NOOK ng

ถ้าผมตอบไปว่า ที่ตรงนั้นยังไม่ใช่เจนว่าเป็นแผ่นดินของใคร อยู่ในระหว่างเจรจาปักปัน 

 

แต่ไอ้ควายพวกนั้นมันเดินข้ามเส้นปฏิบัติการไปให้เขมรมันจับ

 

คุณก็จะเห่าซ้ำซากเดิมๆต่อไปว่า  คนไทยถูกจับในแผ่นดินของใคร ???

 

มันก็ป่วยการที่จะคุยต่อ ถ้าคุณไม่ยอมรับว่าพื้นที่ทับซ้อนตรงนี้มันเป้นพื้นที่พิพาท

 

ตลกแล้ว ผมเคยบอกตรงไหนว่าไม่ใช่พื้นที่พิพาท ?

ไม่กี่ คห.ก่อนหน้าก็ตอบคุณไปว่าเป็นพื้นที่พิพาทมานาน แต่ไม่มีรัฐบาลไหนสนใจ จนคุณวีระต้องเสียสละไปทำหน้าที่จนถูกจับ

 

แต่พื้นที่พิพาทที่เราเข้าใจ เขมรมันบอกว่าเป็นของมัน จับคนไทยไปตัดสินติดคุกด้วยข้อหาล้ำแดนเขา ใช้แผนที่ของเขาตัดสิน

 

แล้วรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้แสดงอะไรให้เขมรมันเห็นบ้างว่าไม่ใช่เฟ้ยยย นี่เป็นเป็นพื้นที่พิพาทนะเฟ้ยยยย

 มีแต่ให้คนไทยรับสารภาพ แล้วมาออกทีวีแก้ตัวชี้แจงกำกวมว่าเป็นเส้นปฏิบัติการบ้าบอคอแตก

 

เขมรมันเลวถึงขนาดบิดเบือนจุดถูกจับ รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ยังเงียบ

 

ที่จริงเจตนารัฐบาลไทยใจเขมรมันส่อตั้งแต่รีบประกาศรายวันแล้วว่าคนไทยล้ำแดนเท่านั้นเท่านี้แล้ว

 

ผมดีใจที่คุณบอกว่าป่วยการที่จะคุยกันต่อ ผมเองก็ขี้เกียจพิมพ์แล้ว

เพราะผมคิดว่าคุยกันมาถึงขนาดนี้แล้ว อะไรผิด อะไรถูก ใครผิด ใครถูก มันเข้าใจไม่ยากหรอก

 

อยู่ที่ตัวเราเองจะรับความจริงได้แค่ไหน

 

ไปละ

 

มี สส.ของรัฐบาลไปด้วย หรือว่า หลอก สส.ของรัฐบาลไปให้เขมรมันจับด้วย ??

 

ตอบมาให้ชัดๆครับ

 

 

ตรงนั้นใครเจตนาอย่างไรผมไม่รู้ และไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สำคัญที่

 

คนไทยถูกจับในแผ่นดินของใคร

 

และเมื่อเกิดเหตุแล้ว รัฐบาลไทยได้ทำหน้าที่ปกป้องคนไทยและอธิปไตยของชาติอย่างเต็มที่ตรงไป ตรงมาไหม ?

ไม่ทันขาดคำ โดนด่าทันที 555 ท่านสมาชิกคงพอเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมผมถึงไม่อยากคุยกับคนๆนี้

 

โคนัน ไอ้คำถามกากๆแบบนั้นเอ็งคิดว่ามันเทพมากหรือไง ถ้าข้าไม่กล้าตอบจะท้าเอ็งไปตั้งกระทู้ทำไม

แต่ที่ไม่อยากตอบเอ็งในกระทู้นี้ข้าให้เหตุผลไปแล้ว แต่เอ็งก็ยังทำมึนไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม

 

และถึงคำถามเอ็งไร้สาระ เพราะมาจากสติปัญญาที่เข้าใจอะไรยากผิดปกติ 

แต่ถึงตรงนี้ข้าก็คงจำเป็นต้องตอบคำถามเอ็ง เพื่อไม่ให้เอ็งเข้าใจผิดหลงตัวเอง

 

