เถกิง สมทรัพย์
ขิง + ตั๊น
รักแท้..หรือแค่..โปรโมท...
เมื่อครั้งที่ยังชุมนุมที่สวนลุมพินี...ผมมักจะเดินไปบอกกับใครต่อใครว่า ผมจะเปิดรับพนันแล้วล่ะว่า ขิงกับตั๊น รักกันจริงๆ...
คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย หัวเราะเล็กๆแล้วบอกผมว่า...พี่เถกิงโดนกินแน่ๆ
คุณแทน เทือกสุบรรณ บอกผมว่า เขาเป็นเพื่อนกันแต่เด็ก ..
โดยสรุป...ไม่มีใครคิดไปไกลขนาดที่ผมคิดในตอนนั้น คือ ความสัมพันธ์ของขิงกับตั๊นเป็นเพียง..รักโปรโมท
ณ ตอนนั้นผมก็คิดแบบนั้นแหละ...ผมก็เลยช่วยเขาโปรโมทไปด้วย เจอทั้งคู่ที่ไหนก็ถ่ายภาพอัพรูปบ่อยๆ แต่ผมก็ไม่เคยเขียนว่า ทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์มากไปกว่าเพื่อนรัก
ผลก็คือใครต่อใครก็พากันเริ่มสงสัยว่า จริงเหรอ..รักจริงเหรอ...(ดังที่เขียนไว้ในบทความชื่อ เขาเรียกผมว่า ป๋าดัน...)
แต่คนใกล้ชิดทั้งสองฝ่ายยังยืนยันว่า...แค่รักโปรโมท
ผมก็เกือบจะเชื่อแล้วว่าเป็นเพียง รักโปรโมท....
ยิ่งได้ยินตั๊นเรียกขิงแบบเพื่อนสนิทว่า...ไอ้ขิง....ผมก็เกือบจะเชื่อสนิทใจว่า เขาเป็นเพื่อนกันจริง
จนกระทั่ง...วันหนึ่ง...ไม่สิ..คืนวันหนึ่ง...เที่ยงคืนเศษ
เหตุการณ์ที่ทำให้ผมไม่เชื่อก็เกิดขึ้น....
มี LINE ข้อความหนึ่งมาถึงผม.....จาก...เอกนัฏ พร้อมพันธุ์
ข้อความเขียนว่า 555 พี่เถกิงงานเข้าแล้ว
พร้อมกับมีภาพจากเพจของสนุกดอทคอมที่เขียนเรื่องของตั๊นกับขิงลงไปและมีคนอ่านจำนวนมาก...
คุณผู้อ่านอาจคิดว่า ข้อความนี้ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้น ผมก็เห็นด้วย
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ตามประสาคนเคยจีบสาวมาก่อน (555) ผมเริ่มถามตัวเองว่า ทำไมขิงต้องส่งข้อความนี้ตอนเที่ยงคืน มันเหมือนตอนที่ผมหรือหนุ่มๆคนไหนก็ตามกำลังสนใจสาวสักคนหรือเปล่า มันตื่นเต้นที่จะได้บอกเล่าเรื่องราวแบบนี้ให้ใครฟัง
ทั้งตื่นเต้น ทั้งมีความสุข...
อย่าบอกนะว่าสาวๆไม่เป็น...เป็นทั้งนั้นแหละ
แล้วผมก็เริ่มเงี่ยหูฟัง ขิงกับตั๊น เป็นพิเศษกว่าเดิม...ยิ่งมีคนบอกว่า ทั้งสองคนนี้ไม่มีอะไร เป็นเพื่อนกัน...ผมยิ่งสนใจมากขึ้น
เวลาผมคุยเรื่องกระแสเชียร์ คู่จิ้น กับขิง...ผมรู้สึกเองว่า ขิงอารมณ์ดี...
หลายครั้งเวลาเราออกเดินกับลุงกำนัน...พอเหนื่อยๆหมดแรง หมดเรื่องการเมืองคุยกันแล้ว ขิงกับผมจะคุยเรื่อง คู่จิ้น...ผมรู้สึกเองว่า ขิงยิ้มระรื่น...
