Hu_uH

อันนี้ฝากช่วยกันแชร์ด้วยเยอะๆ หม่อมอุ๋ยจะได้รู้ว่าทรัพยากรธรรมชาติมีค่ามากกว่าท่าเรือน้ำลึก คือเข้าใจว่าถ้าทำท่าเรือน้ำลึกนี่คงจะทำเงินได้มหาศาล แต่ทรัพยากรธรรมชาตินี่ถ้าหมดแล้ว สร้างใหม่ไม่ได้นะ แล้วต่อไปจะให้ลูกหลานเรานั่งดูท่าเรือใหญ่โตแทนที่จะดูประการังหรือพันธ์สัตว์ทะเลแปลกๆหรือ จะทำให้ไทยกลายเป็นสิงคโปร์หรือยังไง ที่เป็นประเทศที่แทบไม่มีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติเลย อย่างนั้นหรือ ป่าก็หมดไปแล้ว ต่อมาจะมารุกล้ำทะเลอีก มันมากเกินไปแล้ว
อันนี้เป็นรายละเอียดโครงการที่พูดถึงข้อดีและข้อเสีย
http://www.sc.psu.ac...903-PakBara.pdf

งั้นเอาเนชั่นสุดสัปดาห์มาเทียบแระกัน

 

ช่างแตกต่าง

 

 

 

เถกิง สมทรัพย์

 

'ประชาธิปไตย'ล้มเหลวเพราะ เลือกตั้งโดยไม่ถ่วงดุลอำนาจ: เรื่องขึ้นปกของ The Economist นิตยสารรายสัปดาห์ชื่อดังของอังกฤษเล่มล่าสุด สร้างความฮือฮาไม่น้อย ในหมู่นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศ... และในมวลหมู่นักประชาธิปไตยของไทย โดยเฉพาะผู้เรียกร้องให้มีการ “ปฏิรูปประเทศไทย” อย่างจริงจัง

ประเด็นที่เขาขึ้นพาดหัว คือ “ประชาธิปไตย” ของโลกมีปัญหาอะไรหรือ จึงเกิดความขัดแย้งกันมากมายในหลายประเทศ และจะมีวิธีการใดที่จะทำให้ระบอบการปกครองที่อดีต นายกฯ อังกฤษวินสตัน เชอร์ชิล เคยนิยามว่าเป็น “ระบอบการปกครองที่เลวน้อยที่สุด” กลับฟื้นขึ้นมาตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

บทวิเคราะห์ยาว 6 หน้า ย้อนไปพูดถึงที่มาของระบอบการปกครองที่เรียกว่า democracy ซึ่งเพิ่งจะได้รับความนิยมในหลายๆ ประเทศ หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ถึงวันนี้ประมาณกันว่าประเทศที่เลือกใช้ระบอบนี้มีประชากรรวมกันประมาณ 40% ของโลก

แต่ในระยะหลัง เหตุการณ์ในหลายประเทศที่กำลังพัฒนา สะท้อนถึงปัญหาของประชาธิปไตย

อีกทั้งมีการชี้ให้เห็นว่า จีน ไม่ใช้วิธีการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยตะวันตก พรรคคอมมิวนิสต์จีนควบคุมทุกกลไกของประเทศ เปลี่ยนผู้นำระดับสูงทุก 10 ปี คัดเลือกคนเก่งตามผลงาน ทำให้เศรษฐกิจก้าวหน้าพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ความล้มเหลวในระบอบการเลือกตั้ง ปรากฏให้เห็นในหลายประเทศ เช่น ที่รัสเซีย โดยที่ บอริส เยลต์ซิน เป็นผู้นำคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง ต่อมา วลาดิเมียร์ ปูติน ได้ตำแหน่งทั้ง นายกฯ และ ประธานาธิบดี แม้ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง ปูติน ก็ใช้วิธีการควบคุมกลไกการเมืองอย่างเข้มข้น แทรกแซงสื่อ จับคู่แข่งทางการเมืองคุมขังและกำกับดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด ใครคัดค้านหรือต่อต้านต้องเจอกับการคุกคามกลั่นแกล้งทุกวิถีทาง

