Jump to content


soul

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 12 ธันวาคม 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2556 21:19
-----

#732480 สาวกแป๊ะเกาะกระแส "หน้ากากวี" จะเกิดอะไรขึ้น

โดย tonythebest on 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 16:45

ผมว่า มันเป็นสิทธิ์ ที่ใครจะนำไปใช้ นำไปพูดถึง นำไปรณรงค์ครับ

เพราะทุกคนที่นำไปใช้ ย่อมมาจากเป้าหมายเดียวกัน

ขอเพียงแต่ ถึงเวลาก็อย่าโหน

ไม่อยากให้ถูกมองว่า หน้ากาก เป็นคนคนเสื้อเหลือง

หน้ากาก เป็นของคนประชาธิปัตย์ หรือเป็นของสีใดสีหนึ่ง

 

สัญลักษณ์หน้ากาก มันเป็นสีขาวอยู่แล้ว

มันไม่มีสีอยู่แล้วล่ะครับ

 

แกนนำหน้าเดิม ช่วยนั่งเฉยๆ ก่อนสักพักครับ

อย่าพึ่งออกหน้า ถ้ารักประเทศชาติจริง

และเมื่อไหร่ที่คุณออกหน้า พูดอะไรที่จะสื่อว่า คนสวมหน้ากาก

คือพวกฝั่งฉัน สีฉันเมื่อไหร่ ทุกอย่างมันจะล่มครับ

และมันจะแสดงว่า คุณแค่จ้องจะงาบโอกาสเท่านั้น




#732997 อภิรักษ์ของอิชั้น

โดย หนูอ้อย on 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:03

หลังจากนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่า ฯ กทม.(ที่บัดนี้ตายไปแล้ว) ได้ลงนามสัญญาซื้อขายโดยกำหนดให้เปิด LC ภายใน 30 วัน(จะครบวันที่ 26 ก.ย.47) เมื่ออภิรักษ์ได้เข้ามาเป็นผู้ว่าช่วงวันที่ 23 ก.ย.47 ได้มีหนังสือแจ้งปลัด กทม. (ขณะนั้นคือนางฐนนท ทวีสิน) เพื่อให้ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ผ.อ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ผู้ได้รับมอบหมายจากนายสมัครให้เปิด LC กับธนาคารกรุงไทย --ชะลอการดำเนินการไว้ก่อน แต่พล.ต.ต.อธิลักษณ์ได้แจ้งผ่านปลัดกทม.กลับมาว่า ไม่สามารถเลื่อนได้เพราะการจัดซื้อเกิดจากการอนุมัติต่อเนื่องจากมติ ครม.ไทยรักไทย 

 

จากนั้นอภิรักษ์ก็ได้หารือกับคณะผู้บริหาร กทม.และผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ร่วมทำงานการเมืองกันอยู่ เห็นสมควรว่าในตอนแรกนี้ให้ชะลอเปิด LC ไว้ก่อน เวลาถัดมาจึงมีหนังสือลงวันที่ 27 ก.ย.47 แจ้งธนาคารกรุงไทยชะลอเปิด LC และอภิรักษ์แต่งตั้งนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่ากทม. ผู้มีความรู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเป็นประธานกรรมการตรวจสอบสัญญาระหว่างบริษัทสไตรเออร์ฯกับกทม.อีกครั้ง

 

แต่การตรวจสอบชุดของนายสามารถนั้นเป็นเพียงการตรวจสอบภายในองค์กร  ..ไม่สามารถตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตได้เพราะอำนาจของ กทม. ที่เป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นมีเพียงจำกัดในการตรวจสอบ ขณะที่เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลายส่วนคือ 1) กระทรวงมหาดไทย ที่ทำหน้าที่ลงนาม MOU ก่อนจะลงนามสัญญาซื้อขาย และ2) กระทรวงพาณิชย์ ที่ดูแลเรื่องการสั่งซื้อสินค้าแลกเปลี่ยนสองประเทศตามสัญญาต่างตอบแทนตามที่ ครม.มีมติ ซึ่งกทม.เองก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย จึงไม่อาจที่จะไปตรวจสอบได้ในระดับลึกไปถึงข้อมูลของบริษัทฝรั่ง ขณะที่การจะเปลี่ยนแปลงทบทวนการทำสัญญาซื้อขายหรือยกเลิกสัญญา เมื่อเป็นการทำ MOU ระดับรัฐบาลไทยผ่านกระทรวงมหาดไทย ที่มี กทม.เป็นคู่สัญญา ต่อรัฐบาลออสเตรียผ่านทูตที่ บ.สไตร์เออร์ ฯ จำเลยที่ 5 เป็นคู่สัญญานั้น กทม.ก็ต้องเสนอเรื่องผ่านกระทรวงมหาดไทยเพื่อเสนอ ครม.ที่เคยมีมติอนุมัติมาแล้ว

