Jump to content


ประชาราบ

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 26 พฤศจิกายน 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2557 01:30
*****

#920050 เบอร์โทรศัพท์ศูนย์ประสานงานเวทีราชดำเนิน รายงานรถโดนตะปูเรือใบ โดนสกัดการเดิน...

โดย MOD_01 on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 22:40

ศูนย์ ประสานงานเวทีราชดำเนิน รถโดนตะปูเรือใบ โดนสกัดการเดินทาง อุบัติเหตุ ติดต่อ 093-861-7712 >> 7720

 

ทางเวทีจะแจ้ง ประสานความช่วยเหลือให้...

 

.21.30 รับแจ้งจากในขบวน รถติดยาวเป็น 100 คันแล้วฝังขึ้น กทม แถวสวี จ. ชุมพร ส่วนรถฝั่งขาลงจาก พังงาไม่มีรถเลย

และเจอตาปูเรือใบกันถ้วนหน้าทั้งรถ ชาวบ้านธรรมดา รถทัวร์ทั่วไป และรถของราชดำเนิน มีการปาหิน บางจุดมียิงใส่ รถ ทำให้ทุกคันตอนนี้จอดสนิท ไม่กล้าเคลือนตัว ล่าสุด รับแจ้ง มือถือ ระบบ AIS โดยบร็อคสัญญาณแล้ว สัญญาณเต็ม แต่โทรออก ใช้เน็ต ไม่ได้แล้ว...

1450206_418514851609288_510737098_n.jpg

 

 

 

 

Pook Za
ราชบุรี กำลังเดินทางไปร่วม 7 คันรถบัส แต่ระหว่างทาง ช่วงเข้าปิ่นเกล้า มีตะปูเรือใบ. เต็มถนน แต่มันหยุดเราไม่ได้. เพราะเราเป็นคนดีที่ จะไปกู้ชาติ ประเทศไทยของเรา. สู้สู้.
ภาพ Kiat Chotipalakul



ดาริน กานต์
บนเวทีประกาศ คนไทยในลอนดอนนัดเจอกัน 10 โมงที่นั่น @ หอนาฬิกาบิ๊กเบน นะคะ....!!


Siriwanna Jill
ตรวจสอบเส้นทางไป ร่วมชุมนุมราชดำเนิน ได้คะ ว่าหมาต๋าแกล้งปิดเส้นไหนบ้าง ?
เส้นทางปิดการจราจร จากการชุมนุม และเส้นทางที่ยัง สามารถสัญจรได้บริเวณ โดยรอบพื้นที่ชุมนุม
ภาพ แสดงถนนที่มีการปิดการจราจร (สีแดง) ประกอบด้วย ถนนราชดำเนินกลางบริเวณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แยกผ่านฟ้า ไปจนถึงแยกมัฆวานรังสรรค์ แยกผ่านฟ้าถึง แยกหลานหลวง แยกผ่านฟ้าถึงแยกจักรพรรคิพงษ์ ถ.พิษณุโลก แยกนางเลิ้ง แยกพาณิชยการ
ขณะที่เส้นทางที่ยัง พอสัญจรได้มีดังนี้ ถ.ราชสีมา สามเสน จักรพรรดิพงศ์ กรุงเกษม และสะพานพระราม8 ยังใช้การได้
ถ.นครสวรรค์ ใช้ได้เฉพาะ ช่วงแยกจักรพรรดิพงศ์ ถึงแยกเทวกรรม
ถ.หลานหลวงใช้ได้ช่วงยมราช ถึงแยกหลานหลวงเท่านั้น

11199_389725374495037_1524783421_n.jpg




#920394 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ธีรเดชน้อย on 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 08:43

คุณสนธิญาณ บอสใหญ่แห่งสำนักข่าวทีนิวส์ จัดเต็ม อากาศยานไร้คนขับ drone เพื่อขอเก็บภาพประวัติศาสตร์ วันแห่งมวลมหาประชาชน 24 พฤศจิกา นี้ 1 ล้านคน เพื่อเปลี่ยนประเทศไทย ร่วมกันนะครับ
1472879_10200348368471357_2146634428_n.j
 
1469894_10200348369151374_1131526654_n.j

 




#920387 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย ธีรเดชน้อย on 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 08:27

 
211579_100000779523663_681871604_q.jpg
กำลังติดตาม · 2 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน โทรศัพท์มือถือ 
 
 

ดร.ปณิธาน. แวะมาเวทีราชดำเนิน
1426669_631549550214357_1291870881_n.jpg



#919521 ขับไล่รัฐบาล แล้วชาวเสรีไทยจะเอาใครเป็นนายก อะๆๆ

โดย นารายณ์สังหาร on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 18:16

เลือกผมมะ รับรองไม่มีสีไหนเลย  เพราะหัวม้อบตายเรียบ  หึหึ




#919600 :: :: อยากให้เกิดไทยเหนือ - ไทยใต้ กันอยู่เหรอครับ

โดย ธีรเดชน้อย on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 18:57

มองในมุมของทหารนะ  ทหารไม่อยากทำหรอกรัฐประหารน่ะ  แต่ถ้าทำก็ต้องทำให้เด็ดขาดและสิ้นสุดเสียทีสำหรับเหตุการณ์แบบนี้  ไอ้ม้อบสีโน้น สีนี้น่ะ ผมถามจริงๆ ถ้าไม่มีไอ้ตัวหัวๆ ที่พูดปาวๆบนเวที คนมันจะออกมาเหรอ???  

