แด่เพศแม่ทุกคน
สมัยยังเรียนอยู่ ตจว. มีผมและเพิ่อนอีกคน ที่มีบ้านอยู่กรุงเทพ เมื่อสอบเข้าเรียนต่อในกท.ได้
บ้านผมจึงเป็นที่พำนักชั่วคราว และยาวนานสำหรับเพื่อนอีก2-3คน บางคราวมาพักเป็น10คน
บ้านผมอยู่ไกล้สายใต้เก่า (3แยกไฟฉาย)
ก็เป็นเช่นนี้จนเรียนจบ จึงแยกย้ายกันไป ผมเองไปอยู่ตจว. ตั้งแต่ลูกอายุ7วัน กลับเข้ากท.อีกทีลูกเรียนมัธยม
ช่วงนั้น รวมถึงตอนนี้ ผมได้กราบแม่ปีละ4-5ครั้ง ...น้อยกว่าลูกนอกไส้บางคน มันจะมาเยี่ยมแม่ผมทุกครั้งที่เข้ากท.
ผมบอกกับมันว่า "เฮ้ย ขอบใจที่มาเยี่ยม และดูแลแม่กู" ...มันตอบผม "*คุณ* น่ะโชคดี ที่ยังมีแม่อยู่ " มันพูดแค่นั้น
แม่มันตายมา20กว่าปีแล้ว
ไม่กล้าถามต่อ ไม่รู้ว่ามันจะตอบยังไง ระหว่าง "กูน่ะอาภัพ พอเรียนจบยังไม่ได้แทนคุณ แม่ก็ตาย" กับ "แต่มึงไม่ค่อยมาหา แม่บ้างเลย"
เหตุที่เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง เพราะ.......
วันนี้เจอเรื่องของแม่ แก่ๆ ...เรื่องหนึ่ง ขอลอกย่อหน้าสุดท้าย มานะครับ
#########################
ลูกรัก ตอนที่เจ้ายังเด็ก แม่ใช้เวลาทั้งหมดค่อยๆสอนให้เจ้าใช้ช้อนใช้ตะเกียบคีบอาหาร สอนเจ้าใส่รองเท่า สอนเข้ากลัดกระดุม สอนเจ้าใส่เสื้อผ้า อาบน้ำให้เจ้า เช็ดอุจาระปัสาวะให้เจ้า สิ่งเหล่านี้แม่ไม่เคยลืม
หากวันหนึ่ง แม่จำไม่ได้ หรือเริ่มพูดช้าลง ขอเวลาให้แม่สักหน่อย รอแม่ได้ไหม ให้แม่ได้คิด...บางครั้ง สิ่งที่แม่อยากจะพูดกับเจ้า แม่อาจจะพูดกับเจ้าไม่ได้อีกแล้ว
ลูกรัก ลูกจำได้ไหม แม่ต้องสอนเจ้ากี่ร้อยครั้งให้เจ้าพูดว่าคำว่าแม่ได้!
แม่ดีใจมากแค่ไหนที่เจ้าเริ่มพูดเป็นประโยคได้?
แม่ต้องตอบคำถามของเจ้ากี่ร้อยครั้ง กว่าเจ้าจะเข้าใจในสิ่งที่เจ้าสงสัย!
ดังนั้น หากวันหนึ่ง แม่ถามเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีกกับเรื่องเดิมๆ ขอให้เจ้าอย่ารำคาญจะได้ไหม?
ตอนนี้แม่อาจกลัดกระดุมเสื้อไม่ได้ ยามกินข้าวอาจหกเลอะเสื้อผ้า เจ้าอย่าเอ็ดแม่ได้ไหม? ขอให้เจ้าอดทนและอ่อนโยนกับแม่ ขอเพียงเจ้าอยู่ข้างๆแม่ แม่ก็รู้สึกอุ่นใจ
ลูกรัก วันนี้ขาของแม่เริ่มอ่อนแรง ยืนได้ไม่ค่อยนาน เดินเหินลำบาก ขอให้ลูกจับมือและพยุงแม่ไว้ เดินเป็นเพื่อนแม่จนวันที่แม่สิ้นใจ เหมือนวันที่เจ้าคลอดมา แม่ก็พยุงเจ้าเดินอย่างนี้เหมือนกัน !