Jump to content


สันขวาน

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 11 พฤษภาคม 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 11:31
-----

#737461 ขอแนะนำตัว ดร.โสภณ พรโชคชัย (ผมเองครับ)

โดย MuuSang on 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:41

ขี้โม้อย่างแรงนิ ไอ้บ่าวนี้

โหมแหลงมากพันนี้ ส่วนใหญ่ ไข่ไม่จ็อง




#735717 นายกญี่ปุ่นฉีกหน้านังยก

โดย RaRa on 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:03

อยากฟังเรื่อง ทวาย ไม่อยากฟังตำรวจบ้านพล่ามน้ำลายฟูมปาก

 

 

อยากได้ความรู้ ไม่อยากให้มีเรฟ แถตกคลอง 

 

เล่าเรื่องตลก นิทานก่อนนอน ให้ฟังคร่าวๆ นะครับคุณพิ้งค์ และ เพื่อนๆ สรท. ทุกท่าน ทุกสีเสื้อ

 

( เพราะคุณพิ้งค์ และ เพื่อนๆ ชาว สรท. ทุกท่าน อาจจะทราบแล้วในบางเรื่อง )

 

"ทวาย" ที่ตอนแรกทำท่าว่าจะดีนั้น จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดกัน เพราะ..

 

อิตาเลียนไทย เข้าไปทำให้เกิดความเสื่อมเสียซะก่อน ( อิตาเลี่ยนไทย ของใครมั่งคงรู้นะครับ )

 

ยกตัวอย่างเช่น สัญญาว่าจะทำถนนให้กับ ท่าเรือทวาย ก็ไม่ทันตามกำหนด ( ช้ามากๆ จนปัจจุบันก็ยังไม่เสร็จดี )

 

ทางรัฐบาลทหารของพม่าเอง ก็ไม่ค่อยพอใจ ...ทางอิตาเลียนไทย ต้องทิ้งเครื่องจักรหนัก ( รถเกลด รถดี4 รถแบล๊คโฮล์ )

 

เพื่อเดินทางกลับมาตั้งหลักใหม่ เฉพาะคนทำงาน ( เนื่องจาก รัฐบาลทหารของพม่า ไม่ให้เอาเครื่องจักรกลับ มาด้วย )

 

และจริงๆ แล้ว ท่าเรือทวายของพม่า ผมไม่เรียกว่า "ท่าเรือน้ำลึก" เพราะ ระวางขับของเรือ น่าจะได้ประมาณ 5-6000 ตัน ( เรือเดินสมุทร ประมาณ 12000 ตัน )

 

ต้องจอดเรือใหญ่ ถ่ายของใส่เรือเล็กอีกทอดนึง ในความรู้สึกแล้วมันไม่น่าจะทำท่าเรือ "น้ำลึก" ตรงบริเวณนั้น ( แต่มันดันอยู่ใกล้กับไทย เข้าทางกาญ - ประจวบ )

 

และที่สำคัญ ราคาที่ดินบริเวณนั้น น่าจะถูกกว่าทางตอนเหนือขึ้นไป พอสมควร จึงมีคนบางพวกคิดจะไปลงทุนในพื้นที่นั้น และ จะทำเป็น "นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่"

 

แต่ด้วยความที่รู้ไม่เท่าทันเล่ห์ของ รัฐบาลทหารพม่า ก็มีเศรษฐีหน้าโง่ ที่ทำอะไรก็เจ๊ง ไปทะเร่อทะร่า เอาเงินที่โกงมา - ไปลงทุนก็ "หวาน" สิคร้าาาบแบบนั้น...แค่นี้ก่อนดีกว่านะครับ :lol: :lol:

 

 

 

ขอบคุณที่ตามอ่านนิทานก่อนนอนกันนะครับ ^_^ ^_^




#737001 หน้ากากขาว หลากสี เสื้อเหลือง ปชป อำมาตย์

โดย tonythebest on 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:48

หน้ากาก v อาจเป็นใคร
เป็นเสื้อเหลืองเก่า
เป็นคนที่พึ่งกาให้ ปชป
เป็นอดีตเสื้อแดงที่ทนพฤติกรรมพวกเดียวกันไม่ไหว
เป็นคนที่ไม่เคยสนใจเรื่องสีสันใดๆ
แต่วันนี้ เดือดร้อนจากความโง่เง่าในการบริหารประเทศของนายก
เหล้าเก่าในขวดใหม่ เหล่าใหม่ในขวดใหม่ เหล้าเก่าในขวดเก่า
แล้วยังไง

เทียบดูกับกากบางคน
ที่เพียรพยายามมาก่อความรำคาญ
ถึงขั้นลงทุนปลอมเป็นสองลอคอิน
โชว์จ๋าๆ ลอคอินนึงเพื่อเบี่ยงความสนใจ

หลบเลี่ยงชื่อได้
แต่หลบเลี่ยงพฤติกรรมไม่พ้นหรอก

บอกแฟนเอ็งพาไปเลิกเสรีไทยที่ถ้ำกระบอกมั้ย


#737016 ทั่นรองนายก เหลิม ประกาศมีนายทุนหวังล้มรบ.เพิ่มอีกหนึ่งราย

โดย คนบูรพา on 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:09

ท่าน จขกท. เคยได้ยินคำว่า..........

 

"ผีเจาะปาก มาเกิด" มั๊ยยย ครับ..........

 

ไอ้เชี้ยเหลิม.......ก็จัดอยู่ในประเภทนี้..........

 

มีปาก.....ก็สักแต่ว่า..........พูดไปเรื่อยยยยย.......

