Jump to content


จิ้งเหลน

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 18 มีนาคม 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2557 20:14
-----

Topics I've Started

ผมละห่วงน้าชัย ที่มีชื่อเสียง จากการด่าเพศแม่จริงๆ

3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 18:55

กลัวมือที่สาม จะเข้าไปป้อกหัว เพื่อสร้างสถานการณ์ เหมือนทนายแมลงสาปโดน จริงๆ

 

เป็นห่วงน้าชัยของผมมากๆ 

 

ด้วยรักและเคารพ จากหลานจิ้งเหลน 

 

 


มติชน ฝังเพชร !!!!!!!!!!

2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 20:15

แกรมมี่ขายมติชนให้'จึงรุ่งเรืองกิจ' ระดมเงินลุยทีวีดิจิตอล

 

 

100330_thailpga02.jpg
  
 
 
   "แกรมมี่" ระดมทุนครั้งใหญ่หวังใช้ลงทุนทีวีดิจิตอล รุกตัดขายหุ้นบิ๊กล็อต "มติชน"หมดหน้าตักให้ "สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ" วงเงิน 496 ล้านบาท วงในระบุอาจตัดขายหุ้นนอกธุรกิจหลัก ..."โพสต์ พับลิชชิง"ส่อโดนปล่อยขายด้วย เหตุธุรกิจใหม่ต้องลงทุนสูง แถมคู่แข่งขันเยอะ ด้าน "มติชน"ออกตัว กลุ่มบุนปาน ยังอยู่โครงสร้างบริหารงานเหมือนเดิม
       
                  ในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้ (2 พ.ค.)  พบรายการบิ๊กล๊อตของหุ้น บมจ.มติชน (MATI) จำนวน 42,388,000 หุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 11.09 บาท รวมแล้วมูลค่า 469.94 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเป็นของกลุ่ม บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY)  ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดใน บมจ.มติชน ออกไป
              
                  แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า ตั้งแต่กลุ่มแกรมมี่เข้าถือหุ้น MATI มานาน ก็ไม่เคยเข้ามาร่วมในการบริหารงานในบริษัทแต่อย่างใด แต่มีความเป็นไปได้ว่าผู้ขายหุ้นในสัดส่วนดังกล่าวคือ GRAMMY ส่วนหนึ่งน่ามาจากการเตรียมความพร้อมเข้าลงทุนในทีวีดิจิตอล ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหุ้น MATI ที่ขายออกมาช่วยระดมเงินลงทุนเพื่อเตรียมพร้อมแก่โครงการใหญ่ดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง
              
                  สำหรับ MATI มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 185,349,200 หุ้น โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรก ได้แก่ นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ 64,741,760 หุ้น หรือคิดเป็น 34.93% บมจ.บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย (GRAMMY) 41,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 22.12% และ บมจ.ไซเบอร์ เวนเจอร์ จำกัด 10,200,000 หุ้น คิดเป็น 5.50%
              
                  ราคาหุ้น MATI ณ เวลา 15.37 น. อยู่ที่ระดับ 10.60 บาท ลดลง 0.10 บาท  หรือ 0.93% มูลค่าการซื้อขาย 499.935 ล้านบาท
               
        จ่อขาย POST ระดมทุนเพิ่ม 
        
                ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการ” ได้สอบถามทาง บมจ.แกรมมี่ ปรากกฏว่า ได้รับคำตอบจาก นายปรีย์มน ปิ่นสกุล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน GRAMMY โดยชี้แจงว่า อยากให้ติดตามข้อเท็จจริงต่างๆ  หลังทางบริษัทรายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) วันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.)
              
                  ขณะเดียวกัน  แหล่งข่าวผู้บริหารในเครือ GRAMMY กล่าวว่า เหตุผลที่กลุ่มแกรมมี่ยอมขายหุ้นใน MATI ออกไป เพื่อต้องการระดมทุนเงินลงทุนรองรับการเข้าประมูลทีวีดิจิตอล ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่บริษัทให้ความสำคัญหลังจากนี้ แต่เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง และคู่แข่งขันแต่ละรายมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง ทำให้มองว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจจะเทขายหุ้นในธุรกิจอื่นๆ ออกไป โดยเฉพาะธุรกิจสิ่งพิมพ์ ซึ่งพบว่า นอกเหนือจาก บมจ.มติชน (MATI) แล้วพบว่า GRAMMY ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ใน บริษัท โพสต์ พับลิชชิง จำกัด (มหาชน) (POST)  ในสัดส่วน 23.60% หรือประมาณ 118 ล้านหุ้น
              
