Jump to content


ใบย่านาง

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 12 ธันวาคม 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2557 23:59
-----

#1016864 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 19 มกราคม พ.ศ. 2557 - 18:11

 18 มกราคม 2557

น.พ. สันต์  ใจยอดศิลป์
 

ขอเขียนถึงการเมืองหนึ่งครั้ง และครั้งเดียว

 
บล็อกของผมพูดถึงแต่เรื่องสุขภาพการเจ็บป่วย จะนอกเรื่องบ้างก็เป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮาคลายเครียด เรื่องอื่นๆที่เป็นสาระแต่ไม่เกี่ยวกับสุขภาพไม่ว่าจะเป็นศาสนา หรือการเมือง ผมไม่เคยพูดถึงเลย ที่ผมไม่พูดถึงการเมืองนั้นมีเหตุผลสองอย่าง อย่างหนึ่งก็เพราะคนไข้ของผมมีทั้งสีเหลืองสีแดง ที่เป็น ส.ส. ก็มี ที่เป็นรัฐมนตรีก็มี มีทั้งฝ่ายเพื่อไทยและฝ่ายประชาธิปัตย์ แม้แต่ท่านผู้อ่านบล็อกนี้ก็มีทั้งเหลืองทั้งแดง ถ้าผมพูดเรื่องการเมืองไป ไม่ว่าจะพูดออกเหลืองหรือออกแดง ก็ต้องทะเลาะกับคนไข้ของผมเสียราวครึ่งหนึ่ง ดังนั้นผมเงียบเสียดีกว่า
 
แต่ว่ามาถึงวันนี้บ้านเมืองของเราได้เฉียดเข้าใกล้จวนแจจะตกขอบเหวของความหายนะ ผมจึงคิดว่าเป็นเวลาที่ผมควรแหกประเพณีของบล็อก ขอเขียนเรื่องการเมืองสักหนึ่งครั้ง ครั้งเดียว แล้วจะไม่เขียนถึงอีกเลย
 
อีกเหตุผลที่ผมไม่เคยเขียนเรื่องการเมืองมาก่อนก็คือผมเองเคยตั้งใจว่าจะทำงานเป็นหมออาชีพมุ่งใช้ชีวิตดูแลคนเจ็บไข้โดยจะไม่ยุ่งอะไรกับการเมืองอีกเลย ตั้งแต่หลังเหตุการณ์ตุลาคม 2519 เป็นต้นมา เหตุผลเรื่องนี้มันยาว แต่ผมเล่าคร่าวๆให้ท่านผู้อ่านได้ เพื่อจะได้เข้าใจเรื่องที่ผมจะเขียนวันนี้ คือหลังเหตุการณ์ที่นักศึกษาเดินขบวนขับไล่รัฐบาลทหารเมื่อ 14 ตุลาคม 2516 ผมก็เหมือนนักศึกษาในสมัยนั้นคนอื่นๆที่ฝักใฝ่การเมืองจนการเมืองเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตัวผมเองเป็นรองนายกองค์การนักศึกษาของมหา’ลัย ซึ่งมีงานหลักคือประสานงานม็อบต่างๆนอกมหา’ลัยมากกว่างานเรียนหนังสือ วาระหลักของขบวนการนักศึกษาสมัยนั้นมีเรื่องเดียว คือทำอย่างไรจะลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนลงได้ หรือที่เรียกว่า wealth distribution วิธีการที่พวกเราตกลงกันได้เป็นเอกฉันท์มีประเด็นเดียว คือต้องต่อต้านการคืนชีพของรัฐบาลเผด็จการทหารทุกรูปแบบ แต่การจะเดินหน้าไปอย่างไรโดยไม่มีเผด็จการทหารนั้น นักศึกษาเองก็แบ่งเป็นสองแนว แนวหนึ่งนิยมระบบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง อีกแนวหนึ่งเชื่อว่าระบบเลือกตั้งไม่เวอร์ค เพราะเปิดช่องให้พวกนายทุนขุนศึกศักดินาตามเข่นฆ่าทำลายผู้นำคนจน จำต้องก่อการปฏิวัติลุกฮือของชนชั้นกรรมาชีพ แล้วตั้งรัฐบาลเผด็จการของชนชั้นกรรมาชีพขึ้น เรียกง่ายๆว่าแนวทางคอมมิวนิสต์ พวกนิยมแนวทางหลังนี้บางคนก็ได้ไปติดต่อสื่อสัมพันธ์กับ พคท.(พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองนอกกฎหมายและทำงานอยู่ในป่า ตัวผมนั้นเป็นพวกไม่ชอบความรุนแรงและนิยมระบบเลือกตั้ง แม้ว่าอีกใจหนึ่งยังออกจะเห็นด้วยว่าท่ามันจะไม่เวอร์ค เพราะขณะที่พวกเราพยายามยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยอยู่นั้น ก็ได้เห็นผู้นำชาวนา ผู้นำกรรมกร ที่ลุกขึ้นมานำเรียกร้องเพื่อปากท้อง ได้ทะยอยถูก “เก็บ” หรือฆ่าตายอย่างทารุณไปหลายราย
 
แล้วทหารก็ทำรัฐประหารโหดเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 นักศึกษาจำนวนหนึ่งถูกฆ่าตาย บางคนถูกจับแขวนคอ อีกจำนวนมากหนีหัวซุกหัวซุน รวมทั้งผมด้วย ส่วนหนึ่งหนีเข้าป่าไปสมทบกับ พคท. แต่ผมหนีไปตั้งหลักไม่ไกล พอเห็นปลอดภัยก็กลับเข้าหอเรียนหนังสือต่อ ประสบการณ์ที่เหล่าผู้นำนักศึกษาได้รับจากการกระทำของขุนศึกในสมัยนั้น ผมบรรยายได้คำเดียวว่า.. “ยากที่จะลืม
 
ผมเองนั้นเป็นคนขี้ขลาด เมื่อเจอเข้าก็บอกตัวเองได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่วิธีที่ผมจะใช้ชีวิตที่ทอดยาวรอผมอยู่ข้างหน้าอีกหลายสิบปี จึงสาปส่งการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองตั้งแต่นั้น ช่วงประมาณปีพ.ศ. 2524 เมื่อเรียนจบไปเป็นหมอชนบท มีชาวบ้านนิยมนับถือมาก ก็มีคนมายุว่าคุณหมอน่าจะสมัครผู้แทน ผมได้แต่หัวเราะหึ..หึ ในช่วงเวลานั้น เมื่อไปกลับเยี่ยมบ้านเกิด เพื่อนๆมัธยมรุ่นเดียวกันซึ่งกระจายเป็นครูใหญ่ครูน้อยอยู่ทั่วเขตเลือกตั้งก็รุมชวนให้สมัครผู้แทนโดยอาสาว่าจะช่วย ผมก็ได้แต่หัวเราะหึ..หึ เพราะในใจผมต่อเรื่องการเมืองนั้นมีคำตอบชัดอยู่แล้ว
 
ช่วงตั้งแต่ปีพ.ศ. 2519 เป็นต้นมา เป็นช่วงที่เมืองไทยใกล้จวนแจจะเกิดสงครามกลางเมือง (civil war) หมายความว่าสงครามที่ชาวบ้านรบกับชาวบ้านด้วยกันเอง
 