ทักษิณคงไม่ต้องพูดถึง เพราะสารเลวที่สุดแน่นอน

 

ส่วนอภิสิทธิ์ เป็นคนที่สุภาพ มีควาอดทนอดกลั้นต่อการด่า โจมตีจากฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่ใช่คนดีจริง

เพราะคนดีต้องซื่อสัตย์ คนซื่อสัตย์จะรังเกียจคอร์รัปชั่น

และเมื่อมีอำนาจก็ย่อมต้องหาทางผลักดันแก้ไขกฏหมายต่างๆเกี่ยวกับคอร์รัปชั่น

 

แต่อภิสิทธิ์ไม่เคยแม้แต่จะคิด แถมยังพายเรื่อให้โจรนั่งปล้นประเทศ และโกหกคนไทยหลายๆเรื่อง

 

ส่วนสนธิบางครั้งก็มีเหตุผล บางครั้งก็เผด็จการ

และส่วนตัวมีธุรกิจอะไร มีลับลมคมในอะไรบ้างข้าก็ไม่รู้

จะบอกว่าเป็นคนดีก็คงไม่ได้ แต่จะบอกว่าเลวก็ยังไม่ชัด

เพราะได้ทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติหลายเรื่อง

แต่ก็ติดใจตรงที่ตอนนี้เงียบกับหลายๆเรื่อง จะมีเหตุผลอะไรก็ไม่รู้เพราะไม่ได้ติดตาม

 

และที่ข้าให้เอ็งไปตั้งกระทู้ถาม เพราะเกรงว่าตอบแล้วเอ็งก็จะตอบกลับมาแบบไม่รู้เรื่องอีก

แล้วข้าก็ต้องนั่งมาปวดหัวตอบโต้กับเอ็งแบบไร้สาระเหมือนที่ผ่านๆมาอีก

กระทู้คนอื่นเขาก็จะพลอยวิบัติ แต่ถ้าเอ็งไปตั้งกระทู้เอง ก็ไม่ต้องไปเกรงใจใคร เข้าใจไหม

 

" เพราะเอ็งก็เห่ามาเอง อยากได้พรรคการเมืองดีๆ ก็เลยต้องถาม ถ้าเอ็งไม่เริ่มเห่า จะมีคนถามไหม "

 

แล้วดูเอ็งสิ นี่ข้าอธิบายไปขนาดนั้นแล้ว เอ็งก็ยังมาให้เหตุผลแบบนี้อีก  เอ็งจะประจานตัวเองไปถึงไหน

 

ข้าบอกว่าพรรคที่มีอยู่มันไม่มีดี ต้องช่วยกันคิดหาวิธีให้ได้คนดีๆเข้ามาบริหารประเทศ

 

เหตุผลข้าเป็นนามธรรม ที่เข้าใจได้ง่ายแสนง่าย แต่เอ็งก็ยังมาถามว่า

ทักษิณ อภิสิทธิ์ และแป๊ะ ใครดี ใครเลวน้อย เลวมาก

 

นี่ข้าไปเจาะจงแค่ 3 คนนี้เมื่อไหร่ ในประเทศไทยมีแค่ 3 คนนี้เหรอ ?????

 

ข้าอธิบายในกระทู้โหวตโนว่า ทั้งเพื่อไทย ปชป. มันไม่ไหวแล้วทั้งนั้น เพราะเจตนาไม่ดี

แต่เอ็งก็ยังมายกตัวอย่างแบบนี้ โอยยยย อยากป่วย

 

แล้วที่เอ็งพยายามทำตัวโตๆบอกว่าข้าตอบคนอื่นไม่ได้ก็จะเลี่ยงตอบ ไม่อยากคุยน่ะ

เอ็งได้แหกตาอ่านมาตลอดหรือเปล่า ?

