bangkaa

เอางี้ละกัน ผมเสนอ VOTE NO ไป คนไม่เอา คนไม่เก็ต...

อย่างงั้น ลองอย่างงี้ดีมั้ย

ไหนๆก็ชอบอ้างเรื่องการเลือกตั้ง สิทธิ เสียงของประชาชน การตรวจสอบดีนัก

เลือกตั้ง 2 ปี ครั้งดีมั้ย

4 ปี มันนานไปมาก ให้เวลาโกงกันสบายๆนานเกินไป

เลือกตั้งถี่ๆ เป็น การตรวจสอบด้วยประชาชน ไปในตัว

เพราะ การตรวจสอบในระบบที่มีอยู่ มันไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

ไม่ต้องมาอ้างว่า 2 ปี รัฐบาลทำงานไม่ต่อเนื่อง

มันก็ต้องมีการ TRADE OFF อ่ะ

มีได้ มีเสีย.....

ถ้าใครเจ๋งจริง ดีจริง มันก็ต้องได้รับเลือกตั้งมาเรื่อยๆ

2 ปี กำลังดี

(1 ปี อาจจะโหดไป เร็วเกิน)

 

มันมีให้เลือกอยู่เท่านี้ จริงเหรอ.....

 

 

 

หรือจะให้ใช้ม.7 เพื่อได้แป๊ะหรือจำลองมาเป็นนายก งั้นหรือครับ?

 

ฝากบอกคุณพี่มาร์ค อภิสิทธิ์ ด้วยนะครับ

หากคิดทำ ได้เท่าที่เห็นอย่างทุกวันนี้  เพ่ก็เป็น ฝ่ายค้านไปตลอดชาติเถอะครับ

ผมไม่ได้ประชดอย่างเดียว...  แต่กล่าวด้วย เหตุผล ด้วยใจจริง

ไอที่จะหวังแค่ว่า รอให้อีกฝ่ายพลาดพลั้ง หรือ อ่อนแรง พ่ายแพ้ไปเอง

แล้วสักวันก็ถึงคราวตนเอง ก็จะเป็นรัฐบาลบ้าง

ถ้าคิดได้แค่นี้ มันก็แค่นี้แหล่ะครับ

กว่า 3 ปี ที่ท่านได้เป็นรัฐบาล ท่านสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ผมไม่เห็น

ท่านจะต้องใช้เวลาสักเท่าไรถึงจะพอ 4 ปี หรือ 8 ปี

อย่าง แม้วเป็นรัฐบาลมากี่ปีแล้วล่ะ รวมๆ ก็ประมาณ 8 ปี ได้มั้ง

แล้วมีอะไรดีจริงๆบ้าง

มันก็หลอกชาวบ้านเขามาตลอด จราจรจะดีภายใน 6 เดือน คนจนจะหมดภายใน 6 ปี ฯลฯ....

ไม่เห็นจะเป็นจริงสักอย่าง

แล้วมันก็ขอโอกาส ขอเวลา ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า..............

ถ้าจะทำจริงนะ แค่ ปีเดียว มันก็พอเห็นแล้วครับ

ไม่ต้องรอกันเป็นชาติขนาดนี้หรอก

ไอประชาชน ก็ยอมให้เขาหลอกไปเรื่อยๆ

^

^

ตอบแทนคนอื่นไม่ได้ว่าทำไมไม่คิดเปลี่ยนประเทศไทย เพราะไม่เคยมีโอกาสเจอพวกท่าน

แต่ตอบแทนคุณอภิสิทธิ์ได้ เพราะได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมนำเสนอ "พิมพ์เขียวประเทศไทย" พอดี

ซึ่งคุณอภิสิทธิ์เป็นต้นคิด และให้คุณสุรินทร์เป็นผู้ดุแลครับ

 

มีคนทำอยู่ครับและทำกันมาสักพักใหญ่แล้ว  ไม่ได้อยู่เฉย

ก็ดีครับ...

ถ้าอ่านโพสต์ของผม ผมก็บอกแล้วว่า ในประเทศไทย ยังมีหลายคนที่รู้ และ เข้าใจปัญหาของประเทศ

บางคนก็คิด ก็ทำอยู่ ตามความสามารถเท่าที่มีของตน....

