sanskrit_shower

พอดีค้นเจอแต่แบบกระจายตามหน่วยต่างๆ

http://www.manager.c...D=9570000010972

เพชรบูรณ์ - ชาวนาเมืองเพชรบูรณ์หอบใบประทวนเหมารถเข้าร้องทุกข์ต่อสภาทนายความฯ เอาผิดรัฐบาลไม่จ่ายเงินจำนำข้าว
       
       วันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาหลายท้องที่ใน จ.เพชรบูรณ์ทยอยนำหลักฐานใบประทวนยื่นต่อสภาทนายความแห่งประเทศไทยที่จัดตัวแทนระดับจังหวัดมาตั้งโต๊ะรับเรื่องอย่างต่อเนื่อง เพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย และดำเนินคดีต่อรัฐบาลที่ยังไม่จ่ายเงินจำนำข้าว ขณะที่การชุมนุมของชาวนาที่ปักหลักประท้วงทวงเงินจำนำข้าวได้ยุติลงเมื่อค่ำวานนี้ (28 ม.ค.) โดยที่ไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดว่าจะได้รับเงินวันไหน
       
       ชาวนาเพชรบูรณ์หลายคนต่างระบุว่า รู้ว่าทางสภาทนายความฯ เปิดให้ร้องทุกข์ แต่ไม่รู้ว่าจะไปร้องทุกข์กันที่ไหน มีบางส่วนเหมารถให้มาส่งเพื่อจะยื่นเอกสารขอความช่วยเหลือ ส่วนชาวนาบางรายจัดเตรียมเอกสารมาไม่พร้อมจึงไม่ได้ยื่น อยากวิงวอนให้ทางสภาทนายความจังหวัดช่วยอำนวยความสะดวก โดยการเปิดศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ตามอำเภอ หรือช่วยจัดเจ้าหน้าที่ไปบริการรับเรื่อง หากมีชาวนานัดแนะจะยื่นเอกสารกันเป็นกลุ่มก้อน
       
       นายดี พันแสน อายุ 75 ปี ชาวนา ต.สักหลง อ.หล่มสัก กล่าวว่า เพิ่งทราบจากเพื่อนชาวนา จึงชักชวนกันมายื่นหลักฐานร้องทุกข์ เพราะนำข้าวเข้าโครงการจำนำข้าวมา 3 เดือน ถือใบประทวนเป็นเงิน 7 หมื่นบาทเศษ แต่ไปขึ้นเงินไม่ได้ หนี้สินก็ยังไม่ได้จ่าย เงินจะกินจะใช้ก็แทบไม่มี หนักใจมาก ไม่รู้จะหาทุนรอนที่ไหนไปทำนา หากไม่ได้เงินก้อนนี้คงลำบาก และแก่ขนาดนี้แล้วไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไร
       
       นายสมเด็จ กำจัด อายุ 55 ปี ชาวนา ต.สักหลง กล่าวว่า มีเพื่อนชาวนาไปบอกจึงพากันเหมารถมายื่นเอกสาร เพราะขายข้าวให้โครงการไปเกือบ 4 เดือน วงเงิน 1.3 แสนบาท ยังถือใบประทวนอยู่ ตอนนี้ค่าปันนา และค่าเกี่ยวข้าวก็ยังค้างอยู่ หากรัฐบาลยังจ่ายล่าช้าไปอีกครอบครัวต้องลำบากมาก
       
       ด้านนายนิคม ลือตระกูล ทนายอาสา สภาทนายความจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า การตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องทุกข์บริเวณสถานที่ชุมนุม ปรากฏว่ามีชาวนานำหลักฐานมายื่นร้องทุกข์ราว 220 ราย และเชื่อว่าหลังจากนี้คงจะทยอยนำเอกสารมายื่นเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ชาวนายังสามารถไปยื่นเอกสารได้ที่ที่ทำการสภาทนายความจังหวัดเพชรบูรณ์ หรือสภาทนายความจังหวัดหล่มสักได้
 

ปัญหาทุกอย่างแก้ได้โดยการไปเลือกตั้งกันนะฮะ
 

http://www.manager.c...D=9570000010397

ศรีสะเกษ - สลด! ผู้ใหญ่บ้าน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เครียดจำนำข้าวไม่ได้เงินผูกคอฆ่าตัวตายสังเวยรัฐบาล “ปูเน่า” เผยเครียดหนักเจ้าหนี้ทั้งในและนอกระบบรุมทวงหนี้ทุกวัน อีกทั้งต้องคอยตอบคำถามลูกบ้านที่ไม่ได้รับเงินจำข้าวเช่นกันวันละหลายคน พาไปทวงถาม ธ.ก.ส.กลับไร้วี่แวว
       
       วันนี้ (27 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 21 บ้านอาวอยพัฒนา ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นางคำปุ่น พันธุชาติ อายุ 45 ปี ร่วมกับญาติพี่น้องกำลังช่วยกันจัดงานศพของ นายเมือง พันธุชาติ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 21 ซึ่งเป็นสามีของนางคำปุ่น และได้ผูกคอฆ่าตัวตายเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (27 ม.ค.) โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด มีเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้องมาร่วมงานศพจำนวนมาก
       
