arch_freeman

ผมคิดว่า ในเรื่องของสื่อ

1) ไม่ต้องยุ่งกับ ThaiPBS และ สื่อที่ให้ความร่วมมือ

2) จะต้องจัดการไอ้ช่องที่ออกประกาศของ ศอรส. ให้หมด เอาให้จอดับ ภายในวันนี้ ต้องเขียนเสือให้วัวกลัว และ จะต้องไม่ให้พนักงานของ ช่อง 9 และ 11 ได้ทำงานอีกต่อไป จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่

สมาคมนักข่าว อะไรเนี่ย มันเป็นพวกมาเฟีย ไม่ใช่องค์กรวิชาชีพ อย่าไปสนใจ และ ให้ราคามัน และ หากเป็นได้ หลังจากมีการปฏิรูปแล้ว องค์กรวิชาชีพเหล่านี้ ก็ต้องถูกปฏิรูป กรรมการสมาคมวิชาชีพ พวกนี้ ต้องมาจากมืออาชีพ และ เป็นนักวิชาการที่น่าเชื่อถือ ไม่ใช่พวกนายทุนสื่อที่เห็นแก่ผลประโยชน์

เวลารัฐบาลโกหก ไม่มีจดหมายตักเตือน การใช้สื่อของรัฐบาล แต่พอ กปปส ไปเยี่ยม ออกจดหมายทันที

องค์กรพวกนี้ เป็นองค์กร โกหก ขอให้ มวลมหาประชาชน อย่าไปให้ราคามัน

ไม่มีกฎหมายข้อไหน บอกว่า รักษาการณ์นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากการเลือกตั้ง !!!

คนตั้งข้อสังเกตประเด็นนี้ ไม่ผ่านนะครับ

สมมติ อีดอกไม้ มันตาย ยังไง รมต.ที่ยังอยู่ ถึงแม้ไม่ได้เป็น สส. ก็รักษาการณ์นายกได้

ผมคิดว่า คำตัดสินวันนี้ ดีระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องรอต่อไป รอ ปปช. อีกดาบ ถ้ายัง ฟันไม่หมด ก็สิ้นหนทางที่จะเดินหน้า นายกคนกลาง ตามมาตรา 7

สุดท้าย ถ้ายังเป็นภาวะแบบนี้ ทหารไม่เลือกข้าง ทั้งสองฝ่ายก็อยู่สถานะนี้ต่อไป ประเทศก็จะเริ่มเสียหายขึ้นเรื่อยๆ จากการไม่มีรัฐบาล ซึ่งจะบีบให้คนที่เกี่ยวข้อง เข้าสู่กระบวนการเจรจา แต่การเจรจาให้ระบบทักษิณอยู่ต่อไปนั้น คงเป็นไปได้ ประชาชนสู้มาขนาดนี้ ตายกันขนาดนี้ ผมคิดว่าไม่มีแกนนำคนไหนยอม และ ประชาชนอีกจำนวนมากไม่ยอม

ก็อยู่กันไปแบบนี้ คุมเชิงกันแบบนี้ต่อไป ก็อาจจะมีผลดีในระยะยาวก็ได้ ใครจะไปรู้

เขาบอกว่า นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง แต่ รักษาการณ์นายก ไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้ง ไม่มีกฎหมายข้อไหนระบุ ว่าคนรักษาการณ์ต้องการจากการเลือกตั้ง

นี่แค่ เริ่มซ้อมๆ ตราบใดที่ คนส่วนใหญ่ของจังหวัดในภาคเหนือ ยังหนุนเนื่องจาก คนชั่วขายชาติ จะมีภัยพิบัติที่สาหัสมากกว่านี้

มีความเป็นไปได้ที่ที่นังดอกไม้ จะกลืนน้ำตายตัวเอง ที่เคยประกาศว่าจะตายคาเก้าอี้เพื่อรักษาประชาธิปไตย โดยจะชิงลาออก เพื่อให้ศาล รธน. ยกฟ้อง แล้วตั้งหัวเหม่ง รักษาการณ์ หลังจากนั้นก็ทูลเกล้าถวาย พรฎ เลือกตั้ง เพื่อให้เกิดการเลือกตั้ง วันที่ 20 กค. เพื่อไม่ให้เกิดสูญญากาศ และ ไม่ให้เกิด นายก มาตรา 7

