Jump to content


jairlinethai

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 24 ธันวาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 07:17
-----

#1016289 ชายชุดดำที่ขับรถแล้ววิ่งหนีออกหลังจากระเบิดคือใคร และอยู่ที่ไหน?

โดย jairlinethai on 19 มกราคม พ.ศ. 2557 - 12:59

 

ลองดูนี่ครับ ผมกะเพื่อนพยายามหาจุดจับผิด  :huh:

 

 1598233_609860685733867_653928583_n.jpg

3รูปแรกมันธงนะครับ

 

 

หมายถึง เสื้อแดงพยายามเอาภาพนั้นมายัดเยียดว่าเป็นระเบิด  :ph34r: 

 

พวกผมเลยพยายามอธิบาย จุดนั้น ว่ามันไม่ใช่ระเบิดน่ะครับ  :huh:




#1014076 รวมรายชื่อดารากบฎ

โดย jairlinethai on 18 มกราคม พ.ศ. 2557 - 11:05

รบกวนย้ายชื่อพี่เต๋า จากแดงกลางๆ ออกด้วยครับ  B)

 

 10195_488050367972906_1030546331_n.jpg




#965562 ถ้า 2 ก.พ. 2557 เลือกตั้ง ท่านคิดว่านยโบาย พรรคเพื่อไทย คืออะไร

โดย jairlinethai on 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 17:02

ผมว่าต้องมีคำว่า "ประชาธิปไตย" อยู่ในป้ายหาเสียง ฟันธง  -_-




#962276 เริ่มอีกแล้ว ประชาธิปไตยแบบไพร่ๆ..."เห็นต่าง มึงตาย ?"...

โดย jairlinethai on 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 22:29

ทำไมบ้าน สส เหมือนอยู่ในป่าเลยครับ
สองข้างทางไม่มีบ้านคน
เหมือนมันแอบไปเผาริมทางหลวงที่ไหนสักแห่ง
แล้วประกาศว่าไปเผาหน้าบ้าน
แต่จริงๆแล้วไม่กล้าไป
เพราะกลัวโดนตืบ

 

บ้าน สส.อิสระ แกอยู่ อ.พิบูลฯ ห่างจากตัวเมืองอุบลฯไปประมาณ 40 กม. ครับ

ตอนนี้แกย้ายไปเป็นปาร์ตี้ลิสต์ ปชป. เลยให้ลูกสาวลง สส.เขต

เห็นมันเผาโลงของลูกสาวแกด้วย แมนมั้ยล่ะครับ  :ph34r: 

 

และตอนกำลังเผา เลื่อนมาเผาห่างจากบ้าน สส.ประมาณ 500 ม. เนื่องจากบ้านท่าน สส.เตรียม ประชาธิปไตยกินได้ รออยู่ มี ตร.กะ ผวจ. มาอำนวยการเผาเอ๊ยอำนวยความสะดวก ครับ แหะๆ 

 

ส่วนในภาพ กลุ่มแดงชักธงรบ ขนกองกำลังเสื้อแดงทั้งเมืองอุบลฯมาปิดล้อมหน้าที่ทำการ สส.วิทูรย์ ในตัวเมืองอุบลฯ ครับ :lol: 




#962154 เริ่มอีกแล้ว ประชาธิปไตยแบบไพร่ๆ..."เห็นต่าง มึงตาย ?"...

โดย jairlinethai on 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 20:55

มาหยุมหยิม คิดซะว่าเป็นสีสันประชาตื้บไตยครับ แหะๆ

 

image-B945_52AC6560.jpg

 

image-3EB1_52AC6560.jpg

 

image-35C7_52AC6560.jpg




#947110 หรือวงรบจะกระจายออกสู่ระดับภูมิภาค

โดย jairlinethai on 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 08:15

รอบนี้ สมชาย, วิภูแถลง เค้ามาเองครับ ดังนั้น ต้องมีการจัดตั้งมวลชนไปต้อนรับครับ ลำพังจัดกันเอง ไม่เท่าไหร่




#925240 มวลชนเสื้อแดงที่เคยล้นหลาม "หายไปไหน" มาวิเคราะห์แบบจริงจังกันหน่อย

โดย jairlinethai on 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 06:42

มวลชนอีสานส่วนใหญ่เกี่ยวข้าว และสาละวนกับเรื่องจำนำข้าวอยู่น่ะครับ

 

ถ้ายืดเยื้อ ระดมพลมาชนได้แน่ครับ 

 

เรื่องตาสว่งสว่างเนี่ย อย่าพูดถึงเลยครับ คนมันตามืดบอดยังไงก็ยังงั้น

 

ข้อมูลจากพื้นที่นะครับ  ^_^




#756308 แดงโดนรุมวิสามัญ ไม่มีใครช่วยเลย น่าสงสาร

โดย jairlinethai on 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:56

ไปแวะดูโปรไฟล์ของ H-vichaiyut เค้าเล่นสินธรเป็นประจำด้วย

 

