Jump to content


bluefox101

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 7 ธันวาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 00:57
-----

#1073150 ลือแรง ! รัฐบาลยิ่งลักษณ์รอดตาย เศรษฐีจีนเสนอเงิน 15 ล้านล้านบาทช่วยชาวนา...

โดย bluefox101 on 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 17:48

เงินขนาด 5 แสนล้านเหรียญนี่มันมากกว่า เงินทั้งหมดรวมกันของ 10 อันดับมหาเศรษฐีโลกอีกนะนั่น คนที่จะเชื่อข้อมูลแบบนี้ก็คงมีแต่พวกควายแดง เท่านั้นล่ะ




#1062313 กิตติรัตน์เซ็นกู้ธ.ก.สแล้ว

โดย bluefox101 on 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 09:31

5 พันล้านคิดแล้ว ไม่ถึง 5% จาก 1.3 แสนล้าน ยังห่างไกลอีกเยอะ คลังเซ็นต์ค้ำเงินกู้ให้เป็นการเปิดช่องให้ โรงสีเบี้ยวหนี้ชัดเจน แล้ว 18 โสีที่ว่านี่
ลองสืบดูอาจจะเห็นหลายโรง ที่เป็นเครือข่ายของ พรรคเผาไทย เฮ้อ วังเวง จริง ๆ


#1049221 MD กสิกรทำไมพูดแบบนี้

โดย bluefox101 on 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 22:49

จตุพร  ออกมาบอกให้คนแห่ถอนเงินเป็นสิบ ๆ รอบ ไม่มีใครสนใจเลย
 
มวลมหาประชาชนบอกแค่เตือนให้ธนาคารอย่าปล่อยกู้ให้รัฐบาล  
 
ทุกธนาคารเดือดร้อน  ออกมาแก้ข่าวกันพัลวัน
 
สองมาตรฐานสุด ๆ   :angry:


ต่อให้ คางคกจะบอกให้ควายแดงไปถอนเงินอีกกี่สิบรอบ ก็ไม่มีแบงค์ไหนสนใจหรอก เพราะควายแดงส่วนใหญ่ไม่ค่อยเน้นมีเงินฝาก แต่จะนิยมกู้มากกว่า
ส่วนแบงค์ไหนถ้าคนจะแห่ไปถอนเงิน ก็ควรจะรู้ไว้ว่า เพราะตัวแบงค์เอง ไม่มีความน่าเชื่อถือ บริหารไม่โปร่งใส ไม่มีธรรมภิบาล จนคนฝากเงินไม่ไว้ใจและ
ไม่มั่นใจ จึงต้องไปถอนออกมา ถ้าแบงค์ไม่มีปัญหาเหล่านี้ ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล


#1048016 แล้วก็เป็นจริง... กรุงไทยปล่อยกู้จำนำข้าว...

โดย bluefox101 on 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:59

ตอนนี้ ผู้บริหาร กรุงไทย ออกมายืนยัน นอนยัน นั่งยัน ว่าไม่ได้ปล่อยกู้ให้อีปูเน่า แต่จะเชื่อถือได้แค่ไหน? ตราบเท่าที่ยังมีลูกกะโปกแม้ว อย่างไ ผยุงศักดิ์ เป็นหนึ่งในผู้บริหารอยู่ คาดว่ามันคงต้องหาทางอื่น เพื่อดันให้ปล่อยกู้อย่างลับ ๆ อยู่ดี

 

พนักงาน กับ สหภาพ ธ.กรุงไทย คงต้องคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไป




#1047144 สิ่งมหัศจรรย์ตามล่าโกตี๋ หนีตายซุกเขมร !

โดย bluefox101 on 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 22:11

ยังไม่ค่อยเชื่อว่า ทหารจะสั่งเก็บ โกตี๋ ถ้าจะทำจริง ป่านนี้มันน่าจะไปสบายแล้ว ดูอย่างไอ้ยิ้ม มันยังกร่างสบายใจเฉิบอยู่เลย น่าจะเป็นแผนดูไบ แล้วกะโยนขี้ให้ทหารมากกว่า


#1042806 +++ โหวตหน่อยครับ วันอาทิตย์ที่ 2 กพ นี้ว่าง ๆ ทำไรกันดีครับ +++

โดย bluefox101 on 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 00:19

 

ไป The Lord

เข้า office ครับ

 

 

ได้ยินว่า The Office นี่มีแต่เบอร์แจ่ม ๆ นี่ครับ ท่าทางจะเลือกยากเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าเลือกเบอร์เดียวไม่ได้ก็ จัดสุกี้ ไปเลยครับ อิ ๆ ๆ 