ตัวอย่างความล้มเหลวของระบอบ “ประชาธิปไตย” ต่อมาก็เกิดที่ อิรัก อียิปต์ ซีเรีย ลิเบีย แอฟริกาใต้ ตุรกี ตอกย้ำว่าระบอบที่อ้างการเลือกตั้งเป็นหลักนั้น ก็ยังหลุดเข้าไปสู่ระบบเผด็จการและคอร์รัปชัน และปกครองผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มผู้มีอำนาจอย่างน่ากลัว

บทวิเคราะห์นี้อ้างถึงเหตุการณ์ในไทย บังกลาเทศ และ กัมพูชา ที่ฝ่ายค้านและประชาชนจำนวนไม่น้อยออกมาประท้วงกลางถนน คัดค้านการเลือกตั้งภายใต้กติกาเก่าที่ผู้กุมอำนาจได้เปรียบตลอดกาล หรือเลือกตั้งแล้วก็ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง เพราะความฉ้อฉลของผู้มีอำนาจ

เขาวิเคราะห์ว่าปัญหาที่ทำให้ระบอบประชาธิปไตยล้มเหลวในหลายๆ ประเทศ ก็เพราะ...

พรรคการเมืองต้องการจะชนะเลือกตั้งอย่างเดียว จึงเสนอนโยบายเฉพาะหน้า เอาใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่คำนึงถึงภาระปัญหาการเงินการคลังที่ตามมาจากนโยบาย “ประชานิยมสุดขั้ว”

อีกทั้งประชาชนวันนี้ ก็เน้นแต่ประโยชน์เฉพาะรุ่นของตนเอง มากกว่าที่จะสนใจว่าจะสร้างอะไรให้กับคนรุ่นต่อไป

เขาเสนอว่า การจะรักษาประชาธิปไตยในความหมายที่ให้ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เสมอภาค และ สันติ นั้น จะต้องตระหนักว่า

1. ต้องไม่ยึดติดว่าประชาธิปไตย หมายถึง การเลือกตั้งอย่างเดียว อีกทั้งต้องไม่อาศัยเสียงข้างมากในสภาเพื่อแก้ไขกฎกติกาต่างๆ ให้ผู้มีอำนาจได้เปรียบคนอื่น อย่างไม่เป็นธรรม

คำว่า “majoritarianism” มีความหมายว่ากลุ่มการเมืองที่มีเสียงส่วนใหญ่ผ่านการเลือกตั้ง มักจะอ้าง “อาณัติจากประชาชน” กระทำการต่างๆ เพื่อผ่านกฎหมายหรือเปลี่ยนกติกาให้ตนได้ประโยชน์โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านและความเห็นต่างจากคนที่อยู่เสียงข้างน้อย นำไปสู่การกล่าวหาว่ามีการใช้ “เผด็จการรัฐสภา” มาปกครองประเทศจนผิดเพี้ยนไปจากหลักคิดประชาธิปไตยที่แท้จริง

2. ต้องมีกลไกถ่วงดุลอำนาจของรัฐบาลที่เข้มแข็งและยั่งยืน หรือที่เรียกว่า checks and balances ที่ไม่ให้ผู้มีอำนาจกุมชะตากรรมคนทั้งประเทศ โดยไม่มีใครสามารถมาถ่วงดุลได้

3. คุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลในการแสดงความคิดเห็น การรวมกลุ่มเพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมต่างๆ

4. มีกติกาป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชันของภาครัฐ อย่างเข้มข้นและคึกคัก

5. ตีกรอบไม่ให้พรรคการเมืองเสนอผลประโยชน์ระยะสั้น ที่เกินความสามารถและขอบเขตของประเทศ และไม่ให้รัฐบาลเข้าแทรกแซงกิจกรรมเศรษฐกิจมากเกินไป