       นางคำปุ่นกล่าวว่า ก่อนที่สามีของตนซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 21 จะผูกคอตายนั้นได้บ่นว่า รู้สึกเครียดมากที่ได้นำเอาข้าวเปลือกจำนวน 6 ตันไปจำนำข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลแล้ว เวลาได้ผ่านมานานกว่า 2 เดือนยังไม่ได้รับเงิน รวมทั้งบรรดาชาวบ้านที่เป็นลูกบ้านได้พากันเข้ามาร้องทุกข์ต่อสามีของตนว่ายังไม่ได้รับเงินจำนำข้าวเช่นกัน ซึ่งสามีตนได้นำลูกบ้านไปทวงถามที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อ.ขุขันธ์ ได้รับแจ้งว่ารัฐบาลยังไม่ได้โอนเงินมาให้ ทำให้นายเมืองต้องตอบคำถามชาวบ้านกรณีที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวทุกวัน วันละหลายราย
       
       อีกทั้งเจ้าหนี้ที่ตนไปยืมเงินนอกระบบจำนวน 100,000 บาท และหนี้เงินกู้ ธ.ก.ส.อีกจำนวน 100,000 บาท เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกข้าว และใช้จ่ายภายในครอบครัว รวมทั้งเป็นหนี้ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง ซึ่งเจ้าหนี้เหล่านี้ได้มาทวงถามหนี้ทุกวัน ทำให้นายเมืองเกิดความเครียดจึงได้ไปผูกคอตายทางด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้าน โดยชาวบ้านที่ไปเลี้ยงวัว ควายไปพบศพของนายเมืองที่ผูกคอตายกับต้นขี้เหล็กเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (27 ม.ค.)
       
       “รู้สึกเสียใจมากที่นายเมืองได้คิดสั้นผูกคอตาย เนื่องจากจำนำข้าวยังไม่ได้รับเงินมาใช้หนี้เจ้าหนี้ที่มารุมเร้าทวงหนี้ทุกวัน โดยมีกำหนดฌาปนกิจศพของนายเมืองในวันที่ 29 ม.ค.นี้ ที่วัดบ้านอาวอย ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ” นางคำปุ่นกล่าว
       
       นายประจิม ผิวอ่อน อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 21 บ้านอาวอยพัฒนา ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนมีบ้านอยู่ติดกับบ้านของนายเมือง และได้ยินนายเมืองบ่นทุกวันที่จำนำข้าวกับรัฐบาลแล้วไม่ได้เงิน อีกทั้งชาวบ้านได้มาร้องขอให้นายเมืองช่วยไปติดตามเงินค่าจำนำข้าว แต่ก็ยังไม่ได้รับเงินนานกว่า 2 เดือนแล้ว จึงทำให้นายเมืองเกิดความเครียดทั้งปัญหาของตัวเองที่ยังไม่ได้เงินจำนำข้าวมาใช้หนี้ ธ.ก.ส. และหนี้นอกระบบ รวมทั้งต้องรับปัญหาไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวของชาวบ้านด้วย ทำให้นายเมืองตัดสินใจผูกคอตายหนีปัญหา
       
       “จึงขอเรียกร้องให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลได้พิจารณาหาทางจ่ายเงินค่ารับจำนำข้าวให้กับชาวนาโดยด่วนด้วย เพราะชาวนามีเพียงรายได้จากการขายข้าว เพื่อให้ได้เงินมาใช้หนี้และใช้จ่ายภายในครอบครัวเท่านั้น” นายประจิมกล่าว

ป้ายหาเสียง พท เขียนว่าขอโอกาสเพื่อสานต่อนโยบายให้สำเร็จ

 

ถ่ายเองกับมือ เพราะเปิดเจอพอดี

ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนนะ  ถึงได้มีความคิดเช่นนี้ได้

http://www.naewna.com/politic/77172

วันนี้ 13 พ.ย.56 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมอำนวยการศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) รับผิดชอบงานจราจร พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) เรียกประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นซ์ กับรอง ผบก.น.1-9 รองผบก.จร. เพื่อวิเคราะห์สภาพการจราจรแต่ละพื้นที่นำไปสู่การแก้ปัญหากาจราจรในภาพรวม โดยมีข้อสั่งการที่สำคัญคือให้ทุกท้องที่สอดส่องจับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ที่ติดธงชาติออกมาวิ่งสร้างความปั่นป่วน หรือก่อเหตุวุ่นวายบนท้องถนน โดยให้ใช้ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ในการจับกุม และให้รายงานผลการดำเนินจับกุมในเวลา 12.00 น. และเวลา 15.00 น. เพื่อให้สามารถนำรายงานต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.รับทราบ

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า เป็นที่ทราบวันว่า แกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศประชาสัมพันธ์ให้มีการติดธงชาติที่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ และให้ขับออกมาปั่นป่วนสร้างความวุ่นวายบนท้องถนน ก็ได้มอบให้ทุกท้องที่สอดส่องดูแลอย่าให้มีการดำเนินการลักษณะเช่นนั้นเกิดขึ้น เพราะจะเป็นการสร้างปัญหาต่อการจราจร โดยสามารถใช้ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ จับกุมกวดขันได้ ทั้งในข้อหาจอดรถกีดขวาง จอดรถในที่ห้าม ขับรถกีดขวางการจราจร ขับรถประมาทหวาดเสียวก่อให้เกิดอันตราย เป็นต้น ทั้งนี้กำชับให้จับกุมเฉพาะรถติดธงชาติที่มีลักษณะปั่นป่วน หรือก่อเหตุวายวาย หรือไปเกะกะระรานผู้อื่นเท่านั้น แต่ถ้าติดธงชาติที่รถแล้ววิ่งสัญจรไปมาตามปกติก็ไม่เป็นไร จะไม่มีการจับกุมใดๆ

พิจารณากันเองเถิด