ซีมั่น โลช่า

> >  ไอ้ ป๊อด..( ขยะเปียก ) < <

 

  > > ??   !!   ========== 

อ้าว  ผมนึกว่า  อุจจาระเปียก เสียอีก

ถ้าต้องยุบโรงเรียนเพราะมีเด็กอ่านไม่ออก แล้วถ้าโรงเรียนขนาดใหญ่ระดับจังหวัดแต่มีเด็ก ป สาม ที่อ่านหนังสือผิดๆ ถูกๆ แย่กว่าเด็ก ป หนึ่ง เราต้องยุบโรงเรียนนั้นทิ้งด้วยมั้ย

นี่ไม่ใช่เรื่องสมมติ 

 

แล้วยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีคนจบตรีรัฐศาสตร์ จบโทจากต่างประเทศ แต่กลับอ่านตัวเลขหลักร้อยพันหมื่นไม่ถูก อ่านชื่อเดือนผิด เราต้องยุบโรงเรียนไหนทิ้งกันบ้าง

เค้าบอกควรยุบ แต่ไม่ใช่เพราะเด็กอ่านหนังสือไม่ออกครับ

เค้าบอกที่มันควรยุบเพราะ

 

"มันไม่สามารถทำ ให้โรงเรียนขนาดเล็กมาจำนวนหลายพันโรงนี้มีครูสอนครบทุกชั้น และมีอุปกรณ์การเรียนการสอนได้ครบตามมาตรฐานขั้นต่ำเหมือนโรงเรียนอื่นๆ เพราะมันทำไม่ได้!"

 

ทั้งๆที่ปัจจุบันเค้าก็ทำกันอยู่ได้ แต่ดันมาอ้างว่าไม่มีงบเลยต้องยุบ

ทำเหมือนว่ายุบแล้วเด็กมันจะเข้าถึงการศีกษาได้ดีขึ้น

ส่วนไอ้ที่อ่านเลขหลักร้อยพันหมื่นผิดๆถูกๆ , overcome ladies and gentlemen นั่นมันมาตรฐานของเค้าครับ

คือจะผิดจะถูก ใครจะลำบากยังไงก็ขอให้ถูกใจนายไว้ก่อน

"มันไม่สามารถทำ ให้โรงเรียนขนาดเล็กมาจำนวนหลายพันโรงนี้มีครูสอนครบทุกชั้น และมีอุปกรณ์การเรียนการสอนได้ครบตามมาตรฐานขั้นต่ำเหมือนโรงเรียนอื่นๆ เพราะมันทำไม่ได้!"

แต่ดันมาอ้างว่าไม่มีงบเลยต้องยุบ

ปัจจุบัน ถามว่าหน่วยเหนือเคยติดตามงบประมาณที่ทุ่มให้โรงเรียนขนาดใหญ่อย่างจริงจังใหม

โรงเรียนในชุมชนของผมเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่มีนักเรียนพันกว่าคน งบประมาณที่ได้ไปเอาไปทำสิ่งใด

1. สร้างบ้านฟุตบอล(ที่เหมือนตามห้างใหญ่ๆ) แต่ซื้อฟุตบอลพลาสติกแบบบางใส่แทนฟุตบอลยาง จะสิบปีแล้วที่ไม่เปิดให้เด็กนักเรียนเล่น มีไว้เฉยๆ หมดงบเป็นแสน

2. สร้างรั้วลวดหนามเป็นแนวยาวแบ่งสว่นพื่นที่โรงเรียนเป็นสองส่วนเพราะผู้บริหารอ้างว่าป้องกันเด็กหนีเรียน แต่นักเรียนสามารถหนีได้อีกหลายๆทาง รั้วนี้อยู่ได้ไม่ถึงปี ถูกชาวบ้านแอบมาถอดเอาลวดหนามและเสาไปเกือบหมดแล้ว ปัจจุบันไม่มีรั้วลวดหนามนี้แล้ว หมดงบไปสองแสน

3. ซื้อทีวีจอ 29 นิ้วติดให้ทุกห้องเรียน 50 กว่าห้อง ให้ดูจานดาวเทียม ดูได้ไม่ถึงปี ปัจจุบันไม่มีห้องใหนใช้ได้อีกเลย ครูแจ้งให้ทราบก็ไม่ใส่ใจ หมดงบเป็นแสน