ฝ่ายหนึ่งก็คือฝ่ายที่พวกเราเรียกว่า “นายทุน-ขุนศึก-ศักดินา” ซึ่งมีกำลังพลหลักเป็นชาวบ้านที่ถูกปลุกปั่นให้เกลียดชังพวกคอมมิวนิสต์ที่จะมาล้มเจ้า โดยพวกขุนศึกศักดินาได้ลงไปจัดตั้งมวลชนชาวบ้านขึ้นเป็นกลุ่มลูกเสือชาวบ้านทั่วประเทศ เอาไว้เป็นทัพหนุนของทัพหน้า ตัวทัพหน้าเองก็เป็นชาวบ้านที่พวกขุนศึกลงไปติดอาวุธให้โดยตรง เรียกว่า “ทหารพราน”
 
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งคือ พคท. ซึ่งมุ่งโค่นล้มนายทุน-ขุนศึก-ศักดินา และมุ่งสถาปนารัฐบาลเผด็จการโดยชนชั้นกรรมาชีพขึ้น ฝ่ายนี้มีกองกำลังเป็นชาวบ้านเช่นกัน แต่เป็นชาวบ้านที่ พคท. ได้ปลุกระดมให้สำเหนียกถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมและให้เจ็บแค้นต่อการถูกกดขี่ขูดรีด ส่วนที่เป็นมวลชนนั้นไม่ได้ติดอาวุธ แต่ส่วนที่เป็นแนวร่วม, เป้า ส. (หมายถึงคนที่จ่อคิวจะได้เป็นสมาชิกพรรค) และคนที่เป็นสมาชิกพรรคนั้น พคท.ได้ติดอาวุธให้ด้วย โดยที่ประมาณครึ่งหนึ่งของเพื่อนนักศึกษาที่ผมรู้จักและทำกิจกรรมด้วยกัน ได้มาอยู่กับฝ่าย พคท. 
 
ตรงกลางระหว่างสองฝ่ายนี้ก็คือพวกที่หวังอาศัยเวทีประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งในการแก้ปัญหา ซึ่งก็มีทั้งนายทุน ปัญญาชน คนชั้นกลางทั่วไป และนักการเมืองสายไม่รุนแรงซึ่งมีเพื่อนเก่าของผมอยู่ด้วยอีกจำนวนหนึ่ง
 
แต่เหตุการณ์ก็ผ่านมาได้อีกหลายปีโดยไม่มีสงครามกลางเมืองขนาดใหญ่จริงๆเกิดขึ้นนอกจากยุทธการป่าล้อมเมืองระดับไม่รุนแรง เพื่อนที่อยู่กับ พคท. ได้เล่าให้ผมฟังว่า พคท. เองมีโครงสร้างภายในที่ล้าหลังพัฒนาไม่ขึ้น ไม่มีศักยภาพพอที่จะก่อการปฏิวัติยึดอำนาจรัฐมาตั้งเป็นรัฐบาลเผด็จการของชนชั้นกรรมาชีพขึ้นได้ ท้ายที่สุด พคท. ก็ล่มสลายไป ขณะเดียวกันรัฐบาลป๋าเปรมได้เปิดอ้าแขนรับพวกเราที่เคยเข้าป่าไปอยู่กับ พคท. ให้กลับบ้าน พวกเราเกือบทั้งหมดก็กลับมา เพื่อนรุ่นพี่บางคนกลับมาเป็นหมอฝึกหัดอยู่ภายใต้ความดูแลของผมซึ่งตอนนั้นผมเป็นแพทย์ประจำบ้านแล้ว พวกเราที่กลับมา ได้รับการกระซิบจากฝ่ายขุนศึกว่าให้อยู่แต่ในกรุงเทพฯ คนที่เป็นหมอก็ให้เป็นหมอในกรุงเทพฯ ห้ามออกไปอยู่ชนบท คนที่ยอมเชื่อฟังก็ได้รอดชีวิตมา ซึ่งบางคนกลายมาเป็นผู้นำฮาร์ดคอร์ของมวลชนเสื้อแดงอยู่ในวันนี้ เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งกลับมา เขาไม่ยอมอยู่ในกรุงเทพ แต่ไปทำร้านอาหารอยู่ริมน้ำโขงที่เชียงราย แล้ววันหนึ่งเขาก็ถูกตาม “เก็บ” ตายคาร้านของเขาอย่างโหด***มทารุณ
 
พวกเพื่อนๆที่ยังมีหัวคอมมิวนิสต์ได้เคยเปรยให้ผมฟังว่า เมื่อหมดสิ้น พคท. สำหรับคนชั้นกรรมาชีพ การจะยึดอำนาจรัฐมองไม่เห็นทางอื่น มีทางเหลืออยู่ทางเดียวคือต้องสามัคคีกับนายทุน ซึ่งเขาใช้คำว่า “นายทุนชาติ” เพื่อชิงอำนาจรัฐมาให้ได้ก่อน เมื่อได้แล้วก็ค่อยใช้อำนาจนั้นมากระจายรายได้หรือสร้าง wealth distribution ภายหลัง นั่นหมายความว่าการปฏิวัติต้องทำเป็นสองก๊อก ก๊อกแรก กรรมาชนสามัคคีกับนายทุนชาติโค่นล้มขุนศึกศักดินา ก๊อกสองกรรมาชนค่อยมาโซ้ยกับนายทุนชาติซะเองต่อเพื่อบังคับเฉลี่ยความรวยมาให้คนจน 
 
ต่อมา ประมาณปี 2544 ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ได้มี “นายทุนใหญ่ใจถึง” เข้ามาเล่นการเมืองด้วยวิธีใช้เงินจำนวนมากซื้อสส.เข้าคอก เพื่อนผมที่เป็นนักสังคมนิยมแนวทางรุนแรงหลายคนได้เข้าไปซุกปีกนี้ พรรคของ “นายทุนใหญ่ใจถึง” ชนะเลือกตั้งอย่างง่ายดาย เรียกว่าวิธีซื้อแบบนี้ทำให้ได้อำนาจรัฐมาง่ายๆโดยแทบไม่ต้องเปลืองเลือดเนื้อเลย เพื่อนผมหลายคนแฮปปี้ ได้เป็นรัฐมนตรี และได้ผลักดันนโยบายที่หากจะเรียกจากมุมของพวกสังคมนิยมก็เรียกได้ว่าเป็นนโยบายกระจายรายได้ แต่พวกนายธนาคารเรียกว่านโยบายประชานิยม ในบรรดานโยบายเหล่านี้ ผมเห็นมีอยู่สองเรื่องที่มีผลดีต่อคนชั้นกรรมาชีพอย่างเป็นรูปธรรม คือนโยบายสามสิบบาทรักษาทุกโรค กับนโยบายกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งหากไม่มี "นายทุนใหญ่ใจถึง" ให้อาศัยใบบุญ สิ่งนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น
 