 

แล้วเรื่องหยาบเอ็งอย่ามาตอแหล ข้าเป็นสมาชิกมา 3 ปี สมาชิกคนอื่นเขารู้ว่าข้าเป็นยังไง

ข้าสุภาพคุยด้วยเหตุผล แต่เอ็งโผล่มาถึงก็ลูกกระโปกแป๊ะเลย

 

และแม้กระทั่ง ดร.สมปอง สุจริตกุล ท่านไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ในกระทูวีระ-ราตรีเมื่อปีก่อน

เอ็งยังไปเรียกว่าเขาหยาบๆเลย นั่นรุ่นปู่เอ็งแล้วมั๊ง

เพียงเพราะเขามีความเห็นเรื่อง MOU-43 ต่างจากเอ็ง เอ็งทำราวกับว่าเอ็งรู้มากกว่าเขา

 

ไม่ได้ส่องกระจกดูตัวเองเลย ไร้สติจริงๆ

 

และข้าคิดว่าข้าอธิบายเหตุผลต่างๆไว้ทุกประเด็นสำหรับเอ็งแล้ว

ข้าก็ขอจบอีกครั้งกับเอ็งเท่านี้ เพราะดูท่าแล้วถ้าข้าอดใจไม่ได้ต้องตอบเอ็งอีกมันคงยาวแน่ๆ

นี่ขนาดไม่อยากตอบยังต้องยาวขนาดนี้ เหนื่อยใจ

 

 

ที่อยู่.........................................................

 

ธันวาคม ๒๕๕๕

 

เรื่อง       ขอให้พิจารณาหยุดนโยบายปรับขึ้นราคาแอลพีจีกับประชาชน

กราบเรียน             ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี

                               

จากการที่กระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี ฯพณฯนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้ปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) กับภาคครัวเรือนและภาคขนส่งในปี ๒๕๕๖ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง แม้จะมีมาตรการในการบรรเทาผลกระทบของผู้มีรายได้น้อยจำนวน ๔ ล้านครัวเรือน และร้านอาหาร หาบเร่แผงลอยอีกกว่า ๓ แสนราย แต่คาดว่าภาครัฐต้องใช้งบประมาณถึง ๑ หมื่นล้านบาท เพื่อป้องกันการก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนโดยส่วนรวม ข้าพเจ้าในนามของเครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน จังหวัด.............................. ขอเรียกร้องต่อ ฯพณฯนายกรัฐมนตรี  ให้พิจารณาดำเนินการดังต่อไปนี้

๑. รัฐบาลควรหยุดนโยบายปรับขึ้นราคาแอลพีจีกับภาคครัวเรือนและภาคยานยนต์ เนื่องจากการให้สัมปทานปิโตรเลียมของประเทศไทย เป็นระบบสัมปทานที่รัฐได้รับผลประโยชน์ตอบแทนต่ำที่สุดในอาเซียน ทำให้ผู้รับสัมปทานมีต้นทุนการผลิตก๊าซธรรมชาติรวมถึงก๊าซแอลพีจีที่ต่ำ เช่น แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ อันเป็นแหล่งใหญ่มีพื้นทีครอบคลุมถึง ๕ จังหวัดได้ กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ และอุตรดิตถ์ มีต้นทุนการผลิตแอลพีจีบวกกำไรของผู้รับสัมปทาน อยู่ที่ประมาณ ๙ บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ขณะที่ราคาค้าปลีกแอลพีจีที่จำหน่ายให้แก่ภาคครัวเรือน และภาคยานยนต์ ซึ่งรวมกำไรของผู้ค้าและภาษีแล้วในปัจจุบัน อยู่ที่ ๑๘.๑๓ บาทต่อกิโลกรัม และ ๒๑.๓๘ บาทต่อกิโลกรัม ตามลำดับ จึงเป็นราคาที่ผู้ค้าได้กำไรมากอยู่แล้ว

๒. ก๊าซแอลพีจีที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ รัฐบาลควรจัดให้ภาคประชาชนได้ใช้ก่อนทั้งภาคครัวเรือนและยานยนต์ เพราะก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตแอลพีจีมาจากแผ่นดินไทย ถือเป็นทรัพยากรของประชาชน ทั้งนี้ ในปี ๒๕๕๔ โรงแยกก๊าซฯ มีกำลังการผลิตก๊าซแอลพีจีได้ ๓.๖๐ ล้านตัน ขณะที่ภาคประชาชนใช้ ๓.๕๗ ล้านตัน และในปี ๒๕๕๕ คาดว่าจะผลิตได้ ๓.๘๘ ล้านตัน ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ของภาคประชาชนอยู่แล้ว แอลพีจีส่วนที่เหลือจากการใช้ของภาคประชาชนให้จำหน่ายกับภาคอุตสาหกรรมได้ หากไม่เพียงพอให้ภาคอุตสาหกรรมเป็นผู้รับภาระในการนำเข้าเอง