ผมสังเกตมานานละ พวกเม่าในสินธร ส่วนใหญ่เป็นแดง ส่วนเซียนๆ และกูรู จะไม่ค่อยแดง ดังนั้นระบบการคิด และตรรกะ จึงต่างกัน

 

(ปล.ท่านอื่นๆที่เล่นในสินธรผมยกให้เป็นเซียนหมดน้าคร้าบบ  :D )




#745631 เป็นไปได้ไหมว่าจะมีการปฏิวัติตัวเอง

โดย jairlinethai on 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 12:34

ผมว่าเป็นไปได้ยากครับ ถ้าปฏิวัติตัวเองจริง แดงก้าวหน้า อาจแว้งกัดได้ครับ 




#561240 มารวบรวมรายชื่อ ภาพยนต์-Series ที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง เสนอต่อรัฐบวมให้แบ...

โดย jairlinethai on 7 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:37

ตั้งชื่อหนังเสียดสีท่านผู้นำครับ เรื่องเนี้ย ต้องแบน โละจากแผงซีดีให้หมด

 

7460525732_03ef938ccd_o.jpg

 

ปล.ผมจะโพสต์อย่างเดียวนะ ไม่มีเวลาตอบโต้พวกลิ่วล้อติ่งตักขี้




#560940 มารวบรวมรายชื่อ ภาพยนต์-Series ที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง เสนอต่อรัฐบวมให้แบ...

โดย jairlinethai on 7 มกราคม พ.ศ. 2556 - 00:01

เรื่องนี้ต้องโดนด้วยครับ บังอาจเอานิยายของตระกูล "เวชชาชีวะ" มาทำเป็นหนัง

 

kati3_OFaggDiWed45237.jpg




#560373 มารวบรวมรายชื่อ ภาพยนต์-Series ที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง เสนอต่อรัฐบวมให้แบ...

โดย jairlinethai on 6 มกราคม พ.ศ. 2556 - 12:25

เรื่องนี้ก็เหมือนกัน

 

- 24 complete 7 seasons อันนี้จ้องฆ่าผู้นำประเทศได้ทุก season แถมไอ้พระเอกชอบขัดคำสั่งผู้นำประเทศ 

 

24CompleteSeriesDVDset.jpg

 

 




#560370 มารวบรวมรายชื่อ ภาพยนต์-Series ที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง เสนอต่อรัฐบวมให้แบ...

โดย jairlinethai on 6 มกราคม พ.ศ. 2556 - 12:20

เริ่มต้นจากเรื่องนี้ 

 

- V for Vendetta 

 

263224676.jpg




#535777 กระทู้ห้องสมุด@พันทิปที่น่าสนใจครับ

โดย jairlinethai on 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 07:36

ไม่อยากตอบในพันทิพ เพราะพวกเกรียนแดงเยอะ เลยอยากเอาพระราชหัตถเลขา ของ ร5 ที่ตอบแก่คณะฑูตและนร.ไทยในยุโรป เรื่องเสนอให้เปลี่ยนแปลงการปกครอง มาให้อ่านดูถึงพระบรมราโชบายในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองของประเทศ ให้อ่านดูกันครับ ยาวหน่อย แต่มีประโยชน์ จะเห็นได้ว่าท่านเองก็อยากปรับเปลี่ยน แต่ต้องวางรากฐานระบบราชการ สร้างคนมีความรู้ ความรับผิดชอบให้สำเร็จก่อน และสิ่งดังกล่าวก็ตกทอดมาถึง ร.6 และ ร.7 ไว้มีคนอ่านกระทู้นี้ก่อน แล้วจะนำพระบรมราโชบายของทั้งสองท่านมาให้อ่านกัน แล้วจะได้รู้ว่าพวกท่านไม่ได้นั่งเล่นนอนเล่นกุมอำนาจเล่น เหมือนที่พวกเสื้อแดงล้มเจ้า คิดกัน


#################################################

พระบรมราโชบายการเปลี่ยนแปลงราชการแผ่นดินใน ร.๕
พระราชหัตถเลขาตอบ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ทรงมีพระราชดำรัสตอบ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๒๘ หลังจากที่ทรงทราบความแล้วเป็นเวลาประมาณ ๔ เดือน เรียกสารนี้ว่าพระบรมราชาธิบายแก้ไขการปกครองแผ่นดิน แต่ตามต้นฉบับเรียกเรียกพระราชหัตถเลขานี้ว่า พระราชดำรัสตอบความเห็นของผู้ที่จะให้เปลี่ยนแปลงการปกครอง จ.ศ.๑๒๔๗ มีความว่า