#1039587 ว่าด้วยการจำนำข้าว และสาเหตุที่โครงการจำนำข้าวเจ๊งระนาว ใครสนใจเชิญรับฟัง

โดย bluefox101 on 31 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:00

คิดเอาไว้นานว่าจะคุยเรื่องจำนำข้าวดีหรือเปล่า แต่เห็นช่วงนี้กระแสการเจ๊งของโครงการจำนำข้าวแรง คิดว่าน่าจะมีหลายคนสนใจ จึงจะขอเล่าให้ฟัง เท่าที่รู้ข้อมูลมานะครับ โพสนี้จะยาวหน่อยนะครับ (เผลอ ๆ จะยาวที่สุดเท่าที่ผมเคยโพสมา)

 

ก่อนที่จะคุยกันเรื่องจำนำข้าว ขอเริ่มจากข้อมูลบางส่วน เพื่อเป็นแบคกราวน์ประกอบความเข้าใจดังนี้นะครับ

 

การค้าข้าวในตลาดโลกต่อปีนั้น ตัวเลขคร่าว ๆ อยู่ที่ประมาณ 20 กว่าล้านตันต่อปี โดยผู้ค้าหลักในตลาดโลกก็คือ ไทย และเวียดนาม โดยแค่ 2 ประเทศนี้ ก็มีปริมาณการค้าข้าวรวมกัน 14-15 ล้านตันต่อปี ที่เหลือเป็นการค้าของประเทศอื่น ๆ ย่อย ๆ 

 

ไทยสามารถผลิตข้าวสาร (หลังการสีแล้ว) ได้ประมาณ 20 กว่าล้านตันต่อปี แบ่งเป็นบริโภคภายใน ประมาณ 10 ล้าน ที่เหลือก็ส่งออก (ปีละ 8-9 ล้านตัน) ส่วนเวียดนามเองก็ส่งออกได้ประมาณ 6-7 ล้านตัน

 

สังเกตได้ว่าสำหรับตลาดการค้าข้าวของโลกนั้น เรียกได้ว่ามีไทยและเวียดนาม เป็นผู้เล่นตัวหลัก มาหลายสิบปี โดยที่ไม่มีคู่แข่งขันอื่น ๆ เข้ามาแข่งด้วย จึงอาจจะมองได้ว่า ไทยและเวียดนามเป็นผู้กำหนดราคาตลาดโลก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ข้าวของเวียดนามจะมีราคาถูกกว่าไทยอยู่พอสมควร ทำให้เวียดนามถึงแม้ว่าคุณภาพข้าวจะไม่ดีเท่าของไทย แต่ด้วยราคาที่ถูกกว่า จึงยังสามารถแข่งขันกับไทยได้อย่างสบาย

 

ทีนี้มาว่ากันด้วยเรื่องผลผลิตต่อไร่ เป็นที่รู้กันในวงการค้าข้าวของโลก ว่าประเทศไทยนั้น เป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวเป็นอันดับ 1 ของโลกมาหลายปี แต่ก็เป็นประเทศที่มีผลผลิตต่อไร่ ต่ำเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเช่นกัน คือผลผลิตต่อไร่เฉลี่ยประมาณ 600 ก.ก. (ข้าวเปลือก) ต่อไร่

กลับกันกับเวียดนาม ที่มีผลผลิตต่อไร่ สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก (ประมาณ 1000 ก.ก. ต่อไร่) และนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ เวียดนามสามารถแข่งขันกับไทยได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะสามารถผลิตข้าวได้มากขึ้นทุก ๆ ปี ในราคาต้นทุนที่ต่ำกว่าไทยอยู่ และขายได้ในราคาที่ถูกกว่าไทย

 

 

ด้วยความคิดที่ว่า ไทยกับเวียดนามเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ไอ้เหลี่ยมจึงมีมุมมองที่ว่า ไทย น่าที่จะเป็นผู้กำหนดราคาตลาดข้าวโลก ได้เหมือนสินค้าอื่น ๆ โดยใช้วิธี ดึง supply ออกจากตลาด เพื่อดันราคาให้สูงขึ้น แล้ววิธีไหนล่ะที่จะดึง supply ออกจากตลาดได้? ก็ให้รัฐรับซื้อข้าวมาเก็บไว้เองสิ พอ supply ในตลาดหายไป เพราะมาเข้าคลังของรัฐ ราคามันก็จะขยับขึ้นได้เอง พอราคาขึ้นก็ค่อยทะยอยปล่อยข้าวในคลังออกสู่ตลาด ราคาที่รัฐรับซื้อมาก็จะไม่ขาดทุน

 