แต่ฮันนิมูนระหว่างนักสังคมนิยมหัวรุนแรงกับ “นายทุนใหญ่ใจถึง” มีอยู่ได้ไม่กี่ปี ปัญหาที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะมิชชั่นที่แท้จริงของ “นายทุนใหญ่ใจถึง” คือการสร้างอำนาจผูกขาดถาวรด้วยการกอบโกยกักตุนทุนทรัพย์ไว้สร้างอำนาจให้ตัวเองและครอบครัวต่อๆกันไปไม่สิ้นสุด มิชชั่นนี้ก่อความไม่พอใจในหมู่นายทุนอื่นที่ถูกกีดกันไม่ให้ได้เอี่ยวในผลประโยชน์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทุนที่อิงอยู่กับขุนศึกศักดินา พวกอื่นที่ไม่พอใจก็มีนักการเมืองที่อยู่คนละพวก  (ซึ่งก็มีเพื่อนของผมอีกจำนวนหนึ่ง) และปัญญาชนคนชั้นกลางที่ต้องการให้ใช้หลักผิดชอบชั่วดีในการดูแลบ้านเมือง ทั้งสามพวกนี้ได้สามัคคีกับพวกขุนศึกศักดินาโค่นล้ม “นายทุนใหญ่ใจถึง” ซึ่ง “นายทุนใหญ่ใจถึง” ก็ทราบดี จึงด้านหนึ่งได้ใช้ยุทธการปลุกระดมและจัดตั้งมวลชนคนยากจนในชนบทไว้เป็นเกราะกันชนปกป้องตัวเองจากพวกขุนศึก อีกด้านหนึ่งได้ลงมือ “ซื้อ” ขุนศึกส่วนหนึ่งมาเป็นพวกของตน ในวันที่ถูกทหารทำรัฐประหารล้มรัฐบาลของตัวเองเมื่อปีพ.ศ. 2549 ตอนนั้นตัว “นายทุนใหญ่ใจถึง” อยู่ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อนคนหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับเขาเล่าให้ผมฟังว่านาทีแรกที่ได้รับรายงานข่าวรัฐประหาร นายทุนใหญ่ใจถึงเอ่ยปากถามว่า
 
“ใครทำ.. พวกเราหรือเปล่า?”
 
นั่นหมายความว่าย้อนหลังไปไกลถึงแต่สมัยนั้น (2549) การซื้อขุนศึกไว้เป็นพวกของตนก็ได้ดำเนินไปจนถึงจุดที่หากจะใช้ก่อรัฐประหารก็ทำได้แล้ว เพียงแต่ว่ากลุ่มขุนศึกที่ชิงลงมือในวันนั้นเป็นอีกพวกหนึ่ง การแพ้เกมกันในชั่วเวลาสั้นๆที่นับกันเป็นชั่วโมงนี้ทำให้ “นายทุนใหญ่ใจถึง” ต้องระเห็จไปอยู่ต่างประเทศและยังไม่ได้กลับเมืองไทยจนทุกวันนี้
 
การรัฐประหารโค่นล้ม “นายทุนใหญ่ใจถึง” ได้สำเร็จในปี 2549 ทำให้ฝ่ายต่อต้าน “นายทุนใหญ่ใจถึง” กล้าแข็งขึ้น ฝ่าย “นายทุนใหญ่ใจถึง” เองกลับต้องสาละวนตกเป็นฝ่ายตั้งรับ จนชีวิตของเพื่อนๆนักสังคมนิยมที่ไปซุกอยู่ในปีกของ ” นายทุนใหญ่ใจถึง” ทุกวันนี้ไม่มีเวลามาคิดเรื่อง wealth distribution อีกต่อไปแล้ว เพราะต้องมัวแต่ยุ่งอยู่กับการต่อสู้เพื่อธำรงรักษาอำนาจรัฐผ่านการใช้เงินและลูกเล่นทุกรูปแบบโดยเลิกคำนึงถึงหลักผิดชอบชั่วดีไปเลย ขอเพียงยืดเวลายึดกุมอำนาจรัฐออกไปให้ได้อย่างเดียว นโยบายประชานิยมซึ่งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของการกระจายรายได้ที่เคยได้ผล ได้แปลงรูปมาเป็นวิธีหาเสียงแบบสุกเอาเผากินและก่อปัญหามากกว่าแก้ปัญหา เพื่อนๆของผมทุกคนดูเหมือนจะลืมพันธะกิจหลักที่จะ distribute wealth ไปหมดสิ้น ปัญหาพื้นฐานของคนจน ถ้าไม่นับเรื่องการรักษาพยาบาลซึ่งทำได้ดีเสียเรื่องหนึ่งแล้ว เรื่องอื่นยังไม่ได้รับการแก้ไขเลยแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเกือบสิบปี ปัญหาคนจนไร้ที่ดินทำกินซึ่งเป็นที่มาของ “ม็อบปากมูล” ที่หนังสือพิมพ์เคยขนานนามว่าม็อบตลอดกาล เคยมีอยู่อย่างไร ก็ยังมีอยู่อย่างนั้น ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะปฏิรูปที่ดิน ปัญหาชาวนามีต้นทุนการผลิตสูงและผลผลิตคุณภาพต่ำก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาการกระจายอำนาจและงบประมาณไปชนบทที่รัฐธรรมนูญบังคับไว้ นอกจากจะไม่ได้ทำแล้วยังถูกระงับอีกต่างหาก ส่วนใหญ่เพื่อนๆเผลอลืมเพราะเผลอไปยึดติดเงินและอำนาจซึ่งเป็นเพียงเครื่องมือที่จะบรรลุเป้าหมายแทนการมุ่งมั่นที่ตัวเป้าหมายเองเสียฉิบ กิจกรรมปกป้องอำนาจนี้ทำกันโดยทิ้งหลักผิดถูกชั่วดีไปหมด มุ่งเอาแต่ชนะและยึดกุมอำนาจรัฐให้ได้ ทำกันอยู่นานตลอดเกือบสิบปีที่ผ่านมา จนทำให้รากวัฒนธรรมของสังคมไทยสั่นคลอนเหมือนต้นไม้ที่ถูกดึงให้รากบางส่วนขาด สังคมไทยทุกวันนี้ไม่มีใครสนใจแยกแยะความชั่วความดีออกจากกันอีกต่อไปแล้ว คนระดับนำของสังคมและอาจารย์มหา'ลัยพูดออกโทรทัศน์ว่าชั่วหมายความว่าดีได้อย่างหน้าตาย และคนไทยทุกคนก็มีส่วนร่วมกันปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น อย่างน้อยก็ด้วยการทำตัวเป็น “ไทยเฉย” ดังนั้นการที่ประเทศชาติของเราเดินมาจนถึงจุดนี้ได้ จึงเป็น “กรรมหมู่” ที่คนไทยทุกๆคนร่วมกันก่อ จะโทษกันและกันไปก็ไร้ประโยชน์
 
          หลังการรัฐประหารและโดนกลศึก "ตุลาการภิวัฒน์" จนต้องหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ “นายทุนใหญ่ใจถึง” ได้ใช้ความพยายามผ่านรัฐบาลหุ่นของตนเพื่อกลับมามีอำนาจเต็มอีกครั้งให้ได้ โดยทำการอย่างไม่คำนึงถึงหลักผิดชอบชั่วดีใดๆ การกระทำดังกล่าวได้ก่อให้เกิดพลังต่อต้านขึ้นใหม่ในสังคม คือกลุ่มคนชั้นกลางที่ยังเชื่อมั่นเรื่องผิดชอบชั่วดี กลุ่มนี้ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากพันเป็นหมื่น จากหมื่นเป็นแสน จากแสนเป็นล้าน จากล้านเป็นหลายล้าน  และขยายข้ามชั่วอายุจากคนรุ่นเก่าลงไปถึงคนรุ่นใหม่ เรียกว่าเป็นการฮึดสู้ของ “ไทยเฉย” ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และคนกลุ่มนี้ได้แสดงเจตนาที่จะเข้ามาสร้างระบบการเมืองที่มีพื้นฐานอยู่บนสำนึกผิดชอบชั่วดีขึ้นมาใหม่
          