เพียงแต่ ปัญหาใหญ่จริงๆ คือ จะทำอย่างไรให้มันเป็นจริงได้

เพราะไม่ใช่เรื่องง่าย....

ต้องใช้ พละกำลังมาก

หากประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ และรู้ มันก็สบาย

แค่นั้นอะไรๆมันก็ง่ายละ 

(ความหมายของกระทู้ VOTE NO ของผมคือตรงนี้ แค่ทุกคนเข้าใจ มันก็เจริญไปแล้ว ในตัวของมันเอง

ไม่ต้องมาถามแบบประชดหรอกว่า จะให้ทำยังไง เพราะทุกคนจะถามแบบ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ)

แต่สังคมไทย เป็นสังคม ที่คนส่วนใหญ่ ตามผู้นำ เป็นสังคมอุปถัมภ์...

ต้องอาศัย มีอำนาจในสังคมเริ่มต้นที่จะทำ และชี้นำไปในทางที่ถูก  คนถึงจะตามกันได้....

ดังนั้น...  ผมก็จะรอดู ว่าที่คุณบอกว่า มีคนทำกันอยู่

มันจะออกมายังไง

ใช่ของจริง หรือแค่เล่นแบบเดิมๆ...

 

การเมืองตอนนี้มันไม่มีอะไรมากหรอกครับ

 

ไม่ เพื่อแม้ว  ก็ ปชป

สลับ ทหาร...

 

 

วนเวียนเส็งเคร็งอยู่เท่านี้ล่ะ

 

เพราะ ไม่มีใคร คิดจะลุกออกจากวง เลยนี่

เหอะๆ

 

นั่นซิ

ก็ช่วยไม่ได้นะการเมืองตามระบอบประชาติบไต มีให้เลือกแค่นี้ ง่ะ 

จะหวังพึ่งการเมืองใหม่ก็ไม่ได้เรื่อง ยุบพรรคหายหัวไปซะแบบนั้น

 

แล้วจะให้ประชาชนทำไง ช่วยบอกเป็นวิทยาทานหน่อย

 

 

เราต้องการการเมืองใหม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

มันมีให้เลือกอยู่เท่านี้ จริงเหรอ.....

เรา ไม่กล้าเลือกมากกว่า....

เพราะไปคิดเอาเองว่า เป็นไปไม่ได้ เลือกไม่ได้ ไม่มีให้เลือก

แต่ที่สำคัญคือ ทำกันไม่เป็น....

^

^

หลังจากแป๊ะพาแก๊งน้ำด่างประกาศไม่ชุมนุม ก็อย่าฝันว่าจะได้เข้ามาในวงโคจรอีกเลย

เพราะยุคของพันธมิตร จบแล้วนับจากวันที่มันบอกว่า..

จะไม่ร่วมชุมนุมเพราะปชป.กลั่นแกล้ง

 

 

 

 

edit อั้ยย่ะ โพสต์เวลาและนาทีเดียวกันเป๊ะเลยกับข้างบน

ก็แล่วแต่จะคิดครับ

พธม จะจบแล้ว ก็จบ....

ถ้ายังเล่น การเมือง ในแบบเดิมๆ มันก็จะอยู่ในวงเดิมๆนี่ล่ะ

หากพอใจกันอย่างนั้น ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง

ก็โอเค... ต้องอยู่กันไป

คิดซะว่า มันเป็นเรื่องสนุกสนาน ดูหนัง ดูซีรีย์ เรื่องนึงซะ

เชียร์ แช่งกันไป มีอยู่เท่านี้

 

การเมืองตอนนี้มันไม่มีอะไรมากหรอกครับ
 
ไม่ เพื่อแม้ว  ก็ ปชป
สลับ ทหาร...
 
 
วนเวียนเส็งเคร็งอยู่เท่านี้ล่ะ
 
เพราะ ไม่มีใคร คิดจะลุกออกจากวง เลยนี่
เหอะๆ

แล้วพันธมิตร มีแนวคิดอะไรที่จะพอขับเคลื่อนพาผู้คนลุกไปจากวงนี้ได้บ้างครับ

ถามเป็นความรู้.....