 

อยากรู้จริงๆ......ตอนเด็ก...แ-ม่ง....มันคงเอา ขรี้.....ป้อนแทนนม ....

 

โตขึ้นมา.......เลยพ่น ขรี้ ออกจากปาก.....ไม่รู้จบ ..... -_- 




#736705 สุดยอดแห่งความหน้าด้านของหัวหน้าพรรคปชป.

โดย phoebus on 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 16:24

เข้าใจว่า ตำรวจบ้าน 

 

น่าจะหมายถึง ตำรวจประจำหมู่บ้า่น

 

หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือ ยาม มากกว่านะ

 

 

 

 

เอิ๊ก ๆ

 

 

:lol:  :lol: 




#736271 ผู้นำทางความคิดของหน้ากาก V

โดย MIRO on 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:56

อาทิตย์นี้ไป V กันไหมครับพี่ Sigree

เห็นเอง สัมผัสเองเลยดีฟ่านะ.. :D

 

 

มีมากกว่าผมแน่นอน ที่ไม่สนใจว่ารัฐบาลจะเป็นพรรคการเมืองใด

แต่สนใจว่ารัฐบาลบริหารประเทศ ใช้งบประมาณ และปฏิบัติกับประชาชนอย่างไร..?

 

ผมอยากให้แนวคิดเช่นนี้เกิดขึ้นมากๆ ไม่อยากให้ไปยึดพรรคการเมือง มันไม่ใช่คำตอบทั้งหมด

กี่ปีมาแล้ว ที่การทุจริตคอรัปชั่นยังดำเนินอยู่และเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศสารขัณฑ์แห่งนี้

นั่นเพราะเราไม่ได้หันกลับมามองตัวเราเอง..แต่ไปให้น้ำหนักกับพรรคการเมืองมากเกินไป

การเลือกตั้งเป็นสิทธิ์และหน้าที่ เราเลือกตัวแทนเราแต่ไม่ได้หมายถึงเขาคือเจ้าชีวิตเรา

 

ผมอยากให้เริ่มต้นที่ตัวเอง จากตัวเองเป็นเรา จากเรารวมกันเป็นกลุ่มประชาชนที่เข้มแข็งพอ

หากภาคประชาชนเข้มแข็ง ผมเชื่อว่าไม่ว่ารัฐบาลเบ้าหน้าแบบไหน ก็ไม่ง่ายอีกต่อไปที่จะคอรัปชั่น

นักการเมืองอาจจะหน้าบางลงบ้าง ไม่ใช่หน้าหนาขึ้นทุกวันแบบที่เป็นอยู่เพราะประชาชนมัวแต่ให้ท้ายนักการเมือง

 

แม้นี่จะเป็นจุดเล็กๆ แต่ผมก็รู้สึกดี

อย่างน้อยในวันนั้น..ผมก็รับรู้แล้วว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่คิดเช่นนี้..




#735906 ผู้นำทางความคิดของหน้ากาก V

โดย sigree on 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:44

  ผมมองว่ากลุ่มหน้ากาก V ไม่มีแกนนำ  แต่มีผู้นำทางความคิด

 

  ผู้นำทางความคิดไม่เหมือนแกนนำ แกนนำอาจบอกให้คนของคิดคิดหรือทำอย่างไร  ผู้นำทางความคิดจะให้ไอเดีย จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้  การยอมรับไอเดียใดๆจะเป็นความเห็นพ้องมากกว่าอย่างอื่น

 

  ผู้นำทางความคิดของ V ตอนนี้ที่ผมเจอคือ

 

ชัย ราชวัช กับวาทะ กระหรี่ 

พงษพัฒน์ กับการแสดงออกทางความภักดีในงานแสดงและการแถลง 

กลุ่มผู้ผลิตละคร เหนือเมฆ 2  กรณ์

ปชป (อภิสิทธิ์ กรณ์ หมอวรงค์ ฯลฯ)

กองทัพ

 

 ฯลฯ

 

สังเกตคนเหล่านี้มีส่วนที่คิดเหมือนและต่ากันไปในแต่ละเรื่อง  กลุ่ม V ประมวลสิ่งที่ได้รับมาใช่งาน

 

เช่น  ใช่งานข้อมูลข้าวของ ปชป แต่ไม่ไปประท้วงปกป้องกรณี คน ปชป ขึ้นศาล  ใช่การ์ตูนของชัยฯเป็นเรื่องๆ ไม่ใช่ทุกเรื่อง ฯลฯ

 

ระบบการเห็นพ้องพิเศษ  ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งบอกได้ว่าอะไรใช่ได้ไม่ได้ เป็ันคัดกรองร่วม

 

ไม่มีจุดเริ่มชัดเจน และไม่มีจุดจบชัดเจน แต่มีจุดร่วมที่ชัดแจ้ง




#735956 ถ้า กาก v ไล่รัฐบาลปูสำเร็จ แล้วจะทำไงต่อครับ สำหรับประเทศไทย ..หึหึ

โดย ต้นหอม on 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 08:20

อืม จริงๆด้วย คิดไม่ออก

โง่อย่างเราๆก็ทำได้แค่ซื้อไข่ไก่มาตุนทำไข่เค็ม :lol:  :lol:  :lol: อ้าวเวร ท่านผู้หยั่งรู้ยังไม่บอกสูตรไข่เค็มไว้เลย ตายล่ะกรู ชีวิตต้องทำมาหากินและทำหน้าที่ประชาชนต่อไปหรือนี่ ขอเวลาปลีกตัวไปเช่าห้องเย็นแช่ไข่ก่อนนะคะ