     สังคมไทยได้เดินมาถึงปากเหวที่อาจเกิดสงครามกลางเมืองอีกครั้ง ซึ่งดูจะเป็นปากเหวที่ลึกและอันตรายกว่าครั้งก่อน หากสังคมไทยถลำเข้าสู่สงครามกลางเมืองคราวนี้ มันจะยืดเยื้อเรื้อรังไม่มีวันจบและประเทศชาติจะทรุดโทรมราวกับร่างกายของคนป่วยเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจายนั่นเทียว เพราะกำลังพลแต่ละฝ่ายนั้นมหึมามหาศาลก้ำกึ่งกัน ชนิดที่ว่าหากทั้งสองฝ่ายฆ่าฝ่ายตรงข้ามตายได้หมด ประเทศไทยก็แทบไม่เหลือคนเดินถนนเลย
 
ฝ่ายหนึ่งก็คือมวลชนคนยากคนจนในชนบท ซึ่งโดยการปลุกปั่นของพวกเพื่อนๆนักสังคมนิยมแนวเผด็จการ พวกเขาถูกปั่นจนมีความเชื่อว่าชีวิตจะดีขึ้นถ้าปกป้อง “นายทุนใหญ่ใจถึง” ไว้เป็นพวกตน และทำลายล้างพวกขุนศึกศักดินาหรืออำมาตย์ให้สิ้นซากไปเสีย พวกตนก็จะได้ธำรงรักษาอำนาจรัฐที่พวกตนสามารถมีส่วนร่วมไว้ได้ และอนาคตก็จะแก้ปัญหาการปันส่วนผลผลิตที่ไม่เป็นธรรมที่เป็นเหมือนหัวอกกลัดหนองคนจนมาตลอดได้
 
          อีกฝ่ายหนึ่งคือ ไทยเฉยฮึดสู้ ซึ่งประกอบขึ้นจากนายทุนน้อย นักการเมืองที่สู้สนามเลือกตั้งที่ใช้เงินไม่ได้ ปัญญาชน-คนชั้นกลางที่ทนสังคมแบบไร้ความผิดถูกชั่วดีอีกต่อไปไม่ไหว ฝ่ายนี้นอกจากจะถูกปลุกจิตสำนึกให้ลุกขึ้นมา "กู้ชาติ" แล้ว ยังถูกทำให้เชื่อว่าการจะนำประเทศกลับมาเป็นสังคมที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีใหม่ได้อีกครั้งนั้น ไม่มีวิธีอื่นนอกจากต้องกำจัด “นายทุนใหญ่ใจถึง” และบริวารให้สิ้นซากไปเสียก่อน
 
ในท่ามกลางกำลังรบอันเปรียบเสมือนฝูงจิ้งหรีดข้างละฝูงนี้ ตรงกลางก็คือนักปั่นจิ้งหรีด ซึ่งนั่งกันอยู่สองมุม มุมหนึ่งคือ “นายทุนใหญ่ใจถึง” อีกมุมหนึ่งคือขุนศึกที่นายทุนใหญ่ยังซื้อไม่สำเร็จ ซึ่งผมขอเรียกง่ายๆว่า "ขุนศึกศักดินา" ก็แล้วกัน ดูจากเรคคอร์ดของนักปั่นจิ้งหรีดที่นั่งประจำที่ทั้งสองมุมแล้ว งานนี้คงหลีกเลี่ยงการฆ่ากันตายเป็นเบือได้ยาก เพราะนายทุนใหญ่นั้นมีเรคคอร์ดที่ชัดเจนจากทั้งกรณี “ยิงทิ้ง” ขี้ยาสองพันกว่าศพ กรณีกรือเซะ กรณีตากใบ กรณีเผาราชประสงค์ ส่วนเรคคอร์ดของฝ่ายขุนศึกศักดินานั้นก็ใช่ย่อย ผมเองเคยเห็นกับตามาแล้วสมัยเป็นนักศึกษา รวมทั้งการถูกฆ่าตายของเพื่อนสนิทของผมเองที่ริมฝั่งโขง ซึ่งผมขออนุญาตไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บนะครับ

ไปภายหน้าเมื่อเล่าขานให้ลูกหลานฟัง มันจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่เหลือเชื่อ ที่มวลชนจำนวนมหาศาลสองฝ่ายมารบกัน ต่างฝ่ายต่างก็มีวาระของตัวเองอยู่ในมือ แต่เมื่อเปิดโผออกมา วาระของแต่ละฝ่ายนั้นกลับเป็นคนละเรื่อง และไม่ได้ขัดแย้งอะไรกันเลย แบบนิทานชาวนาสามคน คนหนึ่งอุ้มไก่ อีกคนอุ้มห่าน แล้วต้องมาตบตีกันเพราะชาวนาคนที่สามบอกว่าไก่กับห่านของทั้งสองคนจะจิกตีกันจนทำให้สัตว์เลี้ยงของฝ่ายตรงข้ามตาย ทั้งๆที่ในชีวิตจริง ไก่บ้าที่ไหนจะมาจิกตีกับห่าน
 
วันจันทร์นี้ผมจะไปเดินถนนร่วมกับพี่ๆน้องๆหมอๆและพยาบาล ตามนัด ด้านหนึ่งไปเดินเพื่อให้น้องๆเกิดความรู้สึกอบอุ่นว่าขณะที่พวกเขาออกมาช่วยประชาชนคนเจ็บไข้ในสนาม ผมซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่แก่แล้วได้ให้ความชื่นชมและสนับสนุนการธำรงเกียรติของวิชาชีพที่พวกเขาได้ทำ อีกด้านหนึ่งก็เพื่อร่วมเป็น “ไทยเฉยฮึดสู้” อีกคนหนึ่ง ที่อยากแสดงออกถึงความอยากเห็นสังคมไทยกลับมาเป็นสังคมที่เปี่ยมสำนึกผิดถูกชั่วดีดังเดิม ทั้งนี้โดยไม่ได้ให้ราคาอะไรกับพวกนักปั่นจิ้งหรีดที่อยู่เบื้องหลังไม่ว่าข้างไหนแม้แต่น้อย
 
ทุกครั้งที่ผมไปเดินก่อนหน้านี้ ผมพยายามมองหาทางออกของสังคมไทยที่เป็นรูปธรรมแต่ก็ยังมองไม่เห็น ผมไม่อาจคาดเดาได้ว่าผลสุดท้ายของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร บนนาทีที่ใกล้ถึงจุดหักล้างกันนี้ ผมยังมองไม่เห็นว่าจะมีโอกาสที่ฝ่ายหนึ่งซึ่งก็คือคนจนในชนบทที่ต้องการการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม กับอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งก็คือไทยเฉยฮึดสู้ที่ต้องการฟื้นฟูสังคมที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกลับขึ้นมาใหม่ จะได้มีโอกาสจูนความต้องการของกันและกัน และสร้างสรรค์สังคมใหม่ร่วมกันโดยไม่ถูกปั่นให้ฆ่าฟันกันได้อย่างไร เพราะ
 