 

ผมก็อปปี้มาจากกระทู้ vote no นี้นะครับ

http://webboard.seri...-ป่านนี/page-17

ผมแนะนำหนังสือเล่มนึงไป แต่อาจจะไม่ค่อยมีใครสนใจนัก

บางทีคุณโจโฉ... อาจจะรู้จัก ดร. สุวิทย์

รากปัญหาของประเทศมันมาจากตรงนี้ อ่านเนื้อหาในหนังสือจะพอเข้าใจ

หรืออ่านรายละเอียดคร่าวๆ ที่ผมโพสต์เอาไว้  บางคนก็คงพอเก็ต

เหล่านี้ เป็นข้อแนะนำในการลุกออกจากวง เดิมๆ ที่ทุกคนเล่นกันอยู่

คำว่า ทุกคน ก็หมายถึง คนไทยทุกคนนี่ล่ะ...

ผมตอบไม่ได้จริงๆว่า รายละเอียดวิธีการลึกๆจะทำอย่างไร

เหมือน กระทู้ VOTE NO ของผมที่ หลายคน ถามหา วิธีการว่าจะเป็น จะไปยังไง

ผมให้ได้แค่กรอบแนวคิดกว้างๆประมาณนี้

แล้ว คนไทย ต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำต่อ...

แต่ในความเป็นจริง ผมก็บอกมาตลอดว่า ณ สถานะปัจจุบัน มันยังทำได้ยาก

เพราะ ดูท่าที ไม่มีใครต้องการ ลุกออกจากกรอบเก่าๆเดิมๆนี้อย่างจริงจัง

คนใหญ่โตในประเทศ ก็ไม่กล้าที่จะทำ

อาจเพราะ คิดว่าเป็นไปไม่ได้ อาจเพราะยังเชื่อในการเมืองเชิงอำนาจแบบเดิมๆที่ตนเองเล่นอยู่ แย่งกันไปแย่งกันมา

ปัญหาจึงอยู่ตรงนี้แหล่ะ

เราทำกันไม่เป็น ทั้งยังไม่คิดจะทำ

คนธรรมดาอย่างผม จะไปทำอะไรได้

ที่อธิบายจนปากเปียกปากแฉะ ก็หามีใครสนใจ และ เข้าใจ

ต่างบอกว่า เป็นเรื่องเพ้อฝัน

ผมจึงทำเท่าที่ผมทำได้แค่นี้ครับ

แค่ไหน แค่นั้น...

ถ้าไม่ทำอะไรเลย มันก็คงเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันจริงๆ อย่างที่ว่ากัน

ข้างล่าง เป็นรายละเอียดหนังสือที่โพสต์ไว้...................

--> --> --> --> --> -->

ขอแนะนำหนังสือเล่มนึง ชื่อ “โลกเปลี่ยนไทยปรับ” เป็นหนึ่งในหนังสือที่ดีที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา
และเป็นหนังสือที่คนไทยทุกคนควรจะได้อ่าน หรือไม่ก็บรรจุเข้าไปเป็นแบบเรียนในชั้นมัธยมหรือมหาวิทยาลัยไปเลย

ผู้เขียนคือ คุณสุวิทย์ เมษินทรีย์ ผู้อำนวยการศศินทร์ จุฬาฯ หนังสือบางเล่มที่แกเขียนอาจจะอ่านยาก และใช้ศัพท์สูง ศัพท์เทพเกินไป อ่านไม่รู้เรื่อง
แต่เล่มนี้ค่อนข้างจะอ่านได้เข้าใจง่าย ใช้ภาษาศัพท์ที่ไม่ยากไปนัก คนทั่วไปอ่านได้ไม่ยาก เรียบเรียงเนื้อหาได้ดี

   ปัญหาหลักที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยต่างก็ตระหนักกันดีก็คือเรื่องของ ความไม่เจริญก้าวหน้า ไม่พัฒนา ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น...
ไม่ว่าใครจะเข้าใจลึกซึ้งหรือไม่ก็ตาม แต่เชื่อว่าคงเข้าใจไปในทางเดียวกันว่า ประเทศมีปัญหาอยู่ที่ต้องแก้ไข
ข้อเสียอยู่ที่เพียงว่า ไม่เข้าใจว่าปัญหาเกิดจากอะไร และจะมีแนวทางแก้ปัญหาอย่างไร