 

ทหารมีบทเรียนที่เจ็บปวดกับการรัฐประหารแนวพิราบมาแล้ว และผลนั้นก็ย้อนมาทำลายเอกภาพกองทัพอย่างมาก ทั้งถูกแทรกแซงทางการเมืองสารพัดจากนักการเมืองหลายฝ่าย (ผมหมายถึงทั้งสองฝั่งน่ะแหละ)  พยายามสร้างบุญคุณให้ทหาร หรือพยายามที่จะเอาทหารไปเป็นพวก  ผมบอกไว้เลยนะว่า ถ้ารอบนี้ออกมา ทหารไม่มีพวก.... และจะเป็นศัตรูที่นักการเมืองลืมไม่ลง"ทุกสี"แน่นอน พวกนักการเมืองอาจจะคิดว่ามีพวกเป็นระดับนายพล  ผบ.กองพล โน้น ผบ.กองพลนี้ .....แต่คนสั่งทหารจริงๆ ที่มันสั่งกำลังได้น่ะ  "ผู้พัน" นะครับ ... ทีนี้บังเอิญว่า ไอ้ระดับ "ผู้พัน" เนี่ย  ส่วนมาก เค้าเลือกสี เลือกฝ่ายไว้แล้ว .....และเป็นข้างเดียวกันซะด้วย ....เพราะฉะนั้น ถ้ารัฐประหารรอบนี้ ต้องมียิงกันแน่ๆ 

 

เพราะฉะนั้น อย่างสร้างเงื่อนไขให้ทหารต้องทำสิ่งที่ไม่อยากทำเลย  เพราะถ้าจะให้ต้องมานั่งดูประเทศยับย่อยเพราะนักการเมืองสองฝ่ายแย่งผลประโยชน์กัน  ทหารคงต้องยอมเล่นบทผู้ร้าย สุดอำมหิต .....  อย่าให้พวกเราต้องทำเลยครับ  

 

ถึงวันนี้ผมก็ยังเชื่อมั่นและศรัทธาทหารครับ และผมเชื่อว่าการที่ทหารนิ่งจนดูเหมือนละเลยนั้นทหารยังคงทำงานหนักอยู่ครับ 




#919536 :: :: อยากให้เกิดไทยเหนือ - ไทยใต้ กันอยู่เหรอครับ

โดย พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 18:21

ใจดีเอ๋ยยยยยยยยยยยย



:) :) :)


อยากขี่ดูคาติละสิ ^_^


#919518 :: :: อยากให้เกิดไทยเหนือ - ไทยใต้ กันอยู่เหรอครับ

โดย นารายณ์สังหาร on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 18:12

มองในมุมของทหารนะ  ทหารไม่อยากทำหรอกรัฐประหารน่ะ  แต่ถ้าทำก็ต้องทำให้เด็ดขาดและสิ้นสุดเสียทีสำหรับเหตุการณ์แบบนี้  ไอ้ม้อบสีโน้น สีนี้น่ะ ผมถามจริงๆ ถ้าไม่มีไอ้ตัวหัวๆ ที่พูดปาวๆบนเวที คนมันจะออกมาเหรอ???  

 

ทหารมีบทเรียนที่เจ็บปวดกับการรัฐประหารแนวพิราบมาแล้ว และผลนั้นก็ย้อนมาทำลายเอกภาพกองทัพอย่างมาก ทั้งถูกแทรกแซงทางการเมืองสารพัดจากนักการเมืองหลายฝ่าย (ผมหมายถึงทั้งสองฝั่งน่ะแหละ)  พยายามสร้างบุญคุณให้ทหาร หรือพยายามที่จะเอาทหารไปเป็นพวก  ผมบอกไว้เลยนะว่า ถ้ารอบนี้ออกมา ทหารไม่มีพวก.... และจะเป็นศัตรูที่นักการเมืองลืมไม่ลง"ทุกสี"แน่นอน พวกนักการเมืองอาจจะคิดว่ามีพวกเป็นระดับนายพล  ผบ.กองพล โน้น ผบ.กองพลนี้ .....แต่คนสั่งทหารจริงๆ ที่มันสั่งกำลังได้น่ะ  "ผู้พัน" นะครับ ... ทีนี้บังเอิญว่า ไอ้ระดับ "ผู้พัน" เนี่ย  ส่วนมาก เค้าเลือกสี เลือกฝ่ายไว้แล้ว .....และเป็นข้างเดียวกันซะด้วย ....เพราะฉะนั้น ถ้ารัฐประหารรอบนี้ ต้องมียิงกันแน่ๆ 