ตราบใดที่ยังมีนักปั่นจิ้งหรีดหน้าเดิมนั่งประจำที่ทั้งสองมุมอยู่ โอกาสที่จะไม่ฆ่าฟันกันนั้นผมคิดว่า...ไม่มีเลย
 

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

ข้อเขียนของคุณหมอ สันต์ ใจยอดศิลป์
ทำให้มองภาพรวมได้ชัดเจน

http://visitdrsant.b...og-post_18.html

 




#1016154 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 19 มกราคม พ.ศ. 2557 - 11:49

ที่มาของ respect my vote คือกีอบเค้ามา
จากเพจ เจ๊ปอง (เจ้ปอง อ้างจากเพจ พี่อ่ำ)

 

แคมเปญ "Respect My Vote!" รณรงค์ให้คนหนุ่มสาวชาวผิวสีในอเมริกันออกมาเลือกตั้ง หันมาสนใจรักษาสิทธิและออกมาใช้สิทธิของตนเองมากขึ้น
"ฮิปฮอป คอคัส" เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร เน้นเรื่องสิทธิความเท่าเทียมของคนผิวสีทั้งในด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจ สวัสดิการรัฐ และการศึกษา CR: @A_Kawin
1526296_748495665170168_215360525_n.jpg
 

 

 

 

เพิ่มเติม จาก กูเกิ้ล
http://politic.boxza.com/news/7024

 

   คำว่า RESPECT MY VOTE ถ้าแปลตามแบบฉบับภาษาอังกฤษ ก็คือ เคารพในสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงของฉัน ซึ่งประโยคนี้ เคยถูกเป็นแคมเปญในการรณรงค์เพื่อให้คนหนุ่มสาวโดยเฉพาะในกลุ่มคนผิวสี ให้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยอาศัย ดนตรีและวัฒนธรรมฮิปฮอป (Hip-Hop) ของคนผิวสีเป็นสื่อประกอบ

 

    โดยองค์กรที่ดำเนินการรณรงค์นี้เรียกว่า Hip Hop Caucus (HHC) ซึ่งเป็นองค์กรระดับชาติในสหรัฐฯ มีวัตถุประสงค์ในการเคลื่อนไหวเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางการเมืองให้คนหนุ่มสาวที่มีสิทธิในการเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิใช้เสียงของตน
 


 




#1016116 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 19 มกราคม พ.ศ. 2557 - 11:33

จากเฟส หลวงปู่https://www.facebook.com/buddha.isara

ดูที่พวกมันทำกับพระองค์ท่าน
ในระหว่างที่เดินขบวนนั้น บนถนนมีเหรียญที่หันด้านมีรูปพระเจ้าอยู่หัวฝังอยู่ตลอดทาง เพื่อให้ประชาชนเหยียบย่ำ พวกเราต้องช่วยกันแงะเหรียญออกมากันตลอดทางที่พบเจอ

10041_10152131480728446_711807164_n.jpg

47576_10152131480958446_964561580_n.jpg

 




#1016069 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 19 มกราคม พ.ศ. 2557 - 11:12

คุณสุกี้น้อย พาไปหาหมอแล้วหรือคะ
ช่วงนี้ต้องดื่มน้ำเกลือแร่เยอะๆเลยค่ะ ขอให้หายไวๆ




#1014942 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 18 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:15

ชอบคำพูดที่คุณนิติธร กล่าวไว้ตอนท้ายมาก

“ ผมเชื่อว่าการต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเป็นคนไทยที่สุดคือ การต่อสู้เพื่อล้มรัฐบาลทรราชย์ให้ได้ ถือเป็นการต่อสู้ที่มีคุณค่าที่สุดของชีวิตแล้ว ฉะนั้นผมต้องทำและเดินหน้าให้สำเร็จ”

ขอบคุณ คุณkanokporn ที่นำมาแชร์ให้อ่านกันค่ะ


image.jpg



ปล. ขอภาพมาจากกูเกิ้ล เป็นข่าวในรอยเตอร์


#1014680 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 18 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:50

ข้อคิดขัอเขียนดีๆอีกจาก
https://www.facebook.com/nuttaputch
เห็นกลุ่มคนออกมาจุดเทียนกันเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงและพยายามโยนความรับผิดชอบให้กับม็อบว่าจะนำไปสู่ความรุนแรง

เอาจริงๆ นะ ตั้งแต่ม็อบมาอยู่ตรงหน้าออฟฟิศผม ผมยังไม่เคยเห็นความรุนแรงอะไร ในทางกลับกับ เวทีสวนลุมพินีกลายเป็นเสมือนถนนคนเดินที่คนทำงานแถวนั้นก็เดินกันอย่างชื่นมื่น ผู้คนที่เดินสวนไปมาก็ไม่มีรังสีอาฆาตแค้น ไม่ได้มีบรรยากาศของความรุนแรงอย่างที่หลายๆ คนพยายามโยนให้กับการชุมนุม

ในความคิดของผม ผมว่าม็อบและชุมชนที่ม็อบไปชุมนุมนั้นหาทางที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้อย่างรวดเร็ว ผมสังเกตที่ถนนสีลมกลายเป็นพื้นที่ที่คนมาพูดคุย ยิ้มแย้มให้กัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน (แม้ว่าจะมันจะทำให้หลายคนๆ รวมทั้งผมไม่สะดวกในการเดินทางขึ้นบ้างก็เถอะ)

อะไรล่ะคือความรุนแรงที่ออกมาเรียงร้อง ออกมาพยายามปลุกปั่นให้คนมองว่าภาพของม็อบคือกลุ่มคนที่เกรี้ยวกราด กลุ่มคนที่จ้องจะพังทลายความมั่นคง

ในทางกลับกัน ผมลองมองไปดูว่าใครกันคือกลุ่มที่พยายามปลุกปั่นให้เราออกมายุติความรุนแรง? นั่นคือกลุ่มคนที่เคยนำพาพวกเราไปสู่ความรุนแรงจริงๆ จนพวกเราต้องตกอยู่ในภาวะมืดหม่นอยู่พักใหญ่ๆ ไม่ใช่หรือ? (แม้ว่าพวกเขาจะปฏิเสธว่าที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือพวกเขาตราบจนวันนี้ก็เถอะ)

ณ วันนี้ "ความรุนแรง" กลายเป็นอีกหนึ่งวาทกรรมที่ถูกยกขึ้นมาพูดย้ำทั้งที่มันยังไม่ได้เกิดขึ้นจากผู้ชุมนุมเลยด้วยซ้ำ ในทางกลับกัน เหล่าผู้ชุมนุมต่างหากที่ถูกใช้ "ความรุนแรง" เข้าใส่

สำหรับผม ผมอดถามไม่ได้ว่าวันนี้ "ความรุนแรง" ที่ถูกยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างนั้น แท้จริงแล้วคือยากให้เรายุติความรุนแรงหรืออยากให้ยุติอะไรกัน? ข้อเรียกร้องคือปกป้องสันติภาพ หรือจริงๆ คือจะปกป้องอย่างอื่นกันแน่?