   หนังสือเล่มนี้ ก็เป็นเรื่องการเสนอให้เห็นของสภาพสังคมของประเทศไทย ทั้งสังคม การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ฯลฯ
เราอยู่ในจุดใด มีปัญหาที่ตรงไหน และควรจะต้องปรับเปลี่ยนอย่างไรเพื่อไปสู่ทางออกของปัญหา
และก้าวข้ามไปสู่ประเทศที่พัฒนายิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
   

   อยากให้อ่านกัน เพื่อจะได้เห็นภาพรวมที่ถูกต้องมากขึ้นกับปัญหาของประเทศไทย
ไม่ใช่แค่เรื่องที่จะต้องมาโทษมาเถียงกัน มาแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ว่าคนนั้นคนโน้นคนนี้เป็นสาเหตุทำให้ประเทศชาติเสื่อมถอย
ใครไม่ใช่พรรคพวกตนเอง ก็เลว ก็แย่ ก็เป็นปัญหาหมด...
ใครเป็นพรรคพวกตนเองก็ดีไปหมด ทำผิดก็แก้ตัวให้
ความเห็นแก่ตัวทำให้มีอคติไม่สามารถใช้ตรรกะเหตุผลมองเห็นปัจจัยสาเหตุของปัญหาประเทศที่แท้จริงได้

   จะยกตัวอย่างหัวข้อเสนอแนะในหนังสือคร่าวๆ มีประเด็นไหนที่สังคมควรจะปรับเปลี่ยนบ้าง เช่น
   “พลเมืองที่เฉื่อยชา” ไปเป็น “พลเมืองที่ตื่นตัว”
   “ระบอบประชาธิปไตยเทียม” ไปเป็น “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
   “ระบอบประชาธิปไตยตัวแทน” ไปเป็น “ระบอบประชาธิปไตยผสมผสาน”
   “รัฐที่ไม่น่าเชื่อถือ” ไปเป็น “รัฐที่น่าเชื่อถือ”
   “นโยบายประชานิยม” ไปเป็น “การปรับเปลี่ยนเชิงฐานราก”
   “People for Growth” ไปเป็น “Growth for People”

   ผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ก็เห็นด้วยแทบจะทั้งหมด (ก็อาจจะมีบางประเด็นที่เห็นต่างไปบ้าง)
แต่ทำให้รู้ว่า ในประเทศเราก็ยังมีคนที่รู้ และ เข้าใจ ปัญหาจริงๆของประเทศอยู่
หนังสือเล่มนี้มีคนเขียนคำนิยมให้อย่างเช่น
ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์...
แต่ละท่านก็ถือเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และคิดว่าก็น่าจะเข้าใจและคล้อยตามเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้
มองมุมนึง ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี...

   แต่มองอีกด้านนึง ก็ต้องตั้งคำถามว่า แล้วทำไมบุคคลเหล่านี้ ยังไม่สามารถจะเปลี่ยนประเทศชาติและสังคมให้ดีขึ้นได้จริงๆ...
ปัญหาคือ อะไร... คนเหล่านี้ขาดซึ่งอำนาจ บารมีในการทำการใดหรือยังไง หรือไม่คิดตั้งใจจะทำอะไรจริงๆ
หรือเขาขาดการสนับสนุน เช่น ประชาชนไม่สนับสนุน ประชาชนสนับสนุนไม่เป็น
   
อ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วคิดตาม อาจจะพอมีคำตอบบ้าง
 

http://www.prachatho...33.0;attach=367

 

จะให้ทำไงล่ะครับ พธม เขาไม่อยากออก ไม่อยากทุ่มทุนสร้างเพราะไม่มีตังค์...

 

เขาไม่อยากติดคุก เขาขี้เกียจมีเรื่อง เขาอยากนอนอยู่บ้าน

 

แกนนำไม่ออก แต่คนอื่นไม่เกี่ยวนี่ มันแล้วแต่ศรัทธา...