 

เพราะฉะนั้น อย่างสร้างเงื่อนไขให้ทหารต้องทำสิ่งที่ไม่อยากทำเลย  เพราะถ้าจะให้ต้องมานั่งดูประเทศยับย่อยเพราะนักการเมืองสองฝ่ายแย่งผลประโยชน์กัน  ทหารคงต้องยอมเล่นบทผู้ร้าย สุดอำมหิต .....  อย่าให้พวกเราต้องทำเลยครับ  




#918728 กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อิจฉาจนตาไหม้ไฟ

โดย RiDKuN_user on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 10:36

มาสนใจหนุ่มลาดกระบังคนนี้แทนก็ได้นะครับ  :rolleyes:




#919236 วันนี้พี่ผมพาเสื้อแดงแท้ที่ทำงานไปเพิ่มให้ม็อบราชดำเนิน1คน อิอิ

โดย ชาตินี้ไม่เอาตระกูลชินวัตร on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 15:40

เนื่องจากพี่ผมเป็นเจ้าของบริษัทฯ ได้ไปร่วมม็อบราชดำเนินกับเพื่อน2คนวันนี้ และให้พนักงานส่งเอกสารที่เป็นเสื้อแดงจัดคนนึงขับรถไปส่ง มันเลยจำใจต้องไป 55+ ได้คนไปเพิ่มที่ม็อบอีก1คนเป็นเสื้อแดงจัดๆด้วย




#919378 :: :: อยากให้เกิดไทยเหนือ - ไทยใต้ กันอยู่เหรอครับ

โดย Mr.Best on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 16:53

ไทยถูก ไทยผิด ต่างหาก




#917612 มีเรื่องดีๆจะเล่าครับ...ปลื้มใจมาก

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 15:46

1. เมื่อ 2 วันก่อน ผมไปทำงานกะดึก 4 ทุ่ม เลิกตี 1 ต้องนั่งแท็กซี่จากซอยเปลี่ยวกลับบ้าน

ทันทีที่เปิดประตูหลัง  ลุงโชเฟอร์แท็กซี่โผล่หน้ามาเห็นโพกผ้าเหลืองกู้ชาติ  เสียงแหบแห้งเลยทีเดียว

ผมเลยแซวแกไปว่า "ไปชุมนุมมาหรือครับ"

แกก็ร้อง "หา? อะไรนะครับ?  หา? อะไรนะครับ"  เหมือนแกไม่ได้ยิน ผมเร่งเสียงดังอีก แกก็ตอบแบบงง ไม่ตรงคำถาม

 

แต่หน้ารถแกติดธงชาติครับ

ผมมานึกได้ว่าแกคงหูชาเพราะเสียงนกหวีดเป็นแน่ 5555

 

ฟันเฟิร์มอีกแล้วว่าผมขึ้นแท็กซี่เกือบทุกวันมาทั้งชีวิต เจอแต่แท็กซี่รักในหลวงและกู้ชาติ

เคยเจอเสื้อแดงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น (ครั้งที่ 2 ตอนปี 56 ต้นปี)  

ใครว่าแท็กซี่คลั่งทักษิณหมด  ไม่จริงเลยครับ

 

 

2. เมื่อวานตื่นเช้ามาเพื่อเดินทางไปงานศพแม่แฟนเก่าที่ระยอง 

ผมเพิ่งสังเกตนะครับ เพราะปกติออกจากบ้าตอนฟ้ามืดตลอด ไม่ทันสังเกต

คอนโดผมติดธง 2 ต้น อยู่ตรงสวนหน้าตึก เห็นเด่นชัดเลย!

(ไม่ใช่ติดธงฉลองวันเฉลิมครับ เพราะซุ้มเฉลิมพระเกียรติของคอนโดบ้านผมจะอยู่อีกมุมนึง)

โหย...ผมโคตรภูมิใจคนดูแลตึกผมเลย!!

(คนที่คุมตึกเป็นสถาปนิกคอนโดเอง บ้านเขาอยู่บนเพนท์เฮาส์ชั้นบนสุดของตึกครับ)

 

 

3. ขับรถไประยองกับเพื่อนอีกคน ไปเป็นเพื่อนกัน  คนนี้เป็นแฟนเก่าของแฟนเก่าผม  (ดูงงๆอยู่ใช่มั้ย 5555)

แต่เขามาช้า ผมเลยฆ่าเวลาโต๋เต๋ เดินจากบ้านไปโอนเงินให้ครัวราชดำเนินที่ตู้เอทีเอ็ม SCB

ปรากฏว่าเลขาผมให้เลขบัญชีมาผิด ไม่เห็นขึ้นด้วย 111-3 ตามที่ผมจำได้เลย

ความไม่ชัวร์ ไม่กล้าโอน ผมก็เลยเข้าไปเคาน์เตอร์ ไปขอเขาค้นบัญชีครัวราชดำเนิน

เจ้าหน้าที่คนสวยบอกยิ้มแย้มว่า "อ๋อ ภิรมย์ภักดีน่ะหรือคะ  คนมาโอนเยอะมากเลยค่ะ"

