torres

เข้าไปอ่านใน FB ตามลิ๊งค์ของสมาชิกที่เอามาแปะ ก็ขอบ่นคนบางจำพวกหน่อย

พวกนักการเมืองเลวๆระยำๆโกงกันทีเป็นแสนล้านเคยคิดไปตรวจสอบกันบ้างไหม ?
โกงจำนำข้าวเป็นแสนล้าน ทั้งหอมเน่า รันเวย์สนามบินพังอับอายขายขี้หน้าไปทั้งโลก เคยคิดตรวจสอบบ้างไหม ?
น้ำท่วมประเทศจนฉิบหายกันทั่วหน้าจากความผิดพลาดของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ
แถมจะเอางบสามสี่แสนล้านมารับประทานจากความผิดพลาดของพวกตัวเองอย่างหน้าด้านๆ เคยคิดจะต่อว่า หรือจะตรวจสอบบ้างไหม ?
แปรรูป ฉ้อฉลเรื่องพลังงาน จนแพงวิบัติเดือดร้อนไปทั้งประเทศ
แถมยังบิดเบือนข้อมูลความจริงเพื่อจะมาลอยตัวก๊าซซ้ำเติมกันเข้าไปอีกเคยคิดต่อต้าน ตรวจสอบบ้างไหม ?
นโยบายโกหกตอแหลหลอกเด็กของรัฐบาลที่ไม่มีปัญญาทำได้เคยคิดทวงถามบ้างไหม ?

ฯลฯ

เรื่องที่สร้างความฉิบหายให้ประเทศตาบอดมองไม่เห็น แต่กับสถาบันเล็กๆน้อยๆจะเอาให้ได้

และถามหน่อยทั้ง ม.112 ทั้งกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สิน หรือกฎหมายต่างๆเกี่ยวกับสถาบัน สถาบันเป็นคนเขียนเองเหรอ ?
ไม่พอใจกฎหมาย ทำไมถึงไม่ไปต่อว่าคนเขียนกฎหมายล่ะ ? มาอคติสถาบันทำไม ?
แล้วงบให้สถาบันหมื่นล้าน แถมเป็นโครงการพระราชดำริเพื่อคนไทย 2000 กว่าล้าน บ่นกันจัง
ทีพวกนักการเมืองเลวๆขอทีเป็นแสนล้านเอาไปสวาปามกันเคยบ่นกันบ้างไหม ?

คนดีๆอยากตรวจสอบเหลือเกิน ทีพวกเลวๆฟาดกันทีแผ่นดินแทบทรุดกับเฉย

ถ้ามีคนจำพวกนี้มากๆประเทศฉิบหายวายวอดแน่ๆ

คนเรานี้ก็แปลก...เอกสารก็มี...กฎหมายก็มี...แต่ไม่ยักกะนำมาพิจารณา
ค้นหาว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

เอาแต่..รอฟังว่าแกนนำจะพูดอย่างไร...

เค้าบอกว่า..เนี้ยเป็นการหนีทหาร..ก็เชื่อโดยไม่ไตร่ตรอง..
มีผู้รู้กรุณามาให้ความกระจ่าง...ก็ยังเถียงหัวชนฝา...เชื่อในสิ่่งที่ไม่เคยพิสูจน์

ถ้าคำว่า "หนีทหาร"...คือการไม่ไปจับใบดำใบแดง...ก็ดูจะไม่แฟร์สักเท่าไหร่
ก็ไม่เมื่อ พรบ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 บัญญัติไว้ ความว่า

มาตรา 7
ชายที่มีสัญชาติเป็นไทยตามกฎหมาย มีหน้าที่รับราชการทหารด้วยตนเองทุกคน

มาตรา 8
การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการ ให้กระทำด้วยวิธีเรียกมาตรวจเลือก หรือ
จะรับเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงก็ได้

กฎกระทรวงฉบับที่ 35 พ.ศ. 2516
ข้อ 2 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีอื่นให้กระทำโดยวิีธีร้องขอ
และบุคคลที่จะร้องขอต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ และยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์

ข้อ 3 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีร้องขอตามข้อ 2 ให้กระทำได้ดังนี้
(2) การร้องขอเข้าเป็นทหารกองประจำการก่อนวันตรวจเลือก ให้ผู้ซึ่งถูกเรียกร้องขอต่อ
เจ้าหน้าที่กรมกองที่ผู้นั้นประสงค์จะเข้าเป็นทหารกองประจำการ เมื่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
พิจารณารับผู้ใด ให้ผู้นั้นขึ้นทะเบียนกองประจำการในปีที่ถูกเรียกให้เสร็จก่อนวันตรวจเลือก

ข้อ 4
(2) การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการตามข้อ 3 (2) ในกรณีที่ผู้ซึ่งถูกเรียกเป็น
ผู้สำเร็จการศึกษาชั้นอุดมศึกษาในประเทศไทย หรือจากต่างประเทศที่กระทรวง ทบวง
กรม ซึ่งมีหน้าที่รับรองวิทยฐานะเทียบได้ไม่ต่ำกว่าชั้นอุดมศึกษา ให้รับได้โดยไม่จำกัด
ภูมิลำเนาทหาร ทั้งนี้ ให้ผู้นั้นร้องขอต่อกองทัพบก กองทัพเรือ หรือกองทัพอากาศ แล้ว
แต่กรณี ก่อนวันตรวจเลือกไม่น้อยกว่า 7 วัน

นอกจากนี้ยังมี พรบ. ระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ. 2521 ยังบัญญัติไว้ ความว่า

มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
"ข้าราชการ" หมายความว่า ทหารประจำการและข้าราชการกลาโหม พลเรือนที่บรรจุใน
ตำแหน่งอัตราทหาร
"ทหารกองประจำการ" หมายความว่า ทหารกองประจำการตามกฎหมายว่าด้วยการรับ
ราชการทหาร

ซึ่ง พรบ รับราชการทหาร พ.ศ. 2597 ให้ความหมายของ "ทหารกองประจำการ" ไว้ใน

มาตรา 4
(3) "ทหารกองประจำการ" หมายความว่า ผู้ซึ่งขึ้นทะเบียนกองประจำการและได้เข้ารับ
ราชการในกองประจำการจนกว่าจะได้ปลด



ดังนั้น..เมือคุณอภิสิทธิ์เดินทางกลับประเทศไทยในช่วงกลางปี 2529 ภายหลังจบ
หลักสูตร ป.ตรี จากอังกฤษ และได้รับ สด. 9 เล่มที่ 54 ฉบับที่ 5352 ลงวันที่ 4 กค. 2529
อีกทั้งยังมีรายชือเป็นผู้ขึ้นบัญชีทหารกองเกิน สด.1 ในขณะนั้นคุณอภิสิทธิ์มีอายุ 22 ปี
แสดงว่า สด.9 ฉบับดั้งกล่าวเป็นเอกสารที่ถูกต้องมิได้เป็นเอกสารเท็จ

และการรับราชการในตำแหน่งอาจารย์ประจำโรงเรียนนายร้อย จปร ชั้นนายทหารสัญญาบัตร
ยศร้อยตรี ก็เป็นไปตามกฎกระทรวง อย่างถูกต้อง ก็น่าจะถือว่า เป็นทหารกองประจำการโดย
วิธีร้องขอของผู้ถูกเรียก ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงทุกประการ

อย่างนี้...จะกล่าวหาว่า "หนีทหาร" ได้อย่างไร ยกเว้นว่า

ผู้ที่กล่าวหา...เจตนา และ จงใจ...บิดเบือนข้อเท็จจริงเพือหวังผลประการใดประการหนึ่ง

ฮี่ๆๆๆๆ

สมัยนู้นนะ

ยัยเหงี่ยม กะ ผม ต้องมานั่งโรเนียวแจกใบปลิว

ยัยเหงี่ยมมันถนัดพิมพ์ ผมถนัดโรเนียว กับ วาดรูปประกอบ

ไอ้ที่วาดรูปประกอบนั่นแหละที่มันแพง เพราะมันโรเนียวไม่ได้ มันต้องถ่ายเอกสาร ต้องไปถ่ายแถวหลังกระทรวงโน่น มันจะถูกหน่อย อีกอย่างลูกเจ้าของร้าน ก็เรียนแถวนั้นแหละ

ทำงานกันอยู่ มีไอ้ตี๋เกรียนคนหนึ่งหัวโตๆ ผมตั้งๆเหมือนไม้กวาด ใส่เชิ๊ตสีขาวๆอมเหลืองสกปรก มาด้อมๆมองๆ

"พี่ครับ ผมจะมาสมัครอาสาช่วยครับ"

ยัยเหงี่ยมมันรับเอาไว้ บอกว่า เอาไว้ให้มันวิ่งไปถ่ายเอกสาร ซื้อโอเลี้ยง ซื้อถั่วตัด และ ตบกระโหลกเล่น ยามพวกเราเซ็ง

ทุกวันนี้ มันก็คือ ไอ้สากกะเบือ นั่นแหละ น้าเปิ้ล


ทุกวัน ผมไม่รู้นะว่ามันกินอะไร แต่สงสัยว่ามันกินแมงโม้มากไปหน่อย ชอบคุยว่าเป็นพวกคอมฯ คอมฯห่านอะไร เด็กวิ่งโอเลี้ยงล่ะไม่ว่า

เคยเห็นมันพ่นแมงโม้อยู่หอประชุมเก่ากะเด็กๆรุ่นลูก

พอมันเห็นผม เท่านั้นแหละ เดินหนีเลย เำพราะเสือกโม้กะเด็ก ว่าอยู่ ภูพาน เขตงาน 5

(แม่มมีซะที่ไหนล่ะ เขตงาน 5)



ไอ้ถ่อยนี่ เจอจังหน้าที่ไหน หากไม่มีควายเป็นฝูงๆล้อม ก้มหน้าหนีผมงุดๆ

เคยเจอกันหน้าบอร์ดเก่านี่ หลายปีแระ หายหัวไปเลย

ตี๋วิ่งโอเลี้ยงเนี่ยนะ

......................เด็กรุ่นหลังชื่นชมกันจัง อยากจะบอกว่า ขนาดคอมฯตัวพ่อ ยังเคยประกาศเลยว่า สิ่งที่ในหลวงวางรากฐานไว้่ให้เกษตรกรไทยน่ะ นั่นล่ะคือสิ่งที่ประชาชนจะลืมตาอ้าปากได้


.......................ใครก็ได้ที่บอกว่าเก่งทางลีทธิหรือระบอบสังคมนิยม ลองมองให้ลึกๆสิ

ในหลวงท่านน่ะ ไม่ต้องพูดอะไรมาก แต่ทำให้ดู แล้วผลก็ออกมาให้เห็นจริง

คอมฯจริงๆในสมัยโน้น ทุกคนรักในหลวงหมด ยกเว้น พวกคอมฯแอบอ้างแบบไอ้ตี๋ส่งโอเลี้ยงนั่นแหละ