           ทั้งนี้  ณ  เวลา 16.13 น. ราคาหุ้น POST อยู่ที่ 7.85 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 0.63%
       
       "จึงรุ่งเรืองกิจ"เข้าถือมติชนแทน
       
           ล่าสุด หลังปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ บมจ. มติชน(MATI) ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า รายการขาย Big Lot จำนวน 22.87% ของหุ้นMATI นั้น ไม่ได้เกิดจากตัว นายขรรค์ชัย บุนปาน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ แต่อย่างใด ดังนั้น จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างในการบริหารงานของบริษัทฯ โดยทาง บมจ.จีเอ็มเอ็ม มีเดีย เป็นผู้ขายหุ้น 22.12% ดังกล่าว อย่างไรก็ตามมีรายงนว่า ผู้ซื้อหุ้นดังกล่าวคือ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท ออโต พาร์ท อินดัสตรี(ไทยซัมมิท)
 
 

จากเจิมสัก ไปชัย ราชวัตร สาวกแมลงสาป นับวันยิ่งชอบมุดผ้าถุง เหมือน สส ในพรรคมัน

2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 17:54

PzrcCC.jpg

 

 6dpG0Y.JPG 8ZgADo.JPG Cdf29b.JPG Fe3xUc.JPG igd3I1.JPG i2OodK.JPG gl0TfO.JPG jAW9d2.JPG LRltiO.JPG LRWE4e.JPG OBiPgo.JPG

 

 qRbl6E.JPG UMq6J9.JPG sus4VM.JPG rW7mcZ.JPG


ประพันธ์ จะตามล้างตามผลาญ "อภิสิทธิ์" ไปตลอดชีวิต ข้อหาทำความเลวร้ายให้ประชาชน

30 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:32

ศัตรูรอบด้าน  :lol: 
 
“ประพันธ์ คูณมี”ประกาศขอตามล้าง“อภิสิทธิ์”ทั้งชีวิต ฐานปล่อยตำรวจยัดเยียดข้อหาก่อการร้ายให้พันธมิตรฯ ขณะที่ตนเองเป็นนายกฯ ชี้ปล่อย ตร.ตั้งข้อหาสุ่มสี่สุ่มห้าให้ประชาชนคือแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ยันพันธมิตรฯ ชุมนุมตามสิทธิ ไล่นักการเมืองโกง ไม่เคยจับ จนท.รัฐข่มขู่ต่อรอง 
       
 
       
       วันนี้(30 เม.ย.) นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และ 1 ใน 114 ผู้ต้องหาคดีการชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง กล่าวในรายการ “สภาท่าพระอาทิตย์” ทางเอเอสทีวีว่า บ้านเมืองในขณะนี้กำลังวิปริต ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ออกมาต่อต้านนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชั่นกลับถูกยัดเยียดข้อหาเป็นผู้ก่อการร้าย ขณะที่ศาลรัฐธรรมที่มีหน้าที่ให้ความยุติธรรมก็ถูกฝ่ายอันธพาลของรัฐบาลข่มขู่คุกคาม เหตุการณ์แบบนี้เป็นวิกฤติที่น่ากลัวที่สุด เป็นสภาพที่บ้านเมืองไร้ขื่อแป บ้านเมืองใกล้จะเกิดกลียุค เป็นความสยองที่คืบคลานใกล้เข้ามา
       
       นายประพันธ์กล่าวต่อว่า คดีการชุมนุมที่สนามบินซึ่งตนและพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เดินทางไปรายงานตัวที่ศาลเมื่อวานนี้ เป็นคดีการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.2551 ซึ่งเป็นการชุมนุมครั้งที่ 2 หลังจากขับไล่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรไปแล้ว และได้ฟื้นขึ้นมาใหม่โดยการตั้งพรรคพลังประชาชนตั้งนายสมัคร สุนทรเวชา ขึ้นมาเป็นนายกหุ่นเชิด และจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พันธมิตรฯ จึงออกมาคัดค้านการบริหารบ้านเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยของนายสมัครที่เป็นหุ่นเชิด และคัดค้านนักการเมืองคอร์รัปชั่นที่จะแก้ไขรัฐธรมนูญและจะล้มล้างพระมหากษัตริย์ การชุมนุมของพันธมิตรเป็นการชุมนุมภายใต้ระบอบประชาธิปไตยและชุมนุมโดยสันติ โดยมีรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกรณีการชุมนุมหน้ารัฐสภาออกมาแล้วว่า ความรุนแรงไม่ได้เกิดจากประชาชนแต่เกิดจากเจ้าหน้าที่ และมีคำพิพากษาของศาลปกครองที่นายชิงชัย เจริญอุดมกิจ ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศาลวินิจฉัยแล้วว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นการชุมนุมโดยสันติภายใต้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนการทำหน้าที่ของตำรวจ เป็นการทำหน้าที่โดยมิชอบมีการใช้ความรุนแรงปราบปรามและฆ่าประชาชน
       
       นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ตลอกการชุมนุมของพันธมิตรฯ ผู้ชุมนุมไม่เคยข่มขู่คุกคามเจ้าหน้าที่ ตรงกันข้ามกลับถูกพวกเสื้อแดงซึ่งเป็นคนของรัฐบาลตามมาคุกคามทำร้ายหลายครั้งที่สะพานมัฆวาน และเมื่อเข้าไปชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลก็ถูกกองกำลังติดอาวุธโดยคนของรัฐบาลยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่จนบาดเจ็บล้มตายหลายคน
       
       ทั้งนี้ การชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล หากจะผิดก็ผิดแค่บุกรุกสถานที่ราชการ ไม่ใช่การก่อการร้าย แม้การไปชุมนุมที่สนามบินก็เป็นการชุมนุม แต่ไม่ได้ไปปิด หรือไปจับกุมเจ้าหน้าที่การบินแล้วยื่นข้อต่อรองกับรัฐบาล เราแค่ชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลให้ลาออกและยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นสิทธิที่ทำได้ เพราะเราไม่ได้จับเจ้าหน้าที่เป็นตัวประกัน เผาสถานที่ราชการหรือทำร้ายเจ้าหน้าที่
       
       นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ภายหลังจากพันธมิตรฯ ไล่รัฐบาลนายสมัคร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ออกไปแล้ว มีการเลือกนายกฯ ใหม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้เป็นนายกฯ เพราะกระแสต่อต้านพรรคพลังประชาสชนขึ้นสูงมาก จนกลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ แยกตัวออกมา และเกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง เมื่อนายอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกฯ นายเนวินก็ส่งลูกน้องของตัวเองเข้ามาเป็นรัฐมนตรีคมนาคม
       
       นายประพันธ์ ย้ำว่า อยากให้นายอภิสิทธิ์และแม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ได้ตระหนักว่าถ้าไม่มีการต่อสู้ของพันธมิตรฯ จ้างนายอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้เป็นนายกฯ เพราะพรรคประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้งมาตลอด จนนายอลงกรณ์ พลบุตรต้องเสนอให้มีการปฏิรูปพรรค ที่นายอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ นั้นก็เพราะการต่อสู้ของประชาชนกดดันจนพรรคพลังประชาชนแตกตัว ออกมาและมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง
       
       แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ แล้วก็บริหารประเทศได้ไม่ดี ไม่เพียงเท่านั้น กลับเปิดทางให้ตำรวจมาตั้งขอหาพันธมิตรฯ ซึ่งตอนแรกจะตั้งข้อหาไม่กี่คน แต่กลับเพิ่มเป็น 114 คน โดยนายสุเทพไฟเขียวให้ตำรวจตั้งข้อหาพวกเรา เดิมได้ให้ พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส (ปัจจุบันเป็น พล.ต.อ.)เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน แล้วให้พวกเราไปมอบตัวที่สโมสรตำรวจ แต่พอไปแล้ว เมื่อดูตัวผู้ต้องหาและข้อเท็จจริง ไม่มีลักษณะเป็นผู้ก่อการร้าย พล.ต.ท.วุฒิจึงขึ้นเวทีแล้วบอกว่าพวกเราเป็นผู้ก่อการดี
       