แล้วเธอก็บอกเพื่อนเทลเลอร์อีก 2 คนว่าให้เขียนเลขติดไว้ที่เคาน์เตอร์ไว้ด้วย เพราะคนเข้ามาโอนเยอะเลยวันนี้

 

ดีใจ ดีใจ ดีใจ เอิงเงย  ^_^  ^_^

 

 

4. ไปถึงงาน เจอบรรดาเพื่อนๆในกบุ่มเราที่ไม่ได้เจอกันเป็นปี รวมทั้งแฟนเก่าผมด้วย

แฟนเก่าผมขนาดแม่เสีย ร้องไห้อย่างหนัก  พอเจอเพื่อนๆมาช่วยงานก็ดูเหมือนทำใจได้มากแล้ว

ก็เลยยืนคุยกันที่รถ  ปรากฏว่าแฟนเก่าผมพูดขึ้นว่า "รู้เป่า เพื่อไทยมันไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลง่ะ เราจะเอาไงกับมันดี..."

ผมขำก๊ากเลย  โห...เธอเลือดรักชาติเข้มข้น เมพขิงๆ  ผมเริ่มจำได้แล้วว่าทำไมตอนนั้นผมถึงรักแฟนเก่าคนนี้ง่ะครับ

อุดมการณ์หลายอย่างเราตรงกันมากๆเลย

 

และแล้วเพื่อนๆทั้งกลุ่มก็ตอบกันออกมาว่าใครไปชุมนุมวันไหนกันมาบ้าง  

เพื่อนสนิทแฟนเก่าผมคนนึงบอกว่าไปชุมนุมที่ราชดำเนินมา 3 วันแล้วจนผัวตามให้กลับบ้านได้แล้ว (ผมฮาแตก)

อีกคนบอกซื้อนกหวีดมาแจกเพื่อนๆที่ออฟฟิศจนหมดเกลี้ยงแล้ว ที่ราชดำเนินก็ไม่มีขาย

 

ผมก็เลยบอกว่า "วันนี้ผมกะใส่ริสแบนด์ธงชาติมาแล้วนะเนี่ย แต่เกรงใจว่าเป็นงานศพ"

แฟนเก่าผมตอบว่า "ใส่มาเลย ใส่มาเลย หนูชอบ"

 

ผมมองกลุ่มเพื่อนเก่าผมแล้วดีใจ ปลื้มใจมากๆ ที่เพื่อนรอบข้างผมทุกคนเป็นแบบนี้....

 

 

ตกลงมีแม่ผมคนเดียวใช่มั้ยเนี่ย เป็นแดง! ฮ่าๆๆๆๆๆ :lol:

 

 

 

* นางดิทเพิ่มครับ เพิ่งนึกออกเรื่องดีที่ 5

 

5. ตอนขับรถถึงกทม. ตี 1  ก็ไปกินข้าวต้มกันครับ เพราะหิวมาก

ร้านข้าวต้มตรงแถวช่อง 5 สนามเป้าน่ะครับ

เจ๊แกเปิดทีวีหน้าร้านช่องอะไรรู้ป่าว

 

BLUESKY ครับ!!!  เย้




#916902 เลือกตั้งคราวหน้าอยากให้บางคนที่ขึ้นเวที ต่อสู้ รดน ลงสมัคร สส

โดย Moo3storey on 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 06:53

ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมไม่อยากให้ท่านเหล่านั้นมาลงสมัครหรือมาเล่นการเมืองครับ ไม่ใช่ว่าท่านเหล่านั้นขาดคุณสมบัตินะครับ แต่ผมว่าอย่าให้ภาพการต่อสู้มันเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง หรือเป็นการฉวยโอกาสเลยครับ ให้ภาพการต่อสู้คราวนี้เป็นพลังที่บริสุทธิ์ของปชช.ดีกว่าครับ (ผมไม่อยากให้ท่านเหล่านั้นเสียภาพพจน์ เหมือนพวกแกนนำสู้แล้วรวยครับ)

รอเว้นช่วงสัก 5-10 ปี ถ้าใครยังมีอุดมการณ์ทางการเมือง ค่อยมาเล่นการเมืองก็ยังไม่สายครับ


ผมประทับใจภาพของคุณหยองลูกหยี ภาพของคุณพ่อของคุณแตงโมที่ออกมาต่อสู้ ซึ่งคุณพ่อของคุณแตงโม ท่านก็ต่อสู้มาตั้งแต่สมัยเดือนตุลา หลังจากเหตุการณ์คราวนั้นท่านก็กลับไปใช้ชีวิตปรกติเหมือนปชช.ทั่วไป ซึ่งส่วนตัวผมประทับใจภาพแบบนี้มากกว่าครับ