image.jpg


#1014505 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 18 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:15

เรื่องระเบิด ต้องยืมสำนวนคุณอรรถวิทย์ ในรายการวันก่อนมาบอกว่า
ฝั่งเรา กะ ฝั่งเขา มีชุดความคิดคนละชุด ไม่เหมือนกัน
เพียงแต่ฝั่งเรา พี่ประคองเขาเสียชีวิต ฝั่งเราเกิด การสูญเสีย

มีเพียงชุดความคิดเดียวคือ พี่เค้าโดนระเบิดเสียชีวิตจริง และขอให้ผลกรรมตามสนองผู้บงการและผู้กระทำในไม่ช้า

กฏแห่งกรรม มีชุดเดียว ไม่แปรเปลี่ยนค่ะ



เข้ามาแก้ที่พิมพ์ผิดค่ะ


#1014487 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 18 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:09

Lookzao Khaewsuwan   พนักงานบีทีเอสเอกมัย,,ด้วยสายงานแล้วเป็นพนง.บริการไม่ใช่หรอ,,ไม่อยากเหนื่อยก็ลาออกไปสิ !! ว่างๆไปเยี่ยมเธอได้เผื่อจะหายเหนื่อย ,,,
 1559790_10201187947529559_1551541884_n.j

แชร์ไปให้เยอะๆครับ เอามันให้จมครับ เอาให้มันรู้ว่านรกมีจริง ดูสิว่ามันจะรอดไหม
bts ไม่ไล่ออก หราๆๆ ????
 
แคป ส่งไปให้เพื่อนที่อยู่ทีมการตลาดของ BTS แล้ว
ฝากข้อความไปด้วย...
 
" ..(ชื่อเพื่อน)...พนักงานที่เค้าไม่อยากทำงานแบบนี้
นายยังจะเก็บไว้อีกเหรอ... นายก็น่าจะช่วยสงเคราะห์
น้องเค้าหน่อยน่ะ...ช่วยให้เค้าไปกลับไปนอนอยู่ที่บ้าน
ไม่ต้องมานั่งทำงานให้เหนือย...
 
ใจเย็นครับ บางทีเธอคนนี้อาจเป็นเหยื่อใครสักคน
ผมตามไปดูแล้วไม่เห็นมีอะไรที่บ่งบอกเลยนะครับว่ามีข้อความแบบนี้
อาจจะถูกลบทิ้งไปแล้ว แต่ผมตามเช็คย้อนไปก็ไม่มีร่องรอยที่แสดงว่าเป็นเป็นปฎิปักษ์กับใครที่ไหน
ทั้งเพื่อนที่มีก็ไม่เห็นว่ามีใครที่ส่อแววใดๆนะครับ
อย่าด่าใครโดยไม่เช็คดูด้วยตัวเองเลยครับ 
บอกตรงๆนะครับผมเองไม่เคยไว้ใจใคร แม้แต่คนในบอร์ดนี้
เพราะคนเรามันพลาดกันได้ ก็เห็นกันอยู่บ่อยๆ คงไม่ต้องบอกซ้ำ
ช่วยๆกันดูครับ ดับเบิ้ลเช็ค ไม่งั้นเราจะกลายเป็นคนโดนเขาหลอกใช้
 https://www.facebook.com/SWEETYZAOZIIZ
เธอพึ่งแชร์ข้อมูลของ เพจศูนย์ต่อต้าน พรบ. นิรโทษกรรม เกี่ยวกับเรื่องความผิดของทักษิณ เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาอยู่เลยนะครับ 
ถ้ายังไงตรวจสอบเรื่องนี้ก่อนดีกว่านะครับ

ขอโทษนะคะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด เจ้าของเฟสดังกล่าว กำลังกล่าวตำหนิ หญิงสาวที่เธอแคปภาพมา (Ze'n laoMZ ) ว่า ถ้าเหนื่อยนักก็ออกไปสิ เป็นพนักงานบริการไม่ใช่เหรอ
แต่ตัวเจ้าของเฟส เป็นพนักงานbtsเอกมัย ถ้าผิดก็ขออภัยค่ะ
ผมเบลอจริงๆ 555  ขอโทษครับ ^^

อ่านอีกที น้องอาจกำลังตำหนิสาวบีทีเอสเอกมัยในภาพน่ะค่ะ ตอนแรกอ่านก็เข้าใจเหมือนคุณ jsn กับคุณ wisaryเหมือนกันค่ะ
ดีค่ะ ช่วยๆกันตรวจสอบ ถูกตัองแล้วค่ะ


#1014471 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 18 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:01

Lookzao Khaewsuwan พนักงานบีทีเอสเอกมัย,,ด้วยสายงานแล้วเป็นพนง.บริการไม่ใช่หรอ,,ไม่อยากเหนื่อยก็ลาออกไปสิ !! ว่างๆไปเยี่ยมเธอได้เผื่อจะหายเหนื่อย ,,,

1559790_10201187947529559_1551541884_n.j

แชร์ไปให้เยอะๆครับ เอามันให้จมครับ เอาให้มันรู้ว่านรกมีจริง ดูสิว่ามันจะรอดไหม
bts ไม่ไล่ออก หราๆๆ ????

แคป ส่งไปให้เพื่อนที่อยู่ทีมการตลาดของ BTS แล้ว
ฝากข้อความไปด้วย...

" ..(ชื่อเพื่อน)...พนักงานที่เค้าไม่อยากทำงานแบบนี้
นายยังจะเก็บไว้อีกเหรอ... นายก็น่าจะช่วยสงเคราะห์
น้องเค้าหน่อยน่ะ...ช่วยให้เค้าไปกลับไปนอนอยู่ที่บ้าน
ไม่ต้องมานั่งทำงานให้เหนือย...

ใจเย็นครับ บางทีเธอคนนี้อาจเป็นเหยื่อใครสักคน
ผมตามไปดูแล้วไม่เห็นมีอะไรที่บ่งบอกเลยนะครับว่ามีข้อความแบบนี้
อาจจะถูกลบทิ้งไปแล้ว แต่ผมตามเช็คย้อนไปก็ไม่มีร่องรอยที่แสดงว่าเป็นเป็นปฎิปักษ์กับใครที่ไหน
ทั้งเพื่อนที่มีก็ไม่เห็นว่ามีใครที่ส่อแววใดๆนะครับ
อย่าด่าใครโดยไม่เช็คดูด้วยตัวเองเลยครับ
บอกตรงๆนะครับผมเองไม่เคยไว้ใจใคร แม้แต่คนในบอร์ดนี้
เพราะคนเรามันพลาดกันได้ ก็เห็นกันอยู่บ่อยๆ คงไม่ต้องบอกซ้ำ
ช่วยๆกันดูครับ ดับเบิ้ลเช็ค ไม่งั้นเราจะกลายเป็นคนโดนเขาหลอกใช้

https://www.facebook.com/SWEETYZAOZIIZ
เธอพึ่งแชร์ข้อมูลของ เพจศูนย์ต่อต้าน พรบ. นิรโทษกรรม เกี่ยวกับเรื่องความผิดของทักษิณ เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาอยู่เลยนะครับ
ถ้ายังไงตรวจสอบเรื่องนี้ก่อนดีกว่านะครับ


ขอโทษนะคะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด เจ้าของเฟสดังกล่าว กำลังกล่าวตำหนิ หญิงสาวที่เธอแคปภาพมา (Ze'n laoMZ ) ว่า ถ้าเหนื่อยนักก็ออกไปสิ เป็นพนักงานบริการไม่ใช่เหรอ
แต่ตัวเจ้าของเฟส เป็นพนักงานbtsเอกมัย ถ้าผิดก็อภัยค่ะ แต่น่าจะเป็นเช่นนี้


#1013967 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 18 มกราคม พ.ศ. 2557 - 10:07

จากใจผู้ที่โดนม๊อบปิดออฟฟิศ

 

https://www.facebook.com/nuttaputch
 

1601136_10151845894171161_1901490856_n.jpg

 

   ระหว่างขับรถมาที่ออฟฟิศวันนี้ ก็คิดไปด้วยว่าเราเดือดร้อนกับม็อบอย่างไรบ้างในฐานะที่ม็อบอยู่ตรงหน้าออฟฟิศเลย ทำให้ต้องจอดรถที่จามจุรีสแควร์แทนแล้วนั่งรถไฟฟ้าต่ออีกที ไหนจะระว่างที่ทำงานก็จะมีเสียงปราศรัยทั้งวันดังสนั่นจนต้องเอาหูฟังมาสวมเพื่...อจะได้โฟกัสได้ (ภาพนี่ก็ถ่ายจากกระจกตรงหน้าโต๊ะทำงานผมนี่นแหละ)

ถามว่ามันยุ่งยากไหม เดือดร้อนไหม ตอบเลยว่าเดือดร้อน


แน่นอนว่าการประท้วงและปิดถนนรอบที่ทำงานนี่ไม่ใช่อะไรที่น่าภิรมย์หรอกฮะ อะไรๆ ที่มันทำให้เราต้องใช้ชีวิตต่างไปจากเดิม มันก็ย่อมนำมาซึ่งความไม่สะดวกสบายอยู่แล้ว

แต่ที่ผมไม่ค่อยจะบ่นอะไร ไม่ได้รู้สีกทุรนทุรายปนอึดอัดใจเวลาเห็นการประท้วงครั้งนี้เพราะผมรู้สึกว่ามีอย่างอื่นที่ผมควรจะเดือดร้อนมากกว่ามานั่งเดือดร้อนแค่เรื่องตัวเอง

ผมกำลังเดือดร้อนเรื่องประเทศชาติ


เมื่อวานป.ป.ช.ชี้มูลความผิดโครงการจำนำข้าวที่กลายเป็นปาหี่ครั้งใหญ่ที่หลอกชาวนาหลายแสนล้านบาท มีการคอรัปชั่นกันครั้งมโหฬาร

เราไม่เดือดร้อนเหรอครับ?

หลายคนคงไม่เดือดร้อนเพราะพวกเราไม่ใช่ชาวนา พวกเราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานในออฟฟิศติดแอร์ มีเงินเดือนไว้กินอาหารแพงๆ ไว้ช้อปปิ้ง ไว้เข้าฟิตเนส เราจะเดือดร้อนทำไม?

นี่แหละครับ ความน่ากลัวของความคิดเราที่ความเดือดร้อนที่อยู่นอกตัวเรานั้น เราไม่ได้เดือดร้อน และไม่ได้คิดว่ามันสำคัญอะไร เราก็จะเอาคำพูดสวยๆ ว่า "ใครเข้ามามันก็โกงเหมือนกันแหละ" "เราต้องรอให้ระบบมันแก้ไขด้วยตัวมันเอง" "จะมาประท้วงทำไม" บลา บลา บลา

ก็แหงสิ เราไม่ใช่คนที่เอาบ้านเอาที่ดิน เอาค่าเทอมลูก และทุกอย่างของทั้งชีวิตไปจำนองนี่ครับ นโยบายจำนำข้าวที่โกงกันหน้าด้านๆ เนี่ยมันไม่เดือดร้อนอะไรเราหรอกครับ

ถ้าคิดแบบนั้น ผมว่าเราก็จิตใจต่ำจนเกินให้อภัยอยู่เหมือนกันนะ

ผมเดือดร้อนนะ เดือดร้อนกับหลายๆ อย่างที่ม็อบทำอยู่ ไม่ใช่ว่าผมสุขสบาย ลัลล้า

แต่ที่ผมเดือดร้อนกว่าคือประเทศชาติแม่งจะพัง บ้านเมืองจะฉิบหาย ศีลธรรมในคนจะเสื่อมถอยเพราะการปลูกฝังความเชื่อว่าเรามียาวิเศษที่เรียกว่าประชาธิปไตยที่อยู่เหนือปัญหาทุกอย่างโดยไม่ต้องสนว่าคนที่เอาไปใช้จะชั่วอย่างไรก็ตาม

สำหรับผม เรื่องที่ผมเดือดร้อนจากม็อบหน้าออฟฟิศ มันน้อยนิดกว่าที่เราควรจะเดือดร้อนกับประเทศที่กำลังจะจมน้ำในคลอง (เพราะเราอยู่ในคลองมานานเกินไปแล้ว) และเราไม่ควรนิ่งเฉยกับมันอีกต่อไป

ผมรักประเทศนี้ ตัวผมเองเกิดมาแล้วก็จะตายในอีกเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ประเทศนี้จะส่งต่อให้ลูกหลานเรา เป็นที่พำนักให้กับคนที่เรารัก...ไม่ใช่ตัวเราคนเดียว และเราไม่ควรปล่อยให้มันพังทลายไปตรงหน้าเรา

ผมคิดอย่างนั้น


 




#1013846 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 18 มกราคม พ.ศ. 2557 - 09:04

จากเฟส พี่ประคอง ชูจันทร์
https://www.facebook...prakong.vantour
วันที่15 ม.ค.57

รอบนี้จัดเต็มไม่ชนะไม่กลับ
 

1009912_271900589627698_98837992_n.jpg

วันที่10 ม.ค.57
พี่แชร์มาว่า

 

กปปส. โปรดทราบ
พี่น้องช่วยกันกระจาย 1 เสียงในโลกโซเชียลกระตุ้นให้กำนันรับทราบว่ามวลชนต้องการอะไร?
ขอเพิ่มเรื่องการปฏิรูปพลังงานเข้าไปอีก 1 เป็น 7 ประเด็น
( ถ้าชูประเด็นปฏิรูปพลังงานเข้าไปด้วย น่าจะมีคนออกมาร่วมการชุมนุมมากขึ้น เพราะเรื่องพลังงานกระทบกับชีวิตคนไทยทุกคนอย่างที่บอกไว้ข้างบน

 

 

1509100_795382300477711_19681530_n.jpg

 

ทุกคนมีพี่น้องมีลูกเมีย มีคนที่รักรออยู่ แต่พี่ต้องมาเพราะความรักชาติ ทำให้พี่ต้องทิ้งคนที่รักไว้เบื้องหลัง มานอนกลางดิน กินกลางถนน ด้วยความหวังว่า ประเทศชาติจะต้องดีกว่านี้
ไม่นึกว่า นอกจากต้องเสียเวลา สละกำลังกายแล้ว พี่ยังต้องมาสละชีวิตด้วยน้ำมืออำมหิตของฝ่ายรัฐ