       นักกฎหมายใครๆ ก็รู้ว่าไม่เข้าข่ายก่อการร้าย แต้รัฐบาลขณะนั้นอยากเอาข้อหามามัดพวกเรา ไม่ให้พวกเราออกมาเคลื่อนไหว เมื่อ พล.ต.ท.วุฒิบอกว่าเราเป็นผู้ก่อการดีก็เปลี่ยนหัวหน้าพนักงานสอบสวนเป็น พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งตำรวจคนนี้อยากรับใช้นักการเมืองอยู่แล้ว ก็ตั้งข้อหาพวกเรา จนมีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 114 คน รวมทั้งนักร้อง ดารา ผู้ประกาศทีวี นักดนตรี คนทำกับข้าว คนตีฝาหม้อก็โดน ตั้งข้อแบบเหวี่ยงแห ก่อการร้าย ยึดสนามบิน ขัดขวางการเดินอากาศ โทษสูงสุดคือประหารชีวิต
       
       นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ปัญหาคือรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ปล่อยให้ตำรวจทำอย่างนี้ได้อย่างไร ตนเคยโทรศัพท์คุยกับนายอภิสิทธิ์ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นมีคดี นายอภิสิทธิ์ก็อ้างว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่เขาจะดำเนินคดีไปตามหน้าที่ รัฐบาลจะไปแทรกแซงไม่ได้
       
       “ผมก็บอกว่า ที่คุณปล่อยให้เขาดำเนินคดีพวกผมนี่แหละ คือการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปล่อยให้ตำรวจภายใต้บังคับบัญชาตั้งข้อหาสุ่มสี่สุ่มห้ากับประชาชน ก่อการร้ายตั้งได้อย่างไร ประชาชนเขาไปใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ คุณเป็นนายกฯ เป็นประธาน สตช.เป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจ แล้วปล่อยให้ตำรวจยัดข้อหาประชาชน โดยให้ท้าย ก็คือการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แต่การให้ความเป็นธรรมกับประชาชนทำไมคุณไม่กล้าทำ”
       
       “มาถึงวันนี้ ก็ขอบอกพี่น้องชาวประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ว่าชีวิตนี้ทั้งชีวิต ผมจะไม่มีวันให้อภัยนายอภิสิทธิ์ และจะตามล้างตามผลาญไปตลอดชีวิต เพราะว่าคุณได้กระทำความเลวร้ายกับประชาชน”นายประพันธ์กล่าว
 

"อลงกรณ์ พลบุตร" ‏ทวิต เสวนา กับ"เสื้อแดง" เรื่องการปฎิรูป พรรคปชป

17 เมษายน พ.ศ. 2556 - 18:40

ก็มีโอกาสได้ตอบโต้คุณอลงกรณ์ ไปช่วงหนึ่ง หลังจากที่เขาเข้ามาเล่า ทวิตเตอร์และมีคนรีทวิตมา ผมก็เลยถือโอกาสแสดงความเห็นกลับไปที่อลงกรณ์ ตามนี้ครับ
 
ผมไม่รู้จะ Capture หน้าจอยังไง ก็เลยก็อบปีข้อความมานะครับ
 
-----------------
 
อลงกรณ์ พลบุตร ‏@alongkornpb 16h
"@Aquarius พี่จะอยู่ปชปตลอดไปไหม/ขอทำหน้าที่เรือจ้างพาพรรคให้ถึงฝั่งแล้วคงเกษียณตัวเอง -แล้วพรรคขึ้นเขาต่อมั้ยครับเครื่องยนต์ดีไม่กลัวเขาสูง
 
-------
 
@alongkornpb @aquarius คงไม่ถึงฝั่งหรอก ก็คงได้แค่นี้แหละ การปฎิรูปพรรคการเมืองต้องปฎิรูป "กระบวนการคิดคน" คงทำไม่ได้ คนเป็นแบบนั้นชั่วชีวิต 
 
ปัญหาของ ปชป. คือ "ตัวนายชวน" นั่นแหละ ที่เอา Paradigm กระบวนการคิดแบบการเมืองทำลายล้าง มาทั้งหมด คุณชนะชวนไม่ได้หรอก นักการเมืองที่ผม "เกลียดที่สุดในเมืองไทย" คือนายชวน หลีกภัย คน ๆ นี้สร้างวัฒนธรรมการเมืองแบบทำลายล้าง คนอย่างนายชวน ทำสีขาว และดำให้กลายเป็นสีเทา ยากที่คนปกติจะแยกแยะได้ระหว่างดีหรือเลว เขาจึงเป็นคนที่ผมเกลียดที่สุด หากอ่านนิยายจีน คนอย่างนายชวนคือ "เทพอสูร" ตีตราว่าเป็นฝ่ายธรรม แต่หลังฉากก็ทำร้ายคนทุกอย่าง "ผมเรียก" วิญญูชนจอมปลอม 
 