#912005 กระทู้ปักหมุด ท้า เพื่อไทย ส่งนายจัตุพร พรหมพันธ์ ลงสมัคร สส.เขต กทม

โดย BatMan's Gurl on 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 14:51

ทำแบบป้าแซมสิค่ะ ลาออกจากการเป็น สส (สาวเสียบ) มาลงสมัคร สส แล้วสอบตก ห้าห้าฮ่าฮ่า




#910996 นปช ประกาศตามล่า ..ตกลงกลับใจจริงป่าวอ่ะ

โดย ant on 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 19:08

ผมค่อนข้างเชื่อในสิ่งที่เธอพูดนะครับ เพราะเท่าที่สังเกตดูพฤติกรรมของแดงในหมู่บ้านผมก็เป็นสไตล์เดียวกับเธอนี่แหละ

โลภ เห็นเงินเป็นพระเจ้า ขี้เกียจ ไม่สู้ชีวิต หวังลาภลอย ไม่มีเหตุผล ดังทุรัง เถียงหัวชนฝา

 ในหมู่บ้านผมมีคนประเภทเธอไม่น้อยครับ และพวกนี้อย่าไปยกเหตุและผลในการสนทนากับเขาเหล่านั้น..เสียเวลาเปล่า




#910631 ว่าด้วยมาตรา 190

โดย tonythebest on 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:58

ผมเคยตั้งกระทู้

 

สอบถามความเห็นครับ นอกจากนิรโทษกรรม ยังมีอะไรที่น่าจะสำคัญกว่านี้อีก”

http://webboard.seri...ครับ-นอกจากนิร/

 

 

ตอนนั้น ผมเริ่มสงสัยว่า ระหว่างประชาชนชาวไทยกำลังตื่นตัวในเรื่องนิรโทษ

รัฐบาลอาจมีอะไรหมกเม็ดซุ่มทำอะไรกันอีกหรือปล่าว

เพราะเพียงหลังจากมีการแสดงพลังของประชาชน

รัฐก็มีท่าทางชะงักและถอยหลัง

แม้จะมีหมกเม็ด ซ่อนร่าง พรบ นิรโทษฉบับที่ 7 ยัดไส้เข้าไป

ผมก็ยังว่า มันอาจไม่ใช่เป้าหมายเพียงเป้าหมายเดียว

 

ผมคิดโง่ๆ เอาไว้ในเฟสว่า

หรือมันเป็นการหลอกประชาชน ให้พุ่งเป้าไปสนใจเรื่องนิรโทษ

แล้วพวกมันก็มาลักหลับด้วยการชงแก้ไขมาตรา 190 ส่งผ่านไปจนถึงวาระ 3 โดยเราไม่รู้กันเลย

ซึ่งดูเหมือนตอนนี้ จะเหลือแต่นำขึ้นเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยเท่านั้น

 

ถึงตอนนี้ หลายคนก็ตื่นรู้กันแล้ว

มาพูดถึงประเด็นนี้กันเยอะแล้ว

 

สงสัยเพิ่มเติมไปอีกว่า เมื่อถึงเวลาที่ประเด็นของมาตรา 190 เริ่มแรงขึ้น

(ซึ่งอาจจะไม่ทันแล้วรึปล่าว ผมไม่แน่ใจ)

คนพูดถึงกันเยอะขึ้น รัฐบาลก็อัดตูดเราซ้ำ ด้วยการมุบมิบนิรโทษไปอีกต่อนึงด้วยซ้ำ

 

 

 

ช่วงนี้ เห็นหลายฝ่ายพูดถึงประเด็นมาตรา 190 กันเยอะขึ้น

บางฝ่าย ก็พูดกันว่า สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็มีการแก้ไขกันมาแล้ว

ทำไมทีรัฐบาลนี้จะแก้ไม่ได้ล่ะ

ส่วนที่เขาหยิบยกมาพูด ผมบอกตรงๆ ผมอ่านไม่เข้าใจครับ ว่ารายละเอียดจริงๆ เป็นยังไง

และอยากทราบด้วย ว่าสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์มีแก้อะไร ต่างไปจากเดิมของ 50 ตรงไหน

และรัฐบาลนี้ นำมาแก้เพิ่มตรงไหนบ้าง

ทราบแต่รวมๆ ว่า แก้แล้ว จะทำให้การเจรจาเรื่องเขตแดน และทำสัญญาการค้าระหว่างประเทศ

ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภา และไม่ต้องได้รับการเห็นชอบจากประชาชน

หรือเราๆ ท่านๆ ไม่มีสิทธิ์รู้ เหมือนดังเช่นกรณีขายข้าว G2G กับรัฐบาลจีน

หรือรายละเอียดเรื่องของการขายข้าว จำนำข้าวทั้งหมด

ที่วันนี้เรายังไม่รู้อะไรเลยที่เป็นข้อมูลจริง

 

จึงตั้งกระทู้นี้มาขอความรู้เพื่อนสมาชิกครับ

ว่า มาตรา 190 สมัยแรก, สมัยอภิสิทธิ์แก้ไข, สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะทำการแก้ไข

มีรายละเอียดแตกต่างกันอย่างไรบ้าง อะไรดี อะไรไม่ดี

เพื่อนำไปเป็นความรู้เพิ่มเติมครับ

 

 

 

 

ผมลองหาดู พบของคำนูญ ดูเหมือนจะเป็นสมัยปี 2010 ที่วิพากษ์รัฐบาลอภิสิทธิ์เอาไว้

 

 

 

 

 

 

ชมภาพเปรียบเทียบแก้ไขมาตรา 190 ของเดิมกับของรัฐบาล ที่อำมหิตถูกจับได้กลางรัฐสภา

27 พฤศจิกายน 2010 เวลา 11:57 .