 

ท่านดอมพูดเหมือนว่ามีรัฐบาลยิ่งลักษณ์แล้วประเทศเจริญขึ้นอย่างนั้นแหละ  :lol:  :lol:  :lol:




#736233 ‘มันแน่นอก’ วิบัติกรรมจำนำข้าว

โดย pglovethai on 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 10:43

‘มันแน่นอก’ วิบัติกรรมจำนำข้าว

000%28568%29.jpg

 

 

1) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประเมินว่า ถึงสิ้นปีงบประมาณ 2556 (สิ้นเดือนก.ย.นี้) รัฐบาลจะถมเงินแผ่นดินลงไปกับโครงการรับจำนำพืชผลการเกษตรสูงกว่า 800,000 ล้านบาท

ส่วนใหญ่คือโครงการรับจำนำข้าว

 

วงเงินที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าว ฤดูการผลิต ปี 2554/2555เรื่อยมาจนถึงปี 2555/2556 รวมใช้ไปแล้วทั้งสิ้น 610,000 ล้านบาท (และอีก 50,000 ล้านบาท ใช้ในการรับจำนำยางพารา และมันสำปะหลัง)

 

แถมบีบเอาเงินสภาพคล่องของ ธ.ก.ส.มาใช้ก่อน เกินกว่ามติคณะรัฐมนตรีด้วยซ้ำ

 

เรียกว่า ภาระทางการเงินจากโครงการจำนำข้าวนั้น “มันแน่นอก” เจียนตาย

 

เฉพาะปีแรกปีเดียวที่มีการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ข้าราชการกระทรวงการคลังประเมินผลขาดทุนสูงถึง 260,000 ล้านบาท

 

2) เฉพาะผลขาดทุนต่อปี 260,000 ล้านบาท ข้างต้น หากรัฐบาลนำไปจัดสรร จ่ายตรงให้ชาวนา หรืออุดหนุนการผลิตในรูปแบบต่างๆ จะเข้ากระเป๋าชาวนา 1.7 ล้านครัวเรือน ตกครัวเรือนละ 150,000 บาท

 

โดยที่ชาวนาสามารถนำข้าวไปขายในตลาดทั่วไป ได้เงินเข้ากระเป๋าตามความสามารถของแต่ละรายอีกต่างหาก ไม่ต้องถูกบีบบังคับให้ขายเฉพาะโรงสีที่เข้าร่วมโครงการจำนำข้าว แถมตั้งเงื่อนไขสารพัด ไม่ว่าจะพันธุ์ข้าว หรือการทุจริตโกงกินของเจ้าหน้าที่รัฐ

 

หรือเปรียบเทียบกับโครงการประกันรายได้ในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว ใช้เงินแผ่นดินปีละประมาณ 60,000 ล้านบาท เท่ากับว่า ถ้านำเงินที่ขาดทุนในโครงการจำนำข้าวไปทำโครงการประกันรายได้ โอนเงินเข้าบัญชีชาวนากว่า 3.7 ล้านครัวเรือน โดยตรง ชาวนาจะได้เงินส่วนต่างเข้าบัญชีมากกว่าสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ถึง 4 เท่าตัว

 

ไม่ต้องรอขายข้าว ไม่ต้องง้อใบประทวน ไม่ต้องลุ้นฝนแล้ง-น้ำท่วม

 

ที่สำคัญ ระบบการค้าการส่งออกข้าวไทยไม่เสียหาย ยังสามารถเป็นแชมป์ส่งออกข้าว ครองตลาดข้าวบนเวทีโลกไว้อย่างเหนียวแน่น ไทยจะยังเป็นประเทศปลูกข้าวไว้กิน-ขาย มิใช่ปลูกไว้เก็บ-เน่า เหมือนปัจจุบัน

 

3) อานิสงส์จากโครงการรับจำนำข้าว ช่วยให้โรงสีที่เข้าร่วมโครงการซื้อรถซูเปอร์คาร์ เป็นของเล่นให้ลูกหลานกันอุตลุด

แถมข้าวเขมร ก็สามารถส่งออกข้าวเปลือกมาประเทศไทยสูงเป็นประวัติการณ์

สะท้อนว่า น่าจะเป็นการนำเข้าข้าวเปลือกเขมรเพื่อมาสวมสิทธิ์ หรือแสวงหาผลประโยชน์จากโครงการจำนำข้าว ซึ่งกินภาษีอากรของคนไทยทั้งประเทศ

 

4) ถึงสิ้นปีนี้ งบที่ใช้ในโครงการจำนำข้าวกำลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 700,000 ล้านบาท

ภาระทางการเงิน “มันแน่นอก” ย่อมส่งผลต่อการตั้งงบประมาณแผ่นดินเพื่อจ่ายคืนให้แก่ ธ.ก.ส.