4. ซื้อขนมปังปิ๊บ(ขอย้ำขนมปังปิ๊บ แบบใส้ครีม ใส้สับปะรด) เป็นเงิน 76,000 บาท มาแจกให้นักเรียนกินห้องละปิ๊บต่อวันอยู่สามวัน โดยไม่ถามความเห็นใคร บางปิ๊บก็ไกล้หมดอายุ

5. ซื้อรถตู้โรงเรียน  

     5.1 วันใหนท่านอยากไปทำสินธนวัฏซึ่งธนาคารอยู่ต่างอำเภอ ท่านก็ไปกันสองคน  

     5.2 ท่านไปอบรมต่า่งจังหวัดไกลๆคนสองคน  ท่านก็โทรบอกให้เอารถตู้ไปรับ  

     5.3 นักเรียนตัวน้อยระดับประถมไปแข่งขันต่างจังหวัดระยะทาง 400 กิโลท่านให้นั่งฝ่าสายฝนหลังกะบะรถครูไป แต่นักเรียน ม.ปลายไปแข่งงานเดียวกันท่านให้นั่งรถตู้โรงเรียนไป(เพราะครูที่ควบคุมไปอยู่ในทีมตัวเอง)

    5.4 เอารถตู้ขนพวกฟ้องตนเองไปงานศพแม่ยายที่ต่างจังหวั แต่อ้างว่าไปดูงาน

6. รีบเปิดโรงเรียน(ปีนี้เปิดก่อนที่อื่นมา 2 สัปดาห์แล้ว) เปิดวันแรกก็ทำอาหารกลางวันเลย งบแต่ละวันเกือบสองหมื่นบาท  ข่าวว่าร้อยละสิบ  แล้วจะปิดโรงเรียนหลังจากโรงเรียนอื่นเขาปิดกัน

จริงๆมีอีกมากมาย นี้แค่น้ำจิ้ม ขี้เกียจพิมพ์

ซึ่งบางครั้งนักเรียนไม่มีโต๊ะนั่งเรียน ต้องนั่งเรียนกับพื้นซีเมนต์ เพราะท่านว่าราคากลางชุดโต๊ะนักเรียนมันสูงไปไม่สามารถซื้อได้

มันก็เหมือนกับ กู้มาทำรถไฟความเร็วสูงได้ แต่ไม่มีงบอุดหนุนโรงเรียนขนาดเล็ก เลยครับ

ผมว่า ชาวบ้านรู้นะครับ รร ที่พี่กล่าวถึงนะ มันห่วยกว่าอีก รร ครับ 

 

แต่บางครั้ง ก็ต้องเลือก รร ที่ใกล้บ้านด้วยเหตุผลล้านแปด 

 

ผมเห็นด้วยนะครับ กับการยุบ รร ที่มันมีครูน้อยๆ  มีนักเรียน น้อย และมีโรงเรียนที่ดีกว่าใกล้ เดินทางสะดวก 

 

ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องมาคุยกันอีก ในรายละเอียดว่า แค่ไหนอย่างไรครับ

 

เพราะที่พี่ยกมานั้น มันเทียบแบบสุดโต่ง เกินไป 

 

เอาเป็น รร ใกล้บ้าน นักเรียนร้อยกว่าคน ครูครบทุก ชั้นเรียน

 

กับรร อีก รร เป็น รร ใหญ่ ควบมัธยม แต่เดินทางไกลกว่า พี่คิดว่า ชาวบ้านปกติจะเลือก รร ไหนครับ 

 

คืออันนี้ผมลองยกตัวอย่างดูครับ 

 

 

ข้าราชการในกระทรวงเขารู้ดีกว่าคุณกว่าผมเยอะครับ

เขามีข้อมูลว่าโรงเรียนไหนควรยุบ โรงเรียนไหนยุบไม่ได้

แต่ที่เป็นปัญหาคือพวกคุณออกมาแหกปากร้องว่าไม่ยุบไม่ยุบ โดยไม่ดูรายละเอียดของเขา

พวกคุณทำให้ข้าราชการเขาทำงานไม่ได้ เกิดการต่อต้านจากชาวบ้านที่ด้อยการศึกษาด้วยความเข้าใจผิดๆ

ชาวบ้านพวกนั้นเขาอ่านข่าว เจอพวกคุณคัดค้าน เขาก็คัดค้านด้วย และส่งลูกไปเรียนโรงเรียนครู 2 คนเหมือนเดิม เพราะเขาเชื่อพวกคุณว่าเป็นโรงเรียนที่เรียนได้