"ด้วยเราได้รับหนังสือของท่านทั้งปวงลงชื่อพร้อมกันส่งมาเป็นความเห็นว่าด้วยอันตราย จะมีแก่บ้านเมืองอย่างไร การที่ควรจะหลีกหนีให้พ้นอันตราย ด้วยจัดการได้ถึงที่เพียงเท่าใด ความเห็นของท่านทั้งปวงที่กล่าวมาแล้วนั้น เราได้พิจารณาโดยถ้วนถี่ทุกข้อทุกประการแล้ว

ในเบื้องต้นนี้ เราขอตอบแก่ท่านทั้งปวงว่า เราชอบใจอยู่ในการซึ่งพระบรมวงศานุวงศ์แลข้าราชการของเราได้ไปเห็นการในประเทศอื่น แล้วระลึกถึงประเทศของตน ปรารถนาที่จะป้องกันอันตราย แลจะให้มีความยั่งยืนมั่นคงอยู่ในอำนาจอันเป็นอิสรภาพ ในข้อความบรรดาที่ได้กล่าวมาแล้วที่เป็นตัวใจความสำคัญทุกอย่างนั้น เรายอมรับว่าเป็นการจริงดังนั้น


ยกไว้แต่ข้อเล็กน้อยบางข้อ ซึ่งบางทีจะเป็นเข้าใจผิดไป แต่หาเห็นควรที่จะยกขึ้นพูดในที่นี้ไม่ แต่เราขอแจ้งความแก่ท่านทั้งปวง ให้ทราบพร้อมกันด้วยว่าความที่น่ากลัวอันตรายอย่างใดซึ่งได้กล่าวมานั้น ไม่เป็นการที่จะแลเห็นได้ขึ้นใหม่ของเราเลย แต่เป็นการได้คิดเห็นอยู่แล้วทั้งสิ้น แลการที่ควรจะทำนุบำรุงให้เจริญอย่างไรเล่า เราก็มีความปรารถนาแรงกล้าที่จะได้จัดการนั้นให้สำเร็จตลอดไปได้ ไม่ต้องมีความห่วงระแวงอย่างหนึ่งอย่างใด ว่าเราจะเป็นผู้ขัดขวางในการซึ่งจะเสียอำนาจ ซึ่งเรียกว่าแอบโซลูด (Absolute) เป็นต้นนั้นเลย

เพราะเราได้เคยทดลองรู้มาแล้ว ตั้งแต่เวลาเป็นตุ๊กตา ซึ่งไม่มีอำนาจอันใดเลยทีเดียว นอกจากชื่อ จนถึงเวลาที่มีอำนาจขึ้นมาโดยลำดับจนเต็มบริบูรณ์ในบัดนี้ "ในเวลาที่มีอำนาจน้อยปานนั้นได้ความลำบากอย่างไร และในเวลาที่มีอำนาจมากเพียงนี้ ได้ความลำบากอย่างไรเรารู้ดี จำได้ดี" เพราะที่จำได้อยู่อย่างนี้เหตุไรเล่าเราจึงจะมีความปรารถนาอำนาจปานกลาง ซึ่งจะเป็นความสุขแก่ตัวเรา แลจะเป็นการมั่นคงถาวรของพระราชอาณาจักรด้วยนั้น เพราะเหตุฉะนี้เราขอให้ท่านทั้งปวงเข้าใจว่าเราไม่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งจะต้องบีบคั้นให้หันลงหาทางกลาง เหมือนอย่างพระเจ้าแผ่นดินยุโรป ซึ่งมีมาในพงศาวดาร

แลเพราะความเห็น ความรู้ซึ่งเราได้เป็นเจ้าแผ่นดินมาถึงสิบแปดปี ได้พบได้เห็นแลได้เคยทุกข์ร้อน ในการหนักการแรงการเผ็ดการร้อนของเมือง ซึ่งมีอำนาจจะมากดขี่ประการใด ทั้งได้ยินข่าวคราวจากเมืองอื่น ๆ ซึ่งมีเนือง ๆ มิได้ขาด แลการซึ่งเราได้ขวนขวายตะเกียกตะกาย อยู่ในการที่จะเปลี่ยนแปลงมาแต่ก่อน จนมีเหตุบ่อย ๆ เป็นพยานของเราที่ยกขึ้นชี้ได้ว่า เราไม่ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินซึ่งเหมือนอย่างกับคางคกอยู่ในกะลาครอบ ที่จะพึงทรมานให้สิ้นทิฐิถือว่าตัวโตนั้นด้วยอย่างหนึ่งอย่างใดเลย