 

เรื่องนี้อภิรักษ์เคยทำหนังสือแจ้งนายโภคิน รมว.มหาดไทยขณะนั้นให้พิจารณาทบทวนการซื้อของล็อตนี้  แต่ได้รับหนังสือกระทรวงมหาดไทยที่แจ้งจากนายโภคิน  , นายประชา มาลีนนท์ รมช.มหาดไทย และนายสมศักดิ์ คุณเงิน ผู้ช่วยเลขานุการรมว.มหาดไทย ประมาณ 4 ครั้ง ลักษณะเร่งให้ดำเนินการเพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยแจ้งว่าทูตออสเตรียให้มหาดไทยตรวจสอบเพื่อเปิด LC ตามสัญญา

 

ซึ่งในการตั้งกรรมการตรวจสอบชุดนายสามารถนั้น อภิรักษ์ยังให้แจ้ง บ.สไตร์เออร์ ฯ ทราบถึงการชะลอเปิด LC ด้วย แต่บริษัทก็พยายามมีหนังสือเร่งรัดให้ กทม.เปิด LC เช่นกัน โดยเมื่อเกิดปัญหา อภิรักษ์พยายามปกป้องสิทธิประโยชน์ของ กทม. อย่างถึงที่สุดโดยถ่วงเวลายังคงไม่ยอมเปิด LC และระหว่างนั้นนายสามารถได้พยายามต่อรองกับบริษัทด้วยเกี่ยวกับสิทธิการประกันอุปกรณ์ การซ่อมบำรุงเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับ กทม.หากคู่สัญญาไม่ยอมรับการชะลอเปิด LC ทำให้ กทม.ได้ประโยชน์สูงสุดถึง 250 ล้านบาท โดยกรณีดังกล่าวไม่ใช่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาเดิม เพราะหลักการและวงเงินซื้อขายยังเป็นตามมติที่ครม.ไทยรักไทยอนุมัติ เพียงแต่ได้ของแถมเพิ่มขึ้นจากฝีมือของกทม.ชุดใหม่

 

โดยในที่สุดอภิรักษ์จำต้องเปิด LC เมื่อ 10 ม.ค.48 ด้วยเหตุที่ต้องดำเนินการตามสัญญาที่เคยทำกันไว้ และแม้จะเสนอให้กระทรวงมหาดไทยทบทวนแต่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ โดยมีหนังสือเร่งรัดและยืนยันจากทั้งฝ่ายมหาดไทย ทูตออสเตรีย บ.สไตร์เออร์ ฯ  ที่พยายามให้เปิด LC และเมื่อขณะนั้นยังไม่ปรากฏว่าหน่วยราชการใดจะรวบรวมหลักฐานได้ว่าสัญญาดังกล่าวมีการกระทำไม่ชอบ

 

 

 

กระทรวงมหาดไทย ก็ยืนยันตลอดเรื่องการเปิด LC ดังนั้นหากยังไม่ปรากฏว่าสัญญาไม่ชอบเป็นโมฆะแล้ว ซึ่งหากเกิดปัญหาตามสัญญาระบุว่าต้องไปยุติข้อพิพาทโดยผ่านอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ   สุดท้ายอาจจะเป็นข้อเสียเปรียบก็ได้ถ้าเรื่องต้องเข้าอนุญาโต ฯ โดยอีกฝ่ายจะกล่าวหาว่า กทม.ทำผิดสัญญา แล้วสุดท้ายกลายเป็นค่าโง่ เหมือนกรณีอื่นๆ  และ กทม. จะเสียเครดิตในลักษณะองค์กรที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา

 

สรุปคือเรื่องซึ้อ - ไม่ซื้ออุปกรณ์เหล่านี้เรื่องนี้เป็นการทำ MOU ลักษณะรัฐต่อรัฐและมีหน่วยงานใหญ่อื่นเหนือไปกว่า กทม.ที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์  ทั้งยังเป็นการใช้งบประมาณรัฐบาล 60 % และต้องเป็นไปตามมติ ครม. โดยกทม.เป็นเพียงมือปฏิบัติที่ไม่มีอำนาจสั่งการใดๆทั้งสิ้น  ดังนั้นการตรวจสอบ หรือยกเลิกสัญญาจึงเกินขอบเขตของ กทม. โดยสิ้นเชิง




#732683 อภิรักษ์ของอิชั้น

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 19:44

หากผ่านวิกฤตินี้ ผู้ว่า กทม. สมัยหน้ารออยู่ เป็นประวัติศาสตร์เลย

แล้วมารอเล่นสนามใหญ่ต่อหลังช่วง นายกฯ กรณ์

 

ถ้าผ่านละก็ คราวนี้จะเป็นแก็งค์ ๓ คนแน่ๆ

อภิสิทธิ์ - กรณ์ - อภิรักษ์

 

