ที่ท่านทักษิณอัจฉริยะนักบุญผู้เเสนดี

นำมาใช้ ช่วยชีวิตคนไทยได้นับล้าน

นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่คนเกือบทั่วโลกต่างนิยม ชมชอบ

ยกย่องท่านทักษิณ
-
พวกเเมลงสาบจ๋าพวกเธอจงมากราบท่านทักษิณซะเถอะ



ขอขอบคุณ นโยบาย30บาทรักษาทุกโรค

ขอขอบคุณ สนามบินสุวรรณภูมิ

ขอขอบคุณ หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณท์

ขอขอบคุณท่านทักษิณที่นำสิ่งที่ดีดีมาสู่ประเทศชาติมากมาย

คนไทยกว่า60,000,000 ยังรักเเละคิดถึงท่านอยู่ตลอดเวลา

กลางวันตื่น กลางคือฝัน นอนหลับตาเห็นหน้าท่าน คิดถึงคุณงามความดีที่เคยสร้างอยู่ตลอดเวลา

ด้วยรักจากใจ

มวลชนคนเื้สื้ิอเเดง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภาพจากเวบ seedza

ถ้าคิดกันเพียงเท่านี้ ว่า เมื่อคน ๆ หนึ่ง ได้คิดนโยบายที่ดี (ยอมรับว่า นโยบาย 30 บาทนี้ดี) แต่ คน ๆ นั้น ก็กระทำในสิ่งที่เลว แล้วบอกว่า ต้องนำความดี (ที่ได้กระทำไว้ เป็นส่วนน้อย) มาหักกลบกัน
ฮิตเลอร์ ก็คงต้องเป็น วีระบุรุษ ของผู้มีรถยนต์ขับล่ะ โดยเฉพาะ รถโฟล์ค (ที่ นาโย๊ก ยิ่ง....ใช้อยู่)
เพราะ ก่อนที่ฮิตเลอร์จะก่อสงคราม นโยบายหนึ่งของเขาคือ การให้ประชาชนมีรถยนต์ใช้กันทุกคน ทุกบ้าน โดยสั่งให้มีการผลิตรถที่คงทน ราคาประหยัด (ราคาถูกที่สุด) ซึ่งต้องถือว่า เป็น นโยบายที่ดี ของฮิตเลอร์ เพราะทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของเยอรมัน แข็งแกร่ง เติบโต และขึ้นชื่อว่า รถของเยอรมัน คงทน แข็งแรง มาจนถึงปัจจุบัน
แต่ ฮิตเลอรื ก็ยังคงเป็นคนเลว เพราะเป็นผู้ก่อสงครามโลก และทำให้เกิดการสังหารหมู่ "ชาวยิว"
เรื่องดี เรื่องเลว บางเรื่องอาจหักล้างกันได้
เช่น ตอนเด็ก ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เพราะยังไม่รู้เดียงสา โตขึ้น เรียนรู้แล้ว ก็ให้ความกตัญญู ต่อพ่อแม่ ดูแลท่านยามแก่เฒ่า เรื่องดี เลว แบบนี้ พอทดแทน หักล้างกันได้
แต่ เรื่องดี เลว บางเรื่อง หักล้างกันไม่ได้ อย่างเช่น การเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 1 ที่พระยาจักรี ซึ่งเคยมีความดีความชอบในสมัยนั้น เป็นไส้ศึก ทรยศต่อบ้านเมือง ทำให้ต้องเสียกรุงฯ ในคราวนั้น เช่นเดียวกับ การเสียกรุง ครั้งที่ 2 เพราะมีคนทรยศ ต่อบ้านเมือง เพียงหวัง ลาภยศสรรเสริญ
เรื่องดี เลว ในกรณีนี้ คงจะนำมาหักล้างกันไม่ได้

ถ้าท่าน เป็นคนที่มี สามัญสำนึก รู้ผิดชอบชั่วดี พิจารณาโดยไม่มีอคติ คงพอจะวิเคราะห์ วินิจฉัยว่า เรื่องดี เลว ที่ ทักษิณ ได้ทำไว้ จะนำมาหักล้างกันได้หรือไม่

เอ่อ..เหมือนผมจะตาฝาดไปแว้บนึง
อ่านชื่อมู้แล้วเห็นคำว่า "รูปี" มีไม้โทตรงคำว่า "ปี" ด้วยง่ะ

สงสัยต้องกินวีต้าแล้วรีบเข้านอนซะแล้น

ปรี๊ดดดดดดดดดด ผิดกฎ แอบโฆษณาแฝง แจ้ง mod ด่วน

สองมาตรฐาน

หมายถึง ที่เขาหลังไมค์ ไม่บอกกันให้ทั่ว ๆ นะเหรอ

"เอาเวบโป๊ กูคืนมา".....ตามโหลดไม่ทันเลย มันตามปิดซะหมด!!!

ทีเจอเวบแบบนี้ ICT ขยันกันจังเลยนะ

ขอหลังไมค์จากผมได้นะท่านมันมีเว็บที่ยังไม่โดนบล็อค อิอิ
แล้วมีอีกวิธีนะ ICT มันยังไม่รู้ว่ามีวิธีแหกออกไปได้ ง่ายๆด้วย
ไอทีไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ

มีนิทานเรื่องหนึ่งที่อ่านมาตั้งแ่ต่เด็ก (แต่เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ขอปรับแต่เนื้อหาเล็กน้อย)

เรื่องมีอยู่ว่า...