บางคนอาจบอกว่า ปรกติขิงเป็นคนอดทน ไม่เหน็ดไม่เหนื่อยอยู่แล้ว...ผมก็เห็นด้วยว่า ขิง อดทนเป็นเลิศ
ขนาดถูกคุมตัวช่วงแรกของรัฐประหารคุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ยังเล่าให้ฟังว่า ขิง นิ่งมาก ไม่บ่น ไม่โวยวาย เตียงนอนเก่าๆ เป็นสนิม ผ้าห่มหยาบๆ ห้องน้ำชำรุด...ก็อยู่ได้
เรื่องใจสู้และอดทนนี่..ไม่สงสัย
แต่แววตาที่สะท้อนความอดทนกับดวงตาเปื้อนยิ้มนี่มันถูกสั่งโดยหัวใจคนละห้อง…
ประกอบกับบุคลิกของ ขิง เป็นคนเปิดเผย..มองตาเห็นถึงหัวใจ...
ผมก็ไม่น่าจะเห็นอะไรอย่างอื่นข้างในนั้น
และหลายครั้งที่ผมเห็นบ่อยๆก็คือ ในเต้นท์หลังเวทีชุมนุม จะมีคนมาทำงานและแวะเวียนเข้ามามากมาย ขิงกับ ตั๊น ก็อยู่ด้วย...
แรกๆทั้งสองคนจะคุยกับคนนั้นคนนี้สนุกสนาน
แต่สุดท้ายเหมือนคนอื่นๆในห้องจะละลายหายไป...เหลือแค่สองคนคุยกันเหมือนโลกทั้งใบเหลือแต่พวกนายสองคน...
ขนาดลุงกำนันยังเคยแซวสองคนนี้เลยตอนไปเยี่ยมการบินไทยว่า ...นั่งห่างกันบ้างก็ได้...
เมื่อเกิดรัฐประหาร...ผมไม่ได้รับทราบข่าวของ ขิง กับ ตั๊น...
จนกระทั่งเมื่อวานนี้มี LINE จาก ขิง เข้ามาตอนใกล้เที่ยง...ผมก็นึกว่า จะมีข่าวหรือมีเรื่องการเมืองสำคัญ
แต่ปรากฏว่าเป็นรูป ขิง กับ ตั๊น นั่งด้วยกันที่สำนักงานอัยการสูงสุด
เจอกันครั้งแรกหลังจากแยกกันไปเกือบ 5 วัน
ผมหัวเราะแทบตกเก้าอี้...เพราะ ขิง ตั้งใจส่งมาให้ผมเอาลงเพจ
คงกะจะปลุกกระแส คู่จิ้น ต่อเนื่อง (ฮา)
ตกค่ำ อินสตราแกรม ของ จิตภัสร์ ลงภาพครอบครัวลุงกำนัน โดยมีจิตภัสร์กำลังกอดคุณศรีสกุล...
เขาทำงานกันเป็นทีม...(ฮา)
ผมก็รับมุก...ทั้งอัพภาพ เขียนเรื่องนิยาย...และทำมิวสิควิดีโอให้ด้วย เริ่มต้นด้วยเพลง “หนึ่งมิตรชิดใกล้” คนกดไลค์บานเบอะ และเข้าชมนับหมื่นชั่วข้ามคืน
พอส่งไปให้ ขิง เปิดชม...ขิง ตอบกลับมาว่า “ฟินอ่ะ...อยู่กับจิตภัสร์พอดี555”
วันนี้เลยทำมิวสิคมอบให้อีกเพลง...”เพื่อนสนิท” ของ ดา เอ็นโดฟีน
...เอาให้ ฟิน สุดๆกันไปเรยยยย
ปล. วันที่ไปเดินกันครั้งสุดท้ายก่อนรัฐประหารที่แถวๆหน้าโรงเรียนสวนกุหลาบฯ ผมบอกขิงว่า ผมท้าพนันไปแล้วเรื่องคุณกับตั๊น...ขิง หัวเราะดังลั่น แล้วถามว่า พนันเยอะไหมพี่...ผมตอบว่าไม่หรอก..แค่ 20-30 บาท
ตอนนั้นเสียงคนมารอรับร้องต้อนรับลุงกำนันดังมาก จนผมไม่ได้ยินเสียงตอบชัดๆจาก ขิง
แต่จับใจความได้ประมาณว่า ทำไมน้อยจัง...
อ่านจบ "ทุกอย่างในสายตาผม เป็นสีชมพูหมด" เพราะ สี font ของพี่นี่เองงงงงงงง โอ้ย "ปวดตา"