ข้าราชการในกระทรวงเขารู้ดีกว่าคุณกว่าผมเยอะครับ

คุณแน่ใจเหรอครับว่า ขรก.ในกระทรวงมีข้อมูลที่ถูกต้องทั้งหมดโดยไม่มีข้อมูลขยะปะปนอยู่   ผมเห็นแต่เวลาต้องการข้อมูลก็ให้โรงเรียนส่งต่อๆกันไปให้ระดับบน  แล้วคุณคิดว่าผู้บริหารสักกี่คนที่ให้รายงานตามความเป็นจริง  ที่เคยเจอ โรงเรียนคงเด็กผี(ไม่มีตัวแต่ออกกลางครัน)เพื่อต้องการงบรายหัวไปแห ลก เท่านั้น

เพิ่มเติม

คุณรู้ใหม คนระดับ เลขา สพฐ. ยังหลงกลครูสายผู้สอนมาแล้ว อาจจะไม่ได้หลงกลด้วยความตั้งใจก็เถอะ

เหตุการณ์เป็นยังไงเหรอ

สักสองสามปีที่แล้ว ครูคนหนึ่ง นำนักเรียนที่มีผลการเรียนปกติ ไปสรวมรอย(โดยการสั่งให้นักเรียนนั่งฟังเฉยๆไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นเวลาที่หมอเขาถาม ถ้าหมอให้ทำข้อสอบก็ไม่ต้องตอบข้อที่ถูก)แข่งขันกับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา(เด็ก LD) จนได้รับรางวัลเหรียญทองระดับชาติ  อุแม่จ้าว เลขา สพฐ.พร้อมคณะและทีมงานบันทึกเทปของ ทีวี บางช่อง เข้าไปเยี่ยมเยียน บันทึกเทปที่โรงเรียนดังกล่าวกันใหญ่โต 

เอาเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาเลยนะ

ในชุมชนที่ผมอยู่ เป็นชุมชนชาวเขา ซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลวงของชนเผ่าๆหนึ่งในประเทศไทย  โรงเรียนประจำชุมชนมีนักเรียนประมาณ 1,700 คน เปิดสอนตั้งแต่

อนุบานถึงมัธยมปีที่ 6   ในปีที่ผ่านมาชั้นมัธยมปีที่ 6 มีนักเรียนยี่สิบกว่าคน โดยเด็กนักเรียนชั้นนี้เมื่อตอนเรียนมัธยมปีที่ 4และ5 ได้เรียนในโปรแกรม วิทย์-คณิต พอขึ้นเรียนในชั้นมัธยมปีที่ 6 ผู้ยิ่งใหญ่ประจำโรงเรียนให้เปลี่ยนหลักสูตรให้เป็นโปรแกรม ศิลป์-ภาษาจีน  

ปัญหามันมาเกิดขึ้นเมื่อนักเรียนที่เรียนดีอยู่แนวหน้าของห้องสอบเรียนต่ิอได้สาขาพยาบาล และ สาขาทันตกรรม นักเรียนคนดังกล่าวนำใบ รบ.ไปรายงานตัวเรียนต่อตามที่ตนเองตั้งความหวังไว้ กลับไม่ได้เข้าเรียนเพราะมีวิชาที่นักเรียนเรียนที่อยู่ใน รบ. มีวิชาระหัส จ. (ภาษาจีน)

ผู้ยิ่งใหญ่ จึงได้บอกให้นักเรียนเงียบไว้แล้วจะพาไปฝากเรียนที่ราชภัฎให้ แต่ทางผู้ปกครองก็ยังไม่ยอม วิธีแก้ปัญหาต่อมาก็คือ ทางโรงเรียนได้ออกใบ รบ.ฉบับใหม่โดยทุกอย่างยังคงเดิม แต่แก้ไขจุดเดียวที่ วิชาระหัส จ. (ภาษาจีน) เป็น วิชาระหัส อ. (ภาษาอังกฤษ) มอบให้นักเรียนคนนั้นไปทั้งๆที่ผลการเรียนตามฉบับเก่าก็รายงานไปทางกระทรวงแล้ว

สรุปสรุปแล้ว นักเรียนหมดสิทธิ์เรียนตามที่ตั้งใจไว้ เพราะ ท่านผู้ยิ่งใหญ่ประจำโรงเรียนเปลี่ยนโปรแกรมวิชาโดยที่นักเรียนทั้งหมดไม่รู้เรื่องด้วย

 

เพราะฉนั้น 

 