ฟังไอเดียกับแนวคิดแล้ว เหมือนว่าจะเป็นไอเดียที่ดีและน่าจะเป็นไปได้ ทีนี้ชาวนาไทยก็จะได้ลืมตาอ้าปากกันแล้ว? แต่เดี๋ยวก่อน ความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น แต่ความเป็นจริงมันขมขื่นกว่านั้น และยิ่งแย่กว่านั้น เมื่อมันเป็น ลูกอมสอดไส้ยาพิษ

 

เมื่อได้ความคิดดังที่กล่าวข้างต้น ไอ้เหลี่ยมจึงไม่รอช้า ที่จะเปิดโครงการรับจำนำข้าว ด้วยราคาจำนำที่สูงกว่าราคาตลาดอย่างมาก (12,000 ต่อตัน) ที่ต้องใช้ชื่อว่า จำนำ เพราะรัฐไม่สามารถที่จะเป็นผู้ซื้อขายได้เอง (น่าจะผิดกฏหมาย หรือผิดเงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศ ผมไม่แน่ใจ) จึงต้องใช้ชื่อว่า จำนำ แทนการซื้อขาย แต่ในทางปฏิบัติแล้ว มันก็ไม่ต่างอะไรจากการขายขาด เพราะไม่มีชาวนาคนไหนจะไถ่ถอนคืน ด้วยเหตุที่ว่า

1. ราคาจำนำสูงกว่าราคาตลาดมาก

2. ข้าวเป็นสินค้าเกษตรที่เสื่อมสภาพไปเรื่อย ๆ ตามเวลา (ใครจะมาไถ่คืนล่ะ ตอนไถ่คืนสภาพมันไม่ใหม่เหมือนตอนจำนำแล้วนี่หว่า)

3. ข้าวปลูกใหม่ได้หลายครั้งต่อปี (สำหรับข้าวนาปรัง)

 

และแน่นอนว่า เมื่อเริ่มมีการจำนำข้าว เกิดขึ้น ช่องทางการโกงก็ตามมา ส่วนตัวไม่แน่ใจว่า เริ่มเห็นช่องทางการโกงหลังเริ่มโครงการ หรือว่า เห็นช่องทางโกงก่อน เลยคิดโครงการขึ้นมา

 

เป็นที่รู้กันดีในวงการค้าข้าวว่า โครงการรับจำนำข้าวนั้น เป็นโครงการโกงแบบบูรณาการ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จริง ๆ เพราะมีข้าวอยู่ในมือเป็นหลายล้านตัน โกงต้นน้ำก็ตั้งแต่การ สวมสิทธิ เวียนเทียนข้าว สต๊อกลม กลางน้ำ ก็ตั้งแต่ ขโมยข้าวดีออกมาขาย ยัดแกลบเข้าไปแทน, โกงงบในการบริหารจัดเก็บข้าว ส่วนปลายน้ำก็เช่น การเรียกกินหัวคิว ทุกครั้งที่มีการประมูลข้าวออกมา หรือการประมูลถูก ๆ ให้กับ บริษัทฯของตัวเอง (เพรสซิเด๊นซ์ อะกริ) แล้วเอาข้าวที่ประมูลมาถูก ๆ  ขายต่อในราคาตลาดให้ผู้ส่งออกคนอื่น (กินส่วนต่าง) เป็นต้น

 

เมื่อมีการโกงแบบบูรณาการได้แบบนี้ โครงการจำนำข้าว จึงเป็นโครงการหลัก แหล่งเงินสำคัญของไอ้เหลี่ยม ที่ยังไง ๆ ก็จะดันทุรังที่จะทำให้ได้ ไม่ว่าทุก ๆ ปีจะขาดทุนจากโครงการไปกี่แสนล้านก็ตาม เพราะ

 

1. โกงง่าย ได้เงินเร็ว ตรวจสอบยาก

2. ได้ใจคนรากหญ้า ได้ฐานเสียงเป็นจำนวนมาก

3. อ้างได้ว่าช่วยคนจน พวกคนมีเงินอย่ามาใจดำนะ คนไทยต้องช่วย ๆ กัน ขาดทุนบ้างไม่เป็นไร ถือว่าช่วยชาวนา

4. คนได้กินจากโครงการนี้ กระจายลงไปถึงระดับท้องถิ่น ไม่ว่าจะโรงสี หรือนักการเมืองท้องถิ่นทุกระดับ เท่ากับเป็นการ

ขยายฐานอำนาจ ฐานเสียง ลงไปได้กว้างมาก (ได้หัวคะแนนเพิ่มขึ้นเยอะ)

 