 

คิดว่าจะน่าเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจในการจับพิรุธและความผิดปกติตามที่ ..คำนูณ สิทธิสมาน

ได้เขียนบทความอภิปรายในสภาเกี่ยวกับการแก้ไขรัธรรมนูญมาตรา 190 จึงขอนำภาพเปรียบเทียบการ

แก้ไขรัฐธรรมนูญมาประกอบคำคัดลอกในบทความเนื้อหาบางตอนของคุณคำนูณ สิทธิสมาน และอธิบาย

เพิ่มเติมเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจง่ายขึ้น

 

ตามปกติแล้วการเขียนรัฐธรรมนูญ จะมีย่อหน้า และย่อหน้าเขาจะเรียกเป็นวรรค อย่างรัฐธรรมนูญมาตรา 190 

มีทั้งสิ้น 6 วรรค

 
BFTZPs.jpg
 

มีหนังสือสัญญา 2 ประเภทที่ต้องดำเนินการตามมาตรานี้              

 

ประเภทหนึ่ง - หนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือพื้นที่นอกอาณาเขตซึ่งประเทศไทย

มีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตารมหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือจะต้องออก

พระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา   (ตามภาพก็คือข้อความสีแดง)           

 

ประเภทสองหนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรืทอสังคมของประเทศอย่าง

กว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศ อย่างมีนัยสำคัญ

(ตามก็ข้อความคือสีน้ำเงิน)        

 

หลักการใหญ่คือหนังสือสัญญาทั้ง 2 ประเภท ซึ่งเดิมบรรจุอยู่รวมกันในมาตรา 190 วรรคเดียวกันมาก่อน

ก็คือวรรค 2 ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบต่อรัฐสภา

 

นอกจากนั้นมาตรา 190 เดิมยังกำหนดรายละเอียดไว้ด้วยทุกขั้นตอนที่หนังสือสัญญาทั้ง 2 ประเภทจะต้อง

เดินตามไปอย่างเคร่งครัดทั้งก่อนและหลังลงนาม และมีกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาของรัฐสภาไว้ด้วย

ดังนี้              

 

ก่อนลงนาม 

1. ครม.ให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน (มาตรา 190 วรรคสาม)               

2. ครม.ชี้แจงต่อรัฐสภา และเสนอกรอบการเจรจาต่อรัฐสภา (มาตรา 190 วรรคสาม)              

 

หลังลงนาม       

3. ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพัน ครม.ต้องให้ประชาชนสามารถเข้าถึงรายละเอียดของหนังสือ

สัญญานั้น (มาตรา 190 วรรคสี่)              

4. ในกรณีที่การปฏิบัติตามหนังสือสัญญานั้นก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนหรือผู้ประกอบการ

ขนาดกลางและขนาดย่อม ครม.ต้องดำเนินการแก้ไขหรือเยียวยาอย่างรวดเร็ว เหมาะสม

และเป็นธรรม (มาตรา 190 วรรคสี่)              

 

กำหนดเวลา       

5. รัฐสภาจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวัน             

 

 มาตรา 190 เดิมนั้น ในวรรคห้าได้กำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการกำหนดขั้นตอนและวิธีการ

จัดทำหนังสือสัญญา รวมทั้งการแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามหนังสือ

สัญญาสำหรับหนังสือสัญญาประเภทสองเอาไว้

 

แนวคิดในการเสนอแก้ไขที่เป็นมารตั้งแต่ยุคคณะกรรมการสมานฉันท์ฯชุดส..ดิเรก ถึงฝั่ง

มาจนถึงยุค 102 ..พรรคร่วมรัฐบาล คือการแก้ไขวรรคห้าเพิ่มเติมคำว่าประเภทของสัญญา

เข้าไป เพราะเกิดความไม่ชัดเจนว่าหนังสือสัญญาประเภทไหนจึงจะเข้าข่ายหนังสือสัญญาประเภทสอง    

 

ทำให้สังคมเห็นว่าพอรับได้ !              

 

เพราะหนังสือสัญญาทั้ง 2 ประเภทยังจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข 5 ประการเหมือนเดิม

ยกเว้นหนังสือสัญญาบางอย่างในประเภทสองที่จะหลุดไป หากการแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จ

และหนังสือสัญญาบางอย่างนั้นบังเอิญไม่อยู่ในการจำแนกประเภทของกฎหมายลูกที่จะออกมา

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หนังสือสัญญาประเภทหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงอาณาเขตต้องผ่านกระบวนการครบทั้ง 5 เงื่อนไข !