 

 

พธม เขาไม่เป็นเจ้าภาพ

แต่คราวนี้ ปชป จะรับเป็นเจ้าภาพเองแล้วนี่ครับ

ดังนั้น ให้ ปชป โชว์ฝีไม้ลายมือ ก็น่าจะดีกว่า

จิงๆ เขาก้อหนุนทีมงานแนวหน้า ร่วมทั้ง CTW และกลุ่มหนามหลวง ออกมาแล้ว

แต่ไม่มีคัยเอาด้วยนี้ ดูจากชุดเริ้ดๆ ก้อพอเดารู้ดูออก 

ถ้าคนร่วมมาก มีรึจะไม่ออก เหมือนตอนตั้งพรรคเลย พอคนไม่มาก โดดออกเลย

 

ก็เรื่องปกติครับ....

ทุกคนก็ต่างเช็คกระแส เช็คทิศทางลม...

ประมาณว่า เมิงออกก่อนสิ เดี๋ยวกรูตาม

แรกๆ ก็งึกๆงักๆ

แต่พอเห็นว่า มีโอกาสชนะ...

คราวนั้นล่ะ...   ดาหน้ามากันพรึ่บบบบบบ....

ผมไม่ได้ว่าอะไรประเด็นนี้นะ มันอยู่ที่สถานการณ์...

แต่ที่สำคัญกว่า คือ เรื่องหลักการ เหตุผล ต่างๆมากกว่า

เออ...

คุณเคยเห็น ใครฟ้องตัวเองจริงๆจังๆ บ้างไหมครับ....

พวกที่ชอบตั้งคำถามควายๆให้แก่สังคม

พวกนี้ หลงตัวเอง คิดว่าแน่ คิดว่าเจ๋ง คิดว่าสร้างสรรค์ นึกว่าตัวเองเก่ง ตรัสรู้ หลุดพ้น ฯลฯ

โง่ ทื่อ แต่ คิดว่า ตัวเองฉลาด............................

ไม่รู้ว่า อะไรควร หรือไม่ควร   อันไหน เหมาะ หรือ ไม่เหมาะ

เป็น วายร้ายที่น่ากลัวตัวจริง ของสังคม

เพราะบางคน หลงเชื่อ คิดว่า เป็นฮีโร่...

ทั้งคน ทั้งระบบ มันไม่ดีครับ...

หากจะบอกว่า ระหว่างคนทำดี กับ คนทำเลว ในสังคมไทย อันไหนมากกว่ากัน

มันก็ต้องเดาๆว่า น่าจะ ทำดีกันมากกว่า ไม่งั้น คงอยู่กันไม่ได้แน่ หากมีแต่การทำเลว...

การทำเลว ของบางคน อาจจะกระทบต่อ คนอื่นไม่กี่คน จึงมีผลกระทบไม่สูงต่อสังคมนัก

แต่ การทำเลว ของบางคน กระทบต่อ คนอื่นๆอีกหลายคน จึงทำให้สังคมสูญเสียมากในวงกว้าง

ระบบ ทัศนคติ ที่เลว ก็พาให้คนทำเลว ไปตามๆกัน

เลวที่ว่า รวมไปถึง ความเลวที่เจตนา และ ไม่เจตนา

และ ความเลว ที่บางที ผู้กระทำ ยังแทบไม่รู้ตัวเลยว่า ตนเองทำเลว

(อย่างเช่น การ VOTE YES เลือกนักการเมืองเลว นี่ก็น่าจะถือเป็นความเลวนะ แต่ผมบอกอย่างนี้ คนจำนวนมากคงไม่เห็นด้วย...

ใช่มั้ยล่ะ... นี่ไงล่ะ ตัวอย่างง่ายๆ ของ ความเลวที่ไม่เจตนา ไม่รู้ตัวว่าทำเลว ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเลว บรรทัดฐานไม่เหมือนกัน)

ความเลวที่ไม่เจตนา เกิดจาก ระบบที่เลว พาให้คนในสังคมทำไปในทางเดียวกันโดยไม่รู้ตัวไงล่ะ

ระบบที่เลว ส่วนนึง ก็ถูกสร้าง ใช้ และ ควบคุม โดยคนที่เลว...

ดังนั้น คน และ ระบบ จะดีเลว... ย่อมเป็นปัจจัยเหตุผลต่อกันและกัน

คนดี ใน ระบบเลว.... มันยังพอไปได้ เพราะคนใช้มันดี มันเก่ง แค่ ระบบไม่เอื้อเท่านั้น

แต่หาก คนดี ระบบก็ดี... อย่างนี้ แจ่ม อะไรๆจะดีมาก

คนเลว ในระบบดี ออกมายังไงมันก็จะไม่ดี (เช่น พวกที่ชอบใช้อำนาจอิทธิพลในการเลี่ยงกฎหมาย เห็นกันอยู่ชัดๆทุกวันนี้)

คนเลว ในระบบเลว ไม่ต้องพูดถึง... ยังไงก็เลวยั้นนนน เงา...