คิดยังไง ๆ ก็มีแต่ได้สำหรับไอ้เหลี่ยม โครงการนี้จึงเป็นโครงการประจำตัว ที่ไม่ว่าจะกี่รัฐบาล ภายใต้ไอ้เหลี่ยม ไม่ว่าใครจะเป็นนอมินีมาแทนไอ้เหลี่ยม ก็ต้องมีโครงการนี้เป็นนโยบายหลัก

 

ทำไมที่ผ่านมา จำนำข้าวถึงขาดทุน? สาเหตุหลักก็เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้จะดึง supply ออกมาจากตลาดได้ ตามหลัก demand & supply แต่ก็ยังไม่สามารถกำหนดราคาตลาดตามที่ต้องการได้ เพราะว่า คู่แข่งที่สำคัญอย่างเวียดนามเองนั้น มีการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ทั้งผลผลิตต่อไร่ที่เพิ่มขึ้น ปริมาณผลผลิตต่อปีที่สูงขึ้นทุกปี คุณภาพข้าวที่ดีขึ้น และที่สำคัญคือขายถูกกว่าไทย ทำให้ supply ในตลาดไม่ได้ลดน้อยลงไปมากนัก แต่ด้วยโครงการนี้ ทำให้การส่งออกของเวียดนาม เติบโตมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ

 

แต่โครงการจำนำข้าว เมื่อหลายปีก่อน ขาดทุนไม่มากนัก ยังพอเป็นที่รับได้ เนื่องจาก

 

1. ที่ผ่านมา รับจำนำ จำนวนจำกัดในแต่ละฤดูกาล เช่นจะมีการกำหนดว่าจะรับจำนำเป็นกี่ล้านตัน ในแต่ละฤดูกาล

2. มีการปล่อยประมูลข้าว ต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ เพื่อระบายออกและมีเงินหมุนเวียนมารับจำนำต่อ การขาดทุนจึงเป็นการขาดทุนราคาขายประมูล หลายหมื่น หรือแสนล้าน ต่อปี แต่อยู่ในเกณฑ์ ที่คนทั่วไปยังพอรับได้ (เอาน่ะ หยวน ๆ ถือว่าช่วยชาวนา)

 

 

แล้วทำไมครั้งนี้ สมัยอีปูโง่ ถึงได้ใช้เงินหลายแสนล้าน จะถึงกับเจ๊งขาดทุนมากเป็นประวัติการขนาดนี้? สาเหตุหลักก็มาจาก

 

1. การกระสันต์ อยากเข้ามายึดอำนาจรัฐ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพื่อที่จะแก้รัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายล้างผิด และได้กลับบ้านอย่างเท่ห์ ๆ ของคนดูไบ จึงดันนโยบาย จำนำ 15000 ขึ้นมา (สูงกว่าราคาตลาดเดิม มากขึ้นไปอีก) และจำนำทุกเมล็ด ไม่จำกัดจำนวน

 

2. ต้องการโกงเงิน เข้ากระเป๋าให้มากที่สุด เพื่อเอาคืนจากที่ถูกยึดไป และเอามาเป็นทุนแจกจ่ายให้พวก กระเรวกระราก อย่างคางคก, นกแสก เป็นต้น ทำให้เกิดการโกงมากขึ้น

 

3. ผู้เล่นหน้าใหม่ที่มาแรง แซงทางโค้ง ทำให้ตลาดข้าวมี supply เพิ่มขึ้นนั่นก็คือ อินเดีย

 

4. การเข้ามาของ อินเดีย ทำให้ปริมาณ supply มากขึ้นเป็นการกดราคาตลาดโลกให้ต่ำลง กลายเป็นผลเสีย 2 เด้งคือ ข้าวไทยราคาแพง และขายออกไม่ได้ ผู้ซื้อไม่ต้องง้อข้าวไทย ผสมกับการที่ รับจำนำราคาสูง ชาวนา เร่งปลูกข้าวเพื่อเข้าโครงการจำนำ ทำให้คุณภาพข้าวไทยลดลง

 

5. ไม่มีการระบายข้าวออกมาเลย เพราะถ้าระบายออกแน่นอนว่าจะขาดทุนหนักมาก เนื่องจากราคาตลาดไม่ดีอย่างที่คิดไว้ และสต๊อกก็มีมาก (ยิ่งขาดทุนหนัก) ทำให้ไม่กล้าระบายข้าวออก (ถ้าผลว่าขาดทุนหนัก คงโดนฝ่ายค้านโจมตีหนัก) เลยเก็บข้าวเอาไว้เรื่อย ๆ และรับจำนำเพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้เกิดสภาวะ โกดังไม่พอเก็บข้าว (ใครตามข่าวจะรู้เรื่องนี้ดี)

 