คนไทย อ่านบทวิเคราะห์นี้แล้ว เห็นภาพชัดเจนแจ่มแจ๋วเลยว่า เราจะต้องทำอะไรอย่างจริงจัง เพื่อให้ประเทศนี้ปกครองโดย “ระบอบประชาธิปไตย” ในความหมายที่แท้จริง เหมือนทีมงานวิเคราะห์ความล้มเหลวระบอบประชาธิปไตย ของ The Economist มานั่งอยู่แถวๆ กรุงเทพฯ ...ทีเดียว

 

โดย กาแฟดำ

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ภาพ blogs.thenews.com.pk
เครดิต เพจ Bank of Thailand Scholarship Students

ผมไม่แอบ ไม่กระแดะ มาต้านรัฐประหาร ผมชัดเจน

ผมบอกเลยว่าเชียร์พลเอกประยุทธ์ เดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย

 

การรัฐประหารก็เหมือนมีคนชูปืนขึ้นในบ้าน แล้วบอกว่า
“ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ”

 

ก่อนที่เราจะพุ่งเข้าไปแย่งปืน เราคนที่อยู่ในบ้านต้องดูว่าคนที่ชูปืนขึ้นเขาคือใคร

ถ้าเขาคือโจรร้ายที่ปล้น ชาติ ปล้นแผ่นดิน ปล้นชาวนา จะมายึดอำนาจเพื่อจะมาปล้นเรา

เราจะก็ต้องทำทุกวิถีทางที่จะขัดขืน (ไม่ใช่ขัดขืนแบบรับจ้างมาแบบนี้)

 

แต่นี้มันไม่ใช่ พลเอกประยุทธ์ ท่านไม่ใช่โจร ท่านเป็นทหารของพระราชา ท่านทำรัฐประหารเมืองให้บ้านเมืองมันสงบ

เพื่อให้การปฏิรูปการเมือง โดยปราศจากนักการเมืองเกิดขึ้นได้ เพื่อจะตัดวงจรอุบาทว์

ของการโกงการเลือกตั้ง-ซื้อเสียง-ซื้อส.ส.แล้วเข้ามาถอนทุน มาโกงบ้านโกงเมือง

 

ถ้าติดตามการเมืองมาตลอดก็จะเห็นว่าท่านไม่ได้อยากจะทำ ท่านพยายามหาทางออกให้กับประเทศด้วยวิธีอื่นแล้ว

แต่พวกนักธุรกิจการเมือง มันหวงอำนาจ มันไม่ยอม ถ้าจะปล่อยให้ประชาชนลุยกันเองก็ต้องบาดเจ็บล้มตายกันอีกมากมาย

จนอาจจะกลายเป็นสงครามกลางเมือง

 

แล้วท่านก็ไม่ได้คิดจะมายึดอำนาจไว้ชั่วลูกชั่วหลาน แบบที่ระบอบทักษิณคิดจะทำ ท่านขอเวลาปฏิรูปประเทศ ไม่เกิน 1-2 ปีเท่านั้น

รอกันไม่ได้เหรอครับ ถ้าทำแล้วประเทศไทยจะดีขึ้น มีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการโกงการเลือกตั้งสัก 2 ปี

ผมว่าประเทศจะไม่เสียหายไปกว่าที่เสียไปในโครงการจำนำข้าว 5 แสนล้าน

 

ผมเชียร์ให้ท่านทำให้สำเร็จ วางรากฐานประเทศไทยให้ดี วางรากฐานระบบพรรคการเมืองให้ดี

กระจายอำนาจการปกครองให้ประชาชนมีส่วนร่วม ปฏิรูปสื่อ ปฏิรูประบบราชการ แล้วถ้าท่านทำสำเร็จ

ประเทศไทยก็จะเจริญก้าวหน้า มีระบบการเมืองที่ดี ที่มั่นคง และก็จะไม่ต้องมีรัฐประหารอีกต่อไปครับ

 

ส่วนพวกขี้ข้าทักษิณที่พยายามมากระแดะ ต่อต้านรัฐประหาร ต่อต้านทหาร ผมอยากให้ย้อนไปดูภาพ