สส และ ประชาชน ต่างเป็นคน ที่ใช้ระบบร่วมกัน

ก็ต้องคิดกันเองล่ะครับว่า ตกลง สส และ ประชาชน เลวหรือ ดี อย่างไร

พิจารณากันเอา

PTT เป็นรัฐวิสาหกิจ ทำมาหากินทำกำไร โดยมีข้อได้เปรียบจากการผูกขาดโดยอำนาจรัฐ

ประเด็นที่แย่จริงๆก็คือ...

PTT ถือหุ้นโดย กระทรวงการคลัง กองทุนวายุภักษ์

ก็คือ มีรัฐเป็นเจ้าของ

แต่ความเป็นเจ้าของนั้น ในทางบริหาร เจ้าของก็คือ นักการเมือง ที่เป็นรัฐบาล...

ซึ่ง PTT จะเน้นทำเพื่อส่วนรวม หรือ เพื่อพรรคพวกพ้องนักการเมือง ก็ขึ้นอยู่กับ นักการเมืองรัฐบาลที่คุมอยู่

และเชื่อกันว่า นักลงทุนรายใหญ่ส่วนนึง ก็คือ พวกนักการเมืองนี่ล่ะ ที่เข้าไปซื้อหุ้นในตลาดเก็บไว้อีก

ส่วนมากมักจะใช้ นอมินี ในการซื้อไว้

ดังนั้น สถานะที่เป็นอยู่ก็คือ...

นักการเมือง เป็นเจ้าของ ทั้งในส่วน ของรัฐบาลที่ถือหุ้นใหญ่

และ นักการเมือง ก็เป็นเจ้าของ ในส่วนของหุ้น ที่ตนซื้อเก็บไว้เองด้วย

คุณว่า นักธุรกิจการเมืองพวกนี้ มันทำเพื่อส่วนรวมประเทศชาติไหมล่ะ...

หาก พวกนักธุรกิจการเมืองพวกนี้ มัน ขายชาติ โกงแผ่นดิน...

PTT ก็คงจะเป็นไปตามนั้นแหล่ะ

แต่ใน ระบบตลาดเสรีทุนนิยม จริงอยู่ว่า PTT สามารถมุ่งแสวงหากำไรให้ตนเองได้

PTT อาจจะไม่มีหน้าที่ทำเพื่อส่วนรวม

แต่ คนที่มีหน้าที่ทำเพื่อส่วนรวม ก็คือ รัฐ(รัฐบาล) ที่คุม PTT อยู่

รวมถึง คุมกฎหมาย นโยบาย ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย...

ต่อย แมร่ม เลย ครับเพ่

แล้ว วิ่งหนี

ถ้าโดนจับ ก็เสียค่าปรับไป...

5555 ผม ล้อเล่น...

ที่จริง อย่าไปเสียเวลา กับ ควายแดงพวกนี้เลยครับ

มันจะทำเชี่ยไร ก็ช่างมันเถอะ

เก็บมาใส่ใจ รกสมองเราซะป่าว

ถือว่า ดูควายมันโชว์ปาหี่ สนุกๆละกัน ขำๆ

แน่นอนครับว่า การไม่ได้รับความยุติธรรมจากทางรัฐ หรือ จากเจ้าหน้าที่รัฐ

มันสร้างความคับแค้นใจ...

มันเกิดอยู่ตลอด และ ทุกที่แหล่ะครับ

อย่างเราตอนนี้ ที่เจอแต่เหตุการณ์ที่รู้สึกว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการกระทำของรัฐบาล

เราก็คับแค้นใจมาก...

แต่ถึงจะไม่พอใจแค่ไหน...

มันก็ไม่ได้เป็นเหตุผล ที่จะต้องเอาไปอ้างเพื่อ กระทำความชั่วครับ...