6. เมื่อไม่ได้ระบายข้าวออก แต่มีการรับเข้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ สต๊อกข้าวรวมมี supply ล้น แน่นอนว่า ต่างประเทศรู้เรื่องนี้ดี เพราะหน่วยงาน เกษตรของสหรัฐเองก็มี การเก็บตัวเลข สต๊อกข้าวของโลก(รวมถึงของไทยด้วย)เอาไว้ทุกปี ทำให้ตลาดรู้ว่ามี supply ล้น และจะต้องปล่อยออกมาในราคาถูก ทำให้ราคาข้าวในตลาด ไม่ขยับขึ้น และส่งผลเวียนกลับมาว่ารัฐก็ไม่กล้าปล่อย ยิ่งทำให้พอกพูนไปเรื่อย ๆ จนสต๊อกปัจจุบัน ประมาณการณ์กันว่า ไทยน่าจะมีสต๊อกข้าวในคลังรัฐ รวม ๆ กันที่ประมาณ 18 ล้านตัน เรียกได้ว่า พอเลี้ยงคนไทยทั้งประเทศได้เกือบ 2 ปี โดยไม่ต้องปลูกเพิ่ม

 

7. เมื่อไม่ได้ปล่อยข้าวออก (จริง ๆ ปล่อยออก แต่แอบระบายผ่านทาง สยามอินดิก้า ร่างแปลงของ เพรสซิเด๊นส์ อะกริ) ทำให้ขาดเงินหมุนเวียนกลับเข้ามา ส่งผลให้ใช้งบประมาณ บานปลายออกไป รวม ๆ กันเกือบ 7 แสนล้าน จึงเป็นที่มาของการเจ๊งไม่เป็นกระบวนของโครงการจำนำครั้งนี้

 

 

จำนำข้าวโกงจริงหรือ?

 

เป็นที่รู้กันในวงการค้าข้าวว่า โครงการจำนำข้าวนั้น มีการโกงอยู่ตลอดเวลา แบบบูรณาการ ทุกขั้นตอน และรั่วไหลเข้ากระเป๋านักการเมืองตลอดเวลา ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็ จีทูจี เจ๊งทูเจ๊ง นั่นล่ะ เพราะในวงการข้าวนั้น จะว่าแคบก็แคบ ใครส่งข้าวล๊อตใหญ่ไปที่ไหนจะรู้กันหมด และผู้ส่งออกข้าว ก็รู้กันมาตั้งนานแล้วว่า ไม่มีการส่งออกจริง ไม่มีเรือมารับข้าวที่ว่านี่เลย

 

แล้วที่โม้ว่าระบายข้าวออกไปแล้ว ความเป็นจริงก็คือ มีการแอบระบายข้าวบางส่วนให้กับ สยามอินดิก้า บริษัทฯของ เครือข่าย ไอ้เหลี่ยมนี่ล่ะ เอามาเวียนขายให้กับผู้ส่งออกรายอื่น ๆ รายละเอียดลึก ๆ ไม่ขอกล่าวถึงตรงนี้ เพราะมีการแฉไปแล้วตอนฝ่ายค้านอภิปราย หลายครั้งที่ผ่านมา และเรื่องก็อยู่ในมือ ปปช. และชี้มูลไปแล้ว (บอกได้แค่ว่า ที่ ปปช. ชี้มูลน่ะ มันแค่ตุ๊กตามารับหน้าเท่านั้น คนทำจริง ๆ น่าจะสาวไปไม่ถึงตัว) และสังเกตกันมั๊ยว่าปีที่แล้ว โกดังเก็บข้าวคลัง เกิดไฟไหม้บ่อยครั้งมาก มันเป็นการเผาทำลายหลักฐานใช่หรือไม่? (แอบเอาข้าวในโกดังไปขาย แล้วยัดแกลบไว้แทน พอข้าวหมดก็เผาโกดังทิ้ง?) สิ่งเหล่านี้บอกกับเราว่า การโกงนั้น มีในทุกส่วนจริง ๆ 

 

การโกงแบบมหากาพย์ครั้งนี้ ว่ากันว่า เข้ากระเป๋าตัวเอ้ นี่น่าจะหลักแสนล้าน ไม่รวมที่เบี้ยบ้าย รายทาง ตามต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำอีกโขอยู่ เบ็ดเสร็จ น่าจะรั่วไหล ไม่น้อยกว่า 2 แสนล้าน เอาว่า คนรู้จักกันกับผม มีโรงสีขนาดกลาง (จังหวัดใดไม่ขอบอก) เข้าร่วมโครงการจำนำข้าว ยังเอ่ยปากบอกเองว่า ได้มาตั๋ง ๆ ปีนึง 100 กว่าล้าน แค่โรงสีขนาดกลางโรงเดียวยังปีละ 100 กว่าล้าน แล้วโรงสีอื่น ๆ อีกทั่วประเทศจะเป็นเงินเท่าไหร่? (ไม่อยากจะคิด เงินภาษีกรู ทั้งนั้น)