นี่แหละครับที่พวกเควี่ยแม้วกลัวฝุดๆ

 

สามขุนศึก เก่ง เท่ และกล้า




#732528 อภิรักษ์ของอิชั้น

โดย eAT on 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:42

หากผ่านวิกฤตินี้ ผู้ว่า กทม. สมัยหน้ารออยู่ เป็นประวัติศาสตร์เลย

แล้วมารอเล่นสนามใหญ่ต่อหลังช่วง นายกฯ กรณ์

 

ถ้าผ่านละก็ คราวนี้จะเป็นแก็งค์ ๓ คนแน่ๆ

อภิสิทธิ์ - กรณ์ - อภิรักษ์




#730483 นายชวน หลีกภัย สส.เจะอามิง โตะตาหยง เยี่ยม พ่อค้า ประชาชน ตลาดมะกรูด เยี่ยม น...

โดย paper punch on 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:12

ตั้งแต่ที่ผมเริ่มสนใจการเมือง คุณชวน หลีกภัย คือนักการเมืองคนเดียวที่ผมชื่นชอบมาตลอด

และยึดถือท่านเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตมาจนทุกวันนี้




#730412 นายชวน หลีกภัย สส.เจะอามิง โตะตาหยง เยี่ยม พ่อค้า ประชาชน ตลาดมะกรูด เยี่ยม น...

โดย เช never die on 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:33

แต่ก้อย่าว่า จะหวังให้ควายแดงถ่อยสถุน พสกนิกรเขมรชั้นสองของฮุนเซ็น ขี้ข้าสุนัขขายชาติ มาเข้าใจความแตกต่างระหว่างปูชนีย์บุคคลกับทรราชหน้าเหลี่ยม มันคงเป็นไปไม่ได้

 

เอาง่ายๆ ชาตินี้คงจะไม่มีวันได้เห็นไอ้แม้ว หรืออีปู หรือไอ้เป็ดเหลิม หรือ สส.พรรคเพื่อควาย คนไหนไปเดินพบปะชาวบ้านแบบคุณชวน โดยไม่ต้องมี รปภ.เป็นพันๆคนเดินคุ้มกัน




#733252 เสาร์นี้ พบเวทีประชาชน “เดินหน้า ผ่าความจริง สจฺจํ เว อมตา วาจา ความจริงไม่มี...

โดย redfrog53 on 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 19:04

ผ่องศรี ธาราภูมิ
ไม่มีอะไรจะขวาง...ความตั้งใจของประชาชนได้
ไม่อยากจะเชื่อ เมื่อมีคนมาบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัด ขัดขวาง เสียเอง
เสียชื่อคนสุพรรณ แดนบรรหารบุรี ที่ปล่อยให้"แดงต่างถิ่น"เข้ามาก่อกวน เวทีประชาธิปไตยถึงบ้านตัวเอง...
603001_473384099411668_2015499306_n.jpg 
 
 
 
 
หนุกหนานที่เวทีผ่าความจริงสุพรรณบุรี
973258_10151388142731746_13646824_n.jpg? 
975127_10151388145431746_415081862_n.jpg 
 
 
 
"...สัปดาห์แล้ว สัปดาห์เล่า...หาพ่อไม่เจอซะที" 555
ท่านอภิสิทธิ์พูดถึงคนเสื้อแดง...บนเวทีผ่าความจริง
 
ปีหน้าจะไปตามหาพ่อต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงขึ้น เพราะฝีมือแม่คุณ / มาร์ค บอกเสื้อแดง...



#700197 แรงได้อีก"ชัย ราชวัตร"บอก ถ้าทรยศน้ำใจที่หลั่งไหลให้ ให้เรียก "ไอ...

โดย Tatiana on 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:14

อีกหนึ่งกำลังใจแด่ชัย ราชวัตร

 

 

