วันนี้ช่วงบ่าย ๆ เดินทางกลับจากประตูน้ำ ด้วยมอเตอร์ไซค์คันเก่ง เพื่อไปรังสิต
ขี่มาถึงแยกลาดพร้าว ซึ่งมีการชุมนุมแล้วปิด สะพานข้ามแยก ทำให้ ผู้ที่จะเดินทางไปรังสิตนั้นมีตัวเลือก ไม่มากนักในการเดินทาง
ที่ง่ายสุดคือ สะพานข้ามแยก ด้านในสุดใต้โทลเวย์ สำหรับมอเตอร์ไซค์นั้น ถือว่าผิดกฏจราจรอย่างแน่นอน ^^"
ซึ่งช่วงนี้พี่ ๆ สี่ล้อจะพบบ่อยมาก ดังนั้น ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยแล้วกันน่ะครับ
เมื่อขี่มาถึงกลางสะพาน เชื่อว่า ณ เวลานั้น รถทุกคันต้องเห็น บางสิ่งสีดำ ๆ กลางถนนเลนซ้ายสุด ในใจคิดว่าต้องใช่ลูกแมวอย่างแน่นอน ตอนนั้นขี่มาด้วยความ 60-70 km/hr. ตอนนั้นในใจก็ครุ่นคิดอยู่ว่าจะเอายังไง ใช่แมวไหม ถ้าใช่ตายหรือยัง ถ้าไปช่วย ฉันจะเป็นอะไรไหม และต้องคิดเร็วไม่เช่นนั้น ถ้าจะช่วยอีกที คงจะลำบากแน่ ๆ ถ้าระยะทางยาวไกล ผมก็คงขี้เกียจย้อนมา ด้วยความว่าที่บ้านเลี้ยงหมา 2 ตัว แมวอีก 1 ตัว จึงคิดสงสารขึ้นมา พูดง่าย ๆ คือรักสัตว์ จากนั้นจึงตัดสินใจชิดซ้ายเพื่อหาที่จอด
เนื่องจากเป็นมอเตอร์ไซค์ ภารกิจนี้ จึงหาที่จอดรถได้ง่าย ตรงตีนสะพานอีกฝั่ง ซึ่งมีพื้นที่ไม่มากนัก
ผมต้องลงจากรถ แล้วเดินย้อนขึ้นไป
จุดนี้ต้องยอมรับว่า ต้องใจมาก ๆ เพราะมันแคบมาก ไม่มีฟุตบาท แล้วรถแต่ละคันก็มาด้วยความเร็วทั้งนั้น
แต่วันนี้ต้องขอบคุณ เสื้อตัวเก่ง ที่ใช้กันลมตอนขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะมันคือเสื้อสีแดง ทีมโปรด แมนยูฯ นั้นเอง อิอิ(ปีนี้ แย่หน่อย) เสื้อตัวนี้สีสดมาก ทำให้ผม มั่นใจได้อีก ระดับ ว่ารถที่มาเร็ว ๆ ต้องเห็นผมเดินอยู่
เมื่อเดินไปถึงกลางสะพาน ก็ไม่พบว่า ลูกแมว ตามจินตนาการที่เราคิดไว้ เฮ้ย !! สงสัยคงตาฝาดแน่เรา กวาดสายตาอีกรอบ จึงพบว่าลูกแมวได้นอนแน่นิ่งริมสะพานแล้ว ทำให้ง่ายในการช่วยอีก ลูกแมวมีสีดำ
จังหวะจะจับแมว ก็กลัว แมวตกใจวิ่งออกไปริมถนนอีก โอ๊ย ถ้าไปจริง ไม่รอดแน่นอน ทีนี้ ใช้เวลา 1 นาที ในการหลอกล่อ
จากนั้นได้ตัวลูกแมวแล้ว จะรอช้าอยู่ไร รีบเดินลงดีกว่า ตอนเดินลงก็เสียว เดินไป เลือบมองรถด้านหลังไป -*-
เมือลงมาถึงจุดจอดรถ ต้องคิดต่ออีก ว่าจะทำยังไง กับลูกแมวสีดำ จะเอากลับบ้านหรอ จะดีหรอ บางแก้ว ขยี้ตายแน่นอน
แค่ทุกวันนี้แมวบ้านอื่น เดินผ่านหน้าบ้าน บ้านแทบแตก จึงตัดสินใจโทรหาแฟน จึงได้ยินเสียงผู้หญิงพูดว่า "เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ Sorry, it is not possible to reach the number you've dialed at this moment"
ประจำแบตบ่อย เธอโลกส่วนตัวสูง ถ้าไม่ซื้อโทรศัพท์ ให้ใช้ ก็ไม่ใช้หรอก
จึงยืนคิดต่ออีก 5 นาที ก็มีรถตู้โดยสารขับผ่านมา บนถนนวิภาวดี ด้านนอก แล้วเปิดกระจก พร้อมกับตะโกนมาว่า "ลูกแมวหรอก เอามานี่" จึงได้เดินไปหาพร้อมกับส่งลูกแมวให้ จากนั้นเธอจึงบอกว่า "พี่เห็นนานแล้ว เดี๋ยวพี่เอาไปปล่อยวัดให้"
ก็ถือว่าเป็นทางออกทีดี แม้ว่ามันจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว แต่จะให้เรา เอาแมวขี่มอเตอร์ไซค์ ต่อไปก็ลำบากเราอีก อันตราย แค่นี้ก็เสี่ยงตายมาพอแล้ว ช่วยได้จนถึงที่สุด เท่าที่เราจะให้ได้ แก่เพื่อนร่วมโลก
บ่อยครั้งที่จะเห็นสิ่งมีชีวิตตาย บนท้องถนน ที่ซึ่งไม่ใช่ที่ ที่มันควรจะอยู่ แต่เป็นเพราะความไม่รู้ และความไม่ตั้งใจของผู้ใช้ท้องถนน ที่จะทำร้ายมัน ให้ตายซิมันเป็นธรรมะ สอนใจมาก ๆ ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่เที่ยง และทุกครั้งที่เห็นก็จะแผ่เมตตาไปให้ สิ่งมีชิ่วิตนั้นในใจ
เหตุการณ์นี้จึงจบไปด้วยดี แล้วผมก็เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย พร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ ในใจ ระหว่างทางจึงได้คิดว่า ที่ทุกอย่างจบลงด้วยดีวันนี้ เพราะปัจฉิมโอวาทที่พระพุทธเจ้าทรงประทานไว้ว่า “ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ ตถาคตขอเตือน
เธอทั้งหลาย สังขารทั้งหลาย เสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลาย จงยังประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด"
ขอบคุณครับ ที่สละเวลาอ่าน เรื่องเล่าบนถนน
- สมชายสายชม, คนทุกที่, TypeYourMind and 63 others like this