ไอพวกโจรใต้ ที่อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วไปไล่ฆ่าคนอื่น... อย่างนี้มันไม่ใช่ละ

หากทำอย่างนี้ ก็ไม่ต้องไปหาสาเหตุว่า เพราะอะไร

ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง คนเยี่ยงนี้ ก็ต้องจับมาลงโทษ... หรือ ส่งไปลงนรกซะ

เรื่องมีแค่นั้นครับ...

แต่โอเคล่ะ...

ในอีกด้านนึง ก็ต้องโทษ รัฐ หรือ รัฐบาล ด้วย

เพราะ ก็เป็นปัจจัยสาเหตุนึง ที่ทำให้เกิดความคับแค้นใจของคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

รัฐ คนของรัฐ ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี ให้เรียบร้อย...

(ซึ่งมันก็ อยากจะด่า แมร่มอีกนั่นล่ะ ดู ตำรวจยุคนี้สิ... มันหวังอะไรได้มั้ยเนี่ย

นอกจากจะไม่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชน แล้วยังเจือก ทำอะไรที่เติมเชื้อไฟเข้าไปอีก)

    พาคนพวกนี้มาส่งให้ถึงที่เลย  รีบมารับคืนและก็เอออวยชมกันอยู่แต่ในกะลานี้เถอะ  พวกคนดีๆทั้งนั้น นับวันยิ่งใกล้บ้าไปแล้ว

 

 

sOJfLr.jpg

ใน รูปนี้ มีคนดีๆ อยู่หลายคน...

ท่านเหล่านี้ มีคุณูปการ มากมายต่อ สังคมประเทศชาติไทย...

ไม่ใช่แค่ สวะอย่าง นักธุรกิจการเมืองอย่างไอแม้วและพรรคพวก ที่มีความดีแค่ เอาเงินแจกคนที่เชลียร์ตนเอง

หากคุณ มองว่า คนเหล่านี้ เป็น คนถ่วงความเจริญ ของชาติ...

ถ้าคิดได้แค่นี้... ก็ สมควรแล้วล่ะ ที่ประเทศชาติไทยมันจะชิหายวายป่วง....

ก็เพราะ ประเทศเรา มีแต่ คน ที่ คิดได้เพียงเท่านี้... ครับ

8. ในวาระนี้เรายังไม่วิจารณ์ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะการขุดเอาการทำผิดในอดีตมาวิจารณ์ เพราะเราคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไร เพราะประชาธิปัตย์ไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ใช้อำนาจในการวางนโยบายหรือโครงการใดๆที่จะมีผลร้ายต่อประเทศชาติ แต่เราก็ไม่ใช่สาวกหรือผู้รับจ้างประชาธิปัตย์
 

  โธ่ ด็อกตุ๊ด เห็นๆกันอยู่ว่าเข้าข้างไหนยังมาทำเป็นพวกอีแอบอีก  แหม รีบออกตัวไว้ก่อนเลย    แต่ผมไม่สนหรอก  ผมขอแค่ย้อนถามหน่อยว่า ตอนที่อภิสิทธิ์เป็นรัฐบาลได้จัดตั้งรมต.  มีกษิต ณ พันธมิตร  โสภณ ซาเล้ง  พรทิวา โพไซดอน  การแต่งตั้งครั้งนั้นก็ใช่ว่าจะเหมาะสมแต่เพราะต้องการเอาอกเอาใจพรรคร่วมกับพันธมิตรมากกว่า    ทำไมตอนนั้นไม่เห็นด็อกตุ๊ดออกมาหอนมาวิจารณ์เหมือนตอนรัฐบาลนี้บ้างเลยล่ะ     

ตลก มั้ยครับ

โพสต์ของคุณ ตำรวจบ้าน โพสต์หลังของผม ถัดมาเลย...

ซึ่งผมเพิ่งบอกไปหยกๆว่า...

วิธีการ ตรรกะที่ไม่ได้เรื่องคือ...

เวลาพวกตนเองทำผิด... ก็มักจะ แถไปว่า คนอื่นก็ทำผิด

(เพื่ออะไรครับ เพื่อให้ตนเองผิดน้อยลง หรือ เพื่อให้ตนเองพ้นผิด)

ทำไม ไม่เคยจำ กันบ้าง

ยังทำกันซ้ำๆซากๆ