ปรัชญาชัย:ว่าด้วยเรื่องหญิงขายตัว โดยป๋าเปลว ไทยโพสต์

  อืมมมม...ก็บอกแล้ว "พุธเสีย" อะไรที่เกี่ยวกับเอกสาร-การสื่อสารทุกชนิด ไม่ว่าคำพูด-คำจา จะโพสต์ จะสไกป์ จะชูป้าย จะยื่นซองประมูล จะร่างแถลงการณ์-ร่างคำฟ้อง กระทั่งจะปาฐกถา ไม่ห้าม..ทำได้ แต่ต้องมีสติ และทำด้วย "สัมมาทิฐิ" คือความเห็นที่ตรงตามจริง ยิ่งเดือนนี้ "คราสเล็งอาทิตย์" ผู้คนหงุดหงิด อะไรๆ มันก็ขวางไปหมด ใครรู้ตัวว่าเป็นผู้นำ
    "เกาะเก้าอี้" ไว้ให้ดีละกัน!!!
    แต่อย่างว่า "คนลิขิตมิสู้กรรมลิขิต" ดูอย่างขงเบ้ง กั้นม่านเจ็ดชั้นทำพิธีต่อชะตา จะติดอยู่รอมร่อ ลูกน้องดันวิ่งทะเล่อ-ทะล่าเข้าไป "แจ้งข้อราชการ" เตะตะเกียง...ดับวูบ!
    คิดแล้วก็ห่วงนายกฯ อุตส่าห์บำเพ็ญตบะด้วยอดทน-อดกลั้นมาแรมปี กำลังจะไปได้สวย ไปด้วยพลัง ๒.๒ ล้านล้านอยู่เชียว ไม่รู้ไปเชื่อบริวารรอบชายซิ่นคนไหน ให้ทนายไปแจ้งจับคุณชัย ราชวัตร นักเขียนการ์ตูนของประชาชนซะนี่
    ต่อให้จับเอาคุณชัยไปตัดหัวเสียบกำแพงดิน ก็ไม่เป็นอานิสงส์เพิ่มพูนบารมีใดๆ ให้ตัวนายกฯ ตรงกันข้าม "การทำ" ในสิ่งที่อดกลั้น "ไม่ทำ" มาตลอดครั้งนี้ คือการสร้าง "วิบากกรรม" ให้ตัดรอนความโชติช่วงชัชวาลตัวเองโดยแท้!
    "กรรมคือเงา" หรือนายกฯ ของเราจะหนี "เงาตัวเอง" ไม่พ้นเสียแล้ว!?
    ผมเคยเล่นเฟซบุ๊ก แต่เลิกไปนานแล้ว ก็เลยไม่ทราบว่าคุณชัยเขาโพสต์อะไร จนดังข้ามหน้า-ข้ามตา ยังนึกอิจฉา ได้ขึ้นหน้า ๑ ออกจอโทรทัศน์ ดังรึ่มทะลุโลก 
    ต่อเมื่อได้อ่านที่เว็บไซต์มติชนเขานำมาเผยแพร่นั่นแหละถึงรู้ว่า คุณชัยนั้น นอกจากเก่งการ์ตูนและเก่งแก๊กแล้ว ยังเก่ง "ปรัชญาเปรียบเทียบ" สาขาโลกและชีวิต อีกตะหาก!
    เพราะที่คุณชัยโพสต์ใน fb..."โปรดเข้าใจ กะหรี่ไม่ใช่หญิงคนชั่ว กะหรี่แค่เร่ขายตัว แต่หญิงคนชั่วเที่ยวเร่ขายชาติ" นั้น...
    มันเป็นทั้งปรัชญา-ทั้งตรรกะ สะท้อนโลกและชีวิตสัตว์มนุษย์ ซึ่งมีสติ มีจิตวิญญาณใคร่ครวญในการพูด-คิด-ทำเหนือสัตว์****** ที่มีเพียงสัญชาตญาณสนองตอบในการดำรงอยู่ หิว-กิน, โกรธ-แฮ่, อิ่ม-นอน, กระสัน-ติดสัตว์ เท่านั้น 
    คุณชัยสามารถนำจักรวาล และมนุษย์ทั้งจักรวาลมาสรุปรวม ครอบคลุมอดีต ปัจจุบัน ยาวนานเป็นอนาคตกาลด้วยวลี เพียง ๓ วลี..."กะหรี่ไม่ใช่หญิงคนชั่ว กะหรี่แค่เร่ขายตัว แต่หญิงคนชั่วเที่ยวเร่ขายชาติ" สะท้อนโลกและชีวิตได้สวยงาม-ลงตัว...น่าอิจฉา!
    ใช่...ถูกต้อง..."กะหรี่ไม่ใช่หญิงคนชั่ว" เพราะเธอแค่ขายสิ่งอันมีในตัวของเธอเท่านั้น อยากถามกันตรงๆ ตรงนี้ "เฉพาะชาย" ด้วยซ้ำว่า.... 
    มีสักกี่คนที่ไม่เคยสนิทสิเนหากับเธอในอาชีพ "เร่ขายตัว" การที่สนิทสิเนหากับเธอ นั่นคือใจรับว่าเธอมิใช่คนชั่ว แต่ถ้าว่าชั่ว ตัวชายที่ไปสมาคมก็ชั่ว ก็เพราะไม่ใช่คนชั่วนั่นแหละ โสเภณีจึงเป็นอาชีพ "เลี้ยงชาติ" จากอดีตถึงปัจจุบัน!
    เมื่อมาถึงวลี "แต่หญิงคนชั่วเที่ยวเร่ขายชาติ" ของคุณชัย เมื่ออ่านแล้ว ใช้สติ-สัมปชัญญะกรองแล้ว ก็อยากถามว่า มีใครบ้าง ที่ไม่ยอมรับ "ความต่าง" ในด้านเป็นจริงของหญิง ๒ พฤติกรรมนั้น?
    สมมุติ เคยปักใจ "หญิงเร่ขายตัว" เป็นคนชั่ว แต่เมื่อนำ "หญิงเร่ขายชาติ" มาเทียบให้ชี้ขาด ระหว่าง ๒ หญิง ๒ พฤติกรรมนี้ หญิงไหนคือ "หญิงชั่ว" แท้จริง?