                               

 

 

๓. ให้เลิกนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปอุดหนุนการใช้แอลพีจีเป็นวัตถุดิบของธุรกิจ ปิโตรเคมี ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดโลกประมาณร้อยละ ๔๐ การนำเงินกองทุนน้ำมันฯ ไปอุดหนุนให้ภาคปิโตรเคมีดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนน้ำมันฯ ตั้งแต่แรกเริ่ม ที่มีขึ้นเพื่อรักษาระดับราคาพลังงาน มิใช่เพื่อไปอุดหนุนราคาวัตถุดิบในอุตสาหกรรมใดโดยเฉพาะ จึงเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่ออุตสาหกรรมอื่นที่ไม่ได้รับการอุดหนุน และยังเป็นการเอาเปรียบประชาชน ผู้เป็นเจ้าของกองทุนน้ำมันฯ อีกด้วย

๔. หนี้ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปัจจุบันติดลบอยู่ประมาณ ๑๗,๐๐๐ ล้านบาทในปัจจุบัน เกิดจากการนำเงินกองทุนน้ำมันฯไปอุดหนุนธุรกิจปิโตรเคมี ดังนั้น แทนที่รัฐบาลจะปรับขึ้นราคาแอลพีจีกับภาคขนส่งและภาคครัวเรือนปีละ ๓-๖ บาทต่อกิโลกรัม รัฐบาลควรสั่งให้ปิโตรเคมีที่ใช้แอลพีจีอย่างน้อยปีละ ๒,๔๐๐ ล้านกิโลกรัม จ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันอย่างน้อยกิโลกรัมละ ๗ บาทเหมือนที่สั่งเก็บจากโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ จะได้เงินถึงปีละ ๑๖,๘๐๐ ล้านบาท ทำให้หนี้กองทุนน้ำมันฯจะหมดไปภายใน ๑ ปี และเพื่อความเป็นธรรมกับประชาชน รัฐบาลควรสั่งให้ ปตท. ส่งคืนเงินที่ได้รับชดเชยส่วนต่างราคาแอลพีจีนำเข้าไปแล้วประมาณหนึ่งแสนล้านบาทให้แก่กองทุนน้ำมันฯ โดยเร็วด้วย

                                ๕. ให้มีคำสั่งห้ามมิให้ปลัดกระทรวงพลังงานและข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลกิจการพลังงานเป็นกรรมการในธุรกิจพลังงานทั้งหมด เนื่องจากการรับเงินเดือน โบนัส และเบี้ยประชุมจากบริษัทพลังงานของข้าราชการเหล่านี้เป็นการกระทำที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในการปฏิบัติหน้าที่ และเป็นการกระทำที่ผิดหลักธรรมาภิบาลสากลอย่างร้ายแรง

 

จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ

 

ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง

 

 

 

(.............................................................)

ผู้แทนเครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน

จังหวัด.......................................................

 

 

 

จดหมายถึงนายกรัฐมนตรี หยุดนโยบายปรับขึ้นราคาแอลพีจีกับประชาชน

 

 

ของฝากจากคุณรสนา

ใครที่ไม่ยอมรับราคาตลาดโลภ พรุ่งนี้พบกันที่หน้าตึกซีพี ถนนสีลมเวลา10.00น ไปร่วมกิจกรรมผัดเผ็ดกระทรวงพลังงาน ผัดฉ่าปลัดกัน ใครมีกะทะ ตะหลิวพกมาด้วย

รสนา โตสิตระกูล
ก๊าซLPG ในประเทศจากโรงแยกก๊าซจะถูกเก็บไว้ให้ปิโตรเคมีใช้ ในราคาถูกกว่าตลาดโลก 40-50% คนกลุ่มน้อยจะรวยขึ้นจากทรัพยากรราคาถูก ที่รัฐใช้อำนาจจัดสรรให้ ส่วนประชาชนถูกรัฐกำหนดให้ใช้ก๊าซLPGนำเข้าจากต่างประเทศทั้ง100%