 

ทว่าร่างฯแก้ไขมาตรา 190 ของครม.ครั้งนี้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง              

 

ท่านใช้แทคติคในการเขียนกฎหมายแยกหนังสือสัญญาทั้ง 2 ประเภทที่บัญญัติอยู่รวมกัน

ในมาตรา 190 วรรคสอง ออกเป็น 2 วรรค

 

a7sYZy.jpg

 

 

การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ของรัฐบาลอภิสิทธิ์

 

 

 

หนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยฯ...ยังอยู่ในมาตรา 190 วรรคสอง

(ตามภาพคือข้อความตามตัวอักษรสีแดง)            

 

หนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวางฯ

...ถูกแยกในอยู่ในมาตรา 190 วรรคสาม  (ตามภาพคือข้อความตามตัวอักษรสีน้ำเงิน)

 

 

ทำให้มาตรา 190 ของร่างฯแก้ไขนี้ขยายเป็น 7 วรรค              

 

แล้วในวรรคต่อ มา (คือวรรคสามและวรรคสี่เดิม หรือวรรคสี่และวรรคห้าใหม่) ที่กำหนดเงื่อนไข

4 ประการแรกไว้ดันไปจงใจเขียนบังคับแต่เฉพาะหนังสือตามวรรคสาม คือสัญญาประเภทสอง

ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวางฯเท่านั้น              

 

ตัดหนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยฯออกไปจากเงื่อนไขบังคับปฏิบัติ 4 ประการ              

 

นี่คือประเด็นหลักที่ผมเห็นว่าคือการหมกเม็ดครั้งยิ่งใหญ่ที่อำมหิตมาก !!               

 

เพราะหากแก้ไขสำเร็จ หลอกหูหลอกตาสมาชิกรัฐสภาให้คิดว่าเป็นเรื่องแก้ไขเล็กน้อยได้ จะทำให้...              

 

หนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยฯ แม้ว่าจะยังถูกบังคับให้ต้องได้รับความเห็นชอบ

จากรัฐสภาอยู่ แต่ก็ไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเดิมทั้ง 4 ประการ              

 

1. ไม่ต้องให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน              

2. ไม่ต้องชี้แจงต่อรัฐสภา และไม่ต้องเสนอกรอบการเจรจาต่อรัฐสภา              

3. แสดงเจตนาให้มีผลผูกพันได้เลย ไม่ต้องให้ประชาชนสามารถเข้าถึงรายละเอียดของหนังสือสัญญานั้น              

4. ในกรณีที่การปฏิบัติตามหนังสือสัญญานั้นก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนหรือผู้ประกอบการขนาดกลาง

และขนาดย่อม ก็ไม่ต้องดำเนินการแก้ไขหรือเยียวยาอย่างรวดเร็ว เหมาะสม และเป็นธรรม              

 

เรื่องแบบนี้รัฐบาลเคยชี้แจงมั้ย ?              

 

หากรัฐบาลไม่มีวาระซ่อนเร้นจะเสนอร่างแก้ไขฯนี้เข้ามาให้แตกต่างไปจากร่างฯเดิมของคณะกรรมการ

สมานฉันท์ฯชุดส..ดิเรก ถึงฝั่ง และร่างฯแก้ไขของ 102 ..ทำไม ??              

 

ถ้ารัฐบาลจงใจจะแยกหนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตฯออกไปให้พ้นหูพ้นตาพ้นความรับรู้

ของประชาชน ทำไมไม่ใช้ความกล้าหาญชี้แจงเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา เปิดให้มีการอภิปรายตรง

ประเด็นอย่างกว้างขวาง เพราะนี่คือการแก้ไขหลักการใหญ่ที่ถอยหลังตกคลอง ??              

 

อดคิดอดตั้งคำถามไม่ได้ว่านี่เกี่ยวข้องกับการเจรจาเขตแดนไทย-กัมพูชาที่กำลังมีปัญหาคาอยู่ใน

รัฐสภาหรือไม่ ?

 

ข้อสังเกตเพิ่มเติมจากภาพและบทความของ ..คำนูณ สิทธิสมาน

 

1. เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดพลาดในการเคาะย่อหน้าผิด เพราะถ้าเป็นเพียงการเคาะย่อหน้าผิด 

การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะอ้างอิง "วรรคสาม"ไม่ได้เลย จะต้องอ้างอิง "วรรคสอง"เท่านั้น แสดงว่า

ไม่ใช่การเคาะย่อหน้าผิด

 

2. เมื่อวรรค 2 ของมาตรา 190 ใน รัฐธรรมนูญ 2550 แตกออกเป็น 2 วรรค (วรรคสอง และวรรคสาม)

ตามที่รัฐบาลแก้ไข การระบุขั้นตอนเดิมทั้ง 4 ประการเฉพาะเจาะจงให้ปฏิบัติเฉพาะวรรคสามอย่างเดียว