    ตอบด้วย "ใจกลาง" ซิว่า เร่ขายตัว-คือคนชั่ว หรือเร่ขายชาติ-คือคนชั่ว?
    แต่...ทุกวันนี้ เคยสัมผัสด้วยซ้ำกับหญิงเร่ขายตัว แต่ยังไม่เคยเห็น-ไม่เคยสัมผัส "หญิงคนชั่วเร่ขายชาติ" จึงสรุปได้ว่า ประเทศไทยของเรา ยังไม่มี "หญิงคนชั่ว".....
    ก็มีแค่ "หญิงเร่ขายตัว" เท่านั้น!
    ความจริง เรื่องหญิงขายตัวที่เรียกกันว่า โสเภณีบ้าง กะหรี่บ้าง ช็อกกะรีบ้าง เธอเหล่านั้นไม่ได้เป็นชั่ว เป็นคนไม่ดี เป็นคนน่ารังเกียจแต่อย่างใด ตรงกันข้าม โสเภณี "หญิงผู้ทำเมืองให้สวยงาม" นั้น ใช่ว่าใครก็เป็นได้
    ต้นกำเนิดในอินเดีย ก่อนพุทธกาลด้วยซ้ำ ถ้าศึกษาคัมภีร์ฮินดูจะทราบ โสเภณีเป็นตำแหน่ง "สูงศักดิ์-ทรงเกียรติ" ต้องได้รับแต่งตั้งจากผู้ครองนครนั้นๆ เท่านั้น ใช่ว่าใครอยากเป็นก็เป็นได้ และเมืองหนึ่ง มี "โสเภณี" ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น!
    เหมือนตำแหน่งนายกฯ จะสูงเกียรติ-สูงศักดิ์กว่าด้วยซ้ำ นอกจากต้องสวยหยาดฟ้ามาดินแล้ว ยังต้องร่ำเรียนและช่ำชองศิลปศาสตร์สาขาต่างๆ ด้วย มีเป็นหน้า-เป็นตา ต้อนรับแขกบ้าน-แขกเมือง และคนชั้นสูงเท่านั้น
    บางเมือง ไม่ต้องพึ่งรายได้ส่งออก แต่ร่ำรวย เงินทองสะพัด เพราะผู้คนแห่มาใช้บริการโสเภณี อย่าง "นางอัฑฒกาสี" เธอเป็นโสเภณีประจำแคว้นกาสี ใครจะมารับการบริการ ต้องจ่ายเท่าไหร่ทราบมั้ย?
    "ครึ่งหนึ่ง" ของ "รายได้แผ่นดิน" ครับ! 
    "อัฑฒะ" แปลว่าครึ่งหนึ่ง ขนาดนั้น คิวจองยาวข้ามปี แต่สุดท้าย เมื่อกรรมหยาบที่ส่งผลให้เธอต้องมาเป็นโสเภณีหมดไป กุศลกรรมก็ส่งเธอสู่ลำแสงพระพุทธศาสนา ไปบวชเป็นภิกษุณี เป็นพระอรหันต์ในที่สุด
    ใครสนใจประเด็นเหล่านี้ ไปหาหนังสือ ''พุทธจริยศาสตร์กับปัญหาโสเภณี'' ของพระมหาสมบูรณ์ วุฑฺฒิกโร อ่านดู ท่านค้นคว้า รวบรวม-เรียบเรียงไว้ครบถ้วน จะยกมาให้เป็นที่เข้าใจกับคำว่า โสเภณี กะหรี่ นางคณิกา ซักตอน 
    ......คัมภีร์อรรถศาสตร์ ซึ่งแต่งโดยเกาฏีลียะ ได้กล่าวถึงสตรีที่ขายบริการทางเพศไว้ ๒ ประเภท คือ หญิงนครโสเภณี (Courtesan) ได้แก่สตรีที่ขายบริการทางเพศชั้นสูงที่ได้รับแต่งตั้งและการปกป้องคุ้มครองจากรัฐ และหญิงโสเภณีทั่วไป (prostitute) ซึ่งเรียกตามคัมภีร์นี้ว่า “รูปาซิวา”
    โดยหญิงนครโสเภณีจะมีรายได้จากเงินที่รัฐจ่ายให้ ส่วนโสเภณีทั่วไปต้องหารายได้ส่วนตัวและต้องแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งให้แก่รัฐด้วย ดังข้อความในคัมภีร์อรรถศาสตร์ที่ว่า “หญิงโสเภณีต้องจ่ายเงินเป็นสองเท่าของค่าตัวเธอให้แก่รัฐเป็นประจำทุกเดือน” 
    สำหรับหญิงนครโสเภณี ถือว่าเป็นบุคคลที่มีสถานะทางสังคมค่อนข้างสูง เพราะได้รับการแต่งตั้งเหมือนข้าราชการประเภทหนึ่ง และรัฐต้องเลี้ยงดูไปจนตลอดชีวิต ดังข้อความที่ว่า “หญิงนครโสเภณีที่สิ้นความงามจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็น มาตฤกา” คำว่า “มาตฤกา” ในที่นี้ หมายถึงคนที่มีหน้าที่ดูแลเลี้ยงเด็ก หรือนางพยาบาลนั่นเอง...ฯลฯ... 
    ครับ..นั่นตามคัมภีร์ฮินดู ในคัมภีร์พุทธศาสนาก็มี ต้องบอกว่า "ภิกษุณี" ที่เดิมเป็นโสเภณีแล้ว "สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า" ทรงแสดงธรรมจนบรรลุนับแต่ขั้นโสดาบันไปจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์มีมากมายหลายองค์ เอางี้...ผมจะยกมา ๑ องค์ ลอกจากพระไตรปิฎก 