เมื่อเราได้ชี้แจงถึงตัวเราเอง ว่าไม่เป็นผู้กีดแก่การจำเริญแลการมั่นคงของบ้านเมืองดังนั้นแล้ว เรายังต้องเป็นผู้รับผิดที่คนทั้งปวงจะลงร้าย ว่าเพราะเราเป็นคนอ่อน ไม่สามารถที่จะหักหาญแก่ผู้หนึ่งผู้ใด เพราะความเห็นซึ่งจะถือว่า ถ้าเราประสงค์อย่างไรการนั้นคงจะตลอดไปได้ การซึ่งไม่ตลอดไปได้เพราะเราไม่คิดจะให้ตลอดดังนี้ ดูเหมือนเราเป็นผู้ทำให้เสียอำนาจเจ้าแผ่นดินไป เพราะความอ่อนของตัว ในความข้อนี้ เราไม่อยากจะซัดโทษให้แก่ท่านแต่ก่อนเลย แต่เป็นการจำเป็นที่จะต้องพูดว่า อำนาจเสนาบดีเจริญขึ้น เพราะมีอำนาจได้ตั้งเจ้าแผ่นดินมาแต่ก่อนมากนักแล้ว จนตลอดถึงเวลาเราได้เป็นเจ้าแผ่นดินขึ้น ก็เป็นเวลาเคราะห์ร้าย ที่ตัวเราเป็นเด็ก เป็นโอกาสยิ่งใหญ่ที่จะถอนอำนาจเจ้าแผ่นดินได้หมด เหมือนว่าวที่ปล่อยจนหมดสายป่านไม่มีเหลือเลย ยังเหลือแต่ธุระที่เราจะทำอยู่เพียงจะชั่งกำลังตัวว่า เมื่อเราเป็นเด็กอยู่มีกำลังเพียงเท่านั้น จะรั้งว่าวนั้นไม่ให้หกล้ม ฤาจะปล่อยให้ว่าวหลุดลอยเสีย แต่เป็นเดชะบุญที่เราเป็นแต่เด็กกำลังเดียวเท่านั้น ได้อาศัยเอาป่านพันหลักค่อย ๆ สาวเข้ามา จนไม่มีอันตรายหลุดลอยไปได้ แต่ก็ยังเป็นพนักงานอย่างเดียวที่จะสาวสายป่านให้สั้นเข้ามาทุกที สั้นเข้ามาทุกที เมื่อเหลือกำลังก็หย่อนไป เมื่อพอที่จะสาวก็สาวเข้ามาพันหลักไว้ เมื่อผู้ใดได้รู้การเก่า ผู้นั้นจะเห็นได้ว่าความยากลำบากของเรา เป็นประการใด ถ้าผู้ที่ได้เห็นแต่การภายหลังก็จะเข้าใจว่า เราได้นั่งขี้เกียจฤาโง่เซอะ มาเป็น ๑๗ - ๑๘ ปี ที่พูดมานี้ถ้าจะฟังในเวลานี้ ก็เห็นเป็นการเพ้อเจ้อ แต่ถ้าคิดถึงแต่ก่อนแล้วยิ่งเป็นการสำคัญมาก ยากที่จะทำ ซึ่งเราถือว่าเราไม่ได้ขี้เกียจอยู่เปล่าเลย ยกเอามาว่านี้เพราะจะให้เห็นว่าการแต่ก่อนนี้เป็นไปไม่ได้ เพราะเหตุใดคำซึ่งถือว่าความปรารถนาของเราเป็นสำคัญ จะใช้ทั่วไปทุกเวลาไม่ได้ เราไม่ยอมรับผิดชอบในนั้นเลย เพราะเราได้ทำการเต็มกำลังแล้ว แต่เวลาปีหนึ่งสองปีนี้ดูเป็นโอกาสดีขึ้นมาก ที่ควรจะจัดการต่อไปอีกได้ เราก็ได้คิดจัดการต่อไปเมื่อได้รับอนุญาตของเรานั้น เป็นที่ชอบใจของเราอยู่ เราเห็นสมควรที่จะชี้แจงการที่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้อย่างไร ความต้องการของเมืองเรานั้นต้องการอันใด ที่ผู้ซึ่งไม่ได้อยู่ใกล้ชิดต่อราชการ จะรู้แน่ได้โดยยาก

