หัวใจแห่งเหตุผล

เรียน  สมาชิกทุกท่าน  ที่เห็นต่าง  อย่างมีเหตุและผล

     ผมทราบว่าหลายท่านที่โพสต์ในเว็ปนี้  มีเหตุ  มีผล  ไม่หยาบคาย 

ท่านอย่าโพสต์เว็ปนี้มากๆเลย  เรามีความเห็นในทิศทางเดียวกันแล้ว  รู้ความชั่วของเขาแล้ว  โพสต์ไปก็มีแต่ฝ่ายเดียวกันเห็นด้วย

    ส่วนเว็ปเสื้อแดง  ก็มีแต่โพสต์ในความเห้นด้านของเขา  ที่ขาดเหตุขาดผลก็เยอะ

ที่มีเหตุมีผลก็มี

จึงอยากเรียนพี่น้องในที่นี้ว่า

-ถ้าท่านไม่สามารถแสดงออกด้วยการไปชุมนุมอย่างสงบได้  เนื่องจากติดภาระกิจ  แต่ท่านมีเวลาหน้าจอ

-ท่านควรเอาความสามารถและเวลาที่ม่ายมี  ไปกรอกข้อมูลที่ถูกต้อง ที่เว็ปเสื้อแดง

-อย่าโพสต์เพื่อความสะใจ  คนเสื้อแดง  สมควรจะได้รับรุ้ข้อมูลที่ถูกต้อง  สมเหตุสมผลได้ 

เพราะเท่าที่ดู   พวกเขาได้เสพข้อมูลทางเดียว  ที่ไร้เหตุไร้ผล  แถไถ  อวยตระกูลชินกันอย่างลืมหูลืมตา

    จึงขอความเสียสละจากพวกท่าน  ไปสมัครสมาชิกเวปเสื้อแดงต่างๆที่มีมากมาย   แล้วเอาข้อมูลที่เป้นประโยชน์ต่อประเทศชาติ  อย่างยั่งยืน  ไปให้เขาได้คิด  จะได้ผลไม่ได้ผล  ถ้าเราได้ทำแล้ว  เราก็ได้มีส่วนร่วมในการให้ความรุ้ติดอาวุธทางความคิดให้พวกเขา 

-ท่านไม่ต้องไปด่าโต้ตอบด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ  ให้ใช้ความอดทน  ใช้เหตุผล  และหลักฐาน  กรอกข้อมูลความจริงไปเรื่อยๆ  ข้อมูลที่เป็นเท็จ  ไม่อาจจะยืนหยัดได้หรอกครับ

เสื้อแดงก็คนไทยครับ  ที่นิยมชมชอบผลงานฉาบฉวยของทักษิณ  โดยไม่คิดถึงผลเสียระยะยาว   จนไปสนับทักษิณแบบเต็มตัว  ผสมกับการปราศรับแบบยุยงให้เกลียดชัง......ฝ่ายเห็นต่าง

ท่านพร้อมจะเสียสละเวลาตรงนี้ได้บ้างไหมครับ

ผมอยากเห็นพลังของโลกไซเบอร์อีกทาง  

เราไม่ใช่นักโพสต์รับจ้าง

เราโพสต์แล้วไม่ได้เงิน

เราโพสตืแล้วไม่มีใครรุ้จัก

เราจะยอมปิดทองหลังพระไหมครับ!!!!

ระบอบทักษิณ  ที่เป็นคำกล่าวอย่างกว้างขวางตอนนี้  ฝ่ายเสื้อแดงมักจะถามกลับเสมอว่า  ระบอบทักษิณที่กล่าวอ้างนั้นมันคืออะไร

บางครั้งผมเห็นฝ่ายต่อต้าน  ไม่สมารถจะให้คำจำกัดความแบบที่เป็นคำตอบที่สมเหตุสมผลได้  สำหรับผม  คิดว่าเป็นแบบนี้....

ระบอบทักษิณ  คือกาฝากระบอบประชาธิปไตย  ระบบรัฐสภา  อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป้นประมุข

เป็นกาฝากเพราะ 

แสวงหาอำนาจ  จากนโยบายประชานิยม  ซึ่งทำให้หลายประเทศล่มสลายทางเศรฐกิจมาแล้ว  แต่ยังนำมาใช้เพราะรุ้จักจุดอ่อนคนจน

เป็นกาฝากเพราะ 

แสวงหาผลประโยชน์ที่ทัยซ้อนกันระหว่างผลประโยชน์ของกลุ่มพวก  กับผลประโยชน์ของชาติ  หรือประโยชน์ของประชาชน  ถ้ามีใครคัดค้าน  เท่ากับขัดขวางผลประโยชน์ของชาติและผลประโยชน์ของประชาชน  ทั้งๆที่คนที่ขัดขวางพยายามขัดขวางผลประโยชน์ทับซ้อน