แถม ธ.ก.ส. ยังต้องการให้กระทรวงการคลังจัดหา หรือค้ำประกันเงินกู้เพิ่มเติม หรือออกพันธบัตรรัฐบาล เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ชดเชยสภาพคล่องของ ธ.ก.ส.ที่ถูกบีบเอาเงินมาใช้ก่อนอีกด้วยซ้ำ

 

ถึงวันที่ 14 พ.ค. ธ.ก.ส.ต้องสำรองจ่ายเงินในการรับจำนำข้าวแล้วถึง 147,944 ล้านบาท

 

น่าคิดว่า เวลานี้ การก่อหนี้ตาม พ.ร.บ.หนี้สาธารณะเกือบเต็มเพดานแล้ว ยังสามารถก่อหนี้หรือกู้เงินได้อีกประมาณ 70,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งกระทรวงการคลังต้องสำรองวงเงินกู้นี้ไว้สำหรับรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ด้วย มิใช่จะนำมาถลุงในโครงการรับจำนำข้าวอย่างเดียว

ทางเดียวคือ จะต้องเร่งระบายข้าวในสต๊อกของรัฐ เพื่อเอาเงินมาหมุนในโครงการให้ได้ ซึ่งถ้าขายเมื่อไหร่ ผลการขาดทุนก็จะยิ่งประจานโครงการในทันที

 

ยิ่งกว่านั้น ยังถูกแฉประจานว่า ขายข้าวรัฐในราคาถูก ทำให้เอกชนบางรายซื้อไปขายต่อ ฟันกำไรเละเทะ

 

ดังกรณีตัวอย่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สส.พิษณุโลก แฉประเด็นปัญหาการทุจริตการระบายข้าว ระบุว่า รัฐบาลระบายข้าวสารผ่านผู้ประกอบการโดยวิธีการลับ บริษัทที่ได้รับคือบริษัทของเสี่ยเปี๊ยก ซึ่งเป็นเครือข่ายของเสี่ยเปี๋ยงแห่งสยามอินดิก้า เสี่ยเปี๋ยงคือผู้ใกล้ชิดทักษิณ

 

“เสี่ยเปี๊ยกซื้อข้าวสารจากรัฐบาลราคาตันละ 5,700 บาท และขายต่อทันที โดยใช้แฟกซ์ใบเดียวราคาตันละ 12,000 บาท เงินเข้ารัฐบาล

5,700 บาทต่อตัน เข้าส่วนตัว 6,300 บาทต่อตัน”

 

ยังไม่นับการขายข้าวจีทูจีเก๊!

 

หากินกับข้าวโครงการรับจำนำข้าว!

 

นี่คือสาเหตุแท้จริงที่นักการเมืองไม่ยอมเลิกโครงการจำนำข้าว เพราะถ้าไม่รับจำนำข้าวก็จะไม่มีข้าวในโกดังของรัฐให้นักการเมืองและเครือ ข่ายได้ทำมาหากินกันอย่างตะกละตะกลามเช่นนี้

 

5) ภาระทางการเงินที่แน่นอกอยู่ในวันนี้ กำลังจะกลายเป็น “วิบัติกรรม” ของชาวนาไทย ตลอดจนระบบการผลิตและการค้าข้าวไทยทั้งระบบ

โครงการรับจำนำข้าว นอกจากจะถลุงเงินแผ่นดินมหาศาล ทำให้รัฐเหลือเงินที่สามารถจะนำมาใช้จ่ายในกรณีจำเป็นฉุกเฉินลดน้อยลงแล้ว โครงการนี้ยังทำลายความสามารถในการส่งออกของไทย พ่อค้าข้าวเอกชนหันมาหากินกับข้าวในโครงการรับจำนำของรัฐบาล เช่นเดียวกับชาวนาที่หันมาขายข้าวให้รัฐผ่านโครงการรับจำนำลูกเดียว

 

เมื่อเป็นเช่นนี้ วันใดที่รัฐบาลไม่สามารถจะหาเงินมาดำเนินโครงการรับจำนำข้าวต่อไป ภาระหนี้กองสูงท่วมข้าวเน่าในโกดังของรัฐ วันนั้นระบบการค้าข้าวและชาวนาไทยก็จะกระอักเลือด ชะงักงัน เพราะไม่รู้จะขายข้าวให้ใคร ตลาดส่งออกข้าวในโลกก็ถูกต่างชาติยึดครองแทนที่ไปหมดสิ้นแล้ว

 

วันนั้น ไม่ใช่แค่โครงการรับจำนำข้าวที่จะต้องล้มไปเอง แต่ชีวิตของชาวนาไทย ระบบการผลิตและการค้าข้าวทั้งระบบก็จะถึงคราววิบัติ!

คนอย่างนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกิตติรัตน์ ณ ระนองนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือแม้แต่นายโอฬาร ไชยประวัติ และทักษิณ ชินวัตร... คนพวกนี้หรือจะรับผิดชอบกับวิบัติกรรมที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจข้าวทั้งระบบ ของประเทศไทย?

 

ควายที่ไถนาเก่งๆ ยังมีคุณค่าเสียกว่า!

 

สารส้ม

 

http://www.naewna.co.../columnist/6994

 

969630_664957813530147_713452086_n.jpg




#735795 ปลอดประสพบอกว่า ศูนย์ประชุมที่ภูเก็ตยังไม่สร้าง ไม่มีอารมณ์จะทำ จนกว่าคนภูเก็...

โดย ฟังทั้งสองฝ่าย on 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 01:00

แล้วถ้าคนภูเก็ตบอกว่า ไม่ขอจ่ายภาษีให้ประเทศ ถ้ามีคนเช่นนี้อยู่ในประเทศ หล่ะครับ เมืองท่องเที่ยวเลยนะเอ๊าาาาาาาาา!!!
คนภูเก็ต รวบรวมเงินสร้างกันเองเลยครับ ใช้เงินภาษีท้องถิ่นสร้าง และบอกไปเลยว่า ถ้าใครจัดงาน ห้ามคนเช่นนี้และคนที่ยังคบหาสมาคมกับคนเช่นนี้ มาภูเก็ต 




#734950 เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง: กลับมาแล้ว

โดย ชามู on 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:59

 

นี่คือตัวอย่าง สาระไม่ต้อง

ใส่ไคล้ เสียดสีไปวัน ๆ

คุณเกิดมาทำไมครับผม

 

