- เสือยิ้มยาก, ongard370, Bookmarks and 14 others like this
pongpong hasn't added any friends yet.
โดย pongpong on 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 01:51
โดย pongpong on 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:24
โดย pongpong on 22 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:20
โดย pongpong on 21 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:55
กาลกิณียิ่งลักษณ์ไปเยือนพระธาตุเชิงชุม เกิดอาเภศเลย
20 มีนาคม 2557 19.00 น.20.00
สกลนคร ส่วนยอดพระธาตุเชิงชุมโดนพายพัดหัก
6 มีค. 57 ยิ่งลักษณ์เป็นประธานถวายผ้าห่มองค์พระบรมธาตุเชิงชุมที่เขียนชื่อของน.ส.ยิ่งลักษณ์บนผืนผ้าเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
http://www.komchadlu...306/180319.html
โดย pongpong on 20 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 18:14
.....วันนี้ ที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ ห้องแถลงข่าว สํานักงาน ป.ป.ช. นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะรองโฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงถึงผลการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหาผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองว่ากระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ ราชการ และกรณีร้องขอให้ถอดถอนออกจากตําแหน่ง จากกรณีเสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... ในประเด็นเกี่ยวกับที่มาของสมาชิกวุฒิสภาในส่วนของนายนิคม ไวยรัชพานิช สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา
.....กรณีนาย นิคม ไวยรัชพานิช ได้ร่วมลงชื่อในญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จํานวน ๒ ฉบับ คือ ฉบับที่ (๑) ซึ่งเสนอโดย นายดิเรก ถึงฝั่ง สมาชิกวุฒิสภา และคณะ และฉบับที่ (๒) ซึ่งเสนอโดย นายประสิทธิ์ โพธสุธน สมาชิกวุฒิสภา และคณะเป็นผู้เสนอ
.....กรณีนายนิคม ไวยรัชพานิช ซึ่งเป็นประธานวุฒิสภา ทําหน้าที่รองประธานรัฐสภา ซึ่งทําหน้าที่ ประธานในที่ประชุม ได้จัดให้มีการลงมติเพื่อวินิจฉัยตัดสิทธิสมาชิก ผู้แปรญัตติ ผู้สงวนคําแปรญัตติ และผู้สงวน ความเห็น จํานวน ๕๗ คน โดยอ้างเหตุว่าคําแปรญัตติของสมาชิกรัฐสภาขัดต่อหลักการ
.....กรณีรวบรัดให้มีการลงมติปิดอภิปราย ทั้งที่มีผู้แปรญัตติ ผู้สงวนคําแปรญัตติ และผู้สงวน ความเห็น ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์อภิปรายจํานวนมาก ในมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ มาตรา ๑๑/๑ และมาตรา ๑๒ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของสมาชิก
.....และกรณีนายนิคม ไวยรัชพานิช ได้ให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนเกี่ยวกับการแก้ไข รัฐธรรมนูญในเรื่องที่มาของสมาชิกวุฒิสภาหลายครั้ง โดยแสดงความเห็นในเชิงลบต่อกระบวนการสรรหาสมาชิก วุฒิสภาว่าไม่ตรงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฯ
.....คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติเอกฉันท์ว่า การกระทําของนายนิคม ไวยรัชพานิช สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภาผู้ทําหน้าที่ประธานในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สมัยสามัญทั่วไป) ครั้งที่ ๖ วันพุธที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๗ เมื่อวันศุกร์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๘ เมื่อวันจันทร์ที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๖ และครั้งที่ ๑๐ เมื่อวันพุธที่ ๑๑ และ วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๖ เพื่อพิจารณาร่าง รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม นายนิคม ไวยรัชพานิช ได้รับญัตติให้ปิดอภิปรายทั้งที่มีผู้ขอแปรญัตติ ผู้สงวนคําแปรญัตติ และผู้สงวนความเห็นรออภิปรายอยู่ จึงเป็นการตัดสิทธิผู้ขอแปรญัตติผู้สงวนคําแปรญัตติ และผู้สงวนความเห็น โดยได้ใช้เสียงข้างมากในที่ประชุมปิดการอภิปราย การกระทําของนายนิคม ไวยรัชพานิช สมาชิกวุฒิสภา จึงมีมูลความผิดฐานส่อว่าจงใจใช้อํานาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐ ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓ วรรคสอง และมาตรา ๒๙๑ อันเป็นมูลเหตุให้ถูกถอดถอนออกจากตําแหน่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๗๐ และมาตรา ๒๗๔
.....ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๕๖ มาตรา ๕๘ มาตรา ๖๑ และมาตรา ๖๒
.....เห็นควรให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่พร้อมทั้งความเห็นไปยังประธานวุฒิสภาเพื่อดํา เนินการตามมาตรา ๒๗๓ และมาตรา ๒๗๔ ต่อไป
.....มติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังกล่าว มีผลให้นายนิคม ไวยรัชพานิช ต้องหยุุุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกวุฒิสภาและประธานวุฒิสภาตั้งแต่วันนี้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๓ วรรคสี่ ครับ
โดย pongpong on 20 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:33
ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด "นิคม"ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ ปธ.วุฒิสภา ตามรธน.มาตรา 272 จากนั้น ป.ป.ช.จะส่งเรื่องให้วุฒิสภา ถอดถอนออกจากตำแหน่งต่อไป
"นิคม" กระทำผิดบทบัญญัติ รธน.มาตรา 270 ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม
สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหา รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 จะขึ้นรักษาการประธานวุฒิแทน "นิคม" และสุรชัยเป็นคนที่นักวิชาการ กปปส.พูดถึงบ่อยๆ
พูดถึงเรื่องอะไร? เหรอครับ
เห็นมีกระแสข่าวว่า แกเป็นคนนึงที่อยู่ในกลุ่ม 40 สว. ครับ
นิคม ฝันสลายเลย อยากจะเป็นรักษาการประธาณวุฒิสภาไปจนกว่าจะมี สว. ครบ
โดย pongpong on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:42
โดย pongpong on 13 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:53
โดย pongpong on 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 18:54
โดย pongpong on 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 17:55
วันนี้แขวนจี้สัญญลักษณ์สันติภาพเพื่อต้องการสื่อถึงความหมายของคำว่าสันติภาพ ที่ส่วนตัวมองว่าไม่ได้แค่หมายถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ สันติ
แต่อยากให้หมายรวมไปถึงการให้ความยุติธรรมอย่างเสมอภาค ดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ใช้หลักเมตตาธรรม เอื้ออาทรต่อกัน
เพื่อเป็นจุดยึดโยงความสันติ สงบในใจของคนไทยทุกคน-----------------------------------------------------
#ดีออก
โดย pongpong on 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:38
ใครฟังอินี่พูดแล้วรู้เรื่องบ้างครับ ตกลงจะอยู่ในกรอบของกฎหมายไหม ไหนบอกชอบอยู่ในกรอบไง ตอนเด็กพ่อแม่มันเอาอะไรป้อนวะครับ
พูดแบบนี้จริงๆ หรือครับ
ตอนแรกคิดว่ายอมลาออกก็จบกัน แต่ถ้าแบบนี้ก็เกินเยียวยาแล้วล่ะ ให้นางออกไปจากเถอะ อย่าอยู่ในประเทศเลย
http://www.nationcha...tics/378398269/
เชิญชม
ที่น้ำตาคลอเพราะเห็น "ประตูคุก" เปิดรออยู่แล้วมากกว่า งานนี้ต้องหนีออกนอกประเทศแน่นอน แ่ผ่นดินไทยจะสูงขึ้นอีกเยอะ
โดย pongpong on 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:34
เห็นว่าข่าวนี้ เมื่อคืน ไม่ใช่คน กทม. นึกภาพไม่ออกครับ
เรื่องโดย Nation Channel | ภาพโดย Nation Channelวันที่ 12 มีนาคม 2557 09:59 น.