    แล้วท่านจะร้อง...อ๋อ!
    .........ในพระนครราชคฤห์ มีกุมารีชื่อสาลวดีเป็นสตรีทรงโฉม สคราญตาน่าเสน่หา ประกอบด้วยผิวพรรณเฉิดฉายยิ่ง พวกคนมีทรัพย์ชาวพระนครราชคฤห์ จึงได้คัดเลือกกุมารีสาลวดีเป็นหญิงงามเมือง ครั้นนางกุมารีสาลวดีได้รับเลือกเป็นหญิงงามเมืองแล้ว ไม่ช้านานเท่าไรนักก็ได้เป็นผู้ชำนาญ ในการฟ้อนรำ ขับร้องบรรเลงเครื่องดนตรี มีคนที่มีความประสงค์ต้องการ ตัวไปร่วมอภิรมย์ ราคาตัวคืนละ ๑๐๐ กษาปณ์
     ครั้นมิช้ามินาน นางสาลวดี หญิงงามเมืองก็ตั้งครรภ์ นางจึงมีความคิดเห็นว่า ธรรมดาสตรีมีครรภ์ไม่เป็นที่พอใจของพวกบุรุษ ถ้าใครๆ ทราบว่าเรามีครรภ์ ลาภผลของเราจักเสื่อมหมด ถ้ากระไร เราควรแจ้งให้เขาทราบว่าเป็นไข้ ต่อมานางได้สั่งคนเฝ้าประตูไว้ว่า ดูก่อนนายประตู โปรดอย่าให้ชายใดๆ เข้ามา และผู้ใดถามหาดิฉัน จงบอกให้เขาทราบว่าเป็นไข้นะ 
 คนเฝ้าประตูนั้นรับคำนางสาลวดีหญิงงามเมืองว่า จะปฏิบัติตามคำสั่ง เช่นนั้น หลังจากนั้น อาศัยความแก่แห่งครรภ์นั้น นางได้คลอดบุตรเป็นชาย และสั่งกำชับทาสีว่า แม่สาวใช้ จงวางทารกนี้ลงบนกระด้งเก่าๆ แล้วนำออกไปทิ้งกองหยากเยื่อ 
 ทาสีนั้นรับคำนางว่า ทำเช่นนั้นได้เจ้าค่ะ ดังนี้ แล้ววางทารกนั้นลงบนกระด้งเก่าๆ นำออกไปทิ้งไว้ ณ กองหยากเยื่อ
 ก็ครั้งนั้นเป็นเวลาเช้า เจ้าชายอภัยกำลังเสด็จเข้าสู่พระราชวัง ได้ทอดพระเนตรเห็นทารกนั้นอันฝูงกาห้อมล้อมอยู่ ครั้นแล้วได้ถามมหาดเล็กว่า พนาย นั้นอะไร ฝูงการุมกันตอม? 
 ม. ทารก พ่ะย่ะค่ะ 
 อ. ยังเป็นอยู่หรือ พนาย?
 ม. ยังเป็นอยู่ พ่ะย่ะค่ะ
 อ. พนาย ถ้าเช่นนั้น จงนำทารกนั้นไปที่วังของเรา ให้นางนมเลี้ยงไว้ 
 คนเหล่านั้นรับสนองพระบัญชาว่า อย่างนั้นพ่ะย่ะค่ะ แล้วนำทารกนั้นไปวังเจ้าชายอภัย มอบแก่นางนมว่า โปรดเลี้ยงไว้ด้วย อาศัยคำว่ายังเป็นอยู่ เขาจึงขนานนามทารกนั้นว่า ชีวก ชีวกนั้น อันเจ้าชายรับสั่งให้เลี้ยงไว้ เขาจึงได้ตั้งนามสกุลว่า โกมารภัจจ์.....ฯลฯ
    ครับ..."หมอชีวกโกมารภัจจ์" หมอประจำพระองค์ "สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" และเรายอมรับนับถือเป็นบรมครูแพทย์นั่นแหละ ท่านเป็นบุตร "นางสาลวดี" หญิงงามเมือง และต่อมา เธอได้บวชเป็นภิกษุณี สำเร็จเป็นอริยบุคคลในที่สุด
    สรุปจบก็คือ การเร่ขายตัวของ "กะหรี่-โสเภณี" ไม่ทำให้เป็นหญิงคนชั่ว ขณะเดียวนั้น ในคัมภีร์บอกว่า ๑) โสเภณี (นครโสเภณี) เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ๒) โสเภณีมีฐานะเป็นคนของทางราชการ ๓) นครโสเภณี เป็นตำแหน่งหัวหน้า ๔) ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา.......... 
    นครโสเภณีหลายคนได้บรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคล บางคนเป็นผู้ให้ความอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาถึงขนาดสร้างวัดถวายพระสงฆ์ และมีบางคนที่มีศรัทธาเลิกอาชีพนี้แล้วเข้ามาบวชเป็นภิกษุณี และได้กลายเป็นสาวิกาคนสำคัญที่ช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนา
    แต่ "หญิงเร่ขายชาติ" ตามปรัชญาชัย ราชวัตร ถ้าใครทำ...ชั่วสถานเดียว.