 

 

 

เสียงส่วนใหญ่ จะเป็นเสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้ขึ้นกับเสกลอะไร

แต่ขึ้นกับผม ผมคนเดียวเท่านั้น

 

เสียงส่วนใหญ่จะถูกต้องหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า ผมอยู่ข้างเสียงส่วนใหญ่หรือเปล่า

ถ้าใช่ แสดงว่า เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้องแน่นอน เพราะผมบอก

 

ลงชื่อ

ดอกเตอร์ 1144

 

 

 

สาระย่อมมี

แต่ก็ขึ้นกับบุญและกรรม และความสามารถของผู้รับสารเป็นสำคัญ

 

ต่อให้มีวุฒิสูงค่าเป็นปริ้นยาเอก ดอกเทอร์

แต่ปล่อยให้อารมณ์ อคติ และความเกรียนมาบังตา

จนไม่เห็นถึงสาระเนื้อใน ก็ย่อมจะไม่ได้อะไรไปประดับปัญญา

แถมยังจะัเป็นที่น่าสงสาร และ น่าเสียดายยิ่งนัก

 

หมายเหตุึ: 

ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าเกิดมาทำไม

ดอกเทอร์ไม่รู้หรือ ว่าตัวเองเกิดมาทำไม

 

ข้าพเจ้าเองย่อมมิอาจรู้ว่า ดอกเทอร์เกิดมาทำไม

แต่ข้าพเจ้ารู้อยู่อย่างหนึ่งว่า ดอกเทอร์ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพแน่นวล




#734755 คณิกาผล คนโกงชาติ...

โดย wat on 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:40

942275_10151630038840742_335327698_n.jpg

 

ส่องเข้าไปดูความเคลื่อนไหวจากเฟสบุ๊คของคนเสื้อแดงระดับแกนนำ  พบว่ามีคนป่วยหนัก 2 คนที่สังคมไทยกำลังจับตา-ก่นด่าและสาปแช่ง

 

คนแรกคือ “ดา ตอร์ปิโด” อยู่ระหว่างติดคุกจากความผิดในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ...พูดง่ายๆ...หมิ่นประมาท“พระเจ้าอยู่หัว-พระราชินีและพระบรมฯ”ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ และถ้อยคำที่หยาบคายต่ำช้าผิดมนุษย์มนาเขาทำกัน เฟสบุ๊คคนเสื้อแดงที่อ้างว่าเข้าไปเยี่ยมเยียนดา ตอร์ปิโดในคุกเล่าว่า... 

 

“ตามข่าวจึงพบว่าตอนนี้เธอป่วยหนักจริงๆไม่สามารถอ้าปากได้เกิน 2 ซม. ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ เวลาแปรงฟัน ต้องกระทุ้งแปรงสีฟันเข้าไปเพราะอ้าปากไม่ได้ ที่ร้ายกว่านั้นคือ...แทบไม่มีเสื้อแดงไปเยี่ยม  ที่ไปก็เป็นกลุ่มเล็กๆ เป็นคนเล็ก คนน้อยเท่านั้น” ฟังข่าวแล้วก็ได้แต่พูดกันพึมพำว่า “เวรกรรมตามทัน”...ผิดจากนี้ก็ไมรู้จะว่ากล่าวกระไรแล้ว เพราะคนพูดไม่ได้คิด คนคิดริเริ่มให้ดาไปพูดก็ไม่ได้ติดคุก ส่วนเจ้าตัวคนพูด ก็รับความผิดตามกฏหมายและรับกรรมตามกฏมนุษย์อยู่ด้วยความเจ้บปวดระทมทุกข์

 

ผู้ป่วยอีกรายหนึ่งที่ยังลอยนวล  เงื้ยมมือกฏหมายยังเอื้อมไปไม่ถึง แม้จะก่อกรรมทำเข็ญทั้งกาย วาจา  ใจกับประเทศไทยไว้แค่ไหนก็ตามที คนๆนี้คือ “ตู่-จตุพร พรหมพันธ์” แกนนำคนเสื้อแดงที่พลาดเก้าอี้รัฐมนตรีครั้งแล้วครั้งเล่า “เสียใจ” ยังไม่ใหญ่โตเท่ากับ”ใจเสีย”เพราะหลังเดาะ...ไม่ใช่เพราะเพื่อนรักเตะตัดขาต่อหน้านายใหญ่ ไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์จนอัปโชค แต่เพราะอุบัติเหตุ !!!เรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดกับตู่  จตุพรในยามรุ่งเรืองขีดสุดเช่นนี้ แต่ก็เกิดจนได้เมื่อรถยนต์งามหรูของเขาชนกันอย่างจังกับรถชาวบ้านที่สวนมา ระหว่างเดินทางตระเวณปราศรัยให้เวทีเสื้อแดงในต่างจังหวัด งานนี้ส่งผลกระทบกระเทือนจนหมอนรองกระดูกคอเคลื่อน มีผลให้กระดูกหลังคดงอ เดินมากไม่ได้ นั่งนานไม่ดี เจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วสรรพางค์กาย  ลามถึงการพูดจาที่เคยแข็งกร้าว ขึงขังจับใจคนแดงถึงใจทักษิณ ก็แทบไร้เสียง เปล่งสรรพสำเนียงใดๆไม่ได้ 

 