 

สรุปรวมได้ว่า ที่เจ๊งจนไม่มีจ่ายชาวนางวดนี้ นั้น เป็นเพราะความละโมภ อยากรวบอำนาจรัฐ แก้กฎหมายช่วยตัวเอง ใช้ประชานิยมโง่ ๆ ไม่ได้คิด กลั่นกรองนโยบายอะไรเลย แค่ต้องการได้เสียงโหวตเท่านั้น ซ้ำเติมด้วยการที่มีอินเดียเป็นคู่แข่งเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดค้าข้าวของไทย ไม่เป็นไปในทิศทางที่หวังไว้ (ตกกระป๋องเป็นที่ 3 แพ้แม้แต่เวียดนาม) ทำให้ที่กะว่าจะเจ๊งไม่เยอะ กลับเป็นเจ๊งหนัก ข้าวค้างสต๊อกขายไม่ได้ เสื่อมและเน่า คาโกดังนับสิบล้านตัน เลยขาดเงินหมุนเวียน ควักเงินเพิ่มก็ไม่พอ กู้แล้วกู้อีก ก็ไม่พอโปะ อยู่ดี จึงเอวัง ด้วยประการฉะนี้

 

ฝากทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ถึงเวลานี้ รัฐจะปล่อยข้าวที่เก็บค้างมานาน ก็ไม่ใช่ว่าปล่อยได้ง่าย ๆ เพราะว่า ปล่อยค้างไว้นาน เสื่อมสภาพหนักมาก จนผู้ซื้อใหญ่ ๆ หลายประเทศ เริ่มขยาด ไม่กล้าซื้อข้าวจากไทย เพราะกลัวจะได้ข้าวในคลังรัฐบาล นั่นจะทำให้การระบายข้าวของรัฐจะทำได้ยากมาก เผลอ ๆ เราอาจจะได้เห็นการทิ้งข้าวเสื่อมสภาพ หลายล้านตันเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้

 

จริง ๆ ยังมีรายละเอียดยิบย่อยอยู่อีกมาก แต่ขอไม่บรรยาย เพราะมันจะยาวและเยิ่นเย้อมาก ยังไม่พูดถึงเรื่องการทำลาย ระบบโครงสร้างการค้าข้าว ที่เสียหายไปอีกมากในระยะยาว ผมคิดว่าแค่นี้ก็น่าจะพอให้เข้าใจได้ว่า ควรหรือไม่ควร ที่จะมีการจำนำข้าวต่อไป และควรหรือไม่ควรที่จะเลือก คนเหล่านี้มาทำลายประเทศชาติมากไปกว่านี้ ส่วนตัวผม วันที่ 2 ก.พ. นี้ NO VOTE แน่นอนครับ




#1038687 ใครคิดจะไป vote no ฟังทางนี้

โดย bluefox101 on 31 มกราคม พ.ศ. 2557 - 00:21

ตอนแรกผมกะจะไป vote no ถือเป็นการแสดงออกว่าไม่เอาการเลือกตั้ง และเผื่อเป็นการเตะตัดขา พรรคเผาไทย หนึ่งเสียงก็ยังดี แต่ฟังไอ้ริดสีดวงวันนี้
แล้วเปลี่ยนใจนอนเกาไข่อยู่บ้านดีกว่า ไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ถูกเอาไปอ้าง สร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง อย่างหน้าด้าน ๆ


#1037909 อยากทราบผลงานที่เด่นชัดของ ชัชชาติรัฐมนตรีคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี!...

โดย bluefox101 on 30 มกราคม พ.ศ. 2557 - 17:03

สำหรับ รมต.คนนี้ นอกจากผลงาน นั่งรถเมล์ ตุหรัดตุเหร่ รายวัน กับ ขึ้นวินมอไซต์รับจ้าง แล้วผมก็เห็นแต่ รถไฟตกราง รายเดือน นี่ล่ะมั๊งที่เป็นผลงาน

ส่วนผลงานอื่นผมไม่เห็นจริง ๆ นะ รอท่านผู้รู้ท่านอื่นมาตอบเพิ่มละกันครับ เผื่อบางคนจะเห็นผลงานของ รมต. คนนี้  :P