สน.จักรวรรดิ 12 มี.ค.57 - ตำรวจสน.จักรวรรดิ จับชายฉกรรจ์ 12 คน พกปืน-วัตถุระเบิด-มีดดาบ หน้าสำเพ็งสแควร์ ถ.ราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม.เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 12 มีนาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.จักรวรรดิ ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า บริเวณอาคาร สำเพ็งสแควร์ ถ.ราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนมาก พกพาอาวุธปืน จึงรุดไปตรวจสอบ พบกลุ่มชายฉกรรจ์นั่งอยู่บริเวณด้านหน้าอาคารดังกล่าว ขณะที่ตำรวจจะขอเข้าตรวจ ปรากฏว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในภายในตัวอาคาร ระหว่างนั้นเอง นายอภิชาต พวงเพ็ชร ได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่กำลังเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดล้อมอาคารดังกล่าว พร้อมกดดันให้เข้ามอบตัว ต่อมานายอภิชาติ ได้ยอมลงมามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสำหรับรายชื่อผู้ต้องหาทั้งหมด ประกอบด้วย 1. นายอภิชาต พวงเพ็ชร อายุ 42 ปี 2.นายเอ๋ สุขหอม อายุ 39 ปี 3.นายณัฐพรรณ์ หลุ่มบางล้า อายุ 40 ปี 4.นายบุญส่ง ทองเนิน อายุ 37 ปี 5.นายประเสริฐ ริ้วกระโทก อายุ 40 ปี 6.นายสุเทพ สาดโพล้ง อายุ 38 ปี 7.นายพัสนัย พนัส อายุ 39 ปี 8.นายเกรียงไกร พนัน อายุ 36 ปี 9.นายโชคอำนวย สุรการ อายุ 48 ปี 10.นายลำปาง อัมกวา อายุ 34 ปี 11.นายสำราญ ใจเรือน อายุ 43 ปี 12.นายน้อย คล้ายห้างหว้า อายุ 52 ปีจากการตรวจสอบสามารถตรวจสอบยึดของกลาง ได้คือ 1. อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก 2.เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 นัด 3.ปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 1 ปลอก 4.วัตถุระเบิด แบบจุดชนวน จำนวน 3 ลูก 5.มีดดาบแบบยาว จำนวน2 เล่ม 6.ท่อนเหล็ก จำนวน 3 อันเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายอภิชาต มีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต,พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่และมีวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมีวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เจอข้อมูลอยู่คนนึง
10 ส.ค.54 เวลา 9.30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีหมายเลขแดงที่ อ.3456 /2553 ระหว่างพนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายโชคอำนวย สุรการ เป็นจำเลย โดยศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาว่า ไม่มีเหตุอันควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
คดีนี้ พนักอัยการฟ้องจำเลยอันเนื่องมาจากการจับกุมจำเลยเกี่ยวกับการชุมนุมของ กลุ่มนปช.เมื่อเดือน มี.ค.-พ.ค.2553 ในหลายข้อหา โดยกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.53 จำเลยใช้รถจักรยานยนต์ วิ่งเข้าไปเส้นทางถนนพญาไท บริเวณปากซอยพญานาค หน้าโรงแรมเอเชีย ซึ่งส้นทางนี้ มีประกาศห้ามใช้เป็นเส้นทางคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ และจำเลย มีอาวุธปืนพกรูปร่าง คล้ายปากกาขนาด .38 หนึ่งกระบอก และมีเครื่องกระสุนปืนรีวอลเลอร์ ขนาด.38 หนึ่งนัด ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และ จำเลยมีเครื่องวิทยุคมนาคมชนิดมือถือ โดยไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้า พนักงาน
โดยในชั้นพิจารณาศาลชั้นต้น จำเลยได้รับสารภาพตามข้อกล่าวหาทั้งสิ้น และศาลอาญาได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยรวมจำคุก 3 ปี และปรับ 24,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์การพิจารณา คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 12,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทน
ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ กรณีเหตุการณ์เม.ย.-พ.ค.53 ( ศปช.) ระบุว่า นายโชคอำนวย สุรการ เป็นผู้เข้าร่วมในการชุมนุมของนปช. มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2552 รวมถึงการชุมนุมเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเขาถูกจับที่บริเวณ หน้าโรงแรมเอเชีย ปากซอยพญานาค ถนนพญาไทขณะเดินทางออกจากแยกราชประสงค์ เมือวันที่ 17 พ.ค.2553 และ ถูกควบคุมตัวมาโดยตลอดตั้งแต่วันถูกจับและปัจจุบันนี้ถูกขังอยู่ที่เรือนจำ พิเศษกรุงเทพฯ และนอกจากถูกฟ้องเป็นจำเลยคดีนี้แล้ว เขายังถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 5802/2553 ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ในข้อหาร่วมกันมีระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ 88 บ.67 (เอ็ม 67)จำนวน 1 ลูก และลูกระเบิดขว้างชนิดสังหาร แบบ เค 75 จำนวน 1 ลูก โดยพยานของโจทก์ซึ่งเป็นผู้จับกุมจำเลยอ้างว่า จากการสืบสวนได้ข้อมูลว่านายโชคอำนวย เป็นคนไกล้ชิดกับเสธ.แดงหรือพล.ต.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล แต่คดีที่ศาลจังหวัดพระโขนง ศาลพิพากษายกฟ้อง โดยได้วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อน่าสงสัยหลายประการ
http://prachatai.com...l/2011/08/36440
เจออีก 2 คนเป็น เสื้อแดงสายฮาร์ดคอด้วย
1. นายอภิชาต พวงเพ็ชร อายุ 42 ปี เสื้อแดง รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุการณ์ทหารเข้าผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง บริเวณถนนราชดำเนินเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53
2.นายเอ๋ สุขหอม อายุ 39 ปี
3.นายณัฐพรรณ์ หลุ่มบางล้า อายุ 40 ปี เสื้อแดง รายชื่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการณ์ชุมนุมใหญ่ที่ราชมังคลาฯ
4.นายบุญส่ง ทองเนิน อายุ 37 ปี
5.นายประเสริฐ ริ้วกระโทก อายุ 40 ปี
6.นายสุเทพ สาดโพล้ง อายุ 38 ปี
7.นายพัสนัย พนัส อายุ 39 ปี
8.นายเกรียงไกร พนัน อายุ 36 ปี
9.นายโชคอำนวย สุรการ อายุ 48 ปี http://prachatai.com...l/2011/08/36440
10.นายลำปาง อัมกวา อายุ 34 ปี
11.นายสำราญ ใจเรือน อายุ 43 ปี
12.นายน้อย คล้ายห้างหว้า อายุ 52 ปี
โดย pongpong on 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 15:46
12 มี.ค.57 ที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม พรรคประชาธิปัตย์ มีการจัดเสนาเรื่อง ใคร?แบ่งแยกดินแดนขวานทอง "รัฐธรรมนูญ มาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งเดียว จะแบ่งแยกมิได้" โดยช่วงหนึ่ง นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ กล่าวว่า ระบอบทักษิณมีเป้าหมายเพื่อเข้าสู่การยึดครองประเทศไทยให้ได้บางส่วน โดยเมื่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพลี่ยงพล้ำ มีการวางแผนเป็นระบบ ระดมชายชุดดำ และการ์ด นปช.ที่เคยใช้งานในปี 2553 ให้เข้าร่วมทางยุทธวิธีเป็นกลุ่มติดอาวุธ มีพื้นที่ฝึก จ.ชลบุรี และ จ.อยุธยา จากนั้นจะให้มาประจำ ในเขตคลองเตย ที่มีนบุรี และดอนเมือง ใน กทม.และใน จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี ใช้เป็นที่พักพิงของกองกำลังติดอาวุธ
ขณะที่ภาคเหนือ มีการจัดซื้ออาวุธสงครามเถื่อนทั้งปืน ระเบิดสะสมไว้ที่ข้าง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อคอยโอกาส และมีการวางแผนให้เกิดสงครามกลางเมือง โดยให้กลุ่มเหล่านี้เข้าโจมตีผู้ชุมนุมให้โกรธแค้น จนยกพวกไปปะทะกัน ทำให้ทหารยึดอำนาจ เป็นเงื่อนไขเข้าทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการเตรียมประกาศแบ่งแยกประเทศ แต่ไม่สำเร็จ เพราะประชาชนและทหารไม่เดินตามแผนที่เขาวางไว้
ทั้งนี้ ที่ภาคอีสานมีการระดมอาสาสมัครตั้งกองกำลัง และประสานให้กลุ่มคนเสื้อแดงอิมพีเรียล ปลุกระดมมวลชนให้คลุ้มคลั่งเพื่อเคลื่อนเข้า กทม.และให้กองกำลังติดอาวุธเร่งโจมตีแกนนำและผู้ชุมนุม วันเวลาที่เขาจะลงมือ จะถือวันที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ล่มสลายจากการตรวจสอบขององค์กรอิสระ จะมีการสร้างเหตุการณ์ปะทะขึ้น เพื่อสร้างหัวเชื้อให้เกิดสงครามกลางเมือง
"ขอย้ำว่า เขาจะถือเอาวันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สิ้นสภาพเป็นวันคิกออฟ ในอีสานมี 3 กลุ่มคือ กลุ่มนครพนม กลุ่มสุภรณ์ โคราช และ พทค.444 จะมีหน่วยในการนำคนเสื้อแดงเข้ายึดสถานที่ราชการ ทั้งศาลากลาง และที่สำคัญในภาคอีสาน ส่วนแกนนำแดงที่ปลุกระดมเก่ง จะใช้สื่อเคลื่อนขบวนรถเข้า กทม.มีอย่างน้อย 2 หมื่นคน พร้อมใช้กองกำลังชุดดำก่อวินาศกรรมในพื้นที่ กทม.เพื่อจุดสถานการณ์ให้ประชาชนกลัว เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือดุลย์ที่ได้เปรียบในการเจรจาต่อรอง โดยใช้ศูนย์ประสานงานรัฐไทยใหม่ ที่ฝรั่งเศสและอังกฤษ พร้อมการล็อบบี้ของเครือข่ายที่สำคัญ" นายไทกร กล่าว
http://www.naewna.com/politic/94641
โดย pongpong on 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 22:49
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net