#700750 แรงได้อีก"ชัย ราชวัตร"บอก ถ้าทรยศน้ำใจที่หลั่งไหลให้ ให้เรียก "ไอ...

โดย สีนวล...สีนิล on 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 14:25

จริงๆทุกคนก็รู้ว่า  ชัย ชอบใคร เกลียดใคร...

 

คำถามที่ต้องถามคือ..   ทำไมเค้าเพิ่งมาด่าท่าน...   อย่างเปิดเผย..

 

ถึงผมจะชอบการ์ตุนท่านมาก กว่า เซีย..  

แต่ ต้องยอมรับว่า ในเมื่อท่าน วิจารณ์คนอื่นๆได้.. ด่าคนอื่นได้... 

คนอื่นก็ทำกับท่านได้..  

 

ถ้าคนอื่นด่าท่านผิด...   ท่านก็ผิดด้วยที่ด่าคนอื่น...  

 

:D

เอาเรื่องสีเสื้อออกไปนะครับ เอาความรักความเกียจออกด้วยไปนะครับ

 

เอาตรรกะของคนกลางที่สุดในสามโลกมาใช้นะครับ

 

ลองดูสิที่คุณชัย เขียนมานะครับ 

 

" กะหรี่ไม่ใช่หญิงคนชั่ว กะหรี่แค่เร่ขายตัว แต่หญิงคนชั่วเที่ยวเร่ขายชาติ" 

 

จากวลีตรงนี้จะเห็นได้ว่า คุณชัย ราชวัตร ไม่ได้ด่าใครเลย ไม่ได้ด่าออกชื่อ ยิ่งลักษณ์ด้วยนะครับ

 

อย่ามาโมเมหรือทึกทักว่า เพราะคุณชัย ราชวัตร เขาไม่ชอบยิ่งลักษณ์นะครับ

 

ถ้าเราลองพิเคราะห์ดู จากสิ่งที่เขียนออกมาเป็นสิ่งที่ถูกต้องนะครับ

 

ลองดูครับว่า กะหรี่ หรือ โสเภณี ที่ทุกๆคนเรียกกัน มันก็เป็นอาชีพที่ผู้หญิงที่เลือกได้ ก็คงไม่มีใครอยากจะทำหรอกครับ

 

แต่ที่ทำอาจมาจากความจำป็นที่บีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำก็ได้

 

ดังนั้นจะบอกว่าเธอนั้นเป็นคนชั่วนั้นไม่ไ้ด้ ก็คุณชัย ราชวัตรเขียนมาก็ถูกต้องแล้วนี้ครับ ผมอ่านดูแล้วก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

 

แต่ผู้หญิงที่เร่ชายชาติเป็นคนชั่ว ก็เป็นสิ่งที่ถูกเหมือนกันนะครับ ไม่ได้เป็นสิ่งที่เกินจากความเป็นจริงเลยใช่ไหมครับ

 

ที่ว่าคนขายชาติเป็นคนเลว หรือว่าคุณเห็นเป็นเป็นอย่างอื่นครับ

 

และนอกเหนือจากนั้นนะครับ เมื่อคุณชัยไม่ได้บอกว่าคนชั่วคือใคร

 

แล้วยิ่งลักษณ์จะออกมาโวยวายทำไมละครับ

 

ผมว่ามันก็ตลกดีะครับที่มาเหมาว่า คุณชัย ราชวัตร เขาด่าคุณยิ่งลักษณ์ 

 

ผมเห็นก็แต่พวกเสื้อแดงนั้นแหละครับที่ออกมาเนียนๆ หลอกด่ายิ่งลักษณ์โดยเกาะกระแสนี้




#698853 แรงได้อีก"ชัย ราชวัตร"บอก ถ้าทรยศน้ำใจที่หลั่งไหลให้ ให้เรียก "ไอ...