#1037653 ขอเหตุผลหน่อยครับ... เหตุใด รษก.รบ. ถึงยังหน้าด้านยื้ออำนาจอยู่

โดย bluefox101 on 30 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:41

เป็นรักษาการ ก็ยังมีอำนาจรัฐอยู่ ได้เปรียบกว่า ยังสั่งการ ขรก. ให้หมกเม็ดทำเรื่องชั่ว ๆ ได้อยู่ แล้วถ้าไม่มีอำนาจรัฐเมื่อไหร่ เผลอ ๆ ตอที่หมกเอาไว้ มันจะผุดขึ้นมา โดนเช็คบิลกันถ้วนหน้า ดังนั้นมันเลยต้องหน้าด้านรักษาการเอาไว้ให้นานที่สุด

 

ลองนึกดูว่า ถ้าตอนนี้ไม่ได้เป็นรักษาการ เป็ดขี้ขลาดบางตัว จะยังกล้าเห่า อยู่ทุกวันนี้เหรอครับ (เห่าอยู่หลัง กองกำลัง 6000 นาย) 




#1036551 สงสัยว่าทำไม รัดทะบาน ยังดื้อด้านจะเอาเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. รบกวนกูรู มาวิ...

โดย bluefox101 on 29 มกราคม พ.ศ. 2557 - 23:05

ออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่สมาชิกใหม่ ไม่แดง และไม่แอ๊บกลาง แน่นอน เพียงแต่ปกติจะติดตามอ่านอย่างเดียว ไม่โพสอะไร เพียงแต่ครั้งนี้เก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้

เลยอยากมาถาม พี่ ๆ ในนี้ วิเคราะห์กันเล่น ๆ ก่อนถึงวันที่ 2 ก.พ. นี้

 

ถ้าเป็นสถานการณ์ซักเมื่อ 3-4 เดือนก่อน แน่นอนว่า นังยก ถือว่าได้เปรียบมาก ถ้ามีเลือกตั้ง ก็น่าจะกลับมานั่งโชว์โง่ ให้คนด่าเล่น ในตำแหน่งนางยก ได้เหมือนเดิม ไม่ยากเย็น

เพราะกระสุนก็พร้อม, สส. ก็พร้อม ทั้งจากบ้าน 111 กับ 109 แต่สถานการณ์วันนี้ มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้แล้ว เพราะ

 

1. เลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. นี้ เสี่ยงที่จะเป็นโมฆะ ด้วยเหตุหลายอย่าง และคนในพรรคก็รู้ เพราะมีการสั่งการจากแดนไกล ตัดงบสนับสนุน หาเสียงลง แม้แต่ตัว สส. เองก็ยังแทบไม่ออกไปหาเสียง ป้ายหาเสียงก็แทบไม่มี

 

2. ต่อให้เลือกตั้งผ่านไปได้ อย่างทุลักทุเล ก็เปิดสภาไม่ได้อยู่ดี เพราะต้องมีเลือกตั้งซ่อมอีกหลายเขต ปาร์ตี้ลิสต์ ก็ยังนับคะแนนไม่ได้ด้วย
    อย่างน้อยก็ต้องกินเวลาไปหลายเดือนกว่าจะเปิดสภาได้ (ตรงนี้จะขัด รธน. หรือเปล่ายังไม่ชัวร์ เพราะจำได้ลาง ๆ ว่า มีกำหนดไว้ว่า ต้องเปิดสภาภายในไม่เกินกี่วัน นับจากวันเลือกตั้ง)

 

3. ตัวนังยก ยังรอโดน คดีจำนำข้าว และขี้ข้าอีก 300 กว่าคน ก็ไม่แน่ว่าจะโดน ปปช. สอยเมื่อไหร่ แถมเคยฟังวิเคราะห์ในข่าวว่า ถ้าขี้ข้าทั้ง 300 กว่าตัว โดนชี้มูล และโดนยื่นถอดถอน ก็มีสิทธิโดนสอยร่วงแน่ เพราะเหลือแต่ สว. สรรหาอยู่ใน วุฒิสภา ตอนนี้

 

4. ยังหาเงินมา จ่ายค่าข้าวชาวนา ที่เป็นฐานเสียงสำคัญไม่ได้ ฐานเสียงหดหายไปเยอะ คะแนนเสียงที่จะได้ ก็ไม่น่าจะถล่มทลาย อะไรเหมือนคราวที่แล้ว

 

5. ถ้าจะหวังกลับมาเพื่อรองาบ 2.2 ล้านล้าน ก็ยังไม่แน่ไม่นอน เพราะศาล ยังไม่ตัดสิน เผลอ ๆ อดงาบก็เป็นได้

 