ตู่ –จตุพร  เจ้าของวาทะ“กระสุนพระราชทาน” และอื่นๆอีกมากมายที่เฉียด“เจ้าฟ้า-เจ้าแผ่นดิน” ได้เล่าเองบนเวทีเสื้อแดงรำลึก 3 ปีที่ปิดแยกราชประสงค์ คืนนั้นเขาก้าวขึ้นเวทีแดงเมื่อล่วงเข้าหลังสองยามของวันที่ 20 พ.ค.แล้ว และพยายามเค้นเสียงปราศรัยอย่างเหนื่อยล้า เมื่อพูดไปได้สักพัก ก็ออกอาการเหนื่อยหอบ  ไม่เหลือเค้านายทหารกล้ามือขวาทักษิณ ชินวัตรเลยแม้แต่น้อย นาทีนั้นเองที่ข่าวลือจากเฟส บุ๊ค ไทกร  พลสุวรรณ ถึงอาการป่วยปางตายของตู่ จตุพร เริ่มเห็นจริงกับตา จตุพรอ้อนแม่ยกแดงรงฤทธิ์ว่า อุบัติเหตุทำให้หมอนรองกระดูกคอเคลื่อนและเจ็บหนัก ต้องหาหมอทั้งไทยและจีน ทั้งแผนโบราณและแผนปัจจุบัน เขาบอกว่าต้องฝังเข้มทุกเช้าและให้ยา ใน 40 เข็มฝังทุกวัน   ยาแรงช่วยคลายความเจ็บปวด พอให้ยืน เดิน นั่ง นอน พูดได้เหมือนคนทั่วไปบ้าง  แต่อีกนั่นละยาแรงก็มีผลให้จตุพร พูดไม่ได้ดี  เสียงไม่ค่อยมี ปากคอแข็ง ลิ้นไม่รับรส เวลานี้ตู่ จตุพร แกนนำเสื้อแดงที่เคยดุดัน  ดุเดือด ถมึงทึงเหมือนปีศาจเสื้อแดง บนเวทีราชประสงค์แล้วให้ใจหาย คนที่เคยพูดเคยจาเคยฟันมือฉับๆ ได้กลายเป็นคนป่วย เดินเหินพูดจาแทบไม่ได้ ต้องอาศัยเมียแบกไปหาหมอ ยัยเมียหรือก็กระไร กลัวคนไม่รู้ ไม่ดู ไม่ด่าผัวหรือไงไม่ทราบ เพราะระหว่างผัวคอพับคออ่อนในรถตู้หรูหราระหว่างทางไปหาหมอที่ ร.พ.พระรามเก้า ก็ดันถ่ายรูปอัพภาพผัวม่อยกระรอกจนกระฉ่อนโลกออนไลน์สบช่อง  สาปแช่ง สมน้ำหน้าและปิดท้ายด้วย  “กรรมตามทัน”

 

ส่วนนายใหญ่สบายดีหรือไฉนเป็นยังไงไม่รู้ได้ อะไรที่ไม่เห็นกับตาไม่ได้ยินกับหู พูดไปก็ไร้ประโยชน์ แต่ที่รู้ๆคือนายใหญ่โคตรรวยบักโกรกจากการ“ขายชาติ”จนได้กำไรงามกินไปสามสี่ชาติก็ไม่หมด

 

ล่าสุดนายใหญ่กำลังสุขสำราญบานใจที่“ลอนดอน” กิรดังได้ยินมาว่า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่– นายตำรวจผู้ใหญ่–นายทหารผู้ใหญ่และนายทุนใหญ่ แห่ไปกินเป็ดกินไก่ชนไวน์กับนายใหญ่ไม่เว้นแต่ละวัน  ยังไม่นับนักการเมืองขี้ข้าและทาสเสื้อแดงที่ตบเท้าไปกราบตีนถึงบันใดบ้านที่อังกฤษอีกพะเรอเกวียน หารือกันเรื่องพรบ.ปรองดอง แต่เห็นทีต้องข้ามศพ “พลังธรรมาธิปไตย” สนามหลวงก่อนซะละมัง บ้านเมืองกลับตารปัตรเหมือนคนกินยาคุมย้อนศร ไม่มีอีกแล้วที่ว่า“ตำรวจเจอโจรแล้วทำไมไม่จับโจรกลับมารับโทษ” ในเมื่อ“โจรกับตำรวจ”มันพวกเดียวกัน สันดานเดียวกันและสุมหัวกันปล้นชาติ แต่มีคนไทยส่วนหนึ่งเห็นชอบ แต่อีกส่วนเห็นต่าง เรื่องเลยยุ่ง บ้านเลยแยก คนเลยแตกเป็นสองสีอย่างทุกวันนี้ไงเล่า

 

ขอให้ผู้อ่านจงสดับบทกลอน“สลิ่มรำพัน”ตอน“ทำไมข้าพเจ้าจึงสวมหน้ากาก”ของ“เจริญขวัญ บาฮาสสกี้” นักเขียนสาวไทยใจสู้ที่ไปอยู่ต่างแดนแต่ยังตามข่าวเมืองไทย เมื่อเห็นกลุ่ม“หน้ากากขาว”กำลังต่อกรกับระบอบทักษิณในโลกออนไลน์ อดรนทนไม่ไหวส่งกลอนส่งกำลังใจ อ่านแล้วคึก อยากเผยแพร่ ^ ^

 

“สลิ่มรำพัน : ทำไมข้าพเจ้าจึงสวมหน้ากาก“

 

พร่ำกล่าวหาว่าพวกเราไม่ก้าวข้าม

ก่อนลามปามความคิดไหนไร้สติ

ลองใคร่ครวญสักนิดคิดดูซิ

ใครดำริบัญชาการผ่านสไกป์?