คือราชการในเมืองเรานี้ ถ้าจะเทียบกับประเทศอื่น ๆ การแต่เดิม ๆ มานั้น การเอกเสกคิวตีฟ (Executive) กับลิยิสเลตีฟ รวมอยู่ในเจ้าแผ่นดินกับเสนาบดีโดยมาก แต่ครั้งเมื่อ ริเยนซี (Regency) ในตอนต้น อำนาจนั้นก็อยู่แก่ริเยนต์ (Regent) แลเสนาบดีทั้งสองอย่าง ครั้นภายหลังมาเมื่อเราค่อยมีอำนาจขึ้น ตำแหน่งเอกเสกคิวตีฟ (Executive) นั้นเป็นที่หวงแหนของริเยนต์ (Regent) แลจนถึงเคานซิล (Council) ที่ปรึกษาทำกฎหมายเนือง ๆ เป็นต้น จนตกลงเป็นเสนาบดีเป็นคอเวอนเมนต์ (Government) เราก็กลายเป็นหัวหน้าของพวกลิยิสเลติฟเคานซิล เป็นออปโปลิชั่น (Oppolition) ของคอเวอนเมนต์ (Government) ตรง เมื่อภายหลังมามีเหตุการณ์ในการคอเวอนเมนต์ (Government) มากขึ้น เป็นโอกาสที่เราจะได้แทรกมือลงไปได้บ่อย ๆ เราจึงได้ถือเอาอำนาจเอกเสกคิวตีฟ (Executive) ได้ทีละน้อยละน้อย จนภายหลังตามลำดับ ลำดับมาจนกระทั่งถึงบัดนี้ เรากลายเป็นตัวคอเวอนเมนต์ เราเชื่อเป็นแน่ว่าในการลิยิสเลตีฟเคานซิลครั้งนั้น คงจะได้แรงเพราะเรา จึงได้ทำการตลอดไปได้ไม่มากก็น้อย ครั้นเรากลับมาเป็นเอกเสกคิวตีฟคอเวอนเมนต์ (Executive Government) เสียแล้ว การลิยิสเลตีฟไม่มีผู้อุดหนุน เพราะเป็นการเหลือกำลัง ที่เราจะทำทั้งสองอย่างได้ตลอดเช่น พระเจ้าแผ่นดินแต่ก่อน ด้วยราชการเกิดขึ้นมากกว่าหลายสิบเท่านัก แลเพราะเมมเบอร์ที่เป็นตัวสำคัญขาดไปเสียบ้าง จึงทำให้ลิยิสเลตีฟเคานซิลมีเสียงอ่อนไป ทำกฎหมายอันใดก็ไม่ใคร่จะทำสำเร็จได้ โทษที่การลิยิสเลตีฟเคานซิลเสียไป จะลงเอาว่าเพราะแต่ก่อนเราตั้งใจ อุดหนุนอยู่การจึงตลอดไป ในภายหลังเพราะเราทิ้งเสียจึงเสียไป ก็ต้องรับว่าเป็นการจริงอยู่ แต่ต้องขอชี้แจงให้เข้าใจอีกว่า การที่เราทำอยู่ในตำแหน่ง เอกเสกคิวตีฟคอเวอนเมนต์นี้ ถ้าจะเปรียบกับการคอเวอนเมนต์อังกฤษก็เหมือนหนึ่งเป็นปรีเมียเองในตัว แต่ได้เปรียบกว่ากันคนละอย่างคือ ปรีเมียอังกฤษต้องรู้การคิดการที่สำคัญทุกสิ่งทุกอย่าง เว้นไว้แต่การเล็กน้อย คนอื่นทำไปได้ตำแหน่งมินิสตรี (Ministry) ของตัว แต่ส่วนเราต้องรู้การตั้งแต่ใหญ่ลงไปจนเล็กทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องทำเองสั่งเองทุกสิ่ง ตลอดจนถ้อยความเล็กน้อย ไม่ใคร่จะได้อาศัย ฤาไม่ได้อาศัยเสนาบดีตามตำแหน่งนั้น ๆ เลย เราต้องรับการตำแหน่งนี้หนักยิ่งกว่าปรีเมียอังกฤษ แต่ปรีเมียอังกฤษต้องนั่งในเฮาสออฟปาลียเมนต์ คอยแก้ความ ส่วนเราไม่ต้องนั่งเป็นได้เปรียบปรีเมียอังกฤษ เมื่อการของเราหนักปานนี้ ไม่มีเวลาที่จะหยุดได้ จึงไม่ได้อุดหนุนในการลิยิสเลตีฟเคานซิล ให้แข็งแรงได้เหมือนแต่ก่อน จะหาเวลาที่จะเรียงหนังสือให้ยาว ๆ หน่อยหนึ่งก็ยากเป็นที่สุด อย่าว่าแต่จะทำกฎหมายเลย แต่ในการเอกเสกคิวตีฟคอเวอนเมนต์ เราสามารถที่จะพูดได้ว่า ยังชั่วขึ้นกว่าแต่เป็นแน่ แต่จะเรียกว่าดีนั้นไม่ได้เลย เพราะมีช่องที่จะเสียได้มาก แลไม่เป็นการถาวรด้วย

เพราะฉะนั้น การต้องการในเมืองเราเวลานี้ ที่เป็นต้องการสำคัญนั้นคือ คอเวอนเมนต์รีฟอม (Goverment Reform) จำเป็นที่จะให้พนักงานของข้าราชการแผ่นดินทุก ๆ กรม ทำการให้ได้เนื้อเต็มหน้าที่ แลให้ได้ประชุมปรึกษาหารือกัน ทำการเดินให้ถึงกันโดยง่าย โดยเร็วทำการรับผิดชอบในหน้าที่ของตัว หลีกลี้ไม่ได้ นี่เป็นความต้องการอย่างหนึ่ง

