ตึงเฒ่า

 

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - มทส.โคราชสุดยอด! สร้าง “ไอยรา คลัสเตอร์” ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ARM ประหยัดพลังงานสำหรับ Big Data ตัวแรกของไทย พัฒนาโดยฝีมือคนไทย ขนาดกะทัดรัด ราคาถูกกว่า 10 เท่า แต่ประสิทธิภาพสูง พร้อมมุ่งขยายผลสู่การนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ลดต้นทุนผู้ประกอบการ เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันทางธุรกิจ

       

       วันนี้ (4 เม.ย.) ห้องสารนิเทศ อาคารบริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) อ.เมือง จ.นครราชสีมา ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดี มทส. พร้อม รศ.ร.อ.ดร.กนต์ธร ชำนิประศาสน์ คณบดีสำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ และทีมงานได้ร่วมกันแถลงเปิดตัว “มทส. ไอยรา คลัสเตอร์” ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้บอร์ดประมวลผล ARM สำหรับประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ตัวแรกของประเทศไทย

       

       ศ.ดร.ประสาทเปิดเผยว่า การเปิดตัว “มทส.ไอยรา คลัสเตอร์” ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ในวันนี้ถือเป็นนวัตกรรมด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ฝีมือคนไทย โดยทีมพัฒนาซึ่งเป็นคณาจารย์จากสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ของ มทส. มีจุดเด่นในด้านการประหยัดพลังงาน ต้นทุนต่ำ ออกแบบเพื่อประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data ได้โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล หรือ Data Center ซึ่งมีราคาแพง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายถึง 90%

       

       ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจสัมพันธ์กับองค์กรชุมชน มหาวิทยาลัยพร้อมที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการในเชิงพาณิชย์ โดยสนับสนุนทางเทคนิคทั้งระดับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันในตลาด Big Data เพราะ “มทส.ไอยรา คลัสเตอร์” จะช่วยลดต้นทุนด้านฮาร์ดแวร์ สร้างความแตกต่างด้านซอฟต์แวร์ และเสริมความแข็งแกร่งด้านการให้บริการ

       

       ด้าน รศ.ร.อ.ดร.กนต์ธรกล่าวถึงงานวิจัยนี้ว่า แม้มีการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์กันอย่างแพร่หลาย แต่ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมาภาคอุตสาหกรรมไอทีตื่นตัวด้านการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของผู้บริหาร และปรับตัวตามตลาดให้ทันเวลา โดยซอฟต์แวร์ Big Data ที่แพร่หลายมีชื่อว่า Apache Hadoop ซึ่งคาดหวังว่าเทคนิคทางการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ หรือ Cloud Computing จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสร้างศูนย์ข้อมูลขึ้นเอง

       

       อย่างไรก็ตาม องค์กรต่างๆ ยังเกิดความกังวลในประเด็นการนำข้อมูลที่สำคัญออกไปประมวลผลบนเครื่องในกลุ่มเมฆภายนอกองค์กร ทำให้แนวคิดการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ราคาถูก และใช้ได้ทั่วไปในระดับองค์กรเป็นทางเลือกที่ดีกว่า มทส.จึงได้พัฒนา “มทส.ไอยรา คลัสเตอร์” เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ARM ประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ สำเร็จเป็นตัวแรกของประเทศไทย ซึ่งนอกจากมีศักยภาพในการใช้งานในอุตสาหกรรมไอทีแล้ว ยังสามารถสนับสนุนงานวิจัยเชิงคำนวณ ช่วยงานด้าน Finite Elements และงาน Computer Aided Engineerings (CAE) ของนักวิจัย เพิ่มความถูกต้องแม่นยำ ในขณะที่ใช้เวลาในการทำงานลดลงอย่างมากอีกด้วย

       

       ด้านนายวิชัย ศรีสุรักษ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มทส. หนึ่งในทีมพัฒนา กล่าวว่า “มทส.ไอยรา คลัสเตอร์” เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้บอร์ดประมวลผล ARM จำนวน 22 โหนด สำหรับประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เนื่องจากหน่วยประมวลผลที่ใช้เป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในโทรศัพท์ Smart Phone ทั่วๆ ไป ทำให้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นนี้มีจุดเด่นในเรื่องประหยัดพลังงาน ทำงานได้ในอุณหภูมิห้อง หรือ 25 องศาเซลเซียส สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก โดยมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า 10 เท่า หรือตัวละประมาณ 400,000 บาท เมื่อเทียบกับการลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล หรือ Data Center ที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