นำเข้าแค่22% แต่ให้ประชาชนใช้ในราคานำเข้าทั้ง100% แล้วที่มีเองในบ้าน55%จะเก็บไว้ให้ใครใช้ ถ้าไม่ใช่ปิโตรเคมี

ราคาก๊าซหุงต้มที่รัฐบาลจะขึ้นราคาเดือนละ50สตางค์ ตั้งแต่เดือนมกราคม'56เป็นต้นไป ฟังเผินๆก็ไม่เท่าไหร่ แต่ฟังดีๆคือขึ้นราคากิโลกรัมละ50สตางค์ ก๊าซถังละ15กิโล เท่ากับขึ้นมาถังละ7.50บาทต่อเดือน พอครบปีราคาจะเพิ่มขึ้นถังละ100บาท พอครบ2ปี ก็เพิ่มขึ้น 200บาทต่อถังกลายเป็นก๊าซหุงต้มถัง15กิโลจะ มีราคาถังละ 500บาท

ข้าวแกงจะราคาเท่าไหร่เมื่อถึงตอนนั้น คนรวยไม่เดือดร้อนหรอก แต่คนจนจะอยู่กันยังไง นี่หรือคือการกระชากค่าครองชีพให้ประชาชน นี่หรือคือการปรับราคาพลังงานให้เป็นธรรมต่อประชาชน

ค่าแรง300บาทเพิ่งจะได้ในปี2556 แต่ก็ล้วงกระเป๋าคืนแล้วจากก๊าซหุงต้ม ถังละ100บาทในปี'56 พอปี'57 ก็ล้วงเพิ่ม200บาทต่อถัง ยังไม่รวมค่ารถ ค่าไฟ ค่าครองชีพที่ต้องพาเหรดขึ้นจนค่าแรง 300บาทหมดความหมาย

ที่รัฐบาลประกาศช่วยคนจนได้ใช้ก๊าซหุงต้มฟรีเดือนละ6กิโลกรัม แม่ค้าได้เดือนละ105กิโลกรัม ก็เป็นการบริหารที่ยุ่งยากมากเว้นแต่จะเอาไว้ให้แต่หัวคะแนนของตัวเอง และการช่วยคือเอาเงินหลวง เงินงบประมาณมาจ่าย แต่ธุรกิจพลังงานได้ไปเต็มๆ

ลองประมาณรายได้ที่บริษัทธุรกิจพลังงานจะได้จากการเพิ่มราคาดู ครัวเรือนใช้ก๊าซหุงต้ม2.6ล้านตันหรือ2,600ล้านกิโลกรัม ขึ้น6บาทต่อกิโลกรัม ปี'56จะได้เงินเพิ่ม15,600ล้านบาท ยานยนตร์ใช้9แสนตัน หรือ 900ล้านกิโลกรัมขึ้นมา 6บาท จะได้เงินเพิ่ม5,400ล้านบาท ส่วนอุตสาหกรรม SMEขึ้นมา12บาทใช้ปีละ7แสนตันหรือ700ล้านกิโลกรัม ก็จะได้เงินเพิ่ม8,400ล้านบาท ปี'56 จะได้รายได้เพิ่ม 15,600+5,400+8,400=29,400 บาท ภายใน1ปีได้รายได้เพิ่มเกือบ30,000ล้านบาท

ถ้าประชาชนต้องใช้ทั้งก๊าซ และน้ำมันใน ราคาตลาดโลกทั้ง100%ทั้งที่นำเข้าก๊าซLPG แค่22% ก็ขอเสนอให้ยกเลิกสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมด แล้วนำเข้าทั้ง100%จะดีไหม เราจะได้เก็บทรัพยากรเหล่านี้ให้ลูกหลานในอนาคตที่ฉลาดและไม่โกงไว้ใช้ต่อไป