โดยไม่พูดถึงเรื่องสัญญาที่เปลี่ยนแปลงอาณาเขตในวรรคสอง ย่อมไม่ใช่การตกหล่นเช่นเดียวกัน

 

เพราะในวรรคที่เจ็ดของร่างที่แก้ไขนั้น ได้กล่าวอ้างถึงทั้ง 2 วรรค คือวรรคสอง และวรรคสาม ในกรณี

ที่ต้องมีการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ร่างย่อมรู้อยู่แล้วว่ามี 2 วรรคในสัญญาฉบับนี้ แต่จงใจที่จะให้

ส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาณาเขต ทั้งขั้นตอนการตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลของประชาชน และชี้แจงและการ

ขอความเห็นชอบกรอบการเจรจาของรัฐสภา หายไปจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ของเดิม

 

3. ได้รับฟังคำชี้แจงจาก .ดร.สมปอง สุจริตกุล ได้ให้ความรู้ว่า หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190

ปล่อยเอาไว้เช่นนี้แล้ว ก็จะทำให้ผลบันทึกการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC)

ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ ไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาอีกต่อไป และประชาชนจะไม่มีทางได้

เห็นข้อผูกพันที่จะลงนามในอนาคตอีกต่อไปด้วย

 

เรื่องนี้เมื่อ ..คำนูณ และภาคประชาชนจับได้และรู้ทัน นายกฯจึงต้องยอมกลางสภาประกาศที่จะแก้ไข

แปรญัตติในชั้นกรรมาธิการ และทำให้ JBC ยังต้องมีความจำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาต่อไป

 

สอดคล้องกับ FaceBook ของนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่า

 

"นายกรัฐมนตรีระบุร่าง รธน.มาตรา 190 จะทำให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจ ซึ่งในส่วนของวรรค 2 ที่แยกออกมา

นั้นได้นำกลับเข้าไปบรรจุใหม่แล้ว และกรอบการเจรจาของเจบีซียังจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาต่อไป

 

แปลความว่า ถ้ารัฐธรรมนูญมาตรา 190 ลักไก่ผ่านได้โดยที่ไม่มีใครเห็น เจบีซีก็ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบ

จากรัฐสภาต่อไป และประชาชนก็ไม่สามารถตรวจสอบเรื่องไทย-กัมพูชาต่อไปได้แล้ว พอถูกจับได้จึงต้อง

ยอมจำนนแก้ไขและจำต้องเดินหน้าเรื่องเจบีซีต่อไป ใช่หรือไม่?

 

แต่ใครจะมีหลักประกันได้ เพราะเนื้อหาการแบ่งวรรคตอนนั้น ถือเป็นการแก้ไขในหลักการใหญ่ เหตุใด

รัฐบาลเมื่อรู้ว่าผิดพลาดเรื่องใหญ่เช่นนี้ถึงไม่ถอนร่างออกไปแก้ไขให้แล้วเสร็จเสียก่อน แต่กลับปล่อยให้มี

ความเสี่ยงต่อไปในชั้นกรรมาธิการ และไม่มีใครมีหลักประกันว่าในวาระที่สามจะมีผลสรุปสุดท้ายเป็น

อย่างไรด้วย

 

เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะผ่านตามาทั้งคณะกรรมการชุดของ .สมบัติ ธำรงธัญวงศ์, กฤษฎีกา,

กระทรวงการต่างประเทศ, คณะรัฐมนตรี, และวิปฝ่ายรัฐบาล มีหรือว่าจะไม่รู้ว่ากำลังเปลี่ยนแปลงแก้ไข

ในหลักการสำคัญ

 

เราได้ยินแต่สิ่งที่บอกประชาชนมาโดยตลอดว่า เป็นการแก้ไขเล็กน้อย เพียงแค่ทำให้มีความชัดเจนมาก

ยิ่งขึ้น แต่กลับไม่มีการพูดถึงประเด็นที่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ประชาชนได้รับทราบมาก่อน

แม้แต่ร่างแก้ไขประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขในหลักการสำคัญเรื่องนี้

 

ถ้าเป็นเพียง "บกพร่อง ผิดพลาด" ก็ต้องถือว่าขาดความเป็นมืออาชีพ  ทั้งๆที่เป็นประเด็นกฎหมายสูงสุด

ของประเทศ แต่กลับผิดพลาดในเรื่องหลักการใหญ่ที่สุด

 

ถ้าเป็นเจตนา "หมกเม็ด" ก็ยิ่งถือว่าเจ้าเล่ห์ เพทุบาย และอำมหิตอย่างยิ่งที่สมควรถูกประชาชนประณาม

 

ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลใด ก็ย่อมทำให้คนที่ห่วงชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา

ไว้วางใจต่อรัฐบาลน้อยลงอย่างไม่ต้องสงสัย

 

 

 

https://www.facebook...173931399302222

 

 

 

ใครพอจะอธิบายได้ง่ายๆ จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