 

 

คุณก็มั่วไปเรื่อย จำนวนตัวเลขนักเรียนมันไม่ได้บอกประสิทธิภาพของโรงเรียนหรอก

 

แต่มันสามารถจัดการเรียนการสอนให้ได้ตาม "มาตรฐานที่ควรมี" ได้

 

โรงเรียนขนาดเล็ก สมมุติว่า 20 คนนะ มี 6 ชั้นๆ ละ 3-4 คน

 

อย่างมากมันก็จ้างครูได้ไม่เกิน 2 คน 

 

ถามว่าครู 2 คนจะไปสอน 6 ชั้นปีได้ยังไงครับ?ลองแสดงให้ดูหน่อย

 

ผมถามมานานแล้ว ยังไม่เห็นมีใครตอบ

 

ครู 2 คนสอน 6 ชั้นปี หากคุณเรียกว่าได้มาตรฐานผมจะยอมออกมาคัดค้านการยุบโรงเรียนกับคุณด้วยเลยเอ้า

คุณครับ ผมเพียงแต่บอกว่า ถ้าท่าน รมต.เอาจำนวนนักเรียนมาเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพของโรงเรียนนั้นๆ ขอบอกว่า โรงเรียนนี้มีนักเรียน 1,700คน ก็คงเป็นโรงเรียนระดับ ดีเลิศประเสริฐศรีแน่นอนเบย ในที่นี้ผมก็หมายถึง ถ้ารมต.เอาจำนวนนักเรียนมาเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพ อะครับ

ผมสื่อให้เห็นว่า รมต.เอาจำนวนนักเรียนเป็นตุ๊กตาเพื่อยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ทำไมไม่ใช้ปัจจัยหลายๆอย่างครับ  ถ้าจะว่าไป นักเรียนบางคนในโรงเรียนขนาดใหญ่ ก็อ่านหนังสือไม่ออกนะครับ โดยเฉพาะโรงเรียนขยายโอกาส ม.ต้นแล้วยังอ่านหนังสือไม่ออกหรือไม่คล่อง  ซึ่งผมคิดว่านโยบายไม่ให้เด็กซ้ำชั้นก็มีส่วน

คุณรู้ใหม โรงเรียนยิ่งขนาดใหญ่ งบประมาณยิ่งเยอะ ถ้าได้ผู้บริหารดีก็ดีไป แต่สิ่งที่พบเจอประจำก็คือ ผู้บริหารพวกนี้จะบริหารงบเพลินจนลืมบริหารการศึกษาครับ

คุณรู้จักแต่เด็กรางม่วง  แล้วเด็กเฉียดแสนคนตามที่คุณอ้างถึงในคำตอบ 250 เป็นเด็กในโรงเรียนขนาดเล็กทั้งนั้นเหรอ

ผมไม่ได้ว่าท่านนะครับ ท่านอานุดีด ท่่านไปขอ แทบเล็ด เด็ก ป.1 จาก ท่านพงเตป

มาฉึกฉาก่อนสักเครื่องก็ได้นิ        กริ๊ว ๆ

ถ้าเมื่อไหร่เราชี้นิ้วด่าหรือโกรธผู้อื่น นิ้วที่เหลือก็จะย้อนเข้าตัวเองนะ ด่าเขาว่าไม่เป็นประชาธิปไตย มันก็ย้อนมาถามเราว่าเรานะเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า ด่าเขาว่าคอรัปชั่น แล้วที่บอกว่า เขาก็แบ่งเรา นะเข้าตัวรึเปล่า

น้าชัยรู้ไว้ซะด้วยนะที่ด่าเขานะมันจะย้อนมาถามว่า "คุณนะขายชาติรึเปล่า"

แค่เรื่ิงนิ้วคุณยังไม่เข้าใจ

คนเราปกติ หนึ่งมือมี 5 นิ้ว มีชื่อเรียกและทำหน้าที่ต่างกัน ตามนี้

นิ้วหัวแม่มือ ยกแล้วยื่นออกแสดงความชื่นชม

นิ้วชี้ ไว้ชี้บอกให้รู้ให้เห็น

นิ้วนาง ยื่นให้สรวมแหวน

นิ้วก้อย ไว้ก้อยเกี่ยว

ส่วนนิ้วกลาง ผมเอาไว้ชูให้เมื่อเวลาผ่านพวกเสื้อแดง อะครับ

คุณมีหัวเอาไว้คั่นหูจริงๆ