เป็นกาฝากเพราะ

การต่อสู้ของระบอบทักษิณ  ไม่ได้ต่อสู้ด้วยตัวเอง  แต่จะใช้ตัวแทน  กลุ่มคน  กลุ่มทุนมาสู้แทน  ทุกครั้งที่จะมีเหตุการณ์รุนแรง  ไม่เคยเห็นคุณทักษิณออกหน้าเผชิญเหตุการณ์โดยตรง  นอกจากยุยงกลุ่มที่สนับสนุน  ให้ใช้ความรุนแรงตามความประสงค์

เป็นกาฝากเพราะ 

ดูดกินทรัพยากรผ่านนโยบาย  ไม่ตรวจสอบ  ไม่จัดการ  การคอร์รับชั่น  ประกาศปราบคอร์รัปชั่นแค่คำพูด แต่ไม่มีจริงจังในภาคปฏิบัติ

สุดท้ายเป็นวัชพืช  ที่ไม่มีประโยชน์  แต่เจริญเติบโตอย่างยิ่งยวด  จนทำลายพืชอื่นๆโดยใช้อำนาจอย่างสุดกำลัง  ไม่มีธรรมภิบาล   ทำลายฝ่ายตรงข้ามทุกวิถีทาง  โดยใช้อำนาจของมวลชน  อำนาจเงิน  และสำคัญคืออำนาจรัฐ  

ไม่แน่ใจ  ถ้าจะกำจัดกาฝากระบอบทักษิณ  ต้นไม้ใหญ่อาจจะต้องเสียกิ่งใบ  สักเท่าไหร่....

คุณล่ะ  คิดว่าระบอบทักษิณ  เป็นแบบไหน???

เพราะเราไม่ยอมเหนื่อยยากหรือปล่าว.....

เพราะเราเอาแต่ง่ายเกินไปหรือปล่าว.....

เพราะเราไม่คิดจะยืนหยัดได้ด้วยตัวเองหรือปล่าว....

เพราะเราชอบทุนนิยมเกินไปหรือปล่าว....

เพราะเราหลงคิดว่าประเทศเราไม่ใช่เกษตรกรรมหรือปล่าว....

เพราะเราเห่อวัตถุเกินไปหรือปล่าว....

และเราไม่รุ้จักตัวเรา...รุ้จักประเทศเรา.....หรือปล่าว

หรือเราไม่ประมาณตน??

ทางธรรม   พระพุทธเจ้า  ทรงเป็นแค่ผู้ชี้ทาง......มรรคผลอยุ่กับผู้ปฏิบัติ

ทางโลก  ประเทศเรา  มีพระเจ้าแผ่นดินทรงเป็นผู้ชี้ทาง.....มรรคผล  ขึ้นอยุ่กับผู้ปฏิบัติ...

เรามีองค์พระประมุข  ที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว.....

เราจงใช้สติปัญญา  ก่อให้เกิดมรรคผล  ตามที่ทรงสั่งสอน  และดำริ  เถิด

อย่าสร้างภาระจนเกินตัว....ให้ลูกหลานเดือดร้อน

ผมเห็นฝ่ายต่อต้านทักษิณ  อ่อนกำลังลง  จริงๆครับ

ในขณะที่ฝ่ายทักษิณย่ามใจสุดๆไม่แคร์สื่อ

ใช้อำนาจอย่างเต็มที่

แพ้ไม่เป็นไรครับ  เสียหายใช่แค่ตัวผม 

ผมไม่ได้จนที่สุด  ลำบากที่สุด

สงสารแต่คนที่โดนกรอกข้อมูล   และไร้การวิเคราะห์ 

เกิดความลำเอียงเพราะรักข้างหนึ่งเกินไป  หรือเกลียดข้างหนึ่งจนเกินไป

ทั้งที่ความจริง  เรื่องของชาติ  เราไม่ควรเอาความรักและความชังมาเป็นเหตุผล

ควรเอาความถูกต้องมาเป้นเหตุผลในการตัดสินใจ

ผมเห็นทั้งสองฝ่าย  ด่าทอ  ท้าทาย  พร้อมจะฆ่ากันได้แค่ความเห็นต่าง....

หรือเพื่อตระกูลนักการเมือง.....แค่บางคน...บางตระกูล

ถ้าใครอ่านข้อความของผมแล้ว 

ขอก่อนหลับตานอน

ไตร่ตรอง....ใคร่ครวญ  ที่มาที่ไปของความแตกแยกในชาติครั้งนี้..

แล้วถามตัวเองว่า  ชาติได้อะไร....ถ้าเราเอาแค่ความสะใจ.....

คนแก่  ใช่ว่าแก่แล้วแก่เลย

เราหนุ่มสาว(ยกเว้นผม)   หลายคนยังขอตังค์คนแก่ลงทุนเลย   แล้วจะมาดูถูกคนแก่

โดยเฉพาะคนแก่ที่เคยอยุ่ตำแหน่งสูงจริง

ผ่านสนามรบจริง

ผ่านการแก้ปัญหาจริงๆ   อาจจะเหนือชั้นว่าที่พสกเราคิด

ดังข้อความที่ลอกมาให้อ่านครับ....