ทักษิณ ชินวัตร ยืนเอามือกุมไข่ขอดาวเทียมจาก คณะรสช. ถ้าท่านรับการรัฐประหารไม่ได้

เชื่อว่าผลพวงของการรัฐประหารคือผลไม้พิษ ก็ขอให้คุณทักษิณคืนเงินที่ได้จากการขายดาวเทียม ให้กับคนไทย

เพราะคุณทักษิณได้มันมาจากการรัฐประหาร

 

ผมอยากให้พี่น้องให้โอกาส ให้ความร่วมมือ ปฏิรูปประเทศไปกับพี่น้องทหารและข้าราชการเหล่านี้

ขนาดรัฐบาลอีโง่ “โกงการเลือกตั้งมา” เรายังให้โอกาสตั้ง 2 ปี แล้วจะให้โอกาสทหารกล้าเหล่านี้สัก 2 ปี จะเป็นอะไรไปครับ

 

ผมเกลียดการปฎิวัติรัฐประหารจริง ๆ (ปฎิวัติรัฐประหารบ้านผม)

 

หลังจากเมือวาน กินเหล้าเยอะไปหน่อย กลับดึกไปหน่อย

 

โดนคุณภรรเมียประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกจากบ้านหลัง 1 ทุ่ม 

 

ถ้าไม่ปฎิบัติตาม นอนนอกห้อง ให้ยุงกินตายไปเลย

 

เซ็งเป็ดสุด ๆ

 

ปล. ลืมไปครัช ไม่เกี่ยวกะกระทู้นี่หว่า

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

คิดถึงลุงกำนัน

 

edit อ่านจบแล้ว เมื่อวานเข้าใจไปว่าปิดกระทู้ไปแล้ว       วันไหนที่นังปูโดนฟ้อง อยากให้ลุงเป่านกหวีด ฉลองชัย  

ม็อบเลิกไปรู้สึกเหงาๆยังไงไม่รู้  ยังจำอารมย์วันปิด มหาดไทย วันจุดเทียนวันพ่อ  วันที่ถนนทุกสายมุ่งไปทำเนียบ เปิดหมวกพี่โจ จนสุดท้ายหนีงานตอนเที่ยงไปฟังลุงที่สวนลุม

หวังว่าครั้งนี่จะเป็นรอบสุดท้ายที่พวกเราต้องออกมาลำบากไล่ ทรราช ออกจากแผ่นดิน

และจะรำลึกถึงนักการเมืองที่ตลอดมาเรามองว่าเป็นนักการเมืองที่เป็นจุดบอดของ ปชป แม้จะแอบสงสัยว่าสีเทาอย่างนี้ทำไม นายกในดวงใจอย่างลุงชวนถึงอุ้มจัง

วันนี้ลุงพิสูจน์ตัวเองแล้ว ลุงคือของจริง     ขอบคุณที่ออกมาเหนื่อยและเสียสละเพื่อประเทศของเรา

ถ้าคุณ redfog53 ยังไม่ปิดกระทู้ก็จะเข้ามาโพสต์เรื่อยๆ

เคยชินกับการนอนตึกคอยฟังเสียง M79 เสียงปืนว่าจะลงจุดไหน แล้วส่งข่าวให้น้องๆการ์ด หรือไม่ก็น้องๆการ์ดไลน์มา "พี่ๆ แจ้งข่าวด้วย" กว่าจะได้หลับก็ตีสามกว่าเกือบตีสี่

เป็นความเคยชิน ที่หวังว่าจะไม่มีความเคยชินแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว

ถ้าจะกู้เงิน 2 ล้านล้านผมก็ค้านครับ   ถ้าเอาเนื้อหาโครงการมาทำโดยมีการวางแผนและวินัยการคลังที่ดีก็สนับสนุน 