อีกอย่าง ไปหลงยึดติดกับคำว่า "ความเป็นสถาบัน" แล้วก็หลงกันแบบนั้น ลองวิเคราะห์ว่า "มันมีความหมายอะไร พวกคุณหลงคำนี้ "พรรคการเมืองก็แค่ กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง" รวมตัวกัน เสนอ "นโยบายให้ประชาชนเลือก" กลุ่มคนก็คนยุคปัจจุบัน เหมือนๆ กัน พอไปหลงกับคำว่า "สถาบัน" ก็เล่นทุกอย่างเพื่อทำลายคู่แข่งโดยไม่คำนึกถึงศีลธรรม คนดูเขาก็ดูออก ใช่ว่า ปชช.จะโง่ คำว่า "สถาบัน" มันจะมีความหมายอะไร หากคนก็คิดแบบอนุรักษ์ ใช้โวหารทำลายล้าง อุดมการณ์มันก็มีทุกคน แต่แบบไหนเท่านั้น
 
"การปฎิรูปอันแรก" คุณต้องก้าวข้าม คำว่า "สถาบัน" ก่อน เพื่อข้ามภาพลวงตาทั้งหมด มองว่า "กลุ่มคุณ" ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร พรรค ปชป.ของคุณมันก็แค่คน 160 กว่าคนเท่านั้น มัน "สถาบัน" บ้าบออะไรตรงไหน คน 160 คน ก็เกิดยุคผมนี่แหละ เก่าแก่ตรงไหน
 
"คำว่า" สถาบัน คือ "ระบบการทำงาน" ของคน 160 กว่าคนแล้วละก็ มันคือ "ระบบเก่า ล้าหลัง ก้าวไม่ทันโลก" สู้ระบบใหม่ไม่ได้ พรรคเพื่อไทย เขาก็คน 265 คน มี "ระบบที่ใหม่กว่า" มี "แนวคิดทางการเมืองยุคใหม่กว่า" คุณไปยึดติดกับคำว่าสถาบันบ้าบอ 
 
คน 164 คน ปชป. กับ คน 265 คน ของ เพื่อไทย ก็คนสองกลุ่ม เกิดยุคเดียวกันนี่แหละ ต่างกันตรง "กระบวนการคิด" ระบบทำงาน เพียงแต่คน 165 คน ไปหลงไหลกับอดีต หาว่าตัวเองเป็น "สถาบันการเมือง" ไปโน้น ลองวิเคราะห์คำๆ นี้ พวกคุณยึดติดมันทำไม สิ่งที่คน 165 คน ต้องทำคือ สร้างระบบคิด ระบบการทำงานที่ "ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับ" และเขาลงคะแนนให้ ก็แค่นั้น ผมยังไม่ทราบเลยว่า "ความเป็นสถาบันการเมือง "ของกลุ่มคน 165 คน ของคุณมันคืออะไร หลงไหลมันทำไม ผมลงคะแนนแล้วจะได้อะไร
 
 
---------------------------
 
อันนี้เป็นคำตอบของ อลงกรณ์ 
อลงกรณ์ พลบุตร ‏@alongkornpb 15h
 
"@ThaiFarmer_Son คงไม่ถึงฝั่งหรอก ก็คงได้แค่นี้แหละ การปฎิรูปพรรคการเมืองต้องปฎิรูป "กระบวนการคิดคน" คงทำไม่ได้/จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ
---------------------------
 
อีกอย่างหนึ่ง"สังคมไทยกำลังปรับตัวจากสังคมเกษตรเข้าสู่สังคมอุตสาหกรรม" มีการเปลี่ยนระบบคิดคน "คำนึงถึงตรงนี้ให้มาก" ไม่เกี่ยวกับดี/เลว แต่สังคมไทยกำลังเปลี่ยนทางโครงสร้าง อังกฤษเขาจุดนี้ในศตวรรษที่ 17 ไทยเพิ่งเข้าระบบคิดคนเปลี่ยน สังคมที่ เปลี่ยนเข้าสู่สังคมอุตสาหกรรม มันหมายถึงระบบคิด วัฒนธรรม ค่านิยม คนจะเปลี่ยนไป ตาม Mode of Production ใหม่ กลุ่มคน 165 คน ของ ปชป. ยังคิดว่า "สังคมไทยเป็นแบบปี 2525- 2540 อยู่ เลยเอา วัฒนธรรมการเล่นการเมืองช่วงนั้นข้ามยุคมาเล่น จริง ๆ สังคมไทยมันเปลี่ยนทางโครงสร้าง ต่อให้ไม่มีทักษิณ ก็มีคนชื่อ อื่นเกิดขึ้นมาทำ "ภารกิจแบบทักษิณ" เป็นตัวแทนคน 15.7 ล้าน
 