เพราะไม่มีประเทศที่ตัวรัก และไม่มีประเทศที่รักตัว คนไม่มีประเทศจึงรักแต่ตัวเอง

เงินทักษิณที่ใช้จ้างแดงมาชุนนุม เทียบไม่ได้กับเงินทุนที่ กปปส. ใช้เพื่อจัดการชุนนุม

หลายๆ อย่างมันน่าจะบอกทักษิณและกลุ่มทุนทักษิณได้แล้ว ว่า เขาไม่มีวันจะชนะพลังของมวลมหาประชาชนได้เลย

คนตระกูลชินวัตร จะถูกตราหน้า และ ถูกสาปแช่งด้วยคนไทยต่อไปอีกหลายชั่วคน

บรรพบุรุษที่เป็นจีนอั้งยี่ เป็นเชื้อสายอันธพาล ทำลายชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ มาหลายชั่วอายุคน อีกไม่นานคงจะจบสิ้นกันเสียที

ผู้หญิงที่หน้าด้านที่สุดในสามโลก อยู่ต่อไปให้คนเกลียดมากขึ้นๆๆๆๆ สุดท้ายก็จะไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนพี่ชาย

พวกกำนันขี้ข้ากลับ

กปปส กับ สรส ค่อยกลับไปยึดกระทรวงใหม่ เท่านั้นเอง 

ไม่เห็นยาก พวกใช้เงินจ้าง กับ คำขู่ มันมาได้ไม่กี่ครั้งหรอก

พวกเอะอะๆๆๆ ก็ลากในหลวงเข้ามาถือเผือกร้อน เข้ามายุ่งการเมือง โดยไม่มีเหตุอันสมควร

คนพวกนี้ ไม่เคยสงสารในหลวง ทรงพระชราภาพขนาดไหน เอาปัญหาหนักอึ้งไปรบกวนท่าน ปัญหาทั้งหมดท่านไม่ได้ก่อ ท่านพระราชทานอำนาจมาให้ประชาชน ประชาชนนั่นแหละเป็นคนก่อ และสมควรไหมที่จะให้ท่านลงมาแก้ พอแก้แล้วก็โดนอีกฝ่ายด่า ทำไมไม่แก้กันเองให้ถึงที่สุดก่อน พอถึงทางตัน ก็ค่อยว่ากัน

อีกอย่าง ฏีกา ที่ส่งขึ้นไป ก็ไม่ทราบว่า ท่านจะได้พิจารณาหรือเปล่า กลัวจะตกอยู่ในมือคนใกล้ชิดที่เป็นเสื้อแดงในวังหลวงด้วยซ้ำ

ทำอะไรไม่คิด ไม่รู้จักอะไรควรไม่ควร ทั้ง พระ ทั้ง ฆราวาส

ไม้หนึ่งตายเพราะถูกนายใหญ่สั่งฆ่า เพื่้อปลุกเสื้อแดง

ถ้าขวาพิฆาตซ้ายจริง ตัวสำคัญๆ ต้องตายสิ จะไปเก็บขยะไร้ค่าทำไม

รายต่อไปที่จะเป็นเป้าของนายใหญ่ คือ ดร. โสภณ นี่แหละ เพราะไม่ได้สำคัญอะไร แต่สามารถฆ่าเพื่อปลุกแดงในเน็ตได้ แถมเป็น ดร. อีกต่างหาก

เป็นหน่วยงานหนึ่ง ที่ต้องถูกพิจารณาถูกยุบ เพราะตอนที่ก่อตั้งขึ้นมานั้น เพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่ตอนนี้กลายเป้น หน่วยงานรับใช้นักการเมืองชั่ว เหมือนตำรวจ

ประเทศไทยหลังปฏิรูป ต้องจัดการ DSI กับ ตำรวจ เป็นอันดับแรก ทั้งสองหน่วยงานคือ ปํญหาของแผ่นดิน เป็นรากฐานของความชั่วร้ายในแผ่นดินนี้