ความต้องการอีกอย่างหนึ่งนั้นคือ ผู้ทำกฎหมายให้เป็นผู้สำหรับที่จะตริตรองตรวจการทุกสิ่งทุกอย่าง ในพวกที่ว่ามาแล้วนั้น จะทำฤาตัดสินการขัดข้องด้วยทุกวันนี้ จะหาผู้ที่ทำกฎหมายได้ เกือบจะเรียกได้ว่าไม่มีทีเดียว ได้คิดที่จะทำกฎหมายอันใดอันหนึ่งหลายเรื่องนักหนาแล้ว ไม่สำเร็จไปได้สักเรื่องหนึ่ง เพราะผู้ที่จะทำได้นั้น มักเป็นผู้ที่มีการในตำแหน่งที่ต้องทำเสมอจนเหลือที่จะทำได้ ถ้าจะให้ประชุมเคานซิลทำอย่างเช่นแต่ก่อน ก็ไม่สำเร็จได้เลยสักเรื่องเดียว ความต้องการทั้งสองสิ่งนี้ เป็นต้องการใหญ่ของเมืองเรา

ในการที่จะจัดตำแหน่งเสนาบดีให้รับการได้จริงทุกสิ่งทุกอย่างในสำรับเก่าที่เป็นอยู่บัดนี้ ให้กลับทำการอย่างใหม่ได้จริงนั้นไม่ยาก แต่เพียงที่เคยเป็นออปโปสิชั่น (Opposition) กันมาเสียแต่ก่อน ที่จำเป็นจะต้องเห็นไม่ต้องกัน ฤาแกล้งบิดพลิ้วจะให้เสียนั้นอย่างเดียวเลย เป็นการที่เหลือกำลังจะทำไปได้ก็มี เหมือนอย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ กงสุลฝรั่งเศสมีหนังสือมา เรื่องประกาศห้ามไม่ให้บรรทุกกำลังศึกเข้าไปในเมืองจีน เราจึงได้มีคำสั่งเจ้าพระยาภาณุวงศ์ให้ทำคำประกาศ แลให้แปลหนังสือที่ประเทศทั้งปวง ได้ตกลงกันอย่างไร ลงในหนังสือราชกิจจานุเบกษา ให้ลูกค้าทั้งปวงทราบ ได้สั่งการโดยละเอียดถ้วนถี่แล้ว ครั้นเมื่อร่างประกาศมาให้เราดู มีข้อความเพิ่มเติมลงไปอีก ว่าเมืองไทยเรามีแต่ข้าวเป็นสินค้า ข้าวไม่เป็นอาวุธ ไม่ต้องห้ามดังนี้ ที่เติมลงนี้ก็ประสงค์จะให้ดีเท่านั้น ใช่จะแกล้งอย่างหนึ่งอย่างใดเลย แต่หาได้ดูในหนังสือฉบับที่ให้แปลนั้นเองไม่ ว่าเขาจะกำหนดห้ามอันใด จะประกาศให้ทราบแลไม่มีกำหนดว่าจะห้ามอันใดบ้าง แลมีหนังสือพิมพ์ข่าวโทรเลข ในเวลานั้นลงออกอึงไปว่า ฝรั่งเศสจะห้ามแต่ข้าวอย่างเดียว ก็ไม่รู้เสียการวางมือไปไม่ได้อย่างนี้ ท่านเสนาบดีกรมนี้ก็นับว่าเป็นผู้มีปัญญายังชั่วกว่ากรมอื่น ๆ ยังเป็นดังนี้จะป่วยกล่าวไปไยถึงกรมอื่น ๆ เล่า เพราะเหตุอันนี้เราจึงต้องรับภาระอันหนัก โดยมิได้อยากจะขวนขวายไปรับเอามาเลย ดังเช่นกล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น ถึงตัวท่านเสนาบดีเองเล่า เราก็เชื่อแน่ว่าได้รู้ตัวเหมือนกันว่า กำลังตัวเองไม่พอที่จะรับแก่การปัตยุบันนี้ได้ บางครั้งบางคราวเป็นแน่ จึงได้พากันหลบเลี่ยง ไม่ใคร่อยากเข้าที่ประชุมเลยเป็นนิจ ถ้าเข้าที่ประชุมก็ไม่พูดเสียบ้าง พาลโกรธน้อยอกน้อยใจเป็นการดูถูกดูแคลนไปบ้าง ฤาพูดออกมาแล้วการนั้นมักไม่ใคร่จะได้เป็นตามพูด เพราะความเห็นอย่างอื่นมีมากกว่า ก็เห็นเป็นคำพูดของตัวไม่มีราคาทำให้เกิดความท้อถอยเห็นเสียว่า สู้รักษาให้เป็นคมในฝักไม่ได้ เมื่อการเป็นอยู่ดังนี้ ก็เป็นเหตุที่ชวนให้คิดอยากเปลี่ยนแปลงใม่ แต่ต้องคิดอีกว่า การที่จะเปลี่ยนแปลงนั้น ในท่านสำรับเก่านี้จะทำการได้ฤาไม่ เมื่อทำการไม่ได้แล้วก็มีช่องเดียวแต่จะต้องรีไซน์