โดย ดอกปีบ on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:26

255745_534020683310811_1808573853_n1.jpg




#698834 แรงได้อีก"ชัย ราชวัตร"บอก ถ้าทรยศน้ำใจที่หลั่งไหลให้ ให้เรียก "ไอ...

โดย เรื่อยๆเอื่อยๆ on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:09

ลุงชัยเป็นนักเขียนที่ทำให้ผมสนใจข่าวสารบ้านเมือง ผมอ่านไอ้จ่อยมาตั้งแต่ป.สอง มุมมอง น่าจะเป็นนักเขียนคนเดียวที่ผมๆได้อ่านผลงานมากที่สุดเพราะอ่านทุกวัน มุมมอง อารมณ์ขัน ที่ล้อ ที่เสียดสีผ่านการ์ตูนของแกนั้น คงเส้นคงวาอย่างยิ่ง จนผ่านมาไม่รู้กี่รัฐบาล แกก็ไม่เคยจะเล่นใครแรงๆแบบนี้เลย ผมเลยมองว่าการที่ลุงชัยเหลืออดออกมากระแทกปลายคางตรงๆ ครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่แม้วและครอบครัวได้ทำต่อประเทศชาติมันเลวร้ายสุดๆแล้ว


#698833 แรงได้อีก"ชัย ราชวัตร"บอก ถ้าทรยศน้ำใจที่หลั่งไหลให้ ให้เรียก "ไอ...

โดย คนกรุงธน on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:08

จาก ชัย ราชวัตร
------------------------------

---------------------------------------------
วันนี้อยู่ในสนามกอล์ฟทั้งวัน โทรศัพท์จากเพื่อนพ้องน้องพี่โทรเข้ามาหาตั้งแต่หลุมแรกยันหลุม 18 บ้างให้กำลังใจ บ้างเสนอสถานที่พักพิง ทั้งคอนโด โรงแรม รีสอร์ทต่างจังหวัด เพื่อหลบภัยพาล บ้างเสนอรถส่วนตัวให้ใช้อำพรางการเดินทางยามนี้ กลับเข้าไทยรัฐตอนหัวค่ำ มีผู้มาฝากพระเครื่องไว้ให้คุ้มครองโดยแค่รู้จักผ่านเฟซบุ๊ก กลับจากทานมื้อเย็นกับพรรคพวกใกล้ชิด เข้าเคหะสถานจวนเที่ยงคืน เปิดเฟซบุ๊ก ทั้งดอกไม้และกำลังใจหลั่งไหลจากมวลมิตรทะลักล้นจากจอคอมพ์ ใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมงกว่าจะรับรู้ได้หมด แต่จนปัญญาจะกล่าวขอบคุณเป็นรายบุคคล อยากจะบอกว่า ทุก ๆ ชื่อทุก ๆ น้ำใจจะจารึกอยู่ในทรงจำตลอดไป A friend in need is a friend indeed ขอขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ
ขอยืนยันไว้ ณ ตรงนี้ ผมจะไม่มีวันทำให้ท่านผิดหวังในจุดยืนครับ



#698809 แรงได้อีก"ชัย ราชวัตร"บอก ถ้าทรยศน้ำใจที่หลั่งไหลให้ ให้เรียก "ไอ...

โดย pooyong on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 07:49

940815_284309315037471_179432041_n.jpg

 

ลุงชัย สู้ๆๆๆๆ




#700044 ทำไม อภิสิทธิ์ หรือ ปชป ไม่ฟ้องดำเนินคดี เซียไทยรัฐ

โดย BeastGuy on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:36

เซียไม่มีค่าขนาดที่จะให้ ปชป ฟ้องครับ

มันไร้สาระเกิน

ขนาดได้โค้วค้าเขียนการ์ตูนช่องเดียวจบยังไม่มีปัญญา ต้องแบ่งเองเป็นสามช่องให้อ่าน

ท่าทางจะหมดมุก




#699931 ทำไม อภิสิทธิ์ หรือ ปชป ไม่ฟ้องดำเนินคดี เซียไทยรัฐ

โดย pooyong on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 21:07

ชัยย-vert.jpg