ม็อบ ปชป.เมื่อวานนี้(๗ ส.ค.๕๖) จบลง อย่างที่ หนังสือพิมพ์บางฉบับ พาดหัวตัวดำว่า “กร่อย” “จืดชืด” แต่ในทางตรงกันข้าม หากมองให้ลึกแล้วจะเห็นว่ามีความคมและ ความเฉียบแหลม อยู่ภายใน อย่างลึกซึ้งและอาจเป็นปมที่รัฐบาลจะต้องตามแก้ในอนาคตก็เป็นได้

ทำไมจึงมีทัศนะอย่างนั้น ? ที่มีทัศนะอย่างนั้นก็เพราะว่า

ประการแรก หลายฝ่ายโดยเฉพาะรัฐบาลประเมินสถานการณ์ครั้งนี้ไว้ว่า จะต้องมีความรุนแรงชนิดเลือดตกอย่างออก ถึงขั้นมีการบุกจับตัวนายกรัฐมนตรี จึงมีการประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคงฯ พร้อมระดมกำลังตำรวจจากส่วนภูมิภาคเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ จำนวนหลายหมื่นนาย สูญเสียงบประมาณหลายร้อยล้านบาท ทั้งมีการนำกำแพงคอนกรีตสูง มาปิดกั้นถนน รอบรัฐสภาหลายชั้น ประกาศปิดถนนหลายสาย มีตำรวจพร้อมอาวุธฯลฯ ยืนรักษาทางเข้าออกรัฐสภา เหมือนอยู่ในภาวะสงคราม แต่เมื่อเหตุการณ์กลับไม่เป็นไปตามที่ทางรัฐบาลประเมินไว้ ความชอบธรรมของรัฐบาลในการประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคงฯ จึงอ่อนด้อยลงไปอย่างมาก

ประการที่สอง การประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง ฯ ทั้งที่ยังไม่มีเหตุการณ์ที่กระทบความมั่นคงต่อประเทศเกิดขึ้น จะขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ จึงเป็นปัญหา ทางกฎหมาย ที่อาจต้องให้ศาลฯตีความในอนาคตและหาก ศาลฯตีความว่า การประกาศ พรบ.ความมั่นคงฯ ก่อนเหตุการณ์จะเกิด ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย รัฐบาลและคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีมติให้ใช้ พรบ.ฉบับนี้ จะรับผิดชอบอย่างไร ?

ประการที่สาม ถูกต้องแล้ว ที่ พรรคประชาธิปัตย์ สั่งให้มวลชนถอย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห้ามไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไป ในเขตหวงห้ามฯ เพราะหากฝ่าฝืน สั่งให้มวลชนลุยเข้าไป นอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้ว อาจมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และจะถูกประณามว่านำมวลชนมาบาดเจ็บ ล้มตาย ทั้งจะเป็นผู้ กระทำผิดกฎหมายเสียเอง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน

ประการสุดท้าย การต่อสู้ครั้งนี้ เป็นเพียงยกแรก ระฆังเพิ่งลั่นขึ้น คู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่ายจึงเพียงจดจ้องดูเชิงมวยกัน การด่วนลุยหนักเข้าต่อสู้อย่างบุ่มบ่าม อาจถูกน็อคเอ๊าต์ในยกแรกก็ได้

ด้วยเหตุผล ที่ยกมาข้างต้น จึงมองว่า เกมส์นี้ เป็นเกมส์ที่ลึกซึ้ง

ในขณะเดียวกัน หากมองอีกมิติหนึ่ง ฝ่ายที่เสียภาพพจน์ น่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล เสียแหละมากกว่า ทั้งนี้เพราะ

(๑) แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ปฏิบัติต่อประชาชน อย่างไม่เป็นประชาธิปไตย เช่น มีการสกัดกั้นประชาชนมิให้เข้าไปที่รัฐสภาซึ่งเป็นของประชาชน ทั้งที่ประชาชนเหล่านั้นมาด้วยมือที่ปราศจากอาวุธ แสดงให้เห็นว่าแท้จริงแล้ว มิได้เป็นเช่นนั้น

(๒) การประกาศ พรบ.ความมั่นคงฯในสภาวะปกติ มีการใช้กองกำลังตำรวจ และกองกำลังจัดตั้ง เข้าไปรักษาการณ์ตามจุดต่าง ๆ อย่างเต็มอัตราศึก แสดงให้เห็นถึง ว่ารัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลอำนาจนิยม ข่มขู่ประชาชน

ดังนั้น งานนี้ ดูคล้ายจะกร่อย แต่ ไม่กร่อย อยู่คล้ายจืดชืด แต่ไม่ จืดชืด.