---------------------------
อลงกรณ์ พลบุตร ‏@alongkornpb 14h
 
"@ThaiFarmer_Son: " @alongkornpb/ขอบคุณที่ให้มุมมองเชิงวิวัฒนาการครับ ผมจะนำไปไตร่ตรองถอดรหัสให้ตกผลึก
---------------------------
 
 
 
" @alongkornpb/จะนำไปไตร่ตรองถอดรหัสให้ตกผลึก// คิดว่ากลุ่มคน165 คน ระบบคิด กับระบบทำงาน นั่นแหละคือ Key ตัดภาพลวงตาไปได้เยอะ แล้วแก้ไขระบบ
 
 
--------------------
อลงกรณ์ พลบุตร ‏@alongkornpb 6h
 
"@ThaiFarmer_Son: @alongkornpb/จะนำไปไตร่ตรองถอดรหัสให้ตกผลึก/คิดว่ากลุ่มคน165 คน ระบบคิด กับระบบทำงาน นั่นแหละคือ Key/ขอบคุณด้วยใจจริงครับ
---------------------------
 
 
 
หากไม่เปลี่ยนแปลงก็จะเหมือนโกดัก โลกยุคศตวรรษที่ 21 ใช่จะเหมือนเดิม คนไทย ก็ไม่ได้เหมือนปี 2525-2540 อันที่จริงก็แค่เปลี่ยนระบบการคิด การทำงานของคน 165 คนเท่านั้นเอง แต่ผมเชื่อว่า ตราบใดที่นายชวนยังมีชีวิตอยุ่ "คุณเปลี่ยนไม่ได้" แต่การเมืองไทยก็จะเหมือนประเทศพัฒนาแล้วคือ ผลัดกันเป็นรัฐบาลคนละ 10-15 ปีปัญหาคือ ปชป.จะมีอะไรมาเสนอคนในทศวรรษหน้า อีกสิบปีหน้า ในอีกสิบปีข้างหน้า คนไทยจะมีรายได้ประมาณ 10,000 US$/คน โครงการพัฒนาระบบรางเสร็จแล้ว และ "นายกฯปู ก็น่าจะถึงจุดใกล้วางมือแล้ว
 
วันนั้น ปชป. จะหา "แคนดิเดท" นายกฯได้อย่างไร จะเอานโยบายใดมาเสนอ จะ "ทิ้งอดีตภาพการสังหารหมู่ได้อย่างไร" (ก็โยนให้อภิสิทธิ์) ระยะเวลา 10 ปีไม่ได้นานนัก วันนั้น นายชวนก็คงไม่อยู่แล้ว และตราบาปการสังหารหมู่ ก็ต้อง "ยอมรับมันเสีย" และสัญญาว่าจะไม่ทำอีก การปฎิเสธ แบบทุกวันนี้ เท่ากับดูถูกสติปัญญาผู้คนที่เขาเข้าร่วมในวันนั้นอย่างมหาศาล ยังไงมันก็ไม่สามารถใช้คารม หลับมันไปได้หรอก
 
---------------------------------------------------------------------------------------
 
นั้นเป็นความเห็นของผมที่เขียนลงในทวิตเตอร์ครับ แม้อลงกรณ์ จะขอบคุณ แต่ผมก็คงไม่แคร์ เท่าไหร่ว่าพรรค ปชป. จะปรับตัวหรือไม่ปรับตัว หากปรับตัวก็เป็นผลดีต่อประเทศ หากไม่ปรับตัวก็คงเป็นฝ่ายค้านต่อๆ ไป ไม่มีปัญหาอะไร
 
อลงกรณ์ จะมีความเห็นเรื่องการปรับปรุงพรรค ปชป. ด้วยเจตนาอะไรก็ตาม ก็ถือว่าการวิจารณ์กันเองนั้นเป็นสิ่งดี เพราะการที่จะปรับตัวได้นั้น ต้องกล้าวิจารณ์กันเองก่อน ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีข้อบกพร่องอะไร ส่วนคนในพรรคจะรับฟังได้แค่ไหน อันนั้นก็แล้วแต่บุญแต่กรรม