ดิฉันยินดีใช้ก๊าซราคาตลาดโลก เมื่อมีการนำเข้า100% แต่ไม่ยอมใช้ก๊าซราคาตลาดโลภที่นำเข้าแค่ 22% แต่ให้จ่ายในราคา100%

ใครที่ไม่ยอมรับราคาตลาดโลภ พรุ่งนี้พบกันที่หน้าตึกซีพี ถนนสีลมเวลา10.00น ไปร่วมกิจกรรมผัดเผ็ดกระทรวงพลังงาน ผัดฉ่าปลัดกัน ใครมีกะทะ ตะหลิวพกมาด้วย
ขอ

ขอบคุณบทความจากเพจองค์การพิทักษ์สยาม

นายตำรวจ รักชา่ติ โวย
Bhakbhum Soonthornsorn ได้สั่งการให้หน่วยในรับผิดชอบกับขึ้นตรงการบังคับบัญชาเลิกซื้อมติชน ใครขัดคำสั่งมีปัญหากับกู..
ทักษิน จันไรขายชาติ


Bhakbhum Soonthornsorn
https://www.facebook...m.soonthornsorn

สรท. ขอชื่นชมและปรบมือให้...

เลวมาก เลวน้อย ก็ไม่เอาทั้งสองพรรคครับ

อีแบบนี้ไม่ว่าอะไรมั่งเหรอ

หรือเจตนามองไม่เห็นซะงั้น

สนธิ ยอมถอนฟ้องแกนนำ นปช. ทุกคดี

http://hilight.kapook.com/view/50668

สู้พลัง ซาละเปา อันนี้ไม่ได้ครับ... ตอน จะฟ้องเค้า ตั้งโต๊ะใหญ่โต... ทำไปทำมา ....

ชื่นมื่น! “อลงกรณ์-เยาวเรศ” จับมือถอนฟ้องทุกคดี

วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 403 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความเพื่อทำการไกล่เกลี่ยคดีที่ นางเยาวเรศ ชินวัตร อดีตประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยในความผิดเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี กรณีหมิ่นประมาทที่นายอลงกรณ์ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์พาดพิงโจทก์ว่าเรียกรับสินบน 25 ล้านบาท ในการประมูลโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถ (คาร์ปาร์ก) สนามบินสุวรรณภูมิ

http://www.manager.c...D=9490000129635


รูปของ จขกท เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง... เพราะ ต่างฝ่ายต่าง หลอกกองเชียร์ของตัวเองกันไป แล้วก็...
ยอมความกันทีหลัง...

เจ๊ด.ถอนฟ้องเขาเองนะ

แล้ว อลงกรณ์... ก็เลย ถอนฟ้องตาม...

สรุปว่า.. เรื่อง

เรียกรับสินบน 25 ล้านบาท ในการประมูลโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถ (คาร์ปาร์ก) สนามบินสุวรรณภูมิ

เป็นแค่ ลิเก การเมือง...

อีแบบนี้ไม่ว่าอะไรมั่งเหรอ

หรือเจตนามองไม่เห็นซะงั้น

สนธิ ยอมถอนฟ้องแกนนำ นปช. ทุกคดี

http://hilight.kapook.com/view/50668

สู้พลัง ซาละเปา อันนี้ไม่ได้ครับ... ตอน จะฟ้องเค้า ตั้งโต๊ะใหญ่โต... ทำไปทำมา ....

ชื่นมื่น! “อลงกรณ์-เยาวเรศ” จับมือถอนฟ้องทุกคดี

วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 403 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความเพื่อทำการไกล่เกลี่ยคดีที่ นางเยาวเรศ ชินวัตร อดีตประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยในความผิดเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี กรณีหมิ่นประมาทที่นายอลงกรณ์ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์พาดพิงโจทก์ว่าเรียกรับสินบน 25 ล้านบาท ในการประมูลโครงการก่อสร้างอาคารจอดรถ (คาร์ปาร์ก) สนามบินสุวรรณภูมิ

http://www.manager.c...D=9490000129635


รูปของ จขกท เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง... เพราะ ต่างฝ่ายต่าง หลอกกองเชียร์ของตัวเองกันไป แล้วก็...
ยอมความกันทีหลัง...