       

       ทั้งนี้ ตัวฮาร์ดแวร์ของ “มทส.ไอยรา คลัสเตอร์” สร้างขึ้นมาจากอุปกรณ์เท่าที่มีในห้องปฏิบัติการ และเมื่อรวมกับเทคนิคทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์ก็สามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอายุการใช้งานเทียบเท่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปคือไม่เกิน 3 ปี

       

       สำหรับ “มทส.ไอยรา คลัสเตอร์” ตัวต้นแบบมีความเร็วรวม 20 GHz มีหน่วยความจำรวมขนาด 20 GB สามารถประมวลผลข้อมูล Wikipedia ภาษาอังกฤษทั้งหมดโดยไม่แบ่งเป็นไฟล์ย่อยเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง 50 นาที ซึ่งหากเป็นการประมวลผลด้วยบอร์ด ARM แบบเครื่องเดี่ยวจะใช้เวลามากกว่า 33 ชั่วโมง จากการประมวลผลทำให้ทราบว่าในปี 2555 มีคำว่า 'the' อยู่บน Wikipedia มากกว่า 126 ล้านคำ ขณะประมวลผล Wikipedia ทั้ง 22 โหนด กินไฟไม่ถึง 150 วัตต์ คิดเป็นค่าไฟฟ้าไม่ถึง 15 บาท เมื่อเปิดใช้งานตลอดทั้งวัน

       

       สำหรับประเด็นหลักที่ทำให้สามารถประมวลผล Big Data ได้ คือการใช้หลักการทางวิศวกรรมค่อยๆ ปรับให้ซอฟต์แวร์เข้ากับฮาร์ดแวร์ของคลัสเตอร์ สำหรับก้าวต่อไป ทีมพัฒนา “มทส.ไอยรา คลัสเตอร์” เตรียมสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ARM ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นไปอีกขั้นแต่ยังคงประเด็นความประหยัดพลังงาน เพื่อเตรียมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีครบ 25 ปี ในปี 2558

 

ภาคีเครือข่ายต้านคอรัปชั่นภาคใต้ ยื่นร้องผู้ตรวจสอบจริยธรรม 9 อรหันต์ป.ป.ช. เหตุตั้ง “ศศิธารา” เลขาฯสภาการศึกษา ที่พัวพันทุจริตครุภัณฑ์ 5300 ล้านเป็นอนุป.ป.ช.

 

วันอังคาร 12 มีนาคม 2556 เวลา 14:48 น.

 

วันนี้ (3 เม.ย.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้แจ้งมติของคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนสามัญ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (อ.ก.พ.สกศ.) ทำหน้าที่ อ.ก.พ.กระทรวงศึกษาธิการที่ให้ปลด น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการ สกศ. อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) ออกจากราชการ กรณีกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวศึกษา โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่2 (เอสพี2) ที่เอกสารสำคัญสูญหาย แต่กลับมีการอนุมัติเบิกจ่ายเงิน ซึ่งส่อว่าอาจมีความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้ราชการได้รับความเสียหาย ไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำความกราบบังคมทูลให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ น.ส.ศศิธารา พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษานับตั้งแต่วันที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งนั้น ขณะนี้ทราบว่าได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ มาแล้ว รอเพียงให้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ลงนามและส่งเรื่องมายังกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น

        นายจาตุรนต์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษาว่าง ตนจะตั้งคณะกรรมการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมมาดำรงตำแหน่งต่อไป ซึ่งเบื้องต้นได้มีการหารือกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการไปบ้างแล้ว ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า จะมีการพิจารณาบุคคลที่มีความใกล้ชิดจากฝ่ายการเมืองเข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าวนั้น อาจจะมีการพูดคุยแต่ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหา

        อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์นี้คงไม่สามารถเสนอชื่อต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้ทัน แต่จะพยายามให้แล้วเสร็จในสัปดาห์ถัดไป

        ทั้งนี้จะขยับตำแหน่งให้น้อยที่สุด ส่วนที่ว่าจะมีการโยกย้ายในระดับ 11 ด้วยหรือไม่นั้น ยังไม่ได้พิจารณาแต่ตนจะพยายามทำให้เหมาะสมกับการเป็นรัฐบาลรักษาการ