 
   ขอให้พี่ประคอง ชูจันทร์ หลับให้สบาย พี่ทำหน้าที่ครบสมบูรณ์ ในฐานะพลเมืองที่มีค่าของชาติ ทุกคนต้องร่วมกันสานต่อปณิธานและเจตนารมณ์ของพี่จนกว่าเราจะได้ชัยชนะ

 

526471_221876587963432_1319575020_n.jpg






 









 




#1013795 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 18 มกราคม พ.ศ. 2557 - 08:32

05tj.jpg
frij.jpg

มีใครเชื่อคำสำรอก ที่ไอ้เดรัจฉานตัวนี้สำรอกออกมาบ้าง
 
งานใหญ่ที่ยังรออยู่เสร็จสิ้นลงเมื่อไหร่
งานเล็กๆสำหรับขยะแผ่นดินพวกนี้ยังมีรออยู่อีกมากอย่าหนีก็แล้วกัน



โกตี๋ ใส่เสื้อขาวทำไมคะ


#1012891 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 17 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:09

17 ม.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางประคอง ชูจันทร์ ที่เข้ารับการผ่าตัดด่วนนั้น ทีมแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีสามารถช่วยชีวิตให้ปลอดภัยได้แล้ว หลังหัวใจหยุดเต้นไปหนึ่งชั่วโมงต้องเปิดอกฉีดยาเข้าหัวใจ แต่ตอนนี้ผ่าตัดเย็บซ่อมเส้นเลือดใหญ่เสร็จแล้ว
แนวหน้าออนไลน์ http://www.naewna.co...xZxlV8.facebook

 

สาธุ

:)

เป็นผู้ชายไหมคะ เห็นในเฟส พี่เค้าเดินทางมาวันที่12 นี้เอง
ขออภัยหากเป็นคนละท่าน แต่เห็นตามรายงานว่าเป็นผู้ชายหมด
เฟสพี่เค้าhttps://www.facebook...prakong.vantour
เป็นกำลังใจให้พี่เค้าเยอะๆค่ะ


ตกลงใช่พี่เค้า รูปลีางเป็นคนซ้ายบน ช่วยกันภาวนาให้พี่เค้าปลอดภัย กลับมาสมบูรณ์โดยไวค่ะ

image.jpg
image.jpg


#1012870 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 17 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:03

17 ม.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางประคอง ชูจันทร์ ที่เข้ารับการผ่าตัดด่วนนั้น ทีมแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีสามารถช่วยชีวิตให้ปลอดภัยได้แล้ว หลังหัวใจหยุดเต้นไปหนึ่งชั่วโมงต้องเปิดอกฉีดยาเข้าหัวใจ แต่ตอนนี้ผ่าตัดเย็บซ่อมเส้นเลือดใหญ่เสร็จแล้ว
แนวหน้าออนไลน์ http://www.naewna.co...xZxlV8.facebook

 

สาธุ

:)



เป็นผู้ชายไหมคะ เห็นในเฟส พี่เค้าเดินทางมาวันที่12 นี้เอง
ขออภัยหากเป็นคนละท่าน แต่เห็นตามรายงานว่าเป็นผู้ชายหมด
เฟสพี่เค้า
https://www.facebook...prakong.vantour
เป็นกำลังใจให้พี่เค้าเยอะๆค่ะ


#1012811 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ใบย่านาง on 17 มกราคม พ.ศ. 2557 - 18:27

จากเฟส topsecretthai

17 ม.ค.57 ชายชุดดำลอบสังหารสุเทพทำงานพลาด ทิ้งหลักฐานอื้อ ตายน้ำตื้น

หลังรัฐแดงสั่งชายชุดดำลอบสังหารสุเทพแล้วแผนพลาด ชายชุดเขียวได้เข้าตรวจสอบบริเวณตึกร้าง ริมถนนบรรทัดทอง กทม. บริเวณด้านหน้าตึกเขียนว่าศูนย์ประสานงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ หจก.ยอดเทพประธาน ด้านในชั้นล่างเป็นลักษณะของห้องครัวพบอาวุธปืน M16 ถอดประกอบจำนวน 1 กระบอก, วิทยุสื่อสาร 4 เครื่อง, มีดสปาต้า 1 ด้าม, ป้ายคำว่า “ Police “ แปรงและยาสีฟัน , อาหารกล่อง , กางเกง, หมวกสีแดงป้ายคำว่า “ หน่วยปฏิบัติการจู่โจม” ที่เช็คแล้วหน่วยงานที่เคยแจกหมวกนี้ คือชายชุดดำในจังหวัดนราธิวาส ในหลักสูตรการฝึกอบรมปฏิบัติการพิเศษจู่โจมฯ

ด้านหน้าอาคารร้างตึกที่เกิดเหตุ พบรถตู้ชายชุดดำที่มาจอดปฏิบัติการ ทะเบียนตราโล่ห์ 19086 สีบรอนเทา ชาวบ้านแถวนั้นบอกจอดทิ้งไว้นานแล้ว มีฝุ่นจับ บริเวณหน้ากระจกมีตัวหนังสือเขียนติดกระดาษไว้ว่า ติดต่อเจ้าของรถ ร.ต.ท.เอกพล ผุดผอม รอง สว.กลุ่มงานวิจัยและประเมินผล 3 กองวิจัย สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เบอร์โทรศัพท์ 02-205-3285 /094-496-7179

สลักระเบิดที่ลอบสังหารพบชิ้นส่วนเป็นสลักระเบิดเป็นชนิด M48 มีใช้ในราชการเท่านั้น เป็นระเบิดขนาดเล็กพกสะดวก แต่อนุภาพเท่า M26 มุ่งสังหาร 5-8 คน จากรูปแบบการโจมตีของชายชุดดำที่รัฐแดงสั่งมานี้ พอจะวิเคราะห์ดังนี้

1. ระเบิดที่ขว้างลอบสังหารสุเทพ 2 ลูกไม่ใช่เป้าหมายหลักที่แท้จริง
2. จากหลักฐานกล่องอาหารที่เขียนชื่อเล่นที่หน้ากล่อง ต้องมีชายชุดดำอีกชุดอยู่อีกตึกหนึ่งที่ไม่ใช่ตึกนี้
3. การลอบสังหารครั้งนี้ ชายชุดดำทำงานพลาด เพราะหลังจากขว้างระเบิดเพื่อให้คนล้อมตัวสุเทพแตกฮือแล้ว สไนท์เปอร์ชายชุดดำที่อยู่อีกตึกหนึ่งหาจังหวะยิงสุเทพไม่ได้ถนัด เพราะการ์ดชายชุดเขียว ชุดขาว และการ์ดอาสาของสุเทพมีถึง 40 คนที่ถูกฝึกมาอย่างดี รีบกดหัวสุเทพมอบลงทันที่และโอบล้อมตัวพาสุเทพออกไป ถือเป็นรูปแบบมืออาชีพในการรักษาความปลอดภัยมาตรฐานบุคคลสำคัญระดับชาติ

สรุป...งานนี้ชายชุดดำทำงานพลาดแถมทิ้งหลักฐานลอบสังหารสุเทพอื้อให้ตามตัวเชื่อมถึงหัวหน้าชายชุดดำและรัฐแดงได้อีก ตายน้ำตื้น

@ เสธ น้ำเงิน
https://www.facebook.com/topsecretthai