มอง ๆ จากที่ผมว่ามาข้างต้น ดูยังไง ก็ใช่ว่า การดันเลือกตั้งคราวนี้ จะทำให้ได้เปรียบอะไรซักเท่าไหร่ แต่ทำไม นังยก กับไอ้เหลี่ยม ถึงยังดึงดันจะเลือกตั้งให้ได้ ทั้ง ๆ ที่หากมองอีกแง่นึงคือ ถ้ายืดเวลาเลือกตั้งไปก่อน

แล้วหาช่องทางวิ่งเต้น (ตามที่พวกมันถนัด) เพื่อให้ สส. กับ นังยก พ้นจากคดีในมือ ปปช. และดิ้นรนหาเงินมาจ่ายชาวนา เรียกฐานเสียงกลับมาก่อน แล้วเลือกตั้งตอนนั้น น่าจะได้เปรียบกว่าตอนนี้เยอะเลย

 

ชวนพี่ ๆ กูรู มาวิเคราะห์ กันดูครับ

 




#585136 หยุด ! โวยวาย ฟูมฟาย เรื่อง อภิสิทธิ์ ได้แล้ว!!!!

โดย bluefox101 on 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 01:27

ปกติจะอ่านอย่างเดียว ไม่ค่อยตอบ แต่กรณีนี้ ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ

 

เริ่มแรกที่ได้ยินเรื่องนี้ ก็รู้สึกเหมือนหลาย ๆ คน คือไม่อยากให้ยอมความ อยากเห็นไอ้คางคกตู่ ติดคุก แล้วก็รู้สึกแปลกใจที่ทำไม อภิสิทธิ์ถึงจะไกล่เกลี่ย ยอมความ แต่มาคิดนึกย้อนอีกมุมนึง

ก็เห็นว่า การยอมความ (ถ้าเป็นไปตามเงื่อนไข ที่อภิสิทธิ์ต้องการ) ก็อาจจะเป็นประโยชน์ หรือเป็นแผนการระยะยาวก็ได้ ผมคิดอย่างนี้นะครับ ผิดถูกยังไงขออภัยครับ

 

1. ถ้าไม่ไกล่เกลี่ยยอมความ ศาลตัดสินว่าคางคกตู่ผิด ติดคุก แต่ก็อาจจะไม่ได้ติดจริง เพราะประกันตัว สู้คดีต่อได้ ระหว่างนั้นก็ออกมา ปาว ๆ ได้อีกว่า เป็นศาลอำมาตย์ โดนอำมาตย์ กลั่นแกล้ง โง้นงี้ แหลไปเรื่อยตามสไตล์ คางคกตู่

2. ถึงติดคุกจริง ๆ ก็คงติดไม่นาน เพราะโทษแค่หมิ่นประมาท ระหว่างนั้น พวกแกนนำคนอื่น ก็เริ่ม ปาว ๆ กล่อมพวกกินหญ้า ตามข้อแรก ได้อีก

3. ถ้าเกิดการยอมความ คางคกตู่ ต้องขอโทษ และยอมรับว่า ตัวเองตอแหล ต่อหน้าสาธารณะชน เท่ากับเป็นการลดเครดิต ความน่าเชื่อถือของตัวคางคกเองอย่างชัดเจน

4. ถ้าคางคกตู่ หมดเครดิต ความน่าเชื่อถือ ภาวะและบทบาท การเป็นแกนนำ ก็จะลดลงไปด้วย

5. ถ้าเป็นผลดังที่ว่ามา เมื่อบทบาทแกนนำไม่มี ก็เท่ากับหมดประโยชน์ นายใหญ่ก็เตรียมเขี่ยทิ้ง เหมือนหมู หมา เพราะไร้ประโยชน์

6. หลังโดนตัดหาง ปล่อยวัด ค่อยเล่นงานเอาเข้าคุกอีกทีหนึ่งก็ได้ เพราะคดีอื่น ๆ ยังมีอีกยาวเป็นหางว่าว

 

ถ้าเป็นไปตามแนวคิดนี้ เท่ากับว่า การไกล่เกลี่ย ยอมความคราวนี้ อาจจะเป็นผลดี คือได้ตัดกำลังแกนนำ เหล่าตัวกินหญ้าแดง ดิสเครดิตแกนนำคนอื่น ๆ ไปด้วยในตัว (เหวง, ธิดาแดง) เผลอ ๆ อาจทำให้ตัวกินหญ้าแดง บางตัว รู้ตัวว่าถูกหลอก ตาสว่างขึ้นมาได้ด้วย

 

ความเห็นผมก็ประมาณนี้ล่ะครับ แต่เอาจริง ๆ ถ้าไม่ไกล่เกลี่ย ยอมความ คางคกติดคุก ผมก็จะดีใจ สะใจไม่น้อยเช่นกัน