ที่จะทำคือหยิบมาทั้ง 2.2 ล้านๆเลยหรือว่าเลือกเท่าที่จำเป็นจาก 2.2 ล้านๆ

ถ้าเอามาทั้งหมดเลย ผมต้องเป่านกหวีดพอเป็นพิธี ไม่่ให้เสื้อแดงเค้ามาด่าว่าผมเงียบ

 

เห็นตอนนี้มีคนแชร์รูปโครงการสองล้านล้านบาทแยกเป็นลงทุนอะไรบ้างมาจากทีวีไทยรัฐ แล้วระบุว่าเป็นโครงการที่ คสช. จะกู้สองล้านล้านมาลงทุนทำ ผมสงสัยว่าเป็นข้อมูลจริงหรือเท็จครับ มีสมาชิกท่านใดพอยืนยันได้บ้าง  (ถ้า mod พิจารณาว่าไม่เหมาะสมลบรูปได้นะครับ)

 

 

 

เนื้อข่าวครับ 

 

'ประจิน' ขอ 2 สัปดาห์ ศึกษาลงทุน 2 ล้าน ล. ลั่นไม่ทิ้งโครงสร้างพื้นฐาน

 ประเทศไทยถือเป็นจุดศูนย์กลางด้านคมนาคม ซึ่งจะใช้จุดแข็งนี้ในการวางยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานเพื่อทำการขนส่งสินค้า และผู้โดยสารให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว โดยจะให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อในอาเซียน ทั้งทางบกและทางอากาศ

ทั้งนี้ ในแผนแม่บทกระทรวงคมนาคม ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเห็นว่า ทุกโครงการจะต้องนำไปศึกษาก่อน รวมทั้งแนวทางการหาสภาพคล่องเข้ามาในโครงการ จึงขอเวลาศึกษารายละเอียดประมาณ 2 สัปดาห์ และนำข้อสรุปจากการหารือวันนี้เสนอหัวหน้า คสช.ในสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า โครงการโครงสร้างพื้นฐานทุกโครงการ เราให้ความสำคัญ ซึ่งภาครัฐจะลงทุนเอง ส่วนการหาแหล่งเงินอื่นเข้ามาลงทุน จะมีการศึกษารายละเอียดอีกครั้ง โดย คสช. พร้อมจะแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เคยมีในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้หมดไป

http://www.thairath..../content/425798

............................................................................................................

น่าจะสื่อออกมาแค่ จะสานต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานครับ เพียงแต่ไปโยงถึง โครงการ 2.2 ล้านล้านบาทเลยเป็นเรื่อง 

 

 

 

 

แรกเริ่มเดิมที ที่พวกเราต่อต้าน 2.2ล้านล้านกัน ก็เพราะว่ามันมัดรวมเป็นแพ็คเกจเดียว, ออกเป็นพรบ.ฉบับเดียว มีแค่ 4 หน้า, ให้อำนาจ รมต.สูงสุด, ตรวจสอบไม่ได้, เอื้อต่อการทุจริต, บางโครงการยังไม่ได้ศึกษาให้ดี ฯลฯ

โดยในแพ็คเกจก็มีการดึงเอาโครงการที่อนุมัติไปแล้วเข้าไปรวมด้วย อาทิ โครงการรถไฟรางคู่

 

การที่จะนำขึ้นมาทบทวนใหม่จึงถือว่าสมควรอย่างมากครับ เพราะหลายโครงการก็เป็นการพัฒนาลอจิสติกควรจะทำจริงๆ

และนำมาทบทวนก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องทำแบบเดิม กู้แบบเดิม แค่เห็นว่าอันไหนดีก็ทำต่อ อันไหนไม่ดีก็พับไป

แต่ไม่ใช่ "กู้แม่งทั้งแพ็คเกจ" เหมือนที่เพื่อไทยพยายามทำ

 

ในเฟซก็"อ่านแต่พาดหัว"แล้วเอาไป"มโน"กันใหญ่โต

บางคนไปถึงขั้น"ทักษิณจ้างมาปฏิวัติ"

 

เห็นแล้วก็เพลียกับวิจารณญาณของคนไทย 

 

 

Qill Sleepy

 

 

 

 

วันแรกแรก ที่ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ร้องขอให้ มวลมหาประชาชน เดินไปส่ง คุณสุเทพฯ และ พรรคประชาธิปัตย์ เข้า สภา

 

การเรียกร้องในครั้งนั้นเพื่อเป็น การแสดงสัญญลักษณ์ ปฏิเสธ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ให้แก่ คุณทักษิณ ชินวัตร

 

ใน วันนั้น คุณสุเทพฯ ยังคงเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อยู่...