การที่มินิสเตอร์ (Minister) จะรีไซน์ (Resign) พร้อมกันมาก ๆ ซึ่งไม่เคยมีในเมืองไทยเลย จะมีเหตุผลประการใดท่านทั้งปวงก็ได้คิดชั่งคิดตวงมาแล้วทุกอย่าง แต่การที่ชั่งตวงนั้นจะถือว่า เป็นความถูกต้องมาแต่ดั้งเดิม เว้นแต่ไม่คิดนั้นไม่ได้ ถ้าเป็นแต่ก่อน จะชั่งน้ำหนักอย่างนี้ไม่ได้เลย แต่ในเวลานี้เราเห็นว่าจะเป็นไปได้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไร ๆ ก็ดี ยังเป็นที่ตะขิดตะขวงใจมากแลเป็นที่ตกใจของคนตลอดหัวเมือง ทั่วพระราชอาณาเขตไม่น้อยเลย แต่บางทีก็จะมีเหตุผลได้บ้าง แต่ที่จะเป็นใหญ่โตอันใดไปเป็นไปไม่ได้ ผู้ซึ่งนั่งอยู่นอกจากวง ก็แลเห็นว่าไม่เป็นการยากอันใด แต่ผู้ซึ่งจะเป็นผู้ทำนั้นเป็นความลำบากอยู่บ้าง แต่การเรื่องนี้ก็ได้รั้งรอมานาน แลได้คิดแก้ไขอย่างอื่นมากแล้ว ก็เห็นเป็นการไม่ตลอดได้ ราชการทั้งปวงก็บีบคั้นเร่งรัดเข้า แลโอกาสที่จะจัดก็คอยโปร่ง ๆ ขึ้นทุกที เห็นเป็นเวลาที่ควรจะจัดได้ เราจึงขอบอกท่านทั้งปวงว่าการเรื่องนี้เรากำลังได้คิดจะจัดอยูทีเดียว เมื่อท่านทั้งปวงจะช่วยคิดแล้ว จงคิดการเรื่องนี้เถิด จะได้เทียบเคียงกับความคิดที่ในกรุงเทพ เลือกเอาตามภาระที่สมควรแก่บ้านเมือง

ในส่วนลิยิเลตีฟเคานซิลนั้น เป็นการจำเป็นจะต้องมีดังเช่นเราได้กล่าวมาแล้ว แต่ไม่เป็นการง่ายเลย ที่จะหาตัวผู้ซึ่งจะเป็นการได้จริง ผู้ซึ่งจะมีปัญญาชี้เหตุการติแลชมได้นั้นมีมากคนไป แต่ไม่พ้นจากที่จะเหมือนกับชี้บอกว่า สิ่งนี้แดง สิ่งนี้ดำ สิ่งนี้ขาว ซึ่งแลเห็นอยู่แก่ตาทั่วกันแล้วอย่างนั้นเอง แต่ผู้ซึ่งจะทำให้เป็นรูปร่างอย่างใดเข้านั้น ไม่ใคร่มีตัวเลย อยู่ในไม่พ้นแล้วแต่จะโปรด ฯ ฤาถ้าทรงแล้วก็ได้ แต่ถ้าจะทรงด้วยกำลังเองไม่ไหว ให้ไปทำมาก็เปล่าทั้งนั้น นิ่งเงียบ ๆ เสียพอลืมแล้วก็กลายเป็นเพราะไม่ทรง จึ่งได้ค้าง ส่วนตัวเราเองที่ไหนไหวเพราะการออกเป็นก่ายเป็นกองดังเช่นกล่าวมาแล้ว ถ้าลิยิสเลตีฟเคานซิลที่ตั้งขึ้นใหม่ ยังเป็นอย่างนี้อยู่แลัว ไม่มีดีกว่ามีเพราะเราจะถูกตั้งชื่อว่าเป็นผู้สำหรับที่เขาจะว่าเท่านั้น ไม่มีประโยชน์อันใดขึ้นอีก การเรื่องที่จะทำกฎหมาย และจะคิดการทั้งปวงในกระบวนได้เสียของกฎหมายที่จะออกไปเหล่านี้ เราเห็นว่าแต่กำลังคนไทยที่จะตั้งขึ้นเป็นลิยิสเลตีฟเคานซิล คงจะทำไม่ตลอดเป็นแน่ ด้วยการเกี่ยวข้องเจือปนกับต่างประเทศมากนัก เหลือความรู้ที่จะรู้ไปได้จริง ๆ จำเป็นจะต้องมีหมอความคนหนึ่งฤาสองคน มาเป็นที่หารือจึ่งจะทำการไปได้