กำนัน จะเป็นได้หรือไม่นั้น อยู่ที่จำนวนของประชาชน ที่จะออกมาในวันประกาศชัยชนะ

ส่วนจะได้เข้าเฝ้าหรือไม่นั้น แล้วแต่จะโปรดเกล้า

แต่คนที่มีหน้าที่คือ รองประธานวุฒิสภา ที่จะต้องทำหน้าที่นี้ในฐานะประธานรัฐสภา

ถ้าจะให้เหมาะสมและเป็นการสมควร กำนัน น่าจะทำเพียงแค่ เข้าพบ รองประธานวุฒิสภา เพื่อหารือ และ รองประธานวุฒิสภา ก็ควรจะขอหารือกับ ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งฝ่ายกองทัพ และ ศาลยุติธรรม เพื่อนำชื่อทูลเกล้า

ส่วนที่พวกเตรียมทหาร ออกมาแจ้งจับกำนันนั้นไร้สาระ สมัยก่อนรุ่นพี่พวกมันก็เอาปืนจี้พระองค์ คุมตัวพระองค์ท่าน เวลาจะเป็นรัฐาธิปัตย์เหมือนกัน

ผมว่า กำนัน เป็น ยังดูสง่างามกว่า พวกรุ่นพี่เตรียมทหารที่กระทำการปฏิวัติโดยใช้อาวุธบีบบังคับพระองค์ท่านเสียอีก เพราะกำนันได้อำนาจจากประชาชนส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนมากในกรุงเทพมหานครแน่ๆ และกระทำการโดยไม่มีอาวุธ ด้วยมือเปล่าและ อำนาจจากประชาชน

สรุปผมคิดว่า กำนัน ทำได้ แต่ไม่น่าจะได้เข้าเฝ้า เพราะ ไม่มีหน้าที่และเป็นการไม่สมควร

คนที่มีหน้าที่คือ รองประธานวุฒิสภา

สิ่งที่ได้เห็นคือสิ่งที่เขาอยากให้เห็น

สิ่งที่ได้ยินคือสิ่งที่เขาอยากให้ได้ยิน

สิ่งที่ได้รู้คือสิ่งที่เขาอยากให้ได้รู้

อย่าไปหวั่นไหวเพราะคำยุแยงของใคร

หน้าที่ กับ จิตสำนึก มีเส้นแบ่ง ข้ามกันเมื่อไหร่ ประเทศจะเสียระบบ อีกฝ่ายจะมีข้ออ้างได้มากมาย

อย่างไรเสียทหารก็อยู่ข้างประชาชน

ทุกอย่างค่อยๆ จบ เหมือนไฟไหม้ฟาง 

อีนังดอกไม้รู้ตัวอีกที ก็อาจจะหนีไม่ทันด้วยซ้ำ

มีเพื่อนคนหนึ่ง คุณแม่ป่วยหนัก ต้องทำหนังสือเดินทางแต่คิวยาวมาก แต่สุดท้ายไปไม่ทันดูใจคุณแม่เขา

ชีวิตดราม่าไหมครับ? ผมคิดว่าลองเจอกับตัวเองบ้างก็ดี จะได้รู้ว่าดราม่าของจริงเป็นไง

อย่าไปเทียบกับชาวนาผูกคอตายล่ะ

วันหลังคนรอคิวไม่ไหว ผูกคอคายแบบชาวนา มันถึงสาสมกัน ตามทฤษฏีดราม่าดีไหมครับ?

นี่ยังไม่นับรวมเพื่อนอีกหลายๆ คนที่เสียการเสียงาน เสียธุรกิจ ซึ่งบางคนแรกๆ ก็เข้าใจเพราะยังไม่โดนกับตัวเอง แต่พอโดนเข้ากับตัวเองก็เริ่มไม่แน่ใจเหมือนกัน

ทุกวันนี้ ลุงกำนันก็พาคนไปนอนรอมะม่วงหล่นที่สวนลุม ผมก็ไม่เข้าใจว่า หลวงปู่จะสู้หรือจะรอ หรือ จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ แต่อย่าทำให้ชาวบ้านกลุ่มอื่นๆ เดือดร้อน เพราะอาศัย ตรรกะที่ผิดเพี้่ยนว่า

เมื่อชาวนาเดือดร้อน เราต้องทำให้ประชาชนกลุ่มอื่นๆ เขาเดือดร้อนเช่นกัน จะได้เข้าอกเข้าใจกัน

ผมว่ามันผิดไปจากรูปแบบที่ กปปส. ตกลงกันตั้งแต่เริ่มต้นว่า ทำให้รัฐบาลเดือดร้อนมากที่สุด และ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุุด

ถ้ายังคิดกันแบบนี้ อีกไม่นานก็ล่มสลายเหมือนพันธมิตร ที่ออกมาเตือนเพราะหวังดี อย่าลุแก่อำนาจที่มวลชนเทใจมอบให้ แถมท่านเป็นพระด้วย ผมรู้ว่าต่อสู้แบบโพธิสัตว์ แต่ก็ต้องคิดอ่าน ผ่อนหนัก ผ่อนเบา เสียบ้าง ผมคิดว่าถ้าหากท่านยังบำเพ็ญบารมีพระโพธิสัตว์แบบนี้ ท่านอาจจะใช้เวลาเดินทางในสังสารวัฏมากกว่าเดิม

การเปิดให้บริการในส่วนของอาคาร บี นั้นมันรองรับการทำหนังสือเดินทางได้น้อยมาก ผมคิดว่า จะต้องเปิดให้บริการในส่วนของกรมการกงศุล ถึงจะบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนด้วยเช่นกัน

บอกตามตรงนะครับ ผมเลิกบริจาคเงินสนับสนุนเวทีของ หลวงปู่พุทธอิสระมานานแล้ว เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการปิดศูนย์ราชการในส่วนของการให้บริการประชาชน ทุกครั้งที่ไปบริจาคเงินที่สวนลุมพินี ผมจะกำชับว่า เงินของผมไม่สนับสนุนเวทีที่แจ้งวัฒนะ

ทุกวันนี้ประชาชนที่เขาต้องใช้หนังสือเดินทางมีจำนวนมาก และมีการรอคิวกันยาวเหยียดเห็นแล้วน่าสงสารจับใจ ไม่โดนเองคงไม่รู้สึก

ประชาชนที่เขาต้องการหนังสือเดินทางมีภารกิจจำเป็นหลายประการไม่ใช่แค่ว่าเดินทางไปท่องเที่ยวเท่านั้น เขาก็มีภารกิจอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น

1) บางคนต้องเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ต่างประเทศ

2) บางคนก็ต้องเดินทางไปประชุมหรือติดต่อธุรกิจสำคัญๆ

3) บางคนก็ต้องเดินทางเพราะมีเหตุฉุกเฉินที่จะต้องรีบไป

หลวงปู่พุทธอิสระ มักจะอ้างเรื่องความปลอดภัย แต่ผมคิดว่า ท่านสามารถเคลื่อนย้ายเวที ให้เข้าไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยได้

หลวงปู่พุทธอิสระ มักจะอ้างว่าคนที่มาชุนนุมก็มีความเดือดร้อนเพราะนโยบายของรัฐบาล แต่ผมอยากให้ท่านได้คิดว่า พระพุทธศาสนาสอนให้เราก่อกรรมทำเข็ญ สร้างความทุกข์ให้กับเพื่อนร่วมชาติ เพื่อให้เกิดความเห็นใจอีกฝ่ายหรือ?

ผมเห็นด้วยกับการปิดศูนย์ราชการในส่วนที่ไม่กระทบกับงานบริการประชาชน

แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการปิดส่วนราชการแบบไม่เลือกที่ จนทำให้เกิดผลกระทบกับงานบริการประชาชน

เสียทั้งแนวร่วมที่เป็นข้าราชการของแผ่นดิน ซึ่่้งมีหัวใจทำงานบริการประชาชน

เสียทั้งแนวร่วมที่เป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเขาต้องมีภารกิจเดินทางฉุกเฉิน

ผมรู้ว่าท่านเสียสละต่อสู้มามาก แต่การต่อสู้ต้องมีผ่อนสั้น ผ่อนยาว ไม่ใช่พอได้ที ตีข้าศึก แถมเบียดเบียนประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่

สนธิ ลิ้มทองกุล พังเพราะต่อสู้แบบหัวแข็งไม่ฟังใครมาแล้ว ท่านควรจะนำไปเป็นบทเรียนอย่าเดินตามรอยสนธิอีก

ถ้ายังมีสภาพนี้่ต่อไป มันจะเกิดเหตุการณ์ตีกลับ ทำให้ท่านหมดความชอบธรรมในการปิดศูนย์ราชการเลยทีเดียว