มีนายกฯ คนหนึ่งที่ชอบการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยๆเป็นที่สุด
วันๆไม่เคยสนใจราชการบ้านเมืองเลย
แต่ชอบไปเป็นประธานเปิดงานต่าง ๆ เพื่อไปโชว์ชุดใหม่เท่านั้น
วันหนึ่งมีเจ้าเล่ห์ 2 คนผ่านมา และได้ข่าวเกี่ยวกับนายกฯของประเทศนี้
ทั้งสองจึงวางแผนกัน

วันต่อมาทั้งสองได้เข้าพบนายกฯ ในฐานะช่างเย็บเสื้อผ้าฝีมือดี
และได้บอกกับนายกฯถึงเรื่องผ้าวิเศษที่พวกตนจะทอ
ว่าเป็นผ้าที่คนโง่และคนคิดคดทรยศจะมองไม่เห็น
จะมีเพียงคนฉลาดเท่านั้นที่จะสามารถมองเห็นได้
นายกฯได้ฟังดังนั้นจึงคิดว่าเป็นการดี
ที่จะให้เจ้า 2 คนนี้ทอผ้าวิเศษขึ้นเพื่อจะได้ทดสอบเหล่า รมต.และลูกพรรค
นายกฯจึงมอบเงินเป็นอันมากให้แก่ชายเจ้าเล่ห์ทั้งสอง
เมื่อได้เงินมาแล้วชายทั้งสองคน ก็นำไปเก็บไว้ในตู้
และไปซื้อเครื่องทอมาไว้ในห้องเช่า แล้วดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อใครแวะเข้ามาชมพวกเขาจะทำเป็นทอผ้าอย่างขะมักเขม้น

จนวันหนึ่งนายกฯอยากเห็นว่าช่างทอผ้าไปถึงไหนแล้ว
จึงให้คนสนิทที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนดีและฉลาดหลักแหลมไปดู
เมื่อไปถึงคนสนิทกลับมองไม่เห็นผ้าที่ชายทั้งสอง กำลังทอ
แต่ด้วยความที่กลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่าโง่
ท่านคนสนิทจึงกล่าวชมว่าช่างเป็นผ้าที่สวยงามมาก
และนำเรื่องไปแจ้งแก่นายกฯ พรรณนาถึงความงามของผ้า

ด้วยความที่นายกฯตื่นเต้นในความงามของผ้า
วันต่อมาจึงสั่งให้ที่ปรึกษาไปดู
และที่ปรึกษาก็ได้กลับมาบอกเล่าถึงความงามของผ้า

นายกฯใจจดจ่อกับผ้าวิเศษ...
จนกระทั่งครบกำหนดที่ช่างทั้งสอง จะนำชุดใหม่มาให้นายกฯ
เมื่อชายเจ้าเล่ห์ทั้งสองเข้ามาทำท่าประคองชุดมาด้วยความระมัดระวัง
แต่นายกฯกลับมองไม่เห็นอะไร แต่ก็เงียบเฉยไว้เพราะกลัวเหล่า รมต.และลูกพรรค
จะกล่าวหาว่าโง่ และก็ลองสวมชุดโดยที่เปลือยกาย
ช่างทั้งสอง ทำท่าจัดชุดให้เข้าที่ ปากก็พร่ำชมถึงความงามของชุด
ทุกคนที่อยู่ในห้องกลัวตัวเองจะถูกหาว่าโง่จึงเอ่ยชมความงามของชุด
ไปตามจินตนาการของตน

เมื่อถึงเวลานายกฯก็ออกไปโชว์ชุด
ประชาชนต่างกล่าวชื่นชมในความงามของชุด
แต่มีเด็กน้อยคนหนึ่งตะโกนขึ้นว่า "นายกฯไม่ได้สวมเสื้อผ้า"
ทุกคนนิ่งเงียบและเริ่มส่งเสียงคิกคัก
และพูดว่า "นายกฯไม่ได้สวมเสื้อผ้า"
แม้จะอับอายแต่ด้วยความเป็นนายกฯ
จึงกัดฟันเดินอย่างสง่ากลับเข้าทำเนียบ

ส่วนชายเจ้าเล่ห์ 2 คนก็ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย

พม่า เพิ่งประกาศจะทวงตำแหน่ง "แชมป์" ส่งออกข้าว คืน หลังจากสูญเสียตำแหจ่งตอนรัฐบาลทหารยึดอำนาจ โดยการเพิ่มพื้นที่ผลิต และ ผลผลิตต่อไร่

หลักเศรษฐศาสตร์ ที่ร่ำเรียนมาตอนยังเป็นนักศึกษา กล่าวว่า ราคาสินค้า ขึ้นอยู่กับ อุปสงค์ และ อุปทาน
สินค้ามีน้อย ความต้องการเยอะ ราคาจะสูง
สินค้ามีมาก ความต้องการน้อย ราคาจะต่ำ
สินค้ามีเพิ่มขึ้น ความต้องการมีเท่าเดิม ราคาจะลดลง

คงมีแต่ รัฐบาล "ปู" แห่งเมืองสารขันธ์ ที่คิดว่า จะฝืนหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐานนี้ได้