ปลุมระดม-ล้มเจ้า-เข้าข่มขู่

อ้างว่าสู้เพื่อวิถีที่ยิ่งใหญ่

เหยียบศพคนเป็นฐานขั้นบันได

ช่างประชาธิปไตยอย่างเหลือล้น !

กูปวดร้าวเฝ้ามองแผ่นดินแม่

ชุ่มโชกเลือดและบาดแผลทุกแห่งหน

อยากก้าวข้ามเพียงใดก็ไม่พ้น

เมื่อสุดทนโจรปล้นชาติ-ประกาศตัว

มึงปั่นปลุกลุกลามความสามานย์

เข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านอันโฉดชั่ว

จึงลุกต้านอำนาจไม่ขลาดกลัว

อย่าเยาะยั่ว-กูไม่กลัวพวกมึงแล้ว !

 

"เจริญขวัญ"29 พฤษภาคม 2556

…………………………………

 

“กูไม่กลัวพวกมึงแล้ว”เป็นประโยคปิดท้ายที่เห็นถึงความเหลืออดเหลือทนกับระบอบทักษิณสามานย์ที่โกงกินโดยรัฐบาลอ้างประชาธิปไตยบังหน้า ตะกละตะกลาม โกยและแก่งแย่งเหมือนหมาแย่งชามน้ำข้าว กะล่อนตอแหลปลิ้นปล้อนจนงูพิษลิ้นสองแฉกยังอาย ทั้งยังกดขี่ข่มเหงคนคิดต่างด้วยกองทัพเสื้อแดงอันธพาล เชื่อว่าอีกไม่นานประชาชนคนเหลืออดจะออกไปเนืองนองเต็มท้องถนน แล้วสู้กับทักษิณ เสื้อแดงอย่างไม่กลัวเกรงหรือต้องสวมหน้ากาก

 

การอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 57 น่าจะกระตุ้นให้คนไทยหันมารู้รักสามัคคี  ไม่เฉยเมย ไม่ชินชา และไม่ชิงการนำ  แค่ยกแรกเรื่อง โกงข้าว โกงชาวนา ก็แทบกระอักทั้งฝ่ายเขาและฝ่ายเรา ฝ่ายเขาถูกจับได้ว่าโกงเงินไป 40 %จากงบจำนำข้าว 600,000 ล้านบาทในรอบ 2 ปี 4 ครั้งของการเกี่ยวที่ชาวนาไม่มีเงินเก็บ เพราะเงินส่วนใหญ่ตกในมือ“นักการเมือง” “นายหน้า”และ“โรงสี”  การสืบสาวราวเรื่องเริ่มมาจาก“คนใน”กระทรวงพาณิชย์สวมบทหัวหมู่ทะลวงฟัน กล้าฝ่าดงแดงหอบแฟ้มออกมาแฉว่า นายใหญ่–เสี่ยเปี๋ยง–ไอ้เปี้ยก–และอีเลขา  ล่อกันนัว ฟัดกันมัน  โกงเงินจำนำข้าวชาวนาที่สุดท้ายกระดูกสันหลังของเราได้รับอานิสงฆ์จากการจำนำแค่ต้อยติ่ง สะอิ้งสะอื้นไห้ร้องหาการประกันราคาข้าวกันเป็นแถว เห็นโรงพักที่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ กันไหมที่ทาสีแดงเสียจัดจ้านเหมือนเสื้อ-กางเกงของจ่าประสิทธิ์  จอมซ่าส์แห่งสภาไทย  หวานใจคนโปรดของเจ้แดง  คนนี้เลี้ยง ส.ส.เหมือนทาสในเรือนเบี้ย และมี“***” คอยป้วนเปี้ยนเหนือฝ้าเพดาน โลกออนไลน์แชร์ภาพ โรงพัก อ. รัตนบุรีทาสีแดงใหม่เอี่ยม แต่ไม่มีรูปพระบรมฉายาลักษณ์ของล้นเกล้าสองพระองค์ที่เคยประดับเหนือทางเข้าโรงพัก  ในหัวข้อโพสต์ 

 

"สิ่งที่หายไป หลังโรงพักที่อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ กลายเป็นสีแดง"( เครดิตภาพจาก...สาธิต ปิตุเตชะ ) เหมือนกับที่ข้าราชการ กท พาณิชย์ แฉว่า ห้องทำงานของนักการเมืองคนหนึ่งก็แทบหาที่ประดับพระบรมฉายาลักษณ์ได้ไม่ ???

 

อจ. กิตติวัน พลคุณ หมอดูไพ่ยิปซีชื่อดังจากดอนเมือง เพียรโทรไปถามเจ้าหน้าที่ประจำโรงพักรัตนบุรีว่า มีเหตุผลอันใดทำไมไม่ประดับพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง-ราชินี คำตอบที่ได้จากจ่าแก่ๆคนหนึ่งที่ปลายสายคือ “เป็นนโยบายผู้บังคับบัญชา ไม่ทราบอะไรด้วย และเวลานี้มีคนโทรเข้ามาด่าเพียบแล้ว” อาจารย์กิติวันเล่ามาอย่างนี้

 