การสองสิ่งนี้ รวมความก็อย่างเดียวกันคือ คอเวอนเมนต์รีฟอม (Goverment Reform) นี่แหละเป็นต้นเหตุที่จะจัดการทั้งปวงได้สำเร็จตลอด ถ้าการเรื่องนี้ยังไม่เป็นการเรียบร้อยได้แล้ว การอื่น ๆ ยากนักที่จะตลอดไปได้ เพราะฉะนั้นเราจึ่งขอให้ท่านทั้งปวงคิดการเรื่องนี้ ตามที่รับมาว่าจะคิดนั้นคิด การอื่น ๆ ที่จะต้องรีฟอมบ้าง จัดขึ้นใหม่บ้างนั้น เราของดไว้พูดต่อภายหลัง ซึ่งเราพูดอธิบายถึงตัวเราเองดังกล่าวข้างต้นนั้น ใช่จะมุ่งหมายปักหน้าว่า ท่านทั้งปวงลงเนื้อเห็นเอาว่าเราเป็นดังเช่นที่ได้กล่าวมานั้นทั่วไป เราเชื่อว่าคงมีผู้รู้แน่ว่าใจเราเป็นอย่างไร แต่ที่ว่าให้ตลอดดังนี้ เพื่อว่าคนในปัตยุบันนี้ฤาสืบไปภายหน้าที่ไม่สามารถรู้น้ำใจเรา เมื่อได้ยินได้ฟังการทั้งนี้ จะเข้าใจน้ำใจของเราผิดไป จึ่งจำเป็นจะต้องว่าไว้ให้ตลอด ตามความที่เป็นจริงอย่างไรในใจของเรา"

(พระราชหัตถเลขา) สยามินทร์


#324807 สู่ห้องเรียน..ประวัติศาสตร์ชาติไทย

โดย jairlinethai on 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 - 14:23


เจอข้อมูลนี้ในประวัติ ส. เศรษฐบุตร แสดงว่าข่าวคณะราษฎรแพร่งพรายออกมาล่วงหน้า 10 กว่าปีทีเดียว
ถือว่ารัฐบาลผิดพลาดอย่างร้ายแรง ที่ไม่สามารถสกัดการเติบโตของขบวนการได้

๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๖
"...ฉันทราบมาว่าพวกนักเรียนไทยที่ฝรั่งเศสเขาชุมนุมกันเสมอ นัยว่าจะมีการคบคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นดีมอคเครซี แต่พวกนี้ออกจะหัวรุนแรงมาก ฉันเกรงไปว่ามันจะไม่ใช่ดีมอคเครซีน่ะซิ...."

http://www.sarakadee..._sethaputra.htm


น่าสนใจกับข้อมูลพวกนี้นะคะ
ถ้าเป็นที่รู้กันว่า มีเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงของสถาบัน แบบนี้
ฝ่ายความมั่นคงสมัยนั้น ไม่ได้ทำอะไร หรือทำแล้วแต่ไม่พอ
ชักคล้ายๆ สมัยนี้เลย รึปล่าวคะ
พลเรื่อนก็ไปเรียน ทหารก็ไปเรียน ที่นั่น น่าจะมีเกล็ดอะไรมาเล่า น่าสนใจเหมือนกันนะคะ


หาเกร็ดมาเพิ่มเติมครับ :

หนังสือ นักเรียนนายร้อยไทยในเยอรมนียุคไกเซอร์ โดยคุณสรศัลย์ แพ่งสภา ที่ระบุว่า
เมื่อ พลตำรวจตรี พระยาอธิกรณ์(ปู่คุณกรณ์) ประกาศกราบทูลรายงานแด่ จอมพลสมเด็จกรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เรื่องคณะบุคคลคิดการร้าย พร้อมทั้งถวายรายชื่อระดับหัวหน้า
เสนาบดีทรงพระสรวล รับสั่งว่า พวกนี้มัน ขเด็ทเยอรมัน (สังคมนายร้อยยุคเก่าที่เรียนจบจากเยอรมนีเรียกขานกัน) รุ่นหลังฉันทั้งนั้น
ตาพจน์(พันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา) ก็รู้จักใกล้ชิด แกจะคิดยังงั้นได้ยังไง ซ้ำเคยเป็นราชองครักษ์ตามเสด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.7) ครั้งเสด็จประพาสชวาด้วย
นายเทพ (พันเอก พระยาทรงสุรเดช ) นี่จะเอามาเป็นนายทหารประจำตัวฉันอยู่แล้ว
ประยูร(รท.ประยูร)นี่ก็ลูกครูแย้ม มหาดเล็กพระมงกุฎที่ท่านทรงฝากเข้าโรงเรียนนายร้อยด้วยพระองค์เองนี่นา”

จะเห็นได้ว่า แม้จะระแคะระคายเรื่องเหล่านี้ แต่ก็ยังทรงวางพระทัย ด้วยเห็นว่าเป็นคนใกล้ชิด มีอีกเรื่องๆฑูตที่ฝรั่งเศสรายงาน ไว้หาเจอจะเอามาเล่าให้ฟังใหม่ครับ