 

เรียน เพื่อนเพื่อน ทุกคน ตรงตรง เวลานั้น ตะนิ่นตาญี ยังไม่ใคร่เชื่อ ใน ขนมจีน-น้ำยา ของ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ มากน้อยสักเท่าไหร่

 

มี ผู้ใหญ่ ที่ เคารพนับถือกันมากท่านหนึ่ง บอกว่า ทำไม...ไม่ลองวัดใจ กับ คุณสุเทพฯ แก ดูเล่า? ตะนิ่นตาญี ไม่ได้ตอบคำถามนั้นครับ ได้แต่ยิ้ม

 

จนเมื่อ มี การชุมนุมครั้งใหญ่ ที่ สถานีรถไฟสามเสน ต่อเนื่องมาจนถึง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ละเรื่อยไป แยกปทุมวัน และ สวนลุมพินี

 

ย้อนกลับมาที่ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ตามลำดับ

 

จากวันนั้น ถึง วันนี้...จาก ส.ส. สุเทพ เทือกสุบรรณ มาเป็น พี่กำนันฯ ของ ตะนิ่นตาญี สิ่งที่ ตะนิ่นตาญี ได้เรียนรู้ ใน character ของ พี่กำนันฯ นั่นก็คือ

 

หัวใจ ของ พี่กำนันฯ นั้น ใหญ่เกินตัว...พี่กำนันฯ จะรู้หรือไม่ ไม่เป็นไร แต่ ขอให้ทราบโดยทั่วกัน

 

พี่กำนันฯ เป่านกหวีดอีกเมื่อใด ตะนิ่นตาญี ก็จะไปอีกเมื่อนั้น ไม่เชื่อก็ลองดู จะวัดใจกันกี่รอบก็ได้ นะ พี่กำนันฯ นะ   

 

 

หมายเหตุ : ขออนุญาต ลบ ภาพ นี้ ทิ้ง เพื่อป้องกันมิให้ เกิด ปัญหา ต่อ ผู้ดูแล 

 

ขออภัย เพื่อนเพื่อน และ ผู้ดูแล ใน ความไม่เหมาะสม ด้วยครับ

 

 

จากหน้าแรก จนใกล้ จะถึง หน้าสุดท้าย ของ กระทู้ เกาะติดสถานการณ์ฯ ของ คุณ redfrog53 นี้

 

สิ่งที่เห็น ได้ อย่างชัดเจน คือ น้ำใจ ของ คนเสรีไทย ทั้ง หญิง และ ชาย

 

น้ำใจ ของ เพื่อนเพื่อน ทุกคน นั้น ยิ่งใหญ่ มหาศาล ทุกผู้-ทุกนาม จนไม่อาจเอ่ยอ้าง ชื่อใด-ชื่อหนึ่ง หรือ ทุกชื่อ ได้ครบ

 

ไม่ว่า เพื่อนเพื่อน จะ อยู่ตรงไหน ใน สังคม ไม่ว่าจะเป็น เพศบรรพชิต หรือ ฆราวาส ทุกคนจะมีความห่วงใยกัน

 

อนาทรร้อนใจ ใน กันและกัน อยู่ตลอด ตะนิ่นตาญี คงไม่มีวันลืม ความรู้สึกดีดีเหล่านี้เป็นแน่แท้

 

ขอบพระคุณ เพื่อนเพื่อน ทุกคน ขอบพระคุณมากครับ   

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันพุธที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗

 

เวลา ๘.๕๕ นาฬิกา