เวลาเปลี่ยน ยุคสมัยเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนได้ตามกาลเวลา...ง่ายอย่างนั้นหรือ?...สำหรับบางคนจะว่าง่ายก็ไม่ผิดนัก  โดยเฉพาะข้าราขการไทยวันนี้ ที่รัก สรรเสริญ และ ก้มกราบศิโรณาบต่อทักษิณอย่างสิ้นเชิง  เพียงเพราะลาภ ยศ สรรเสริญ โดยลืมไปเลยว่าทักษิณคิดร้ายกับไทยมาเท่าไรต่อเท่าไร เวลานี้เงินใต้โต๊ะสูงเกืยบ 50%แล้ว โครงการประชานิยมมีไว้โกงกิน ซื้อเสียง มอมเมาประชาชนให้อ่อนแอศิโรราบ โครงการลงทุนใหญ่ๆมีไว้ตบทรัพย์ หาพวกและกอบโกยอีก กระทั่งในตลาดหุ้นก็ไม่เว้น ในรอบสองปีที่ผ่านมา หุ้นตัวดังของคนใกล้ชิดผู้บริหารประเทศถูกปั่น ซื้อ- ขายด้วยข้อมูลภายใน จนราคาหุ้นพุ่งพรวด 100 %

 

“คนใกล้ชิด”หลังม่านผู้นำหญิงซึ่งมีห้องทำงานบนทำเนียบ เห็นแฟ้มงานราชการทุกแฟ้ม ล่วงรู้แผนบริหารประเทศทุกบรรทัด รู้ว่าจะมีอะไร เกิดอะไร รถไฟวิ่งไปไหนบ้าง เอาข้อมูลภายในใช้ดักคอ ลงทุนล่วงหน้า ค้ากำไรมหาศาล ง่ายเหมือนลัดนิ้วมือ ชนิดที่นักลงทุนคนอื่น ได้แต่ยืนอิจฉา มองตากันปริบๆ เวลาพรรคการเมืองไป”แย่ง”สมาชิกพรรคอื่นมา เขาเรียกตกปลาในบ่อเพื่อน เวลานักการเมืองไปอยู่พรรคโน้นทีพรรคนี้ทีเขาเรียก“โสเภณีการเมือง” เวลาที่ผู้นำแย่งประโยชน์ประชาชนไปเป็นของตัว เขาเรียก “ทรราชย์” แต่ถ้าผู้นำแย่งผัวชาวบ้านเราจะเรียกเธอว่าอะไร...ขอ 3 คำฝากไว้ในกล่องความเห็นท้ายคอลัมน์นี้ที่เว็บแนวหน้าคะ...

 

  • 1004.jpg
  • เล่าหลังไมค์
  •  อัญชะลี ไพรีรัก

http://www.naewna.com/columnist/1004

  •  
  •  
  •  
 
 

 




#734533 เซ็นทรัลเวิร์ด ห้างอำมาตย์ ทีเหล่าพี่น้องมวลหมาประชาชนคนเสื้อแดงมาปิดห้างหนี...

โดย โจโฉ นายกตลอดกาล on 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 07:18

เซ็นทรัลเวิร์ด ห้างอำมาตย์ชั่วร้าย ทีพี่น้องมวลหมาประชาชนคนเสื้อแดงมา

ทำเป็นปิดห้างหนี ทีหน้ากากขาวมา ดันไม่ปิดห้างหนี สองมาตรฐานชัดๆ


#733351 เสาร์นี้ พบเวทีประชาชน “เดินหน้า ผ่าความจริง สจฺจํ เว อมตา วาจา ความจริงไม่มี...

โดย Bookmarks on 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:07

 

 

 

ลุงในรูปข้างบนเค้าชี้ฟ้าทำไมเหยอ

 

 

 

กักตุนไข่ไก่ไว้เยอะ เลยบ้าค่ะ 

 

 

พ่อค้าไข่เน่า    ต้นตำรับ "ไข่เค็มจากไข่ไก่"   วันหลังต้องขอสูตรบ้างละ   :D 

 

ว่างๆก็เอาหญ้าออกจากปาก ก่อนละ  :lol:

 

http://www.bloggang....roup=32&gblog=4

 

1327752253.jpg

 

เอ็งหาแดรกได้มั้ยในเมืองไทยน่ะ ควายแดง ไข่ไก่เค็ม  :lol: ไอ้ปัญญาอ่อนเอ้ย




#733333 เสาร์นี้ พบเวทีประชาชน “เดินหน้า ผ่าความจริง สจฺจํ เว อมตา วาจา ความจริงไม่มี...

โดย เอื้องผึ้งจันทร์ผา on 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:38

 

 

 

ลุงในรูปข้างบนเค้าชี้ฟ้าทำไมเหยอ

 

 

 

กักตุนไข่ไก่ไว้เยอะ เลยบ้าค่ะ 

 

 

พ่อค้าไข่เน่า    ต้นตำรับ "ไข่เค็มจากไข่ไก่"   วันหลังต้องขอสูตรบ้างละ   :D 

 

ว่างๆก็เอาหญ้าออกจากปาก ก่อนละ  :lol:

 

http://www.bloggang....roup=32&gblog=4

 

1327752253.jpg

 

 

รู้สึกว่าเราจะพากันออกทะเล  ไปไกลนะคะ (ไปชิมไข่เค็มฟินแลนด์)  แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว  ไปต่ออีกหน่อยละกัน

 

ขอบคุณ  หมื่นปี ฯ  ละกัน ที่เอาสูตรไข่เค็มฟินแลนด์ มาให้ดูเป็นขวัญตา

 

ในเมืองไทย  ไข่เค็มส่วนใหญ่เขาใช้ ไข่เป็ดค่ะ  ยังไม่เคยกินไข่เค็มจากไข่ไก่   

 

ขอสูตร  ไข่ "เยื่อ" ม้า ด้วยสิ  

 

 

ส่วนหญ้าน่ะเรากินมะเป็นหรอก  ยกให้หมื่นปี ฯ ละกัน

 

425290_608413209168784_537744513_n.jpg